Immortal and Martial Dual Cultivation – บทที่ 249 ปีศาจเงาปิดล้อม

บทที่ 249 ปีศาจเงาปิดล้อม

Immortal and Martial Dual Cultivation

ตอนที่ 249 ปีศาจเงาปิดล้อม

เซียวเฉินผละออกมาเล็กน้อยหยิบเอากระบี่มังกรคํารนออกมา และโยนให้กับหยุนเข่อซิน เขากล่าวขึ้น “ใช้กระบี่ของข้าไปก่อน!”

หยุนเข่อซินพยักหน้าขอบคุณ, จากนั้นก็รับกระบี่มังกรคํารนเอาไว้ในทันทีที่มือของนางสัมผัสด้ามของกระบี่ใบหน้าที่นิ่งสงบของนางกระตุก นางกล่าวอย่างตกตะลึง “นี่คืออาวุธวิญญาณระดับสวรรค์!”

จิตใจอันมั่นคงของหยุนเข่อซินสั่นสะเทือนไปชั่วขณะ นางสงสัยว่าเซี่ยวเฉินคงจะโยนมาให้นางผิดเล่ม พอคิดว่าเขาโยนอาวุธวิญญาณระดับสวรรค์มาได้ราวกับขว้างปาท่อนไม้

“ปัง!”

สายลมรุนแรงพัดเข้าหน้าของพวกเขา, นี่คือกระแสพลังอันตราย หยุนเข่อซินคืนสติของนางและรีบเคลื่อนออกด้านข้าง,หลบการโจมตีจากปีศาจงูแดง

นับตั้งแต่ที่ปีศาจงูแดงมันถูกลอบโจมตีไปสองครั้งมันก็ถูกพวกเขาทั้งสองคนกดเอาไว้อย่างไม่ลดละตอนนี้มันโกรธจัด

ท่อนบนที่สูงกว่าหนึ่งร้อยเมตรของมันยกขึ้นและกวาดหางของมันเป็นวง หางของมันยืดยาวขึ้น:ยาวขึ้นและยาวขึ้นอีก อีกทั้งยังคมขึ้นและคมขึ้น

หางงูคมกริบวาดผ่านอากาศ,สร้างเสียงเสียดแหลมพร้อมกับแทงไปที่เซี่ยวเฉิน มันรวดเร็วพอๆกับสายฟ้า,เซี่ยวเฉินตกใจพร้อมกับถอยกลับอย่างรวดเร็ว

“ปัง! ปัง! ปัง! ปัง!”

จุดที่เซียวเฉินเคยยืนอยู่ระดับออก หลุมลึกไร้กันปรากฏขึ้นบนพื้น เซี่ยวเฉินยังล้าถอยออกไปอย่างต่อเนื่อง,แต่หางที่ราวกับเล็บไล่จิกเขาอย่างไม่ลดละ

รวดเร็วมาก,หลุมไร้กันอีกหลายหลุมปรากฏขึ้นบนพื้น ในแต่ละครั้งหางของมันก็จะเร็วยิ่งขึ้นกว่าเดิม เซี่ยวเฉินไม่มีแม้แต่จะหันหัวไปมอง

ขณะที่หางกําลังโจมตีใส่เซียวเฉิน, ปีศาจงูแดงก็ไม่ได้รอช้า มันพ่นเปลวเพลิงสีดําไปที่หยุนเข่อซินอย่างไม่ลดละ

อย่างไรก็ตาม,สถานการณ์ทางด้านของหยุนเข่อซินดูดีกว่าทางด้านของเซียวเฉินอยู่หน่อย หลังจากที่นางได้รับอาวุธวิญญาณระดับสวรรค์กระบี่มังกรคํารนมา,นางสามารถปัดเป่าเพลิงสีดําทองไปได้หากนางหลบไม่พ้น

“เว้ง!”

เสียงมังกรคําามดังออกมา ทันใดนั้นหยุนเข่อซินก็หยุดหลบเลี่ยง และจับกระบี่มังกรคํารนไว้มั่น มีแสงเย็นเรื่องขึ้นมาบนกระบี่ และจากนั้นก็ระเบิดออกเป็นเรื่องแสงอันไร้ขอบเขต

ท่ามกลางเรืองแสง,มันดูเหมือนกับมีมังกรคํารนกําลังว่ายวน, หมุนเวียนไปบนคมกระบี่

“ปัง!”

มีกระบี่แสงวูบผ่านและฟันผ่ากลางเปลวเพลิงสีดํา จากนั้น,นางก็พุ่งเข้าหาปีศาจงูแดงโดยไม่ลังเลและไม่สนใจขนาดร่างของตัวเอง

ต่อหน้าร่างอันใหญ่โตของปีศาจงูแดง, หยุนเข่อซินราวกับเด็กน้อย

ดวงตาสีแดงของปีศาจงูแดงฉายแสงออกมาราวกับตะเกียงที่สองไปหาหยุนเข่อซินที่กําลังพุ่งเข้ามา ความชั่วร้ายปรากฏขึ้นในดวงตาของมันพร้อมกับหยุดพ่นเปลวเพลิงสีดํา จากนั้น,มันก็พุ่งตัวเข้าหาหยุนเข่อซินและพยายามจะกลืนนางลงไป

หยุนเข่อซินหลบได้อย่างง่ายดาย ราวกับว่านางมีตาหลัง,กระบี่ในมือของนางตวัดและคมกระบี่ฟันใส่ลิ้นสองแฉก

เมื่อปีศาจงูแดงรู้สึกถึงความเจ็บปวด,หางของมันที่กําลังโจมตีใส่เซี่ยวเฉินอยู่ก็เชื่องช้าลง เซี่ยวเฉินการรับรู้ฉับไว,และคว้าเอาโอกาสนี้ไว้ในทันที

“สยายปีก,หนึ่งดาบตัด!”

แสงบนคมกระบี่สีขาวหิมะสงวนเอาไว้ เรืองแสงสว่างวูบผ่าน,และมันสับหางสามเตรกระเด็นออกไป

หลังจากที่มันตกลงมา,สายตาของหยุนเข่อซินและเซี่ยวเฉินหัน มาพบกันโดยบังเอิญเยิ้มให้กันและกัน

แม้ว่ามันจะเป็นสัตว์อสูรปีศาจระดับ 6 ขั้นต้น หลังจากที่ได้รับความเสียหายจากการโจมตีเต็มกําลังของทักษะระดับปฐพีขั้นสูง,มันยังคงบาดเจ็บภายในสาหัส

หลังจากนั้น มันก็เจ็บจากการกระหน่ําตีจากทั้งสองคน ทุกการโจมตีที่ส่งออกไป,ไม่ใช่มีไว้เพียงแสดงพลัง

ในตอนที่ปีศาจงูแดงกระหน่ําโจมตีอย่างไม่ลดละเมื่อก่อนหน้านี้เป็นแรงอึดสุดท้ายของมันแล้ว หากทั้งสองคนยังคงยันเอาไว้อยู่,ปีศาจงูแดงมีแต่จะพ่ายแพ้มันขึ้นอยู่กับเวลาเท่านั้น

หากพวกเขาไม่อาจรับการกระหน่ําตีของมันได้เช่นนั้นปีศาจงูแดงก็จะเป็นฝ่ายที่ได้รับชัยชนะไป มู่เหิง,จางเลี่ย,และเกาเชียงไม่อาจทําอะไรมันได้อีกแล้ว

“ปัง! ปัง! ปัง!”

เซี่ยวเฉินบิดกระบี่ของเขาและสําแดงสภาวะภูผาจากทักษะกระบี่หลิงหยุนจนถึงขีดสุด เขามั่นคงดั่งภูผา,ป้องกันทุกการโจมตีจากปีศาจงูแดง

สําหรับหยุนเขาช่อซิน,ผู้ที่กําลังถืออาวุธวิญญาณระดับสวรรค์,นางสร้างโอกาสเข้าโจมตีอย่างไม่หยุดหย่อน คนหนึ่งจดจ่อไปกับการโจมตี,อีกคนหนึ่งตั้งรับป้องกันเป็นการผสมผสานที่สมบูรณ์แบบ

ความได้เปรียบในการต่อสู้เริ่มโอนเอียงมาจากกลุ่มของเซี่ยวเฉิน ความภายแพ้ของปีศาจงูแดงกําลังเข้ามาใกล้

“ศิษย์พี่ม! ศิษย์พี่จาง! พวกท่านเป็นเช่นไร?!” สานุศิษย์ศาลากระบี่สวรรค์สามคนที่ถูกควบคุมโดยปีศาจเงาทันใดนั้นก็เดินตรงออกมาจากด้านข้างสมรภูมิ พวกเขามีสีหน้าเป็นกังวลพร้อมกับเดินเข้ามา

จางเลี่ยรู้สึกประหลาดใจ,ดังนั้นจึงถามขึ้น “พวกเจ้ามาทําอะไรที่นี่? ไม่ใช่ว่าพวกเราบอกให้พวกเจ้ารอ?”

“พวกเราเห็นการต่อสู้ตรงนี้ช่างดุเดือด,ดังนั้นพวกเราจึงเป็นกังวล เช่นนั้นพวกเราจึงวิ่งดข้ามา” สานุศิษย์หญิงยอดเขา กางอวี่เข้ามาช่วยเหลือเกาเชียง,ผู้ที่กองอยู่กับพื้น จากนั้น,นางถามขึ้น “สถานการณ์เป็นเช่นไร?”

เกาเชียงขอบคุณนางก่อน, จากนั้นก็กล่าว “ไม่ช้าไม่เร็วก็จะจบลง,ปีศาจงูแดงถูกต้อนจนมุม เย่เฉินกับหยุนเข่อซินน่าจะจบการต่อสู้ลงได้เร็วๆนี้”

“ฟู!”

เชี่ยวเฉินและหยุนเข่อซินรอคอยโอกาสอย่างอดทน เมื่อพวกเขาเคลื่อนไหวไปพร้อมกันในอากาศ กระบี่แสงเป็นชุดจุดขึ้นบนท้องฟ้าและสายเลือดสีดําสายกระเซ็น

ร่างอันมหึมาของปีศาจงูแดงถูกการโจมตีจากทั้งสองคนเข้าไปที่จุดเดียว

“ระเบิดม่วงทําสองสวรรค์!” หยุนเข่อซินร้องตะโกนและกระบี่มังกรคํารนในมือของนางสั่นสะเทือน กระบี่ฉีเสียงไร้รูปเข้าไปในบาดแผลของปีศาจงูแดง

“ปัง! ปัง! ปัง!”

คลื่นเสียงกระจายไปทั่วร่างท่อนบนของปีศาจงูแดง, เกิดเป็นระเบิด ร่างกายท่อนบนที่ยาวกว่าร้อยเมตรของมันถูกทําลายอย่างรุนแรง ร่างของมันตกตายจมกองเลือด

หยุนเข่อซินยืนมือของนางออกไปและรับเอาแก่นกลางปีศาจของปีศาจงูแดงเอาไว้ จากนั้น,นางก็โยนให้กับเซี่ยวเฉินและกล่าว “นี่สําหรับเจ้า,ข้าไม่ต้องการ”

เซี่ยวเฉินยื่นมือออกไปรับเอาไว้ เขาอยู่ในอาการไม่อยากจะเชื่อเล็กน้อย แก่นกลางปีศาจก้อนนี้มีค่าหนึ่งพันหินวิญญาณระดับต่ํา หยุนเข่อซินกลับโยนมาให้เขาราวกับก้อนหินก้อนหนึ่ง

หยุนเข่อซินอธิบาย “ข้าไม่ได้ขาดแคลนหินวิญญาณแต่อย่างใด เจ้าเอาไปแบ่งกับคนที่เหลือได้จะแบ่งกันอย่างไร,ขายกให้เจ้าจัดการ”

เซี่ยวเฉินไม่ใช่คนอวดเก่งอะไรเขาพยักหน้าและขอบคุณนางก่อนที่จะเก็บมันไป หยุนเข่อซินไม่ได้ขาดแคลนหินวิญญาณ,แต่เซียวเฉินเองก็เช่นกัน อย่างไรก็ตาม,หินวิญญาณก็นับได้ว่าเป็นเงินทอง

ยิ่งมีมาก ก็ยิ่งมั่งคั่ง เซี่ยวเฉินไม่รังเกียจที่จะรับเอาไว้

พวกเขาทั้งสองกินเม็ดยาคนละเม็ดและหยิบเอาหินวิญญาณระดับต่ําออกมาก่อนที่จะนั่งลงฟื้นฟูพลังงานของพวกเขา พวกเขานับว่าได้สังหารสัตว์อสูรปิศาจระดับ 6 ไปโดยไร้บาดแผล ดังนั้น, พวกเขาจึงผ่อนคลายลงเล็กน้อย

ผ่านไปครู่หนึ่ง,พวกเขาก็ซึมซับพลังงานจิตวิญญาณทั้งหมดจากหินวิญญาณ พวกเขาทั้งคู่ยืนขึ้นอย่างพร้อมเพรียงกัน

ด้วยระดับการบ่มเพาะพลังในปัจจุบันของพวกเขา,หินวิญญาณระดับต่ําฟื้นฟูพลังปราณของพวกขเาได้เพียงครึ่ง อย่างไรก็ตาม, พวกเขาทั้งสองรู้ว่ามีเวลาไม่มากพอให้พวกเขาฟื้นคืนพลังปราณทั้งหมด ดังนั้น,พวกเขาไม่มีความตั้งใจจะฟื้นฟูพลังเพิ่มขึ้นอีก

เมื่อพวกเขาเห็นเซียวเฉินและหยุนเข่อซินยืนขึ้น,มู่เหิง,จางเลี่ย,เกาเชียงและคนอื่นอีกสามคนที่ถูกควบคุมโดยปีศาจเงาตามหลังมา มู่เหิง,จางเลี่ยและเกาเชียงมีอาการบาดเจ็บภายในไม่น้อย หลังจากที่พวกเขาได้พักไปครู่หนึ่ง,พวกเขาทําได้แค่ระงับอาการบาดเจ็บเอาไว้

หยุนเข่อซินเห็นว่าอีกสามคนมีสายตาที่แปลกประหลาด ดังนั้น,นางส่งสัญญาณให้เซี่ยวเฉินดูอย่างลับๆ

เซี่ยวเฉินตกตะลึงเล็กน้อยและใช้สัมผัสวิญญาณของเขาตรวจสอบดู ผ่านไปครู่หนึ่ง เขาก็เข้าใจสถานการณ์

“ทําไมพวกเจ้าสามคนมาอยู่ที่นี่? ไม่ใช่ข้าบอกให้พวกเจ้าทั้งสามคนรอ?” หยุนเข่อซินถามทั้งสามคน

สานุศิษย์หญิงยอดเขากางอวตอบกลับ “การต่อสู้ดุเดือด พวกเราเป็นกังวล, จึงตkมเข้ามา”

หยุนเข่อซินไม่ได้ถามอะไรต่อ นางกล่าว “ไม่เป็นไร,ไม่มีอันตรายแล้ว อย่างไรก็ตาม,พวกเราไม่อาจเดินทางต่อได้ตอนนี้ พวกเราควรถอยกลับไปพักผ่อน”

ทั้งสามคนนั้นไม่ได้สงสัยอะไรนางแม้แต่น้อย พวกเขาหันหลัง และมุ่งหน้ากลับไปในทางที่พวกเขามากับมู่เหิงและคนที่เหลือ

“ฟู่ว!”

เซี่ยวเฉินและหยุนเข่อซินบงมือพร้อมกัน กระบี่มังกรคํารนในมือ ของหยุนเข่อซินเรืองแสงเย็นยะเยือกพร้อมกับแทงไปที่หัวใจของปีศาจเงาจากด้านหลัง

ร่างของเซี่ยวเฉินปรากฏออกมาจากความว่างเปล่าและชกไปที่ปีศาจเงาด้วยพลังมหาศาล จากนั้นพวกเขาทั้งสองก็ลงมือต่อ คนนึงถือกระบี่,อีกคนหนึ่งมือเปล่า,ซัดไปที่ปีศาจเงาตัวสุดท้าย

ทั้งหมดนี้เกิดขึ้นภายในช่วงพริบตา ปีศาจเงาทั้งสามตัวตอบสนองไม่ทันแม้แต่น้อย มู่เหิงและคนที่เหลือไม่เข้าใจฉากที่เห็นอยู่เบื้องหน้า

“ศิษย์พี่หยุน! เย่เฉิน! พวกเจ้าทําอะไร!”

หยุนเข่อซินไม่ได้ตอบ กลับกัน,นางกล่าวอย่างเฉยเมย “เดี๋ยวเจ้าก็เข้าใจ”

ทั้งสามคนนั้นกองอยู่กับพื้นโอดโอยอย่างเจ็บปวด จากนั้น,ต่อหน้าสายตาตกตะลึงของจางเลี่ย,มีควันสามสายออกมาจากร่างของพวกเขา สามปีศาจเงามีสีหน้าเจ็บปวดพร้อมกับพวกมัน ทรุดลงกับพื้นมันเห็นชัดว่าพวกมันบาดเจ็บไม่น้อย

“ฟู่ ฟิ้ว!”

มองเห็นพรรคพวกของพวกมันถูกเปิดเผยตัว,ปีศาจเงาที่เหลือก็ไม่ปิดบังตัวเองอีกต่อไปและขึ้นออกมาจากพื้น ใบหน้าซีดเซียวของปีศาจเงาเจ็ดตนทันมดนั้นก็ปรากฏต่อหน้าของทุกคน

สามปีศาจเงาไม่ลังเลพุ่งตัวเข้าใส่มู่เหิง, จางเลี่ย,และเกาเชียง อีกสี่ตนที่เหลือเข้าปิดล้อมหยุนเข่อซินกับเซี่ยวเฉิน สานุศิษย์ศาลากระบี่สวรรค์สองคนที่กลายเป็นศพโลหิตก็ปรากฏตัวขึ้นอย่างช้าๆเช่นกัน,พุ่งตัวเข้าใส่เซียวเฉินและหยุนเข่อซิน

เพิ่งจะจบศึกใหญ่มาและพวกเขายังไม่ได้พักรักษาตัวดี แต่อย่างไรก็ตาม พวกเขาตกสู่อะนตรายอีกครั้ง โดยเฉพาะจางเลี้ย,มู่เหิง,และเกาเชียง,ยังฟื้นคืนพลังกําลังมาได้ไม่ถึงหนึ่งในสี่ส่วน เมื่อปีศาจเงาสามตัวเข้าจู่โจม,พวกเขาตกอยู่ในอันตรายทันที

เซี่ยวเฉินและหยุนเข่อซินสถานการณ์ก็ไม่ได้ดีไปกว่า พวกเขาแต่ละคนต้องรับมือกับสองปีศาจเงาและอีกหนึ่งศพโลหิต นอกจากนั้น, พวกเขายังฟื้นฟูพละกําลังมาได้เพียงครึ่ง พวกเขาไม่อาจผละตัวออกไปช่วยเหลือมู่เหิงและคนที่เหลือได้

การจู่โจมของปีศาจเงาช่วงแปลกประหลาด พวกมันแตกต่างจากทักษะต่อสู้จากทวีปเทียนหวี่ พวกมันพึ่งพาร่างกายของพวกมัน เพื่อโจมตีเข้ามาตรงๆไม่ได้มีลีลาลูกไม้แต่อย่างใด,ราวกับเป็นสัตว์อสูรปีศาจ

อย่างไรก็ตาม, หากมันมีเพียงแค่นี้ เซี่ยวเฉินจะรับมือมันได้ไม่ยากเย็น สิ่งที่ทําให้ปวดหัวมากที่สุดคือทักษะเคลื่อนไหวของพวกมัน พวกมันรวดเร็วอย่างแปลกประหลาด และไม่มีจุดอ่อนให้เล่นงาน

บางครั้งเมื่อพวกเขาใช้กระบี่โจมตีเข้าไป,พวกเขาพบว่าพวกเขาเพียงฟันลงไปที่กลุ่มควันไร้รูปร่าง

หากเซี่ยวเฉินสามารถฟันโดน,เขามั่นใจว่าเขาสามารถสังหารได้ในกระบี่เดียว ช่างโชคร้าย,พวกมันอยู่ทั่วทุกที่รอบตัว เขา,ด้านล่าง,ด้านบน มันยากที่จะแยกความแตกต่างของจริงออก จากของปลอด มันเป็นปัญหาอย่างยิ่ง

จากนั้น ยังมีสานุศิษย์ศาลากระบี่สวรรค์ที่ถูกเปลี่ยนไปเป็นศพโล หิตอีกสองคน พละกําลังของพวกเขาเพิ่มขึ้นอีกสองในสิบส่วน เมื่อพวกเขาจู่โจมเข้ามา,พวกเขาไม่รับรู้ความเจ็บปวด,ดังนั้นพวกเขาจึงบุกโจมตีเข้ามาไม่มีล่าถอย

ข้ายันเอาไว้ไม่ได้อีกแล้ว แม้ว่าข้าจะเอาตัวรอดได้,มู่เหิงและคนอื่นๆจะตกตาย,เซี่ยวเฉินครุ่นคิดเคร่งเครียด

Immortal and Martial Dual Cultivation

Immortal and Martial Dual Cultivation

เซี่ยวเฉินได้ซื้อ ‘ตำราบ่มเพาะพลัง’ มาจากเถาเป่าพร้อมกับเม็ดยาเซียนที่จะทำให้เซี่ยวเฉินเข้าสู่โลกแห่งเซียนได้ ถึงกระนั้นเขาได้เขาได้ฝึกฝนตามตำรามากว่าสามปีแต่กลับไม่มีความคืบหน้าแม้แต่น้อย เขาจึงตัดสินใจที่จะกินเม็ดยาเซียนเข้าไปและมันทำให้เขาข้ามภพไปเกิดในร่างของเด็กหนุ่มที่มีชื่อเดียวกับเขา ไปสู่โลกทวีปเทียนหวู่ไปสู่โลกที่ถูกปกครองด้วยศิลปะการต่อสู้ไปสู่จุดเริ่มต้นใหม่ของเขา

แสดงความคิดเห็น

ใส่ความเห็น

อีเมลของคุณจะไม่แสดงให้คนอื่นเห็น ช่องข้อมูลจำเป็นถูกทำเครื่องหมาย *

ปรับฟอนต์

**ถ้าปรับโหมดมืดอยู่** ให้เปลี่ยนเป็นโหมดสว่าง ก่อนจะปรับสีพื้นหลัง
รีเซ็ท