AST
“หากมีเจ้าอยู่ใกล้ๆพวกเราก็ไม่ต้องกลัวอะไรอีกต่อไปแล้ว!” นายหญิงแห่งพระราชวังสุริยากล่าวออกมาอย่างมีความสุข
แม้ว่ามู่หยุนชิงเฉิงจะไม่พูดอะไรออกมาสักคำแต่ในสายตาของเธอก็เห็นด้วยกับคำพูดของนายหญิง มันนั้นเป็นสิ่งที่เธอต้องการจะพูดเช่นกัน ในเวลานี้ชิงสุ่ยได้แต่ยิ้มออกมา คงไม่มีชายใดที่มี่ความสุขเมื่อได้ยินคำชมเชยจากสาวงาม
“แม้ว่าเราจะออกไปยังทะเลเหนือได้ แต่ข้าจะบอกไว้ว่า แต่ไม่ใช่ว่าเราจะไปที่ไหนก็ได้ในสถานที่ข้านอก นั้นเต็มไปด้วยผู้บ่มเพาะที่แข็งแกร่งมากกมาย “ชิงสุ่ยยิ้มและพูดเบา ๆ
“ข้าเข้าใจแล้ว จริงๆแล้วข้าก็เคยไปแถวนั้นมาก่อนตอนที่ไปยังพระราชวังมังกรอุดร จะเป็นยังไงบ้างถ้าตอนนี้เราแวะไปพักที่นั้น ” เจี้ยนเก้อคิดและพูดออกมา
ชิงสุ่ยไม่ได้พูดอะไรเลยในตอนนี้หลังจากนั้นครู่หนึ่งเขากล่าวออกมาว่า“ จริงอยู่ที่ตอนนี้พระราชวังมังกรอุดรได้เข้าร่วมถูกเรากับจัดไปเรียบร้อยแล้ว อีกอย่างที่แห่งนั้นยังเป็นทำเลที่ดีอย่างมากในภูมิภาคนี้ มันน่าจะดีสำหรับเราที่จะอยู่ที่นั่น”
“ก็ดีตอนนี้ข้าเองก็อยากรู้ว่าที่แห่งนั้นเป็นยังไงบ้างแล้ว?” มู่หยุนชิงเฉิงกล่าวออกมา
“ข้าคิดว่าคงไม่เป็นไรเช่นกัน ในตอนนี้ผู้นำของที่นั้นก็ได้ยอมแพ้และจากไปแล้ว เขาคงไม่มาสร้างความวุ่นวายให้เราอีก ข้าคิดว่าคงไม่มีปัญหาใด ชิงสุ่ยแล้วเจ้าคิดอย่างไร?”
”ไม่รู้สิยังไงซะตอนนี้พวกเขาก็ไม่ใช่คู่ต่อสู้ของเราแล้ว “ชิงสุ่ยยิ้มออกมา
“ในเมื่อตอนนี้พวกเจ้าตัดสินใจกันแล้ว ก็ไปเตรียมตัวกันให้พร้อมเราจะออกเดินทางกันอีกไม่ช้า” ชิงสุ่ยไม่คิดจะผลัดวันอีกต่อไป ในตอนนี้เขาบอกให้ทุกๆคนเตรียมตัว
ในตอนกลางคืนชิงสุ่ยได้แวะไปที่ห้องของเจี้ยนเก้อ มันเป็นเรื่องธรรมดาเมื่อพิจารณาว่าพวกเขาเป็นคู่รัก เมื่อเข้าชิงสุ่ยทำได้เพียงแค่กอดเธอไว้เท่านั้น นั่นเพราะมีคนอื่นๆอยู่รอบๆคัวของพวกเขา แต่ในเวลานี้มีเพียงแค่พวกเขาสองคนเท่านั้น
ในตอนนี้เจี้ยนเก้อได้ตอบสนองความต้องการของเขาแม้ว่ามันจะเป็นเรื่องยากสำหรับเธอก็ตาม แม้เธอจะเป็นหญิงงามที่ดูบริสุทธิ์อย่างไร แต่เธอก็เป็นแค่ผู้หญิงคนหนึ่งเท่านั้น อย่างไรก็ตามเธอเป็นมนุษย์ที่เต็มไปด้วยอารมณ์ความปรารถนาและความต้องการ ก่อนหน้านี้เธอไม่เคยพบกับผู้ชายที่เธอชื่นชอบจึงทำให้เธอไม่ได้ฝักใฝ่ในมัน แต่ในตอนนี้เธอต่างออกไป เธอเป็นแค่ผู้หญิงตัวเล็กๆที่ต้องการได้รับการปรนนิบัติโดยคนที่เธอรักเท่านั้น
หลังจากที่ทั้งสองโอบกอดและจูบกันเป็นเวลานานไฟราคะในตัวของชิงสุ่ยก็ได้ถูกปลุกขึ้นอย่างสมบูรณ์ตอนนี้เขาไม่สามารถทดได้อีกต่อไป
ไอลีนโนเวล
เขาใช้มือของเขาสัมผัสไปที่หน้าอกสีขาวราวกับหิมะของเธอก่อนที่จะใช่แขนอีกข้า.โอบกอดเธอเอาไว้ก่อนที่จะค่อยๆไต่ไปทั่วๆรางกายของเธอ ในตอนนี้ดวงตาของเจี้ยนเก้อได้เปลี่ยนเป็นพร่ามัว แต่แฝงเอาไว้ซึ้งความงดงามใบหน้าที่สวยงามเปลี่ยนเป็นสีแดงอ่อนๆ ทำให้เธอดูมีเสน่ห์มากยิ่งขึ้น
ชิงสุ่ยได้ใช้เวลานี้ร่วมกับเธอจนฟ้าสว่างก่อนทีจะหยุดลงและกอดเธอไว้
เมื่อมองไปที่ใบหน้าอันงดงามที่อยู่ซุกอยู่ที่อกของเขาข้าสามารถบอกได้ถึงความพึงพอใจจากมัน ชิงสุ่ยรู้สึกว่าสิ่งนี้เป็นสิ่งที่ล้ำค่ากว่าเงินทองมากมายที่เขามี เพียงแค่เขาสามารถมีเธอในอ้อมกอดทุกๆวันเขาก็ไม่ต้องการอะไรแล้ว
ในตอนนี้ชิงสุ่ยขยับมือของเขาลูบไปทั่วร่างกายของเธออีกครั้งแต่ถูกเธอหยุดเอาไว้ก่อนที่เธอจะกล่าวว่า“ เข้ามันคนบ้ากาม ข้าไม่สามรถตอบสนองให้เจ้าได้มากกว่านี้แล้ว”
เสียงที่ใสบริสุทธิ์และอ่อนโยนของเธอเต็มไปด้วยเสน่ห์อย่างมากเมื่อชิงสุ่ยได้ยินเช่นนี้หัวใจของเขาเต้นแรงขึ้นก่อนที่เขาจะกอดเธอจนแน่น ในตอนนั้นเองพลังวิญญาณในร่างกายของเขาก็ได้ขยายตัวขึ้นอย่างฉัยพลัน
ตูม!
ดูเหมือนว่าพลังลึกลับของพวกเขาจะหลอมรวมเข้าด้วยกันในเวลานี้ชิงสุ่ยรู้สึกประหลาดใจอย่างมากราวกับว่าทะเลเเห่งปัญญาของเขากำลังเกิดคลื่นยักษ์อยู่ภายใน ราวกับว่ามีพายุนับพันได้ปากฎขึ้นในทะเลแห่งปัญญาในครั้งนี้
เจี้ยนเก้อเองก็รู้สึกแปลกๆและจ้องมองไปที่ชิงสุ่ย เนื่องจากเกิดการเปลี่ยนแปลงที่น่าประหลาดใจเกิดขึ้นภายในร่างกายของเธอเอง ความแข็งแกร่งของเธอได้พัฒนาขึ้นอย่างรวดเร็วภายในเสี้ยววินาที มันจึงทำให้เธอที่จะประหลาดใจไม่ได้ เช่นเดียวกันในตอนนี้เธอเองสามารถสัมผัสได้ถึงพลังวิญญาณของทะเลแห่งปัญญาของชิงสุ่ย
โดยไม่จำเป็นต้องคาดเดาชิงสุ่ยสามารถบอกได้ว่าตอนนี้เกิดอะไรขึ้นกับตัวเขาเองนี่เป็นช่วงเวลาที่เขารอคอยมานาน และไม่คิดว่ามันจะเกิดขึ้นในตอนนี้
ตอนนี้ดินแดนหยกได้ยกระดับขึ้นแล้วชิงสุ่ยสามารถบอกได้โดยไม่ต้องเข้าไปดูมัน เขาสามารถสัมผัสได้ถึงพลังวิญญาณของเขา ถึงมันได้เพิ่มขึ้นเป็นสองเท่าในตอนนี้ และเขาก็ยังสัมผัสได้ถึงกลิ่นอายที่ไร้ที่สิ้นสุดในตอนนี้
ระดับที่9ของดินแดนหยก!
นี่นี่เป็นระดับสุดท้ายของดินแดนหยกนี่เป็นสิ่งที่เขารอคอยมาตลอดชีวิตของเขา ในตอนนี้เขาต้องการที่จะเข้าตรวจสอบดินแดนหยกในทันที แต่ก็เห็นได้ชัดว่ามันยังไม่ใช่เวลาที่เหมาะสมมากนัก
ในตอนนี้ชิงสุ่ยได้ทิ้งทุกอย่างเอาไว้เบื้องหลังขณะที่เขาเมื่อเขาได้หันไปจูบเธอและบอกให้เธอพักผ่อนก่อนที่จะยิ้มและลุกขึ้นจากเตียงไป
เจี้ยนเก้อไม่ได้ถามอะไรเลยในตอนนี้ถึงแม้ว่าเธอจะรู้สึกประหลาดใจความเข้าหน้าที่เพิ่มขึ้นอย่างกระทันหันของเธอ แต่เธอก็ไม่ได้ถามอะไรออกมา เพราะมันไม่ใช่ครั้งแรกที่เธอเคยพบเจอกับเรื่องประหลาดเช่นนี้ ในตอนนี้ชิงสุ่ยได้ออกไปฝึกฝนในตอนเช้าเช่นดังเก่า ก่อนที่จะเข้าไปในดินแดนหยกอีกครั้ง
ชิงสุ่ยมีความพึงพอใจอย่างมากเมื่อเขาเข้าไปตอนนี้ดินแดนหยกได้ขยายตัวออกไปสองถึงสามเท่าจากครั้งก่อนนี่เป็นของยืนยันว่ามันได้ยกระดับขึ้นแล้วจริงๆ
มันเป็นไปตามที่เขาคาดการณ์เอาไว้นี่คือระดับสุดท้ายของดินแดนหยกที่เขารู้ โดยพื้นฐานมันควรจะจบลงที่ระดับนี้
ทะเลสาบก่อนหน้าได้ขยาดตัวเป็นมหาสมุทรเล็กๆแล้วโดยที่มันมีขนาดเท่ากับดินแดนหยกในระดับที่แปดก็ว่าได้ ในขณะนั้นชิงสุ่ยจะรู้สึกได้ถึงพื้นที่แห่งนี้กว้างใหญ่ไพศาลกว่าครั้งแรกที่เขาได้เข้ามามากมายนัก
อากาศรอบๆก็เต็มไปด้วยพลังวิญญาณและพลังฟ้าดินที่บริสุทธิ์อย่างมากต้นไม้และสัตว์เล็กสัตว์น้อยก็ดูเหมือนว่าจะมีขนาดใหญ่ขึ้น
ในเวลานี้เต่าอสรพิษแห่งจิตวิญญาณได้โผล่ขึ้นมาจากท้องทะเลราวกับว่ามันได้ออกมาทักทายเขาก็ว่าได้ในตอนนี้สัตว์ในท้องทะเลของเขามันได้มีอายุมากว่า10000ปีแล้ว
ในตอนนี้ชิงสุ่ยได้เหาะที่เสาจารึกขนาดใหญ่ที่ตั้งอยู่ตรงกลางมันเปลี่ยนไปเล็กน้อยเมื่อดินแดหยกเปลี่ยนไป ในตอนนี้ชิงสุ่ยคิ่อยๆอ่านสิ่งที่ถูกจารึกเอาไว้ไล่ระดับลงมา
หนึ่งสอง สาม……
เก้า…..ดินแดนหยกขึ้นที่เก้าได้ถูกเปิดออกแล้ว!
เมื่อเห็นคำเหล่านั้นชิงสุ่ยก็ยิ้มออกมาอย่างไม่รู้ตัวในที่สุดทักษะเสริมสร้างกายาบรรพกาลของเขาก็มาถึงขั้นที่เก้าอย่างสมบูรณ์แล้ว
ในความเป็นจริงชิงสุ่ยไม่เคยคิดว่าที่จะบุกทะลุชั้นเก้าได้ในตอนนี้นั้นเพราเขาแทบไม่รู้เลยว่าเขาจะต้องทำอย่างไรกับมัน ในตอนนี้ดินแดนหยกได้พัฒนามาสู่ขั้นที่เก้าเป็นที่เรียบร้อยแล้ว ตอนนี้คงสามารถกล่าวได้เต็มปากว่ามันได้การเป็นสวรรค์ที่แท้จริงโดยสมบูรณ์