AST
แม้ชิงสุ่ยจะรู้สึกว่าเรื่องนี้ไม่น่าจะเกี่ยวพันกับฝ่ายอื่นมากนักแต่บางครั้งมันก็มีข้อยกเว้น ไม่ว่าใครก็อาจเจอกับข้อยกเว้นเช่นนี้
“ยังไม่เป็นไรตราบใดที่พวกเขาไม่ได้แข็งแกร่งมากเกินไป มันจะไม่เป็นไร พระราชวังทะเลราชันย์ต้องแข็งแกร่งขึ้น โดยเฉพาะพวกเจ้าทั้งสอง ที่นี่อยู่ใกล้กับพระราชวังสุริยาและไม่ปลอดภัยนัก” ชิงสุ่ยกล่าวอย่างหมดหนทาง
“เจ้าไม่จำเป็นต้องกังวลมากไปบางทีพระราชวังมังกรอุดรอาจจะไม่สนใจในเรื่องเล็กน้อยเช่นนี้” มู่หยุนชิงเฉิงกล่าวอย่างใจเย็น
หญิงผู้นี้มีความงามไม่ด้อยไปกว่าอีเย่เจี้ยนเก้อเธอมีเอกลักษณ์ที่ไม่เหมือนใคร เธอมาจากเผ่านาคาเร้นลับ ชนเผ่านี้มีคนเป็นจำนวนน้อยและทุกคนอยู่ในฐานะที่สูงส่ง พวกเขาเป็นตระกูลราชวงศ์ที่อยู่ในมหาสมุทรแห่งนี้
ชิงสุ่ยนึกถึงสายเลือดของเธอตอนนี้เขาตระหนักแล้วว่าสามารถกระตุ้นสายเลือดให้กับเธอได้ ทั้งมู่หยุนชิงเฉิงและอีเย่เจี้ยนเก้ออยู่ในช่วงต้นของระดับปราณบัญชาสวรรค์พินาจขั้นสูงสุด ถ้าเขาช่วยมู่หยุนชิงเฉิงในตอนนี้ เขาอาจจะทำให้เธอบรรลุไปได้อีก
เมื่อคิดถึงวิธีนี้ชิงสุ่ยรู้สึกอยากจะลองดู หากมู่หยุนชิงเฉิงแข็งแกร่งขึ้น อีเย่เจี้ยนเก้อก็จะก้าวหน้าไปด้วย พวกเธอทั้งสองเป็นพี่น้องที่ใกล้ชิดกัน มันเป็นเรื่องดีสำหรับพวกเธอไม่ว่าใครจะแข็งแกร่งขึ้นก็ตาม
”ข้ามีวิธีที่จะช่วยยกระดับพลังของเจ้าเจ้ายินดีที่จะลองหรือไม่?” ชิงสุ่ยกล่าวโดยตรง
มู่หยุนชิงเฉิงมองดูชิงสุ่ยด้วยความประหลาดใจว”มันทำได้งั้นหรือ”
“แน่นอนนั่นเป็นเพราะพลังของสายเลือดในร่างกายเจ้า ข้าไม่รู้ว่ามันจะได้ผลกับอีเย่เจี้ยนเก้อหรือเปล่า ตอนนี้เป็นเวลาที่พวกเราต้องการพลัง เจ้าอยากจะลองไหม?”
”ตกลง”มู่หยุนชิงเฉิงพยักหน้า มีหลายครั้งที่ชิงสุ่ยคอยรักษาเธอ ดังนั้นเธอจึงไม่กลัวต่อให้ชิงสุ่ยทำอะไรกับเธอ ยิ่งไปกว่านั้น หลังจากผ่านอะไรมา เธอตระหนักดีว่าชายผู้นี้ไม่ใช่คนเลว ชายผู้นี้จะเลวได้อย่างไรในเมื่อเขาเป็นสามีของอีเย่เจี้ยนเก้อ?
เมื่อชิงสุ่ยช่วยมู่หยุนชิงเฉิงทำการกระตุ้นพลังของเธอเขาไม่ได้หลบซ่อนมันจากใคร เขาให้อีเย่เจี้ยนเก้อเฝ้าระวังอยู่ด้านนอก คราวนี้มู่หยุนชิงเฉิงสวมเพียงเสื้อผ้าบางๆ อย่างไรก็ตาม เรือนร่างที่งดงามของเธอยังคงน่าดึงดูด หน้าอกที่กระทบไปมาของเธอยกเสื้อผ้าบางๆให้แยกออก มันเผยให้เห็นรูปร่างอันไร้ที่ติซึ่งทำให้ชิงสุ่ยถึงกับคอแห้งผาก
เขาเคยเห็นเธอทั้งที่ไม่สวมเสื้อผ้ามาแล้วแต่มันก็นับว่านานมาก ตอนนี้เขาอยากที่จะถอดเสื้อผ้าของเธอออกเพื่อสัมผัสกับร่างกายอันมีเสน่ห์
ชิงสุ่ยพยายามอย่างหนักเพื่อควบคุมอารมณ์ของเขาเขาหยอกล้อมู่หยุนชิงเฉิงและสังเกตเห็นความเขินอายบนใบหน้าของเธอ
อีเย่เจี้ยนเก้อรู้ถึงเหตุผลที่ชิงสุ่ยบอกให้เธอรออยู่ไม่ไกลเขาต้องการทำให้ชัดเจนว่าไม่มีอะไรระหว่างเขากับมู่หยุนชิงเฉิง
มู่หยุนชิงเฉิงตอนนี้มีอาการที่แปลกมากภรรยาของชายคนนี้อยู่ข้างนอกและหญิงผู้นั้นก็เป็นน้องสาวของเธอ แต่ตอนนี้มู่หยุนชิงเฉิงรู้สึกราวกับว่าเธอกำลังทำอะไรบางอย่างกับคนที่เป็นของเธอ
วิธีการกระตุ้นศักยภาพยังคงผ่านการฝังเข็มยิ่งไปกว่านั้นในตอนนี้ที่ ชิงสุ่ย มีพระพุทธรูปทองคำที่เมตตากรุณาผลก็เพิ่มขึ้นเป็นสองเท่า นี่เป็นความก้าวหน้าครั้งใหญ่และมีประโยชน์มากมาย
วิธีการกระตุ้นพลังยังคงต้องใช้การฝังเข็มเนื่องจากมู่หยุนชิงเฉิงจำเป็นต้องสวมใส่เสื้อผ้าที่บางเบา เช่นั้นเธอจึงไม่ได้ใส่อะไรข้างใน
มือของชิงสุ่ยสัมผัสโดนไปที่จุดซึ่งยื่นชูชันบนหน้าอกมันเป็นความรู้สึกที่ชัดเจนมาก มู่หยุนชิงเฉิงตัวสั่น ใบหน้าของเธอเปลี่ยนเป็นสีแดงในทันที
อย่างไรก็ตามมู่หยุนชิงเฉิงไม่ได้พูดอะไรเลยเธอปล่อยเสียงคร่ำครวญที่นุ่มนวลอันไม่สามารถควบคุมได้ออกมา เธอแอบตำหนิชิงสุ่ยโดยไม่รู้ว่าชายผู้นี้เจตนาทำหรือไม่ เมื่อชิงสุ่ยทำการฝังเข็มบนหน้าเธอ เธอแทบจะไม่เห็นมามองเลย
ตอนนี้ชิงสุ่ยรู้สึกอึดอัดและไม่มั่นคงมันราวกับว่าเขากำลังใช้ประโยชน์จากเธออย่างตั้งใจ เขาจะต้องไม่พยายามอธิบายอะไร ยิ่งเขาพยายาม สถานการณ์ก็จะยิ่งเลวร้ายลง
โชคดีที่ทุกสิ่งทุกอย่างหลังจากนั้นผ่านไปอย่างราบรื่นมากแต่ถึงกระนั้นร่างกายอันงดงามที่อยู่ต่อหน้าก็ทำให้ชิงสุ่ยลุกเป็นไฟ โชคดีที่อีเย่เจี้ยนเก้ออยู่ใกล้ๆ ดังนั้นเขาจึงไม่จำเป็นต้องเก็บกดอารมณ์ไว้คนเดียว
หยดเลือดลึกลับก่อตัวขึ้นในร่างของมู่หยุนชิงเฉิงนี่คือเลือดแห่งมังกรเทวะ ชิงสุ่ยใช้เคล็ดวิชาเบิกเนตรสวรรค์และมองเห็นแก่นแท้เลือดมังกรเทวะ เขาถอนหายใจด้วยความโล่งอก ตราบใดที่สิ่งนี้ประสบความสำเร็จ ก้าวต่อไปจะบรรลุผล ชิงสุ่ยมั่นใจว่ามู่หยุนชิงเฉิงจะต้องไปถึงระดับปราณสวรรค์ศักดิ์สิทธิ์ในอนาคต
อย่างไรก็ตามเธอยังไม่ได้แข็งแกร่งขึ้นมากนักหยดเลือดนี้ในร่างกายของมู่หยุนชิงเฉิงเป็นเหมือนประกายไฟอ่อนๆเท่านั้นในตอนนี้ ถึงกระนั้นในไม่ช้ามันก็จะเติบโตเป็นเปลวไฟที่ยิ่งใหญ่ได้
ด้วยเข็มทองคำฟื้นฟูร่างกายเลือดในร่างกายของเธอก็เริ่มเดือดพล่าน ชิงสุ่ยได้ช่วยเสริมสร้างรากฐานและฟื้นฟูร่างกายของเธอถึง 2 ครั้ง เนื่องจากร่างกายที่ไม่ธรรมดาของเธอ มันจึงเป็นเหตุผลที่ชิงสุ่ยกล้าช่วยกระตุ้นพลังในสายเลือดขึ้นมา เร็วๆนี้ เธอจะต้องเผชิญกับความยากลำบากของทัณฑ์สวรรค์พินาศ และหากเธอผ่านมันไปได้ เธอก็จะบรรลุถึงระดับปราณสวรรค์ศักดิ์สิทธิ์
ก่อนที่ความยากลำบากของทัณฑ์สวรรค์พินาศจะมาถึงชิงสุ่ยพยุงมู่หยุนชิงเฉิงขึ้นมาและเดินออกไปนอกถ้ำศักดิ์สิทธิ์
ชิงสุ่ยเคยมีประสบกับทัณฑ์สวรรค์พินาศครั้งเดียวเขามักจะเต็มไปด้วยความคาดหวังกับเหตุการณ์เช่นนี้ มันเป็นเพราะแต่ละครั้ง เขามักจะได้รับพลังกลับมา ช่างน่าเศร้าที่แม้เขาจะบรรลุเคล็ดเสริมสร้างบรรพกาลขั้นที่เก้า เขาก็ยังไม่พบกับทัณฑ์สวรรค์พินาศใดๆ สิ่งนี้ทำให้ชิงสุ่ยรู้สึกเศร้าใจมาก
มู่หยุนชิงเฉิงไม่พบอุปสรรคในการฟันฟ่ามันไปเธอพยายามจนทุกอย่างสงบลง ชิงสุ่ยมีความสุขมากเมื่อเขาสัมผัสกลิ่นอายจากมู่หยุนชิงเฉิง เธอพลังเทวะแห่งเต๋าของเธออยู่ที่ประมาณ 300
สิ่งนี้ถือว่าไม่เลวแต่มู่หยุนชิงเฉิงยังไม่สามารถสัมผัสพลังของชิงสุ่ยได้ พลังของชายหนุ่มคนนี้ไม่อาจหยั่งถึงได้อย่างแท้จริง
แม้จะเป็นเช่นนั้นมู่หยุนชิงเฉิงก็ยังรู้สึกมีความสุขมาก นี่เป็นการพัฒนาที่ยอดเยี่ยม
ไม่ว่าที่ใดระดับปราณสวรรค์ศักดิ์สิทธิ์ก็เป็นสัญลักษณ์แห่งพลัง มู่หยุนชิงเฉิงรู้สึกถึงจิตวิญญาณศักดิ์สิทธิ์ในจุดตันเถียนของเธอ เธอสัมผัสได้ว่าจิตวิญญาณศักดิ์สิทธิ์ในจุดตันเถียนของเธอนั้นยังเล็ก มันค่อนข้างมีขนาดพอเหมาะ
ชิงสุ่ยเองก็มีความสุขเช่นกันอีเย่เจี้ยนเก้ออยู่ข้างๆชิงสุ่ย เมื่อเธอเห็นว่ามู่หยุนชิงเฉิงประสบความสำเร็จ เธอรู้สึกมีความสุขเช่นกัน เธอเดินเข้าไปหาและจับมือของมู่หยุนชิงเฉิงเอาไว้ หญิงทั้งสองพูดคุยกันอย่างมีความสุข ขณะที่พวกเธอเดินมาหาชิงสุ่ย
”ขอบคุณ!”.ไอลีนโนเวล.
ชีวิตของมู่หยุนชิงเฉิงได้ชิงสุ่ยช่วยเหลือไว้มากการค้นพบครั้งนี้ก็เป็นสิ่งที่เขาทำให้เธอ จิตวิญญาณศักดิ์สิทธิ์เป็นความสามารถของชนเผ่านาคาเร้นลับบรรพกาล
นาคาเร้นลับบรรพกาล: เพิ่มพลังป้องกันทั้งหมดขึ้น 6 เท่า เพิ่มความสามารถของทักษะขึ้น 1 เท่า จะไม่ได้รับผลจากสิ่งยั่วยวนและสร้างภูมิต้านทานพิษ พลังจะเพิ่มขึ้น 50% เมื่ออยู่ในน้ำ สามารถยกระดับได้
ด้วยการพัฒนาครั้งนี้มู่หยุนชิงเฉิงแข็งแกร่งขึ้นกว่าเดิมมาก ภายใต้ผลของเคล็ดวิชาสรวงสวรรค์ ความสามารถของเธอเพิ่มสูงขึ้น พลังเทวะแห่งเต๋าของเธออยู่ที่ประมาณ 600 และหากอยู่ในน้ำจะอยู่ที่ 900
มันน่ากลัวพอสมควรการรับรู้ถึงพลังอันยิ่งใหญ่ที่มีทำให้มู่หยุนชิงเฉิงรู้สึกพูดไม่ออก ไม่มีสิ่งใดในโลกนี้ที่ยิ่งใหญ่กว่าพลัง
”ไม่จำเป็นต้องสุภาพพวกเราเป็นสหายกัน นี่คือสิ่งที่ข้าสามารถทำได้และข้าไม่ได้เหนื่อยยากอะไร” ชิงสุ่ยส่ายหัวและกล่าว
“เอาหล่ะพวกเจ้าสองคนควรเลิกสุภาพต่อกัน มาเถอะ นี่คือวันที่ควรค่าแก่การฉลอง พวกเราเอาอาหารมาเลี้ยงฉลองพี่สาวชิงเฉิงกัน”
ทั้งสามคนกลับไปที่ถ้ำศักดิ์สิทธิ์
สถานที่แห่งนี้เป็นที่พักของหญิงทั้งสองพวกเธอใช้เวลาอยู่ที่เป็นส่วนใหญ่ ตราบใดที่พระราชวังทะเลราชันย์ปลอดภัยดี พวกเธอจะอยู่ที่นี่ ชิงสุ่ยมีห้องสำหรับตัวเองและหญิงทั้งสองก็มีห้องส่วนตัวเช่นกัน สำหรับอีเย่เจี้ยนเก้อ ที่นี่คือบ้านหลังเล็กของเธอ
บรรยากาศนั้นดีมากหญิงทั้งสองพูดคุยกันไม่ขาดสาย หัวข้อส่วนใหญ่จะเกี่ยวกับสิ่งต่างๆภายในแดนทะเลน้ำเเข็ง ตอนนี้ชิงสุ่ยรู้ว่ามู่หยุนชิงเฉิงรู้เรื่องในมหาสมุทรมากมายและดูเหมือนว่าเธอจะรู้หลายสิ่งหลายอย่างภายในแดนทะเลน้ำเเข็งอุดรเป็นอย่างดี
หลังจากเสร็จการกินฉลองชิงสุ่ยถูกปล่อยทิ้งไว้ หญิงทั้งสองดูเหมือนจะมีหลายอย่างที่อยากจะพูดคุยกัน พวกเธอเดินเข้าไปในห้องกันสองคน ชิงสุ่ยรู้สึกกระวนกระวายและทำได้เพียงแค่รอ
โชคดีที่ไม่นานนักอีเย่เจี้ยนเก้อก็กลับไปที่ห้องของเธอเมื่อเธอมาถึงห้อง เธอก็ถูกโอบกอดด้วยมืออันคุ้นเคย นั่นจะเป็นใครไปไม่ได้นอกจากชิงสุ่ย
ชิงสุ่ยจูบลงไปบนริมฝีปากอันนุ่มนวลของเธอเขาทำมันอย่างตะกละตะกลาม มือของเขาเปลื้องผ้าของเธอออกอย่างเชี่ยวชาญ
”ชิงสุ่ยพี่สาวชิงเฉิงอยู่ห้องข้างๆ” อีเย่เจี้ยนเก้อกล่าวอย่างรวดเร็วด้วยเสียงนุ่มๆ
“แล้วมันทำไมหล่ะ?นางไม่สามารถหยุดสิ่งที่พวกเราทำได้ ใช่หรือไม่?” ชิงสุ่ยยิ้มและกล่าวพร้อมกับจูบเธออีกครั้ง
คราวนี้อีเย่เจี้ยนเก้อไม่ต่อต้านอีกต่อไปเธอจูบกลับ อย่างไรก็ตามเธอทำให้แน่ใจว่าจะไม่ทำเสียงใดๆเกิดขึ้น
ที่จริงแล้วเมื่อผู้ฝึกตนฝึกฝนไประดับหนึ่งพวกเขาจะสัมผัสถึงสิ่งที่เกิดขึ้นได้โดยไม่ต้องพยายามฟัง อย่างไรก็ตามชิงสุ่ยไม่สนใจใดๆ เขาไฟลุกโชนด้วยมู่หยุนชิงเฉิงในตอนแรก และตอนนี้เขาต้องการระบายสิ่งที่เก็บไว้กับอีเย่เจี้ยนเก้อ
อีเย่เจี้ยนเก้อพยายามอย่างหนักที่จะไม่ให้เสียงแต่บางครั้งก็ยังมีเสียงร้องออกมา ชิงสุ่ยว่าวันนี้เขาตื่นตัวเป็นพิเศษ มันไม่ใช่แค่เขา เขารู้สึกว่าอีเย่เจี้ยนเก้อก็เช่นกัน มันเป็นเพราะอีเย่เจี้ยนเก้อไปถึงจุดสุดยอดอย่างรวดเร็ว เธอใช้เวลาเพียงครึ่งเดียวของที่เคยทำ
นั่นเพราะมู่หยุนชิงเฉิงอยู่ห้องถัดไปพวกเขารู้ว่ามู่หยุนชิงเฉิงจะสามารถได้ยินเสียงและการเคลื่อนไหวในห้องนี้อย่างแน่นอนและสามารถรู้ว่าพวกเขากำลังทำอะไรอยู่
มู่หยุนชิงเฉิงมีการรับรู้ทางจิตวิญญาณที่แจ่มชัดการรับรู้ทางจิตวิญญาณของเธอสามารถทำให้เธอรับรู้ทุกสิ่งในระยะ 100 เมตร พวกเขาสะท้อนมาเป็นภาพให้เห็นได้อย่างชัดเจนภายในจิตใจของเธอ มันราวกับว่าทุกอย่างเกิดขึ้นตรงหน้าเธอ
ฉากรักของชิงสุ่ยและอีเย่เจี้ยนเก้อถูกถ่ายทอดออกมาอย่างชัดเจนต่อหน้าเธอเธอพยายามปิดตาลงตลอดเวลา แต่มันก็ไร้ประโยชน์