AST
บทที่1807 – ไม่คาดหวัง
ชิงสุ่ยสวมกอดฉินชิงอย่างแน่นหนาโดยไม่พูดจาใดๆพวกสองเริ่มประริมฝีปากเข้าหากันอย่างเป็นธรรมชาติ
เขาจูบเธออย่างลึกซึ้งลิ้นของเขาเริ่มสำรวจปากนี้นุ่มนวลของเธอ
ฉินชิงตอบสนองความรักด้วยแววตาที่สวยงามแม้จะปิดตาลงครึ่งนึงก็ตาม แขนของเธอโอบกอดร่างกายชิงสุ่ย ร่างกายของเธอสั่นเครืออย่างต่อเนื่อง เธอรู้ว่าชิงสุ่ยกำลังคาดหวังสิ่งใด
ชิงสุ่ยวางมือทั้งสองไว้ที่หลังของเธอเขาสัมผัสกับผิวหนังที่ละเอียดอ่อน นุ่มนวล ซึ่งมันทำให้เขาตื่นเต้นอย่างมาก ในไม่ช้ามือของเขาก็ค่อยๆย้ายจากแผ่นหลังเข้าสู่แก้มก้นที่เด้งสู้ฝ่ามือ
ร่างกายของฉินชิงสั่นสะท้านไปทั่วเธอร้องเสียงครางเบาๆโดยไม่รู้ตัว
มือของชิงสุ่ยยังคงซุกซนมันก่อให้เกิดความตื่นเต้นที่อธิบายไม่ได้
ฉินชิงดึงริมฝีปากออกจากปากของชิงสุ่ยใบหน้าของเธอแดงกล่ำ ดวงตาเต็มไปด้วยหมอกจางๆ เธอมองเข้าไปในดวงตาที่ร้อนแรงของชิงสุ่ย
ฉินชิงไม่ได้หยุดการเคลื่อนไหวมือของชิงสุ่ยเธอขดตัวเข้าไปสู่อ้อมกอดชิงสุ่ย แล้วปล่อยให้มือของชิงสุ่ยขยับอย่างซุกซนต่อไป
ไม่มีผู้ใดสามารถทนทานต่อพลังฝ่ามือชิงสุ่ยได้ทักษะหัตถ์พลิ้วไหวสะเทือนวิญญาณนอกจากจะทำให้ร่างกายรู้สึกผ่อนคลาย มันยังเป็นทักษะที่ช่วยประโลมจิตใจ ปลดปล่อยความตึงของกล้ามเนื้อ
ความสุขที่ยิ่งใหญ่ที่สุดระหว่างหญิงชายคือความผ่อนคลาย ซึ่งเป็นสิ่งที่ชิงสุ่ยเชี่ยวชาญ
จุดชีพจรจำนวนมากบนร่างกายบางจุดไวต่อความรู้สึก ถ้าหากเป็นผู้ที่บรรลุทางด้านการกดจุด คนเหล่านี้จะสามารถปลดปล่อยความตื่นเต้นและความสุขอย่างล้นหลามได้ตั้งแต่หัวจรดเท้า
ทุกการขยับมือมีผลต่อการกระตุ้นความรู้สึก
ฝ่ามือของชิงสุ่ยออกแรงด้วยปริมาณที่เหมาะสม ค่อยๆสัมผัสส่วนของร่างกายที่บอบบางที่สุด แน่นอนว่าร่างกายของเธอยังคงสั่นเครือตลอดเวลา
สีหน้าของเธอเป็นไปด้วยความเขินอายเธออายอย่างมากและพยายามบิดเบือนใบหน้า แต่สุดท้ายเธอก็พ่ายแพ้ให้กับชิงสุ่ย
ฉินชิงใช้เวลาชั่วครู่หนึ่งในการฟื้นคืนสติเธอเงยหน้ามองดูชิงสุ่ย ใบหน้าที่งดงามหาตัวจับยากของเธอเป็นสีแดงก่ำด้วยความสวยงาม ผิวพรรณของเธอดูสง่างาม คล้ายกับเหล่านางงาม
”ข้าขอตัวไปอาบน้ำก่อนแล้วเดี๋ยวเราไปที่บ้านพี่สาวหลิงเยียนพร้อมกัน”ฉินชิงตัดจบบทสนทนาก่อนจะหายตัวไปจากลานสายตาชิงสุ่ยทันที
ไฟราคะในหัวใจของชิงสุ่ยค่อยๆดับมอดไปอย่างช้าๆแต่กลิ่นหอมยังคงตราตรึงอยู่ที่ปลายจมูกของเขา มันเป็นความรู้สึกที่ยอดเยี่ยมเกินกว่าจะบรรยาย
………………..
…………….
ชั่วครู่ต่อมาทุกคนได้มารวมตัวกันรวมถึง ฮัวรูเหม่ยและซานยู ซานยูโผตัวเข้ากอดชิงสุ่ยทันทีที่พบหน้า ในสายตาของซานยู ชิงสุ่ยเป็นดั่งพี่น้องที่สืบทอดสายเลือดเดียวกัน
ฮัวรูเหม่ยก็เป็นหนี้ชีวิตชิงสุ่ยนอกจากนี้เธอยังมายืนจุดนี้ได้เพราะชิงสุ่ย ดังนั้นความคุ้นเคยระหว่างเธอและชิงสุ่ย จึงแนบแน่นดุจพี่น้องเช่นกัน
”ชิงสุ่ยข้าอยากให้เจ้าอยู่ที่นี่นานๆ”ซานยูกล่าวอย่างมีความสุข
”ข้าจะอยู่ที่นี่ตราบนานเท่านานถ้าหากนายหญิงไม่ไล่ข้ากลับไป”ชิงสุ่ยยิ้มตอบ
”แน่นอนอยู่แล้ว นายหญิงคงไม่ไล่ชิงสุ่ยกลับไปใช่หรือไม่ หลิงเยียน” ฮัวรูเหม่ยกล่าวพร้อมกับรอยยิ้ม จากนั้นเธอก็หันไปหาถานท่ายหลิงเยียน
ฮัวรูเหม่ยสังเกตเห็นความรู้สึกที่ชิงุส่ยมีให้กับถานท่ายหลิงเยียนเธอจะรู้ว่าจะต้องมีอะไรบางอย่างเกิดขึ้นระหว่างคนสอง แต่เธอไม่แน่ใจนัก แต่เธอก็หวังว่าพวกเขาจะอยู่ร่วมกันได้ด้วยความจริงจัง
”ชิงสุ่ยเองก็เป็นถึงผู้พิทักษ์ประจำที่แห่งนี้เขาสามารถมาที่นี่ได้ทุกเวลาอยู่แล้ว แต่น่าเสียดายที่เขายุ่งจนแทบไม่มีเวลา”ถานท่ายหลิงเยียน กล่าวด้วยน้ำเสียงสงบแต่อ่อนโยน
ฮัวรูเหม่ยไม่พูดอะไรต่อแล้วปัญหาที่เกิดขึ้นระหว่างคนสองคนคงใกล้จะถึงบทสรุป ที่เหลือก็ปล่อยให้เป็นชะตากรรมที่ทั้งสองคนได้ทำมาร่วมกัน
……………… ……………..
ชิงสุ่ยประหลาดใจเมื่อสัมพันธ์ถึงพลังความแข็งแกร่งของถานท่ายหลิงเยียนและฉินชิง ถานท่ายหลิงเยียนมีชุดนางฟ้าสวรรค์และมรดกสืบทอดพิเศษ ซึ่งเป็นมรดกสืบทอดจอมอสูร จึงมีความเป็นไปได้ที่เธอจะแข็งแกร่งและพัฒนาอย่างรวดเร็ว
ชิงสุ่ยช่วยเหลือการฝึกฝนและการเสริมพลังรากฐานจนทำให้เธอแข็งแกร่งในช่วงหลายปีที่ผ่านมา แต่ช่างน่าแปลกใจที่สุดคือความแข็งแกร่งของเธอตอนนี้อยู่ในระดับ 3,000 เต๋า
มันคืออะไรพลังที่ค่อนข้างยอดเยี่ยมยิ่งชิงสุ่ยแข็งแกร่งมากขึ้นเท่าไหร่ เขาก็ยิ่งสามารถช่วยเหลือผู้อื่นได้มากขึ้นเท่านั้น แน่นอนว่าด้วยพลังในปัจจุบันของชิงสุ่ย เขาสามารถช่วยเหลือทุกคนได้อย่างง่ายดายราวกับพลิกฝ่ามือ
ผลลัพธ์ส่วนใหญ่ยังคงมาจากเข็มแห่งชีวิตและการตายปราณแห่งการหวนคืน รวมทั้งทักษะการใช้ยาที่เป็นเอกลักษณ์ ซึ่งคนอื่นไม่มีทางบรรลุในระดับชิงสุ่ยได้เลย
หากนับในอดีตฉินชิงเมื่อเทียบกับถานท่ายหลิงเยียน ฉินชิงแข็งแกร่งกว่าถานท่ายหลิงเยียนมาก แต่ตอนนี้ทั้งสองคนมีพลังอยู่ระดับทัดเทียมกัน
ชิงสุ่ยช่วยเหลือการฝึกฝนทุกคนในตอนบ่ายแม้กระบวนการจะเป็นไปด้วยความน่าเบื่อ แต่ท่วงท่าการฝึกฝนของเหล่าหญิงสาวก็ยังคงมีเสน่ห์ เป็นอาหารตาที่น่าพึงพอใจ ในตอนนี้พลังของถานท่ายหลิงเยียนพัฒนาขึ้นสู่ระดับ 12,000 เต๋า ส่วนฉินชิงอยู่ในระดับ 10,000 เต๋าซึ่งน้อยกว่าเพียงเล็กน้อย
และเป็นอีกครั้งหนึ่งที่ชิงสุ่ยรู้สึกประหลาดใจในการพัฒนาพลังของผู้สืบทอดแห่งจอมอสูรมันทั้งรวดเร็วและแข็งแกร่ง แม้จะมีข้อเสียอยู่บ้าง แต่ชิงสุ่ยก็สามารถเอาชนะข้อเสียทั้งหมดได้
ชิงสุ่ยเตรียมความพร้อมเพื่อรับมือสงครามยืดเยื้อของถานท่ายหลิงเยียนที่กำลังจะมาถึงเขาเองก็ไม่รู้ว่าเมื่อไหร่เขาจะเข้าถึงส่วนลึกในจิตใจของเธอได้ หรือบางทีมันอาจจะเปลี่ยนไปหลังจากที่เขาสามารถกำจัดนิกาย 5 พยัคฆ์อมตะให้หมดสิ้น
บทที่1807 – ไม่คาดหวัง
ชิงสุ่ยสวมกอดฉินชิงอย่างแน่นหนาโดยไม่พูดจาใดๆพวกสองเริ่มประริมฝีปากเข้าหากันอย่างเป็นธรรมชาติ
เขาจูบเธออย่างลึกซึ้งลิ้นของเขาเริ่มสำรวจปากนี้นุ่มนวลของเธอ
ฉินชิงตอบสนองความรักด้วยแววตาที่สวยงามแม้จะปิดตาลงครึ่งนึงก็ตาม แขนของเธอโอบกอดร่างกายชิงสุ่ย ร่างกายของเธอสั่นเครืออย่างต่อเนื่อง เธอรู้ว่าชิงสุ่ยกำลังคาดหวังสิ่งใด
ชิงสุ่ยวางมือทั้งสองไว้ที่หลังของเธอเขาสัมผัสกับผิวหนังที่ละเอียดอ่อน นุ่มนวล ซึ่งมันทำให้เขาตื่นเต้นอย่างมาก ในไม่ช้ามือของเขาก็ค่อยๆย้ายจากแผ่นหลังเข้าสู่แก้มก้นที่เด้งสู้ฝ่ามือ
ร่างกายของฉินชิงสั่นสะท้านไปทั่วเธอร้องเสียงครางเบาๆโดยไม่รู้ตัว
มือของชิงสุ่ยยังคงซุกซนมันก่อให้เกิดความตื่นเต้นที่อธิบายไม่ได้
ฉินชิงดึงริมฝีปากออกจากปากของชิงสุ่ยใบหน้าของเธอแดงกล่ำ ดวงตาเต็มไปด้วยหมอกจางๆ เธอมองเข้าไปในดวงตาที่ร้อนแรงของชิงสุ่ย
ฉินชิงไม่ได้หยุดการเคลื่อนไหวมือของชิงสุ่ยเธอขดตัวเข้าไปสู่อ้อมกอดชิงสุ่ย แล้วปล่อยให้มือของชิงสุ่ยขยับอย่างซุกซนต่อไป
ไม่มีผู้ใดสามารถทนทานต่อพลังฝ่ามือชิงสุ่ยได้ทักษะหัตถ์พลิ้วไหวสะเทือนวิญญาณนอกจากจะทำให้ร่างกายรู้สึกผ่อนคลาย มันยังเป็นทักษะที่ช่วยประโลมจิตใจ ปลดปล่อยความตึงของกล้ามเนื้อ
ความสุขที่ยิ่งใหญ่ที่สุดระหว่างหญิงชายคือความผ่อนคลาย ซึ่งเป็นสิ่งที่ชิงสุ่ยเชี่ยวชาญ
จุดชีพจรจำนวนมากบนร่างกายบางจุดไวต่อความรู้สึก ถ้าหากเป็นผู้ที่บรรลุทางด้านการกดจุด คนเหล่านี้จะสามารถปลดปล่อยความตื่นเต้นและความสุขอย่างล้นหลามได้ตั้งแต่หัวจรดเท้า
ทุกการขยับมือมีผลต่อการกระตุ้นความรู้สึก
ฝ่ามือของชิงสุ่ยออกแรงด้วยปริมาณที่เหมาะสม ค่อยๆสัมผัสส่วนของร่างกายที่บอบบางที่สุด แน่นอนว่าร่างกายของเธอยังคงสั่นเครือตลอดเวลา
สีหน้าของเธอเป็นไปด้วยความเขินอายเธออายอย่างมากและพยายามบิดเบือนใบหน้า แต่สุดท้ายเธอก็พ่ายแพ้ให้กับชิงสุ่ย
ฉินชิงใช้เวลาชั่วครู่หนึ่งในการฟื้นคืนสติเธอเงยหน้ามองดูชิงสุ่ย ใบหน้าที่งดงามหาตัวจับยากของเธอเป็นสีแดงก่ำด้วยความสวยงาม ผิวพรรณของเธอดูสง่างาม คล้ายกับเหล่านางงาม
”ข้าขอตัวไปอาบน้ำก่อนแล้วเดี๋ยวเราไปที่บ้านพี่สาวหลิงเยียนพร้อมกัน”ฉินชิงตัดจบบทสนทนาก่อนจะหายตัวไปจากลานสายตาชิงสุ่ยทันที
ไฟราคะในหัวใจของชิงสุ่ยค่อยๆดับมอดไปอย่างช้าๆแต่กลิ่นหอมยังคงตราตรึงอยู่ที่ปลายจมูกของเขา มันเป็นความรู้สึกที่ยอดเยี่ยมเกินกว่าจะบรรยาย
………………..
…………….
ชั่วครู่ต่อมาทุกคนได้มารวมตัวกันรวมถึง ฮัวรูเหม่ยและซานยู ซานยูโผตัวเข้ากอดชิงสุ่ยทันทีที่พบหน้า ในสายตาของซานยู ชิงสุ่ยเป็นดั่งพี่น้องที่สืบทอดสายเลือดเดียวกัน
ฮัวรูเหม่ยก็เป็นหนี้ชีวิตชิงสุ่ยนอกจากนี้เธอยังมายืนจุดนี้ได้เพราะชิงสุ่ย ดังนั้นความคุ้นเคยระหว่างเธอและชิงสุ่ย จึงแนบแน่นดุจพี่น้องเช่นกัน
”ชิงสุ่ยข้าอยากให้เจ้าอยู่ที่นี่นานๆ”ซานยูกล่าวอย่างมีความสุข
”ข้าจะอยู่ที่นี่ตราบนานเท่านานถ้าหากนายหญิงไม่ไล่ข้ากลับไป”ชิงสุ่ยยิ้มตอบ
”แน่นอนอยู่แล้ว นายหญิงคงไม่ไล่ชิงสุ่ยกลับไปใช่หรือไม่ หลิงเยียน” ฮัวรูเหม่ยกล่าวพร้อมกับรอยยิ้ม จากนั้นเธอก็หันไปหาถานท่ายหลิงเยียน
ฮัวรูเหม่ยสังเกตเห็นความรู้สึกที่ชิงุส่ยมีให้กับถานท่ายหลิงเยียนเธอจะรู้ว่าจะต้องมีอะไรบางอย่างเกิดขึ้นระหว่างคนสอง แต่เธอไม่แน่ใจนัก แต่เธอก็หวังว่าพวกเขาจะอยู่ร่วมกันได้ด้วยความจริงจัง
”ชิงสุ่ยเองก็เป็นถึงผู้พิทักษ์ประจำที่แห่งนี้เขาสามารถมาที่นี่ได้ทุกเวลาอยู่แล้ว แต่น่าเสียดายที่เขายุ่งจนแทบไม่มีเวลา”ถานท่ายหลิงเยียน กล่าวด้วยน้ำเสียงสงบแต่อ่อนโยน
ฮัวรูเหม่ยไม่พูดอะไรต่อแล้วปัญหาที่เกิดขึ้นระหว่างคนสองคนคงใกล้จะถึงบทสรุป ที่เหลือก็ปล่อยให้เป็นชะตากรรมที่ทั้งสองคนได้ทำมาร่วมกัน
……………… ……………..
ชิงสุ่ยประหลาดใจเมื่อสัมพันธ์ถึงพลังความแข็งแกร่งของถานท่ายหลิงเยียนและฉินชิง ถานท่ายหลิงเยียนมีชุดนางฟ้าสวรรค์และมรดกสืบทอดพิเศษ ซึ่งเป็นมรดกสืบทอดจอมอสูร จึงมีความเป็นไปได้ที่เธอจะแข็งแกร่งและพัฒนาอย่างรวดเร็ว
ชิงสุ่ยช่วยเหลือการฝึกฝนและการเสริมพลังรากฐานจนทำให้เธอแข็งแกร่งในช่วงหลายปีที่ผ่านมา แต่ช่างน่าแปลกใจที่สุดคือความแข็งแกร่งของเธอตอนนี้อยู่ในระดับ 3,000 เต๋า
มันคืออะไรพลังที่ค่อนข้างยอดเยี่ยมยิ่งชิงสุ่ยแข็งแกร่งมากขึ้นเท่าไหร่ เขาก็ยิ่งสามารถช่วยเหลือผู้อื่นได้มากขึ้นเท่านั้น แน่นอนว่าด้วยพลังในปัจจุบันของชิงสุ่ย เขาสามารถช่วยเหลือทุกคนได้อย่างง่ายดายราวกับพลิกฝ่ามือ
ผลลัพธ์ส่วนใหญ่ยังคงมาจากเข็มแห่งชีวิตและการตายปราณแห่งการหวนคืน รวมทั้งทักษะการใช้ยาที่เป็นเอกลักษณ์ ซึ่งคนอื่นไม่มีทางบรรลุในระดับชิงสุ่ยได้เลย
หากนับในอดีตฉินชิงเมื่อเทียบกับถานท่ายหลิงเยียน ฉินชิงแข็งแกร่งกว่าถานท่ายหลิงเยียนมาก แต่ตอนนี้ทั้งสองคนมีพลังอยู่ระดับทัดเทียมกัน
ชิงสุ่ยช่วยเหลือการฝึกฝนทุกคนในตอนบ่ายแม้กระบวนการจะเป็นไปด้วยความน่าเบื่อ แต่ท่วงท่าการฝึกฝนของเหล่าหญิงสาวก็ยังคงมีเสน่ห์ เป็นอาหารตาที่น่าพึงพอใจ ในตอนนี้พลังของถานท่ายหลิงเยียนพัฒนาขึ้นสู่ระดับ 12,000 เต๋า ส่วนฉินชิงอยู่ในระดับ 10,000 เต๋าซึ่งน้อยกว่าเพียงเล็กน้อย
และเป็นอีกครั้งหนึ่งที่ชิงสุ่ยรู้สึกประหลาดใจในการพัฒนาพลังของผู้สืบทอดแห่งจอมอสูรมันทั้งรวดเร็วและแข็งแกร่ง แม้จะมีข้อเสียอยู่บ้าง แต่ชิงสุ่ยก็สามารถเอาชนะข้อเสียทั้งหมดได้
ชิงสุ่ยเตรียมความพร้อมเพื่อรับมือสงครามยืดเยื้อของถานท่ายหลิงเยียนที่กำลังจะมาถึงเขาเองก็ไม่รู้ว่าเมื่อไหร่เขาจะเข้าถึงส่วนลึกในจิตใจของเธอได้ หรือบางทีมันอาจจะเปลี่ยนไปหลังจากที่เขาสามารถกำจัดนิกาย 5 พยัคฆ์อมตะให้หมดสิ้น