ฉินชิงและฉินป่ายฟงตะลึงอย่างมาก เมื่อเห็นการเคลื่อนไหวของชิงสุ่ย เขานั้นเป็นผู้เชี่ยวชาญในการวาดภาพ อย่างแท้จริง ยิ่งไปกว่านั้นฉินป่ายฟงนั้นแสดงท่าทางที่ตกใจออกมามากว่าใครคนอื่นๆ นั่นเพราะภาพที่เขาวาดออกมานั้นก็ดูเหมือนลูกสาวของเขาอย่างมาก
ในตอนนี้ฉินชิงนั้นสามารถสัมผัสได้ถึงสายตาของพ่อกับเธอที่ตกตะลึงอย่างมาก เธอไม่ได้คาดหวังให้ผู้ชายคนนี้จะสามารถวาดรูปของเธอได้อย่างสมจริง
ตอนท้ายสุดท้ายชิงสุ่ย ได้เขียนที่ข้างภาพของเธอด้วยคำว่า ‘งดงามราวเทพธิดา’
มีไม่อะไรมากมายนักในตัวอักษรของเขา มันดูธรรมดาอย่างมาก แต่ในทางตรงกันข้าม มีมันก็แฝงไปด้วยความสง่างาม และละเอียดอ่อนในเวลาเดียวกัน มันยิ่งสร้างความประทับใจให้ฉินป่ายฟงอย่างมาก
ในขณะที่เขาวางฟู่กันลง แล้วเงยหน้าขึ้นมองดูไปที่คนอื่น ชิงสุ่ยได้หัวเราะออกมา “ท่านลุง่ภาพวาดของข้าเป็นยังไงบ้าง?”
“เยี่ยมยอดเยี่ยมอย่างมาก ไม่เลวๆข้าชอบเจ้าจริงๆ “
ในตอนนี้เขานั้นไม่ได้โกหกแม้แต่น้อย เขานั้นชื่นชอบชิงสุ่ยเป็นอย่างมาก ชิงสุ่ยนั้นมีทั้งความแข็งแกร่งแความชำนาญทั้งในการวาดภาพ และยังมีทักษะในการประดิษฐ์ตัวอักษร ยิ่งไปกว่านั้นเขายังไดยินมาว่าชิงุส่ยนั้นยังเป็นหมอที่เก่งกาจอีกด้วย
และเหนือไปกว่านั้นยังมีความจริงที่ว่าลูกสาวของเขาเป็นคนที่นำชิงสุ่ยกลับมาที่บ้านอีกด้วย เขานั้นดีว่าลูกสาวของเขานั้นมีมาตรฐานสูงอย่างมากๆจนไม่มีใครเลยที่สามารถต้องตาเธอได้ คนที่จะสามารถเอาชนะใจเธอได้นั้นต้องเป็นคนที่ดีพร้อมในทุกๆด้าน นั้นจึงทำให้เขารู้ได้เลยว่าชิงสุ่ยนั้นต้องไม่ใช่คนธรรมดาทั่วไป
…
เคยมีผู้คนมากมายที่มาสู่ขอเธอ แต่ก็ไม่มีใครเลยที่เธอนั้นตกลงด้วย ถึงแม้โลกแห่งนี้จะมีการแต่งานเพื่อผลอำนาจอยู่ แต่ถึงอย่างไรมันก็ไม่มีผลอะไรเลยกับตระกลของเธอ ด้วยความแข็งแกร่งที่ยกจะมีใครต่อกร ทำให้ตระกูลฉินนั้นไม่จำเป็นต้องทำเช่นนั้น ยิ่งไปกว่านั้นด้วยความสามารถที่ฉินชิงมีมันให้ผู้ชายคนอื่นๆ รู้สึกด้อยค่าและไม่คู่ควรกับเธอ
ถึงแม้ว่าฉินป่ายฟงนั้นจะต้องการให้เธอแต่งงานและมีครอบครัวสักเท่าไร แต่เธอนั้นก็ไม่เคยสนใจมัน จนทำให้เขานั้นคิดว่าบางทีเธอนั้นอาจะไม่ได้แต่งงานก็ได้ และไม่สามารถทำตามความหวังของภรรยาที่ล่วงลับไปแล้วของเขา
ในตอนนี้สิ่งที่เขาเป็นห่วงที่สุดก็คือลูกสาวคนนี้ของเขา นั้นเพราะหากเกิดเป็นอะไรกับเขา เธอนั้นต้องถูกตระกูลใหญ่ๆอื่นๆบีบบังคบเธอให้แต่งงานกับผู้ชายที่เธอไม่ได้รักอย่างแน่นอน
นอกเหนือจากนี้ด้วยนิสัยที่เธอมีทำให้เธอนั้นก็มีเพื่อนน้อยมาก แต่ถึงอย่างเธอนั้นก็มีพี่น้องที่ดีและรักเธอ
ดังนั้นเขาจึงดีใจอย่างมาก ที่เห็นเธอกลับมาพร้อมชิงสุ่ย นี่เป็นครั้งแรกที่เขาได้เห็นลูกสาวของเขาพาผู้ชายคนหนึ่งกลับมาที่บ้าน มันจึงทำให้เขามีความสุขอย่างที่สุด
…….
ในตอนแรกชิงสุ่ยนั้นรู้สึกแปลกใจอย่างมาก ที่บรรดาครอบครัวของฉินชิงนั้นยอมรับเขาได้อย่างง่ายดาย โดยเฉพาะฉินป่ายฟงที่กล่าวออกมาเลยว่าเขานั้นต้องการสนับสุนนชิงสุ่ย
“มั่นใจได้เลยท่านลุง ข้าจะดูแลลูกสาวของท่านให้ดีที่สุด และจะไม่ปล่อยให้ใครรังแกนาง”ชิงุส่ยกล่าวเบาๆด้วยรอยยิ้ม
ฉินป่ายฟงหัวเราะและตกมืออกมาด้วยความพึงพอใจ “ดีๆมาก! ชิงเอ๋อ ไปบอกคนอื่นว่าวันนี้เราจะมีงานเลี้ยงกัน ยิ่งไปกว่านั้นข้าจะได้แนะนำชิงสุ่ยให้พวกเขารู้จัก!”
“ท่านพ่อหยุดได้แล้ว มันไม่ใช่อย่างที่ท่านคิด”ฉินชิงไม่รู้ว่าจะต้องร้องไห้หรือหัวเราะออกมาดีในตอนนี้
“ข้ารู้แล้ว แต่ถึงอย่างไรข้าก็อย่างให้ทุกๆคนได้พบกับชิงสุ่ย” ในตอนนี้นี้เขาดูเหมือนจะเชื่อคำพูดของฉินชิงเท่าไร นั้นเพราะในตอนนี้ชิงสุ่ยนั้นเปรียบได้ดังแสงแห่งความหวังของเขาที่มีอยู่น้อยนิด
ในตอนนี้ฉินชิงได้แต่เดินออกไปและถอนหายใจ ขณะนี้เหลือไว้เพียงชิงสุ่ยและฉินป่ายฟง
ขณะนี้ชิ่งสุ่ยได้นั่งลงข้างๆฉินป่ายฟงและเทชาให้กับเขา“ชิงสุ่ยนี้เจ้ามั่นใจมากมั้ยว่าเจ้าชอบชิงเอ๋อ?”ฉินป่ายฟงกล่าวถามออกมาอีกครั้ง เมื่อไม่มีใครรอบๆตัวของเขา
“ใช่ข้าชอบนางจริงๆ ข้าจะปกป้องนางด้วยทุกๆอย่างแม้จะต้องแลกด้วยชีวิตของข้า ถึงแม้มันจะเป็นการกระทำที่โง่เขลาข้าก็ยินดีที่จะทำมัน”ชิงสุ่ยกล่าวออกมาด้วยความจริงใจ
“ดี ข้าชอบคนเช่นเจ้า เจ้ามีความกล้าและเป็นคนตรงไปๆมาอย่างมาก”ฉินป่ายฟงยิ้มขณะที่จิบชา
“อันที่จริง ท่านลุง ข้านั้นแข็งแกร่งอยู่ระดับหนึ่ง ในทวีปแห่งนี้มีเพียงผู้คนไม่กี่คนเท่านั้นที่จะทำอะไรข้าได้ “
“ข้ารู้ดี เจ้าเป็นชายหนุ่มที่โดดเด่นที่สุดเท่าที่ข้าเคยเจอมา และดูเหมือนว่าเจ้าและชิงเอ๋อนั้นจะเข้ากันได้ดีอย่างมาก โอ้ใช่แล้ว จริงรึไม่ที่เจ้านั้นเป็นหมอ? “ฉินป่ายฟง ถามออกมาด้วยความสนใจ
“ใช่ ข้านั้นเป็นหมอ แต่ไม่ได้เก่งกาจมากนัก!”ชิงสุ่ยตอบด้วยความอ่อนน้อม
“ความอ่อนน้อมเป็นสิ่งที่ดีๆ แต่มันก็ขึ้นอยู่กับสถานการณ์ ไหนลองบอกข้าอีกครั้งสิ….”
“เอิ่ม ทักษะทางการแพทย์ของข้านั้นพิเศษอย่างมาก และหายากอย่างมาก”
“พี่หญิง เขาคือใครรึ? เขาดูน่าสนใจอย่างมาก”ในตอนนั้นเองมีเสียงที่ดังขึ้นมาจากข้างนอกห้อง ตอนนี้มีกลุ่มกลุ่ม10คนเดินเข้ามาที่ประตู
ในกลุ่มเหล่านั้นมีผู้หญิง 4คนชาย6คน หนึ่งในผู้หญิงนั้นมีฉินชิงอยู่ด้วย สำหรับผู้ชาย6คนนั้น มีฉินจวนและฉินซานอยู่ในกลุ่มคนเหล่านั้น
สำหรับหญิงสาวที่กล่าวออกมาเธอนั้นมีอายุประมาณ20ปีเท่านั้น เธอนั้นมีอายุน้อยกว่าฉินชิง แต่ถึงอย่างไรก็ตามความงามของเธอนั้นไม่ได้ด้อยกว่าฉินชิงเลย
ในตอนนี้ฉินชิงได้เริ่มแนะนำอีกตัวอีกครั้ง ในกลุ่ม10คนนั้น มี2คนที่เป็นภรรยาของฉิงป่ายฟง และมีที่เหลือนั้นคือลูกๆ ของเขา ถึงแม้บางคนอาจจะไม่ใช่พี่น้องแม่เดียวกัน
สำหรับผู้หญิงที่หัวเราะออกมาเธอนั้นมีชื่อว่าฉินหยิง เธอคือน้องสุดท้องของตระกูลฉิน นอกจากนี้เธอนั้นอย่างเป็นหนึ่งในสองลูกสาวของฉินป่ายฟง
ในตอนนี้ชิงสุ่ยได้มอบของขวัญให้กับทุกๆคนที่เดินเข้ามา มันทำให้ฉินชิงแอบหัวเราะออกมา ราวกับว่าในตอนนี้ชิงสุ่ยนั้นกำลังแอบติดสินบนพวกเขาอยู่
“ว้าว ภาพวาดของพี่ชิงสุ่ยงดงามอย่างมาก ท่านสามารถวาดให้ข้าได้ด้วยหรือไม่? “ฉินหยิงสังเกตภาพของฉินชิงที่วางอยู่และถามด้วยความยินดี
“แน่นอน แต่มันคงไม่สามารถงดงามได้เท่านี้”
“ทำไมรึ? ทำไมท่านจึงไม่สามารถวาดให้มันงดงามเหมือนๆกันละ? “ฉินหยิง กระพริบตาด้วยความอยากรู้
“ข้านั้นสามารถวาดภาพ พี่สาวของเจ้าออกมาได้อย่างชัดเจนแม้จะปิดตาอยู่ก็ตาม มันเหมือนกับว่ามีอะไรบางที่มองไม่เห็นซึ่งคอยชี้นำทางข้า ในขณะที่ข้าวาดภาพๆนี้ อีกอย่างหนึ่งนี่เป็นเพียงการพบเจอกันครั้งแรกของเรา ดังนั้นขาเกรงว่าตะวาดมันออกมาได้ไม่ดีพอ? “ถึงแม้ว่าคำพูดของเขาจะดูเกินจริงไปมาก แต่นี้ก็คือเรื่องจริง
“โอ้ ข้าเข้าใจแล้วท่าน แอบชอบพี่สาวของข้านั้นเอง!” ฉินหยิงกล่าวออกมาเสียงดังเพื่อให้คนอื่นๆได้รับรู้
ในมื้อเที่ยงมีคนไม่มากที่มาทานอทหารร่วมกัน นั้นเพราะมันกะทันหันมากเกินไป ทำให้บางคนนั้นไม่ทันได้เตรียมตัว จึงทำให้พวกเขาตัดสินใจที่จะมาในช่างบ่ายแทน
……..
เมื่อบ่ายมาถึง มีคนหนุ่มสาวมากว่า20คนนั้นมากที่แห่งนี้ พวกเขานั้นยังอายุน้อยกว่า ชิงหยิง มากที่สุดก็มีอายุ่ไม่เกิน40ปี มีผู้หญิง 5 คน และพวกเธอนั้นก็เป็นผู้หญิงของฉิน จวน
ผู้หญิงเหล่านี้มีความงามที่จัดได้ว่ายอดเยี่ยม ดังนั้นชิงสุ่ยจึงมอบเของขวัญเป็นยาที่ช่วยดูแลผิวพรรณให้กับพวกเธอ นี่เพียงเป็นของขวัญในการพบเจอกัน สำหรับคนอื่นๆชิงสุ่ยได้มอบยาเม็ดที่ช่วยเสริมสร้างการบ่มเพาะให้กับพวกเขา…
ของขวัญนั้นเป็นสิ่งที่ดีที่สุดในการเริ่มความสัมพันธ์ใหม่ แต่มันก็มักจะถูกนำไปใช้ในแง่ลบเสียส่วนมาก จึงทำให้บางครั้งผู้คนมักจะมองมันในแง่ลบ แต่ถึงอย่างไร มันก็ยังคงเป็นสิ่งที่ชิงสุ่ยนั้นใช้เพิ่มเริ่มต้นความสัมพันธ์ทุกๆครั้ง
“จริงสิฉินชิง ใครกันรึ เจ้าที่ต้องการให้ข้าช่วยรักษา?”
“อ่อ เขาคือท่านปู่ของข้าเอง ไปเถอะข้าจะพาเจ้าไปพบเขา “ฉินชิงหัวเราะ ขณะที่ทั้งบอกล่าทุกคน
“ข้าไม่คิดเลยว่าครอบครัวของเจ้าจะเป็นมิตรกับข้าเช่นนี้!” ชิงสุ่ยหัวเราะ
ฉินชิงรู้สึกหดหู่ใจเล็กน้อย เธอไม่ได้คาดหวังให้เรื่องมันเป็นอย่างนี้ ราวกับว่าพวกเขานั้นพยายามที่จะยกเธอให้กับชิงสุ่ยเลยก็ว่าได้ “อย่าคิดว่าข้าจะชอบเจ้าเพียงเพราะครอบครัวของข้าชอบเจ้า”
“ฮ่าๆ ชิงเอ๋อ เจ้ารู้มั้ย เจ้าดูสวยอย่างงามแม้ในยามที่เจ้าโกรธ!”
ฉินชิงกำลังจะด่ากลับไป แต่สุดท้ายเธอก็ถอนหายใจออกมา และก้าวไปข้างหน้าโดยไม่พูดกับเขา
ในไม่ช้าพวกเขาทั้งสองก็หยุดลงที่ศาลาอันประณีต มันเงียบสงบและเต็มไปด้วยกลิ่นอายของธรรมชาติ ด้านหลังของมันมีแม่น้ำสายเล็กๆไหลผ่านอยู่ตลอดเวลา
ฉินชิงเดินเข้าไปในศาลาเล็กๆ ที่ไม่ไกลจากแม่น้ำมากนัก นอกจากนี้มันยังเต็มไปด้วยต้นไม้นาๆพันธ์ เมื่อเดินเข้าไปใกล้ๆ ชิงสุ่ยพบเจอผู้ชายคนหนึ่งนั่งอยู่บนเก้าอี้ยาวและกำลังปิดตาอยู่
ชายชรานั้นมีส่วนสูงที่ไม่มากนัก แต่เต็มไปด้วยกลิ่นอายที่อันตราย ชิงสุ่ยรู้สึกได้ว่าหากเขานั้นไม่เห็นว่าเป็นชายชราที่นอนอยู่เขาคงคิดว่านี้คือสัตว์อสูรที่ทรงพลังอย่างแน่นอน
“สาวน้อยเจ้ากลับมาแล้วอย่างนั้นรึ!” เสียงที่อบอุ่นได้ดังขึ้น ขณะที่ชายชราค่อยๆลืมตาขึ้นมา
เมื่อชิงสุ่ยเห็นชายชราคนนี้ เขารู้เหมือนท้องทะเลอันกว้างใหญ่ เขานั้นเต็มไปด้วยกลิ่นอายที่ลึกลับ ที่ไม่สามารถมองเห็นได้ แต่หลังจากที่มองไปที่เขามองอย่างรวดเร็ว ชิงสุ่ยรู้ว่าเขานั้นไม่ได้ป่วย แต่เขานั้นกำลังจะตาย
ในตอนนี้ฉินชิงได้แนะนำทั้งสองให้รู้จักกัน ชายชรากล่าวออกมาอย่างเป็นมิตรอย่างมากถึงแม้จะไม่เท่ากับฉินป่ายฟงก็ตาม
“ท่านปู่ฉิน! ท่านสบายดีหรือไม่? “ชิงสุ่ยทักทายด้วยรอยยิ้ม