บทที่ 1340 – ยาเม็ดเสริมสร้างเส้นลมปราณตูและเส้นลมปราณสวรรค์ สามารถใช้ได้ 2 ครั้งหรือ? ประมาท
ถานท่าย หยวนต้องการที่จะจากไปแต่นางก็ถูกชิงสุ่ยรั้งตัวเอาไว้ เมื่อนางร้องออกมานางก็ได้เข้าสู้อ้อมอกของชิงสุ่ย
เขาไม่รู้ว่าถานท่าย หยวนอยากจะหนีออกไปจริงๆหรือนางเพียงรักนวลสงวนตัวในตอนนี้ ในช่วงเวลานี้อี่หวง กู่หวู๋และอวี้ ลู่หยานได้อกไปแล้ว ถานท่าย หยวนมองไปยังชิงสุ่ยและยังคงเงียบ นางมองไปยังชิงสุ่ยด้วยความดื้อรั้น
ชิงสุ่ยนั้นไม่ได้ข่มขู่นางแต่อย่างใด เขากำลังหลงใหลผิวพรรณที่ขาวดั่งหยกของนาง ผิวที่เรียบเนียนและกระจ่างใสของนางนั้นมีกลิ่นหอมจางๆที่ทำให้รู้สึกอยากจะกัดนางออกมาจนไม่อาจต้านทานได้
ถานท่าย หยวนดิ้นหนีทันทีขณะที่ชิงสุ่ยเอนตัวไปตามนา “อย่ายื่นลิ้นของเจ้ามา มันน่ารังเกียจ!”
ชิงสุ่ยยอมถอยกลับไปและเลียริมฝีปากของนาง “หยวนเอ๋อ… เจ้าเกลียดความสกปรกจริงๆหรือเพียงเย็นชาต่อข้า?”
“ไม่ใช่ทั้งคู่…!” ถานท่าย หยวนยื่นมือออกไปเขกศีรษะของชิงสุ่ย
“แต่เจ้าเพิ่งบอกว่าเจ้ารังเกลียดเมื่อครู่นี้ หรือว่าเจ้าไม่สามารถตั้งครรภ์ได้? มาเถอะขอข้าจับชีพจรหน่อย” ชิงสุ่ยจับมือของนางและโอบเอวพร้อมหัวเราะออกมา
“พอแล้ว ชิงสุ่ย หยุดทำตัวโง่เง่าซะที” ถานท่าย หยวนบุ้ยปาก
“เช่นนั้นเจ้ารู้สึกรังเกลียดอีกหรือไม่?” ชิงสุ่ยยิ้มและถามนาง
“ไม่อีกแล้ว ชิงสุ่ย เราค่อยคุยกันคืนนี้ ตกลงไหม?” ถานท่าย หยวนมองไปยังชิงสุ่ยด้วยความกังวล
“นั่นข้าก็คิดไว้เช่นกัน หยวนเอ๋อ เจ้ากำลังคิดจะทำอย่างอื่นไหม?” ชิงสุ่ยหยอกล้อนางต่อไป
“จะ เจ้าจอมวายร้าย คนบ้า!” ถานท่าย หยวนทั้งอายและโกรธในเวลาเดียวกัน
“มาเถอะ เรามาคุยกันเรื่องเป้าหมายชีวิตของเราบนเตียง” ชิงสุ่ยอุ้มนางขึ้นและตรงไปยังห้องนอน
นางมีห้องนอนอยู่ที่นี่และแน่นอนว่าชิงสุ่ยก็เพิ่มห้องนอนของทุกๆคนเอาไว้ที่นี่เช่นกัน อาคารไม้ไผ่ที่ตั้งอยู่ที่เทือกเขาปู๋โถวนั้นดูศักดิ์สิทธิ์ที่สุดบนดินแดนแห่งนี้จริงๆรวมถึงห้องนอนสำหรับมนุษย์ที่อยู่ที่นี่ด้วยเช่นกัน เขาสงสัยว่าคนอื่นๆจะคิดเช่นไรเมื่อหญิงสาวทั้ง 3 คนที่ดูศักดิ์สิทธิ์ที่สุดในเทือกเขาปู๋โถวต่างก็ตกเป็นของชายเพียงคนเดียว
“ชิงสุ่ย อย่าสัมผัสข้า เจ้าสามารถสัมผัสข้าได้ก็ต่อเมื่อเจ้าทำให้ข้าตกหลุมรักเจ้าสุดหัวใจเท่านั้น” ถานท่าย หยวนไม่ได้ขัดขืนในอ้อมแขนของชิงสุ่ยแต่กลับกันนางได้โอบรอบคอของเขาเอาไว้
ชิงสุ่ยก็ไม่ได้หยุดนิ่งเช่นกัน “อย่ากังวลไปเลย ตราบใดที่เจ้าไม่อนุญาตให้ข้าใส่เข้าไป ข้าก็จะไม่ทำ เช่นนี้ดีหรือไม่?”
ถานท่าย หยวนตกตะลึงไปกับคำพูดของเขา พวกเขาหยาบคายและป่าเถื่อนแต่ก็ยังมีผลต่อนางอย่างมาก นางไม่อาจหักห้ามใจตนเองไม่ให้กัดไปที่ไหล่ของชิงสุ่ยได้
ถานท่าย หยวนนั้นไม่ได้หลงรักชิงสุ่ย กล่าวให้ถูกต้องคือนางไม่ได้รักเขาอย่างสนิทใจตอนนี้ หญิงสาวแบบนางย่อมเลือกที่จะไล่ตามความสมบูรณ์แบบและย่อมไม่เต็มใจที่จะอุทิศตัวให้กับชายคนหนึ่งตราบเท่าที่นางไม่ได้รักเขาจริงๆ หากชิงสุ่ยนั้นบังคับนางจริงๆเช่นนั้นนางก็คงไม่อาจต้านทานเขาเอาไว้ได้ แต่มันย่อมทำให้หัวใจของนางต้องเจ็บช้ำ
แม้ว่าชิงสุ่ยจะไม่ใช่ผู้เชี่ยวชาญด้านความรักแต่เขาก็ก็ยังคงเข้าใจหญิงสาวของเขา นอกเหนือจากนั้นด้วยความที่เขามีชีวิตอยู่มาถึง 2 ครั้งทำให้เขาเข้าใจธรรมชาติของมนุษย์ได้อย่างแท้จริง เขาได้บอกอี่หวง กู่หวู๋ไว้ก่อนหน้านี้ว่าเขาจะไม่กลืนกินถานท่าย หยวนในคืนนี้ ความจริงแล้วเขาก็ต้องการมันจริงๆเมื่อถึงเวลาที่เหมาะสมเท่านั้น
สำหรับอีเย่ เจี้ยนเก้อ ชิงสุ่ยได้สาบานว่าเขาจะทำให้นางเปลื้องผ้าต่อหน้าเขาและทำให้นางต้องเป็นคนที่ขึ้นขี่เขา…
แต่ชิงสุ่ยไม่อยากที่จะยอมรับว่าแม้ว่าเขาจะเคยพูดออกไปอย่างกล้าหาญเช่นนั้น แต่เขาคิดว่ามันไม่น่าเป็นไปได้มากนัก ชิงสุ่ยย่อมไม่เชื่อเช่นกันแม้ว่าจะมีหญิงสาวคนอื่นๆบอกเช่นนี้ แม้ว่านี่จะไม่ใช่เรื่องจริงจังระหว่างชายและหญิง ชิงสุ่ยก็จะพยายามให้ถึงที่สุดเพราะนั่นคือสิ่งที่เขาใฝ่ฝันหามากที่สุด…
ห้องนอนนี้ไม่ได้มีขนาดใหญ่มากเกินไป แต่ก็ดูอบอุ่น สบาย เตียงไม้ไผ่ถูกปกคลุมด้วยแผ่นเตียงหยกสีเขียวที่บางมากแต่มันก็ให้ความรู้สึกที่สบายอย่างยิ่ง มันดูงดงามอย่างยิ่งเมื่ออยู่ด้วยกันกับไม้ไผ่สีเขียวรอบข้าง
เตียงไม้ไผ่นี้ไม่ได้สูงเกินไปนักมันสูงในระดับหัวเข่าของเขา มันเป็นเตียงขนาดเล็กที่ประณีตบรรจง แม้ว่ามันจะแคบเกินไปสำหรับนอน 2 คนแต่ก็กว้างเกินพอสำหรับนอนคนเดียว ชิงสุ่ยมองไปยังเตียงไม้ไผ่นี้ “มันจะพังเพราะน้ำหนักของเรา 2 คนรึเปล่า?”
“ข้าไม่อนุญาตให้เจ้าขึ้นมาบนเตียงของข้า…”
ใบหน้าที่น่ารักของถานท่าย หยวนแดงขึ้นในทันที นางมีดวงตาคู่สวยซึ่งดูแปลกตาและดูสง่างาม มันยังดูเย้ายวนอย่างยิ่ง ในสายตาของชิงสุ่ยตอนนี้ความเย้ายวนของนางนั้นรุนแรงอย่างยิ่ง
ชิงสุ่ยอุ้มนางขึ้นและนั่งลงไปบนเตียง เตียงนี้ไม่ได้พังลงมาอย่างที่เขาคาดคิดไว้ มันเพียงโก่งตัวเล็กน้อยโดยไม่ได้ส่งเสียงออกมาแต่อย่างใด
ไม่ต้องสงสัยเลยนี่เป็นเตียงที่ทำมาจากไม้ไผ่จากทะเลทิศทักษิณาที่ยืดหยุ่นแต่ก็แข็งแรงอย่างยิ่ง แม้จะรับน้ำหนักของคน 4 คนมันก็เพียงแค่โก่งตัวเท่านั้น นอกจากนี้ชิงสุ่ยเคยมีประสบการณ์เช่นนี้แล้วกับเตียงของอวี้ ลู่หยาน เขาจึงเพียงเย้าหยอกถานท่าย หยวนเท่านั้น
“หยวนเอ๋อ เตียงนี้ดียิ่งนัก มันแค่โก่งตัวเท่านั้น โอ้ ใช่แล้ว หยวนเอ๋อ จงบอกสามีของเจ้ามาว่าจะทำให้เจ้าพึงพอใจได้อย่างไร?” ชิงสุ่ยทับร่างกายของนางเอาไว้ หญิงสาวที่ทะนงในตนเองแบบนางนั้นเขาต้องกระตุ้นอย่างหนักเพื่อที่จะนำด้านลามกของนางอกมาได้
“เจ้าเป็นคนเดียวที่มีความต้องการ…”
“ข้าจะทำและข้าก็รู้สึกถึงมันได้ในตอนนี้ บอกข้าหน่อย ว่าข้าจะทำเรื่องนี้ได้เช่นไร?” ชิงสุ่ยยิ้มและค่อยๆวางมือของเขาลงบนศีรษะของนาง
“อย่าลืมสิ่งที่เจ้าได้พูดไปก่อนหน้านี้” ถานท่าย หยวนผลักไปที่หน้าอกของชิงสุ่ยด้วยมือทั้งสองของนาง
“แต่นอน ข้าจะยังไม่กลืนกินเจ้า แต่ข้าก็ยังสามารถทำเรื่องอื่นกับเจ้าได้”
ชิงสุ่ยยิ้มขณะที่มือข้างหนึ่งของเขาเลื่อนไปที่เอวของนางช้าๆ เขาลูบไล้ที่ตรงนั้นของนางเบาๆทำให้ถานท่าย หยวนต้องปิดตาของนางลงและสั่นสะท้าน
บางทีด้วยคำพูดของชิงสุ่ยก่อนหน้านี้จึงทำให้นางสงบลง ดวงตาของนางปิดสนิทและมือทั้ง 2 ข้างของนางได้คลายออก
ชิงสุ่ยยิ้มจางนั้นก็จูบลงไปที่ริมฝีปากของนาง มือทั้ง 2 ข้างของเขาลูบไล้ไปที่เอวและแผ่นหลังของนาง ก่อนที่เขาจะตระหนักได้มือทั้ง 2 ข้างของเขาก็เข้าไปอยู่ใต้ร่มผ้าของนางแล้ว
ตอนที่มือของเขาได้สัมผัสกับทรวงอกอันกลมกลึงของนาง ลิ้มของเขาก็ทะลวงผ่านขากรรไกรของนางเข้าไปได้และสัมผัสกับลิ้นของนางอย่างนุ่มนวล
ถานท่าย หยวนไม่ได้คิดอะไรเมื่อนางเปิดตาขึ้นแต่ใบหน้าของนางนั้นแดงฉานอย่างยิ่ง
ชิงสุ่ยค่อยๆถอดเสื้อผ้าของนางออกช้าๆ นางไม่ได้ต่อต้านแต่อย่างใด นางรู้ดีว่าเขาต้องการจะทำอะไร นั่นคือฉากที่คุ้นเคยที่ตราตรึงอยู่ในจิตใจของนาง
เมื่อชิงสุ่ยซุกศีรษะของเขาลงไประหว่างความกลมนุ่มของนาง ร่างกายของนางก็สั่นขึ้นขณะที่เขาดูดมัน มือของนางกอดศีรษะของชิงสุ่ยเอาไว้อย่างแน่นหนา
……
“หยวนเอ๋อ เจ้าเกือบทำข้าหายใจไม่ออกตาย” ชิงสุ่ยกำลังกอดถานท่าย หยวน ร่างกายครึ่งบนของพวกเขานั้นถูฏถอดเสื้อผ้าออกไป ถานท่าย หยวนไม่อนุญาตให้เขาถอดเสื้อผ้าของนางมากกว่านี้และชิงสุ่ยก็ไม่อยากที่จะมีปัญหาดังนั้นเขาจึงทำตามเช่นนั้น
“เจ้ายังกล้าที่จะพูดเช่นนั้น…”
เมื่อถานท่าย หยวนนึกย้อนกลับไปก่อนหน้านี้นางไม่รู้ว่าเหตุใดนางจึงโอบรอบคอของเขาเอาไว้ ราวกับว่านางต้องการให้เขาเข้ามายังร่างกายของนางด้วยพลังทั้งหมดของนาง นั่นไม่ใช่สิ่งที่ดีเลย… เจ้าจอมวายร้ายนั่นกำลังเย้าหยอกนาง
“เอาหละ เอาหละ ข้าจะไม่พูดอะไรอีก นั่นช่างยอดเยี่ยมยิ่งนัก!”
ถานท่าย หยวนพูดไม่ออก
ในวันถัดมาชิงสุ่ยได้มอบยาเม็ดสวรรค์หยางระดับที่ 2 และยาเม็ดสวรรค์หยางระดับที่ 3 ให้แก่หญิงสาวทั้ง 3 คน หลังจากที่ใช้ยาเม็ดสวรรค์หยางระดับที่ 2 และยาเม็ดสวรรค์หยางระดับที่ 3 ไปอย่างละ 2 เม็ด พลังของอี่หวง กู่หวู๋ก็เพิ่มขึ้นถึง 16 สุริยา นี่ไม่ได้มากหรือน้อยเกินไป ยาเม็ดสวรรค์หยางนั้นช่วยเสริมสร้างร่างกายโดยตรงและผลประโยชน์จากเรื่องนั้นก็ไม่ได้ด้วยไปกว่าการช่วยเพิ่มพลังขึ้นเลย
ชิงสุ่ยก็ใช้ยานี้ไป 2 เม็ดเช่นกัน น่าเสียดายที่ยานี้ไม่ได้เพิ่มพลังพื้นฐานให้แก่เขา แม้ว่ามันจะให้ผลเพียงเล็กน้อยแต่พลังของเขาก็ยังคงเหนือกว่าอี่หวง กู่หวู๋
แต่มันต่างออกไปสำหรับถานท่าย หยวนและอวี้ ลู่หยาน พลังของพวกนางนั้นเพิ่มขึ้นเกือบจะเป็น 2 เท่า นี่คือสิ่งที่ทรงพลังของยาเม็ดสวรรค์หยาง การเพิ่มขึ้นของพลังจำนวนมากนี้ไม่เพียงแต่สร้างความมั่นคงให้แก่รากฐานแต่ยาเม็ดสวรรค์หยางยังสามารถส่งผลต่อการสร้งรากฐานและการพัฒนาของร่างกายและกระดูก
ชิงสุ่ยรู้สึกว่าร่างกายและกระดูกได้รับการพัฒนาให้ดียิ่งขึ้น บางทีอาจเป็นเพราะกายาทองคำ 9 หยางของเขา
เขานึกถึงยาเม็ดเสริมสร้างเส้นลมปราณสวรรค์และยาเม็ดเสริมสร้างเส้นลมปราณตูที่เขาได้เตรียมเอาไว้สำหรับพวกนาง ยา 2 ชนิดนี้ก็เสริมความแข็งแกร่งของร่างกายให้แก่เขาเช่นกัน จากนั้นเขาก็นึกถึงยาเม็ดตำรับคู่และเริ่มคิดอะไรบางอย่าง หรือเขาจะสามารถใช้มันได้อีกครั้ง?
ก่อนหน้านี้ชิงสุ่ยไม่เคยคิดที่จะใช้ยาประเภทนี้ได้ 2 ครั้ง ตอนนี้เมื่อเขาคิดเช่นนี้มันน่าจะได้ผล มันสามารถช่วยเพิ่มความแข็งแกร่งได้ดังนั้นมันน่าจะมีขีดจำกัดอยู่ มันอาจจะเพิ่มความแข็งแกร่งได้ 2 เท่าหรือแม้แต่ 3 เท่า แน่นอนว่านั่นย่อมต้องใช้กับยาเม็ดตำรับสาม
ชิงสุ่ยไม่ได้เร่งรีบแต่อย่างใดในเรื่องนี้ นี่จะเป็นครั้งที่ 2 ที่เขาได้ใช่มันดังนั้นเขาจึงให้หญิงสาวทั้ง 3 คนได้ใช้ยานี้ก่อน ยาทั้งสองชนิดนี้ถือเป็นยาที่ดีที่สุดในการเสริมสร้างร่างกายดังนั้นเขาจึงให้พวกนางได้ใช้มันก่อน
เส้นลมปราณสวรรค์และเส้นลมปราณตูนั้นต่างก็เป็นเส้นลมปราณที่สำคัญที่สุดในร่างกายของมนุษย์ มันทำให้หลอดเลือดในร่างกายแข็งแกร่งมากยิ่งขึ้น คนแรกที่ได้ใช้ยาเหล่านี้นั้นคืออี่หวง กู่หวู๋ สิ่งที่ทำให้ชิงสุ่ยต้องตกตะลึงนั้นคือเขาไม่แน่ใจว่าจะเป็นเพราะความแข็งแกร่งหรือเป็นเพราะพลังของอี่หวง กู่หวู๋นัน้มากยิ่งกว่าตอนที่เขาได้ใช้มันครั้งแรกแต่พลังของอี่หวง กู่หวู๋นั้นเพิ่มขึ้นมากกว่า 1 เท่า ในตอนนี้นางมีพลังเกือบจะถึง 70,000 สุริยาแล้ว ทั้งชิงสุ่ยและอี่หวง กู่หวู๋ต่างก็ตกตะลึง
นี่คือยาที่ส่งผลเป็นพิเศษต่อสภาพของร่างกาย พลังที่เพิ่มขึ้นนั้นจะแตกต่างกันไปสำหรับแต่ละบุคคล เพราะมันไม่ได้เพิ่มพลังเป็นค่าคงที่ดังนั้นพลังของผู้ใช้นั้นอาจเพิ่มขึ้นได้ตั้งแต่ 50% ถึง 300% นี่คือผลลัพธ์หลังจากได้เสริมความแข็งแกร่งของเส้นลมปราณ แน่นอนว่ามันอาจจะน้อยกว่า 50% ก็ได้เช่นกันเพราะมันขึ้นอยู่กับร่างกายของผู้ใช้และพรสวรรค์ที่มีมาแต่กำเนิด ผู้ที่มีพรสวรรค์แต่กำเนิดนั้นจะสามารถกักเก็บยานี้เอาไว้ในร่างกายได้ นั่นหมายความว่าหากผู้ใช้ที่อ่อนแอเกินกว่าที่จะดูดซึมยานี้ได้มันจะค่อยๆละลายเข้าไปในร่างกายและเพิ่มความเร็วในการฝีกยุทธในอนาคตได้ ผลลัพธ์ก็เหมือนกับการใช้ยาระดับสูง
ผู้ที่ใช้มันถัดไปนั้นคือถานท่าย หยวนและอวี้ ลู่หยาน ชิงสุ่ยก็ต้องตกตะลึงอีกครั้งกับพลังที่เพิ่มขึ้นของหญิงสาวทั้ง 2 คนนี้เพราะพลังของพวกนางนั้นเพิ่มขึ้นเกือบ 2 เท่า… แต่แน่นอนว่า 2 เท่าของพวกนางนั้นเป็นเพียง 10 สุริยาเท่านั้นไม่อาจเทียบกับอี่หวง กู่หวู๋ได้เลย แต่ผลของยาที่กักเก็บอยู่ภายในร่างกายของพวกนางนั้นมีมากกว่าอี่หวง กู่หวู๋ แม้ว่าพวกนางจะไม่ได้ฝึกยุทธในอนาคตแต่พลังของพวกนางก็จะยังคงเพิ่มขึ้นอย่างสม่ำเสมอจนกว่าผลของยานี้ภายในร่างกายของพวกนางจะหมดไป ผลลัพธ์ของพวกนางทั้ง 2 คนนั้นดียิ่งกว่าตอนที่ชิงสุ่ยกินเข้าไปก่อนหน้านี้เมื่อเทียบกันแล้ว
ด้วยยาเม็ดตำรับคู่ ชิงสุ่ยคิดว่ามันอาจจะดีขึ้นในครั้งนี้ เขาหยุดลังเลและลองใช้มันด้วยตนเอง ตอนนี้ร่างหายของพวกนางไม่อาจรับยานี้ได้อีกต่อไป อี่หวง กู่หวู๋มีผลลัพธ์ที่น่าพอใจมากที่สุด พลังของนางเกือบจะไปถึง 70,000 สุริยา หากนางใช้พลังของพยัคฆ์ขาวแห่งรูปแบบพยัคฆ์มันย่อมเกือบจะถึง 140,000 สุริยา
ชิงสุ่ยคิดว่าเขาน่าจะยังเหนือกว่านาง พลังของเขาในการต่อสู้น่าจะอยู่ที่ประมาณ 150,000 สุริยา
เขากินยาเม็ดตำรับคู่และยาเม็ดเสริมสร้างเส้นลมปราณสวรรค์ลงไปในตอนนี้
เขาลังเลอยู่ครู่หนึ่งก่อนที่จะกินยาเม็ดตำรับคู่และยาเม็ดเสริมสร้างเส้นลมปราณตูตามลงไป
ไม่นานนักคลื่นพลังอันไร้ขีดจำกัดก็ปะทุขึ้นภายในเส้นลมปราณของเขา ชิงสุ่ยรู้สึกเสียใจในทันที การกระทำของเขาก่อนหน้านี้เป็นสิ่งที่ประมาทเกินไป