บทที่ 1329 – ชำระล้างเส้นลมปราณสวรรค์เส้นที่ 8 เพิ่มความแข็งแกร่งอีกครั้ง
ไม่ต้องบอกกก็รู้ว่าตำแหน่งของชิงสุ่ยในตระกูลของเขานั้นยิ่งใหญ่เพียงใด แต่เขาก็ยังคงเข้าหาคนอื่นๆได้อย่างไม่ถือตัว นี่คือสิ่งที่ชิงสุ่ยปรารถนา เขารักครอบครัวที่อยู่ด้วยกันแบบธรรมดามากกว่าครอบครัวที่แบ่งแยกชนชั้น
“ท่านแม่ ลูกอาจจะพูดอะไรที่ไร้สาระไปบ้าง ตราบเท่าที่ทุกๆคนยังรอคอยก่อนตอนนี้ข้าการันตีได้เลยว่าทุกๆคนจะต้องได้มีการแต่งงานที่ดีที่สุดในอนาคต เพื่อประโยชน์ของอนาคตตระกูลชิง ข้าจะหาภรรยาที่พวกเขาจะต้องพึงพอใจได้อย่างแน่นอน” ชิงสุ่ยกล่าวด้วยรอยยิ้ม ในตอนนี้มีผู้คนมากมายอยากจะแต่งงานกับตระกูลชิงเพื่อสานความสัมพันธ์ แต่แน่นอนว่าการแต่งงานแบบนี้เป็นเพียงการแต่งงานเพื่อสานความสัมพันธ์เท่านั้น
แต่เขาไม่อาจบอกได้ว่ามันจะมันเป็นการได้ประโยชน์หรือสูญเสียเพราะทุกอย่างนั้นขึ้นอยู่กับความพึงพอใจ ส่วนใหญ่ของการแต่งงานนั้นทำไปโดยไม่ได้มีความรู้สึกใดๆ แต่ความรักความสัมพันธ์ก็จะเพิ่มขึ้นไปตามกาลเวลาหากทั้ง 2 ฝ่ายไม่ได้มีความเกลียดชังต่อกัน มิฉะนั้นมันย่อมยากยิ่งนักที่ความสัมพันธ์จะพัฒนาต่อไปได้
ชิงสุ่ยนั้นเกลียดการแต่งงานเพื่อเชื่อมความสัมพันธ์แม้กระทั่งตอนนี้ สำหรับการหมั้นหมายของหลงเอ๋อ เขายังคงให้เด็กทั้ง 2 คนเป็นผู้ตัดสินใจเองในอนาคต
“เอาหละ เอาหละ ข้าหวังว่าพวกเขาจะหาคนที่พวกเขารักได้ การแต่งงานนั้นมิใช่การทำธุรกิจ มันเป็นอีกหนึ่งอย่างที่จะอยู่กับเราไปตลอดชีวิต” ชิงอี้ยิ้มและกล่าวด้วยน้ำเสียงที่ผ่อนคลาย
หัวใจของชิงสุ่ยรู้สึกเจ็บปวดทันทีเมื่อเขาได้ยินเช่นนี้และเขาก็จำได้ว่าแม่ของเขานั้นกำลังรอคอยคนนั้นๆตลอดมา เขาตัดสินใจที่จะออกตามหาคนนั้นๆ เขาต้องรอจนกว่าความแข็งแกร่งของเขาจะยกระดับขึ้นมากกว่านี้อีกและเมื่อเขามีอิทธิพลมากพอ แต่ถึงตอนนั้นมันย่อมเป็นเรื่องง่ายสำหรับเขาที่จะตามหา
ชิงสุ่ยมีลางสังหรณ์ว่าเขาน่าจะคุ้นเคยกับคนๆนั้นอยู่บ้าง มิฉะนั้นย่อมต้องมีผู้อื่นที่มายังมหาทวีปทั้ง 5 นี้และลักพาตัวเขาไป
“ลูกทราบดี ท่านแม่ โปรดวางใจเถอะ นั่นคือเหตุผลที่ลูกพยายามแสวงหาความแข็งแกร่งอยู่เสมอ ตอนนั้นพวกเขาได้เข้าสู่โลกใบใหม่ที่กว้างใหญ่ขึ้น แต่แน่นอนว่าหากพวกเขาได้พบคนที่ใช่ในตอนนั้นก็ย่อมเป็นโอกาสของพวกเขา” ชิงสุ่ยรู้สึกว่าสิ่งที่เขากล่าวไปก่อนหน้านี้
หลังจากอาหารค่ำทั้งตระกูลของเขาก็พูดคุยกันที่ห้องโถงใหญ่ บรรยากาศช่างสดใสและมีชีวิตชีวาอย่างยิ่ง ลูกๆของชิงสุ่ยต่างอยู่ที่นี่พร้อมกับลูกๆของชิงจือ ฉางเฟิงนั้นมีอายุมากที่สุดในหมู่พวกเขา เขาเติบโตขึ้นมากกว่าครึ่งหนึ่งเมื่อเทียบกับก่อนหน้านี้ ในหมู่รุ่นที่ 4 ของตระกูลชิงเขาเป็นเด็กผู้ชายที่มีอายุมากที่สุดหากไม่นับหลวนหลวนและอวี้ช่าง
แม้ว่าเขาจะยังอายุน้อยพื้นฐานของเขานั้นก็ยังดีกว่าชิงจือก่อนหน้านี้ หลังจากที่เฟิง เฟ้ยเยี่ยนได้แต่งงานกับชิงจือนางก็ดูเหมือนจะอ่อนเยาว์มากยิ่งขึ้น นางไม่มีริ้วรอยใดๆเลยแต่ดูเป็นผู้ใหญ่มากยิ่งขึ้น
ชิงฉางเฟิงนั้นคล้ายคลึงกับชิงจือยิ่งนัก เขาแข็งกร่งราวกับลูกพยัคฆ์แต่ก็มีใบหน้าที่คล้ายคลึงกับเฟิง เฟ้ยเยี่ยนด้วยเช่นกัน ชิงสุ่ยไม่ได้หมายความว่าชิงจือนั้นอัปลักษณ์ เขาเพียงแค่ดูไม่ฉลาดเท่านั้น
ชิงสุ่ยได้ดูแลลูกๆของชิงจือเป็นอย่างดีไม่ต่างจากที่เขาดูแลลูกของตนเองเลย
ในหมู่ ชิงหุย ชิงฮู ชิงฉาน ชิงหยู ชิงสือ มีเพียงชิงฉานและเซียงหยวนเท่านั้นที่แต่งงานแล้ว ชิงหยูได้เลิกกับคนรักในวัยเด็กของเขา หญิงสาวผู้นั้นทิ้งเขาไปตลอดกาลเพราะเหตุการณ์ที่ไม่คาดคิด นี่ทำให้ชิงหยูเสียใจอยู่เป็นเวลานาน
มีคนไม่มากในหมู่รุ่นที่ 3 ของตระกูลชิง และมีผู้หญิงเพียง 2 คนเท่านั้น – ชิงเป่ยและชิงชิง ชิงชิงได้แต่งงานไปแล้ว สำหรับตระกูลอื่นๆตระกูลชิงนั้นถือว่าเป็นตระกูลที่มีขนาดเล็กยิ่งนักเมื่อเทียบจากจำนวนสมาชิก
ชิงหลัวนั้นวาดฝันเอาไว้ว่ารุ่นถัดไปของตระกูลชิงนั้นจะรุ่งเรืองยิ่งขึ้น รุ่นที่ 4 ของตระกูลชิงในตอนนี้นั้นมีอยู่หลายคน ชิงสุ่ยนั้นก็มีลูกหลายคนแล้วและคงจะมีเพิ่มขึ้นอีกในอนาคต ชิงจือนั้นมีลูกชาย 3 คนและลูกสาว 1 คน ชิงฉานก็มีลูก 2 คนในตอนนี้เป็นชายและหญิงอย่างละคน
เด็กทั้ง 2 คนนั้นชิงสุ่ยเป็นคนตั้งชื่อให้ เด็กผู้ชายมีนามว่าชิงหลิงขณะที่เด็กผู้หญิงมีนามว่าชิงฉี ทั้ง 2 คนห่างกัน 2 ปี เด็กผู้ชายนั้นแก่กว่าและมีอายุประมาณ 3 ขวบส่วนเด็กผู้หญิงนั้นมีอายุประมาณ 1 ขวบ
ยังมีผู้ติดตามอีกหลายคนของตระกูลชิงที่อยากเป็นเหมือนพ่อบ้านของตระกูลชิง พวกเขาต่างดูแลธุรกิจส่วนใหญ่ของตระกูลชิงตั้งแต่ตระกูลชิงยังไม่ได้ยิ่งใหญ่เหมือนตอนนี้
ชาง หวู่ย่าได้กลับไปยังนิกายเทวโลก เฟย หวู่จี้ก็ได้กลายเป็นพ่อคน เมื่อชางห่าย หมิงเยวี่ยและหลวนหลวนได้ไปส่งผู้อาวุโสพวกนางต่างมีของขวัญมากมายที่มอบให้แก่เฟย หวู่จี้
……
ชิงหลัวและหลิน ซานห่านได้เกษียณตัวเองไม่นานหลังจากนั้น ชายชราทั้ง 2 คนนี้ต่างมีความสุขอย่างยิ่ง หลิน ซานห่านได้พบกับลูกหลานของตนเองและความปราถนาของเขาได้รับการเติมเต็มแล้ว เหตุการณ์ที่เกิดขึ้นที่สันเขาราชันย์ราชสีห์ก็จบลงแล้วเช่นกัน ภาระอันยิ่งใหญ่ในหัวใจของเขาได้ถูกปลดออกไปทำให้เขารู้สึกโล่งใจอย่างยิ่ง
ชิงอี้และคนอื่นๆได้ออกไปแล้ว หลงเอ๋อก็ได้หลับไปแล้ว จรู้ชิงและหญิงสาวคนอื่นๆก็อุ้มพวกเด็กๆออกไปเช่นกัน ไม่นานหลังจากนั้นก็เหลือเพียงชายหนุ่มในรุ่นที่ 3 ของตระกูลชิงที่ดื่มสุราด้วยกันอยู่ที่นี่
“ท่านพี่ชิงสุ่ย มหาทวีปวิหคอัคคีร่ายรำนั้นงดงามอย่างยิ่งใช่หรือไม่?”
“แน่นอน!”
“มันงดงามมากเพียงใดกัน?” ชิงหยูหัวเราะออกมา
“มากๆเลยละ!” ชิงสุ่ยตอบกลับพร้อมเสียงหัวเราะ
“เอาละเช่นนั้น ข้าจะรอคอยอีกสัก 2-3 ปี ตอนนั้นท่านคงหาหญิงสาวจากตระกูลขุนนางดีๆสักคนให้แก่ข้าได้ โอ้ใช่ ข้าคาดหวังว่านางจะต้องเป็นหญิงสาวจากตระกูลขุนนางชั้นสูงแต่ว่านางต้องไม่ใช่คนที่ไม่มีเหตุผล” ชิงหยูกล่าวด้วยความคาดหวัง
……
ยังคงไม่มีข่าวคราวใดๆจากอีเย่ เจี้ยนเก้อแม้ว่ามันจะผ่านมากว่า 1 เดือนแล้ว ก่อนที่ชิงสุ่ยจะตระหนักถึงเรื่องนี้ได้เขาก็ได้มาหยุดลงตรงหน้าประตูห้องนอนขแงเหวินเหรินอูซวง มันเปิดออกทันทีเมื่อเขาผลักและชิงสุ่ยก็เดินเข้าไปทันที
ครั้งนี้มันแตกต่างกันเมื่อเทียบกับครั้งที่แล้ว เพราะเขาเพิ่งมาที่นี่เมื่อเดือนที่แล้ว
เหวินเหรินอูซวงนั้นแต่งตัวอย่างเรียบร้อยและยืนอยู่ที่หน้าต่าง นางกำลังมองไปยังความมืดยามค่ำคืน นี่ช่างน่าทึ่งอย่างยิ่ง นางยิ้มขึ้นทันทีเมื่อนางได้เห็นชิงสุ่ย “มันนานมากแล้วนับตั้งแต่เจ้ากลับมาครั้งที่แล้ว เจ้าควรจะแบ่งเวลานี้ให้แก่คนอื่นๆก่อน”
ชุดของนางในตอนนี้มีสีขาวยิ่งกว่าหิมะและผมอันยาวสลวยของนางได้ปรกไหล่ที่งดงามของนางในตอนนี้ ใบหน้าของนางดูสง่างาม มันไม่ได้ดูเย้ายวนแต่มันดูงดงามอย่างยิ่ง นางดูสูงศักดิ์ ล้ำค่า ชาญฉลาด และเพรียบพร้อมราวกับพี่สาวข้างบ้านที่ไม่อาจใฝ่ฝันถึงได้
“ครั้งที่แล้วที่ข้ากลับมาเจ้าไม่อยู่ที่นี่ ครั้งนี้ข้าจะกลืนกินเจ้า จงมาเป็นหญิงสาวของข้าซะ อูซวง” ชิงสุ่ยยิ้มและเดินเข้าไปจับมือของนาง
ร่างกายอันชดช้อยของเหวินเหรินอูซวงเริ่มสั่นขึ้น นางส่ายศีรษะเบาๆ “มันเสี่ยงเกินไป เจ้ายังมีหญิงสาวอีกมากมาย ไม่จำเป็นต้องมาเสี่ยงกับเรื่องนี้ ข้าจะเป็นหญิงสาวของเจ้าตลอดไป”
ชิงสุ่ยส่งยิ้มให้แก่นาง“อูซวง เจ้าไม่อยากเป็นหญิงสาวของข้างั้นหรือ?” เขาถามขึ้นเบาๆ
จะมีหญิงใดกันที่ไม่ปราถนาความรัก? ความรักและความปราถนานั้นมีอยู่ในมนุษย์ทุกๆคน ใบหน้าของเหวินเหรินอูซวงแดงขึ้นทันทีเมื่อได้ยินคำถามของชิงสุ่ย นางคิดว่าตนเองนั้นเป็นหญิงสาวของเขามานานแล้ว น่าเสียดายที่ร่างกายของนางได้ปลุกนางตื่นขึ้นในช่วงเวลาที่สำคัญที่สุดนั้น แต่หากมีอะไรเกิดขึ้นในตอนนั้นนางคงไม่อาจให้อภัยแก่ตนเองได้เลยทีเดียว
“ข้าอยากแต่ข้าทำไม่ได้” สีหน้าของเหวินเหรินอูซวงจางลงเมื่อได้คิดถึงเรื่องนี้
นางไม่อาจใกล้ชิดกับคนที่นางรักได้ เมื่อความรักระหว่างผู้ชายกับผู้หญิงไปถึงจุดสูงสุด เพศสัมพันธ์ย่อมเกิดขึ้นตามธรรมชาติ ความรักนั้นสื่อสารกันผ่านทางคำพูดและการกระทำ นี่เป็นความต้องการทางร่างกายและความต้องการทางอารมณ์ มันคือสิ่งที่สืบทอดกันทางกรรมพันธุ์ การมีเพศสัมพันธ์ระหว่างชายและหญิงนั้นเป็นสิ่งที่ถูกต้อง
“อูซวง สิ่งที่เจ้ากังวลในตอนนี้มันจะไม่เกิดขึ้นอย่างแน่นอน ข้ามีกายา 9 หยางในตำนานและยิ่งไปกว่านั้นมันก็อยู่ในระดับสมบูรณ์ครั้งยิ่งใหญ่ เจ้าเป็นของขวัญที่สวรรค์ได้มอบให้แก่ข้าเพราะมีเพียงแค่เท่านั้นที่จะสามารถใกล้ชิดเจ้าได้แม้แต่เหล่าทวยเทพยังต้องอิจฉาค่า” ชิงสุ่ยยืนยันกับนางด้วยรอยยิ้ม
สายตาของนางที่มองไปยังชิงสุ่ยนั้นเต็มไปด้วยความตึงเครียด สีหน้าของหน้างดงามยิ่งนักในตอนนี้เมื่อนางได้เดินเข้ามาสวมกอดชิงสุ่ยอย่างแนบแน่น “จริงหรือ?”
“ข้าไม่ต้องการให้เจ้าอยู่เพียงลำพัง เจ้าคิดว่าข้าจะปล่อยให้เจ้าต้องอยู่ที่นี่อย่างโดดเดียวงั้นหรือ?” ชิงสุ่ยหัวเราะและจุมพิตลงไปยังจมูกที่ตรงสวยของนาง
……
เสื้อผ้าของเหวินเหรินอูซวงและชิงสุ่ยถูกถอดออกไปในพริบตา รูปร่างอันงดงามของนางปรากฏขึ้นตรงหน้าชิงสุ่ย ชิงสุ่ยจุมพิตไปที่ริมฝีปากของนางพร้อมกับค่อยๆดูดอย่างช้าๆในขณะที่มือของเขากำลังลูบไล้อยู่ที่หน้าอกของนางทั้ง 2 มือ
ความเย้ายวนที่อยู่ตรงหน้านี้ทำให้เลือดภายในร่างกายของเขาสูบฉีดอย่างรวดเร็ว กลิ่นหอมจางๆจากร่างกายของนางได้เข้ามาสู่จมูกของชิงสุ่ย เขาไม่อาจยับยั้งตนเองจากการลิ้มรสร่างกายของนางด้วยปากของเขาได้ขณะที่มือทั้ง 2 ข้างของเขาก็ยังคงเคลื่อนไหวอยู่เช่นกัน
……
ชิงสุ่ยส่งกระบองของเขาเข้าไปยังพื้นที่ที่ร้อนและเปียกยิ่งนัก มันร้อนอย่างยิ่งแต่ก็มีความรู้สึกของความเย็นจัดแทรกซึมเข้ามา ความรู้สึกที่กระปรี้กระเปร่าได้หลั่งไหลตามมาพร้อมกับความร้อนนั้นแต่ก็ไม่ได้รุนแรงมากเกินไป หากไม่ใช่เพราะกายา 9 หยางในตำนานของเขา เขาคิดว่าเขาอาจจะต้องตายไปในทันที แต่ในตอนนี้เกือบจะทั้งหมดของชิงสุ่ยต่างเข้าไปแล้ว หรือนี่จะเป็นต้นตอของเคล็ดอัคคีน้ำแข็งระดับสูง…?
ในตอนที่เขาทะลวงเข้าไปในร่างกายของนาง เคล็ดวิชาทวิไร้นามก็ถูกเปิดขึ้นด้วยตัวมันเอง ในเวลาเดียวกันชิงสุ่ยยังมีเหวินเหรินอูซวงที่สามารถใช้เคล็ดวิชาทวิไร้นามได้ เขาเคยสอนนางเมื่อนานมาแล้ว
ย่าห์!
ตามที่คาดเอาไว้ 1 ใน 12 เส้นลมปราณสวรรค์ได้รับการชำระล้างในตอนนี้!
เส้นลมปราณสวรรค์เส้นที่ 8 ได้รับการชำระล้าง…
เส้นลมปราณสวรรค์ 8 เส้นจาก 12 เส้นได้รับการชำระล้างแล้ว คลื่นพลังอันงดงามปะทุขึ้นภายในร่างกายของเขา มันบริสุทธิ์อย่างยิ่งและหลอมรวมเข้ากับร่างกายของเขาอย่างรวดเร็ว ไม่นานหลังจากนั้นคลื่นพลังอันบริสุทธิ์นี้ก็ปะทุขึ้นอีกครั้งและจากนั้นมันก็เข้าไปยังร่างกายของเหวินเหรินอูซวงตรงส่วนที่ร่างกายของพวกเขาทั้ง 2 คนกำลังเชื่อมต่อกันอยู่ ในช่วงกลางวันเขาได้ช่วยนางบำรุงร่างกายไว้แล้ว ครั้งนี้นางอยู่ในช่วงการเปลี่ยนแปลงที่ทำให้แผ่นดินต้องสะเทือน
ไม่นานหลังจากนั้นก็มีคลื่นพลังที่หลั่งไหลมาจากร่างกายของเหวินเหรินอูซวงเข้ามาสู่ร่างกายของเขา
……
เป็นเวลากว่า 2 ชั่วโมงที่ร่างกายของพวกเขาทั้ง 2 คนนั้นทรงพลังมากขึ้นเรื่อยๆ พลังอันบริสุทธิ์มากมายได้หลั่งไหลเข้ามาในร่างกายของทั้งคู่ มันเป็นเช่นนี้ไปเรื่อยๆจนกระทั่งพลังอันบริสุทธิ์นี้แยกออกเป็น 2 สายและหลอมรวมเข้ากับร่างกายของทั้ง 2 คน
ก่อนที่เหวินเหรินอูซวงจะได้ประหลาดใจชิงสุ่ยก็เริ่มเคลื่อนไหว ทั้งห้องนี้ก็เต็มไปด้วยเสียงร้องที่เย้ายวน
ทั้ง 2 ไม่ได้หยุดพักเลยจนเวลาเที่ยงคืนได้ผ่านไป เหวินเหรินอูซวงนอนอยู่บนอกของชิงสุ่ยด้วยท่าทีที่อ่อนระทวยในความสุขในขณะที่เฝ้ามองเขา
“สามีของข้า…” ใบหน้าของเหวินเหรินอูซวงแดงขึ้นทันทีเมื่อนางกล่าวออกมาด้วยความเขินอาย
“เจ้ารู้สึกดีหรือไม่? พึงพอใจหรือไม่?” มือของชิงสุ่ยกำลังโอบกอดที่ด้านหลังของเธอ พวกเขาทั้ง 2 คนต่างรู้สึกราวกับได้หลอมรวมเป็นคนๆเดียวกัน
“มันรู้สึกยอดเยี่ยมยิ่งนัก ซวงเอ๋อรู้สึกเพียงว่ามันเป็นสิ่งที่น่ารืนรมย์ยิ่งนัก ไม่ต้องสงสัยเลยว่าเหตุใดเจ้าจึงชอบทำเรื่องเช่นนี้กับเหล่าพี่สาว” เหวินเหรินอูซวงโน้มตัวไปกระซิบที่ข้างๆหูของชิงสุ่ย
หน้าอกของนางก็อยู่ตรงกับใบหน้าของชิงสุ่ย เขาไม่อาจหักห้ามใจของตนเองไม่ใช้ไปลิ้มรสมันได้ ในตอนที่เขาดูดมันเข้าไปร่างกายของเหวินเหรินอูซวงก็อ่อนยวบไปในทันที
……
เหวินเหรินอูซวงนั้นหลับไปอย่างรวดเร็วแต่ชิงสุ่ยไม่อาจหลับลงได้ เส้นลมปราณสวรรค์เส้นที่ 8 ของเขาได้รับการชำระล้าง เส้นลมปราณสวรรค์เส้นที่ 4 จากก่อนหน้านี้ได้มาถึงจุดเปลี่ยนที่คล้ายคลึงกับระดับขั้นแรกเริ่มและพลังของเขาก็เพิ่มขึ้นอย่างเห็นได้ชัด
เมื่อเส้นลมปราณสวรรค์เส้นที่ 8 ได้รับการชำระล้างไปในตอนนี้ พลังของเขาก็พัฒนาขึ้นทันทีและมากยิ่งกว่าตอนที่เส้นลมปราณสวรรค์เส้นที่ 4 ได้รับการชำระล้าง ด้วยเคล็ดวิชาทวิไร้นามและบางทีร่างกายของเหวินเหรินอูซวงและร่างกายหยิน พลังพื้นฐานของเขาได้เพิ่มขึ้นทันทีกว่า 2 สุริยา
ตอนนี้พลังพื้นฐานของเขามีมากกว่า 4 สุริยาแล้ว ในช่วงเวลานี้พลังของเขานั้นพัฒนาจากการฝึกฝนด้วยตนเองได้อย่างเชื่องช้าอย่างยิ่ง เขาไม่แน่ใจว่านี่เป็นผลของการได้ครอบครองเคล็ดวิชาทวิไร้นามมังกรไอยราเกล็ดทองคำหรือไม่ ไม่ว่ายังไงเขาก็รู้สึกเบื่อหน่ายกับมันเล็กน้อย การฝึกยุทธของเขาเป็นไปได้อย่างเชื่องช้าแต่หากพลังพื้นฐานของเขาได้เพิ่มขึ้นเพียงเล็กน้อยจะทำให้พลังทั้งหมดของเขาเพิ่มขึ้นมากมายด้วยเช่นกัน เพราะเขามีทั้งก้อนเมล็ดเจ็ดสี อาวุธวิญญาณ ซึ่งก็คือกระบี่ดารายุพฆาต เม็ดทองคำ เกราะอสูรสำแดง รูปแบบดาราจักร และลูกประคำอธิษฐานศักดิ์สิทธิ์ เมื่อเขาคิดถึงเรื่องนี้มันก็ถือว่ายุติธรรมดีเพราะเขานั้นเหมือนเป็นปีศาจในสายตาของคนอื่นๆ
เส้นลมปราณสวรรค์เส้นที่ 8… ชิงสุ่ยมีข้อสงสัยตอนนี้ว่าความสามารถนี้ไม่ได้จำกัดเฉพาะหญิงสาวที่อยู่ในภาพโฉมงามเท่านั้น เขามีหญิงสาว 6 คนที่อยู่ในภาพโฉมงาม เหวินเหรินอูซวง ชางห่าย หมิงเยวี่ย โม่ซุน ติ๊ชิง ห่าย ต่งชิง และอวี้ ลู่หยาน และเรื่องนี้ทำให้ชิงสุ่ยต้องรู้สึกงุนงงอย่างยิ่ง
อวี้ซูหนี่และมู่ชิงก็ได้ชำระล้างเส้นลมปราณสวรรค์ให้แก่เขาเช่นกันแต่เขาไม่อาจบอกได้ว่าพวกนางเป็นหญิงสาวที่อยู่ในภาพโฉมงามหรือไม่