Immortal and Martial Dual Cultivation – บทที่ 250 ขวากหนามในเส้นทางเบื้องหน้า

บทที่ 250 ขวากหนามในเส้นทางเบื้องหน้า

Immortal and Martial Dual Cultivation

ตอนที่ 250 ขวากหนามในเส้นทางเบื้องหน้า

หลังจากที่เซียวเฉินตัดสินใจได้,เขาหมุนเวียนทักษะสลักร่างพยัคฆ์มังกรอย่างเงียบๆในขณะที่ต่อสู้ กระดูกในร่างของเขาเริ่มส่งเสียงแตกกราว

ชั้นแสงเรืองสีทองค่อยๆปรากฏขึ้นบนผิวหนังของเขา ความแข็งแกร่งของพยัคฆ์และมังกรเริ่มสําแดงออกมาอย่างช้าๆ จากนั้นเขาก็หยุดโจมตี, ปล่อยให้ปีศาจเงาโจมตีเข้ามาโดยไม่หลบเลี่ยง

เมื่อปีศาจเงาเห็นการเคลื่อนไหวของเซี่ยวเฉินที่เปลี่ยนไป,มันคิดว่าพลังปราณของเซี่ยวเฉินได้หมดสิ้นและได้เผยจุดอ่อนออกมามันยิ้มอย่างชั่วร้ายพร้อมกับแทงกรงเล็บแหลมคมทั้งห้าตรงไปที่เซี่ยวเฉิน

“เค้ง! เคร้ง!”

กรงเล็บแหลมคมฉีกกระชากเสื้อผ้าของเซี่ยวเฉินในทันที อย่างไรก็ตาม เมื่อพวกมันปะทะเข้ากับผิวหนังของเขา,พวกมันส่งเสียงเหล็กกระทบและไม่อาจแทงลงไปได้

เกิดอพไรขึ้น? ปีศาจเงางุนงงมันรู้สึกว่ามีอะไรแปลกๆ

แม้ว่าการโจมตีนี่จะแทงไม่เข้าหัวใจของเซี่ยวเฉิน,แต่พลังก็ซัดผ่านหน้าอกของเขา นี่เป็นผลทําให้อวัยวะภายใน,และฉีกับโลหิตของเขาพลุ่งพล่าน

เซี่ยวเฉินร้องตะโกน,และภาพร่างพยัคฆ์มังกรลอยออกมาจากร่างกายของเขา พยัคฆ์ร้องข่ม,มังกรร้องคําราม ร่างกายของเขาเติมเต็มไปด้วยความแข็งแกร่งอันน่าหวาดกลัว

“ พยัคฆ์ร้ายทะลวงภูผา!”

ก่อนที่ปีศาจเงาจะหลบได้พ้น,เซี่ยวเฉินชกออก,ด้วยหมัดที่แบกพลังหกพันกิโลกรัม,ทําลายหัวของมันเปีศาจเงาตนนั้นตกตายในทัน

เมื่อเซี่ยวเฉินมองเห็นปีศาจเงากับศพโลหิตที่เหลือพุ่งเข้ามาวังวนในจุดตันเที่ยนของเขาหมุนเวียนเร็วขึ้นเป็นสองเท่า

พลังปราณธาตุสายฟ้าบริสุทธิ์ไหลผ่านเส้นปราณของเขาและเข้าไปที่คมกระบี่สีขาวหิมะของกระบี่เงาจันทร์ แสงสีม่วงวูบไหวภายในปาอันมืดมิดมันเจิดจ้าอย่างไม่น่าเชื่อ

“วาดกระบี่!”

นี่เป็นครั้งแรกที่เซียวเฉินหลอมรวมสภาวะสายฟ้าบริสุทธิ์เข้าไปในทักษะกระบี่สายฟ้าฉับพลัน หมู่เมฆดํามิดบดบังท้องฟ้าพร้อมกับสายฟ้าส่งเสียงคํารามอย่างเกรี้ยวกราด มันราวกับเสียงเพลงศึกจากกองทัพที่กําลังเดินขบวณ

ธาตุของเซี่ยวเฉินคือสายฟ้า เมื่อเขากลายเป็นระดับขอบเขตนักบุญ.พลังปราณในร่างของเขาได้แปรเปลี่ยนไปโดยสมบูรณ์กลาย เป็นพลังปราณธาตุสายฟ้าบริสุทธิ์

ภายใต้สภาวะนี้ เมื่อเซี่ยวเฉินใช้ออกทักษะกระบี่สายฟ้าฉับพลัน,ความแข็งแกร่งที่เขาสามารถดึงออกมานั้นมากกว่าทักษะกระบี่หลิงหยุนกับสภาวะขุนเขาและสภาวะเมฆา

สายฟ้าสามเส้นผ่าทะลุท้องฟ้ามืดมิดและมารวมตัวกันที่กระบี่ของเซียวเฉิน ร่างของเขาวูบไหวในอากาศ,และปีศาจเงาอีกตนหนึ่งตัวขาดครึ่งในทันที

พลังปราณที่บรรจุสภาวะสายฟ้าแตกตัวอยู่บนบาดแผลที่ถูกสับขาดครึ่ง พวกมันคงอยู่แบบนั้นไม่จางหายไปไหนเป็นเวลานาน

“ฟาดฟันประกายแสง!”

เซี่ยวเฉินเคลื่อนตัวต่อไป จากนั้นสายฟ้าก็แตกตัวบนท้องฟ้าอีกครั้ง กระบี่วาดเป็นประกายแสงในอากาศ ศพโลหิตที่พยายามจะหนีถูกฟันขาดครึ่งเช่นกัน:มันไร้หนทางต่อต้าน

“สายฟ้าผ่าสวรรค์!”

เซี่ยวเฉินกดเท้าดีดตัวออกจากพื้น,กระบี่ของเขาขึ้นไปบนท้องฟ้าและทะยานขึ้นไป ท่วงท่าของเขาไม่ได้สง่างาม,แต่พลุ่งพล่านไปด้วยกระแสพลังอันไร้ขอบเขต

“ชิ! ชิ! ชิ!”

ร่างกายของเซียวเฉินราวกับเส้นสายฟ้า,วูบวาบไปบนท้องฟ้าพร้อมกับเสียง ฉิวะ” เปีศาจเงาสามตนที่ปิดล้อมมู่เหิงและคนอื่นๆถูกแทงทะลุตกตายลงในทันที

ร่างของเซี่ยวเฉินหยุดลงที่กลางอากาศ,และอัสนีที่ต่อเป็นสายก็หยุดลง มันเหมือนกับลมสงบก่อนพายุทันใดนั้นก็กลายเป็นเงียบสงบ

“อัสนีฟาดฟัน!” เซี่ยวเฉินร้องตะโกน เขากุมกระบี่ด้วยสองมือและฟันลงไปที่ศพโลหิตที่กําลังจู่โจมใส่หยุนเข่อซิน

“ฟิว!”

กระบี่แสงรุ่งโรจน์ปาดผ่านอากาศราว,ปรากฏขึ้นจากความว่างเปล่าที่หัวของศพโลหิต

ในทันทีต่อมา,กระแสไฟฟ้าในกระบี่แสงระเบิดออก,สร้างเสียงสายฟ้าคํารามดังยิ่งกว่าครั้งไปนๆ พร้อมกับเสียง “ฉัวะ ,ศพโลหิตตนนี้ถูกฟันขาดครึ่งด้วยกระบี่และสลายหายไปด้วยแรงระเบิด

“อัสนีฟาดฟันผ่าพันธนาการสอง!” แรงส่งจากทักษะกระบี่สายฟ้าฉับพลันสี่กระบวณท่าก่อนหน้านี้ถูกปลดปล่อยออกมาในครั้งนี้ กระบี่ของเซี่ยวเฉินเปลี่ยนปีศาจเงาให้กลายเป็นกองเลือดมันไม่มีแม้แต่เวลาให้ร้องออกมาอย่างน่าสมเพช

ปีศาจเงาตนสุดท้ายรู้หวาดกลัวจากกันบึงจิตใจ มันตัดสินใจผละออกจากการเข้าโจมตีหยุนเข่อซินและเปลี่ยนไปเป็นลูกบอลควันสีดํา,หนีไปอย่างรวดเร็ว

“พยายามจะหนี? คิดว่าจะหนีพ้น?” เซียวเฉินถอนกระบี่กลับและยืนตัวตรง เขาสูดจมูกอย่างเย็นช้าเมื่อเห็นปีศาจเงาตนนั้นกําลังหนีไป

เปลวเพลิงสีม่วงอันไร้ขีดจํากัดเผาไหม้ในดวงตาขวาของเขา หากมีใครจ้องมองเข้าไปในดวงตาของเขา,พวกเขาจะมองเห็นมหาสมุทรทะเลเพลิง

เปลวเพลิงดุร้ายรวมตัวเข้าด้วยกันก่อนที่ใชจะกลายไปเป็นลูกบอล,เปลี่ยนไปเป็นเปลวเพลิงสีม่วงในดวงตาขวาของเซี่ยวเฉิน

“เพลิงแท้อัสนีม่วง,ยิง!”

เปลวเพลิงก่อตัวเป็นลูกศรในอากาศ มันราวกับลําแสงไล่ตามหลังของปีศาจเงาที่หนีห่างออกไปกว่าหนึ่งพันเมตรอย่างเงียบเชียบ

“บูม!”

เกิดระเบิดน่ากลัวจากระยะห่างออกไป เพลิงสีม่วงแตกตัวและสายฟ้าในเปลวเพลิงถูกปลดปล่ยออกมา เส้นสายฟ้านับไม่ถ้วนลอยว่อนไปเต็มพื้นที่

นอกจากหยุนเข่อซิน,คนที่เหลือจ้องมองฉากนี้อย่างตกตะลึงพวกเขาไม่กล้าที่จะเชื่อว่ามันเป็นเรื่อบจริง

เซี่ยวเฉินถอนกลับและยืนตั้งตัวตรง เขาได้คาดการณ์ว่าความแข็งแกร่งของสภาวะสายฟ้าที่หลอมรวมเข้ากับทักษะกระบี่สายฟ้าฉับพลันจะต้องแข็งแกร่งเป็นอย่างมาก อย่างไรก็ตาม เขาก็ยังตกตะลึงเมื่อมันได้แสดงพลังออกมา

เขาเชื่อว่าหากเขาสามารถเข้าใจถึงทักษะกระบี่นี้ได้อย่างสมบูรณ์,นอกจาดระดับขอบเขตนักบุญขั้นสูงสุดเขาไร้คู่แข่งในระดับขอบเขตนักบุญด้วยกัน

เซี่ยวเฉินถึงความคิดของเขาและหันไปรอบๆ เขาพบเกาเชียงกําลังกุมหน้าอกของเขาเอาไว้,นอนอยู่กับพื้นอย่างเจ็บปวด ริม ฝีปากของเขาเผืนสีดําเนื้อตัวสั่นเทาเป็นอากาศของการโดนพิษ

เซี่ยวเฉินรีบตรงเข้ามาและถามจางเลี้ย “เกิดอะไรขึ้นกับเขา?”

จางเลี่ยดูอารมณ์ไม่ดีมาก น้ําเสียงของเขาสั่นพร้อมกับอธิบายสิ่งที่เกิดขึ้นให้กับเซี่ยวเฉิน

ในตอนที่ปีศาจเงาโจมตีเขาอย่างฉับพลัน,คนที่ตอบสนองช้าที่สุดก็คือเกาเชียง นอกจากนั้น,บาดแผลของเขายังไม่ได้รักษากรงเล็บของปีศาจเงาแทงเข้าที่หน้าอกของเขา

เดิมที่,บาดแผลมันไม่ได้ลึกมากอะไรเกาเชียงไม่ได้ไปสนใจนักเขาเคยได้รับบาดเจ็บเช่นนี้มาก่อนในตอนที่เขาฝึกฝนอยู่ภายนอกกายด้วยความแข็งแกร่งของร่สงกายของนักบ่มเพาะพลัง,บาดแผลเช่นนี้ห่างไกลจากความตายนัก

อย่างไรก็ตาม เขาไม่คาดคิดว่ามันจะมีพิษที่ค่อยๆออกฤทธิ์มากบการโจมตีนั้น ในตอนที่เขารู้ตัว,พิษก็ได้กระจายไปทั่วร่างของเขาแล้วเขาไม่อาจขับมันออกได้อีกต่อไป

มู่เพิ่งถาม “เย่เฉิน,เจ้าช่วยเขาได้หรือไม่?”

เซี่ยวเฉินส่ายหัว ในบทสรุปส่วนเม็ดยาของตําราบ่มเพาะพลัง,มีเม็ดยาที่สามารถรักษาพิษได้ ช่างโชคร้าย,เซี่ยวเฉินไม่ได้ฝึกฝนการสกัดมันเขาไม่อาจทํามันออกมาได้ในตอนนี้

บางทีหยุนเข่อซินอาจจะพอมีทาง ความคิดนี้ปรากฏขึ้น มาในใจของเซี่ยวเฉินความรู้สึกนี้ช่างแปลกประหลาดรูราวกับเป็นสัญชาตญาณ

หยุนเข่อซินได้ตรงเข้ามานานแล้ว อย่างไรก็ตาม,นางก็กําลังยืนอยู่ที่ด้านข้าง,สังเกตอาการของเกาเชียงโดยไม่ได้กล่าวอะไร

เมื่อนางรู้สึกถึงสายตาของเซี่ยวเฉิน,นางส่ายหัว “ข้ามีเม็ดยาต้านพิษระดับ 6 แต่อย่างไรก็ตาม,พิษได้แทรกซึมเข้าไปถึงกระดูกและ หัวใจแล้วหากไม่มีหมอปราชญ์มายืนอยู่ตรงนี้หรือมีสมุนไพรศักดิ์สิทธิ์ระดับอมตะอายุอย่างน้อยหนึ่งพันปี,ไม่มีทางที่จะช่วยเขาได้”

เมื่อเกาเชียงได้ยินเช่นนั้นเขาไม่ได้มีสีหน้าขมขื่น กลับกัน,เขาเผยสีหน้าอ่อนโยน เขายิ้มเบาๆ “ข้าเริ่มบ่มเพาะพลังตั้งแต่หกขอบและได้เข้าศาลากระบี่สวรรค์ตอนอายุได้สิบหกปี ตอนนี้,ข้าอายุยี่สิบหกที่ระดับขอบเขตนักบุญขั้นกลาง ข้าไม่พอใจ,ที่ต้องมาตกตายเช่นนี้!”

ราวกับเรื่องแสงสุดท้ายของพระอาทิตย์ที่กําลังจะตกดิน,ความเจ็บปวดบนใบหน้าของเกาเชียงจางหายไป สีหน้าของเขาเริ่มสดใสเขาปลดกระเป๋าด้านข้างออกและส่งให้กับจางเลี่ยล

เขาพึมพํา “นี่ค่อแก่นกลางปีศาจที่ข้าได้รับมาในครั้งนี้ เดิมที่ข้าคิดว่าข้าจะสามารถนํามันไปแลกเปลี่ยนเป็นหินวิญญาณระดับกลางและยกระดับการบ่มเพาะพลังของข้าไปสู่ระดับขอบเขตนักบุญ ขั้นสูงดูเหมือนว่าข้าทําได้เพียงปล่อยให้พวกเจ้านําหน้าไปก่อนแล้

“เส้นทางแห่งการบ่มเพาะพลังเต็มไปด้วยขวากหนาม ทุกคนที่เดินมาในเส้นทางนี้ต้องคิดไว้ถึงวันนี้ที่อาจจะมาถึง ให้ความโชคร้ายของข้าเป็นเครื่องย้ําเตือนพวกเจ้า ในการต่อสู้อย่าได้ประมาท”

หลังจากที่เกาเชียงกล่าวจบ,ความมุ่งมั่นปรากฏขึ้นในดวงตาของเขาจากนั้นเขาก็หมุนเวียนพลังปราณที่เหลืออยู่น้อยนิดและทําลายหัวใจของเขา

เขาเลือกที่จะจบชีวิตลงด้วยตัวเอง,การตายที่น่าเศร้า

ความตายของเกาเชียงทําให้ทุกคนหกหูใจ พวกเขารู้สึกเสียใจและเห็นอกเห็นใจ และในขณะเดียวกัน,พวกเขาคิดเกี่ยวกับตัวเอง

ภายในทวีปเทียนหรู ความแข็งแกร่งคือกฏ ผู้อ่อนแออมดปลวกในสายตาของผู้แข็งแกร่ง พวกเขาฆ่าเมื่อพวกเขาต้องการหากพวกเขาอารมณ์เสีย,พวกเขาก็จะเหยียบย่ําศักดิ์สิทธิ์ของพวกเรา

ภายใต้สภาพแวดล้อมที่โหดร้ายเช่นนี้ ผู้บ่มเพะาพลังทุกคนจะค้นหาทุกคนหนทางเพื่อบ่มเพาะพลังอย่างหนักหน่วง,มองหาเส้นทางเติบโตไปอย่างแข็งแกร่ง

อย่างไรก็ตามเส้นทางนี้มันยากลําบาก นอกจากต้องแข็งขันอย่างดุเดือดและรับมือกับการลอบโจมตีจากคนอื่นๆ พวกเขายังต้องระวังเป็นอย่างมากในการฝึกฝน,เอาชีวิตรอดจากเงื้อมมือของสัตว์อสูรปีศาจหรือสัตว์อสูรวิญญาณ

ชีวิตช่างเปราะบางเหลือเกินในเส้นทางนี้ ภารกิจนี้ก็เป็นหนึ่งในรูปแบบการฝึกใน ช่างโชคร้าย,ก่อนที่พวกเขาจะไปถึงจุดกลาง,หกคนในทีมของพวกเขาก็ได้ตกตายไปแล้ว

เซียวเฉินเรียกเพลิงแท้อันม่วงออกมาและคุลมร่างของเกาเชียงเอาไว้ ร่างของเขาเผาไม่ห์ไปอย่างรวดเร็วในทันที

การฝังศพไว้ในป่าแห่งนี้รู้แล้วว่าเป็นวิธีที่ผิด พวกศัตรูหยิบเอาไปใช้ประโยชน์ได้ ดังนั้นไม่มีใครรู้สึกว่าการกระทําของเซี่ยวเฉินผิดอะไร

ขณะที่พวกเขามองดูร่างของเกาเชียงมอดไหม้,ความซับซ้อนวูบผ่านดวงตาของหยุนเข่อซิน อย่างไรก็ตาม,มันเป็นเพียงแค่แว่บเดียวไม่มีใครสังเกตเห็น

หลังจากนั้น,หยุนเข่อซินกล่าวอย่างสงบ “พวกเราจะพักเป็นเวลาหนึ่งช่วงโมง หลังจากนั้น พวกเราจะเดินทางกะนต่อ”

ภายในปา,มีเรื่องแบบเดียวกันเกิดขึ้นที่จุดอื่น

มู่หลงชงล่องลอยอยู่ในอากาศ จากนั้น,สายลมเย็นเปาผ่าน ผ่านไปครู่หนึ่ง,กระบี่แสงปรากฏขึ้น และชายในชุดสีแดงถูกฉีกออกเป็ นชิ้น

ร่างของปีศาจโลหิตสามารถซ่อนกลับเข้าด้วยกันได้ แต่อย่างไรก็ตาม,มันไม่อาจทําเช่นนั้นมันกลายไปเป็นกองศพ

ไร้อารมบนใบหน้าอันหล่อเหลาของมู่หลงชง เขาเช็ดกระบี่ของเขาให้สะอาดก่อนที่จะเก็บกลับเข้าฝึก

ชิ้นส่วนปีศาจโลหิตบนพื้นทันใดนั้นก็ระเบิดออก,กลายเป็นแอ่งเลือดไปทั่วทุกแห่ง

ด้านหลังของมู่หลงชง,มีสมาชิกในทีมสองคนที่มีริมฝีปากเป็นสีดํา พวกเขาทรุดลงกับพื้นด้วยสีหน้าน่าเกลียด พวกเขาเขาทรมานจากพิษที่ค่อยๆออกฤทธิ์มันกระจายไปทั่วร่างของพวกเขา,และไม่อาจช่วยได้อีกต่อไป

“ศิษย์พี่มู่หลง,ท่านมีหนทางช่วยศิษย์น้องของข้าบ้างหรือไม่? เขากําลังจะตาย” สานุศิษย์ยอดเขากางอว์ผู้หนึ่งถามขึ้นอย่างกังวล

มู่หลงชงส่ายหัวโดยไม่ได้กล่าวอะไร จากนั้น,เขาหยิบเอาแก่นกลางปีศาจของปีศาจโลหิตและเก็บเอาไป เขาถือกกระบี่และนั่งลง,ที่มุมตัวคนเดียวเขาปิดตาลงและฟื้นฟูพลังงานของเขา

Immortal and Martial Dual Cultivation

Immortal and Martial Dual Cultivation

เซี่ยวเฉินได้ซื้อ ‘ตำราบ่มเพาะพลัง’ มาจากเถาเป่าพร้อมกับเม็ดยาเซียนที่จะทำให้เซี่ยวเฉินเข้าสู่โลกแห่งเซียนได้ ถึงกระนั้นเขาได้เขาได้ฝึกฝนตามตำรามากว่าสามปีแต่กลับไม่มีความคืบหน้าแม้แต่น้อย เขาจึงตัดสินใจที่จะกินเม็ดยาเซียนเข้าไปและมันทำให้เขาข้ามภพไปเกิดในร่างของเด็กหนุ่มที่มีชื่อเดียวกับเขา ไปสู่โลกทวีปเทียนหวู่ไปสู่โลกที่ถูกปกครองด้วยศิลปะการต่อสู้ไปสู่จุดเริ่มต้นใหม่ของเขา

แสดงความคิดเห็น

ใส่ความเห็น

อีเมลของคุณจะไม่แสดงให้คนอื่นเห็น ช่องข้อมูลจำเป็นถูกทำเครื่องหมาย *

ปรับฟอนต์

**ถ้าปรับโหมดมืดอยู่** ให้เปลี่ยนเป็นโหมดสว่าง ก่อนจะปรับสีพื้นหลัง
รีเซ็ท