Ancient Strengthening Technique เทพอสูร บรรพกาล – บทที่ 1772 – มูหยุนชิงเก้อ ธนูสวรรค์ทลายสุริยามรดกของเทพสงครามทลายสุริยา

บทที่ 1772 - มูหยุนชิงเก้อ ธนูสวรรค์ทลายสุริยามรดกของเทพสงครามทลายสุริยา

AST

  บทที่1772 – มูหยุนชิงเก้อ ธนูสวรรค์ทลายสุริยามรดกของเทพสงครามทลายสุริยา

  ชิงสุ่ยไม่แน่ใจเหมือนกันว่าในใจของเขาเหมือนจะมีความรู้สึกแห่งความสุขหลังจากที่ได้ยินคำพูดของมูหยุนชิงเก้อแต่สิ่งที่ยังคงแย่คือเขายังคงมีความคิดเช่นดั่งเดิม ถ้าหากจักรพรรดินีปีศาจดูดเลือดไม่ได้ตั้งท้องลูกของเขา เขาก็คงทำตัวเหมือนเดิมเหมือนไม่มีอะไรเกิดขึ้น

  จริงๆแล้วตั้งแต่ตอนนั้นจนถึงตอนนี้ยังไม่มีอะไรเกิดขึ้นจริงๆจักรพรรดินีปีศาจดูดเลือดเพียงแค่ต้องการแก่นแท้โลหิตเพียงแค่ 1 หยดของเขาเพื่อแลกกับแร่ทองคำปีศาจสวรรค์ เพียงแต่ปัญหาเดียวคือลูกของเธอ ดันมีเลือดของเขาไหลเวียนอยู่ในสายเลือด

  แม้ว่าเขาจะไม่ต้องการสารสัมพันธ์ใดๆกับหญิงสาวผู้นี้ไม่ว่าเธอจะงดงามเพียงใด สุดท้ายเธอก็ยังคงเป็นจักรพรรดินีปีศาจดูดเลือดที่เขาไม่ได้รู้จัก

  แน่นอนว่าคำถามนี้สุดท้ายคำตอบก็ยังคงเป็นเหมือนเดิมคือลูกของเธอในอนาคตจะต้องมีสายเลือดของเขาไหลเวียนอยู่อย่างแน่นอน

  ชิงสุ่ยไม่อยากพูดอะไรอีก…..ความหวาดระแวงของเขาสุดท้ายก็กลายเป็นความจริง

  …………………….

  เฉิงเจินตกใจอย่างมากเมื่อรู้ว่าชิงสุ่ยต้องการจะจากไปก่อนหน้านี้เขาให้สัญญากับเธอว่าจะอยู่เยี่ยมชมภูเขาศักดิ์สิทธิ์ต่ออีก 2-3 วัน แต่ตอนนี้ผ่านไปเพียงแค่ครึ่งวัน เขาก็เลือกที่จะเดินทางกลับเสียแล้ว

   มันเกิดอะไรขึ้นหรือ? เจ้าต้องการให้ข้าช่วยเหลืออะไรหรือไม่? ณปัจจุบัน เฉิงเจินแสดงท่าทีปฏิบัติต่อชิงสุ่ยและมูหยุนชิงเก้อเหมือนเพื่อนของเธอ ดังนั้นเธอจึงกังวลในสิ่งที่เปลี่ยนแปลงอย่างฉับพลันของชิงสุ่ย

   ไม่มีอะไรหรอกข้าเพียงแค่รู้สึกอยากกลับแล้วเท่านั้นเอง ไว้ครั้งหน้าเมื่อข้าว่างจากภารกิจ ข้าจะกลับมาเยี่ยมเยียนเจ้า ชิงสุ่ยยิ้มขณะกล่าวเห็นได้ชัดว่ารอยยิ้มของเขาไม่มีร่องรอยแห่งความสุขเลย

  เฉิงเจินไม่รู้ว่าเกิดอะไรขึ้นแต่เธอก็ยังพยักหน้า เอาล่ะ ข้าจะไม่รั้งเจ้าอีกแล้ว ขอให้พวกเจ้าเดินทางปลอดภัย ถ้าหากพวกเจ้าว่างก็อย่าลืมกลับมาเยี่ยมเยียเข้าบ้าง 

  ชิงสุ่ยพยักหน้าในขณะเดียวกันมูหยุนชิงเก้อก็พูดคุยกับเฉิงเจินเพื่อให้เธอจดจำเรื่องบางอย่าง  เฉิงเจิน ในอนาคตถ้าหากเจ้าต้องเผชิญหน้ากับจักรพรรดินีปีศาจดูดเลือด เจ้าก็จงพูดชื่อของชิงสุ่ยออกไป แม้ว่าจักรพรรดินีปีศาจดูดเลือดจะไม่รู้เรื่องหรือรู้ชื่อของชิงสุ่ย แต่ข้ามั่นใจว่านาง จะต้องจำแก่นแท้โลหิต 1 หยดที่นางได้รับอย่างแน่นอน เจ้าบอกได้เลยนะว่าเจ้าคือเพื่อนของเขา 

  หลังจากที่เธอเล่าเรื่องจบเธอก็พยักหน้าแล้วหายตัวจากภูเขาศักดิ์สิทธิ์ไปพร้อมกับชิงสุ่ยทันที

  เฉิงเจินจ้องมองทิศทางที่ชิงสุ่ยจากไปจักรพรรดินีปีศาจดูดเลือด? เธอไม่เคยได้ยินชื่อของจักรพรรดินีปีศาจดูดเลือดที่อยู่บริเวณแถวนี้เลย ดังนั้นคำพูดของชิงเก้อ มันก็ได้อธิบายและบ่งบอกถึงชัดเจนว่า…..จักรพรรดินีปีศาจดูดเลือดคงจะเป็นราชินีปีศาจดูดเลือดที่โชคดีได้รับ แก่นแท้โลหิตจากตัวของชิงสุ่ย ส่งผลให้เธอพัฒนาบรรลุในอำนาจพลัง

  เฉิงเจินพยายามหาเหตุผลที่เขาต้องการจะจากที่แห่งนี้ไปอย่างรวดเร็วและเหตุผลที่ทำให้เขาอารมณ์เสีย จากนั้นเธอก็ส่ายหน้า  สิ่งที่ทำให้เขาอารมณ์เสีย ต้องเกิดจากความสัมพันธ์ที่เขาไม่ต้องการอย่างแน่นอน 

  …………………….

  ชิงสุ่ยไม่ได้ตำหนิมูหยุนชิงเก้อที่กล่าวถึงเรื่องราวทั้งหมดที่เขาก่อในความเป็นจริงชิงสุ่ยเองก็เริ่มรู้สึกโล่งใจมากขึ้นหลังจากที่เธอพูดอธิบายเกี่ยวกับมัน เขาไม่ได้ต้องการให้เฉิงเจินและจักรพรรดินีปีศาจดูดเลือดมีปัญหากันในภายหลัง ที่จริงแล้วเขาเองก็อยากจะถึงคนพูดเอง แต่มันคงดีกว่าถ้าออกมาจากปากชิงเก้อ

   เจ้าอย่าคิดมากเลยหรือว่าเจ้าจะเลือกปฏิบัติกับเผ่าพันธุ์อื่น?  มูหยุนชิงเก้อถามเพราะเธอเองก็เป็นหญิงสาวจากเผ่าพันธุ์นาคา 

   ไม่เลยข้าปฏิบัติกับทุกคนอย่างเท่าเทียม และไม่เคยคิดดูถูกใคร ชิงสุ่ยตกตะลึงชั่วครู่หนึ่งเมื่อได้ยินคำถามก่อนจะตอบกลับ

   ถ้าเช่นนั้นเจ้ากำลังสับสนเรื่องอะไรอยู่? มูหยุนชิงเก้อถาม

   ข้าเองก็ไม่รู้ 

   ข้ารู้ว่าลึกๆในใจของเจ้าจะต้องคิดว่าเผ่าพันธุ์ปีศาจดูดเลือดนั้นเป็นเผ่าพันธุ์ที่สืบทอดสายเลือดมาจากสิ่งชั่วร้าย แต่เจ้าก็รู้ตัวดีว่ามนุษย์เองก็มีความชั่วร้ายอยู่ในใจไม่ใช่เหรอ? แต่ท่ามกลางเผ่าราชันย์ปีศาจ ก็ยังมีกลุ่มที่มีจิตใจดีงามแฝงตัวอยู่ภายใน ฉะนั้นเจ้าย่อมรู้ดีว่าการตัดสินคนจากภายนอกเพียงแค่ครั้งเดียวมันคงไม่เพียงพอ และอย่างที่เจ้าเห็น จักรพรรดินีปีศาจดูดเลือดที่พวกเราเพิ่งเจอก็ถือว่าเป็นคนที่มีจิตใจดีในระดับหนึ่งเลยทีเดียว มูหยุนชิงเก้อกล่าว

   อย่ามากังวลเรื่องของข้าเลยถ้าหากเจ้ายังไม่มีสามี ข้าคงต้องถือวิสาสะใช้ประโยชน์จากเจ้าแล้วล่ะ ทำไมเราไม่มาสานสัมพันธ์ใกล้ชิดกันอีกหน่อยนึง? ชิงสุ่ยยิ่มขณะกล่าวหยอกล้อ

  มูหยุนชิงเก้อจ้องมองชิงสุ่ยด้วยสายตาที่เต็มไปด้วยความโกรธหลังจากที่ได้ยินคำพูดไร้ยางอาย  อืม!! มันเป็นไปอย่างที่ข้าคิดจริงๆ มนุษย์ทุกคนมันก็ชั่วร้ายเหมือนกันหมด!! 

  ………………………..

  ในระหว่างที่ชิงสุ่ยใช้ทักษะย่างก้าว9 เทวา ในการเดินทางกลับ มูหยุนชิงเก้อก็ใช้เวลาส่วนใหญ่ในการฝึกฝน ตัวของชิงสุ่ยที่อยู่ในโลกนอกดินแดนหยกยุพราชมีความเป็นอิสระสูง เขาไม่จําเป็นต้องฝึกฝนไม่อยู่โลกภายนอกจึงสามารถใช้เวลาในการเดินทางได้อย่างเต็มที่

  ทางด้านของมูหยุนชิงเก้อเธอเชื่อว่ามีพรสวรรค์อย่างเดียวคงไม่มากพอฉันนั้นทุกวินาทีของเธอจึงมีค่า เธอขะมักเขม้นฝึกฝนอย่างหนักเพื่อเธอได้รับพลังที่แข็งแกร่งกว่านี้

  ในตอนนี้มูหยุนชิงเก้อกำลังร่ายรำอย่างสง่างามพร้อมกับธนูทลายสุริยาที่อยู่ในมือของเธอตั้งแต่ที่มันยอมรับเธอเป็นเจ้านาย กลิ่นอายในร่างกายของเธอก็เปลี่ยนไป ดูเหมือนว่าตอนนี้พลังที่อยู่ภายในธนูทลายสุริยาได้ประสานรวมกับพลังปราณรากฐานและย้ายไปอยู่อาศัยภายในจุดตันเถียนของเธอเป็นที่เรียบร้อยแล้ว

  ธนูทลายสุริยาได้สร้างประโยชน์ให้กับเธอมากมายไม่ว่าจะเป็นอัตราการเพิ่มพูนพลังที่รวดเร็วกว่าเดิม นั่นก็ส่งผลให้ลูกธนูที่ถูกยิงออกจากธนูทลายสุริยาค่อยๆมีพลังมากขึ้นเรื่อยๆเช่นกัน

  ขณะเดียวกันชิงสุ่ยก็ได้ช่วยเธอล้อมลูกธนูขึ้นมาจำนวนหนึ่ง แน่นอนว่าพวกมันคือเป็นสมบัติล้ำค่า ซึ่งสูงกว่าลูกศรที่ยอดยุทธระดับสูงทั่วไปใช้งาน

  อย่างไรก็ตามในโลกใบนี้ยังคงมีลูกศรบางชนิดที่อัดแน่นไปด้วยพละกำลังมหาศาลมันถูกขนานนามว่าลูกศรสวรรค์สังหาร ซึ่งพลังของมันเทียบเท่าได้กับพลังหมัดของชิงสุ่ยหรืออาจจะมากกว่า

  แต่ช่างโชคร้ายที่ความสามารถในปัจจุบันของชิงสุ่ยยังไม่เพียงพอจะสร้างสรรค์ลูกศรสวรรค์สังหารออกมาได้ถึงแม้จะเป็นเช่นนั้นลูกศรที่เขาสร้างก็ยังมีระดับมากกว่าระดับตำนาน ถ้าหากโชคดีเขาอาจจะสร้างลูกศรที่มีพลังอยู่ในระดับบัญชาสวรรค์พินาศออกมาได้ แต่โอกาสที่เกิดขึ้นก็ค่อนข้างยาก

  ผู้ที่ฝึกฝนศาสตราวุธประเภทธนูซึ่งเป็นศาสตร์ตราวุธประเภทระยะไกลคนที่ฝึกฝนจำเป็นต้องมีทักษะการเคลื่อนไหวที่รวดเร็วเพื่อไม่ให้ศัตรูเข้าใกล้ นี่คือเหตุผลหลักในปัจจุบันที่ชิงสุ่ยพยายามให้เธอฝึกฝนทักษะย่างก้าว 9 เทวา ยิ่งไปกว่านั้นชิงสุ่ยก็ตระหนักได้ว่าปัจจุบันเธอได้ฝึกฝนการยิงธนูจนถึงระดับพลังที่น่ากลัวแล้ว

  ธนูสวรรค์ทลายสุริยา: ลูกธนูเจาะจงเป้าหมายทันทีที่ยิงออกไป ทะลวงผ่านเกราะของศัตรู 20 ส่วน และมีโอกาสอีก 20 ส่วนในการทวีคูณความรุนแรง ความเร็วของลูกธนู 4 เท่าของการเคลื่อนที่ผู้ใช้ มีโอกาส 30 ส่วนที่จะช่วยผู้ใช้เพิ่มความเร็วในการหลบหลีกการโจมตีของศัตรู นอกจากนี้ยังสลายพลังโจมตีของศัตรูที่เข้าถึงตัวผู้ใช้ 30 ส่วน และใช้อีก 20 ส่วนสะท้อนมันกลับไปหาศัตรู

  นี่คือชื่อและความสามารถที่แท้จริงของธนูสวรรค์ทลายสุริยาทักษะต่างๆเมื่อผสานรวมกับตัวของมูหยุนชิงเก้อมันก็ค่อยๆแสดงให้เห็นเด่นชัดมากขึ้น ดูเหมือนว่าสมบัติชิ้นนี้จะเป็นหนึ่งในสมบัติของเทพสงครามทลายสุริยา

 

Ancient Strengthening Technique เทพอสูร บรรพกาล

Ancient Strengthening Technique เทพอสูร บรรพกาล

Status: Ongoing

นิยายเรื่องนี้เป็นเกี่ยวกับตัวละครหลักมีชื่อว่า ชิงสุ่ยซึ่งถูกส่งข้ามมิติและมายังทวีปคิวชู  ทั้งทวีปเต็มไปด้วยการฆ่าฟันดังพายุโลหิต ส่งผลให้ซากศพ กระดูกและเศษเนื้อ  กระจายเกลื่อนไปทั่วทวีปซึ่งถือเรื่องธรรมดามากในโลกใบนี้

 นักรบหนุ่มชิงสุ่ยทำการพลิกชะตากรรมชีวิตเพื่อสร้างเส้นในการเพาะปลูกพลังยุทธ เขาใช้เวลากว่า 10 ปีเพื่อฝึกฝนตัวเอง เพื่อที่จะแสวงหาการแก้แค้นบุคคลผู้หนึ่งที่ได้ทอดทิ้งแม่ของเขา! บนเส้นทางชีวิตนี้ เขาได้มีโอกาสพบกับหญิงสาวผู้มีความงดงามดุลรูปปั่นเทพธิดา ( เจ้าหญิงน้ำแข็ง ) ชิชิงซวง ซึ่งเป็นบ่อเกิดของความเกลียดชังและการแก้แค้นจากคู่หมั้นของเธอนามซิตู่บูฟาน หลังจากผ่านพ้นเข้าเมืองร้อยไมล์ ชิงสุ่ยได้พบกับสาวสวยแสนงดงามชื่อ ยูฮี และคนอื่นๆ ที่อาณาจักรเซียนเทียน

 หลังจากที่เขาเผชิญความทุกข์ยากในเส้นทางชีวิต เขาได้ฆ่านายน้อยของตระกูลกงหยางเพราะยูฮี ทำให้เขาต้องหลบๆซ่อนๆ แต่ในความโชคร้ายก็มีความโชคดี หญิงสาวรูปร่างใบหน้าราวกับนางอัปสรสวรรค์ ชื่อเย่ยีเจียนจี  ได้พานพบและได้ช่วยเหลือเขาเอาไว้ ต่อไปนี้เขาจะต้องพบเจอกับสงครามที่ต้องล้างด้วยเลือด  ชิงสุ่ยจะสามารถรอดพ้นอันตรายได้หรือไม่ จะรอดพ้นภัยพิบัติได้หรือไม่  และความสัมพันธ์ของเขากับสาวงามต่างๆจะเป็นอย่างไร

แสดงความคิดเห็น

ใส่ความเห็น

อีเมลของคุณจะไม่แสดงให้คนอื่นเห็น ช่องข้อมูลจำเป็นถูกทำเครื่องหมาย *

ปรับฟอนต์

**ถ้าปรับโหมดมืดอยู่** ให้เปลี่ยนเป็นโหมดสว่าง ก่อนจะปรับสีพื้นหลัง
รีเซ็ท