Ancient Strengthening Technique เทพอสูร บรรพกาล – ตอนที่ 1355

ตอนที่ 1355

บทที่1355 – รักษาได้หรือไม่?

 

นี่ก็ผ่านมาหลายปีแล้ว ที่เขาป่วยด้วยโรคนี้ เขาไม่รู้ว่าในทุกๆวันนี้เขานั้นอยู่รอดมาได้ยัง อย่างไรก็ตามเขาได้กล่าวออกมาในตอนนี้ว่า “ท่านบรรพบุรุษลืมมันไปเถอะ ไม่มีใครที่สามารถรักษาข้าได้”

 

เสียงของเทียนฮี่ เรินโม่ นั้นดูอ่อนแอย่างมาก นอกจากนี้ยังมีความขมขื่นอยู่ในน้ำเสียงของเขา มีหมอมากมายกว่า1หมื่นคนที่เขามารักษาเขา แต่ก็ไม่มีใครเลยที่สามารถรักษาเขาได้

 

“ตราบเท่าที่มีความหวังเจ้าไม่ควรยอมแพ้ หรือเจ้ายอมรับสิ่งที่เป็นอยู่ในตอนนี้ได้แล้ว และเจ้าไม่ต้องการกลับมาเป็นเช่นดังเก่าอย่างนั้นรึ?”

 

“ป่าว ข้าไม่เคยยอมแพ้ เพียงแค่ตอนนี้ข้าต้องยอมรับความเป็นจริงเท่านั้น”เทียนฮี่เรินโม่กล่าวออกมาอย่างผิดหวัง

 

เป็นเรื่องยากที่ผู้ชายจะยอมรับความพ่ายแพ้  โดยเฉพาะคนอย่างเทียนฮี่ เรินโม่

 

“ในเมื่อเจ้าได้พยายามทดลองมาหลายครั้งแล้ว ทำไมเจ้าไม่ลองดูอีกสักครั้งละ นี่คือหมอแห่งปาฏิหาริย์ จากหอคอยจักรพรรดิ เจ้าหน้าจะลองดูอีกสักครั้ง”ชายชรากล่าวออกมา

 

“ก็ได้ข้าจะเชื่อท่านบรรพบุรุษอีกสักครั้ง แม้ว่าข้าจะอายุเยอะแล้ว ข้านั้นยังทำให้ท่านเป็นกังวลอีกข้าขอโทษจริงๆ”เทียนนฮี่เรินกล่าวอย่างขมขื่น

 

“เจ้าเด็กโง่ เจ้ารู้ไหมว่าทำไม ข้าถึงตั้งชื่อเจ้าว่าเรินโม่?”

 

“ไม่ ??”เทียนฮี่เรินโม่ส่ายหัวและกล่าว

 

“เพราะเจ้านั้นมีหัวใจที่แสนบริสุทธิ์ยังไงละ มันจึงทำให้เจ้านั้นต้องพบเจอกับชะตากรรมที่แสนลำบาก และยากเย็นกว่าคนอื่นหลายเท่า เจ้าจะเป็นที่รักและที่ชังของผู้คนมากมาย นอกจากนี้เจ้านั้นยังต้องแบบรับตระกูลเทียนฮี่ต่อไปในอนาคต”ชายชรากล่าออกมาอย่างหดหู่

 

“ข้าขอโทษ และต้องรบกวนท่านหมอแล้ว”เทียนฮี่ เรินโม่กล่าวออกมากับชิงสุ่ยและหยวนสู่

 

“อย่ากล่าวเช่นนั้นเลยหากข้ารักษาท่านได้ ข้าก็จะได้รับรางวัลเช่นเดียวกัน ท่านไม่ต้องนอบน้อมอะไรกับข้ามากนัก”ชิงสุ่ยกล่าวด้วยรอยยิ้ม

 

ชิงสุ่ยรู้ดีว่าชายคนนี้ไม่ได้หวังอะไรในตัวของเขามากนัก เพราะเขาและหยวนสู่นั้นยังดูเด็กอย่างมาก นอกจากนี้นั้นไม่มีใครรู้อาการของเขาดีเท่ากับตัวของเขา เส้นลมปราณที่ถูกทำลายลงไปนั้นเป็นสิ่งร้ายแรงอย่างมาก มันนั้นจะส่งผลโดยตรงต่อตันเถียนของพวกเขา มันเป็นเรื่องแปลกมากที่เขานั้นยังมีชีวิตอยู่ได้ในตอนนี้

 

หลังจากนั้นกลุ่มของชายชราได้เดินนำพวกเขาไปที่ห้องนั่งเล่น  และปล่อยให้ที่ชิงสุ่ยตรวจชีพจรของเทียนฮี่ เรินโม่ ซึ่งเป็นสิ่งที่ไม่มีหมอคนไหนทำได้  ขณะนี้ชิงสุ่ยใช้เวลาสักพักก่อนที่จะยกมือขึ้นมา

 

“ท่านหมอชิง เป็นอย่างไรบ้าง”

 

เมื่อเห็นชิงสุ่ยยกมือขึ้นชายชราได้กล่าวขึ้นมา แม้เสียงของเขาจะเต็มไปด้วยความสงบ แต่มันก็เต็มไปด้วยความกังวลอย่างมาก

 

“มันสามารถรักษาได้ แต่…”ชิงสุ่ยกล่าวออกมาขณะที่โก่งคิ้วขึ้น

 

“แต่?”

 

“แต่ ต้องใช้เวลาสักพัก!”ชิงสุ่ยกล่าวออกมาสักพัก

 

“ใช้เวลาสักพัก?แล้วมันจะนานขนาดไหน?นี่เจ้าพยายามจะลากมันไปเรื่อยๆ โดยที่เจ้าไม่สามารถรักษามันได้ใช่รึไม่? ก่อนหน้านี้มีคนมากมายที่ทำตัวเช่นเดียวกับเจ้า”

 

ชายชราที่ตัวสูงใหญ่กล่าวออกมา ด้วยน้ำเสียงที่ไม่พึงพอใจ

 

ชิงสุ่ยหันไปมองหน้าของเขา ด้วยความไม่สนใจ ราวกับว่าไม่มีอะไรเกิดขึ้น

 

“หยานซู เจ้าห้ามหยาบคาย” ชายชรากล่าวออกมาขณะมองที่ชิงสุ่ย “ข้าขอโทษแทนเขาด้วย มีผู้คนมากมายที่เขามาหลอกพวกเราด้วยวิธีนี้ หวังว่าท่านหมอจะไม่ถือสา”

 

ชิงสุ่ยส่ายหน้าและกล่าว “ที่ท่านอาวุโสพูดนั้นถูกแล้ว คงจะเป็นเรื่องยากที่จะเชื่อเด็กเช่นข้า แต่ข้ารับประกันว่าอาจของเขาจะหายดีหลังจากนี้หนึ่งเดือน ด้วยการรักษาของข้า ข้าสงสัยว่าเวลาประมาณนี้พวกท่านพอที่จะยอมรับได้หรอไม่?”

 

“หนึ่งเดือน? ”ชายชรากล่าวด้วยความตกใจ เช่นเดียวกับคนอื่นๆที่อยู่รอบๆตัวของเขา

 

“มันนั้นนานเกินไปรึ? แล้วถ้าเป็น 25วันละ? ”เมื่อได้ยินคำพูดของชายชรา ชิงสุ่ยรีบกล่าวออกมาในทันที

 

“ไม่ ไม่ใช่อย่างนั้น มันเร็วเกินไป?”เมื่อได้ยินสิ่งที่ชิงสุ่ยกล่าวชายชรารีบกล่าวกลับมาในทันที

 

“ถ้านั้นข้าขอเวลาหนึ่งเดือน แต่ข้านั้นสามารถอยู่ที่นี่ได้เพียงหนึ่งสัปดาห์เท่านั้น หลังจากนั้นข้าต้องกลับไปที่หอคอยจักรพรรดิแล้ว จะเป็นการสะดวกหรือไม่ถ้าตอนนั้น เขาจะถูกย้ายตัวไปรักษาต่อทีหอคอยจักรพรรดิ”ชิงสุ่ยกล่าวออกมาด้วยท่าทางที่จริงๆจัง

 

“มันไม่สำคัญว่า เราจะรักษากันที่ไหน เพียงแค่รักษาเขาได้ข้ายินดีทุกอย่าง ”ชายชรากล่าวออกมา นี่เป็นครั้งแรกที่เขาได้ยินว่ามีคนที่สามารถรักษาโรคนี้ได้ภายในเวลาหนึ่งเดือน

 

“เดี๋ยวข้าจะรักษาเขาในขั้นต้นก่อน หลักจากนี้พวกท่านจะไม่รู้ว่าสิ่งที่ข้ากล่าวออกมานั้นเป็นจริงได้หรือไม่?”

 

ขณะที่ชิงสุ่ยพา เทียนฮี่เรินโม่ตรงเข้าไปในห้อง

 

…………………….

 

ความเร็วในรักษาของชิงสุ่ยนั้นรวดเร็วอย่างมาก ในตอนนี้ตันเถียนและเส้นลมปราณของเทียนฮี่ เรินโม่นั้นค่อยๆฟื้นฟูขึ้นอย่างเร็วน้อย และเช่นเดียวกันด้วยความแข็งแกร่งที่เทียนฮี่ เรินโม่มีในอดีตทำให้เขาสามารถฟื้นตัวได้เร็วกล่าวที่ชิงสุ่ยคาดการณ์ไว้มาก แม้ว่าเขาจะสามารถเดินลมปราณเพื่อรักษาตัวเองได้ แต่เขานั้นยังต้องพึ่งปราณของชิงสุ่ยในการโคจรปราณรอบร่างๆ

 

ในตอนนี้ขณะที่ชิงสุ่ยดึงเข็มออกมา เรินโม่รู้สึกประหลาดใจอย่างมาก เขามองไปทิ่ชิงสุ่ยด้วยสายตาแปลกประหลาด กี่ปีมาแล้วที่เขานั้นต้องทนกินยา กี่ปี่มาแล้วที่เขานั้นได้ใช้ของวิเศษมากมายในการรักษา แต่มันก็ไม่เคยช่วยอะไรเขาได้เลย

 

นอกจากนี้ยังมีสมุนไพรแห่งคนตาย ที่เขานั้นเคยได้ทดลองกับตัวถึงแม้ว่าสมุนไพรแห่งคนตายจะเป็นสิ่งที่หายากอย่างมากและเป็นสิ่งที่มีค่าเทียบกับเมืองทั้งเมืองก็มิอาจที่จะช่วยอะไรเขาได้ อาจเป็นเพราเส้นลมปราณของเขานั้นได้รับบาดเจ็บอย่างแสนสาหัสจึงไม่สามารถดูดซับมันได้อย่างงเต็มที่

 

ในขณะนี้ชิงสุ่ยได้เดินออกไปข้านอก ในขณะที่กลุ่มของชายชราได้รุกเขามาหาเขาและกล่าว

 

“ท่านหมอตกลงว่ามันเป็นอย่างไรบ้าง ”

 

“ท่านสามารถรักษาเขาได้จริงๆใช่รึไม่?”

 

….

 

ในตอนนั้นเองชิงสุ่ยไม่ได้กล่าวอะไรออกมา นอกจากยิ้มเล็กน้อย

 

ในตอนนั้นเองเทียนฮี่เรินโม่ได้เดินออกมาจากห้อง และกล่าว “เขานั้นเป็นหมอแห่งปาฏิหาริย์จริงๆ ในตอนนี้ข้าคิดว่าอาการของข้าสามารถหายขาดได้ในหนึ่งเดือน”เที่ยนฮี่ เรินโม่กล่าวออกมาอย่างมีความสุข ในตอนนี้คงไม่มีใครแล้วที่มีความสุขมากว่าตัวของเขา

 

“เยี่ยม นี่มันจะเยี่ยมเกินไปแล้ว!”

 

“นี่เป็นเรื่องใหญ่ รับไปเตรียมงานเลี้ยงเร็ว ท่านหมอชิงเป็นหมอแห่งปาฏิหาริย์จริงๆด้วย ข้าต้องขอโทษ ในสิ่งที่ข้าทำไปในก่อนหน้าจริงๆ หวังว่าท่านจะไม่ถือโทษโกรธข้า”เทียนฮี่ หยานซู กล่าวออกมาด้วยความเขินอาย

 

“ไม่เป็นไร ข้าเข้าใจดีว่าท่านเป็นห่วงอาการของพี่เรินโม่”

 

ในตอนนี้ชิงสุ่ย ได้เดินออกไปและพูดคุยกับเหล่าชายชราอย่างสนุกสนาน เช่นเดียวกับหยวนสู่ที่เดินตามชิงสุ่ยออกมาโดยไม่กล่าวอะไรสักคำ

 

ในตอนนี้ชายชราเชื่องแล้วว่า ชิงสุ่ยนั้นเป็นหมอแห่งปฏิหาริย์จริง ด้วยความสามารถที่เขามีจะทำให้ผู้คนมากมายนั้นยอมติดตามเขา แม้ว่าพวกเขาจะเป็นคนที่แข็งแกร่งขนาดไหนก็ตาม  ด้วยความสามารถที่สามารถควบคุมชีวิตและความตายได้ เขานั้นจะต้องการเป็นตัวตนที่ยิ่งใหญ่ในโลกใบนี้ในอนาคตอย่างแน่นอน

 

ในตอนนี้งานเลี้ยงนั้นไม่ได้มีผู้คนมากมายนัก แต่ถึงอย่างไรถูกคนที่มาร่วมงานเลี้ยงแห่งนี้นั้นเป็นบุคคลสำคัญทั้งสิ้น แม้แต่ท่านบรรพบุรุษก็มาเข้าร่วมงานเลี้ยงในครั้งนี้  ในขณะนี่นอกจากนี้เขานั้นยังสามารถสัมผัสความแข็งแกร่งของชิงสุ่ยได้อีกด้วย ด้วยความสามารถที่ไกลเคียงกับเทียนฮี่เรินโม่ และวิชาการแพทย์ที่แสนอัศจรรย์ รวมถึงอายุที่ยังไม่มากนัก ทำให้เขารู้สึกหวาดกลัวชิงุส่ยด้วยใจจริง

 

ตอนนี้เขารู้ดีว่าชิงสุ่ยนั้นร้ายกาจขนาดไหน แม้ตอนนี้ชิงสุ่ยจะไม่สามารถต่อกรกับเขาได้ จาในอนาคตอีกไม่นาน เขานั้นจะไม่มีทางทำอะไรชิงสุ่ยได้เลย มันยิ่งทำให้เขาประทับใจในตัวของผู้ชายคนนี้อย่างมาก และเหนืออื่นใด เขานั้นก็ไม่ได้พยายามที่แสดงท่าทีจองหองเลยสักครั้ง

 

เป็นปกติที่ชิงสุ่ยจะไม่กล่าวถึงเรื่องนี้ นั้นเพราะเขานั้นให้ความเขาเคารพชายชราและยังต้องการสร้างสัมพันธ์ที่ดีกับตระกูลเทียนฮี่  นั้นก็เพื่อประโยชน์ในการไปไหนมาไหนในอนาคตของเขา

 

ในตอนนี้เวลากลางคืน ตระกูลเทียนฮี่ได้จัดเตรียมที่พักให้พวกเขา ทั้งหมดในตอนนี้คิดว่าชิงสุ่ยและหยวนสู่นั้นเป็นสามีภรรยากัน พวกเขาจึงจัดให้พวกเขานั้นพักอยู่ในตึกเดียวกัน แต่ถึงอย่างไรก็โชคดีที่ในตึกแห่งนั้นก็มีห้องพักหลายๆห้อง ทำให้พวกเขาสามารถแยกห้องกันได้

 

“-ข้าจะไปนอนแล้ว ราตรีสวัสดิ์ ” หยวนสู่รีบกล่าวออกมาและรีบวิ่งไปที่ห้องของเธอ

 

ชิงสุ่ยยิ้มออกมา ขณะที่เขาเดินกลับไปที่ห้องของเขา

 

ในตอนนี้เขาใช้เวลาส่วนใหญ่ในการปรุงยา ในการกลับเข้ามาในครั้งนี้ทำให้เขารู้ได้ว่าหากเขาใช้บรรพกาลแรกเริ่ม เขาจะสามารถเข้าไปสู่จุดสูงสุดของปราณจักรพรรดิในทันที

 

ในตอนนี้จุดสูงสุดของปราณจักรพรรดินั้นมีความแข็งแกร่งอย่างน้อยไม่ต่ำกว่า5แสนสุริยา หรืออาจมากกว่านั้น

 

ในตอนนี้หากเขากินยาเม็ดลงไป เขาจะสามารถกินได้อีกครั้งในอีก15วัน  นั้นเพราะเขามีดินแดนหยก ซึ่งเป็นสมบัติแห่งสวรรค์ ด้วยความสามารถเช่นนี้ทำให้ชิงสุ่ยมั่นใจได้ว่าความแข็งแกร่งของเขาจะเพิ่มขึ้นอย่างรวดเร็ว และด้วยความสามารถที่เขามีจะไม่มีใครเลยในรุ่นที่จะสามรถเทียบเขาได้ เขานั้นจะกล่าวเป็นสัตว์ประหลาดที่ยังมีชีวิตอยู่

 

ถึงแม้เวลาในดินแดนหยกจะหมุนเวียนไปมากเท่าไรก็ตามมันก็จะไม่ส่งผลต่อตัวของเขา นั้นเพราะชีวิตจริงๆของเขานั้นขึ้นอยู่ในเวลาภายนอก นั้นหมายความว่าแม้ว่าเวลาในดินแดนหยกจะผ่านไปเป็นหมื่นปีก็ตามที มันก็ไม่ส่งผลอะไรต่อชีวิตภายนอกของเขาเลย อายุของเขานั้นจะเคลื่อนตามเวลาภายนอกเท่านั้น นี้จึงทำให้ชิงสุ่ยได้เปรียบกว่าคนอื่นๆหลายเท่าในเรื่องของเวลา

 

…………

 

ในเช้าวันถัดไปชิงสุ่ยได้ออกไปเดินรอบนอกพร้อมๆกับหยวนสู่ แม้จะใช้เวลาไม่น้อยกว่าครึ่งวันพวกเขานั้นก็ยังเดินไปไม่ถึงครึ่งหนึ่งของเมืองเทียนฮี่เลย เมืองแห่งนี้นั้นมีขนาดใหญ่อย่างมากแลเต็มไปด้วยตระกูลที่ใหญ่โตมากมาย

 

ในขณะที่พวกเขาเดินอยู่พวกเขาก็ถูกหยุดด้วยใครไม่รู้  ซึ่งในตอนนี้มันสร้างความสบายใจให้ชิงสุ่ยอย่างมากนั้นเพราะคนที่หยุดพวกเขาไว้คือคนที่งดงามอย่างมาก

 

เธอนั้นงดงามอย่างมาก และมีเสน่ห์อย่างบอกไม่ถูก ขณะที่กายแต่งกายของเธอนั้นดูยั้วยวนอย่างมาก โดยชุดที่ของเธอสวมนั้นเผยให้เห็นหัวไหล่ที่งดงามและ เผยให้เห็นเนินอกสีขาวที่งดงาม ซึ่งมันนั้นเป็นสิ่งที่กระตุ้นอารมของผู้ชายได้ดีอย่างมาก

Ancient Strengthening Technique เทพอสูร บรรพกาล

Ancient Strengthening Technique เทพอสูร บรรพกาล

Status: Ongoing

นิยายเรื่องนี้เป็นเกี่ยวกับตัวละครหลักมีชื่อว่า ชิงสุ่ยซึ่งถูกส่งข้ามมิติและมายังทวีปคิวชู  ทั้งทวีปเต็มไปด้วยการฆ่าฟันดังพายุโลหิต ส่งผลให้ซากศพ กระดูกและเศษเนื้อ  กระจายเกลื่อนไปทั่วทวีปซึ่งถือเรื่องธรรมดามากในโลกใบนี้

 นักรบหนุ่มชิงสุ่ยทำการพลิกชะตากรรมชีวิตเพื่อสร้างเส้นในการเพาะปลูกพลังยุทธ เขาใช้เวลากว่า 10 ปีเพื่อฝึกฝนตัวเอง เพื่อที่จะแสวงหาการแก้แค้นบุคคลผู้หนึ่งที่ได้ทอดทิ้งแม่ของเขา! บนเส้นทางชีวิตนี้ เขาได้มีโอกาสพบกับหญิงสาวผู้มีความงดงามดุลรูปปั่นเทพธิดา ( เจ้าหญิงน้ำแข็ง ) ชิชิงซวง ซึ่งเป็นบ่อเกิดของความเกลียดชังและการแก้แค้นจากคู่หมั้นของเธอนามซิตู่บูฟาน หลังจากผ่านพ้นเข้าเมืองร้อยไมล์ ชิงสุ่ยได้พบกับสาวสวยแสนงดงามชื่อ ยูฮี และคนอื่นๆ ที่อาณาจักรเซียนเทียน

 หลังจากที่เขาเผชิญความทุกข์ยากในเส้นทางชีวิต เขาได้ฆ่านายน้อยของตระกูลกงหยางเพราะยูฮี ทำให้เขาต้องหลบๆซ่อนๆ แต่ในความโชคร้ายก็มีความโชคดี หญิงสาวรูปร่างใบหน้าราวกับนางอัปสรสวรรค์ ชื่อเย่ยีเจียนจี  ได้พานพบและได้ช่วยเหลือเขาเอาไว้ ต่อไปนี้เขาจะต้องพบเจอกับสงครามที่ต้องล้างด้วยเลือด  ชิงสุ่ยจะสามารถรอดพ้นอันตรายได้หรือไม่ จะรอดพ้นภัยพิบัติได้หรือไม่  และความสัมพันธ์ของเขากับสาวงามต่างๆจะเป็นอย่างไร

แสดงความคิดเห็น

ใส่ความเห็น

อีเมลของคุณจะไม่แสดงให้คนอื่นเห็น ช่องข้อมูลจำเป็นถูกทำเครื่องหมาย *

ปรับฟอนต์

**ถ้าปรับโหมดมืดอยู่** ให้เปลี่ยนเป็นโหมดสว่าง ก่อนจะปรับสีพื้นหลัง
รีเซ็ท