Ancient Strengthening Technique เทพอสูร บรรพกาล – ตอนที่ 1411

ตอนที่ 1411

บทที่ 1411 – มังกรอสูรอหังการ พลังแห่งมังกรไอยรา เทือกเขาโม่หยุน

 

เฉินหลิงประหลาดใจเล็กน้อยนางไม่ใช่คนที่ไม่มีความสำคัญแต่สำหรับหญิงสาวที่งดงามนี่ก็ถือเป็นความกังวลของนาง ความงามและการแสดงออกของนางสามารถลดพลังของศัตรูลงไปได้ 20% นี่เป็นผลมาจากจิตใต้สำนึกแน่นอนว่าผู้ที่ชื่นชอบความเจ็บปวดย่อมไม่ได้รับผลนี้

 

ไม่ต้องคิดอะไรมากในตอนนี้ เขาต้องไปที่พระราชวังจอมอสูร โดยทั่วไปแล้วบุคคลภายนอกส่วนใหญ่จะไม่ได้รับการอนุญาตให้เข้าไปยังพระราชวังจอมอสูร

 

“ท่านต้องการไปยังพระราชวังจอมอสูรงั้นหรือ?” เฉินหลิงถามขณะที่ยังคงตกตะลึง

 

“อืม ท่านหญิงเฉิน ท่านรู้หรือไม่ว่าพระราชวังจอมอสูรนั้นอยู่ที่ใด?” ชิงสุ่ยยังคงถามต่อไป

 

“ใช่ข้ารู้ พระราชวังจอมอสูรนั้น ตั้งอยู่ที่เทือกเขาโม่หยุนแต่คนนอกไม่อาจเข้าไปได้” เฉินหลิงมองไปยังชิงสุ่ย

 

“นั่นไม่ใช่ปัญหาแต่อย่างใดตราบใดที่ข้ารู้ว่ามันอยู่ที่ใด” ชิงสุ่ยกล่าวพร้อมกับหัวเราะ

 

“เทือกเขาโม่หยุนนั้นกว้างใหญ่และอันตรายอย่างยิ่ง เจ้าแน่ใจหรือว่าอยากจะไปที่นั่น?” เฉินหลิงคิดครู่หนึ่ง

 

“ท่านหญิงอธิบายได้หรือไม่”

 

“จากที่นี่มุ่งตรงไปทางตะวันตก แต่ระยะทางนั้นใกล้ยิ่งนัก” เฉินหลิงคิดและบอกเส้นทางโดยประมาณให้แก่เขา

 

ระยะทางที่เฉินหลิงบอกไว้นั้นไม่ได้ถือว่าไกลสำหรับชิงสุ่ย มันใช้เวลาเพียงไม่กี่วันเท่านั้น เมื่อรู้ว่าพระราชวังจอมอสูรอยู่ที่ใดเขาก็รู้สึกมีความสุขอย่างยิ่ง “ท่านจะต้องกลับมา โปรดระมัดระวังตัวเองด้วย”

 

“ท่านรู้จักพระราชวังจอมอสูรงั้นหรือ? ข้ากลัวว่าท่านจะไปเผชิญกับอันตรายมากกว่า” เฉินหลิงกล่าวด้วยสีหน้าที่แปลกประหลาดเล็กน้อย ไม่ว่ายังไงเขาก็เป็นผู้มีพระคุณของนาง ถ้าหากว่ามันมีอันตรายนางก็ควรที่จะบอกเขา

 

“ข้าเคยพบกับประมุขอสูรมาหลายครั้ง น่าจะไม่มีปัญหาอะไร” ชิงสุ่ยกล่าวหลังจากที่คิดอยู่นาน

 

“โอ้ เป็นเช่นนี้นี่เอง เช่นนั้นขอให้ท่านระวังตัวด้วย ท่านเป็นผู้มีพระคุณของข้า ข้าไม่อยากให้ท่านต้องบาดเจ็บจากการที่ข้าบอกตำแหน่งของพระราชวังจอมอสูรให้แก่ท่าน” เฉินหลิงกล่าวด้วยรอยยิ้ม รอยยิ้มของนางนั้นเย้ายวนจนสามารถหยุดตรึงจิตวิญญาณของผู้คนเอาไว้ได้ แต่นี่ก็ถือเป็นพรสวรรค์ตามธรรมชาติของนาง

 

“ท่านเกิดมาพร้อมกับกระดูกของจิ้งจอกอมตะ นี่คือบทเพลงที่ข้าเคยบรรเลงไปก่อนหน้านี้และพิณนี้รวมถึงทุกๆอย่างนั้นเป็นของขวัญจากข้าแก่ท่าน ท่านมีพรสวรรค์ทางด้านดนตรี ของขวัญเหล่านี้คงเหมาะสมเหมือนกับกระบี่ในตำนานในมือของผู้กล้า”

 

ชิงสุ่ยไม่ได้ทำเช่นนี้เพื่อจะหาความดีความชอบ เขาไม่ได้พยายามที่จะสร้างความสัมพันธ์กับหญิงสาวผู้นี้หรืออาจจะเป็นเช่นนั้นก็ได้ เขารู้สึกอยากจะช่วยเหลือในยามที่ได้เห็นนาง ในความจริงแล้วชิงสุ่ยต้องการที่จะสานสัมพันธ์กับนิกายเสียงสวรรค์กัมปนาทเผื่อว่าในอนาคตเขาจะสามารถมีส่วนร่วมได้

 

สิ่งที่ทำให้ชิงสุ่ยรู้สึกประหลาดใจเล็กน้อยคือเฉินหลิงลังเลเล็กน้อยแต่ก็ยังรับของขวัญทั้งหมดไป “ข้าติดหนี้ท่านอยู่มากมาย ข้าไม่อาจรบกวนท่านมากกว่านี้ได้ หากข้าไม่อาจชดใช้ให้ท่านได้หมด ข้าจะชดใช้ด้วยร่างกายของข้า”

 

ชิงสุ่ยยิ้มและส่ายศีรษะ “ข้ามีภรรยาอยู่แล้ว”

 

“ท่านไร้สมองงั้นหรือ? จะมีปัญหาอะไรกันหากท่านจะมีเพิ่มอีกสักหนึ่งคน? ข้าไม่งดงามนั้นหรือ?” เฉินหลิง กระพริบตาให้เขาอย่างเย้ายวน

 

“งดงามแต่ข้าก็มีภรรยาอยู่แล้วหลายคน”

 

เฉินหลิงรู้สึกทึ่งเล็กน้อยที่ชายผู้นี้ดูซื่อสัตย์อย่างยิ่ง ในโลก 9 มหาทวีปมีชายหนุ่มมากมายที่มีภรรยาหลายคนโดยเฉพาะชายที่ทรงพลัง แต่ผู้ชายส่วนใหญ่ย่อมไม่บอกหญิงสาวที่งดงามว่าเขามีภรรยาอยู่แล้วโดยเฉพาะเมื่อตอนที่เขามีภรรยาอยู่แล้วหลายคน นางรู้สึกเจ็บปวดเล็กน้อยและกล่าวว่า “ถ้าหากว่าท่านมีอยู่หลายคนแล้วเช่นนั้นก็ไม่มีปัญหาอะไรหากจะนับข้าเข้าไปเพิ่มอีกสักคน เว้นแต่ข้าไม่ได้งดงามมากพอ?”

 

บางครั้งหญิงสาวก็จะกล่าวอะไรที่ไร้เหตุผลเช่นนี้ออกมา

 

ชิงสุ่ยไม่อาจบอกได้ว่านางตั้งใจที่จะแกล้งเขาหรือไม่ ดังนั้นเขาจึงไม่ได้ปฏิเสธหรือยอมรับ เพราะหญิงสาวผู้นี้นั้นงดงามอย่างยิ่งและไม่อาจตัดสินนางได้ด้วยวิธีธรรมดา เขาไม่ได้หวังไปไกลแต่นางเองที่เป็นคนให้ความหวังเขา เห็นได้ชัดว่ามันเกี่ยวข้องกับการสนทนาของนางกับผู้อาวุโสรองที่พระราชวังวสันต์นิรันดรก่อนหน้านี้

 

“เอาหละ ข้าจะหยุดแกล้งท่านแล้วแต่ท่านต้องจำเอาไว้ว่าท่านต้องมาหาข้าที่นิกายเสียงสวรรค์กัมปนาทในอนาคต” เฉินหลิงหัวเราะขณะที่นางมองไปยังชิงสุ่ย

 

“อืม เอาล่ะ จำคำของข้าก่อนหน้านี้ไว้ให้ดี หากข้ายังไม่ได้แต่งงานข้าจะไปหาท่าน”

 

เสียงหัวเราะมากมายดังออกมาขณะที่หญิงสาวผู้นี้ขี่สัตว์อสูรของนางไปในอากาศ

 

ชิงสุ่ยส่ายศีรษะของเขาเมื่อเขาพบทิศทางที่เขาต้องการ เขาจึงใช้ทักษะย่างก้าว 9เทวา นิกายเสียงสวรรค์กัมปนาทนั้นเป็นหนึ่งในสี่ขุมพลังแห่งปีศาจอันยิ่งใหญ่และพระราชวังวสันต์นิรันดรนั้นก็เป็นนิกายในมหาทวีปมังกรอหังกาล พวกเขาเป็นนิกายที่ทรงพลัง

 

ชิงสุ่ยนั้นไม่รู้ถึงความต่างระหว่างพลังของมหาทวีปมังกรอหังกาลและมหาทวีปวิหคอัคคีร่ายรำแต่เขาเคยได้ยินมาว่ามันใกล้เคียงกัน แต่เขาก็รู้สึกว่าเรื่องนี้ยังไม่เป็นที่แน่นอน ตามลำดับชั้นของธงสวรรค์ปัญจธาตุ มหาทวีปมังกรอหังกาลนั้นควรจะมีพลังที่มากกว่ามหาทวีปวิหคอัคคีร่ายรำ

 

ยิ่งไปกว่านั้นสี่ขุมพลังแห่งปีศาจอันยิ่งใหญ่นั้นมีปฏิสัมพันธ์กับมหาทวีปวิหคอัคคีร่ายรำเพียงน้อยนิด แม้ว่าจะมีกลุ่มพลังอำนาจมากมายภายในมหาทวีปวิหคอัคคีร่ายรำที่สามารถต่อกรกับพระราชวังจอมอสูร ศัตรูที่แท้จริงของสี่ขุมพลังแห่งปีศาจอันยิ่งใหญ่นั้นคือพลังอำนาจที่อยู่ภายในมหาทวีปมังกรอหังกาล มหาทวีปวิหคอัคคีร่ายรำนั้นไม่ได้อยู่ในสายตาของเขา

 

โฮก!

 

ในวันที่ 3ชิงสุ่ยใช้ทักษะย่างก้าว 9เทวา เมื่อเขาได้ปรากฏตัวขึ้นที่พื้น เสียงคำรามอันมหึมาก็ดังขึ้นจากบนท้องฟ้า

 

มังกรอสูรอหังการ!

 

ชิงสุ่ยมองไปมันและรู้ทันทีถึงตัวตนของสัตว์อสูรขนาดยักษ์ตัวนี้

 

มังกรอสูรอหังการนับถือเป็นมังกรสายพันธุ์  มังกรอสูรอหังการกรงหน้าชิงสุ่ยนี้มีขนาดประมาณ 300 เมตร ศีรษะที่น่ากลัวของมันนั้นคล้ายคลึงกับแต่เมื่อมองไปยังรายละเอียดดีๆแล้วจะเห็นว่ามันแตกต่างกับมังกร ตัวอย่างเช่น ศีรษะของมังกรไอยราเกล็ดทองคำที่ถือว่าเป็นศีรษะของมังกรที่แท้จริง

 

พลังของมังกรอสูรอหังการนั้นมีมากมาย มันโดดเด่นในด้านความเร็ว ด้วยร่างกายอันใหญ่โตของมันและพลังธาตุวายุ มันสามารถใช้เคล็ดวิชาอย่างเช่น วายุคลั่ง คมมีดแห่งสายลม วายุพันธนาการ…

 

ในความจริงแล้วเคล็ดวิชาต่างๆนั้นก็มีพลังของมันเพียงแต่แตกต่างกันไปในด้านของธาตุทั้ง 5 ที่สามารถส่งเสริมและทำลายกันได้ ด้วยธาตุที่ด้อยกว่าย่อมยากที่จะเอาชนะศัตรูที่อยู่ในระดับเดียวกันได้

 

ตู้ม!

 

เสียงระเบิดครั้งใหญ่ดังขึ้น พื้นดินระเบิดขึ้นกลายเป็นรูปดอกเห็ดและพุ่งเข้ามาปะทะชิงสุ่ยราวกับแผ่นดินไหว

 

ชิงสุ่ยนึกถึงฉากเช่นนี้ในโลกก่อนหน้านี้ของเขามันราวกับวันโลกาวินาศ แต่ในตอนนี้เขาได้เห็นมันโดยตรง ยิ่งไปกว่านั้นพลังของมันยังมากยิ่งกว่าในโลกก่อนหน้านี้ของเขา

 

“หนุ่มน้อย ให้มังกรไอยราเกล็ดทองคำได้เล่นกับเจ้าหน่อย”

 

ชิงสุ่ยเรียกมังกรไอยราเกล็ดทองคำออกมา

 

เสียงตำรามแห่งจิตวิญญาณ!

 

เสียงคำรามดังก้องไปทั่วท้องฟ้าเมื่อชิงสุ่ยได้รับการโจมตีครั้งนี้เข้าไปแต่ด้วยพลังของเขา การโจมตีนี้ย่อมไม่อาจสร้างความเสียหายให้แก่เขาได้

 

แม้แต่เสียงคำรามและขนาดร่างกายของของมังกรไอยราเกล็ดทองคำก็เหนือกว่ามังกรอสูรอหังการ

 

เสียงคำรานนี้ทำให้มังกรอสูรอหังการตกตะลึง

 

มันใช้พลังแห่งมังกรไอยราออกมาทันทีหลังจากคำรามออกมาก่อนหน้านี้

 

วชิระลี้ภัย!

 

การจู่โจมมังกรไอยราคุ้มคลั่ง!

 

มังกรไอยราเกล็ดทองคำพุ่งร่างกายขนาดใหญ่ของมันออกไปอย่างรวดเร็วและเหลือไว้เพียงภาพติดตา จากมุมมองของชิงสุ่ย มังกรอสูรอหังการนั้นมีขนาดใหญ่แต่มังกรไอยราเกล็ดทองคำนั้นใหญ่กว่า การปะทะกันครั้งนี้ทำให้ชิงสุ่ยรู้สึกประหลาดใจในตอนนี้

 

สังหารในทันที สัตว์อสูรขนาดยักษ์ตัวนี้โดนกระแทกโดยมังกรไอยราเกล็ดทองคำจนโลหิตของมันโปรยปรายบนท้องฟ้าราวกับหยาดฝน

 

เพราะพลังโจมตีที่ทรงพลังที่สุดของมังกรไอยราเกล็ดทองคำนั้นน่ากลัวอย่างยิ่ง มันมีพลังมากถึง 30 ล้านสุริยา ยิ่งไปกว่านั้นพลังแห่งมังกรไอยรายังมีผลที่ทำให้สัตว์อสูรที่อ่อนแอกว่ามังกรไอยราเกล็ดทองคำนั้นอ่อนแอลงไปอีก เดิมทีพลังของมันก็มีเพียงครึ่งเดียวของมังกรไอยราเกล็ดทองคำภายใต้ผลที่ลดพลังของพลังแห่งมังกรไอยรา ต้องแปลกใจมากกว่าหากมันไม่ถูกสังหารในทันที

 

ไม่มีสิ่งใดหลงเหลืออยุ่ ชิงสุ่ยมองไปรอบตัวของเขาจากนั้นก็ใช้ทักษะย่างก้าว 9เทวาอีกครั้ง หลังจากนั้นเขาก็เรียกวิหคเพลิงนรกานต์และบินออกไป เขามองไปที่ทิวทัศน์รอบข้างขณะคิดถึงสิ่งที่เขาจะทำในอนาคต ตัวอย่างเช่น เขาจะทำอะไรต่อหลังจากที่เขาได้พบกับประมุขอสูร?

 

เมื่อเขาคิดถึงคำถามนี้ชิงสุ่ยก็รู้สึกปวดหัวขึ้นมา หากนางถามเขาว่ามาหานางเพื่ออะไรเขาจะตอบนางเช่นไรดี?

 

หญิงสาวผู้นี้ไม่ใช่หญิงสาวธรรมดา เรื่องทั่วๆไปย่อมไร้ความหมายสำหรับนาง หากเขาจะบอกว่านางเป็นหญิงสาวของเจา้เช่นนั้นมันย่อมทำให้ชิงสุ่ยดูเหมือนเป็นคนไร้เดียงสา แม้ว่าพวกเขาจะใช้เวลาอยู่ด้วยกันแค่คืนเดียวแต่ก็ถือว่ามีความสัมพันธ์กัน หากการกระทำครั้งนั้นทำให้นางได้กลายเป็นหญิงสาวของเขาเช่นนั้นเขาก็คงไม่ต่างจากสัตว์ร้ายที่ทำเช่นนั้นแล้วจะได้หญิงสาวมา

 

นี่ไม่ใช่การข่มขืนหรือความสัมพันธ์ที่ผิดพลาดเพราะเขาสามารถบอกได้ว่านางเป็นหญิงสาวของเขา……

 

ตลอดทางที่ผ่านมาเขาต้องปะทะกับสัตว์อสูรหลายตัวแต่เขาก็จัดการพวกมันไปได้อย่างง่ายดาย เขาได้มาถึงเทือกเขาโม่หยุนโดยไม่รู้ตัว

 

เทือกเขาโม่หยุนนั้นเป็นชื่อของมัน มันเป็นภูเขาลูกใหญ่ที่สูงชัน มันสูงยิ่งกว่าก้อนเมฆเสียอีก มีก้อนเมฆลอยอยู่บนพื้นที่ระดับสูงของภูเขาลูกนี้ ภูเขาลูกนี้มีพื้นที่กว้างใหญ่ยากยิ่งนักที่จะบอกได้ว่าพระราชวังจอมอสูรนั้นตั้งอยู่ที่ใด

 

ตอนนี้เขาได้มาถึงเทือกเขาโม่หยุน เขาเดินไปรอบๆมัน เขาอาจจะสามารถพบเงื่อนงำบางอย่างของหญิงสาวผู้นั้นได้ ตอนนี้ยังไม่ถึงเวลาที่เขาจะต้องรีบร้อนอะไร เขายังต้องคิดถึงวิธีการที่จะติดต่อกับหญิงสาวผู้นั้น

 

นี่คือการเผชิญหน้าครั้งสุดท้ายของเขาชิงสุ่ยรู้สึกได้ว่าหญิงสาวผู้นี้นั้นเย็นชาอย่างยิ่ง มันยากยิ่งนักที่จะไปข้องเกี่ยวกับชีวิตของนางได้

 

ในวันถัดมาชิงสุ่ยได้ผ่านช่ิงว่างของหุบเขาโดยไม่ได้ตั้งใจและเห็นอาคารบ้านเรือนที่อยู่ภายในนั้น มีคนประมาณสิบคนที่ตั้งรกรากอยู่ที่นี่ หัวใจของชิงสุ่ยเต้นระรัวขึ้น

 

“หยุด เจ้าเป็นใครกัน?”

 

เสียงของชายหลายคนดังออกมาและพวกเขาต่างปลดปล่อยกลิ่นอายออกมาเพื่อข่มขู่ชิงสุ่ย ชิงสุ่ยใช้ประโยชน์จากสถานการณ์ตรงหน้านี้และรีบลงจากวิหคเพลิงนรกานต์

 

“พี่ชาย ท่านดูแข็งแกร่งยิ่งนัก ข้ากำลังจะไปยังพระราชวังจอมอสูร ข้าสงสัยว่าพี่ชายรู้หรือไม่ว่าพระราชวังจอมอสูรนั้นอยู่ที่ใด?” ชิงสุ่ยหัวเราะในขณะที่ยกย่องชายคนนั้น ชิงสุ่ยรู้สึกผ่อนคลายเขารู้สึกยินดีอย่างยิ่งที่ได้พูดคุยกับคนเหล่านี้

 

“พระราชวังจอมอสูร? เจ้าจะไปยังพระราชวังจอมอสูรทำไมกัน? คนนอกที่เข้าไปยังพระราชวังจอมอสูรจะถูกสังหารทันที หากเจ้าไม่มีเหตุผลที่ดีพอวันนี้ย่อมเป็นวันสุดท้ายในชีวิตของเจ้า” ชายที่เป็นผู้นำนั้นมีร่างสูงและกำยำ บางทีอาจเป็นเพราะร่างกายของเขาทำให้เขาดูราวกับโจรป่า ใบหน้าของเขานั้นดูหยาบกร้านอย่างยิ่ง

 

“ข้าได้สังหารคนของพระราชวังวสันต์นิรันดร ข้าไม่มีทางเลือก ข้าอยากเข้าร่วมกับพระราชวังจอมอสูร พี่ชายช่วยบอกกล่าวกับข้าในเรื่องนี้ได้หรือไม่?” ชิงสุ่ยรู้ดีว่าจากการที่เขาได้พูดคุยกับเฉินหลิง มีเพียงผู้ที่ทรงพลังมากพอที่จะสังหารผู้คนเท่านั้นที่จะสามารถเข้าร่วมกับพระราชวังจอมอสูรได้

 

“เจ้าสังหารผู้คนของพระราชวังวสันต์นิรันดรงั้นหรือ? เจ้าได้สังหารใครไป เราต้องตรวจสอบเรื่องนี้ก่อน” ชายร่างกำยำเรื่องที่จะหยุดออกจากความสงบนิ่งของเขา

 

“ผู้อาวุโสรองแห่งพระราชวังวสันต์นิรันดร เจ้าเฒ่าอัปลักษณ์ ยังมีอีกคนที่เรียกตัวเองว่าพี่ใหญ่ ชายหนุ่มคนอื่นๆอีก…” ชิงสุ่ยรู้สึกว่าเขาไม่จำเป็นต้องโกหกคนพวกนี้ ด้วยเครือข่ายข่าวสารของพระราชวังจอมอสูร พวกเขาย่อมบันทึกเรื่องนี้เอาไว้

 

“ยากที่จะบอกได้ ข้าเคยได้ยินมาเร็วๆนี้ว่ามีคนของพระราชวังวสันต์นิรันดรถูกสังหารไป มาเถอะ เข้ามาก่อน การเข้าร่วมกับพระราชวังจอมอสูรนั้นไม่ได้ยากแต่ข้าจะบอกเงื่อนไขของมันให้แก่เจ้าเอง” ชายร่างกำยำเปลี่ยนแปลงท่าทีของเขาและต้อนรับชิงสุ่ยอย่างอบอุ่น

 

“ในตอนนี้เจ้าจำเป็นต้องพิสูจน์ว่าเจ้ามีพลังมากพอที่จะสังหารผู้อาวุโสรองของพระราชวังวสันต์นิรันดรได้” ชายร่างกำยำอธิบาย

 

“โอ้ หากเป็นเช่นนั้น ข้าจะประลองกับท่านเอง ท่านน่าจะอยู่ในระดับเดียวกันกับผู้อาวุโสรองของพระราชวังวสันต์นิรันดร” ชิงสุ่ยยิ้มขณะมองไปที่เขา

Ancient Strengthening Technique เทพอสูร บรรพกาล

Ancient Strengthening Technique เทพอสูร บรรพกาล

Status: Ongoing

นิยายเรื่องนี้เป็นเกี่ยวกับตัวละครหลักมีชื่อว่า ชิงสุ่ยซึ่งถูกส่งข้ามมิติและมายังทวีปคิวชู  ทั้งทวีปเต็มไปด้วยการฆ่าฟันดังพายุโลหิต ส่งผลให้ซากศพ กระดูกและเศษเนื้อ  กระจายเกลื่อนไปทั่วทวีปซึ่งถือเรื่องธรรมดามากในโลกใบนี้

 นักรบหนุ่มชิงสุ่ยทำการพลิกชะตากรรมชีวิตเพื่อสร้างเส้นในการเพาะปลูกพลังยุทธ เขาใช้เวลากว่า 10 ปีเพื่อฝึกฝนตัวเอง เพื่อที่จะแสวงหาการแก้แค้นบุคคลผู้หนึ่งที่ได้ทอดทิ้งแม่ของเขา! บนเส้นทางชีวิตนี้ เขาได้มีโอกาสพบกับหญิงสาวผู้มีความงดงามดุลรูปปั่นเทพธิดา ( เจ้าหญิงน้ำแข็ง ) ชิชิงซวง ซึ่งเป็นบ่อเกิดของความเกลียดชังและการแก้แค้นจากคู่หมั้นของเธอนามซิตู่บูฟาน หลังจากผ่านพ้นเข้าเมืองร้อยไมล์ ชิงสุ่ยได้พบกับสาวสวยแสนงดงามชื่อ ยูฮี และคนอื่นๆ ที่อาณาจักรเซียนเทียน

 หลังจากที่เขาเผชิญความทุกข์ยากในเส้นทางชีวิต เขาได้ฆ่านายน้อยของตระกูลกงหยางเพราะยูฮี ทำให้เขาต้องหลบๆซ่อนๆ แต่ในความโชคร้ายก็มีความโชคดี หญิงสาวรูปร่างใบหน้าราวกับนางอัปสรสวรรค์ ชื่อเย่ยีเจียนจี  ได้พานพบและได้ช่วยเหลือเขาเอาไว้ ต่อไปนี้เขาจะต้องพบเจอกับสงครามที่ต้องล้างด้วยเลือด  ชิงสุ่ยจะสามารถรอดพ้นอันตรายได้หรือไม่ จะรอดพ้นภัยพิบัติได้หรือไม่  และความสัมพันธ์ของเขากับสาวงามต่างๆจะเป็นอย่างไร

แสดงความคิดเห็น

ใส่ความเห็น

อีเมลของคุณจะไม่แสดงให้คนอื่นเห็น ช่องข้อมูลจำเป็นถูกทำเครื่องหมาย *

ปรับฟอนต์

**ถ้าปรับโหมดมืดอยู่** ให้เปลี่ยนเป็นโหมดสว่าง ก่อนจะปรับสีพื้นหลัง
รีเซ็ท