บทที่ 1603 – การต่อสู้ที่บ้าคลั่ง กรรไกรที่น่าสะพรึงกลัว
การโจมตีที่ดุดันพุ่งตรงเข้ามาหาชิงสุ่ย ในตอนนี้ชิงสุ่ยราวกับเรือลําน้อยที่รออยู่ท่ามกลางมหาสมุทรอันบ้าคลั่งและพร้อมจะกลืนกินเขาเข้าไปได้ทุกเมื่อ
ท่าฟาดฟันกระทิงคลั่ง!
กลุ่มก้อนเปลวเพลิงขนาดใหญ่พุ่งตรงเข้ามาหาชิงสุ่ยพร้อมกับกระบองนั้น ชายชราต้องการที่จะกําจัดชิงสุ่ยโดยเร็วที่สุด มิฉะนั้นจะเป็นตัวเขาเองที่จะถูกกําจัดแทน ไม่ต้องพูดถึงเรื่องหอคอยจักรพรรดิเลย
ตระกุลนั่วไม่อาจเสียหน้ากับเรื่องเช่นนี้ได้ นอกจากนี้โชคชะตาได้ขีดเขียนให้พวกเขา นั้นเป็นปฏิปักษ์ต่อกันดังนั้นสิ่งที่ดีที่สุดในตอนนี้คือกําจัดชายหนุ่มที่อยู่ตรงหน้าไปให้สิ้นซาก ชายชรารู้ว่าหากเขาไม่อาจสังหารชิงสุ่ยได้ในตอนนี้ก็จะมีคนมากมายที่ต้องเสียใจในอนาคต นี่จะเป็นภัยคุกคามอย่างใหญ่หลวงต่อมรดกแห่งจอมอสูร
ไม่ว่ายังไงเขาก็ต้องกําจัดชิงสุ่ยในตอนนี้ เมื่อคิดเช่นนี้เขาจึงเพิ่มพลังของตนเองไปถึงจุดสูงสุด
ปัง!
การระเบิดครั้งใหญ่เกิดขึ้นท่ามกลางแสงสีแดงที่เปล่งประกายไปทั่วท้องฟ้า ชิงสุ่ยหลบการโจมตีได้อีกครั้งในตอนนี้ แม้ว่าเขาจะเหมือนกับเรือลําน้อยลอยลําอยู่ท่ามกลางพายุแต่เขาก็รอดมาได้ทุกครั้ง
เทพอสูรพฤษภโลกา!
ทันใดนั้นกระทิงขนาดใหญ่ก็ปรากฏขึ้นตรงหน้าของชายชรา มันดูเหมือนกระทิงทุกอย่างแต่ดูดุดันและทรงพลังมากกว่า มันดูแข็งแรง สูงใหญ่ กํายําและมีเกล็ดทั่วทั้งตัวราวกับชุดเกราะเพลิง มันดูน่าสะพรึงกลัวมากยิ่งกว่ากิเลนหรือราชสีห์เพลิง และไม่ได้ด้อยไปกว่าพวกมังกรเลย
นี่คือสัตว์อสูรของชายชรา เทพอสูรพฤษภโลกา มันมีขนาดประมาณ 50 เมตรและปลดปล่อยกลิ่นอายที่ทรงพลังออกมา มันมีขนาดใหญ่กว่ามนุษย์มากแต่ก็ยังถือว่าตัวเล็กเมื่อเทียบกับสัตว์อสูรที่ทรงพลังตัวอื่นๆๆ
ชิงสุ่ยใช้เคล็ดวิชาล่าสังหารและปราณจักรพรรดิของเขาทันทีที่เทพอสูรพฤษภโลกาปรากฏตัวขึ้น สัตว์อสูรตัวนี้เป็นของชายชราและเขาก็เลือกที่จะเรียกมันออกมา
โฮก!
เสียงคํารามของมันดังขึ้นท้องฟ้า ชิงสุ่ยไม่เคยได้ยินเสียงร้องเช่นนี้มาก่อน เสียงของมันเหมือนกับวัวกระทิงแต่ขณะเดียวกันก็เหมือนกับสัตว์อสูรที่ดุร้าย
ชายชรานั้นได้รับประโยชน์มากมายจากมรดกแห่งเทพอสูรพฤษภโลกาแม้แต่สัตว์อสูรของเขา ก้เป็นกระทิงด้วยเช่นกัน ชายชราพุ่งตรงเข้ามาหาชิงสุ่ยทันทีหลังจากที่เรียกเทพอสูรพฤษภโลกาออกมา
ชิงสุ่ยเรียกหุบเขา 9 เทวาออกมาอย่างรวดเร็วเพื่อรับการโจมตีครั้งนี้เอาไว้
ปัง!
เทพอสูรพฤษภโลกาผลักหุบเขา 9 เทวาให้กระเด็นไปจากนั้นมันก็พุ่งตรงเข้ามาหาชิงสุ่ยอีกครั้ง พลังของมันในตอนนี้เพิ่มขึ้นอีกกว่า 30%
ในตอนนี้ร่างของชายชราได้ปรากฏขึ้นเหนือศีรษะของชิงสุ่ยและเขาโจมตีเข้ามาพร้อมกับเทพอสูรพฤษภโลกา
สายไปแล้วที่จะใช้หุบเขา 9 เทวาเพื่อป้องกัน ชิงสุ่ยถือง้าวทองทะลวงศัตรูของเขาเอาไว้และพึ่งตรงเข้าไปหาเทพอสูรพฤษภโลกาทันที
อสูรสยบมังกรปละชิงสุ่ยพุ่งออกไปพร้อมกันในขณะที่อสูรนรกรัตติกาลนั้นรออยู่ข้างหลัง ชายชราพุ่งตรงเข้ามาชิงสุ่ยพร้อมกับฟาดกระบองของเขาลงมา
ราชันย์กระทิงพุ่งทะยาน!
ชิงสุ่ยรู้สึกได้ถึงภัยคุกคามครั้งใหญ่ข้างหลังของเขาแต่ไม่สนใจมันในตอนนี้ ง้าวทองทะลวงศัตรูในมือของเขาแทงเข้าไปหาเทพอสูรพฤษภโลกา
ตราประทับแห่งวิหคเพลิง!
จ้าวทองทะลวงศัตรูปลดปล่อยรูปแบบนกหงษ์เพลิงสีทองออกไป เพียงพริบตามันก็พุ่งทะลุร่างกายของเทพอสูรพฤษภโลกาออกไป
ตราประทับแห่งวิหคเพลิงเป็นเคล็ดวิชาสุดท้ายที่ชิงสุ่ยเรียนรู้ได้จากรูปแบบนกหงษ์เพลิง มันเป็นเคล็ดวิชาที่สร้างความเสียหายจนถึงระดับจิตวิญญาณ หากมันใช้ได้ผลก็จะทําให้เป้าหมาย นั้นสูญเสียจิตวิญญาณของตัวเองไป
ต่อให้มันไม่ได้ผลแต่มันก็ยังสามารถใช้รบกวนศัตรูได้อย่าเบี่ยงเบนความสนใจ ดังนั้นมันจึงมีผลอย่างมากในการต่อสู้อย่างดุเดือดอย่างเช่นตอนนี้
อ้ากกกกก!
เสียงกรีดร้องแหลมดังขึ้นทันที ทันใดนั้นเทพอสูรพฤษภโลกาก็ดูเหมือนจะตกอยู่ในสภาวะแปลกๆ ราวกับว่ามันลืมเรื่องการต่อสู้ในตอนนี้ไปแล้ว ชิงสุ่ยได้เห็นสิ่งที่เกิดขึ้นด้วยสายตาตนเอง ในตอนนี้อสูรสยบมังกรใช้โอกาสนี้พุ่งเข้าไปโจมตีดวงตาทั้งสองข้างของศัตรูทันที
ตู้ม
ในเวลาเดียวกันกระบองที่อยู่ด้านหลังของชิงสุ่ยก็ฟาดตรงเข้ามาทันที ท่ามกลางท้องฟ้าที่มืดมัวนี้ก็ปรากฏแสงสีทองขึ้นมา
เกราะทองคําวชิระ!
ร่างกายของชิงสุ่ยกระเด็นไปอย่างรวดเร็วราวกับกระสุนปืนใหญ่แต่เขาไม่ได้รับบาดเจ็บใดๆ แสงสีทองที่ปรากฏขึ้นก่อนหน้านี้ได้ช่วยรับความเสียหายที่เกิดขึ้นเอาไว้ เขาหันกลับไปมองเทพอสูรพฤษภโลกาจากนั้นแววตาแห่งความสงสารก็ปรากฏขึ้นทันที
น่าเสียดายที่เทพอสูรพฤษภโลกาได้ตายไปแล้ว หากไม่อย่างนั้นก็จะเป็นเขาเองที่ต้องเจ็บปวดนี่จึงเป็นเหตุผลที่คนเราต้องตัดใจทําอะไรบางอย่างเพราะบางครั้งความใจอ่อนก็อาจจะนําไปสู่ความตายได้ อสูรสยบมังกรได้ทะลวงเข้าไปยังสมองของเทพอสูรพฤษภโลกา แม้ว่าเทพอสูรพฤษภโลกาจะรอดไปได้ในตอนนี้สิ่งที่รอคอยมันอยู่ก็มีเพียงความตายเท่านั้น
เป็นครั้งแรกที่ใบหน้าของชายชราเต็มไปด้วยความโกรธและความเสียใจ เทพอสูรพฤษภโลกา นั้นได้ติดตามชายชรามาตลอด 200 ปี ในตอนนี้มันได้ตายไปแล้วแม้ว่ามันจะใช้พลังออกมาทั้งหมดก็ตาม
ชิงสุ่ยก็รู้สึกปวดใจเช่นกัน ในชีวิตก่อนหน้าของเขา เขาเคยรู้สึกเสียใจกับการตายของสุนัขที่เขาเลี้ยงมาสองสามปี สําหรับเทพอสูรพฤษภโลกาที่อยู่กับชายชรามากว่า 200 ปี ย่อมผูกพันกันจนเหมือนคนในครอบครัว
ชิงสุ่ยถอนหายใจออกมาด้วยความโล่งอกหลังจากที่ได้สังหารเทพอสูรพฤษภโลกาไปแต่เขาก็ยังคงไม่ประมาทตอนนี้ เขาต้องยืดเวลาการต่สู้ครั้งนี้ออกไปตราบใดที่เขาทําได้ชัยชนะก็จะตกเป็นของเขา
ชายชรานั้นมีแผนการที่ต่างออกไป กระบองที่อยู่ในมือของเขานั้นได้หายไปแล้ว ในตอนนี้มันถูกแทนที่ด้วยกรรไกรสีทองขนาดใหญ่คู่หนึ่ง
เมื่อชิงสุ่ยรู้สึกได้ถึงจิตสังหารที่ส่งมาที่เขา ชายชราก็พุ่งเข้าไปหาอสูรนรกรัตติกาลทันที กรรไกรในมือของเขาแทงเข้าไปยังร่างกายของอสูรนรกรัตติกาล
โฮก!
ชายชรไม่ได้หยุดเพียงเท่านี้ กรรไกรคู่ในมือของเขาเริ่มขยับเข้าหากันและจากนั้นเสียงอันน่าสยดสยองก็ดังขึ้น ผิวหนังของอสูรนรกรัตติกาลฉีกขาดจากกันอย่างน่ากลัว ชิงสุ่ยรู้สึกตกตะลึงอย่างยิ่ง เขาพุ่งไปหาชายชราพร้อมกับอสูรสยบมังกรทันที
หุบเขา 9 เทวา!
ก่อนที่เขาจะไปถึงตัวชายชรา หุบเขา 9 เทวาของเขาก็ได้พุ่งออกไปก่อนแล้ว ในเวลาเดียวกัน ชิงสุ่ยก็เรียกอสูรอัสนี้คลั่งออกมา ในตอนนี้ชิงสุ่ยตระหนักได้ว่าชายชราผู้นี้ผ่อนเร้นพลังของตนเอง เอาไว้มากเพียงใด กรรไกรในมือของเขานั้นต้องเป็นสมบัติระดับสวรรค์อย่างแน่นอน
โชคดีที่ชิงสุ่ยเรียกอสูรอัสนีคลั่งออกมาใช้อัสนีจู่โจมทันทีและส่งอสูรนรกรัตติกาลกลับไปยัง ดินแดนหยกยุพราชอมตะ อาการบบาดเจ็บของมันนั้นไม่ได้รุนแรงนักแต่ก็ไม่ควรให้มันเสี่ยงอยู่ที่นี่ต่อไป ชายชราต้องสังหารอสูรนรกรัตติกาลอย่างแน่นอน
ชิงสุ่ยเคยคิดเสมอว่าพลังในตอนนี้ของอสูรนรกรัตติกาลสามารถเอาชนะสมบัติระดับสวรรค์ ได้อย่างแน่นอนและมันจะไม่เป็นอะไร น่าเสียดายที่ยังมีสมบัติอย่างกรรไกรทองคู่นั้นที่อยู่บนโลกใบนี้ ว่ากันว่ามันสร้างขึ้นมาจากศิลาเทพสวรรค์และหลอมด้วยสายเลือดแห่งนกหงษ์เพลิงที่แท้จริง ระดับของมันนั้นเกินกว่าสิ่งใดจะมาเทียบได้
เขาเก็บอสูรอัสนีคลั่งรวมถึงอสูรสยบมังกรกลับเข้าไป แม้ว่าชายชราจะมีกรรไกรทองของเขาที่แม้แต่อสูรสยบมังกรก็อาจจะได้รับบาดเจ็บได้ง่าย มันวิวัฒนาการมาจากสัตว์อสูรสมบัติแต่ก็ไม่ได้หมายความว่ามันจะคงกระพัน
ชิงสุ่ยมองไปที่ชายชราที่กําลังพุ่งตรงมาหาเขาพร้อมกับกรรไกรในมือ เขาควบคุมหุบเขา 9 เทวาด้วยจิตใจเพื่อใช้ป้องกันและใช้เข็มทองคําแทงเข้าไปที่ร่างกายของเขาเอง
ปลุกสายเลือดภายในร่างกายของตนเอง!
ชิงสุ่ยไม่เคยใช้มันมาก่อนแต่วันนี้ไม่เหมือนวันอื่นๆก่อนหน้านี้ วันนี้อาจจะเป็นจุดจบของชีวิตเขา โชคดีที่ความเร็วของชายชรานั้นลดลงไปมากเช่นกัน
การไหลเวียนของโลหิตภายในร่างกายของเขาเร็วขึ้น ชิงสุ่ยรู้สึกได้ว่าพลังของเขาเพิ่มขึ้นจากก่อนหน้านี้ เขากําง้าวทองทะลวงศัตรูในมือเอาไว้แน่นและพุ่งตรงเข้าไปหาชายชรา
ชิ้ง ชิ้ง!
ชิงสุ่ยถอยกลับมา ชิงสุ่ยโจมตีไปที่ชายชราอย่างต่อเนื่องและพยายามหาจังหวะสัมผัสจุดลมปราณของเขา
กดเส้นลมปราณ!
ชายชราดูเหมือนจะไม่ได้ระวังอะไรในตอนนี้ เขาคิดว่าที่ชิงสุ่ยโจมตีเขาไปทั่วก็เพราะชิงสุ่ยไม่ อาจทําอะไรเขาได้จึงพยายามหาจุดอ่อนของเขา
ชิงสุ่ยได้ตกตะลึงไปก่อนหน้านี้ดังนั้นชายชราจึงไม่ได้ประหลาดใจอะไร ลึกๆในใจของเขา เขารู้สึกกังวลบางอย่าง บางสิ่งที่เกิดขึ้นในวันนี้อาจจะเป็นวันสุดท้ายของชีวิตเขาก็เป็นได้
ชิงสุ่ยค่อยๆรวบรวมพลังของตนเอง ในตอนนี้ชิงสุ่ยได้รับบาดเจ็บกลับมาบ้างดังนั้นเขาจึงรอคอยโอกาสที่เหมาะสม แม้ว่าเขาจะได้รับบาดเจ็บแต่มันก็ไม่ได้สาหัสมากเท่าไหร่
บรรยากาศโดยรอบในตอนนี้เต็มไปด้วยความเงียบ การต่อสู้ครั้งนี้รุนแรงกว่าที่ทุกๆคนคาดคิดไว้ ฉินชิงกําลังเฝ้ามองด้วยความกังวล ทุกครั้งที่ชิงสุ่ยได้รับบาดเจ็บนางก็จะรู้สึกเจ็บปวดใจไปด้วยเช่นกัน นางก็ว่าสิ่งที่วิกฤตที่สุดจะปรากฏขึ้นตรงหน้านาง
บรรยากาศภายในหอคอยจักรพรรดิก็ตึงเครียดเช่นเดียวกัน ตระกุลนั่วก็ด้วยเช่นกันแม้ ว่าเลิงหมิงจะดูสงบนิ่งมากก็ตาม การต่อสู้ระหว่างชิงสุ่ยและบรรพบุรุษของตระกูลนั่วนั้นย่อมไม่ใช่เรื่องธรรมดา เขาติดอยู่ในภาวะที่กลืนไม่เข้าคายไม่ออก-เขาต้องการให้ตระกุลชั่วชนะแต่เขาก็ไม่อยากให้ชิงสุ่ยพ่ายแพ้ เขาไม่รู้ว่าควรจะรู้สึกเช่นใดดี
อึก!
ชิงสุ่ยกระอักเลือดออกมาอีกครั้ง กรรไกรของชายชราได้แทงเข้าไปที่ไหล่ข้างซ้ายของชิงสุ่ยและทําให้ชิงสุ่ยรู้สึกเจ็บปวดจนต้องขมวดคิ้วเข้าหากัน
ทุกๆคนในหอคอยจักรพรรดิต่างก็เสียขวัญ ดวงตาของฉินชิงเบิกกว้างขึ้น มือของนาง กําเอาไว้แน่นโดยที่ตัวเราเองก็ไม่รู้ตัวและนางก็ก้าวออกไปโดยไม่อาจหยุดตัวเองได้
“ไปตายซะ!”
กรรไกรของชายชราตรงเข้ามาที่ลําคอของชิงสุ่ย และอีกข้างนั้นก็ตรงเข้ามาที่หัวใจของชิงสุ่ย
ชิงสุ่ยตื่นตัวอย่างยิ่งในตอนนี้ เขาพุ่งถอยหลังกลับไปเล็กน้อยเพื่อหลบการโจมตีที่เกิดขึ้นนี้ ในทางกลับกันชายชราก็ตระหนักได้ว่าเขาไม่สามารถควบคุมร่างกายของตนเองได้และรู้สึกได้ว่าแขนขาของตนเองกําลังหยุดนิ่งในตอนนี้
กดเส้นลมปราณ!
การโจมตีที่ชิงสุ่ยได้เตรียมทุกอย่างเสร็จสิ้นแล้วก่อนหน้านี้ เมื่อชายชราเข้ามาในระยะ ร่างกายของชิงสุ่ยก็ปล่อยแสงออกมาอย่างต่อเนื่องและชายชราก็ได้เห็นว่ามันตรงเข้ามาที่หน้าผากของเขา ความเจ็บปวดเกิดขึ้นทันทีเมื่อสัมผัส เมื่อยื่นมือออกไปสัมผัสเขารู้สึกได้ว่ามีรูเล็กๆอยู่บนศีรษะของเขาและมันรู้สึกเจ็บปวดราวกับสมองของเขาแยกออกจากกัน
ชายชราไม่อาจต่อสู้ได้อีกต่อไป เขากุมมือทั้ง 2 ข้างที่ศีรษะของตนเอง
ในตอนแรกอสูรสยบมังกรได้ทําลายสมองของเทพอสูรพฤษภโลกาและในตอนนี้เขากําลังจะประสบพบเจอกับเหตุการณ์แบบเดียวกัน เขารู้สึกว่าตนเองกําลังจะตายและรู้สึกไม่พอใจอย่างยิ่งเมื่อเขามองไปที่ชายหนุ่มที่อยู่ตรงหน้าบาดแผลของเขาก็รู้สึกเจ็บปวดขึ้นมาจนเขาทนไม่ได้