AST
ในตอนนี้เธอบาดเจ็บอย่างมากและชิงสุ่ยรู้ดีว่ากเขาปล่อยเธอลง เธอจะตายอย่างแน่นอน ดังนั้นเขาจึงไม่ฟังคำพูดของเธอและอุ้มเธอไว้อย่างนั้น “ฟังข้า พวกเขาไม่เป็นอะไรหรอก”
หลังจากเห็นสภาพของอีกฝ่ายชิงสุ่ยสามารถบอกได้ว่าชายชราคนนี้หมดโอกาสไปแล้วเรียบร้อยแต่อย่างไรเขาก็ไม่ได้ประมาทเขาได้ใช้ปราณจักรพรรดิออกมาในตอนนี้
เมื่อเห็นสีหน้าที่เป็นกังวลของชิงสุ่ยนายหญิงนั้นกลับรู้สึกมีความสุขอย่างมาก ราวกับมันคุ้มแล้วที่เธอจะต้องมาตายในวันนี้ นี่เป็นช่วงเวลาที่หัวใจของเธอรู้สึกอบอุ่นที่สุด
แม้เธอจะรู้ดีว่าเขาไม่ได้รักเธอแต่เธอนั้นได้รักเขาไปแล้ว ยิ่งไปกว่านั้นภรรยาของเขาก็ยังเป็นสหายของเธอ มันทำให้เธอได้เพียงแค่มองเขาใกล้ๆเท่านั้น บางครั้งความรักก็ไม่ได้ต้องการที่จะเป็นฝ่ายครอบครอง เพียงแค่มองดูอีกฝั่งมีความสุขก็เพียงพอแล้ว นี่คือเส้นทางที่เธอเลือก เธอเลือกที่จะเก็บเขาไว้ในใจของเธอ
อย่างไรก็ตามเธอก็เต็มไปด้วยความขมขื่นในใจเสมอเมื่อคิดถึงมัน
ดังนั้นการได้อยู่ในอ้อมกอดของเขาในตอนนี้มันนั้นคือความฝันของเธอ หากเธอต้องตายลงตรงนี้ก็จะไม่เสียใจ
สำหรับชิงสุ่ยเขาไม่ได้มีความคิดอื่นใดแฝงอยู่เขาโอบกอดไปที่เธอด้วยความเป็นห่วงและกังวลเท่านั้น อันที่จริงไม่ใช่เขาไม่ชอบเธอ เพียงแค่ชิงสุ่ยรู้สึกว่าเขาไม่เหมาะที่จะมีใครอีกแล้ว นอกเนื่องจากนั้นเขาก็ไม่อยากทำให้ใครๆเสียใจอีก ดังนั้นเขาจึงเลือกที่จะตีตัวออกห่างจากผู้หญิงทุกๆคนในตอนหลัง
ในตอนนี้การต่อสู้ก็ยังไม่จบลงชิงสุ่ยได้เข้าช่วยเหลือคนอื่นๆในตอนี้อย่างไรก็ตามเขาไม่ได้วางนายหญิงลงแต่อย่างใด เขาเพียงแค่ช่วยเสริมคนอื่นๆเท่านั้น ปราณจักรพรรดิ ทักษะล่าสังการ กฎแห่งพระราชวังเกาเทวาถูกใช้ออกมาพร้อมกัน
การเปลี่ยนแปลงครั้งใหญ่อย่างกะทันหันทำให้การต่อสู้สิ้นสุดลงอย่างรวดเร็วด้วยความต่างชั้นของพลัง (ไมมึงไม่ใช้ตั้งแต่แรกวะ???5555)
ในตอนนี้ชิงเฉิงไม่ได้รับบาดเจ็บใดส่วนทางด้านชายชราทั้งสองนั้นมีอาการบาดเจ็บเพียงแค่เล็กน้อยส่วนตัวของเขาชิงสุ่ยนั้นถือว่าได้รับบาดเจ็บสาหัส แต่โชคดีที่พิษดังกล่าวนั้นแพ้ทางให้กับหนอนไหมของเขา ดังนั้นเขาจึงไม่ต้องทำอะไร เพียงแค่ต้องรอให้หนอนไหมนั้นกำจัดพิษดังกล่าวให้หายไป อย่างไรก็ตามหากเกิดอะไรผิดพลาดขึ้น เขานั้นก็อาจตายได้ทุกเมื่อ จากชิงสุ่ยคาดการณ์เขาคงต้องใช้เวลาไม่ต่ำกว่าสามเดือนจึงจะหายดี ซึ่งนั้นเป็นเวลาที่ค่อนข้างนาน แต่โชคดีที่เขามีดินแดนหยก มันจึงทำให้เขาสามารถหายดีได้ในเวลาหนึ่งคืนเท่านั้น ไอลีนโนเวล
ในตอนนี้เจี้ยนเก้อได้เหาะมาใกล้ชิงสุ่ยที่อุ้มนายหญิงอยู่“พี่ชิงเฉินจะเป็นอะไรหรือไม่”
“ไม่ต้องกังวล นางจะไม่เป็นอะไร” ชิงสุ่ยกล่าว
“ชิงสุ่ยพาพี่ชิงเฉิงไปรักษาก่อน ? ที่เหลือให้พวกเราจัดการเอง” มู่หยุนชิงเฉิงรีบกล่าวออกมา เทื่อเห็นสภาพนายหญิง
การต่อสู้ในตอนนี้จบลงแล้วไม่จำเป็นที่จะต้องให้ชิงสุ่ยอยู่ต่อไป ในเวลานี้มันจะเป็นการดีกว่าถ้าให่ชิงสุ่ยกลับไปรักษานายหญิงที่พระราชวัง ดังนั้นมู่หยุ่นชิงเฉิงจึงรีบกล่าวออกมาด้วยความกังวล
เมื่อได้ยินเช่นนั้นชิงสุ่ยไม่รอช้าอีกต่อไปเขาได้รีบเหาะกลับไปพร้อมกับนายใหญ่ในตอนนี้
อาการบาดเจ็บของนายหญิงนั้นเกิดที่บริเวณท้องของเธอมันเป็นบาดแผลที่ร้ายแรงอย่างมาก ถ้าไม่ได้ชิงสุ่ยช่วยเอาไว้ในขั้นต้น เธออาจตายไปแล้วหรือแม้แต่สูญเสียการบ่มเพาะไป สำหรับผู้บ่มเพาะแล้วนั้นคือสิ่งโหดร้ายอย่างมาก และมันเป็นเรื่องที่ไม่สามารถทำใจได้ไม่ว่ายังไงก็ตาม สำหรับผู้ที่อยู่ในระดับเทพเช่นเดียวกับเธอ
….
ลึกๆในใจของชิงสุ่ยเขาก็ไม่ได้ต่อต้านเธอเท่าไรนัก แม้ว่าเขาจะรู้ว่าเธอชอบเขา ลึกๆแล้วเขาก็รู้สึกดีต่อเธอเช่นกัน คงไม่มีผู้ชายใด ที่ไม่ชอบสาวงาม ดังนั้นนี่อาจจะเป็นเหตุผลที่ลึกๆแล้วเขาก็ไม่ได้ต่อต้านเธอมากนัก
หลังจากการรักษาให้เธอในขั้นต้นชิงสุ่ยได้เข้าไปในแดนหยกเพื่อไปนำสมุนไพรออกมารักษากับเธอ
ตอนนี้เธอได้หลับไปแล้วก่อนหน้านี้เธอยังคงอยู่ในสภาพครึ่งหลับครึ่งตื่น แต่เมื่อรู้ว่าชิงสุ่ยกำลังดูแลอาการบาดเจ็บของเธออยู่ มันจึงทำให้เธอผ่อนคลายมากขึ้น เงาของชายผู้นี้ชัดเจนอย่างมากในใจของเธอ นี่เป็นครั้งที่สอง ที่ภาพลักษณ์ของเขาถูกสลักลงไปในใจของเธออีกครั้ง ในที่สุดเธอก็หมดสติและหลับไป แม้ว่าจะบาดเจบอย่างหนัก แต่เธอก็ยังคงมีรยยิ้มปรากฏบนใบหน้า
เมื่อชิงสุ่ยเสร็จสิ้นการรักษาเขาได้เดินออกไป พบกับเจี้ยนเก้อที่รอเขาอยู่ข้างนอกเมื่อเห็นเขาเธอความอกมาด้วยความกังวลว่า “ ท่านพี่ชิงเฉินเป็นไงบ้าง”
”ตอนนี้นางปลอดภัยแล้วนางกำลังพักผ่อนอยู่ข้างใน “ชิงสุ่ยยิ้ม
เมื่อได้ยินเช่นนั้นเจี้ยนเก้อก็เลิกล้มความคิดที่จะเข้าไป ก่อนที่จะถอนหายใจเบาๆออกมา“ คราวนี้ถึงแม้ว่าเราจะได้รับชัยชนะ แต่นี่ก็เป็นเพียงแค่จุดเริ่มต้นเท่านั้น ข้ากังวลจริงๆกับสภาพปัจจุบันของข้าๆ ไม่สามารถทำอะไรได้เลย”
ชิงสุ่ยรู้ดีว่าเธอต้องการพูดอะไรในตอนนี้เธอนั้นกำลังตั้งครรภ์อยู่ จึงไม่สามารถช่วยเหลืออะไรพวกเขาได้ มันจึงทำให้เธอรู้สึกผิดอยู่ในใจ
ครั้งนี้ถือว่าพวกเขาโชคดีอย่างมากแม้ว่าพระราชวังหมาป่ามังกรจะแข็งแกร่ง แต่มันก็ไม่ได้มากมายจนเกินไป พวกเขายังสามารับมือกับคนเหล่านั้นได้ แต่อย่างไรก็ตามในบริเวณนี้ก็ยังมีขุมอำนาจอื่นๆอยู่ มันทำให้ชิงสุ่ยอดกังวลไม่ได้ หากเกิดพวกเขาได้พวกเจอกับขุมอำนาจที่แข็งแกร่งกว่านี้ คงเป็นเรื่องยากกอย่างมากในตอนนี้ ที่จะจัดจบเรื่องลงโดยไม่เกิดการสูญเสีย ดูเหมือนว่าโลกใบนี้จะอันตรายอย่างแท้จริง การเคลื่อนไหวของพวกเขาแต่ละก้าวนั้นเป็นดังคลื่น เมื่อเกิดคลื่นออกมาย้อมเกิดการสะท้อนกลับ ดังนั้นในการก้าวแต่ละครั้งของพวกเขา หลังจากนี้คงต้องเพิ่มความระมัดระวังให้มากยิ่งขึ้น เพราะตอนนี้พวกเขาไม่สามารถเดินถอยหลังกลับไปได้อีกแล้ว
“ไม่ต้องกังวลไปข้าอยู่ที่นี่ แม้ว่าปรมาจารย์ที่สามจะไม่ใช่คนที่เก่งที่สุดของพวกเขา แต่ก็ควรอยู่ในอันดับแรก ดังนั้นพวกเขาคงไม่กล้าเสี่ยงที่จะรับมือกับความเสียหายไปมากกว่านี้แล้ว อย่างน้อยที่สุดพวกเขาก็คงจะไม่ต่อสู้กับเราในช่วงเวลาใกล้ๆนี้ “ชิงสุ่ยลูบไปที่หัวของเธอ
“ปรมาจารย์ที่สามแข็งแกร่งอย่างมากก็จริง แต่ความแข็งแกร่งของเขานั้นจัดได้อยู่ในระดับที่ห้าของพระราชวังหมาป่ามังกรเท่านั้น อย่างไรก็ตามคนที่แข็งแกร่งที่สุดกลับไม่ใช่ผู้ชายแต่เป็นผู้หญิง นางเป็นผู้เธอฝึกฝนฝ่ามือเก้าหยินศักดิ์สิทธิ์” เจี้ยนเก้อกล่าว
“ฝ่ามือเก้าหยินศักดิ์สิทธิ์?”ชิงสุ่ยกล่าวออกมาด้วยความสับสน
“มีคนเคยกล่าวเอาไว้ว่า เธอมีกายาหยินฟ้าอยู่ มันทำให้เธอนั้นแข็งแกร่งอย่างมากในผู้ฝึกฝนพลังหยิน สิ่งที่สำคัญที่สุดคือ ไม่ว่าจะชายหรือหญิง ใดก็ตามก็มิอาจต้านทานพลังหยินที่รุนแรงของเธอได้ นอกเหนือจากนี้เธอยังสามารถควบคุมพลังหญิงสร้างรูปแบจู่โจมที่ไร้รูปแบบออกมา มันจึงทำให้กลายเป็นคนที่แข็งแกร่งที่สุดของพระราชวังหมาป่ามังกร” เจี้ยนเก้อพูดด้วยน้ำเสียงวิตกกังวล
เมื่อเขาได้ยินสิ่งนี้ความกังวลของชิงสุ่ยลดลงไป เนื่องจากกายาหยินฟ้านั้นไม่ใช่ภัยคุกคามต่อเขา เนื่องจากเขามีกายาเก้าหยางทองคำ ด้วยกายาที่ตรงข้ามกัน มันให้พลังของทั้งสองนั้นสามารถหักล้างกันได้ ส่วนใครจะเป็นผู้ที่แข็งแกร่งกว่านั้นก็จะต้องขึ้นอยู่กับระดับการบ่มเพาะของพวกเขา ยิ่งไปกว่านั้นหากว่าอีกฝ่ายเป็นผู้เชียวชาญในด้านพลังวิญญาณ มันก็จะเข้าทางชิงสุ่ยอย่างมาก ด้วยทักษะที่เขามีคงจะมีคนน้อยคนที่สามารถจัดการเขาได้ด้วยพลังวิญญาณ