เมื่อมาเข้าใกล้ร่างกายของม้าก็กลายเป็นอัศวินม้าขาว!!
หากเทียบกันทางด้านพลังปราณจิตหญิงสาวที่อยู่ฝั่งตรงข้ามแข็งแกร่งกว่าชิงสุ่ย มิฉะนั้นเธอคงไม่สามารถกดดันให้ชิงสุ่ยต้องคอยป้องกันอยู่ฝ่ายเดียว
แต่หากเทียบทางด้านการป้องกันแล้วหญิงสาวผู้นั้นกับชิงสุ่ยแตกต่างกันสุดขั้ว
เธอเต็มไปด้วยความรู้สึกรำคาญเพราะทุกครั้งที่เธอโจมตีออกไป พลังของเธอทำได้เพียงแค่ผลักแต่ไม่สามารถทำร้ายชิงสุ่ยได้เลย ดังนั้นเธอจึงพยายามใช้พลังปราณจิตเข้าโจมตี ซึ่งอัศวินม้าขาวตัวนี้ก็เป็นตัวที่ถูกนำมาทดสอบดูว่ามันจะส่งผลเช่นไรต่อชิงสุ่ย
แน่นอนว่าเธอไม่ได้ต้องการจะฆ่าชิงสุ่ยเพราะเธอยังคงต้องการความช่วยเหลือจากชิงสุ่ย ทันทีที่อัศวินม้าขาวถูกทำลายหญิงสาวคนนี้ถึงกับตกตะลึง
เป็นที่รู้กันดีว่าผู้ที่อยู่ในระดับปราณสวรรค์ศักดิ์สิทธิ์ถือของความแข็งแกร่งสุดขั้วแต่การโจมตีโดยอาศัยปราณจิตไม่ใช่การโจมตีที่ที่ทุกคนจะป้องกันได้ และพลังความแข็งแกร่งของดินแดนสวรรค์ศักดิ์สิทธิ์ก็ขึ้นอยู่กับพื้นฐานพลังปราณจิต
การโจมตีที่อยู่ตรงหน้าบีบบังคับให้เขาต้องรับหรือปัดออกเท่านั้นไม่สามารถหลีกเลี่ยงได้แน่นอนว่าถ้าหากไม่สามารถรับการโจมตีได้จิตวิญญาณในร่างกายก็จะแตกสลาย
หญิงสาวผู้นี้ไม่คิดว่าชิงสุ่ยจะโจมตีโดยพลังปราณจิตกลับมาฉะนั้นการโจมตีของเธอจึงไม่ได้รุนแรงอย่างที่ควรเป็น และสามารถสลายพลังการโจมตีได้ทุกเมื่อ แต่เมื่อเธอเห็นจิตวิญญาณมังกรเก้าหยางของชิงสุ่ย เธอรู้แล้วว่าเธอคิดผิด
ในขณะเดียวกันเธอกลับรู้สึกถึงพลังอะไรบางอย่างที่รุนแรงซ่อนอยู่ภายในตัวชิงสุ่ยมันเป็นพลังที่ทำให้เธอรู้สึกกลัว แต่ดวงตาของเธอก็สว่างไสวราวกับได้พบสมบัติ ทันใดนั้นกระบี่ยาวก็ปรากฏขึ้นในมือ
มันคือกระบี่ยาวที่ถูกปกคลุมไปด้วยพลังปราณจิตพร้อมกับปลดปล่อยมังกรหยกสีขาวหิมะออกมาดวงตาของมังกรตัวนั้นจับจ้องมาที่ชิงสุ่ย
ชิงสุ่ยสะบัดข้อมือเรียกง้าวทองทะลวงศัตรูลำแสงสีทองของจิตวิญญาณมังกรเก้าหยางปรากฏในยอดปลายง้าว แสงของมันแตกต่างจากกระบี่ของหญิงสาวผู้นั้นเล็กน้อย สิ่งที่แตกต่างคงจะเป็นความไหลลื่นของคลื่นพลัง และเป็นตัวแปรหลักที่ทำให้ชิงสุ่ยรู้สึกอึดอัดขณะที่พยายามเลียนแบบหญิงสาวที่อยู่เบื้องหน้า
ครึ้นนนน!!
เมื่อเห็นท่าทางของชิงสุ่ยหญิงสาวคนนั้นถึงกับระเบิดเสียงหัวเราะ เสียงของเธอยังคงเต็มไปด้วยเสน่ห์อันน่าดึงดูด ส่งเสริมภาพลักษณ์ที่น่าหลงใหลเกินคำบรรยาย
ชิงสุ่ยเงยหน้ามองหญิงสาวก่อนจะขมวดคิ้ว
เจ้าอย่าได้ฝืนบังคับพลังปล่อยให้มันไหลไปตามธรรมชาติ หญิงสาวผู้นั้นบอกกล่าว
ชิงสุ่ยลบความคิดก่อนหน้าและพยายามทำตามสิ่งที่หญิงสาวบอกก่อนอื่นเขาเริ่มทำสมาธิ และค่อยๆปลดปล่อยพลังไปตามธรรมชาติ ง้าวทองทะลวงศัตรูเหมือนไม่อยู่กับมือ แต่กำลังผสานไปเป็นส่วนหนึ่งของแขนแทน
ในช่วงพริบตาชิงสุ่ยก็เข้าใจในสิ่งที่เธอบอก จริงๆแล้วแม้ว่าหญิงสาวผู้นี้จะไม่บอกเขาก็มีความสามารถพอจะเข้าใจ แต่อาจจะต้องใช้เวลานานกว่านี้
เมื่อปลดปล่อยพลังให้เป็นไปตามธรรมชาติได้ง้าวทองทะลวงศัตรูก็แปรสภาพการเป็นจิตวิญญาณมังกรทอง จ้องมองตรงไปที่หญิงสาว เวลาที่เกิดขึ้นไม่นานนัก และไม่สั้นเกินไป มันเหมือนภาพนิ่งไร้เสียง และเธอพยายามจะพูดอะไรบางอย่าง
เจ้ายังคงต้องฝึกฝนเพิ่มเติมอีกเล็กน้อยเช่นนั้นเราค่อยกลับมาสู้กันใหม่ หญิงสาวจ้องมองชิงสุ่ยด้วยความประทับใจในสติปัญญาของชายผู้นี้
ไม่จำเป็นเข้ามาได้เลย เพราะข้าอยากจะบอกว่าพลังจิตของข้ามันแข็งแกร่งกว่าคนอื่น ชิงสุ่ยกล่าว
แน่นอนว่ามันคือความจริงผู้ใดก็ตามที่ครอบครองจิตวิญญาณมังกรเก้าหยาง จะสามารถโจมตีพลังปราณจิตได้แบบทวีคูณ รุนแรงยิ่งกว่าวิธีการโจมตีพลังปราณจิตชนิดอื่นๆ
เอาล่ะข้าเข้าใจแล้วแต่เจ้าก็อย่าได้ประมาท บางทีพลังของเจ้าอาจจะด้อยกว่าข้า หญิงสาวผู้นี้กล่าวเพราะว่าเธอรู้จักพลังจิตวิญญาณมังกรเก้าหยาง
ชิงสุ่ยก็อยากรู้ว่าการเข้าถึงพลังใหม่มันแข็งแกร่งกว่าก่อนหน้าหรือไม่โดยรวมแล้วจิตวิญญาณมังกรเก้าหยางในปัจจุบันได้ประสานรวมกับง้าวทองทะลวงศัตรู ซึ่งมันจะต้องเพิ่มพลังอำนาจได้อย่างชัดเจน เพียงแค่ไม่รู้ว่ามันแข็งแกร่งขึ้นเพียงใด?
ทักษะมังกรผงาด!!
ชิงสุ่ยเข้าเปิดฉากโจมตีเขาพุ่งทะยานเข้าหาหญิงสาวด้วยร่างกายที่กลายเป็นเพียงแค่เงา ง้าวทองทะลวงศัตรูในมือของเขาเหยียดออกไปพร้อมกับพลังจิตวิญญาณมังกรเก้าหยาง สิ่งที่เห็นคือทั้งสองได้ประสานรวมกันกลายเป็นพลังหนึ่งเดียว
มังกรทองคำขนาดมหึมาพุ่งเข้าโจมตีหญิงสาวที่มีแสงสีขาวลอยอยู่รอบตัว
แน่นอนว่าหญิงสาวคนนี้เองก็ไม่กล้าประมาทเธอตวัดกระบี่ในมือบังคับมังกรหยกขาวพุ่งเข้าโจมตีมังกรทองคำ
โฮกกกกกกกโฮกกกกก……..
แรงระเบิดขนาดใหญ่เกิดขึ้นอย่างรุนแรงแต่ก็ถูกบังคับให้อยู่ภายในอาณาเขต100เมตร
ชิงสุ่ยมองดูสิ่งที่เกิดขึ้นด้วยความประหลาดใจพลังของจิตวิญญาณมังกรเก้าหยาง เมื่อเทียบกับมังกรหยกขาวที่อยู่ในมือหญิงสาว มันแทบไม่ได้เหนือกว่า หากเปรียบเทียบก็คงแข็งแกร่งกว่าเพียงเล็กน้อย มันจึงเป็นข้อบ่งบอกพิสูจน์ได้ว่าพลังจิตของหญิงสาวแข็งแกร่งกว่าเขาอย่างน้อย 1 เท่าหรือมากกว่านั้น
โชคดีที่พลังป้องกันปราณจิตของชิงสุ่ยแข็งแกร่งกว่าเขาจึงยังคงเหนือกว่าเธอ
แน่นอนว่าเธอก็ไม่เชื่อในสิ่งที่เห็นเธอได้เข้าโจมตีด้วยพลังปราณจิตที่แข็งแกร่งที่สุด แต่ก็พบว่ามันไม่มากพอจะล้มชิงสุ่ย และที่สำคัญคู่ต่อสู้ของเธอก็เหมือนสัตว์ร้ายที่ไม่ยอมล้มเลิกความพยายาม มันเหมือนกับว่าเขาไม่รู้จักเหน็ดเหนื่อย
ระหว่างการต่อสู้ชิงสุ่ยเริ่มเรียนรู้จนกระทั่งคุ้นเคยกับพลังใหม่
มังกรสงครามดาราพสุธา!! มังกรสะท้านสมุทร!!
ชิงสุ่ยเข้าโจมตีหญิงสาวอย่างต่อเนื่องจากผู้ที่คอยตั้งท่าป้องกัน แปรเปลี่ยนเป็นผู้รุกราน เขาบีบบังคับให้เธอกลายเป็นฝ่ายป้องกันจนกระทั่งเธอต้องถอยหลังไปมากกว่า 10 กิโลเมตร ในขณะที่เขาแสดงที่ท่าฟื้นตัวจนกระทั่งอาการบาดเจ็บเล็กน้อยก่อนหน้าหายไปหมดสิ้น
ทันทีที่ชิงสุ่ยเห็นเลือดที่มุมปากของหญิงสาวเขาก็นึกขึ้นได้ว่า เขากำลังใช้ประโยชน์จากอาการบาดเจ็บของเธอ ข้าลืมไปว่าเจ้าเจ็บป่วยอยู่ เจ้าเป็นอย่างไรบ้าง?