AST
ตูม!
เถาวัลย์อสูรกระหายเลือดตรงเข้าใส่อีกฝ่ายพร้อมกับกลืนกินปราณของเขาในตอนนี้
ปัจจุบันทักษะเบญจธาตุนั้นการเป็นทักษะที่แข็งแกร่งที่สุดเท่าที่ชิงสุ่ยเหลืออยู่หลังจากใช่ทักษะวขิระจู่โจมออกมา นอกจากนี้มันยังกินพลังน้อยมากมาก มันจึงเป็นทักษะที่เหมาะสมกับการต่อสู้อย่างยิ่ง
เส้นทางมังกรทะยานวชิระวารี!
ในตอนนี้ชิงสุ่ยเป็นเหมือนปลาที่กำลังแหวกว่ายในน้ำในขณะที่เข้าตรงเข้าใส่ปรมาจารย์ที่สามในทันทีแม้ว่าเขาจะไม่สามารถบอกได้ว่าอีกฝ่ายนั้นแข็งแกร่งอยู่ในระดับไหน แต่จากการประเมินของเขาๆสามารถเอาชนะอีกฝ่ายได้
ในเวลานี้ชิงสุ่ยได้ระเบิดพลังทั้งหมดออกมากลิ่นอายที่ทรงพลังได้ประทุออกมาอย่างรุนแรง
ในตอนนี้ปรมาจารย์ที่สามได้รับบาดเจ็บอย่างหนักจนไม่สามารถกล่าวอะไรออกมาเขาเต็มไปด้วยความเจ็บปวดที่มหาศาล แม้เขาจะมองเห็นการกระทำทุกๆอย่างของชิงสุ่ยแต่เขากลับไม่สามารถทำอะไรได้เลย ได้เพียงแต่มองดูไปที่ชิงสุ่ยเท่านั้น
เขาไม่เคยคาดหวังว่าชิงสุ่ยจะมีความแข็งแกร่งที่มากมายขนาดนี้หากให้กล่าวเขานั้นจะเขาโชคร้ายอย่างมากที่ต้องมาสู้กับชิงสุ่ย แม้ว่าเขาจะได้ยินชื่อเสียงและความแข็งแกร่งมาก่อนแต่ก็ไม่คิดเลยว่ามันจะต่างชั้นกันขนาดนี้ เพียงแค่ช่วงเวลาสั้นๆชิงสุ่ยสามารถเติบโตขึ้นอย่างไม่คาดคิด นี่คือสาเหตุที่ทำให้เข้าพ่ายแพ้ในวันนี้
ในตอนนี้เขาจะบาดเจ็บแต่ก็ไม่ได้แรงถึงกับชีวิตเขาพยายามใส่ทุกๆอย่างเพื่อป้องกันการจู่โจมของชิงสุ่ยเอาไว้
ในความเป็นจริงเขากำลังให้รอความแข็งแกร่งของชิงสุ่ยลดลงแล้วค่อยตอบโต้ เขารู้ดีว่ายังไงแล้วการจู่โจมนั้นย้อมใช้พลังที่มหาศาลมากกว่าการป้องกัน มันจึงทำให้เขาได้แต่อดทนลงอย่างใจเย็น อย่างไรก็ตามนี้เป็นตัวเลือกที่เสี่ยงอย่างมาก หากผิดพลาดเขานั้นจะต้องตายอย่างแน่นอน
การเคลื่อนไหวของชิงสุ่ยเป็นไปอย่างเรียบง่ายแต่ก็รวดเร็วและรุนแรง ชิงสุ่ยมองดูไปที่แต่ละการจู่โจมของเขาและยิ้มออกมา เขามีความสุขอย่างมากที่สามารถผสานทักษะเบญจธาตุและทักษะ9รากฐานบรรพกาลศึกเข้าด้วยกัน ในตอนนี้มันกลายเป็นทักษะต่อสู้ที่ทรงพลังอย่างมากสำหรับเขา
การผสานระหว่างปราณกับพลังวิญญาณนั้นมีอยู่บ่อยครั้งแต่ก็มีน้อยคนที่จะสามารถทำมันได้สมบูรณ์ เนื่องจากแห่งที่ของพลังทั้งสองนั้นต่างกัน แต่อย่างไรเมื่อสามารถผสานมันเข้าด้วยกันได้สำเร็จ มันจะทำให้ผู้ใช้ได้รับพลังที่ยิ่งใหญ่ ชิงสุ่ยยิ้มออกมาหากไม่ใช่เพราะความสามารถนี้ของเขาเขาเองคงจะไม่สามารถชนะปรมาจารย์ที่สามได้
บนเส้นทางการต่อสู้การหลอมรวมของพลังทั้งสองเป็นสิ่งสำคัญอย่างมากมันเป็นเส้นทางที่จะพาผู้บ่มเพาะให้ก้าวไปถึงจุดสูงสุด กล่าวอีกในหนึ่งการหลอมรวมของพลังงานทางวิญญาณและความแข็งแกร่งนั้นเป็นวิธีการของเทพก็ว่าได้
การเปลี่ยนแปลงของชิงสุ่ยส่งผลอย่างมากต่อปรมาจารย์ที่สามในตอนนี้ปรมาจารย์ที่สามรู้สึกหลาดกลัวในตัวของชิงสุ่ยอย่างมาก ชายหนุ่มคนนี้เป็นอัจฉริยะอย่างแท้จริง แม้แต่เขาที่ได้รับความรักจากสวรรค์ก็ยังไม่สามารถเทียบได้ เขาได้แต่มองลงไปในเงาที่โง่เขล่าของตัวเอง เขารู้สึกว่าเขาไม่สมควรเลยที่จะได้รับฉายาว่าอัจฉริยะ
9รากฐานบรรพกาลศึก!
ชิงสุ่ยไม่รู้ว่าเขาใช้เวลาเท่าไรในการฝึกฝนและใช้ทักษะ9รากฐานบรรพกาลศึกหากนับเวลาในดินแดนหยกแล้วมันไม่ควรต่ำกว่า1000ปี และแล้วมันก็มาถึงขั้นสมบูรณ์แบบ
ในตอนนี้พลังของมันสามารถเทียบเทียมได้กับทักษะสังหารสวรรค์ของผู้บ่มเพาะคนอื่นๆ
9รากฐานบรรพกาลศึกนั้นเดิมทีเป็นทักษะศักดิ์สิทธิ์ยิ่งในตอนนี้ชิงสุ่ยนั้นสามารถดังศักยภาพของมันออกมาได้ถึงอย่างสมบูรณ์แบบยิ่งทำให้มันทรงพลังอย่างมาก
หลังจากตั้งรับมาอย่างต่อเนื่องในที่สุดปรมาจารย์ที่สามก็รู้สึเหนื่อยล้า แต่สำหรับชิงสุ่ยแล้ว เขายังรู้สึกสบายๆอยู่ และยังคงกระปี้กระเปร่าอย่างมาก นอกเหนือจากนั้นยังชิงสุ่ยจู่โจมเท่าไร การจู่โจมของเขาก็ยิ่งรุ่นแรงมาขึ้นทั้นนายงไปกวนนเขกลกรปกfffsdfkk,,cxv,,cxv, , ไอรีนโนเวล
เมื่อเห็นเช่นนั้นสีหน้าของปรมาจารย์ที่สามได้เปลี่ยนสีเป็นซีดขาวด้วยความกลัวแผนที่เขาวางเอาไว้ดูเหมือนจะไม่สามารถใช้ได้ในตอนนี้ ในเวลาเช่นนี้หากเจตนาการต่อสู้ของเขาจางหายไป การต่อสู้ในครั้งนี้ก็จะได้ผลสรุป
ในตอนนี้เขาได้แต่คิดถึงการตัดสินใจที่ผิดพลาดในครั้งนี้ความไร้ประโยชน์ในหัวใจของเขาทำให้เขารู้สึกหมดสิ้นทุกๆอย่าง ตอนนี้เขารู้แล้วว่าชีวิตของเขามาถึงจุดจบแล้ว แม้ว่าจะยังไม่อยากตายก็ตาม เมื่อใดก็ตามที่เขาเลิกป้องกัน นั้นก็หมายถึงว่าชีวิตของเขามาถึงจุดจบแล้ว
อย่างไรก็ตามเขายังตามเขาจะไม่ยอมตายง่ายๆในที่แห่งนี้เขาตัดสินใจที่จะใช้ทุกๆอย่างออกมา
ปราณอสูรหมาป่ามังกร!
ทันใดนั้นปราณของเขาได้รวมตัวกันก่อเกิดเป็นสัตว์อสูรที่น่าหวาดกลัวมันได้ปรากฏขึ้นข้างๆปรมาจารย์ที่สาม อสูรตัวนี้มีหัวมังกรและมีร่างกายเป็นหมาป่า ตัวของมันทีสีแดงดังเลือด นอกจากนี้ผิวของมันยังหุ้มได้ด้วยเกล็ดของมังกร มันเป็นสัตว์อสูรโบราณอย่างแท้จริง
เมื่อมองไปที่มันชิงสุ่ยรู้สึกว่ามันอาจจะเป็นการโจมตีครั้งสุดท้ายของอีกฝ่ายดังนั้นชิงสุ่ยจะไม่ประมาทเด็ดขาด
ยิ่งไปกว่านั้นชิงสุ่ยัยงรู้สึกได้ว่าการจู่โจมครั้งนี้ของอีกฝ่ายนั้นก็ดูร้ายกาจกว่าครั้งไหนๆแม้แต่ทักษะสังหารสวรรค์ของเขาก็ยังดูด้อยกว่า ในเวลานี้มันได้ผสานลงไปกับกรงเล็กของอีก กรงเล็บสีดำของเขาฉาบไปด้วยเพลิงสีแดงในเวลานี้
ทะล่วงนภา!
หุบเขาเก้าเทวา!
ชิงสุ่ยรู้สึกไม่สบายใจอย่างยิ่งภายใต้แรงกดดันจากการโจมตีในครั้งนี้ ดังนั้นเขาจึงเรียกหุบเขาเก้าเทวา
สบั้นสวรรค์!
ง้าวทองในมือชิงสุ่ยเปล่งแสงออกมาอีกครั้งที่เขาใช้กระบี่ทองผสานกับทักษะ9รากฐานบรรพกาลศึก ชิงสุ่ยได้ใช้ทุกอย่างออกมาหลังส่งหุบเขาเก้าเทวาลอยออกไป
ตูมหุบเขาเก้าเทวารับเดออกอย่างรวดเร็ว!
ชิงสุ่ยรวบรวมพลังวิญญาณของเขาเขาไม่กล้าประมาทเลยแม้แต่น้อย จากประสบการณ์ที่เขาได้รับมาตลอดชีวิตทำให้รู้ว่า เพียงก้าวเล็กๆที่พลาดไปนั้นอาจะหมายถึงชีวิตของเขา
ตูม!
การประทะในครั้งนี้ทำให้ชิงสุ่ยรู้ได้ในทันทีว่าอาวุธในมือของเขานั้นไม่ใช่ของธรรมดาจริงๆแม้แต่อาวุธในตำนานก็อาจพลังทะลายลงได้ในการประทะครั้งนี้ แต่มันกลับไม่มีรอยขีดขวนเลยแม้แต่น้อย
ในจังหวะนี้องชายวามไม่ได้ยั้งมือเขาใช้กรงเล็บแทงลงไปที่คอของชิงสุ่ยในทันที
หมาป่าขย้ำโลหิต!
เมื่อชิงสุ่ยเรียกสติกลับมาได้เขาก็เห็นกรงเล็บดังกล่าวพุ่งตรงมาที่ลำคอของเขาแล้ว แม้ว่าตอนนี้เขาจะสวมเกราะทองคำอยู่ แต่เขาก็รู้ว่ามันนั้นเป็นอันตรายอย่างมาก ความตึงเครียดได้ถาโถมเข้าใส่เขาในเวลานี้