ตอนที่ 190 อันตรายในฝูงซากศพ
“เนื่องจากเจ้าสามารถรับการโจมตีของข้าโดยไม่ตกตายไปเสียก่อน,ข้าจะปล่อยเจ้าไปคัก! คัก! คัก! คัก!” ยอดราชันซากศพหัวเราะอย่างแปลกประหลาดเขาโบกมือเบาๆและซากศพก็พุ่งขึ้นมาจากพื้นอย่างต่อเนื่อง
จากการสังเกตอย่างละเอียด,ซากศพพวกนั้นคือเหล่าคน เหมืองที่หายตัวไปมีบางคนใช้วิธีพิเศษปรับแต่งพวกเขา;พวกเขาแข็งแกร่งกว่าศพศพทั่วไปเป็นอย่างมาก
ยอดราชันซากศพหัวเราะอย่างแปลกประหลาด “ขอให้สนุก,ข้ายังมีเรื่องที่ต้องไปทํา คัก! คัก! คัก!”
ยอดราชันซากศพจมลงไปในพื้นดินอย่างช้าๆและหายตัวไปอย่างรวดเร็วโดยปราศจากร่องรอยถึงอย่างนั้น,พื้นดินก็ยังเรียบลื่นเหมือนก่อนหน้านี้ไม่ได้มีรอยแตกแต่อย่าง
“คาถาดําดิน?” เมื่อเซี่ยวเฉินเห็นวิธีที่ยอดราชันซากศพได้จากไปเขานึกถึงคาถาดําดินที่ถูกบันทึกไว้ในตําราบ่มเพาะพลังในทันทีสิ่งที่เขาเห็นแทบจะเป็นอย่างเดียวกับ คาถาดําดิน
อย่างไรก็ตาม,สถานการณ์ในตอนนี้ไม่เป็นใจให้เขาไปมัวครุ่นคิดซากศพที่ล้อมพวกเขาอยู่ได้เปิดตัวพุ่งเข้ามา หาพวกเขาทั้งคู่อย่างรวดเร็ว อุโมงค์ที่คับแคบเต็มไปด้วยซากศพนับร้อยร่าง
“ปุ! !! !!”
เซียวเฉินขยับฝึกกระบี่ในมืออย่างรวดเร็วพร้อมกับเขา ปรับเปลี่ยนไปเป็นสายน้ําไหล เขาพุ่งตัวเข้าใส่พวกซากศพเขาสามารถผลักพวกมันกลับและหันไปช่วยม่าเฉินเป็นครั้งคราว
ทันใดนั้นเขาก็นึกอะไรขึ้นได้ เขาหันตัวกลับและถามม่าเฉินที่อยู่ด้านหลังของเขา “ศิษย์พี่ม่าเจ้าเห็นศิษย์น้องมู่หรือไม่?”
ม่าเฉินมีสีหน้าตื่นตระหนก จากนั้นเขาก็รู้สึกแปลกประหลาด “ใช่แล้ว,ศิษย์น้องมู่ไปที่ไหน? นางจากไปตั้งแต่เมื่อไหร?”
ให้ตายเถอะ! เซี่ยวเฉินก่นด่าในใจของเขาท้ายที่สุด,หลังจากเฝ้าระวังมาเป็นเวลานาน,เขายังคงปล่อยให้นางหายตัวไปเงียบๆอย่างไร้ร่องรอย
มู่ซินหยาต้องใช้โอกาสในตอนที่พวกเขาสนใจหัวหน้าหวังเพื่อแยกตัวออกไป
ม่าเฉินเตะซากศพร่างหนึ่งลอยออกไปและกระโดดออกด้านข้างเพื่อหลบการโจมตี หลังจากนั้นเขาก็ซัดซากศพ ด้วยกระบีของเขาเกิดเป็นเสียงเหล็กกระทบ มันราวกับว่า เขาได้ซัดไปโดนเล็กซากศพถูกกระแทกลอยออกไป,แต่ไม่ ได้แยกออกเป็นสองส่วนแต่อย่างใด
“ศิษย์น้อง,พวกเราทําเช่นไรดี? ซากศพเหล่านี้ไม่จบไม่สิ้นนอกจากนั้นยังมีจํานวนมหาศาลข้าเกรงว่าข้าจะนึกอะไรไม่ออกแล้วสถานการณ์เลวร้ายที่สุด!” ม่าเฉินกล่าวอย่างเป็นกังวล
เซียวเฉินเพียงพึมพํากับตัวเองโดยไม่ได้พูดอะไรออก มาเขากําลังมองหาทางแก้อย่างระวังซากศพเหล่านี้ทั้งเร็วทั้งแข็งแกร่งเทียบเท่าขอบเขตปรมาจารย์ยุทธทั่วไป
ถ้าเป็นเช่นนั้น ด้วยระดับขอบเขตพลังของม่าเฉิน,เขาน่าจะสังหารพวกมันได้อย่างง่ายดายนอกจากนั้น หากเกิดอะไรผิดพลาดขึ้นมา,เซี่ยวเฉินก็จัดการกับทั้งฝูงได้ด้วยตัวเอง
อย่างไรก็ตาม สิ่งที่เป็นปัญหาก็คือผิวของพวกซากศพแข็งแกร่งราวกับเหล็กเมื่อซัดกระบี่ใส่พวกมัน เกิดเป็นเพียงรอยเล็กๆเท่านั้นสิ่งที่ทําให้เขาปวดหัวก็คือพวกซากศพไม่รู้ สึกเจ็บปวด
หากซัดพวกมันให้ลอยกลับไปไม่ได้ พวกมันก็จะพุ่งเข้าใส่โดยไม่ใส่ใจอาการบาดเจ็บ,มันเป็นปัญหาอย่างมาก
เซียวเฉินนั้นสามารถหลบหนีไปได้อย่างง่ายดายแต่เขาไม่อยากเผยความสามารถให้ม่าเฉินเห็น ถึงอย่างไรพวกเขาก็รู้จักกันมาได้เพียงไม่นานเป็นการดีที่สุดหากจะระวังตัวเอาไว้
“ทะลวงออกไป! ศิษย์พี่ม่า,ไม่มีประโยชน์ที่จะ ปิดซ่อนพลังอีกต่อไป” เซียวเฉินกล่าวอย่างเฉยเมย ม่าเฉิน ได้สําเร็จภารกิจในเหมืองแห่งนี้มาหลายครั้ง เซียวเฉินไม่ เชื่อว่าเขาจะไม่เก็บไพ่ตายเอาไว้
มีเพียงเหตุผลเดียวที่เขายังไม่เผยไพตายออกมา-เขาอยากจะเก็บซ่อนความแข็งแกร่งของเขาและบังคับให้เซียวเฉินเผยใบในมือของเขาออกมาก่อน
ม่าเฉินเผยสีหน้าเลิ่กลั่กและยิ้มอย่างขมขื่น “ข้าไม่ได้ปิดซ่อนพลังเอาไว้จริงๆ ข้าไม่มั่นใจและอยากให้เจ้าช่วยข้าออกไป มิฉะนั้น,ข้าไม่มีทางทํามันสําเร็จ
“ปัง! ปัง! ปัง!”
เซี่ยวเฉินกวัดแกว่งกระบในมี อซ้ายและชกออกไปด้วยกําปั้นขวาของเขาสามครั้ง,ซัดซาก ศพที่พุ่งเข้ามาสามตัวลอยกลับไปอย่างง่ายดายร่างกายของเขาถูกบํารุงด้วยบุปผาเจ็ดสีและการฝึกฝนของเขาในอดีต
แม้ว่าเขาจะไม่ได้ใช้พลังปราณ,เขาก็สามารถพึ่งพลังกายของเขาและซัดกําปั้นที่มีพลังมากกว่าหนึ่ง พันกิโลกรัมออกไปได้ พวกซากศพถูกเขาซัดลอยกลับไปในหมัดเดียว
แม้แต่ผิวหนังที่แข็งราวกับเหล็กก็แตกร้าวขณะ ที่พวกมันลอยกลับไปพวกซากศพด้านหลังถูกชนล้ม ลงไปกองกับพื้น
เมื่อม่าเฉินเห็นดังนั้น,เขารู้สึกตกตะลึง เขาไม่อาจบอกได้ว่าเท่าไมเซี่ยวเฉินถึงได้แข็งแกร่งถึงเพียงนี้แม้ว่าจะอยู่ระดับขอบเขตปรมาจารย์ยุทธขั้นต้น
“ศิษย์พี่ม่ามีทักษะอะไรที่ทําให้พวกเราฝ่าทะลวงออกไปได้? ข้าจะช่วยเท่าที่ทําได้” เซี่ยวเฉินกล่าว
ม่าเฉินผลักซากศพสองตัวกลับไปด้วยกระบี่ของเขา “ข้ามีทักษะต่อสู้แบบโจมตีหมู่ มันสามารถเปิดทางให้พวกเราได้อย่างไรก็ตาม,มันต้องใช้เวลาเพื่อใช้ออกมา ดังนั้น ข้าต้องการให้ศิษย์น้องเยู่ปกป้องข้าไว้สักพัก”
“ไม่มีปัญหา” เซียวเฉินกล่าว
เซี่ยวเฉินใช้ทักษะมังกรฟ้าเมฆาทะยานเคลื่อนไหวไปรอ บตัวม่าเฉินอย่างรวดเร็วมันดูกับมีมังกรเลื้อยวนรอบตัวเขา เซียวเฉินใช้ฝักกระบีของเขาแทนกระบองเพื่อซัดซากศพที่พุ่ งตัวเข้ามากลับไป
ภายใต้การคุ้มครองของเซียวเฉิน,ไม่มีซากศพเข้ามาในระยะสิบเมตรของม่าเฉิน
ม่าเฉินสูดหายใจเข้าลึกและมีแสงสว่างวูบผ่านดวงตาของเขา ทันใดนั้นเขาก็เดินขึ้นหน้าสองก้าวและร้องตะโกนขึ้นพลังงานจิตวิญญาณโดยรอบพุ่งไปที่กระบี่ของเขาราวกับสายน้ําไหล
“สายน้ําทะลวงภูผา!”
มีเสียงสายน้ําหลากภายในอุโมงค์ ธารน้ําพิศวงมารวมตัวกันที่กระบี่ของม่าเฉิน ม่าเฉินเหวี่
ทักษะกระบี่แยกภูภาเป็นทักษะสามัญภายในศาลากระบี่สวรรค์ อย่างไรก็ตาม มีเพียงไม่กี่คนที่จะฝึกฝนมันจนมาถึงกระบวณท่าที่เก้า -สายน้ําทะลวงภูผา ม่าเฉินผู้นี้ถือได้ว่าเหนือกว่าคนรอบข้าง
“บั้ม !”
ซากศพที่พุ่งตัวเข้าใส่พวกเขาทั้งสองถูกทําลายหาย ไปในทันทีสายธารบินคมกระบี่จากนั้นก็ทําลายซากศพที่ขวางทางพวกเขาออกไป
“ข้ายังไม่จบ! รวมตัว!”
ทันใดนั้น,ม่าเฉินก็เหวี่ยงกระบี่ในมือของเขาธารน้ําที่กระจัดกระจายพลันรวมตัวกลับมาก่อนที่จะยิงออกไปซากศพทุกร่างในเส้นทางถูกเจาะทะลุหน้าอก จากนั้นพวกมันก็ทรุ ดตัวลงและแตกสลายไปในจังหวะต่อมา, พวกมันกลายเป็นชิ้นๆตกตายอย่างสมบูรณ์
สายน้ําทะลวงภูผา เป็นเช่นนี้นี่เอง…. สายน้ํา ไหลนั้นเป็นเพียงโหมโรงจังหวะทะลวงภูผาเป็นกระบวณท่าจบที่แท้จริง,เซี่ยวเฉินครุ่นคิดกับตัวเอง
พวกเขาทั้งสองใช้โอกาสนี้ทะลวงออกไปจากฝูงซากศพพวกเขาสามารถทะลวงออกไปยังพื้นที่โล่งได้หลังจากนั้นพวกเขาทั้งก็ก็มช้ออกทักษะเคลื่อนที่ของพวกเขา และทิ้งห่างเหล่าซากศพที่ไล่ตามมา
“ไปกันเถอะ,พวกเราต้องไปแจ้งลุงเยโดยเร็ว” พวกเขาทั้งสองรีบมุ่งหน้าไปที่กองบัญชาการของชั้นแปดอย่างรวดเร็ว
อย่างไรก็ตาม,ก่อนที่พวกเขาจะไปได้ไกล,พวกเขาก็พบบางสิ่งที่พวกเขาไม่คาดคิด คนเหมืองที่พวกเขาพบตลอด ทางได้กลายไปเป็นซากศพพวกมัน,ขัดขวางเส้นของของพวกเขา,ทําให้ก้าวขึ้นหน้าไปอย่างยากลําบาก
เรื่องดีก็คือซากศพพวกนี้ไม่ได้แข็งแกร่งเหมือนฝูงซากศพที่พวกเขาพบก่อนหน้า ด้วยความแข็งแกร่งของพวกเขา,พวกเขาสามารถรับมือพวกมันได้อย่างง่ายดาย
ซากศพอีกตัวพุ่งขึ้นใส่เซียวเฉินเขาชกไปที่หัวของมันและสายลมทําให้ผมของมันลอยกลับไปข้างหลัง,เผยให้เห็นใบหน้าสีซีดที่น่าอดสู
เซียวเฉินสีหน้าเปลี่ยนและเขาหยุดมือลงอย่างช่วยไม่ได้เป็นเขาไปได้อย่างไร? ซากศพร่างนี้คือหัวหน้างานที่ได้มาขอร้องความช่วยเหลือของเซียวเฉินเมื่อคืนก่อน มันเป็นเพียงแค่คืนเดียวและลางสังหรณ์ของเขากลับกลายเป็นจริง
รวมเขาเข้าไปด้วยแล้ว คนเหมืองทั้งหมดที่ได้กลายเป็นซากศพนั้นกําลังจะครบวาระงานของพวกเขาอยู่แล้ว
“ชั่ว!”
ขณะที่เซียวเฉินกําลังฟังซ่าน,มีกระบี่แสงฟันตัดลงมาและแยกซากศพออกเป็นสองส่วน ม่าเฉินกล่าวอย่างเป็นกังวล “เจ้ากําลังคิดอะไรอยู่? ระวังพิษซากศพเอาไว้ หากเจ้าติดเชื้อขึ้นมาเจ้าจะกลายเป็นซากศพเช่นกัน”
“ฟู! ฟู!”
เซียวเฉินส่งสายลมกรรโชกสองสายออกไปด้วยฝ่ามือของเขาและเปาของเหลวจากซากศพออกไปด้านข้าง แม้ว่าสีหน้าของเขาจะไม่เปลี่ยน,หัวใจของเขารู้สึกเหมือนถูกบางอย่างที่มแทงและรู้สึกปวดใจอย่างไม่น่าเชื่อ
“ไปกันเถอะ,หยุดฝันกลางวันได้แล้ส” ม่าเฉินเร่งเมื่อเขาเห็นว่าเซี่ยวเฉินยืนนิ่งไม่ขยับ
เซียวเฉินปล่อยเสียงฮีบออกมาและพยายามอย่างที่สุดเพื่อทําเป็นสงบ หลังจากที่เขาจัดระเบียบตัวเองได้,เขาก็ตามหลังม่าเฉินมุ่งหน้าไปทางกองบัญชาการอย่างรวดเร็ว
คนเหมืองกว่าสองพันคนได้กลายไปเป็นซากศพทั้งคู่ไม่ได้บังเลที่จะโจมตีใส่,มุ่งหน้าสังหารพวกมันอย่างง่ายดาย
การเดินทางที่ปกติจะใช้เวลาเพียงสิบนาทีในตอนนี้ใช้เวลาถึงหนึ่งชั่วโมง
เมื่อพวกเขามาถึง ก็มีเรื่องประหลาดใจเกิดขึ้นอีกครั้งเหล่าระดับขอบเขตนักบุญที่ปกติจะอยู่เฝ้าที่กองบัญชาการทั้งหมดถูกลบหายไปสถานที่นั้นว่างเปล่าและไม่มีใครอยู่สักคนมีกองหินวิญญาณระดับต่ํากองใหญ่อยู่ภัยในห้อง:พวกมันส่องแสงระยิบระยับ
ด้านหน้าของประตูของห้องหิน, มีแสงม่านพลัง พวกเขาทั้งสองรู้ว่ามันคือม่านพลังพิเศษ ปราศจากการอนุมัติ,พวก เขาไม่สามารถเข้าไปได้แม้ว่าจะมีหินวิญญาณมากมาย,พวกเขาได้ทําได้เพียงจ้องมอง
หลังจากที่ทุ่มความพยายามมุ่งหน้ามาที่นี่, พวกเขาทั้งสองไม่คิดว่าจะผลจะเป็นเช่นนี้ พวกเขาทั้งสองหารือกันอยู่ครู่หนึ่งก่อนที่จะตัดสินใจหาสถานที่พักผ่อน
แน่นอนว่าพวกเขาไม่สามารถเดินทางไปตามเส้นทางที่พวกเขามาได้,มันเต็มไปด้วยซากศพ พวกเขาสังหารพวกมันตลอดทางจนมาถึงที่นี,พวกเขาไม่อยากทําเช่ นนั้นไปเรื่อย
พวกเขาหยิบแผนที่ออกมาและเลือกอุโมงค์ตันแห่งหนึ่ง,พวกเขาเตรียมตัวจะไปที่นั้นเพื่อพักผ่อนก่อนที่จะวางแผนต่อไป พวกเขาเร่งรีบไปยังที่ตั้งแห่งนั้นและเข้าไปในอุโมงค์ลึกก่อนที่จะผ่อนคลายลง
ม่าเฉินทิ้งก้นของเขาลงพื้นในทันทีและตะโกนขึ้น “หลังจากที่มาที่แห่งนี้หลายครั้ง นี่เป็นครั้งแรกที่ข้าเจอสถานการณ์เช่นนี้มันอาจจะเป็นครั้งสุดท้ายแล้วจริงๆ”
เซี่ยวเฉินเริ่มสงบสติลงได้,เขาถามขึ้น “ศิษย์พี่ม่าเจ้ามีประสบการณ์มากกว่า มันมีวิธีใดข้างที่ทําให้ผู้คนมากมายกลายเป็นซากศพ”
ม่าเฉินครุ่นคิดอยู่ครู่หนึ่งก่อนที่จะตอบกลับ “นอกจากนี้กายซากศพเลื่อนไหลที่สูญหายไปแล้วจากทวีปเทียนหรู่, ข้าก็คิดถึงเหตุผลอื่นไม่ออก อย่างไรก็ตาม นิกายซากศพเลื่อนไหลก็ได้หายไปเกือบจะหนึ่งพันปีแล้ว”
นิกายซากศพเลื่อนไหวเป็นนกายที่ชั่วร้ายเป็นอย่างมากสมัยก่อนที่จะถึงราชวงศ์เทียนหวู่นั้นเป็นช่วงเวลาที่มนุษย์ ชาติตกอยู่ในความโกลาหลนั้นเป็นช่วงที่นิกายซากศพเลื่อนไหลรุ่งโรจน์เป็นที่สุด
นิกายซากศพเลื่อนไหลถูกแบ่งออกเป็นสองขั้ว,หนึ่งคือมุ่งเน้นไปที่การชี้นําและควบคุมซากศพ หากพวกเขาได้รับซากศพที่แข็งแกร่งมา,พลังต่อสู้ของพวกเขาก็จะเพิ่มขึ้นอย่างมาก
ฝ่ายนี้ถูกประณามโดยมนุษย์ชาติ เพื่อที่จะค้นหาซากศพที่แข็งแกร่ง,พวกเขามักจะขุดซากศพบรรพบุรุษของผู้อื่นขึ้นมาอยู่เสมอ
ซากศพของคนธรรมดาทั่วไปไม่ได้ดึงดูดพวกเขา พวกเขาเชี่ยวชาญในการยึดซากศพบรรพบุรุษของนิกายและเหล่าตระกูลใหญ่ ศพบรรพบุรุษที่แข็งแกร่งเหล่สนี้จึงเป็นเป้าหมายแรกของนิกายซากศพเลื่อนไหล
ก่อนที่จะถึงราชวงศ์เทียนหวี่,พวกเขาถึงกับขุดศพของมหาจักรพรรดิขึ้นมาหลังจากที่เปลี่ยนให้เป็นศพที่เคลื่อนไหว,มันกลายเป็นแข็งแกร่งยิ่งกว่าตอนที่พวกเขามีชีวิตเสีย อีกสันไร้ผู้ต่อต้าน
อย่างไรก็ตาม,พวกเขาก็ได้ฝังความเกรี้ยวโกรธให้กับเหล่าผู้คนและจักรพรรดิเทียนหวี่ก็ได้ลงมือสังหารผู้เชี่ย วชาญของฝ่ายนี้ด้วยตัวเองจนหมดหลังจากนั้น,ฝ่ายนี้ก็ได้ ถูกลบหายไปจากโลกนี้โดยสมบูรณ์
นอกจากฝ่ายนี้ ยังมีอีกฝ่ายหนึ่ง ฝ่ายนี้ได้บ่มเพาะพลังเส้นทางแห่งซากศพพวกเขาใช้ทักษะบ่มเพาะพลังพิเศษที่ปรับ
แต่งตัวเองให้เป็นซากศพที่ถึงเป็นกึ่งตาย