บทที่ 1421 – พบเจอมังกรสีคราม ไข่มุกปิศาจนิรันดร์ สู้รบ
“ดูเหมือนเจ้าจะชอบเขามากเชียวนะ” หญิงสาวกล่าวอย่างเชื่องช้า ในขณะที่สายตามองไปยังชิงสุ่ยที่อยู่ไกลออกไป
ฮัวรูเหม่ยหัวเราะออกมา เขาและประมุขอสูรพูดคุยกันด้วยท่าทีที่ไม่เหมือนใคร ฝ่ายหนึ่งเรียกด้วยนาม “ท่านหญิง” ส่วนอีกฝ่ายเรียกว่า “ท่าน” ปกติทั่วไปเท่านั้น แต่ทั้งสองฝ่ายไม่เคยถกเถียงกันเรื่องความสัมพันธ์ระหว่างหญิงชายกันมาก่อน
ดังนั้นเมื่อประมุขอูสรกล่าวถึงเรื่องนี้ขึ้นมา นางไขว้เขวเล็กน้อยแต่ก็หัวเราะออกมา “ข้าก็ชอบเขานะ แต่ไม่ได้ชอบเชิงเช่นนั้น ไม่ใช่ว่าท่านหญิงก็ชอบเขาหรอกนะ”
ฮัวรูเหม่ยมองด้วยท่าทีหยอกล้อไปยังประมุขอสูร แต่ประมุขอสูรส่ายศีรษะและไม่มีท่าทีใดๆเปลี่ยนไป “ข้าไม่ได้ชอบเขา”
“ท่านรู้หรือไม่ว่าเขาชอบท่าน?” เห็นได้ชัดเลยว่าเขามาที่นี่ก็เพราะท่าน “ฮัวรูเหม่ยพูดออกมาลอยๆ แม้ว่าพวกนางจะไม่เคยพูดเรื่องเช่นนี้กันมาก่อน แต่นางก็ยังคงหยอกล้อประมุขอสูร”
“ท่านไม่เข้าใจหรอก หยุดพูดถึงเขาเถอะ”
อาหารมื้อนี้ถือว่ายอดเยี่ยมเช่นกันแต่ก็มีความด้อยกว่าถ้าเทียบกับของในคืนก่อน แต่ละคนต่างกินอาหารมื้อเช้าเพียงเล็กน้อยเท่านั้น
หลังจากทานอาหารเสร็จเรียบร้อย หญิงสาวทั้งสองต่างช่วยกันล้างจาน ชิงสุ่ยกำลังดื่มด่ำกับบรรยากาศด้วยการมองไปยังหญิงสาวทั้งสองที่มีท่าทีที่เรียบง่าย แต่เหมือนกับเป็นสิ่งที่ยิ่งใหญ่ที่สุดในมหาทวีปเลยทีเดียว
โฮ่กก!
มีเสียงร้องดังขึ้น ราวกับเป็นเสียงร้องโหยหวยแห่งความตาย ชิงสุ่ยมองไปยังหญิงสาวทั้งสอง ท่าทีของฮัวรูเหม่ยเปลี่ยนไปเล็กน้อย คิ้วที่สวยงามของนางขมวดลงนิดหน่อยก่อนที่จะหันมองไปยังทิศทางของเสียงร้อง
หุบเขามังก่อนซ่อนเร้น!
“เสียงจากหุบเขามังก่อนซ่อนเร้น” ชิงสุ่ยได้ยินคำกล่าวจากฮัวรูเหม่ยถึงเรื่องที่ไม่ธรรมดานี่ ตำนานได้กล่าวเอาไว้ว่ามีมังกรดำรงอยู่ที่แห่งนั้นแต่ไม่มีใครได้เห็นมาก่อนและในตอนนี้มันได้ปรากฏตัวขึ้นแล้ว
ชิงสุ่ยรู้ดีว่ามันเหมือนกับการที่เขาเดินอยู่ดีๆ แล้วมีกองอึสุนัขลอยมาหล่นลงที่หัวของเขา เรื่องเหล่านี้มันอาจเกิดขึ้นได้แต่ก็มีโอกาสอยู่น้อยมาก
“เสียงนั่นบ่งบอกว่ามังกรเป็นตัวเต็มวัย” หญิงสาวตะโกนออกมาเสียงดังเป็นครั้งแรก
“พวกเราควรทำเช่นไร?” ฮัวรูเหม่ยกล่าวถาม
“ดูเหมือนว่าพวกเราจะเจอเรื่องลำบาก พื้นที่แห่งนั้นเป็นเขตุหวงห้าม ถ้าหากพวกเราต้องการออกไป พวกเราจะต้องฝ่าฝืนกฏ” หญิงสาวมีความสงบ ไม่มีความกระวนกระวายหรือกังวลใจในตัวนางแม้แต่น้อย
ชิงสุ่ยรู้สึกราวกับถูกจองจำอยู่ในเก้ามหาทวีป และเรื่องราวได้บานปลายมากขึ้นแล้ว หนทางเดียวที่เหลืออยู่คือการเอาชนะมังกรที่ได้ปรากฏตัวขึ้น
โฮ่กก!
เสียงร้องของมังกรดังขึ้นอีกครั้ง หลังจากนั้นชิงสุ่ยได้เห็นสัตว์อสูรบินผ่านพวกเขาไปด้วยความเร็วราวปานฟ้าผ่า ในช่วงเวลาพริบตาพวกมันบินห่างออกไปไกลเสียแล้ว
ในเวลาเดียวกัน ประมุขอสูรเรียกเต่าศักดิ์สิทธิ์ที่อยู่ในระดับเดียวกันออกมา
โฮ่กกกกกก!
มันเป็นเต่าเฒ่าโบราณ ในตอนนี้เต่าศักดิ์สิทธิ์ไม่ได้แสดงความอ่อนแอใดๆออกมาให้เห็น แม้ว่าตัวมันจะดูไม่แก่มากแต่ในความเป็นจริงมันมีอายุมากแล้ว เป็นเพราะเต่าเป็นสัตว์ที่มีอายขัยยืนยาวอาจถึงหนึ่งหมื่นปีเลยทีเดียว มันเป็นเต่าอายุหมื่นปีที่แท้จริง ไม่เหมือนกับตัวอื่นๆในอดีต
มันคือมังกรสีครามซึ่งเป็นเผ่าพันธุ์มังกรที่แท้จริง อย่างน้อยที่สุดมันก็เป็นมังกรจริงๆ ถึงแม้ว่าสายเลือดของมันจะมีค่าน้อยกว่ามังกรชนิดอื่นๆ โดยหากเรียงลำดับตามความล้ำค่าที่สุดแล้วต้องยกให้ มังกรมรกต ตามด้วยมังกรทองคำและมังกรเทวะ อย่างไรก็ตามพวกที่กล่าวมาเป็นถึงมังกรระดับตำนาน
สิ่งมีชีวิตขนาดมหึมาความยาวกว่าเจ็ดร้อยเมตรกำลังอยู่ตรงหน้าพวกเขา แม้ชิงสุ่ยจะพบสัตว์อสูรขนาดใหญ่โตมามากมายก็ยังเทียบกับตัวนี้ไม่ได้ ในตอนนี้เขากำลังนึกภาพของมันเทียบขนาดกับสัตว์อสูรชนิดอื่นๆอยู่
นอกเหนือจากที่มันเป็นมังกรที่แท้จริงแล้ว มันยังเป็นมังกรโตเต็มวัยอีกด้วย สัตว์อสูรตัวนี้สมควรเป็นหนึ่งในสิ่งมีชีวิตที่แข็งแกร่งที่สุดจริงๆ
เต่าเฒ่าโบราณเองก็มีขนาดใหญ่ไม่แพ้กันเพียงแต่มีรูปลักษณ์ภายนอกที่แต่งต่างกันอย่างสิ้นเชิง เมื่อเทียบกันแล้วตัวมันมีขนาดเล็กกว่ามังกรสีครามเล็กน้อย
มังกรสีครามมีธาตุเฉพาะตัวคือ ธาตุเหมันต์ ส่วนมังกรมรกตจัดอยู่ในธาตุแห่งธรรมชาติ มังกรสีเพลิงอยู่ในธาตุไฟ และมังกรทมิฬอยู่ในธาตุพิษ…
“เมื่อเจ้าบุกรุกเขามายังเขตแดนของข้าแล้ว ก็จะต้องถูกขังไว้ที่นี่”
เสียงแข็งกร้าวปรากฏออกมา ด้วยความแปลกประหลาดที่เกิดขึ้นนี้ ดูเหมือนว่าการที่ไม่มีการติดต่อสื่อสารออกมาจะเป็นเรื่องที่แปลกประหลาดเสียยิ่งกว่า
พลังงานที่ไร้ขอบเขตถูกขยายออกทั่วรอบๆพื้นที่ ชิงสุ่ยมองไปที่หญิงสาวทั้งสองที่ไร้คำพูดพร้อมกล่าวออกมาว่า “พวกเราเพียงผ่านมาเท่านั้น ไม่ได้ต้องการลบหลู่ท่านเลยและต้องขออภัยสำหรับความวุ่นวายต่างๆที่เกิดขึ้น ได้โปรดให้พวกเราผ่านทางไปเถิด”
“เจ้าจะผ่านไปได้ก็ต่อเมื่อทิ้งไข่มุกปิศาจนิรันดร์ไว้ที่นี่ ถ้าทำเช่นนั้นข้าจะยอมปล่อยเจ้าไป” หลังจากนั้นมังกรสีครามหันหน้าไปยังเต่าเฒ่าโบราณ
“ไข่มุกปิศาจนิรันดร์? มันคือสิ่งใด?”
“เมื่อสัตว์อสูรบรรลุถึงขั้นอสูรอมตะนิรันดร์ มันจะค่อยๆเปลี่ยนอัญมณี ซึ่งเกิดจากการรวมตัวของพลังของตนเอง” ฮัวรูเหม่ยอธิบายชิงสุ่ย
“ข้ารู้มาว่าเผ่าพันธุ์ของพวกมันมีความโลภมาก ดูเหมือนว่าจะเป็นเรื่องจริง ซึ่งเขาก็มีไข่มุกปิศาจนิรันดร์ของตนเองอยู่แล้วใช่หรือไม่” ชิงสุ่ยมองไปยังฮัวรูเหม่ยด้วยความสงสัย
“ใช่แล้ว และอาจเป็นหนึ่งในชิ้นที่ดีที่สุดอีกด้วย” ฮัวรูเหม่ยยิ้มและกล่าวออกมา
“เหตุใดพวกเราจึงไม่นำไข่มุกปิศาจนิรันดร์ของมันไปให้แก่เต่าเฒ่าโบราณเสียล่ะ?” เต่าศักดิ์สิทธิ์เองก็เป็นเต่าชนิดหนึ่งเช่นกัน และเต่าศักดิ์สิทธิ์ที่แท้จริงอาจจะไม่พ่ายแพ้ต่อมังกร มีเพียงเต่าเฒ่าโบราณเท่านั้นที่สามารถบรรลุถึงขั้นนี้ได้
“พวกเราควรคิดถึงเรื่องการป้องกันตัวเองเสียก่อน ไม่ใช่เรื่องง่ายเลยที่จะเอาชนะมันได้ สิ่งที่พวกเราพอจะทำได้ก็คือช่วยกันหาช่องทางในการหลบหนี” ฮัวรูเหม่ยไม่มีท่าทีที่สะทกสะท้าน
“ในเมื่อมันไม่ปล่อยพวกเราไป เช่นนั้นก็ต้องลองสู้เสียหน่อยแล้ว” ชิงสุ่ยยิ้มออกมา
“อวดดีเหลือเกินเจ้าเด็กเหลือขอ เจ้ากล้าคิดที่จะชิงไข่มุกปิศาจนิรันดร์ของข้าและเจ้าอาจหาญที่จะเป็นศัตรูกับมังกรเช่นนั้นหรือ?” เสียงของมังกรสีครามดังออกมาด้วยความดูหมิ่น
“ถ้าข้าจำเป็นจะต้องเป็นศัตรูกับเจ้า ข้าก็ไม่กลัว หรือเจ้าหวังจะให้ข้ายืนอยู่เฉยๆโดยไม่ทำอะไร? ชิงสุ่ยเผชิญหน้ากับเจ้าสัตว์ขนาดมหึมาด้วยเสียงที่แข็งกร้าว
“เช่นนั้นก็จงลองดู!”
หลังสินสุดคำพูด ร่างของมังกรสีครามก็พุ่งตรงออกไปทางชิงสุ่ยในทันใด แม้ว่ามันจะมีเป้าหมายเป็นชิงสุ่ยแต่ทว่าบุคคลทั้งสามและเต่าเฒ่าโบราณก็ยังอยู่ในสายตาของมันเช่นกัน
ในขณะที่ชิงสุ่ยกำลังจะเคลื่อนไหวกลับมีพลังงานบางอย่างมายึดจับตัวเขาไว้ เขาต้องการที่จะปัดป้องสิ่งนั้นไว้ แต่มีเสียงของหญิงสาวดังขึ้นมา “อย่าขยับ หลบมันเสียก่อน!”
ชิงสุ่ยพยายามหลบการโจมตีนั้นให้พ้น เป็นเรื่องที่น่าอัศจรรย์จริงๆพลังนั่นมีความคล้ายคลึงกับทักษะย่างก้าวเก้าเทวาเหลือเกิน ในขณะเดียวกันก็มีความคล้ายคลึงกับย่างก้าวจัตุรัส ในเวลาเดียวกันเต่าเฒ่าโบราณเองก็พุ่งตรงเข้าใส่มังกรสีคราม
ปัง!
ด้วยเสียงราวกับโลกกำลังจะแตก ร่างอันใหญ่โตของเต่าเฒ่าโบราณกระเด็นกลับมาด้วยความเสียหายอันน้อยนิด ด้วยพลังป้องกันอันทรงพลังของมัน
“เป็นเช่นไรบ้าง?” ชืงสุ่ยกล่าวต่อเต่าเฒ่าโบราณ
“นี่เป็นเพียงการโจมตีขั้นพื้นฐานของมันเท่านั้นและข้าถึงกับกระเด็นออกมา ถ้าข้าใช้พลังแห่งไข่มุกปิศาจนิรันดร์ ความแตกต่างจะแสดงให้เห็นมากยิ่งขึ้น” เต่าเฒ่าโบราณกล่าวออกมาออกมาด้วยเสียงแข็งกร้าวให้ความรู้สึกถึงความกังวล
“ไม่เป็นไร ข้าจะช่วยเสริมบางสิ่งเข้าไปเอง”
มังกรสีครามพุ่งเข้าใส่พวกเขาอีกครั้ง และเป็นเช่นที่คิดเอาไว้พวกเขาไม่คู่ควรกับมันเลย
ร้อยปักษาบูชาหงส์!
ไม่ได้ผล!
ชิงสุ่ยยกมือขึ้นปัดจมูกของเขา ถ้าหากไม่ใช่เพราะการฝึกฝนที่มากพอ เส้นทางที่อันตรายเช่นนี้อาจคร่าชีวิตของเขาไปได้
ปราณจักรพรรดิ!
โฮ่กกกกก!
มังกรสีครามร้องออกมาด้วยความโกรธ ภายในเวลาไม่กี่นาที พลังของมันถูกลดลงกว่าสองในสิบส่วน ซึ่งถือเป็นเรื่องที่เลวร้ายมาก
ชิงสุ่ยยังไม่รู้ถึงพลังของมังกรสีครามแต่ด้วยการปะทะเพียงครั้งเดียว เขาประเมิณได้ทันทีว่าพลังของมันอยู่ที่ราวๆหกสิบห้าล้านสุริยา หลังจากการปะทะครั้งนี้พลังของมันเหลืออยู่เพียงห้าสิบล้านสุริยา
ความพิเศษของเผ่าพันธุ์มังกรคือพลังและความแข็งแกร่งของมัน หากมังกรมีพลังเจ็ดสิบล้านสุริยา ด้วยพลังโจมตีเพียงสิบล้านสุริยาจะไม่สามารถสร้างความเสียหายแก่มันได้เลย
ปัง!
เต่าเฒ่าโบราณป้องกันไว้อีกครั้ง ในครั้งนี้ดูเหมือนจะดีกว่าเดิมไม่ล้มเหลวเหมือนครั้งก่อนแล้ว ด้วยการโจมตีในครั้งนี้ เต่าเฒ่าโบราณยังสามารถสู้ต่อได้อีกสักพัก
โฮ่กกกกก!
“เจ้าทำให้ข้าโมโหแล้ว น้ำค้างแข็งจู่โจม”
มังกรสีครามคำรามออกมาในทันใด พร้อมกับพ่นน้ำแข็งสีฟ้าออกมารอบๆ
กฏแห่งพระราชวังเก้าเทวา!
ในพระราชวังเก้าเทวา เขาเป็นราชันย์! เปลวเพลิงทองคำเก้าหยาง ทำลาย !
ชิงสุ่ยก้าวออกไปข้างหน้าสองสามก้่าวก็ปรากฏบรรยากาศอันแปลกประหลาดขึ้นมารอบๆ ปกคลุมพื้นที่ขนาดใหญ่
“ค่ายกลพระราชวังเก้าเทวา?” หญิงสาวอุทานออกมาด้วยความประหลาดใจ
“ใช่แล้ว เขาเองก็สอนข้าเช่นกัน มันเป็นส่วนหนึ่งของทักษะย่างก้าวเก้าเทวา” ฮัวรูเหม่ยกล่าวในขณะที่มองไปยังประมุขอสูร
ก้อนน้ำแข็งปกคลุมไปยังพื้นที่รอบๆชิงสุ่ย เว้นแต่ที่ที่ชิงสุ่ยและคนอื่นๆยืนอยู่ การระเบิดที่รุนแรงทำให้น้ำแข็งก้อนใหญ่ต้องแตกออก
เปลวเพลิงทองคำเก้าหยางเป็นปราณแห่งดวงอาทิตย์และเคล็ดวิชาเปลวเพลิงขั้นแรกเริ่มยังคงห่างชั้นอยู่ และแม้น้ำจะสามารถดับไฟได้แต่ไฟอันร้อนแรงก็ยังสามารถเผาไหม้ได้ในพื้นที่เล็กๆ
ถ้าไม่ใช่เพราะการโจมตีของชิงสุ่ย พวกเขาอาจถูกขังอยู่ในก้อนน้ำแข็งแล้วก็เป็นได้ และด้วยความสามารถในปัจจุบันของพวกเขา มันเป็นไปไม่ได้เลยที่จะหลบหนีออกมา ชิงสุ่ยไม่รู้ว่าพลังของเต่าเฒ่าโบราณและประมุขอสูรมีอยู่เท่าไรแต่ก็คงใกล้เคียงกับมังกรสีครามตัวนั้น
ในความเป็นจริงๆแล้ว เต่าเฒ่าโบราณอาจจะแข็งแกร่งกว่าเล็กน้อย
ปัง!
มีเสียงดังเกิดขึ้น น้ำแข็งก้อนมหึมาแตกออกมาชิ้นเล็กๆ มังกรสีครามรู้ดีว่าน้ำแข็งไม่สามารถทำอะไรพวกเขาได้แล้วจึงตัดสินใจทำลายน้ำแข็งก้อนใหญ่และเติมเต็มทั่วทั้งอากาศไปด้วยเปลวเพลิงเยือกแข็ง
เคล็ดคุ้มครองศักดิ์สิทธิ์!
ทันใดนั้นประมุขอสูรกวาดมือของนางออก มีแสงสีขาวปรากฏขึ้นมารอบๆ ทันใดนั้นเปลวเพลิงเยือกแข็งถูกลบหายไปในทันที
นี่เป็นวิชาป้องกันของประมุขอสูร มันแสดงผลในช่วงเวลาสั้นๆและสามารถใช้ได้เพียงหนึ่งครั้งต่อหนึ่งวันเท่านั้น
พวกเขาทั้งสามอยู่ในสถานะที่ปลอดภัยในตอนนี้ อย่างไรก็ตามเกราะป้องกันไม่ได้มีความสมบูรณ์แบบมากนัก มันเพียงปัดป้องความเสียหายออกไปหกในสิบส่วนเท่านั้น อย่างไรก็ตามทั้งสามประสานช่วยกันป้องกันทำให้ป้องกันความเสียหายได้อย่างสมบูรณ์
เปลวเพลิงเยือกแข็งที่มีพลังสี่ในสิบส่วนพุ่งตรงเข้าหาพวกเขา
หงส์ทองประลองพินิจ!
ชิงสุ่ยฉวยเวลาในช่วงนี้ปลดปล่อยวิชาอันทรงพลังออกมา แม้ว่าจะมันไม่สามารถเคลื่อนไหวได้เท่าที่ชิงสุ่ยคาดไว้ แต่ก็สามารถใช้ออกได้อย่างไร้จุดสิ้นสุด
แม้ว่ามันจะสามารถปล่อยพลังออกได้เพียงหนึ่งในสิบส่วน แต่เมื่อเผชิญกับเปลวเพลิงเยือกแข็ง มันแสดงผลออกได้ยอดเยี่ยมเลยทีเดียว
ด้วยทักษะในการลดความสามารถในครั้งนี้ พลังของเปลวเพลิงเยือกแข็งถูกลดทอนเหลือเพียงหนึ่งในสิบส่วนเท่านั้น
หญิงสาวทั้งสองรู้สึกได้ว่าตนได้รับพลังเพิ่มขึ้นถึงหนึ่งในสิบส่วน พวกนางมองไปยังชิงสุ่ยด้วยความประหลาดใจ ในตอนแรกพวกนางคิดว่าพลังจะถูกลดลงแต่พลังกลับถูกเพิ่มขึ้นกว่าหนึ่งในสิบส่วน ซึ่งช่วยให้พลังเพิ่มขึ้นอย่างมหาศาล โดยเฉพาะอย่างยิ่งในขณะที่กำลังลดพลังของฝ่ายตรงข้าม เป็นหนึ่งในสิบส่วนที่ทรงอานุภาพเสียจริง
พลังของเต่าเฒ่าโบราณถูกเพิ่มขึ้นมากที่สุด
กระบี่ทองคำ!
ด้วยการยื่นมือออกไป ชิงสุ่ยส่งกระบี่ทองคำพุ่งตรงไปยังดวงตาของมังกรสีครามด้วยความเร็วที่น่ากลัว
กฏแห่งพระราชวังเก้าเทวาตรึงมังกรสีครามเอาไว้ ไม่เพียงแค่ถ่วงลากมันเอาไว้แต่ยังช่วยลดพลังของมันลงอีกเช่นกัน
“เตรียมโต้กลับ!” ชิงสุ่ยกล่าวพร้อมมองไปยังประมุขอสูรและฮัวรูเหม่ย
“พวกเราจะทำได้ใช่ไหม?” ฮัวรูเหม่ยกล่าวด้วยความสงสัย
ชิงสุ่ยกำลังคิดถึงเรื่องนี้อยู่เช่นกัน ด้วยเต่าเฒ่าโบราณที่ยืนรับมืออยู่ข้างหน้าและการประสานงานของพวกเขาทั้งสามก็ไม่น่ามีปัญหา
ชิงสุ่ยไม่คิดว่าเต่าเฒ่าโบราณจะถูกฆ่าได้ง่ายดายนัก ในตอนนี้พลังของมันมีเทียบเท่ามังกรสีคราม เมื่อรวมกับหญิงสาวทั้งสองและตัวเขาเองแล้ว พวกเขาควรที่จะเอาชนะมังกรสีครามที่อ่อนแอตัวนี้ได้