AST
ชิงสุ่ยและหลิงเหยียนออกเดินทางกลับมาในเวลานี้ทั้งคู่ไม่รู้สึกดีในใจมากนักที่จะได้กลับบ้านเพราะสถานการณ์ของนิกายกระบี่อสูรอมตะ นั้นยังไม่ได้ถือว่าจบลงจริงๆ ในอนาคตพวกเขาอาจกลับมาแก้แค้นก็ได้ใครจะรู้
ในอดีตชิงสุ่ยก็เคยมีเรื่องเช่นนี้มาก่อนสมัยมีปัญหากับนิกาย5พยัคฆ์แต่อย่างไรก็ตามในกรณีมันแตกต่างออกไปนิกายกระบี่อสูรอมตะเป็นนิกายที่แข็งแกร่งว่านิกาย5พยัคฆ์อย่างหลายขุม พวกเขาเป็นผู้บ่มเพาะที่อยู่ในระดับเทพและเป็นศัตรูที่ชิงสุ่ยถือว่าแข็งแกร่งที่สุดเท่าที่เขาเคยพบเจอมา
….
หลังจากที่กลับมาเมืองหลินห่ายเมืองแห่งนี้เต็มไปด้วยความคึกครื้นอย่างมาก มรตอนนี้พระราชวังจอมอสูรก็ได้ย้ายมาอยู่ที่เมืองแห่งนี้แล้วด้วย มันทำให้ชิงสุ่ยสามารถสบายใจได้ขึ้นมาเล็กน้อย ในตอนนี้ชิงสุ่ยมีแผนที่จะเดินทางไปยังพระราชวังสุริยาอีกครั้งหนึ่ง
ชิงสุ่ยและ หลิงเหยียนได้กลับมาเยี่ยมพระราชวังจอมอสูรในเวลานี้ อีกครั้งที่ชิงสุ่ยได้พบกับฮัว รูเหม่ยและ ซาน ยู ก่อนที่เขาจะใช้เวลาอยูที่นี่สองถึงสามวันก่อนที่จะเดินทางไปยัง พวกเขาใช้เวลาสองสามวันก่อนจะกลับไปที่ หอคอยจักรพรรดิ
ในตอนนี้ชิงสุ่ยไม่สามารถพักได้นานมากนักตอนนี้เขามีสิ่งที่ต้องทำมากมาย หลังจากพักอยู่ในเมืองหลินห่ายไม่กี่วันเขาได้ช่วยทำให้หยินต่งและหลิงเฟิงแข็งแกรงขึ้นอย่างมาก อย่างไรก็ตามพวกเขายังต้องการเวลาอีกสักพักใหญ่ๆเพื่อที่จะทะลวงเข้าไปอีกระดับหนึ่ง
สามวันต่อมาชิงสุ่ยได้ปรากฏตัวที่ถ้ำศักดิ์สิทธิ์มันนั้นถูกดูแลอย่างดีในเวลานี้ อย่างไรก็ตามในตอนี้ในที่แห่งนี้ชิงสุ่ยกลับไม่พบเจอหญิงสาวทั้งสอง
เมื่อมองไปที่สถานที่ที่คุ้นเคยนี้ชิงสุ่ยรู้สึกอบอุ่นในใจของเขา นี่เป็นจุดที่สำคัญมากสำหรับเขา มันเป็นจุดที่เขาได้วางธงสวรรค์ปัญจธาตุเอาไว้ และนี่ก็เป็นดังจุดเชื่อมต่อดินแดนทะเลน้ำแข็ง และทวีปอื่นๆ
ทุกอย่างในที่แห่งนี้สะอาดอย่างมากมันแทบจะไม่เปื้อนด้วยฝุ่นเลยแม้แต่น้อย บรรยากาศในที่แห่งนี้ยังเต็มไปด้วยพลังวิญญาณที่หนาแน่นเช่นดังเคย อย่างไรก็ตามก็ไม่มีใครอยู่ในที่แห่งนี้เลยสักคน
หลังจากพักซักครู่ชิงสุ่ยก็ได้รีบไปที่พระราชวังสุริยา แม้ระยะทางของที่นั้นกับถ้ำแห่งนี้ค่อนข้างไกลจากกัน แต่ด้วยความสามารถของชิงสุ่ยเขาสามารถไปถึงที่นั้นโดยเวลาเพียงแค่วันเดียว
วชิระวารี!
ชิงสุ่ยพุ่งตัวออกไปในการะแสน้ำอย่างรวดเร็วในตอนนี้ยิ่งชิงสุ่ยเข้าใกล้พระราชวังสุริยามากเท่าไหร่ หัวใจของเขาก็ยิ่งตื่นเต้นมากขึ้นเท่านั้น
เขารู้ว่าดีว่าสาเหตุนั้นเป็นเพราะเจี้ยนเก้อผู้หญิงคนนี้กลายเป็นภรรยาของเขาอย่างถูกต้องแล้ว และเป็นคนที่เขาคิดถึงที่สุดในตอนนี้ เช้าวันรุ่งขึ้นชิงสุ่ยก็มาถึงประตูทางเข้าพระราชวังสุริยาเป็นที่เรียบร้อย
ถึงแม้ว่าจะเป็นเวลาสักพักใหญ่ๆที่เขาไม่ได้มาที่นี่แต่เขาก็ยังคงเป็นผู้พิทักษ์ที่นี่อยู่ดี เขาไม่กลัวที่เดินเข้าไปผ่านประตูขนาดใหญ่เพราะเขาถือโตราของของผู้พิทักษ์พระราชวังเอาไว้ อย่างไรก็ตามเขาไม่คิดว่ายามที่เฝ้าประตูอยู่ จะจดจำเขาได้ ในเวลาพวกเขาคำนับให้ชิงสุ่ยและเปิดประตูให้เขาเข้าไป ไอลีนโนเวล
ในตอนนี้ผู้ดูและพระราชวังได้ออกมาต้อนรับเขาและส่งคนของเขาไปแจ้งนายหญิงทั้งสามในเวลานี้
นายหญิงทั้งสามมีความสุขอย่างมากเมื่อได้รับรู้การมาถึงของชิงสุ่ยพวกเธอปรากฏขึ้นตัวต่อหน้าชิงสุ่ยอย่างรวดเร็ว ในตอนนี้ความงามของพวกเขายังคงเป็นเหมือนดังเดิม เมื่อมองดูผู้หญิงที่สง่างามและมีเสน่ห์ทั้งสาม หัวใจของเขาก็เต้นถี่ขึ้นอย่างไรก็ตามในเวลานี้สายตาของเขาได้จับจ้องไปเพียงแค่เจี้ยนเก้อเท่านั้น
“เจ้ามาที่นี่ได้ยังไง!” เจี้ยนเก้อกล่าวออกมาอย่างดีใจ มีความอ่อนโยนและความอบอุ่นเล็กน้อยในคำพูดของเธอ
ชิงสุ่ยก้าวไปข้างหน้าแล้วกอดเธอไว้ในตอนนี้มันเป็นเรื่องปกติอย่างมากสำหรับพวกเขาเพราะพวกเขาเป็นสามีและภรรยากัน ในตอนนี้เจี้ยนเก้อรู้สึกอึดอัดใจเล็กน้อย เนื่องจากมู่หยุนชิงเฉิง และนายหญิงของพระราชวังสุริยานั้นอยู่ใกล้ ๆในตอนนี้
มู่หยุนชิงเฉิงยิ้มออกมาขณะที่เธอมองไปที่ชิงสุ่ยที่กำลังกอดเจี้ยนเก้ออยู่ในตอนนี้ เช่นเดียวกับนายหญิงของพระราชวังสุริยา ที่ยิ้มออหมาเหมือนกัน แต่ก็มีความผิดหวังเล็กน้อยในสายตาของเธอ
“ข้ากลับมาแล้ว ข้าคิดถึงเจ้าที่สุด” ชิงสุ่ยยิ้มกว้าง
เจี้ยนเก้อเขินอายเล็กน้อยก่อนที่เธอจะกระซิบที่ข้างหูของเขา“ข้าคิดถึงเจ้าเช่นกัน!”
หลังจากกอดกันไปครู่หนึ่งเจี้ยนเก้อก็ได้ผลักชิงสุ่ยออกไปเบาๆก่อนที่ชิงสุ่ยจะกล่าวทักเพียงทักทายนายหญิงทั้งสอง
ชชิงสุ่ยรู้สึกได้ถึงความกระวนกระวายใจจากการแสดงออกนายหญิงของพระราชวังสุริยาในขณะที่เขาทักทายพวกเธอ เขารู้ดีว่าผู้หญิงคนนี้ชอบเขามากและเธอก็สารภาพว่าเธอนั้นชอบเขามามากกว่าหนึ่งครั้งแล้ว อาจเป็นเพราะเจี้ยนเก้อได้กอดกับเขาในตอนนี้ มันจึงทำให้เธอรู้สึกเจ็บปวดหัวใจ
เจี้ยนเก้อยิ้มออกมาในความเป็นจริงเธอเข้าใจทุกๆอย่างดี ในก่อนหน้านี้เธอเคยเล่ากับนายหญิงของพระราชวังสุริยา และมู่หยุนชิงเฉิงบ้างแล้วว่าเธอไม่ใช่ผู้หญิงคนเดียวของเขา ดังนั้นพวกเธอจึงไม่จำเป็นต้องคำนึงถึงความรู้สึกของเธอมากนัก แม้ว่าคำพูดของเธอจะธรรมดาอย่างมากแต่มันกลับแฝงไปด้วยเนื้อความที่ตรงไปๆมาก ในตอนนี้เจี้ยนเก้อได้เปิดทางให้ทั้งสองคนเป็นที่เรียบร้อยแล้ว
เธอไม่ได้สนใจว่าเขาจะมีภรรยากี่คนขอเพียงเธอยังได้ความรักจากเขาเท่านั้นมันก็เพียงพอแล้ว แต่นั่นเป็นเพียงแค่ความคิดของเธอ ทั้งหมดมันขึ้นอยู่กับตัวของชิงสุ่ยเอง ไม่ว่าอย่างไรเธอก็ไม่มีสิทธิ์ไปบังคับจิตใจของเขา
ในตอนี้ชิงสุ่ยได้เดินไปที่ห้องโถงใหญ่พร้อมกับนายหญิงสามคนในเวลานี้เขาได้มองไปรอบๆราวกับกำลังสำรวจมันอยู่ ในตอนนี้ไม่มีอะไรเลยที่เปลี่ยนแปลงไปจากเก่าตั้งแต่เขาจากไป
“ไม่มีอะไรเกิดขึ้นตอนที่ข้าไม่อยู่ใช่หรือไม่!” ชิงสุ่ยถามออกมา
“ไม่เลย แต่หลังจากที่เจ้าพูดออกมา ข้าก็รู้สึกว่าถึงเวลาที่เราจะไปยังทวีปหลักได้แล้ว ชิงสุ่ยตอนนี้เราจะยังไปทวีปหลักได้แล้วหรือยัง?” เจี้ยนเก้อแสดงความคิดออกมา
“แล้วพวกเจ้าคนอยากจะไปไหม?”
ทั้งสามคนเป็นผู้บ่มเพาะขั้นสวรรค์ศักดิ์สิทธิ์ทั้งหมดด้วยความสามารถที่พวกเธอมีในตอนนี้ สถานที่แห่งนี้ไม่สามารถเพิ่มความแข็งแกร่งให้พวกเธอได้อีกต่อไป มันจึงทำให้พวกเธอนั้นกำลังหาสถานที่ใหม่ๆที่ท้าทายแล้วสามารถกดดันพวกเธอ เพื่อที่จะทำให้ตัวเองแข็งแกร่งยิ่งๆขึ้นไป
“เราคุยกันเอาไว้แล้ว พวกเรารู้สึกว่าเราจำเป็นต้องไปที่นั้น เพราะในเวลานี้สถานที่แห่งนี้ไม่สามารถช่วยเหลือหรือยกระดับให้พวกเราได้อีกต่อไป”นายหญิงแห่งพระราชวังสุริยากล่าวออกมา
ชิงสุ่ยยิ้ม“เหตุผลหลักที่ข้ากลับมาคือการเตรียมแผนการ และพาทุกคนๆไปสำรวจทะเลเหนิ เพื่อเพิ่มพูนความแข็งแกร่งของพวกเราขึ้นไปให้มากกว่านี้ เพราะข้ารู้ดีว่าในเวลานี้ที่แห่งนี้ไม่สามารถช่วยเหลืออะไรพวกเจ้าได้แล้ว”
“จริงเหรอ?” ทั้งสามกล่าวออกมาพร้อมกัน พวกเธอไม่คาดหวังว่าชิงสุ่ยจะกลับมา เพื่อนำพวกเธอไปยังทะเลเหนือ มันเหลือเชื่อจนพวกเธอไม่อยากจะเชื่อมัน
ชิงสุ่ยพยักหน้า“ข้าคิดว่าแดนทะเลน้ำแข็งหน้าจะสามารถเปิดเส้นทางร่วมได้กับทะเลเหนือ แต่ข้าก็ไม่แน่ใจเหมือนกัน เอาเป็นว่าข้าจะลองพยายามดูพร้อมๆกับพวกเจ้า”