AST
“ใครเป็นผู้นำของฝั่งนั้น ข้ามอะไรจะคุยกับเขา?” ชายผู้เป็นผู้นำพูด เสียงของเขาต่ำมาก แต่ก็ชัดเจน
เวลานี้ชิงเฉินได้ผลักชิงสุ่ยเบาๆจากด้านหลังเธอต้องการให้ ชิงสุ่ยแสดงตัวในตอนนี้
ชิงสุ่ยหันไปมองเธอและยิ้มออกมา“ในเมื่อเจ้าเป็นฝ่ายส่งจดหมายมาท้าพวกเรา ทำไมเราต้องมาพูดคุยกันอีก”
“ข้าหวังว่า การต่อสู้ครั้งนี้ของเรา จะไม่เกี่ยวข้องกับผู้บริสุทธิ์ไม่ว่าใครจะชนะ ข้าสงสัยว่าเจ้ามีความคิดเห็นอย่างไรเกี่ยวกับเรื่องนี้?” ชายคนนั้นจ้องมองมาที่ชิงสุ่ยและกล่าว
เมื่อได้ยินคำพูดเหล่านี้ชิงสุ่ยรู้ว่าฝ่ายตรงข้ามของพวกเขาก็ไม่มั่นใจในว่าจะชนะมากนักในตอนนี้ชิงสุ่ยคิดอยู่พักใหญ่ก่อนที่พยักหน้าและกล่าว“ นั่นเป็นเรื่องสมควรแล้ว”
ในความเป็นจริงมันเป็นเรื่องธรรมดาที่ผู้ชนะจะได้เป็นราชาในขณะที่ผู้แพ้จะเป็นขี้ข้าไม่ว่าข้อตกลงก่อนสงครามจะเป็นยังไง ฝ่ายแพ้ก็ไม่มีสิทธิต่อรองทั้งนั้น ที่เหลือขึ้นอยู่กับการตัดสินใจของฝ่ายชนะ
“เอาล่ะ พวกเรามาเริ่มกันเถอะ!”
หลังจากพูดจบชายคนนั้นก็เหาะขึ้นไปบนท้องฟ้าในทันทีในเวลาเดียวกันผู้เชี่ยวชาญรอบตัวเขาก็พุ่งออกมา สิ่งที่ทำให้ ชิงสุ่ยประหลาดใจก็คือฝ่ายนั้นได้ส่งคนออกมาเพียง5คนเท่านั้นในเวลานี้
เช่นเดียวกับฝังของเขาที่5คนเช่นเดียวกันในตอนนี้ชิงสุ่ยจ้องมองไปที่อีกฝ่ายเพื่อดูราดราว เพื่อดูว่าอีกฝ่ายนั้นมีแผนอะไร
ทั้งสองลอยอยู่กลางอากาศขณะที่จ้องมองซึ่งกันและกันการต่อสู้ใกล้จะปะทุขึ้นแล้วในตอนนี้
หงส์เพลิงสะบั้นศึกรัศมีแห่งเทพสงคราม เครื่องรางสวรรค์และพลังอื่นๆของเขาถูกใช้ออกมาในตอนนี้ หลังจากนั้นง้าวทองได้ปรากฏขึ้นบนมือของเขาในเวลาต่อมา อย่างไรนี่ยังไม่ใช่ทั้งหมดที่เขามี เมื่อเห็นชิงสุ่ยดึงอาวุธออกมา นี้ฝ่ายตรงข้ามของเขาก็หยิบอาวุธออกมาเช่นเดียวกัน
ในตอนนี้ชิงสุ่ยมองไปที่พวกเขาอีกครั้งในตอนนี้พวกเขาได้อยู่ในขบวนที่คล้ายรูปกากบาทโดยมีปรมาจารย์ที่สามเป็นศูนย์กลาง ก่อนที่อาวุธกรงเล็บสีดำจะปรากฏขึ้นในมือขงพวกเขา
หวู๊ๆๆๆ…
ทันใดนั้นเสียงเห่าหอนได้ดังไปทั่วบริเวณนั้นอย่างต่อเนื่อง
หมาป่ามังกรครำรวน!
ชิงสุ่ยยกคิ้วของเขาขึ้นนี่คือทักษะที่ใช่เพิ่มความสามารถของพวกเขาแม้มันจะไม่ได้ร้ายกาจเช่นทักษะที่ชิงสุ่ยมี แต่มันก็เป็นทักษะที่มีประสิทธิ์ภาพอย่างมากในการต่อสู้เป็นหมู่คณะ
ชิงสุ่ยส่ายหัวเล็กน้อยก่อนที่จะพุ่งออกไป
ตูม!
ปราณที่ได้อันแน่นไปด้วยพลังของชิงสุ่ยได้ระเบิดออกมามีนั้นอำนาจมากพอที่จะพลิกแผ่นฟ้าและยากทะเลออกจากัน ในตอนนี้ปรมาจารย์ที่สามไม่กล้ารับการจู่โจมของชิงสุ่ย ในตอนนี้ปราณรอบๆตัวของเขาได้ก่อตัวขึ้นเป็นโล่เพื่อป้องกันการโมตีของชิงสุ่ยเอาไว้
เผ่าหมาป่ามังกรนั้นมีความเชี่ยวชาญอย่างมากในการควบคุมทั้งองค์ประกอบของน้ำและดินดังนั้นพวกเขามักจะใช้พวกมันในการต่อสู้อยู่เสมอ
เมื่อการต่อสู้ปะทุขึ้นมู่หยุ่นชิงเฉิง นายหญิง และชายชราทั้งสอง ต่างพุ่งออกไปในเวลาเดียวกัน สำหรับการต่อสู้แล้วฝ่ายใดที่เป็นฝ่ายเริ่มมักได้เปรียบเสมอ เมื่อเห็นว่าฝ่ายชิงสุ่ยพุ่งเขา อีกฝ่ายก็ได้เริ่มเคลื่อนไหวอีกครั้ง รูปแบบขบวนที่พวกเขาแสดงอกมานั้นเป็นรูปที่แปลกตายอง่ามาก และชิงสุ่ยไม่เคยเห็นมันมาก่อน
รูปแบบหมาป่ามังกร! Aileen-novel
สิ่งพวกเขาทำในตอนนี้ดูคล้ายกับการสร้างรูปแบบของเขาอย่างมากนี่อาจเป็นพลังที่แท้จริงของพวกเขาที่แอบซ่อนเอาไว้ เมื่อเห็นเช่นนั้นชิงสุ่ยได้ตัดสินใจที่จะจบเรื่องนี้ให้เร็วที่สดหากเขาสามารถทำลายปรมาจารย์ที่สามได้ เขาก็สามารถทำลายรูปขบวนนั้นได้ ในเวลานี้ชิงสุ่ยควงง้าวในมืออีกครั้งก่อนที่จะพุ่งเข้าไป
วชิระจู่โจม!
ชิงสุ่ยตัดสินใจพนันทุกสิ่งทุกอย่างลงไปในการโจมตีนี้เขาต้องการดูว่า ในตอนนี้เขาจะสามารถฆ่าฝ่ายตรงข้ามได้หรือไม่ เพรานี้เป็นทักษะที่รุนแรงที่สุดของเขาแล้ว หากมันไม่สำเร็จมันคงเป็นปัญหาสำหรับเขาอย่างแน่นอน และนี่เป็นครั้งแรกที่มันถูกปลดปล่อยออกมาในช่วงต้นของการต่อสู้
ตูม!
ในทันใดที่พวกเขาประทะกันกันชิงสุ่ยได้สังเกตุเห็นว่าใบหน้าของคู่ต่อสู้ของเขาเต็มไปด้วยความตื่นตระหนกอย่างมากแต่ความตื่นตระหนกนั้นก็ยังไม่ไปถึงระดับของความหวาดกลัว ในช่วงท้ายของการจู่โจมชิงสุ่ยสามารถสัมผัสได้ว่าพลังในการจู้โจมของเขาได้ลดลงไปหลายส่วน
ดอกไม้ผลิบาน!
เช่นเดียวกันในเวลานี้ปรมาจารย์ที่สามได้ใช้ทักษะสังหารสวรรค์ของเขาออกมาเช่นเดียวกับชิงสุ่ยเขาสามารถใช้มันได้วันละครั้งเท่านั้น เดิมทีเขานั้นจะเก็บมันไว้เป็นไพ่ตายเสมอ แต่เมื่อต้องรับมือกับทักษะของชิงสุ่ยในตอนนนี้ มันจึงทำให้เขาจำเป็นต้องใช้มันออกมา
แม้ว่าทุกๆอย่างจะเป็นไปตามที่ชิงสุ่ยคาดเอาไว้แต่ผลบางส่วนก็ผิดไปจากที่เขาคิด เขาคิดว่าทักษะของเขาจะสามารถจัดการอีกฝ่ายได้ แต่มันก็ไม่เป็นไปตามนั้น อย่างไรชิงสุ่ยก็คาดไว้ว่าอีกฝ่ายจะใช้ทักษะสังหารสวรรค์เพื่อรับมือกับเขา
9รากฐานบรรพกาลศึก!
อีกครั้งที่ง้าวทองในมือของชิงุส่ยถูกฟาดออกไปที่ปรมาจารย์ที่สามอีกครั้ง
แม้ว่าตอนนี้ชิงสุ่ยจะต่อสู้กับปรมาจารย์ที่สามอยู่แต่เขาก็ไม่ได้หยุดจะมองหาจุดอ่อนของอีกฝ่าย ความแข็งแกร่งของปรมาจารย์ที่สามนั้นถือว่าแข็งแกร่งที่สุดเท่าที่เขาเคยเจอมา หากผู้พิทักษิ์ทั้งสองของพระราชวังหมาป่ามังกร ร่วมสู้กับปรมาจารย์ที่สาม ชิงสุ่ยคิดว่าคงเป็นตัวเขาที่พ่ายแพ้ในครั้งนี้ แต่ออย่างไรก็ตามตอนนี้ชายชราทั้งสองคนนั้นก็ได้กำลังต่อสู้อยู่กับมู่หยุ่นชิงเฉิงและนายหญิงแห่งพระราชวังสุริยา
แม้พวกเธอจะไม่สามารถจัดการกับพวกเขาได้แต่พวกเขาก็ไม่สามารถทำอะไรพวกเธอได้
อาวุโสจินและ โม่ ได้ต่อสู้กับคู่ต่อสู้ที่เหลืออีกสองคน คู่ต่อสู้ของพวกเขาดูไม่โดดเด่นมากนัก แต่การป้องกันของพวกเขานั้นมั่นคงเหมือนภูเขา หลังจากผ่านไปสักพักชิงสุ่ยก็พบว่าอาวุโสทั้งสองนั้นแข็งแกร่งกว่าที่เขาคิด ในตอนี้พวกเขาสามารถล้มศัตรูของพวกเขาได้แล้ว แม้ว่าจะถูกจู่โจมหลายๆครั้ง แต่พวกเขาก็ไม่ได้รับบาดเจ็บมากนักในตอนนี้
อาวุโสจินนั้นมามาจากการเผ่าเต่าวชิระอมตะดังนั้นเขาจึงมีการป้องกันที่แข็งแกร่งแม้ว่าการป้องกันของอาวุโสโม่จะไม่แข็งแกร่งเท่าอาวุโสจิน แต่เขามีความได้เปรียบอย่างมากในด้านความเร็ว ในการต่อสู้ใต้น้ำเผ่าเงือกนับสามารถใช้ประโยชน์จากกระแสน้ำได้ที่สุดแล้ว
การต่อสู้ยังคงดำเนินไปอีกพักใหญ่มันจะไม่จบลงจนฝ่ายใดหนึ่งจะตายลงไปทั้งหมด
ดังนั้นปัจจัยสำคัญของเรื่องนี้คือการประลองของชิงุส่ยกับปรมาจารย์ที่สามเพราะพวกเขาเป็นผู้บ่มเพาะที่แข็งแกร่งที่สุดของแต่ละฝ่าย ดังนั้นความกังวลทั้งหมดได้ตกลงอยู่กับพวกเขาในเวลานี้
ในเวลานี้ง้าวทองในมือของชิงสุ่ยได้หมุนวนดังมังกรสีทองทะยานไปที่หน้าอกคู่ต่อสู้ของเขา
กระบี่ทองคำ!
โล่หมาป่ามังกร!
ตูม!
เสียงระเบิดดังสนั่นออกมาในตอนนี้ ชิงสุ่ยรู้แล้วว่าปรมาจารย์ที่สามของพระราชวังหมาป่ามังกรนั้นไม่ใช่คนธรรมดา เขาสมควรแล้วกับคำว่าอัจฉริยะ แม้ว่าตอนนี้ชิงสุ่ยจะยังไม่ได้ใช่ปราณจักรพรรดิและทักษะล่าสังหาร แต่เขาก็ได้ใช้ทักษะทั้งหมดของเขาออกมาแล้ว ชิงสุ่ยประหลาดใจอย่างมากที่เขายังสามารถยืนอยู่ได้ในเวลานี้
เถาวัลย์อสูรกระหายเลือด!
พฤกษากลืนโลกา!
เถาวัลย์อสูรกระหายเลือดของชิงสุ่ยน่ากลัวอย่างมากในเวลานี้ราวกับมันนั้นมีความนึกคิดของงตัวเอง มันได้จู่โจมไปที่ปรมาจารย์ที่สามอย่างไม่มีรูปแบบ ในตอนนี้ราวกับคลื่นเถาวัลย์ขนาดใหญ่ได้โถมเข้าใสฝ่ายตรงข้าม เมื่อเห็นเช่นนั้นปรมาจารย์ที่สามได้ถอยหลังออกมาและใช้อาวุธของเขาตัดลงไปที่เถาวัลย์อสูรกระหายเลือดที่จ้องจะพันธนาการเขา