AST
บทที่1761 – เต็มไปด้วยผู้คนจากเผ่าพันธ์มนุษย์มากมาย
ยิ่งพวกเธอพยายามศึกษาในตัวชิงสุ่ยมากเท่าไหร่พวกเธอก็ยิ่งรู้สึกว่าตัวเองแพ้มากเท่านั้น ตอนนี้สิ่งที่พวกเธอรู้คือชิงสุ่ยไม่ใช่คนธรรมดา ที่สำคัญคำพูดของเขาเต็มไปด้วยความจริงใจและอ่อนน้อมถ่อมตน ซึ่งไม่ใช่สิ่งที่จะพบเจอในคนที่มีพลังอำนาจสูงทรง
นอกจากนี้ดูเหมือนชายพรุ่งนี้กำลังพยายามหายารักษาเพื่อช่วยชีวิตใครบางคนบางทีคนคนนั้นเองก็คงจะแข็งแกร่งไม่ต่างจากเขา
ข้าสามารถพาเจ้าไปได้แต่ข้าไม่รับประกันว่านายหญิงของข้าอยากจะพบเจ้าหรือไม่ รู่เหมินกล่าวหลังจากคิดเล็กน้อย
ชิงสุ่ยรู้ว่าการตรงไปตรงมาย่อมดีกว่าตัวของเขาเองก็ไม่อยากจะเป็นศัตรูกับกลุ่มภูเขาศักดิ์สิทธิ์ และไม่มั่นใจว่าคำพูดของเขาจะดีพอหรือไม่ แต่อย่างน้อยความพยายามสร้างสารสัมพันธ์มิตรภาพย่อมดีกว่าสร้างศัตรูเสมอ
หลังจากผ่านไป1 วัน กลุ่มคนทั้งหมดเดินทางมาถึงบริเวณฐานที่ตั้งของกลุ่มภูเขาศักดิ์สิทธิ์ ภาพของภูเขาศักดิ์สิทธิ์แห่งนี้ เมื่อสังเกตอย่างใกล้ชิดภูมิทัศน์ทั้งหมดเต็มไปด้วยความสวยงามและน่าดึงดูดใจ
บริเวณทางเข้าของภูเขามีชายฉกรรจ์กว่า 10 คนคอยคุ้มกัน ทุกคนบ่งบอกให้เห็นถึงความแข็งแกร่ง แต่สิ่งที่ประใจชิงสุ่ยมากที่สุดคือทุกคนล้วนเป็นมนุษย์ ไม่ใช่เผ่าพันธุ์ที่มีสายเลือดเกี่ยวข้องกับผืนน้ำ
สถานที่แห่งนี้คือโลกมหาสมุทรฉะนั้นผู้คนส่วนใหญ่ที่ชิงสุ่ยพบเจอล้วนเป็นผู้ที่มีสายเลือดเกี่ยวข้องกับเผ่าพันธุ์ทางน้ำด้วยกันทั้งสิ้น ยกเว้นเฉพาะกลุ่มคนที่อยู่เคียงข้างชิงสุ่ยเท่านั้น
ทันทีที่ชิงสุ่ยสังเกตเห็นมนุษย์เรานี้พวกเขาเองก็แสดงสีหน้าแปลกใจเช่นกัน เจ้าเองก็เป็นมนุษย์สินะ!!
รู่เหมินที่ได้ยินคำพูดเหล่านี้เธอเองดูเหมือนจะเป็นคนที่ประหลาดใจมากที่สุด อย่าบอกนะ ว่าจะเป็นมนุษย์จริงๆ?
ในมุมมองของเธอเป็นไปไม่ได้ที่ชิงสุ่ยจะเป็นคนที่สืบสายเลือดเผ่าพันธุ์มนุษย์ เธอรู้ดีว่ามนุษย์มีความแข็งแรงเช่นไร และคนที่แข็งแกร่งเทียบเท่าชิงสุ่ยแต่กลับอายุน้อย เธอไม่เคยได้ยินคนประเภทนี้ในเผ่ามนุษย์มาก่อนเลย
จากการคาดการณ์ของรู่เหมินเธอค่อนข้างมั่นใจว่ามูหยุนชิงเก้อไม่ใช่เผ่ามนุษย์ ดังนั้นเธอจึงสันนิษฐานว่าชิงสุ่ยเองก็ต้องเป็นเผ่าชนชั้นสูง หรือเผ่าที่โดดเด่นกว่าผู้อื่นอย่างแน่นอน
ข้าเป็นมนุษย์ทำไมเจ้าถึงแปลกใจนัก ชิงสุ่ยยิ้มตอบ
ไม่ทราบว่าตอนนี้เจ้าอายุเท่าไหร่? รู่เหมินยิ่งอยากรู้อยากเห็นมากขึ้น
อายุเป็นเพียงตัวเลขไม่ใช่อะไรที่สำคัญเลย ชิงสุ่ยส่ายหน้า เขาไม่ได้อยากที่จะไม่บอก แต่บอกไปมันก็ไม่ใช่เหตุสำคัญอะไรเลย Aileen-novel
รู่เหมินจ้องมองชิงสุ่ยแต่เธอก็เลือกที่จะไม่ถามต่อ
ระหว่างการเดินทางขึ้นสู่ภูเขาศักดิ์สิทธิ์ชิงสุ่ยได้พบเจอกับผู้ทรงพลังมากมาย ซึ่งส่วนใหญ่ยังคงเป็นเผ่ามนุษย์ แน่นอนว่าสิ่งที่พบเจอมันยิ่งทำให้ชิงสุ่ยเกิดความสงสัย ภูเขาศักดิ์สิทธิ์ที่น่าเกรงขาม บางทีอาจจะเป็นสิ่งที่มนุษย์ก่อตั้งขึ้น
โปรดรอสักครู่ข้าขอตัวไปแจ้งข่าวแก่เจ้านายของข้า รู่เหมินกล่าวกับชิงสุ่ยและมูหยุนชิงเก้อ
อืม
รู่เหมินแยกตัวออกมาขณะที่หญิงสาว 3 คนที่เหลือ ยังคงอยู่เพื่อเฝ้ามองการเคลื่อนไหวของกลุ่มชิงสุ่ย
หลังจากที่ชิงสุ่ยได้ใช้เวลาเพลินกับการเฝ้ามองดูพื้นที่ทั้งหมดของภูเขาศักดิ์สิทธิ์รู่เหมินที่ขอตัวแยกไปเพื่อแจ้งข่าวก็เดินทางกลับมา
นายหญิงกำลังรอพวกท่านอยู่ที่ห้องโถงใหญ่เชิญ รู่เหมินกล่าวตรงไปตรงมา
ชิงสุ่ยพยักหน้าตอบรับจากนั้นเขาก็แนะนำมูหยุนชิงเก้อตรงเข้าสู่ห้องโถงใหญ่
ทันทีที่ทั้งสองคนก้าวเข้าสู่ห้องโถงใหญ่ชิงสุ่ยก็สัมผัสได้ถึงกลิ่นอายศักดิ์สิทธิ์ที่ทรงพลัง มันเป็นพลังที่เต็มไปด้วยแรงกดดันมหาศาล แล้วเป็นธรรมดาที่ชิงสุ่ยจะต้องหันไปมองดูผู้ที่ปลดปล่อยกลิ่นอายที่ทรงพลังเช่นนี้ออกมา
ชิงสุ่ยถึงกับตกตะลึงเพราะผู้ที่ปลดปล่อยกลิ่นอายออกมาไม่เพียงแต่จะเป็นหญิงสาว แต่ยังเป็นโฉมงามอีกด้วย
หญิงสาวผู้นี้มีเสน่ห์ไม่ด้อยไปกว่ามูหยุนชิงเก้อเลยมันเป็นเสน่ห์ความงามอันบริสุทธิ์ ราวกับนางฟ้าที่มาสถิตบนโลกมนุษย์
ความงามของเธอนั้นแตกต่างจากความงามที่อีเย่เจี้ยนเก้อครอบครองหญิงสาวผู้นี้โดดเด่นไปด้วยพลังศักดิ์สิทธิ์ ขณะเดียวกันมรดกเทพสงครามก็เปล่งประกายในจิตใจชิงสุ่ย
ผู้สืบทอดมรดกเทพธิดาสวรรค์!!
มรดกแห่งเทพธิดาสวรรค์เป็นอีกหนึ่งรูปแบบมรดกที่เกิดขึ้นท่ามกลางสงครามระหว่างเทพสงครามและราชาปีศาจ พลังของเธอค่อนข้างคล้ายคลึงกับรูปแบบพลังของสุ่ยหยุนเฟิงผู้สืบทอดมรดกแห่งนักบุญศักดิ์สิทธิ์ มันเป็นรูปแบบพลังบริสุทธิ์ที่ปราศจากสิ่งเจือปน แฝงไปด้วยพลังเมตตา
หญิงสาวผู้นั้นยังคงยืนเงียบและในขณะที่เธอชายตามองชิงสุ่ย เธอก็เริ่มเปิดปากกล่าวถามว่า ดูเหมือนเจ้าจะทำทุกอย่างรวดเร็ว ไม่ว่าจะเป็นการช่วงชิงผลอสูรโลกาศักดิ์สิทธิ์และเอาชนะงูมายามหาสมุทร
เสียงที่ดึงดูดจิตใจดังขึ้นแต่ขณะเดียวกันชิงสุ่ยก็ยังแสดงทีท่าสงบนิ่ง ข้าบอกทุกอย่างไปหมดแล้ว หวังว่าท่านจะไม่ใส่ใจมันอีก
หญิงสาวผู้นั้นแสดงความตกใจเล็กน้อยก่อนจะเผยรอยยิ้ม เหมินเอ๋อบอกกับข้าว่าเจ้าเป็นคนเฉลียวฉลาดพูดจาโผงผาง ดูเหมือนมันจะเป็นตามที่นางว่าจริงๆ
มูหยุนชิงเก้อถึงกับพูดไม่ออก
มหาสมุทรศักดิ์สิทธิ์กว้างใหญ่ไพศาลการพูดตรงไปตรงมาย่อมต้องดีกว่า เราจะได้ไม่เสียเวลาด้วยกันทั้งคู่ ชิงสุ่ยส่ายหน้าขณะที่เขาขมวดคิ้ว
ถ้าเช่นนั้นข้าก็ขอถามตรงไปตรงมาไม่ทราบว่าเจ้ากำลังตามหายาชนิดใดอยู่? หญิงสาวผู้นั้นถามกลับไปตามที่ชิงสุ่ยต้องการ
��