AST
บทที่1802 – กลุ่มคนที่มีระดับพลังทัดเทียมกับกลุ่มภาคีวิหคอัคคีเทวะ
ชิงสุ่ยรับก้อนทองคำบริสุทธิ์มาและกล่าวว่า”อย่าได้กังวล เจ้าจะต้องพอใจกับมันอย่างแน่นอน”
”ถ้าเช่นนั้นข้าคงต้องขอตัวลา ถ้าหากต้องมีปัญหาอะไรหรือต้องการสิ่งใด ก็จงไปตามหาข้าที่หุบเขาวิหคอัคคีร่ายรำ”หญิงสาวคนนั้นกล่าวจบ ก็เตรียมตัวจะออกเดินทางกลับไปทันที
แต่ก่อนที่เธอจะจากไปชิงสุ่ยก็รีบกล่าวขัดจังหวะอย่างรวดเร็วว่า “อย่าเพิ่งรีบจากไปไหนสิ ยังมีบางอย่างที่ข้าไม่เข้าใจ แล้วเจ้าจะจากไปได้อย่างไร?”
ชิงสุ่ยเป็นคนที่ค่อนข้างพูดมากและในตอนนี้เขาได้กลายเป็นผู้อาวุโสของกลุ่มภาคีวิหคอัคคีเทวะ ดังนั้นเขาจึงมีความสงสัยในสถานการณ์ปัจจุบัน
”โอ้ว่าแต่เจ้าต้องการอยากรู้เรื่องอะไรรึ?” น้ำเสียงของหญิงสาวผู้นั้นนุ่มนวลมากกว่าแต่ก่อน แต่ก็ยังคงไว้ซึ่งเสน่ห์ที่ดึงดูดใจ
”ข้าอยากรู้ว่าสงครามใหญ่ของโลกเก้ามหาทวีปเป็นเรื่องจริงหรือไม่?” ชิงสุ่ยไม่รู้เรื่องราวที่แท้จริง และบางทีมันอาจจะเกิดขึ้นจริงก็เป็นไปได้
หญิงสาวผู้นั้นจ้องมองมาที่ชิงสุ่ยก่อนจะพยักหน้า” แท้จริงแล้วมันก็ไม่ได้ซับซ้อนเหมือนที่เจ้าคิด มันก็เหมือนกับความขัดแย้งที่เกิดขึ้นระหว่างทวีป ไม่ต่างอะไรจากสงครามระหว่างกลุ่มหรือตระกูล เพียงแค่มีขนาดที่ใหญ่กว่า”
ชิงสุ่ยเริ่มเข้าใจในคำอธิบายดูเหมือนเขาจะตาบอดมืดมิดคิดเหตุผลเหล่านี้ออกมาไม่ได้ แน่นอนว่าบนโลกใบนี้เต็มไปด้วยเผ่าและตระกูลมากมาย ดังนั้นพวกเขาย่อมต้องการขยายขอบเขตอำนาจของตน จนนำมาซึ่งการขัดผลประโยชน์
แม้แต่ยังไม่มีคำอธิบายที่เจาะจงแต่อย่างน้อยที่สุดคุมพลังภายในมหาทวีปวิหคอัคคีร่ายรำก็ถือว่าเป็นกลุ่มคนที่มีอิทธิพลอย่างมากต่อผู้อื่น หรือว่าบางทีพวกเขาอาจจะไปสร้างความขัดแย้งกับผู้ที่ทรงอำนาจมากกว่า
กลุ่มภาคีวิหคอัคคีเทวะถือว่าเป็นขุมพลังอันยิ่งใหญ่ของมหาทวีปวิหคอัคคีร่ายรำ แม้ว่าพวกเขาอาจจะไม่ใช่ขุมพลังที่ใหญ่ที่สุด แต่อย่างน้อยเขาก็ครอบครองพื้นที่ภูมิศาสตร์จำนวนมากรวมถึงสมบัติหลายแขนง ที่เห็นเด่นชัดคือทองคำบริสุทธิ์ ชิงสุ่ยมีความมั่นใจอย่างมากว่ามันจะต้องถูกผลิตอยู่ภายในหุบเขาวิหคอัคคีร่ายรำอย่างแน่นอน
”ไม่ทราบว่าพลังของกลุ่มภาคีวิหคอัคคีเทวะอยู่ในระดับใด?เจ้าพอจะเปิดเผยให้ข้ารู้ได้หรือไม่?”ชิงสุ่ยกล่าวถามหลังจากไตร่ตรองชั่วครู่หนึ่ง
หญิงสาวผู้นั้นยิ้มเล็กน้อยเมื่อได้ยินคำถามของชิงสุ่ยรอยยิ้มต่างๆของเธอเกือบทำให้วิญญาณของเขาหลุดลอยออกจากร่าง
”แน่นอนไม่มีปัญหา ปัจจุบันภายในกลุ่มภาคีวิหคอัคคีเทวะ มีผู้ฝึกตนระดับสวรรค์ศักดิ์สิทธิ์จำนวน 50 คน แต่ในกลุ่มเหล่านั้นไม่มีใครแข็งแกร่งกว่าเจ้าเลย”
ชิงสุ่ยรู้สึกประหลาดใจอย่างมากที่จำนวนของผู้ที่หลบซ่อนตัวอยู่ภายในมหาทวีปแห่งนี้มีจำนวนมากเกินกว่าที่เขาคาดคิดแล้วจากคำพูดของเธอนั่นก็หมายความว่า คนที่แข็งแกร่งกว่าชิงสุ่ยที่อยู่ภายในกลุ่มภาคีวิหคอัคคีเทวะ ก็คงมีเพียงแค่เธอคนเดียว
”เจ้ารู้สึกผิดหวังในการตัดสินใจของเจ้าใช่หรือไม่?แต่อย่างน้อยข้าเองก็สามารถรับประกันความปลอดภัยและอิสระกับเจ้า ไม่ต่างอะไรจากการใช้ชีวิตอยู่ปกติ ฉะนั้นเจ้าเองก็ไม่จำเป็นต้องเสียใจในการตัดสินใจทั้งหมดW หญิงสาวผู้นั้นกล่าวกับชิงสุ่ย การแสดงออกของเธอเต็มไปด้วยความอ่อนโยนและน้ำเสียงที่ดูสงบนิ่ง
ชิงสุ่ยรับรู้ได้ว่าหญิงสาวผู้นี้พยายามเชื้อเชิญเขาด้วยกลยุทธ์ยั่วยุระดับต่ำแต่คำพูดของเธอนั้นสามารถทำให้ผู้ที่อยู่ระดับต่ำกว่ายอมตายได้โดยไม่มีความลังเล
แน่นอนว่าชิงสุ่ยย่อมต้องไปใช่คนที่หลงกลง่ายๆแต่เขาเองก็ไม่มีแรงจูงใจให้ต้องรู้สึกเห็นแก่ตัว
ชิงสุ่ยจึงลูบหัวและถามด้วยรอยยิ้มอันขมขื่นว่า”แล้วเจ้าพอจะรู้หรือไม่ว่า ภายในมหาทวีปวิหคอัคคีร่ายรำ ยังมีผู้ใดหรือสิ่งใดที่แข็งแกร่งกว่ากลุ่มภาคีวิหคอัคคีเทวะ?”
”เมื่อเทียบกับพวกเราแล้วมีอยู่ 2 ขุมกำลังที่แข็งแกร่ง หนึ่งก็คือกลุ่มวิหคเพลิง และอีกหนึ่งกลุ่มคือกลุ่มวิหคทองคำ นอกเหนือจาก 2 กลุ่มนี้ ก็ยังมีนิกายแดนดาบยักษ์ และตำหนักวิหคเงาทมิฬ”
แม้เธอจะไม่อยากพูดแต่เธอก็กล่าวมันออกมาด้วยความตั้งใจ และเธอก็กล่าวต่ออีกว่า “ถ้าหากพวกเขาต่อสู้กับข้าทีละคน พวกเขาก็ไม่มีพลังมากพอจะเทียบข้าได้ แต่ทางที่ดีพวกเราควรรวมกลุ่มกัน เพื่อให้กลุ่มของพวกเราแข็งแกร่งยิ่งขึ้น”
ชิงสุ่ยโล่งอกที่ได้ยินคำพูดเหล่านี้ถ้าหากสิ่งที่เธอพูดเป็นจริง เขาก็ไม่มีอะไรที่ต้องกังวล ตราบใดที่หญิงสาวผู้นี้ยังอยู่ข้างเดียวกับเขา ทุกอย่างก็คงจะปลอดภัย
”ในเมื่อเจ้ามีพลังแข็งแกร่งทัดเทียมกับพวกเขาแล้วทำไมถึงยังต้องแข่งขันด้านพลังกันอีก?”ชิงสุ่ยถามด้วยความอยากรู้
หญิงสาวคิดอยู่ชั่วครู่หนึ่งก่อนจะตอบอย่างช้าๆว่า “พวกเขาล้วนเป็นศิษย์พี่ศิษย์น้องของข้า และจริงๆแล้วพวกเขาก็ไม่ได้แข่งขันกับข้า แต่พวกเขากำลังแข่งขันกันเอง”
”ความแข็งแกร่งของนิกายแดนดาบยักษ์และตำหนักวิหคเงาทมิฬ ล้วนน่าประทับใจ พวกเขาถูกมองว่าเป็นคู่ต่อสู้ที่น่ากลัวสำหรับข้า”หญิงสาวกล่าวด้วยความตั้งใจเพื่อเปลี่ยนหัวข้อก่อนหน้า
ชิงสุ่ยตัดสินใจไม่ถามคำถามเพิ่มเติมเพราะยังไงสุดท้ายในอนาคตเขาก็ต้องรู้เรื่องราวทั้งหมดอยู่ดีหลังจากที่ได้พูดคุยกับหญิงสาวคนนี้ ชิงสุ่ยก็เข้าใจแล้วว่าภายในดินแดนมหาทวีปวิหคอัคคีร่ายรำ ยังคงเต็มไปด้วยความลับมากมาย และเมื่อพิจารณาจากความกว้างใหญ่ไพศาลของดินแดนแห่งนี้ ทุกอย่างไม่เป็นเรื่องเกินจริงเลย และด้วยเหตุผลทั้งหมดจึงไม่ใช่เรื่องที่น่าแปลกว่าทำไมมหาทวีปวิหคอัคคีร่ายรำ จึงสามารถต่อกรกับมหาทวีปอุดรเทวาและมหาทวีปมังกรอหังกาลได้
”สงครามอันยิ่งใหญ่ของโลกเก้ามหาทวีปจริงๆแล้วถูกแบ่งออกเป็นสนามรบที่แตกต่างกัน มหาทวีปมังกรอหังกาล มหาทวีปวิหคอัคคีร่ายรำ มหาทวีปอุดรเทวารวมถึงโลกมหาสมุทร คือ 1 พื้นที่สงคราม ในขณะที่มหาทวีปอู่เซียตะวันตก จะมี พื้นที่สงครามเป็นของตนเอง ส่วนอีก 5 ทวีปที่เหลือก็จะมีพื้นที่สงครามอีกหนึ่งพื้นที่สงครามอันยิ่งใหญ่”
มหาทวีปอุดรเทวาเป็นสถานที่ที่มีความลึกซึ้งอย่างมากชิงสุ่ยใช้ความพยายามมากมายในการเข้าถึงส่วนลึกของมหาทวีปมันแทบจะเป็นโรคของนิกายเทวะและดินแดนโลกมหาสมุทร สถานที่แห่งนั้นเต็มไปด้วยผู้ทรงพลัง และเมื่อเทียบเคียงกับหญิงสาวที่ชื่อว่าเฉินหวง เขาก็ไม่สามารถบอกได้ว่าใครแข็งแกร่งกว่ากัน
บทที่1802 – กลุ่มคนที่มีระดับพลังทัดเทียมกับกลุ่มภาคีวิหคอัคคีเทวะ
ชิงสุ่ยรับก้อนทองคำบริสุทธิ์มาและกล่าวว่า”อย่าได้กังวล เจ้าจะต้องพอใจกับมันอย่างแน่นอน”
”ถ้าเช่นนั้นข้าคงต้องขอตัวลา ถ้าหากต้องมีปัญหาอะไรหรือต้องการสิ่งใด ก็จงไปตามหาข้าที่หุบเขาวิหคอัคคีร่ายรำ”หญิงสาวคนนั้นกล่าวจบ ก็เตรียมตัวจะออกเดินทางกลับไปทันที
แต่ก่อนที่เธอจะจากไปชิงสุ่ยก็รีบกล่าวขัดจังหวะอย่างรวดเร็วว่า “อย่าเพิ่งรีบจากไปไหนสิ ยังมีบางอย่างที่ข้าไม่เข้าใจ แล้วเจ้าจะจากไปได้อย่างไร?”
ชิงสุ่ยเป็นคนที่ค่อนข้างพูดมากและในตอนนี้เขาได้กลายเป็นผู้อาวุโสของกลุ่มภาคีวิหคอัคคีเทวะ ดังนั้นเขาจึงมีความสงสัยในสถานการณ์ปัจจุบัน
”โอ้ว่าแต่เจ้าต้องการอยากรู้เรื่องอะไรรึ?” น้ำเสียงของหญิงสาวผู้นั้นนุ่มนวลมากกว่าแต่ก่อน แต่ก็ยังคงไว้ซึ่งเสน่ห์ที่ดึงดูดใจ
”ข้าอยากรู้ว่าสงครามใหญ่ของโลกเก้ามหาทวีปเป็นเรื่องจริงหรือไม่?” ชิงสุ่ยไม่รู้เรื่องราวที่แท้จริง และบางทีมันอาจจะเกิดขึ้นจริงก็เป็นไปได้
หญิงสาวผู้นั้นจ้องมองมาที่ชิงสุ่ยก่อนจะพยักหน้า” แท้จริงแล้วมันก็ไม่ได้ซับซ้อนเหมือนที่เจ้าคิด มันก็เหมือนกับความขัดแย้งที่เกิดขึ้นระหว่างทวีป ไม่ต่างอะไรจากสงครามระหว่างกลุ่มหรือตระกูล เพียงแค่มีขนาดที่ใหญ่กว่า”
ชิงสุ่ยเริ่มเข้าใจในคำอธิบายดูเหมือนเขาจะตาบอดมืดมิดคิดเหตุผลเหล่านี้ออกมาไม่ได้ แน่นอนว่าบนโลกใบนี้เต็มไปด้วยเผ่าและตระกูลมากมาย ดังนั้นพวกเขาย่อมต้องการขยายขอบเขตอำนาจของตน จนนำมาซึ่งการขัดผลประโยชน์
แม้แต่ยังไม่มีคำอธิบายที่เจาะจงแต่อย่างน้อยที่สุดคุมพลังภายในมหาทวีปวิหคอัคคีร่ายรำก็ถือว่าเป็นกลุ่มคนที่มีอิทธิพลอย่างมากต่อผู้อื่น หรือว่าบางทีพวกเขาอาจจะไปสร้างความขัดแย้งกับผู้ที่ทรงอำนาจมากกว่า
กลุ่มภาคีวิหคอัคคีเทวะถือว่าเป็นขุมพลังอันยิ่งใหญ่ของมหาทวีปวิหคอัคคีร่ายรำ แม้ว่าพวกเขาอาจจะไม่ใช่ขุมพลังที่ใหญ่ที่สุด แต่อย่างน้อยเขาก็ครอบครองพื้นที่ภูมิศาสตร์จำนวนมากรวมถึงสมบัติหลายแขนง ที่เห็นเด่นชัดคือทองคำบริสุทธิ์ ชิงสุ่ยมีความมั่นใจอย่างมากว่ามันจะต้องถูกผลิตอยู่ภายในหุบเขาวิหคอัคคีร่ายรำอย่างแน่นอน
”ไม่ทราบว่าพลังของกลุ่มภาคีวิหคอัคคีเทวะอยู่ในระดับใด?เจ้าพอจะเปิดเผยให้ข้ารู้ได้หรือไม่?”ชิงสุ่ยกล่าวถามหลังจากไตร่ตรองชั่วครู่หนึ่ง
หญิงสาวผู้นั้นยิ้มเล็กน้อยเมื่อได้ยินคำถามของชิงสุ่ยรอยยิ้มต่างๆของเธอเกือบทำให้วิญญาณของเขาหลุดลอยออกจากร่าง
”แน่นอนไม่มีปัญหา ปัจจุบันภายในกลุ่มภาคีวิหคอัคคีเทวะ มีผู้ฝึกตนระดับสวรรค์ศักดิ์สิทธิ์จำนวน 50 คน แต่ในกลุ่มเหล่านั้นไม่มีใครแข็งแกร่งกว่าเจ้าเลย”
ชิงสุ่ยรู้สึกประหลาดใจอย่างมากที่จำนวนของผู้ที่หลบซ่อนตัวอยู่ภายในมหาทวีปแห่งนี้มีจำนวนมากเกินกว่าที่เขาคาดคิดแล้วจากคำพูดของเธอนั่นก็หมายความว่า คนที่แข็งแกร่งกว่าชิงสุ่ยที่อยู่ภายในกลุ่มภาคีวิหคอัคคีเทวะ ก็คงมีเพียงแค่เธอคนเดียว
”เจ้ารู้สึกผิดหวังในการตัดสินใจของเจ้าใช่หรือไม่?แต่อย่างน้อยข้าเองก็สามารถรับประกันความปลอดภัยและอิสระกับเจ้า ไม่ต่างอะไรจากการใช้ชีวิตอยู่ปกติ ฉะนั้นเจ้าเองก็ไม่จำเป็นต้องเสียใจในการตัดสินใจทั้งหมดW หญิงสาวผู้นั้นกล่าวกับชิงสุ่ย การแสดงออกของเธอเต็มไปด้วยความอ่อนโยนและน้ำเสียงที่ดูสงบนิ่ง
ชิงสุ่ยรับรู้ได้ว่าหญิงสาวผู้นี้พยายามเชื้อเชิญเขาด้วยกลยุทธ์ยั่วยุระดับต่ำแต่คำพูดของเธอนั้นสามารถทำให้ผู้ที่อยู่ระดับต่ำกว่ายอมตายได้โดยไม่มีความลังเล
แน่นอนว่าชิงสุ่ยย่อมต้องไปใช่คนที่หลงกลง่ายๆแต่เขาเองก็ไม่มีแรงจูงใจให้ต้องรู้สึกเห็นแก่ตัว
ชิงสุ่ยจึงลูบหัวและถามด้วยรอยยิ้มอันขมขื่นว่า”แล้วเจ้าพอจะรู้หรือไม่ว่า ภายในมหาทวีปวิหคอัคคีร่ายรำ ยังมีผู้ใดหรือสิ่งใดที่แข็งแกร่งกว่ากลุ่มภาคีวิหคอัคคีเทวะ?”
”เมื่อเทียบกับพวกเราแล้วมีอยู่ 2 ขุมกำลังที่แข็งแกร่ง หนึ่งก็คือกลุ่มวิหคเพลิง และอีกหนึ่งกลุ่มคือกลุ่มวิหคทองคำ นอกเหนือจาก 2 กลุ่มนี้ ก็ยังมีนิกายแดนดาบยักษ์ และตำหนักวิหคเงาทมิฬ”
แม้เธอจะไม่อยากพูดแต่เธอก็กล่าวมันออกมาด้วยความตั้งใจ และเธอก็กล่าวต่ออีกว่า “ถ้าหากพวกเขาต่อสู้กับข้าทีละคน พวกเขาก็ไม่มีพลังมากพอจะเทียบข้าได้ แต่ทางที่ดีพวกเราควรรวมกลุ่มกัน เพื่อให้กลุ่มของพวกเราแข็งแกร่งยิ่งขึ้น”
ชิงสุ่ยโล่งอกที่ได้ยินคำพูดเหล่านี้ถ้าหากสิ่งที่เธอพูดเป็นจริง เขาก็ไม่มีอะไรที่ต้องกังวล ตราบใดที่หญิงสาวผู้นี้ยังอยู่ข้างเดียวกับเขา ทุกอย่างก็คงจะปลอดภัย
”ในเมื่อเจ้ามีพลังแข็งแกร่งทัดเทียมกับพวกเขาแล้วทำไมถึงยังต้องแข่งขันด้านพลังกันอีก?”ชิงสุ่ยถามด้วยความอยากรู้
หญิงสาวคิดอยู่ชั่วครู่หนึ่งก่อนจะตอบอย่างช้าๆว่า “พวกเขาล้วนเป็นศิษย์พี่ศิษย์น้องของข้า และจริงๆแล้วพวกเขาก็ไม่ได้แข่งขันกับข้า แต่พวกเขากำลังแข่งขันกันเอง”
”ความแข็งแกร่งของนิกายแดนดาบยักษ์และตำหนักวิหคเงาทมิฬ ล้วนน่าประทับใจ พวกเขาถูกมองว่าเป็นคู่ต่อสู้ที่น่ากลัวสำหรับข้า”หญิงสาวกล่าวด้วยความตั้งใจเพื่อเปลี่ยนหัวข้อก่อนหน้า
ชิงสุ่ยตัดสินใจไม่ถามคำถามเพิ่มเติมเพราะยังไงสุดท้ายในอนาคตเขาก็ต้องรู้เรื่องราวทั้งหมดอยู่ดีหลังจากที่ได้พูดคุยกับหญิงสาวคนนี้ ชิงสุ่ยก็เข้าใจแล้วว่าภายในดินแดนมหาทวีปวิหคอัคคีร่ายรำ ยังคงเต็มไปด้วยความลับมากมาย และเมื่อพิจารณาจากความกว้างใหญ่ไพศาลของดินแดนแห่งนี้ ทุกอย่างไม่เป็นเรื่องเกินจริงเลย และด้วยเหตุผลทั้งหมดจึงไม่ใช่เรื่องที่น่าแปลกว่าทำไมมหาทวีปวิหคอัคคีร่ายรำ จึงสามารถต่อกรกับมหาทวีปอุดรเทวาและมหาทวีปมังกรอหังกาลได้
”สงครามอันยิ่งใหญ่ของโลกเก้ามหาทวีปจริงๆแล้วถูกแบ่งออกเป็นสนามรบที่แตกต่างกัน มหาทวีปมังกรอหังกาล มหาทวีปวิหคอัคคีร่ายรำ มหาทวีปอุดรเทวารวมถึงโลกมหาสมุทร คือ 1 พื้นที่สงคราม ในขณะที่มหาทวีปอู่เซียตะวันตก จะมี พื้นที่สงครามเป็นของตนเอง ส่วนอีก 5 ทวีปที่เหลือก็จะมีพื้นที่สงครามอีกหนึ่งพื้นที่สงครามอันยิ่งใหญ่”
มหาทวีปอุดรเทวาเป็นสถานที่ที่มีความลึกซึ้งอย่างมากชิงสุ่ยใช้ความพยายามมากมายในการเข้าถึงส่วนลึกของมหาทวีปมันแทบจะเป็นโรคของนิกายเทวะและดินแดนโลกมหาสมุทร สถานที่แห่งนั้นเต็มไปด้วยผู้ทรงพลัง และเมื่อเทียบเคียงกับหญิงสาวที่ชื่อว่าเฉินหวง เขาก็ไม่สามารถบอกได้ว่าใครแข็งแกร่งกว่ากัน