AST
บทที่1780 – พบเจอแม่นางเหยียนอีกครั้ง
ทันทีที่เดินทางกลับมาถึงมหาทวีปวิหคอัคคีร่ายรำชิงสุ่ยก็เร่งรีบเดินทางไปที่หอคอยจักรพรรดิที่มีสาขาอยู่ในมหาทวีปแห่งนี้ ไม่ว่าจะผ่านไปนานแค่ไหนหมอปีศาจก็ยังคงคอยช่วยเหลือคนโดยผ่านทางหอคอยจักรพรรดิ ไม่ว่าจะเป็นกี่ปีผ่านไป ชิงสุ่ยก็ยังคงจำสถานที่แห่งนี้ได้ เขาจะฝากฝังทุกอย่างให้กับกลุ่มคนตระกูลปู้หยางให้ช่วยเขาปกปักรักษาหอคอยจักรพรรดิและท่านหมอปีศาจ
แน่นอนว่าการเดินทางครั้งนี้เขาเองก็ต้องมาเยี่ยมเยียนคนตระกูลปู้หยางเช่นกันและรู้ดีว่าคงมีเรื่องมากมายที่เขาต้องทำ
”เจี้ยนเก้อเราไปที่หอคอยจักรพรรดิกันเถอะ”ชิงสุ่ยยิ้ม อีเย่เจี้ยนเก้อเองก็ได้ฟังเรื่องราวการจัดตั้งหอคอยจักรพรรดิสาขาต่างๆของชิงสุ่ยเอาไว้แล้ว เธอจึงรู้ตำแหน่งที่ตั้งของสถานที่เหล่านี้
……………….
เมื่อเดินทางมาถึงทางเข้าชิงสุ่ยมองดูหญิงสาวคนนึงที่กำลังมองเขาด้วยความตกตะลึง จากนั้นเธอก็ตะโกนด้วยน้ำเสียงประหลาดใจและตกใจว่า “ชิงสุ่ยยยย!!”
เธอยังคงไว้ซึ่งรูปร่างที่โค้งมนและทรงเสน่ห์หลายปีที่ผ่านมาไม่เคยทำให้ความงามของเธอเจือจางลง ใบหน้ารูปไข่ดวงตาโค้งมน ร่างกายที่อ่อนช้อย แม้จะไม่สามารถเทียบเทียมความงามในระดับอีเย่เจี้ยนเก้อได้ แต่ความงามของเธอก็มากพอจะล้มจิตใจของชายทั่วทุกสารทิศให้ยอมพลีกายถวายชีวิตแทนลมหายใจของเธอได้
ลี่เหยียนแห่งตระกูลลี่
ชิงสุ่ยยิ้มตอบ”แม้แต่เจ้าก็อยู่ที่หอคอยจักรพรรดิแห่งนี้ด้วยอย่างนั้นสินะ?”
ชิงสุ่ยเองก็ไม่ได้คาดคิดว่าจะได้พบเจอเธอที่นี่เธอยังคงไว้ซึ่งรูปลักษณ์น้ำเสียงที่เหมือนกับหญิงสาวในโลกไปก่อนที่เขาเคยหลงรัก
แม้เขาจะเดินทางข้ามโลกมันอยู่โลกใบนี้เป็นเวลากว่าครึ่งศตวรรษแล้วเขาก็ยังไม่เคยลืมเลือนอดีต แต่สุดท้ายเขาก็หวังเพียงว่าเขาจะลืมเรื่องราวทั้งหมดไม่ได้
เขาไม่เคยคิดถึงมันมาก่อนเลยแต่การได้เห็นเธออีกครั้งมันทำให้เกิดแรงกระตุ้นในใจ
ดวงตาคู่งามจมูกตรงริมฝีปากหนาและยั่วยวน
”เอ่อข้ารู้สึกถึงบรรยากาศบางอย่างข้าจึงว่าจะมาหาพี่ลี่จี๋”ลี่เหยียนกล่าวด้วยน้ำเสียงต่ำ เมื่อเธอเห็นชิงสุ่ยจิตใจของเธอก็สั่นไหวเล็กน้อย แต่เธอก็ตระหนักได้ว่าชายผู้นี้ล้อมรอบไปด้วยนางฟ้าซึ่งแตกต่างจากเธออย่างสิ้นเชิง
ลี่เหยียนก็มีรูปลักษณ์ที่งดงามถ้าเป็นรูปลักษณ์ที่ฝังใจเขามาตั้งแต่อดีตดังนั้นความงามของเธอจึงไม่ได้เป็นปัญหาใดๆ อีเย่เจี้ยนเก้อตกใจเล็กน้อยเมื่อเห็นสีหน้าของชิงสุ่ยตัวเองก็เป็นผู้หญิงที่อ่อนไหวต่อสิ่งรอบตัว เธอจึงบอกได้ถึงการเปลี่ยนแปลงสีหน้าชิงสุ่ยอย่างชัดเจน แต่เธอก็ไม่ได้พูดอะไร
”ไปเถิดพวกเราเข้าไปข้างในกัน”
”อืม”
ชิงสุ่ยหันกลับมาจูงมืออีเย่เจี้ยนเก้อและเดินนำหน้าลี่เหยียนเข้าไปข้างในทันทีที่ พวกเขาเข้าไปข้างในก็ได้พบเจอกับหมอปีศาจ ลี่จี๋ แล้วเด็กหนุ่มที่ดูซุกซนและแข็งแรงกำลังวิ่งอยู่รอบๆทั้งสองคน
“เจ้ากลับมาแล้วจริงๆรีนี้”หมอปีศาจกล่าวคำพูดที่ดูตกใจเมื่อเห็นชิงสุ่ย
ชิงสุ่ยรีบโผกอดเขาอย่างรวดเร็ว
ลี่จี้เองก็แสดงการต้อนรับอย่างอบอุ่นต่ออีเย่เจี้ยนเก้อและลี่เหยียน
”อี้เอ่อสวัสดีพ่อบุญธรรมสิ เขาคือคนที่ตั้งชื่อให้กับเจ้า”หมอปีศาจจูงมือเด็กหนุ่มที่ดูซุกซนออกมาพร้อมกับหัวเราะ
”สวัสดีครับพ่อบุญธรรม!!” เด็กหนุ่มตัวน้อยยิ้มอย่างสุภาพ
ชิงสุ่ยเอื้อมมือออกไปลูบหัวเด็กตัวน้อยๆ
จากนั้นก็นำเอาของที่เขาสร้างออกมามันคือขวานขนาดเล็ก แม้จะไม่ได้ใกล้เคียงกับศาสตราวุธระดับบัญชาสวรรค์พินาศหรือระดับตำนานแต่ก็ยังถือว่าเป็นศาสตราวุธชั้นเลิศที่เหมาะสมสำหรับเด็กวัยเช่นนี้
ชิงสุ่ยสามารถตรวจจับได้ทันทีว่าเด็กชายคนนี้มีพลังแขนเทียบเท่ากับวัวขนาดใหญ่ตัวหนึ่งดังนั้นอาวุธที่เขาเลือกให้ย่อมเป็นตัวเลือกที่ดี
ขวานที่เขาเลือกแม้จะไม่ได้มีคมขวานที่แหลมคมแต่เมื่อใช้ในการฝึกฝนพลังของมันจะคล้ายคลึงกับการใช้ค้อน แต่จะมีแรงเสริมที่ถ้าหากฝึกฝนอย่างต่อเนื่องพละกำลังก็จะเพิ่มพูนและสามารถแบ่งแยกท้องฟ้าให้ห่างออกจากกันได้ ”เจ้าหนูน้อยหลังจากนี้เดี๋ยวพ่อบุญธรรมจะเป็นคนสอนทักษะการต่อสู้กับเจ้าเอง ถ้าหากเจ้าเรียนรู้และสามารถใช้มันได้อย่างเชี่ยวชาญ เจ้าก็จะเอาชนะทุกคนได้ และสาวน้อยทุกคนจะต้องหลงรักเจ้า”
”ชิงสุ่ยนี้เจ้ากำลังจะทำให้เด็กน้อยเป็นเหมือนเจ้าอย่างนั้นรึ”อีเย่เจี้ยนเก้อหัวเราะเยาะ
”สวัสดีครับท่านแม่บุญธรรมท่านแม่บุญธรรมงดงามเหมือนกับเทพธิดาเลย!!”
”เจ้าหนูเจ้าช่างมีน้ำเสียงที่ไพเราะเสนาะหูจริงๆ แถมยังเป็นคนที่พูดจาเก่งตั้งแต่เด็ก”อีเย่เจี้ยนเก้อก็รู้สึกเอ็นดูหนูน้อยตัวเล็กๆที่อยู่ด้านหน้า เธอจึงนำเอายาเม็ดที่ช่วยเสริมความแข็งแกร่งของกล้ามเนื้อและกระดูกออกมาจากนั้นก็มอบให้กับเจ้าหนูน้อย
”เด็กน้อยคนนี้ไม่เหมือนพ่อของมันเลย”ลี่จี๋กล่าวยังมีความสุขขนาดที่เธอมองดูลูกชายของเธอซุนอี้ที่กำลังได้ความรักจากผู้คนรอบข้าง หมอปีศาจได้เรียนเชิญชิงสุ่ยอีเย่เจี้ยนเก้อ ลี่เหยียน เข้าไปพูดคุยในห้องส่วนตัวของเขา ชิงสุ่ยดีใจอย่างยิ่งที่เขาได้กลับมาสถานที่ที่เขาคุ้นเคยมันยังคงเป็นเหมือนเดิมแล้วเขาก็ได้รับความรู้สึกอบอุ่นจากบรรดาเพื่อนสนิทพี่น้อง
ทุกคนที่อยู่ที่นี่เปรียบเสมือนเพื่อนแท้และเป็นบางครอบครัวฉะนั้นมันจึงเต็มไปด้วยสุขที่กำลังเบ่งบาน
…………………
”แม่นางเหยียนเจ้าคงจะรู้สึกไม่สบายตัวสินะ บอกข้ามาเกิดเดี๋ยวข้าจะช่วยรักษา”หมอปีศาจและภรรยาของเขากำลังยุ่งอยู่กับการจัดเตรียมบางสิ่งบางอย่าง ฉะนั้นชิงสุ่ยจึงเป็นคนถามลี่เหยียนด้วยตัวเอง
”ก็ไม่มีอะไรมากหรอกเพียงแค่เส้นลมปราณของข้าบาดเจ็บเนื่องจากการฝึกฝน ฉะนั้นข้าคงต้องขอรบกวนคุณชายชิง”ลี่เหยียนยิ้มตอบ
ชิงสุ่ยจับชีพจรของเธอแล้วพบว่าเส้นลมปราณของเธอเกิดอาการบาดเจ็บเพียงเล็กน้อยแน่นอนว่าอาการบาดเจ็บเหล่านี้ไม่ใช่เรื่องยุ่งยากอะไรสำหรับชิงสุ่ย แม้แต่เป็นอาการบาดเจ็บถึงระดับจิตวิญญาณเขาก็สามารถรักษาให้หายในพริบตาได้
”อืมมอาการบาดเจ็บของเจ้านั้นเป็นอาการบาดเจ็บที่ไม่รุนแรงมาก เมื่อเจ้ากลับไป เจ้าก็จงกินยาเหล่านี้ หลังจากผ่านไปประมาณ 3-4 วัน ข้ามั่นใจว่าเส้นลมปราณของเจ้าจะกลับมาหายดีและแข็งแกร่งกว่าเก่า”ชิงสุ่ยส่งขวดยาเสริมเส้นลมปราณให้กับเธอ
”ขอบคุณมากว่าแต่ข้าพอจะตอบแทนอะไรเจ้าได้บ้าง? แม้ว่าข้าจะจ่ายเงินให้กับเจ้าแต่ดูแล้วเจ้าคงจะไม่สนใจ”ลี่เหยียนยิ้มขณะถาม
”เราเองก็เป็นเพื่อนกันอย่าคิดมากเลยเว้นแต่เจ้าจะลืมมิตรภาพเหล่านี้ไปเสียแล้ว”ชิงสุ่ยรู้สึกไม่สบายใจ แต่ก็ไม่รู้ว่าทำไม
”ไม่มีทางที่ข้าจะลืมเลือนมิตรภาพที่เจ้ามีต่อข้าเป็นอันขาด”
เข็มแห่งชีวิตและความตายของชิงสุ่ยได้ช่วยเหลือผู้คนจากตระกูลลี่มาแล้วนับไม่ถ้วน
ชิงสุ่ยยังคงจดจำภาพที่เธอตกใจตอนที่เขาใช้เข็มแห่งชีวิตและความตายช่วยชีวิตเธอความรู้สึกเรานั้นยังคงตราตรึงใจของเธอมาตลอดในช่วงหลายปีที่ผ่านมา มันเป็นแรงผลักดันชั้นดีที่ช่วยให้เธอขยันหมั่นเพียรในการฝึกฝน แต่ช่องว่างระหว่างเธอกับชิงสุ่ยยังคงเพิ่มขึ้น จนมันทำให้เธอที่เคยอยู่ระดับใกล้เคียงชิงสุ่ย ห่างไกลจนเธอจำความรู้สึกเหล่านั้นไม่ได้แล้ว
บทที่1780 – พบเจอแม่นางเหยียนอีกครั้ง
ทันทีที่เดินทางกลับมาถึงมหาทวีปวิหคอัคคีร่ายรำชิงสุ่ยก็เร่งรีบเดินทางไปที่หอคอยจักรพรรดิที่มีสาขาอยู่ในมหาทวีปแห่งนี้ ไม่ว่าจะผ่านไปนานแค่ไหนหมอปีศาจก็ยังคงคอยช่วยเหลือคนโดยผ่านทางหอคอยจักรพรรดิ ไม่ว่าจะเป็นกี่ปีผ่านไป ชิงสุ่ยก็ยังคงจำสถานที่แห่งนี้ได้ เขาจะฝากฝังทุกอย่างให้กับกลุ่มคนตระกูลปู้หยางให้ช่วยเขาปกปักรักษาหอคอยจักรพรรดิและท่านหมอปีศาจ
แน่นอนว่าการเดินทางครั้งนี้เขาเองก็ต้องมาเยี่ยมเยียนคนตระกูลปู้หยางเช่นกันและรู้ดีว่าคงมีเรื่องมากมายที่เขาต้องทำ
”เจี้ยนเก้อเราไปที่หอคอยจักรพรรดิกันเถอะ”ชิงสุ่ยยิ้ม อีเย่เจี้ยนเก้อเองก็ได้ฟังเรื่องราวการจัดตั้งหอคอยจักรพรรดิสาขาต่างๆของชิงสุ่ยเอาไว้แล้ว เธอจึงรู้ตำแหน่งที่ตั้งของสถานที่เหล่านี้
……………….
เมื่อเดินทางมาถึงทางเข้าชิงสุ่ยมองดูหญิงสาวคนนึงที่กำลังมองเขาด้วยความตกตะลึง จากนั้นเธอก็ตะโกนด้วยน้ำเสียงประหลาดใจและตกใจว่า “ชิงสุ่ยยยย!!”
เธอยังคงไว้ซึ่งรูปร่างที่โค้งมนและทรงเสน่ห์หลายปีที่ผ่านมาไม่เคยทำให้ความงามของเธอเจือจางลง ใบหน้ารูปไข่ดวงตาโค้งมน ร่างกายที่อ่อนช้อย แม้จะไม่สามารถเทียบเทียมความงามในระดับอีเย่เจี้ยนเก้อได้ แต่ความงามของเธอก็มากพอจะล้มจิตใจของชายทั่วทุกสารทิศให้ยอมพลีกายถวายชีวิตแทนลมหายใจของเธอได้
ลี่เหยียนแห่งตระกูลลี่
ชิงสุ่ยยิ้มตอบ”แม้แต่เจ้าก็อยู่ที่หอคอยจักรพรรดิแห่งนี้ด้วยอย่างนั้นสินะ?”
ชิงสุ่ยเองก็ไม่ได้คาดคิดว่าจะได้พบเจอเธอที่นี่เธอยังคงไว้ซึ่งรูปลักษณ์น้ำเสียงที่เหมือนกับหญิงสาวในโลกไปก่อนที่เขาเคยหลงรัก
แม้เขาจะเดินทางข้ามโลกมันอยู่โลกใบนี้เป็นเวลากว่าครึ่งศตวรรษแล้วเขาก็ยังไม่เคยลืมเลือนอดีต แต่สุดท้ายเขาก็หวังเพียงว่าเขาจะลืมเรื่องราวทั้งหมดไม่ได้
เขาไม่เคยคิดถึงมันมาก่อนเลยแต่การได้เห็นเธออีกครั้งมันทำให้เกิดแรงกระตุ้นในใจ
ดวงตาคู่งามจมูกตรงริมฝีปากหนาและยั่วยวน
”เอ่อข้ารู้สึกถึงบรรยากาศบางอย่างข้าจึงว่าจะมาหาพี่ลี่จี๋”ลี่เหยียนกล่าวด้วยน้ำเสียงต่ำ เมื่อเธอเห็นชิงสุ่ยจิตใจของเธอก็สั่นไหวเล็กน้อย แต่เธอก็ตระหนักได้ว่าชายผู้นี้ล้อมรอบไปด้วยนางฟ้าซึ่งแตกต่างจากเธออย่างสิ้นเชิง
ลี่เหยียนก็มีรูปลักษณ์ที่งดงามถ้าเป็นรูปลักษณ์ที่ฝังใจเขามาตั้งแต่อดีตดังนั้นความงามของเธอจึงไม่ได้เป็นปัญหาใดๆ อีเย่เจี้ยนเก้อตกใจเล็กน้อยเมื่อเห็นสีหน้าของชิงสุ่ยตัวเองก็เป็นผู้หญิงที่อ่อนไหวต่อสิ่งรอบตัว เธอจึงบอกได้ถึงการเปลี่ยนแปลงสีหน้าชิงสุ่ยอย่างชัดเจน แต่เธอก็ไม่ได้พูดอะไร
”ไปเถิดพวกเราเข้าไปข้างในกัน”
”อืม”
ชิงสุ่ยหันกลับมาจูงมืออีเย่เจี้ยนเก้อและเดินนำหน้าลี่เหยียนเข้าไปข้างในทันทีที่ พวกเขาเข้าไปข้างในก็ได้พบเจอกับหมอปีศาจ ลี่จี๋ แล้วเด็กหนุ่มที่ดูซุกซนและแข็งแรงกำลังวิ่งอยู่รอบๆทั้งสองคน
“เจ้ากลับมาแล้วจริงๆรีนี้”หมอปีศาจกล่าวคำพูดที่ดูตกใจเมื่อเห็นชิงสุ่ย
ชิงสุ่ยรีบโผกอดเขาอย่างรวดเร็ว
ลี่จี้เองก็แสดงการต้อนรับอย่างอบอุ่นต่ออีเย่เจี้ยนเก้อและลี่เหยียน
”อี้เอ่อสวัสดีพ่อบุญธรรมสิ เขาคือคนที่ตั้งชื่อให้กับเจ้า”หมอปีศาจจูงมือเด็กหนุ่มที่ดูซุกซนออกมาพร้อมกับหัวเราะ
”สวัสดีครับพ่อบุญธรรม!!” เด็กหนุ่มตัวน้อยยิ้มอย่างสุภาพ
ชิงสุ่ยเอื้อมมือออกไปลูบหัวเด็กตัวน้อยๆ
จากนั้นก็นำเอาของที่เขาสร้างออกมามันคือขวานขนาดเล็ก แม้จะไม่ได้ใกล้เคียงกับศาสตราวุธระดับบัญชาสวรรค์พินาศหรือระดับตำนานแต่ก็ยังถือว่าเป็นศาสตราวุธชั้นเลิศที่เหมาะสมสำหรับเด็กวัยเช่นนี้
ชิงสุ่ยสามารถตรวจจับได้ทันทีว่าเด็กชายคนนี้มีพลังแขนเทียบเท่ากับวัวขนาดใหญ่ตัวหนึ่งดังนั้นอาวุธที่เขาเลือกให้ย่อมเป็นตัวเลือกที่ดี
ขวานที่เขาเลือกแม้จะไม่ได้มีคมขวานที่แหลมคมแต่เมื่อใช้ในการฝึกฝนพลังของมันจะคล้ายคลึงกับการใช้ค้อน แต่จะมีแรงเสริมที่ถ้าหากฝึกฝนอย่างต่อเนื่องพละกำลังก็จะเพิ่มพูนและสามารถแบ่งแยกท้องฟ้าให้ห่างออกจากกันได้ ”เจ้าหนูน้อยหลังจากนี้เดี๋ยวพ่อบุญธรรมจะเป็นคนสอนทักษะการต่อสู้กับเจ้าเอง ถ้าหากเจ้าเรียนรู้และสามารถใช้มันได้อย่างเชี่ยวชาญ เจ้าก็จะเอาชนะทุกคนได้ และสาวน้อยทุกคนจะต้องหลงรักเจ้า”
”ชิงสุ่ยนี้เจ้ากำลังจะทำให้เด็กน้อยเป็นเหมือนเจ้าอย่างนั้นรึ”อีเย่เจี้ยนเก้อหัวเราะเยาะ
”สวัสดีครับท่านแม่บุญธรรมท่านแม่บุญธรรมงดงามเหมือนกับเทพธิดาเลย!!”
”เจ้าหนูเจ้าช่างมีน้ำเสียงที่ไพเราะเสนาะหูจริงๆ แถมยังเป็นคนที่พูดจาเก่งตั้งแต่เด็ก”อีเย่เจี้ยนเก้อก็รู้สึกเอ็นดูหนูน้อยตัวเล็กๆที่อยู่ด้านหน้า เธอจึงนำเอายาเม็ดที่ช่วยเสริมความแข็งแกร่งของกล้ามเนื้อและกระดูกออกมาจากนั้นก็มอบให้กับเจ้าหนูน้อย
”เด็กน้อยคนนี้ไม่เหมือนพ่อของมันเลย”ลี่จี๋กล่าวยังมีความสุขขนาดที่เธอมองดูลูกชายของเธอซุนอี้ที่กำลังได้ความรักจากผู้คนรอบข้าง หมอปีศาจได้เรียนเชิญชิงสุ่ยอีเย่เจี้ยนเก้อ ลี่เหยียน เข้าไปพูดคุยในห้องส่วนตัวของเขา ชิงสุ่ยดีใจอย่างยิ่งที่เขาได้กลับมาสถานที่ที่เขาคุ้นเคยมันยังคงเป็นเหมือนเดิมแล้วเขาก็ได้รับความรู้สึกอบอุ่นจากบรรดาเพื่อนสนิทพี่น้อง
ทุกคนที่อยู่ที่นี่เปรียบเสมือนเพื่อนแท้และเป็นบางครอบครัวฉะนั้นมันจึงเต็มไปด้วยสุขที่กำลังเบ่งบาน
…………………
”แม่นางเหยียนเจ้าคงจะรู้สึกไม่สบายตัวสินะ บอกข้ามาเกิดเดี๋ยวข้าจะช่วยรักษา”หมอปีศาจและภรรยาของเขากำลังยุ่งอยู่กับการจัดเตรียมบางสิ่งบางอย่าง ฉะนั้นชิงสุ่ยจึงเป็นคนถามลี่เหยียนด้วยตัวเอง
”ก็ไม่มีอะไรมากหรอกเพียงแค่เส้นลมปราณของข้าบาดเจ็บเนื่องจากการฝึกฝน ฉะนั้นข้าคงต้องขอรบกวนคุณชายชิง”ลี่เหยียนยิ้มตอบ
ชิงสุ่ยจับชีพจรของเธอแล้วพบว่าเส้นลมปราณของเธอเกิดอาการบาดเจ็บเพียงเล็กน้อยแน่นอนว่าอาการบาดเจ็บเหล่านี้ไม่ใช่เรื่องยุ่งยากอะไรสำหรับชิงสุ่ย แม้แต่เป็นอาการบาดเจ็บถึงระดับจิตวิญญาณเขาก็สามารถรักษาให้หายในพริบตาได้
”อืมมอาการบาดเจ็บของเจ้านั้นเป็นอาการบาดเจ็บที่ไม่รุนแรงมาก เมื่อเจ้ากลับไป เจ้าก็จงกินยาเหล่านี้ หลังจากผ่านไปประมาณ 3-4 วัน ข้ามั่นใจว่าเส้นลมปราณของเจ้าจะกลับมาหายดีและแข็งแกร่งกว่าเก่า”ชิงสุ่ยส่งขวดยาเสริมเส้นลมปราณให้กับเธอ
”ขอบคุณมากว่าแต่ข้าพอจะตอบแทนอะไรเจ้าได้บ้าง? แม้ว่าข้าจะจ่ายเงินให้กับเจ้าแต่ดูแล้วเจ้าคงจะไม่สนใจ”ลี่เหยียนยิ้มขณะถาม
”เราเองก็เป็นเพื่อนกันอย่าคิดมากเลยเว้นแต่เจ้าจะลืมมิตรภาพเหล่านี้ไปเสียแล้ว”ชิงสุ่ยรู้สึกไม่สบายใจ แต่ก็ไม่รู้ว่าทำไม
”ไม่มีทางที่ข้าจะลืมเลือนมิตรภาพที่เจ้ามีต่อข้าเป็นอันขาด”
เข็มแห่งชีวิตและความตายของชิงสุ่ยได้ช่วยเหลือผู้คนจากตระกูลลี่มาแล้วนับไม่ถ้วน
ชิงสุ่ยยังคงจดจำภาพที่เธอตกใจตอนที่เขาใช้เข็มแห่งชีวิตและความตายช่วยชีวิตเธอความรู้สึกเรานั้นยังคงตราตรึงใจของเธอมาตลอดในช่วงหลายปีที่ผ่านมา มันเป็นแรงผลักดันชั้นดีที่ช่วยให้เธอขยันหมั่นเพียรในการฝึกฝน แต่ช่องว่างระหว่างเธอกับชิงสุ่ยยังคงเพิ่มขึ้น จนมันทำให้เธอที่เคยอยู่ระดับใกล้เคียงชิงสุ่ย ห่างไกลจนเธอจำความรู้สึกเหล่านั้นไม่ได้แล้ว