Ancient Strengthening Technique เทพอสูร บรรพกาล – ตอนที่ 1305

ตอนที่ 1305

บทที่ 1305 – เพิ่มพลัง สูตรสำหรับน้ำหอมมรกตทองคำ ค่าประสบการณ์ 10 ล้านของยาเม็ดชีพหวนคืน

 

เมื่อชิงสุ่ยได้ยินคำพูดขององค์หญิงใหญ่ มันเป็นตอนที่เขาเพิ่งเอาเข็มทองคำอันสุดท้ายออก เขายื่นมือออกไปและตบลงบนก้นสีขาวของเธอ

 

เพี๊ยะ!

 

อืออออ!

 

เสียงอันดังฟังชัดนี้อาจทำให้ผู้ที่ได้ยินถึงกับสั่นไหว องค์หญิงใหญ่ร้องเสียงต่ำเครือออกมาโดยไม่ได้ตั้งใจ หลังจากที่ชิงสุ่ยได้ตบลงบนก้นเธออย่างกระทันหันและแม้ว่ามันจะไม่เจ็บ แต่ก็ยังคงเหลือร่องรอยไว้

 

“แน่นอนว่ามันฟังดูดีมาก ครั้งหน้าเพียงแค่ถามข้าหลังจากเก็บเข็ม เมื่อพวกเราอยู่ในสถานการณ์เช่นนี้ เจ้าไม่รู้หรอกว่ามันส่งผลกระทบต่อข้ามากเพียงใด ข้าแทบจะสูญเสียการควบคุม……” ชิงสุ่ยหัวเราะและอุ้มองค์หญิงใหญ่ไป

 

“ไปที่ห้องน้ำเถอะ!” องค์หญิงใหญ่กระซิบข้างหูของชิงสุ่ย น้ำเสียงของเธอฟังดูกลัวและตื่นตระหนกเล็กน้อย

 

ชิงสุ่ยเดินเข้าไปในห้องน้ำทันที ด้านในมีถังขนาดใหญ่เหมือนถังอาบน้ำ มีความยาวโดยรอบประมาณหนึ่งเมตรครึ่ง มันสูงเกือบถึงหน้าอกของชิงสุ่ย น้ำภายในใสมากจนถึงจุดที่เขาสามารถมองเห็นก้นถังได้อย่างง่ายดาย เขารีบถอดเสื้อผ้าของเขาและกระโดดลงไปพร้อมกับองค์หญิงใหญ่

 

น้ำในถังมาจากน้ำพุร้อนของสำนักสวรรค์เร้นลับ ชิงสุ่ยรู้สึกผิดปกติเมื่อเขากระโดดลงมา ในขณะนั้นองค์หญิงใหญ่เห็นเรือนร่างของชิงสุ่ย มันทำให้เธอรู้สึกเขินอายและตื่นกลัว

 

น้ำภายในถังสูงเพียงระดับหน้าอกขององค์หญิงใหญ่ สิ่งนี้ทำให้ดูเหมือนว่าคู่หน้าอกอันกลมกลึงของเธอลอยอยู่เหนือน้ำในช่วงเวลาสั้นๆ บังเอิญพบว่าหัวนมสีชมพูของเธอถูกสัมผัส ด้วยความบังเอิญยอดเนินอกสีชมพูของเธอถูกเผยออกมา

 

น้ำอันใสสะอาดไม่ได้ขัดขวางการมองเห็นของชิงสุ่ยแม้เพียงเล็กน้อย เขาไม่ได้กระโจนลงไปขย้ำเธอราวกับเสือที่หิวกระหาย ความเป็นจริงเขาแค่ก้าวไปด้านหน้าและกอดเธอไว้

 

“ทำไมเจ้าไม่ช่วยข้าถูหลังหล่ะ?” ชิงสุ่ยยิ้มอยู่ข้างๆหู

 

องค์หญิงใหญ่ประหม่าเล็กน้อยและรีบตอบรับคำขอของเขา ชิงสุ่ยปล่อยมือจากเธอและเอนกายแนบขอบถัง เขาโน้มร่างกายลง ไม่นานนักคู่ของเนินอกอันนุ่มนวลก็ถูเบาๆลงมาบนหลังของเขา

 

องค์หญิงใหญ่ตื่นตกใจ เธอเริ่มถอยห่าง ก่อนหน้านี้เธอไม่ได้ตั้งใจที่จะทำอย่างนั้น อย่างไรก็ตามขณะที่เธอกำลังถอยออกมา ชิงสุ่ยก็ขัดขวางและยื่นมือไปคว้าเธอไว้ เขายังไม่ได้พูดอะไร แต่องค์หญิงใหญ่ก็พอจะเดาได้แล้ว บางสิ่งกำลังจะออกมาจากปากของเขา

 

“ซูหนี่เห็นความยอดเยี่ยมนั่นหรือไม่ ท่านไม่จำเป็นต้องใช้มือเลยและสามารถใช้อกคู่นี้แทนได้?”

 

“ไม่!” องค์หญิงใหญ่หงุดหงิด เธอไม่คาดคิดว่าเขาจะขอให้ทำเช่นนั้น มันทำให้เธอรู้สึกอึดอัดใจจริงๆ

 

แต่ตอนนี้ชิงสุ่ยไม่สามารถถอยกลับได้ เขาจะต้องตักตวงผลประโยชน์ให้มากขึ้นเพื่ออนาคตเท่านั้น

 

“ตอนนี้เราเริ่มมันไปแล้ว ท่านต้องเลือกว่าจะใช้สิ่งใด!” ชิงสุ่ยหัวเราะเบาๆ

 

หลังจากช่วงเวลาแห่งความเงียบ ชิงสุ่ยได้รับชัยชนะ “ปิดตาลงเถอะ ถ้าหากท่านไม่กล้ามองดู ข้าจะ……”

 

ใบหน้าขององค์หญิงใหญ่ร้อนผ่าว เธอค่อยๆก้มตัวลงและกดเนินอกทั้งสองข้างลงไปบนหลังของชิงสุ่ย หลังจากนั้นเธอเริ่มค่อยๆขยับขึ้นและลงไปพร้อมกับมัน

 

ชิงสุ่ยครวญครางอย่างต่อเนื่อง สิ่งที่เขาร้องออกมาแสดงถึงความรู้สึกสบาย

 

“เจ้าไม่ได้รับอนุญาตให้ส่งเสียงร้อง……” องค์หญิงใหญ่กล่าวด้วยความเขินอายและโกรธเคือง

 

ชิงสุ่ยสามารถมองเห็นได้ว่าองค์หญิงใหญ่กำลังปิดตาอยู่เล็กน้อย ในขณะที่องค์หญิงใหญ่กำลังเคลื่อนไหวขึ้นลง ชิงสุ่ยก็อาศัยโอกาสนั้นหันกลับไปเพียงชั่วพริบตาเท่านั้น

 

เช่นนั้นมันจึงเปลี่ยนจากการถูหลังกลายมาเป็นถูหน้าอกของเขา มันผิดพลาดเพราะอวัยวะส่วนล่างของเขากำลังกดลงไปบนตัวขององค์หญิงใหญ่จึงทำให้ผลลัพธ์ออกมาเป็นแบบนี้ เพราะเหตุนี้เธอถึงลืมตาขึ้นและเห็นว่าชิงสุ่ยหันหน้าเข้าหาเธอ เธอรู้สึกลำบากใจจนถึงกับตีชิงสุ่ยสองครั้ง

 

ชิงสุ่ยกอดเธอไว้ทันทีและทำให้ตัวเธอเอนไปข้างหลัง องค์หญิงใหญ่ใช้มือของตัวเองจับไปที่ขอบถัง มันทำให้หน้าอกของอัดแน่นเข้าหากัน ขณะนั้นเองชิงสุ่ยก็โน้มใบหน้าลงมาและเริ่มดูดดื่มมันอย่างตะกละ

 

องค์หญิงใหญ่เริ่มผ่อนคลายตัวเองลงอย่างช้าๆ เธอเริ่มค่อยๆตอบสนองต่อชิงสุ่ยขณะกอดเขา ชิงสุ่ยปลดปล่อยหัตถ์พลิ้วไหวสะเทือนวิญญาณลงบนร่างกายขององค์หญิงใหญ่ด้วยมือทั้งสองข้างของเขา ด้วยความรวดเร็ว เธอรู้สึกประทับใจกับชิงสุ่ยจนถึงจุดที่เธอแทบจะล้มตัวลง

 

“ซูหนี่ ท่านพร้อมแล้วหรือยัง?”

 

ชิงสุ่ยทำให้เธอไปถึงจุดสุดยอดครั้งหนึ่งแล้วขณะที่พวกเขายังคงอยู่ในน้ำ

 

“อื๊อ!” เสียงแหบพร่าดังออกมาจากจมูกของเธอ

 

ชิงสุ่ยค่อยๆนวดคลึงลงไปที่จุดอันเปียกชุ่มขององค์หญิงใหญ่ที่อยู่ใต้น้ำ องค์หญิงใหญ่ขบฟันขณะมองไปที่ชิงสุ่ย สำหรับผู้ฝึกตน ความเสียวซ่านเพียงเล็กน้อยนี้เป็นสิ่งที่พวกเขายังสามารถแบกรับไว้ได้

 

ของเหลวสีแดงไหลออกมาจากส่วนที่อยู่ภายในร่างกายของเธอ

 

ชิงสุ่ยไม่ได้ขยับไปไหน หลังจากนั้นเขาใช้พลังศักดิ์สิทธิ์เพื่อช่วยให้เธอฟื้นตัว ต่อจากนั้นชิงสุ่ยก็บอกถึงเคล็ดวิชาการต่อสู้ มันเป็นเคล็ดวิชาที่สามารถเรียนรู้ได้ง่าย เพียงครู่เดียว เธอก็สามารถทำมันได้

 

เวลาผ่านไปทีละนิด จู่ๆก็มีปราณปรากฏขึ้นล้อมรอบตัวพวกเขา มันทำให้เขาประหลาดใจ เขาค้นพบว่าเธอมีเส้นลมปราณสวรรค์!

 

ชิงสุ่ยตกตะลึง มันเป็น 12 เส้นลมปราณสวรรค์ที่ครอบครองโดยหญิงสาวในภาพโฉมงาม?

 

หลังจากนั้นก้อนเมล็ดเจ็ดสีก็ส่องสว่าง ในเวลาเดียวกันกลิ่นอายที่น่าเกรงขามก็แผ่ออกมาจากร่างกายขององค์หญิงใหญ่

 

“ซูหนี่ มันถึงเวลาแล้วที่พวกเราจะมาสนุกกัน ข้าจะทำให้ท่านรู้ว่าชายหนุ่มที่น่าลิ้มลองเป็นอย่างไร”

 

“ข้าเกลียดเจ้า!”

 

ชิงสุ่ยเริ่มค่อยๆดันเข้าและออกตามจังหวะ องค์หญิงใหญ่คล้องแขนทั้งสองข้างไว้ที่คอของเขาและปล่อยเสียงร้องทุ่มต่ำออกมา ชิงสุ่ยเริ่มเร่าร้อนและไม่สามารถหยุดยั้งตัวเองจากการกระทบเข้าใส่เธอได้ ส่วนที่บอบบางของเธออัดแน่นไปด้วยอวัยวะของเขา พวกมันผสานเข้ากันอย่างสมบูรณ์

 

ชิงสุ่ยจ้องมองใบหน้าอันดึงดูดของเธอ แม้ดวงตาของเธอจะดูพร่ามัว เธอก็ยังคงแสดงท่าทีชักชวนอย่างไม่ลดละ

 

พวกเราออกมาจากห้องน้ำและร่ายรำไปตลอดทางสู่ห้องนอน

 

เมื่อถึงเวลาที่ห้องเงียบสงบลง มันก็ตกดึกแล้ว องค์หญิงใหญ่แนบติดอยู่กับร่างกายของชิงสุ่ยเช่นเดียวกับปลาหมึก เธอเหนื่อยล้าจนแทบจะหมดแรง

 

“ซูหนี่ ท่านมีความสุขหรือไม่?” ชิงสุ่ยกระซิบข้างใบหูเธอ

 

“ข้าไม่รู้!”

 

“เช่นนั้นพวกเรามาลองกันอีกครั้ง! มันดูเหมือนว่าข้ายังไม่สามารถเติมเต็มให้ท่านได้” ชิงสุ่ยแนบชิดกับเธอ เพราะฉะนั้นด้วยการขยับตัวเล็กๆน้อยๆ องค์หญิงใหญ่ที่แนบชิดอยู่ก็ถึงกับร้องเสียงครวญครางออกมานิดหน่อย

 

“มีความสุข ข้ามีความสุขจริงๆ หยุดขยับเถอะ ข้าเหนื่อยล้ามาก ข้าไม่ต้องการอะไรอีกแล้วในตอนนี้”

 

“เช่นนั้นบอกข้าสิ ท่านสบายหรือไม่?” ชิงสุ่ยยิ้มและพูด

 

“ข้าสบาย!”

 

……

 

องค์หญิงใหญ่ถูกชิงสุ่ยบังคับให้พูดถึงสิ่งที่น่าอับอายมากมาย

 

ชิงสุ่ยรู้สึกพอใจมากขณะมองดูผู้หญิงคนนี้ที่หลับสนิทแล้ว องค์หญิงใหญ่ไม่ได้ดูเรียบเฉยเมื่อเธอหลับ รอยยิ้มจางๆปรากฏอยู่บนใบหน้าของเธอ มันดูหมายถึงเธอพอใจ

 

ตอนนี้ชิงสุ่ยกำลังนอนอยู่บนเตียง เขาจมดิ่งลงสู่จุดตันเถียนภายในร่างของเขาและพยายามที่จะรู้สึกถึงการเปลี่ยนแปลงของก้อนเมล็ดเจ็ดสี

 

ไม่มีการเปลี่ยนแปลงด้านความแข็งแกร่ง อย่างไรก็ตามความสามารถในการครอบงำของก้อนเมล็ดเจ็ดสีเพิ่มมากขึ้นจากเดิม 20-25 เท่า มันทำให้ชิงสุ่ยมีความสุขจริงๆ

 

ด้วยการฝึกตนแบบทวิบ่มเพาะ ความแข็งแกร่งทางกายภาพของเขาได้เพิ่มขึ้นทันทีประมาณ 4,500 สุริยา มีโอกาสที่การโจมตีของเขาจะรุนแรงขึ้น 2 เท่า พลังของสงบนิ่งดังภูผาบรรลุถึงระดับ 9,000 สุริยาหรือมากกว่านั้น

 

การโจมตีด้วยพลังวิญญาณของเขาตอนนี้เกือบถึง 7,000 สุริยา หากรวมเข้ากับโอกาสในการเพิ่มพลังโจมตีขึ้น 2 เท่าหรือเขาใช้ตราประทับแห่งวิหคศักดิ์สิทธิ์ พลังของเขาก็จะพุ่งสูงขึ้นถึง 30,000 สุริยา

 

ชิงสุ่ยเป็นคนที่ได้ก้าวเข้าสู่ประตูเทวะแห่งเต๋า ยิ่งไปกว่านั้นเข้ามีทักษะย่างก้าว 9 เทวา ถ้าเขาใช้มันร่วมกับปราณจักรพรรดิและวชิระสยบอสูร ความสามารถในการต่อสู้ที่แท้จริงของเขาก็จะยิ่งน่ากลัวขึ้น

 

ชิงสุ่ยได้ข้ามผ่านเส้นลมปราณสวรรค์อีกครั้ง มันทำให้เขารู้สึกสับสนเล็กน้อย บางทีมันอาจจะไม่ใช่แค่หญิงสาวในภาพโฉมงามที่สามารถเข้าถึง 12 เส้นลมปราณสวรรค์ได้เท่านั้น ภาพโฉมงามอาจไม่ได้ครอบคลุมถึงลักษะณะของหญิงสาวทั้งหมด

 

หลังจากที่คิดสักระยะหนึ่ง ชิงสุ่ยก็โยนความคิดนี้ออกไป เขารู้สึกว่ามันดีที่สุดหากเขาจะปล่อยให้มันไหลไปตามกระแสของตัวเอง

 

ชิงสุ่ยยังคงกอดองค์หญิงใหญ่เอาไว้จนกระทั่งท้องฟ้าสว่าง ในตอนเช้ารัศสีของแสงอาทิตย์สาดส่องเข้ามาในห้อง ชิงสุ่ย ตื่นนานแล้ว อย่างไรก็ตามองค์หญิงใหญ่เพิ่งจะตื่นขึ้น ทันทีที่เห็นใบหน้าของชิงสุ่ย หน้าของเธอก็เริ่มแดงระเรื่อในทันที ตอนเช้าเป็นเวลาที่ดีที่สุดสำหรับผู้ชายในการต่อสู้ ธรรมชาติชิงสุ่ยจะไม่มีทางพลาดการฝึกซ้อมช่วงเช้าของเขา

 

เมื่อชิงสุ่ยและองค์หญิงใหญ่ลงมากินอาหารที่ห้องนั่งเล่น ท่าทีที่ดูอิดโรยของเธอก็ยังคงปรากฏให้เห็นเล็กน้อย เมื่อเห็นมัน หญิงสาวอีกสองคนก็รู้โดยทันทีว่าเกิดอะไรขึ้น นี่เป็นสัญชาตญาณของผู้หญิง นอกจากนี้องค์หญิงใหญ่ยังพยายามหลีกเลี่ยงเขาด้วยความเขินอาย มันช่วยให้ทุกคนยืนยันได้มากขึ้นถึงสิ่งที่พวกเขาคาดเดา

 

ชิงซาเป็นคนเดียวที่ดูสงบราวกับว่าเธอไม่เห็นอะไร

 

หลังจากที่ได้กินอาหารแล้ว ชิงสุ่ยบอกพวกเขาว่าจะไปที่ลานประลองสวรรค์เร้นลับและออกไป

 

ลานประลองสวรรค์เร้นลับ!

 

“ยินดีที่ได้พบ ผู้อาวุโสทั้งสอง สำนักสวรรค์เร้นลับสามารถควบคุมแท่นเคลื่อนย้ายบรรพกาลได้หรือไม่?” ชิงสุ่ยถามอย่างตรงไปตรงมา เขาไม่ได้ขอบคุณพวกเขาที่ช่วยเหลือองค์หญิงใหญ่ ในความเป็นจริงตอนนี้ไม่จำเป็นต้องขอบคุณพวกเขา เพราะมันจะทำให้พวกเขารู้สึกห่างเหินหากทำเช่นนั้น

 

“แน่นอน มันไม่มีปัญหาอะไรเพียงแค่การควบคุมแท่นเคลื่อนย้ายบรรพกาล”

 

 

“ผู้อาวุโส ข้าต้องการให้แท่นเคลื่อนย้ายบรรพกาลเปิดทางแก่ผู้คนจาก 5 มหาทวีปเข้ามาเพียงอย่างเดียวเป็นเวลาสัก 20 ปี ข้าหวังว่าผู้คนจากมหาทวีปอู่เซียตะวันตกจะไม่สามารถเดินทางไปที่นั่นได้” ชิงสุ่ยกล่าวกับชายชราทั้งสองหลังจากคิดอย่างรอบคอบ

 

“นี่เป็นเรื่องที่ง่ายมาก ข้าจะให้ใครสักคนไปที่แท่นเคลื่อนย้ายบรรพกาลทันที”

 

……

 

ชิงสุ่ยกลับไปทันทีและเข้าสู่ดินแดนหยกยุพราชอมตะเพื่อฝึกฝน หลังจากปรับแต่งอาวุธ เขาก็เริ่มปรุงยา มันเป็นเพราะสูตรน้ำหอมมรกตทองคำกำลังจะออกมา

 

ชิงสุ่ยปรุงมันอย่างต่อเนื่องเป็นเวลา 3 วัน ในช่วงเวลาอื่นนอกเหนือจากการปรับแต่งอาวุธ เขาใช้เวลาที่เหลือไปกับการปรุงยา

 

ติ่ง!

 

เมื่อชิงสุ่ยได้ยินเสียงที่งดงาม เขารู้สึกมีความสุขจริงๆ เขาหยุดมือและมองไปที่สูตรที่เพิ่งออกมา

 

น้ำหอมมรกตทองคำ!

 

สูตรยา : ปลาดาว หยกอสูร ยาฟื้นฟูขนาดเล็ก ดอกเสาวคนธ์ทองคำ

 

คุณสมบัติ : ช่วยรักษาบาดแผลและฟื้นฟูโลหิตได้เป็นอย่างดี ช่วยคงความเยาว์วัยและเสริมสร้างผิวหน้า

 

เขายังคงต้องหาค่าประสบการณ์นับสิบล้านสำหรับสูตรยาต่อไป ยาเม็ดชีพหวนคืน

 

ชิงสุ่ยผิดหวังเล็กน้อยกับน้ำหอมมรกตทองคำ แต่สำหรับยาเม็ดชีพหวนคืน มันทำให้เขารู้สึกสดชื่นขึ้นมาได้ นอกจากนี้จำนวนค่าประสบการณ์อันมหาศาลยังเป็นตัวบ่งบอกถึงประสิทธิภาพของยาเม็ดชีพหวนคืนอีกด้วย

Ancient Strengthening Technique เทพอสูร บรรพกาล

Ancient Strengthening Technique เทพอสูร บรรพกาล

Status: Ongoing

นิยายเรื่องนี้เป็นเกี่ยวกับตัวละครหลักมีชื่อว่า ชิงสุ่ยซึ่งถูกส่งข้ามมิติและมายังทวีปคิวชู  ทั้งทวีปเต็มไปด้วยการฆ่าฟันดังพายุโลหิต ส่งผลให้ซากศพ กระดูกและเศษเนื้อ  กระจายเกลื่อนไปทั่วทวีปซึ่งถือเรื่องธรรมดามากในโลกใบนี้

 นักรบหนุ่มชิงสุ่ยทำการพลิกชะตากรรมชีวิตเพื่อสร้างเส้นในการเพาะปลูกพลังยุทธ เขาใช้เวลากว่า 10 ปีเพื่อฝึกฝนตัวเอง เพื่อที่จะแสวงหาการแก้แค้นบุคคลผู้หนึ่งที่ได้ทอดทิ้งแม่ของเขา! บนเส้นทางชีวิตนี้ เขาได้มีโอกาสพบกับหญิงสาวผู้มีความงดงามดุลรูปปั่นเทพธิดา ( เจ้าหญิงน้ำแข็ง ) ชิชิงซวง ซึ่งเป็นบ่อเกิดของความเกลียดชังและการแก้แค้นจากคู่หมั้นของเธอนามซิตู่บูฟาน หลังจากผ่านพ้นเข้าเมืองร้อยไมล์ ชิงสุ่ยได้พบกับสาวสวยแสนงดงามชื่อ ยูฮี และคนอื่นๆ ที่อาณาจักรเซียนเทียน

 หลังจากที่เขาเผชิญความทุกข์ยากในเส้นทางชีวิต เขาได้ฆ่านายน้อยของตระกูลกงหยางเพราะยูฮี ทำให้เขาต้องหลบๆซ่อนๆ แต่ในความโชคร้ายก็มีความโชคดี หญิงสาวรูปร่างใบหน้าราวกับนางอัปสรสวรรค์ ชื่อเย่ยีเจียนจี  ได้พานพบและได้ช่วยเหลือเขาเอาไว้ ต่อไปนี้เขาจะต้องพบเจอกับสงครามที่ต้องล้างด้วยเลือด  ชิงสุ่ยจะสามารถรอดพ้นอันตรายได้หรือไม่ จะรอดพ้นภัยพิบัติได้หรือไม่  และความสัมพันธ์ของเขากับสาวงามต่างๆจะเป็นอย่างไร

แสดงความคิดเห็น

ใส่ความเห็น

อีเมลของคุณจะไม่แสดงให้คนอื่นเห็น ช่องข้อมูลจำเป็นถูกทำเครื่องหมาย *

ปรับฟอนต์

**ถ้าปรับโหมดมืดอยู่** ให้เปลี่ยนเป็นโหมดสว่าง ก่อนจะปรับสีพื้นหลัง
รีเซ็ท