บทที่ 1426 – รูปแบบสยบอสูรโลหิตสำแดง ปะทะกับหมีอสูรเพลิงทองคำบรรพกาล
“ท่านพอจะให้ข้าดูรูปแบบสมรภูมิโลหิตของท่านได้หรือไม่” ชิงสุ่ยกล่าวพร้อมกับรอยยิ้ม
“ไม่มีปัญหา”ซาน ยูยิ้มขณะที่หน้าค่อยๆสร้างรูปแบบสมรภูมิโลหิตส่งผ่านไปถึงชิงสุ่ย
ทันทีที่เขาเห็น เขาก็พบว่ารูปแบบนี้จะช่วยเพิ่มความแม่นยำในการโจมตี และยังช่วยเพิ่มพูนความมั่นใจ รวมถึงการโคจรลมปราณและขับเคลื่อนเลือดลมที่ช่วยสร้างความแข็ง อย่างไรก็ตาม มันจะให้ความรู้สึกเปรียบดังพลังของวัยหนุ่มสาวที่จะขับเคลื่อน พลังของตนด้วยความร้อนแรงในจิตใจ
ไม่ต้องสงสัยเลยว่าทำไมมันถึงถูกตั้งชื่อว่ารูปแบบสมรภูมิโลหิต แน่นอนว่าตำแหน่งในการขอรูปแบบนั้นล้วนประสานงานกัน และแม้จะเป็นรูปแบบที่ดูเหมือนง่ายแต่กลับทรงประสิทธิภาพ
“พี่ใหญ่ซาน รูปแบบนี้เป็นรูปแบบที่ง่ายจริงๆ แต่กลับไม่ได้อ่อนแอเลย ถึงกระนั้นถ้าหากท่านต้องเผชิญหน้ากับผู้ที่แข็งแกร่งเท่าเทียมกัน ทุกอย่างจะขึ้นอยู่กับการสร้างรูปแบบทั้งหมด และถ้าหากท่านไม่อาจเอาชนะศัตรูได้ภายใน 1 กระบวน เมื่อเป็นเช่นนั้นทุกอย่างจะยิ่งเลวร้ายลง”ชิงสุ่ยหยุดการโคจรรูปแบบและส่งมันกลับไปยังซานยู
เมื่อพูดถึงความสัมพันธ์ของรูปแบบเหล่านี้ เถียงไม่ได้เลยว่าชิงสุ่ยเป็นผู้ที่มีความรู้ทางด้านการก่อรูปแบบอย่างเห็นได้ชัด สิ่งเดียวที่เขาตระหนักถึงนั่นก็คือพลังอันลึกลับที่ซ่อนอยู่ภายในรูปแบบ
“น้องชายชิง ดูเหมือนว่าเจ้าจะเป็นยอดปรมาจารย์ทางด้านรูปแบบสินะ รูเหม่ยคือหนึ่งในผู้ที่คิดค้นรูปแบบสมรภูมิโลหิต”ซานยูยิ้มขณะกล่าว
“ว่าแต่ท่านต้องการให้ข้าปรับปรุงรูปแบบที่ท่านถือครองหรือไม่?”ชิงสุ่ยจ้องมองซานยูหลังจากคิดเพียงชั่วครู่
รูปแบบเหล่านี้ถูกมอบให้เขาโดยฮัวรู่เหม่ย ซึ่งเขาเองก็กลัวว่าซานยูจะไม่เห็นด้วย มีคนไม่มากหรอกที่จะเต็มใจเปลี่ยนแปลงหรือทําลายสิ่งที่เขาได้รับมอบมาจากคนที่พวกเขารัก
“แน่นอนอยู่แล้ว ข้าไม่ได้คิดมากอะไรและในความจริงแล้วข้าเองก็ไม่รู้อะไรมากด้วย” ซานยูกล่าวอย่างไร้กังวล
ชิงสุ่ยจึงนำเอารูปแบบสยบอสูรออกมา “พี่ใหญ่ ทำไมท่านไม่ลองดูสิ่งนี้ก่อนเผื่อว่าท่านจะค้นพบอะไรได้บ้าง? พี่จินเองก็กำลังศึกษามันเช่นกัน ตัวข้าเองก็กำลังศึกษารูปแบบการก่อตัวแรกเริ่มของมัน และข้าจะรีบพัฒนาด้วยความเร็วที่สุดเท่าที่จะเป็นไปได้”
หลังจากทุกอย่างเสร็จสิ้น ชิงสุ่ยก็ได้ตรงไปยังที่พักของซานยู เขาไม่คาดคิดเลยว่าฮัว รูเหม่ยจะเป็นคู่หมั้นของซานยู้ เขาไม่เคยแม้แต่จะได้ยินข่าวลือเรื่องนี้เลย
เมื่อชิงสุ่ยเดินเข้าไปในที่พัก เขาก็ตระหนักได้ว่าประมุขอสูรอยู่ข้างในนั้นด้วย เขาตะลึงและยิ้ม “ท่านหญิง ท่านก็อยู่ที่นี่ด้วยหรือ”
“ใช่ ดูเหมือนเจ้าจะมาหาเธอมีอะไรเร่งด่วนรึ?”ประมุขอสูรลุกขึ้นยืนขณะพูด เธอพร้อมที่จะออกไป
“ไม่ ไม่มีอะไรที่สำคัญ ทำไมท่านไม่ลองให้คำแนะนำสิ่งนี้ดูล่ะ? เรามาตรวจสอบด้วยกันเถอะ”ชิงสุ่ยลาวพร้อมกับรอยยิ้ม
“ในรูปแบบสมรภูมิโลหิตคือสิ่งที่ถูกคิดค้นโดยท่าน ตัวข้าจึงต้องการที่จะผสมผสานรูปแบบอื่นเข้าไปด้วย ในขณะเดียวกันเขาก็ได้อธิบายรูปแบบสมรภูมิโดยคิดข้าฟัง จริงสิ พี่สาว ท่านไม่คิดจะเปลี่ยนแปลงมันหน่อย”ชิงสุ่ยยิ้มขณะกล่าว
“เขาบอกเจ้าครบถ้วนทุกอย่างหรือไม่?”ฮัว รูเหม่ยกล่าว
“บอกอะไรรึ?”ชิงสุ่ยกล่าวถามอย่างจริงจัง
“ช่างมันเถอะ รูปแบบนี้ถูกคิดค้นโดยข้าและประมุขอสูร จุดประสงค์ของมันถูกสร้างขึ้นมาเพื่อให้สังหารฝ่ายตรงข้ามได้อย่างรวดเร็ว โดยการสร้างรูปแบบและพลังงานที่คล้ายกับการโจมตีของเสือโคร่ง”
ฮัว รูเหม่ยยิ้มและจ้องมองชิงสุ่ย
ชิงสุ่ยส่งต่อรูปแบบสยบอสูร จากนั้นเขาก็กล่าวว่า “สิ่งเหล่านี้มีทั้งข้อดีและข้อเสีย ตัวอย่างคือมันไม่สามารถต่อสู้กับผู้ที่แข็งแกร่งกว่ามันเพียงเล็กน้อยได้ อีกทั้งมันยังไม่สามารถปะทุระเบิดพลังปราณเพื่อโจมตีคนหมู่มากได้ แต่โดยทั่วไปแล้ว พวกมันจะสมบูรณ์แบบทางด้านพลังสายเลือด ถ้าหากสายเลือดของผู้ใช้มีความอ่อนแอ มันก็จะสูญเปล่า”
“เราเองก็ตระหนักถึงเรื่องนี้เช่นกัน แต่มันจะเป็นการยากถ้าหากเพิ่มรูปแบบเข้าไปซ้อนทับ มันจะยิ่งทำให้ข้อจำกัดสูงขึ้น และยิ่งทำให้การก่อรูปแบบยากขึ้นเช่นกัน” มันเป็นเรื่องยากที่จะได้เห็นคนที่อยู่ในระดับประมุขอสูรริเริ่มการพูดคุย
“ถ้าคิดว่าพวกท่านทั้งสองคนอาจจำเป็นจะต้องรู้การตั้งค่ายพระราชวังเก้าเทวา อันที่จริงแล้วมันถือได้ว่าเป็นรูปแบบที่ค่อนข้างมีความซับซ้อนกว่ารูปแบบอื่น แต่มีหนทางหนึ่งที่จะทำมันให้สำเร็จได้ อาจจะต้องพึ่งศาสตร์แห่งประตูมายา พระราชวัง 9 เทวา เบญจธาตุ ซึ่งสิ่งเหล่านี้คือตัวแปรสำคัญที่จะเป็นตัวแก้ไขปัญหาเล็กๆน้อยทั้งหมด เราอาจจะต้องรอเวลาให้มันผสานเข้ากันอย่างสมบูรณ์แบบ ส่วนนี่คือรูปแบบผังแปดทิศ และรูปแบบกระบี่แปดทิศเทวา พวกมันทั้งสองอาจช่วยท่านได้ “
หลังจากที่พวกเขาเริ่มค้นคว้าและทำการผสมผสานมัน ชิงสุ่ยคือผู้ดำเนินการหลักในการขับเคลื่อนทุกสิ่งทุกอย่าง เขามาที่นี่เพื่อทำความเข้าใจรูปแบบสมรภูมิโลหิต ภายในเวลาเพียงแค่ 4 ชั่วโมงเท่านั้น ชิงสุ่ยก็สามารถผสมผสานส่วนพื้นฐานของรูปแบบสยบอสูรและรูปแบบสมรภูมิโลหิตได้!!
รูปแบบสยบอสูรโลหิตสำแดง!!!
รูปแบบสยบอสูรโลหิตสำแดงคือการสร้างตำแหน่งรูปแบบ มันคือหนทางในการเพิ่มพูนพละกำลังและความห้าวหาญในการต่อสู้ สิ่งที่สำคัญที่สุดคือมันจะก่อให้เกิดปราณสยบอสูร ซึ่งจะเป็นคลื่นลมปราณที่จะทำให้สายตาของศัตรูพร่ามัว และสามารถขัดขวางการรับรู้ทางจิตวิญญาณของศัตรูได้ แล้วถ้าหากใช้มันร่วมกับรูปแบบสยบอสูรแล้วล่ะก็ พลังของผู้ใช้จะเพิ่มขึ้นอีกหลายเท่า”
หญิงสาวทั้งสองคนถึงกับประหลาดใจทันทีที่เห็นมัน พวกเธอไม่คาดคิดเลยว่าคนเช่นนี้จะมีความรู้เกี่ยวกับการก่อรูปแบบ แม้แต่ประมุขอสูรเองก็รู้สึกประหลาดใจกับชิงสุ่ย เพราะว่าชายคนนี้มีความรู้มากเกินกว่าที่คนทั่วไปมี นอกจากเขาจะเป็นนักปรุงยา หมอ เขายังเรียนรู้สิ่งต่างๆได้อย่างน่ากลัวจนอาจเรียกได้ว่ายืนอยู่จุดสูงสุดของมนุษย์
หญิงสาวทั้งสองคนรับรู้ถึงแรงจูงใจของชิงสุ่ย เพราะว่าถ้าหากตำหนักยุทธ์แข็งแกร่งขึ้นล่ะก็ นิกายพระราชวังจอมอสูรก็จะแข็งแกร่งตามไปด้วย
………….
หญิงสาวทั้งสองคนก็เป็นเลิศทางด้านการก่อรูปแบบ ชิงสุ่ยจึงไม่ลังเลที่จะแบ่งปันความรู้เหล่านั้นให้กับพวกนางทั้งสองคน ไม่ว่าพวกนางจะปฏิเสธก็ตาม และในวันเดียวกันชิงสุ่ยและหญิงสาวทั้งสองก็สามารถสร้างรูปแบบใหม่เหล่านี้ได้อย่างสมบูรณ์ และพวกเขาก็จะส่งมอบรูปแบบใหม่เหล่านี้ให้กับตำหนักยุทธ์
สำหรับรูปแบบสมรภูมิโลหิต ผู้คนจากตำหนักยุทธ์ได้ฝึกฝนมันประจำ เพียงแค่พวกเขาจะต้องผสมผสานมันเข้ากับรูปแบบสยบอสูร และเพิ่มเปลี่ยนแปลงจุดตำแหน่งอีกเล็กน้อย ถึงแม้ว่าจะเป็นเรื่องยากแต่ด้วยพรสวรรค์ที่ทุกคนมีมันจึงเป็นไปได้
สวนตำหนักไร้ลักษณ์ที่เชี่ยวชาญทางด้านการลอบสังหาร ชิงสุ่ยไม่ลังเลที่จะแบ่งปันรูปแบบ 9 เทวา และรูปแบบผังแปดทิศให้กับพวกเขา ซึ่งพวกเขาก็ใช้เวลาไม่นานนะมันก็ทำให้พวกเขาเปรียบเสมือนเสือที่กำลังติดปีก
คนเหล่านี้ก็ไม่ใช่คนโง่ แต่พวกเขามองเห็นความพยายามอย่างหนักของชิงสุ่ย ทำให้พวกเขาตระหนักถึงความสัมพันธ์ระหว่างชิงสุ่ยและประมุขอสูร ถึงแม้จะไม่ชัดเจนนักในความสัมพันธ์เหล่านี้ แต่อย่างน้อยมันก็ไม่ต่างอะไรกับความสัมพันธ์ชายหญิง
ในปัจจุบันชิงสุ่ยจะใช้ทักษะย่างก้าว 9 เทวาทุกครั้งเพื่อเร่งเวลาเดินทาง และใช้เวลาที่เหลือทั้งหมดในการฝึกฝนรูปแบบ มันคือวิธีที่เร็วที่สุดที่จะเพิ่มพละกำลังของเขาให้สูงขึ้นได้ ในเวลาเดียวกันการเรียนรู้เหล่านั้นก็เพิ่มพูนปัญญาให้กับเขาอีกด้วย
แล้วเมื่อใดที่เขาเริ่มใช้ทักษะย่างก้าว 9 เทวา เมื่อผ่านไป 2 ถึง 3 ครั้งเขาก็มักจะมาโผล่ตรงท่ามกลางวงล้อมของสัตว์อสูร ซึ่งสัตว์อสูรเหล่านี้ส่วนใหญ่จะเป็นสายพันธุ์มังกรผสมและมีจำนวนมาก บางตัวก็เป็นสัตว์อสูรโบราณ ดูเหมือนว่าทวีปแห่งนี้จะมีสัตว์อสูรอยู่ทั่วไม่ว่าจะเป็นทางอากาศและบนดิน
และนี่ก็เป็นอีกครั้งหนึ่งที่เขาโชคร้ายพลัดหลงเข้าไปอยู่ท่ามกลางฝูงสัตว์อสูร และดูเหมือนว่านี่จะเป็นย่างก้าวสุดท้ายที่เขาจะทำได้ในวันนี้
“เตรียมตัวให้พร้อม” เสียงของฮัว รูเหม่ยดังขึ้น
หมีอสูรเพลิงทองคำบรรพกาล!!!
นี่คือสูงหมีอสูรเพลิงทองคำบรรพกาล แต่ละตัวนั้นมีขนาดเทียบเท่ากับภูเขาขนาดย่อม และชิงสุ่ยก็อยู่ท่ามกลางฝูงของพวกมัน ซึ่งล้อมรอบพวกเขาอยู่มากกว่า 100 ตัว
โฮกก!! โฮก!!!
เสียงคำรามของพวกมันดังสั่นสะเทือนถึงสวรรค์ ทำให้ผู้คนถึงกับหวาดกลัว
สิ่งมีชีวิตที่มีร่างกายขนาดใหญ่คล้ายกับก้อนหินแต่ภายนอกมีสีทองคล้ายกับเปลวเพลิงที่กำลังลุกโชติช่วง พวกมันพุ่งเข้าหากลุ่มของชิงสุ่ย
หมีอสูรเพลิงทองคำบรรพกาลคือสัตว์อสูรที่มีจุดเด่นอยู่ 2 อย่างคือเหล็กและไฟ ร่างกายของมันมีพลังอยู่ในระดับที่น่าหวาดกลัว การโจมตีของมันแต่ละครั้งรุนแรงเกินคำบรรยาย อีกทั้งยังผสมผสานเข้ากับลักษณะของโลหะและเปลวเพลิง ทำให้พวกมันสามารถต้านทานการโจมตีได้เกือบทุกรูปแบบ แม้กระทั่งชิงสุ่ยเองถึงกับพูดไม่ออกไม่เห็นพวกมัน
จุดอ่อนเดียวที่พวกมันมีในตอนนี้ก็คือการเคลื่อนไหวที่ช้าอย่างมาก
ปราณจักรพรรดิ!!
ชิงสุ่ยปลดปล่อยกระบวนท่าเพื่อลดพละกำลังของสัตว์อสูรหมียักษ์ไปมากกว่า 20% อีกทั้งยังลดความเร็วที่เชื่องช้าของมันอีกเท่าตัว
ตราประทับกลืนนภา!!
ตราประทับแห่งซวนเทียน!!!
ร้อยปักษาบูชาหงส์!!!
หงส์เพลิงร่ำร้อง!!!
ในตอนนี้ ชิงสุ่ยไม่กล้าที่จะให้เกิดเหตุผิดพลาดแม้แต่นิดเดียว เขาเรียกอสูรสยบมังกรออกมาในทันที สัตว์อสูรตัวนี้เคลื่อนไหวราวกับปลาที่อยู่ในน้ำ มันทั้งรวดเร็วและสามารถเคลื่อนไหวผ่านทุกสิ่งทุกอย่างไปได้ แน่นอนว่า สัตว์อสูรตัวนี้เหมาะกับการต่อต้านกับสัตว์อสูรยักษ์ที่อยู่เบื้องหน้า
เถาวัลย์อสูรกระหายเลือด!!
ชิงสุ่ยสบัดมือของเขาและสร้างเถาวัลย์อสูรจำนวนนับไม่ถ้วนออกมา เขาใช้มันเพื่อหยุดการเคลื่อนที่ของเจ้าหมีอสูรเพลิงทองคำบรรพกาล
ส่วนคนอื่นกำลังเร่งสร้างรูปแบบการก่อตัว ประมุขอสูรและ ฮัว รูเหม่ยก็เริ่มต้นเข้าต่อสู้เช่นกัน
อาวุธของพวกเธอนั้นน่ากลัวอย่างมาก ทุกครั้งที่พวกเธอขยับ จะต้องมีเศษเนื้อของสัตว์อสูรที่ถูกลอกออก มันยิ่งทำให้เสียงร้องของสัตว์อสูรดังสนั่นยิ่งขึ้น
ระเบิดเพลิงทองคำสังหาร!!
ทันใดนั้นเจ้าหมีอสูรเพลิงทองคำบรรพกาล ก็ได้ปลดปล่อยลูกบอลเพลิงระเบิดทองคำสังหาร เข้าใส่ฮัว รูเหม่ย ส่วนมือทั้งสองข้างของมันก็กำลังลุกฮือไปด้วยเปลวเพลิงทองคำที่พร้อมจะขย้ำเธอ
อย่างไรก็ตาม ดูเหมือนว่าตอนนี้ฮัว รูเหม่ยยืนนิ่งราวกับว่ากำลังตกอยู่ในภวังค์แห่งความตกตะลึง
นี่คือเคล็ดวิชาสังหารไร้ปรานีของเจ้าหมีอสูรเพลิงทองคำบรรพกาล
แม้ว่าชิงสุ่ยจะรีบเร่งเพื่อเข้าไปช่วยมากเพียงใดแต่ก็เหมือนไม่ทันเวลา เขาทำได้เพียงอย่างเดียวก็คือหยุดการเคลื่อนไหวของเจ้าหมียักษ์ตัวนั้น คลื่นพลังปราณทองคำของเขากำลังพ่วยพุ่งออกมาจากตัวของเขาและพุ่งไปทางเจ้าหมีอสูรเพลิงทองคำบรรพกาล ในขณะเดียวกัน เงาสีแดงก็พุ่งเข้าใส่ฮัว รูเหม่ย ซึ่งกระสุนเพลิงที่ยิงออกไปนั้นก็ปะทะเข้ากับเงาสีแดงเข้าอย่างจัง
ซานยู้!!!
ชิงสุ่ยรีบทะยานอย่างสุดกำลังเพื่อเข้าโจมตีขวางกั้นสัตว์อสูรที่เข้าโจมตีซานยู้ ส่วนตัวของซานยู้นั้นรับเอาพลังระเบิดเพลิงทองคำสังหารเข้าอย่างจัง จนร่างกายของเขานั้นคล้ายกับว่าวที่ถูกตัดขาดและค่อยๆร่วงหล่นสู่พื้นดิน พร้อมกับเลือดกลบปาก เลือกของเขาค่อยๆหลั่งไหลชโลมชุดเกราะปราการศึกที่เขาสวมใส่
“ซานยู้!!!”
ฮัว รูเหม่ยฟื้นคืนสติและรีบพุ่งทะยานเข้าหาซานยู้อย่างรวดเร็ว น้ำตาของเธอค่อยๆเอ่อล้นเต็มใบหน้า
ส่วนทางด้านชิงสุ่ยนั้น เขาพุ่งทะยานเข้าปะทะกับหมีอสูรเพลิงทองคำบรรพกาลทันที
กรงเล็บหงษ์เพลิงพิฆาต!!!
นิ้วมือทั้งสองข้างของชิงสุ่ยเรืองแสงสีทองเป็นประกายขณะที่เขาเข้าห้ำหั่นจับหมีอสูรทองคำ เขาโจมตีมันด้วยพละกำลังอันมหาศาล ภาพเบื้องหน้าคือภาพฉากการต่อสู้ที่แสนงดงาม ในขณะเดียวกันเสียงดังสนั่นที่สะเทือนทั้งสวรรค์และโลกก็กำลังเกิดขึ้นจากการปะทะกันในทุกๆครั้ง
ตูม!!!!!
ทันใดนั้น ชิงสุ่ยก็ง้างหมัดของเขาและพุ่งเข้าหาหมีอสูรเพลิงทองคำบรรพกาลที่กำลังคิดลอบตลบหลังของเขา ทันทีที่หมัดของเขาเข้าปะทะอย่างจังกับตัวของเจ้าหมีอสูร ร่างกายที่เปราะบางของมันตอนนี้ก็ค่อยๆร่วงหล่นสู่พื้นดิน พร้อมทั้งหายใจรวยรินเพื่อสุดท้ายก่อนที่มันจะตาย
ตูมมมม!!!!
ทันใดนั้นร่างกายของหมีอสูรเพลิงทองคำก็ระเบิดออก
ความรวดเร็วของกระบี่ที่ประมุขอสูรเธออยู่นั้นรวดเร็วยิ่งกว่าความเร็วของปีศาจ พร้อมทั้งได้ปลดปล่อยเคล็ดวิชาสรวงสวรรค์ออกมาอย่างต่อเนื่อง
ส่วนทางด้านเต่าเฒ่าโบราณ เขากำลังเอาตัวเองเข้าปกป้องผู้อื่น ด้วยการป้องกันของเขามันมีพลังมากพอที่จะปกป้องและทนต่อการโจมตีของสัตว์อสูรร้ายทั้งหลาย ชิงสุ่ยยังคงปลดปล่อยพลังอันน่ากลัวเพื่อลดพลังของศัตรู และปลดปล่อยพลังของเขาเพื่อเพิ่มพูนพลังของฝ่ายเดียวกัน และทุกการโจมตีของเขานั้น สัตว์อสูรทั้งหลายแทบไม่อาจต้านทานพลังการโจมตีเหล่านั้นได้เลย
ชิงสุ่ยรีบโยนยาหอมมรกตทองคำให้กับฮัวรูเหม่ยในทันทีและกล่าวว่า “พี่สาว รีบนำมันให้เขากิน แล้วทุกอย่างจะดีขึ้นเอง”
ชิงสุ่ยสื่อสารกับอสูรสยบมังกรที่เขาเรียกออกมาให้ออกโจมตีด้วยพละกำลังสูงสุด ในขณะเดียวกัน สัตว์อสูรสยบมังกรที่เขาถือครองตัวนี้อาจเรียกได้ว่าเป็นสัตว์อสูรที่แข็งแกร่งที่สุดที่เขามี ในชั่วพริบตามันสามารถมองเห็นจุดอ่อนของศัตรูและสามารถสังหารโดยอาศัยจุดอ่อนของศัตรูได้อย่างทันท่วงที นอกจากสัตว์อสูรสยบมังกรตัวนี้จะมีความโดดเด่นทางด้านพลังแล้วความเร็วของมันยังน่ากลัวไม่แตกต่างกัน