สิ่งที่ชิงสุ่ยกล่าวสร้างความงุนงงให้กับหญิงสาวผู้นี้เป็นอย่างมากชิงสุ่ยคิดว่าเธอจะต้องโกรธ แต่เธอเพียงถามคำถามกลับมา ทำไม?
มันก็ไม่มีเหตุผลอะไรหรอกนะข้าก็แค่รู้สึกไม่ชอบมหาจักรวรรดิราชันย์ปราชญ์ อันนี้พอจะเป็นเหตุผลได้หรือไม่?
ชิงสุ่ยไม่ชอบจักรวรรดิขนาดใหญ่ที่มีความทะเยอทะยานมากเกินไปอันที่จริงมันก็ไม่ใช่เรื่องที่เกี่ยวกับเขา แต่เพราะผู้คนที่อยู่ในจักรวรรดิที่ยิ่งใหญ่มักจะชอบแสดงความยิ่งใหญ่เหยียบหัวผู้อื่น
ความทะเยอทะยานเป็นแรงจูงใจที่ทำให้ผู้คนแข็งแกร่งมันคือจุดศูนย์รวมความปรารถนาและความหวัง แต่เมื่อไหร่ที่มันมากเกินไป มันจะกลับกลายเป็นเครื่องตอกย้ำทำร้ายผู้ที่มีความทะเยอทะยานจนอาจถึงแก่ความตาย
แน่นอนว่ามันพอเป็นเหตุผลได้แต่เจ้าพอจะบอกได้หรือไม่ว่าทำไมเจ้าถึงไม่ชอบคนเหล่านี้? สำหรับข้า ดูเหมือนเจ้าจะไม่คุ้นชินกับมหาจักรวรรดิราชันย์ปราชญ์จริงๆ
เจ้าต้องการเหตุผลหรือ?ข้าเพียงแค่ไม่ชอบ มันก็เหมือนกับการที่เจ้าพยายามบังคับให้ข้าบอกว่าเจ้าไม่งดงามอย่างนั้นหรือ?
ฮ่าฮ่า ดูเหมือนว่าข้าไม่เคยพยายามให้เจ้าพูดแบบนั้นเสียงหัวเราะของเธอยิ่งสร้างคลื่นแรงเสน่ห์ที่ไม่มีใครต้านทานได้ออกมา
ชิงสุ่ยส่ายหน้าหญิงสาวผู้นี้มีความมั่นใจในตัวเองและไม่ปล่อยให้คำพูดของเขาส่งผลกระทบถึงเธอ
เอาล่ะเราอย่าพูดนอกเรื่องกันอีกเลย การบีบบังคับให้เจ้าออกจากมหาจักรวรรดิราชันย์ปราชญ์ไม่ได้สร้างประโยชน์อะไรกับข้า และการยอมรักษาเจ้าก็ไม่ได้มีประโยชน์อะไรกับข้าเลย ในเมื่อไม่ว่าจะเป็นทางใดก็ไม่มีประโยชน์ ข้าก็ไม่มีเหตุผลที่ต้องทำมันชิงสุ่ยยิ้ม
เจ้าเป็นคนปากว่าตาขยิบเจ้าไม่รู้สึกไร้สาระบ้างเหรอที่ทำเช่นนี้? การกระทำของเจ้ามันทำให้ข้ามองเจ้าด้วยสายตาดูถูกหญิงสาวกล่าวอย่างสงบนิ่ง
ชิงสุ่ยลูบหัวทำไมข้ารู้สึกราวกับว่าเจ้าเป็นคนหลงตัวเอง? ข้าเองก็ไม่ได้อารมณ์ดีมากนัก และข้าก็บอกไปแล้วว่าข้าจะไม่รักษาใครถ้าข้าไม่มีอารมณ์
ถ้าเช่นนั้นข้าคงต้องจับเจ้า วันนี้เจ้านายรักษาข้า ข้าก็จะจำคุกเจ้าไปเรื่อยๆจนกว่าเจ้าจะยอม
หลังจากกล่าวจบหญิงสาวก็พุ่งทะยานตรงเข้าหาชิงสุ่ย
มือที่ขาวสะอาดราวหิมะพุ่งตรงเข้าตบชิงสุ่ยพร้อมจิตสังหารที่รุนแรง
ฝ่ามือมหาโศก!!
ชิงสุ่ยไม่กล้าประมาทเขาจึงปลดปล่อยหมัดหัตถ์เมฆาสวนกลับไปเพื่อป้องกัน
ปังงงง!!!!
แรงกระแทกเกิดขึ้นณ จุดศูนย์กลาง กลิ่นอายของทั้งสองคนขยายขอบเขตออกจากร่างกายประมาณ 3 เมตร พวกเขาต่างจำกัดพื้นที่การทำลายล้างเพื่อไม่ให้พื้นที่โดยรอบถูกทำลาย มิฉะนั้น ด้วยความแข็งแกร่งในปัจจุบันของทั้งสองคน เพียงแค่ปลดปล่อยกระบวนท่า ภูเขาและทะเลจะต้องถูกทำลายเหมือนเศษฝุ่น
ระดับพลังหมัดหัตถ์เมฆาของชิงสุ่ยถือว่าอยู่ในขั้นสูงแล้วด้วยความแข็งแกร่ง เขาสามารถเปลี่ยนแปลงพลังและดึงมันกลับมาเป็นแรงเสริมให้กับเขาได้
แต่ดูเหมือนพลังของเขายังไม่มากพอจะนำมาใช้กับหญิงสาวคนนี้
ชิงสุ่ยยอมรับสิ่งที่เกิดขึ้นโชคดีที่พลังป้องกันของเขาแข็งแกร่งพอตัว แม้จะถูกผลักดันให้ต้องถอยหลัง แต่เขาก็ไม่ได้รับความเสียหาย ในชั่วพริบตาทั้งสองคนแลกเปลี่ยนวรยุทธ์ไปมากกว่า 1000 กระบวนท่า ชิงสุ่ยถูกอัดให้ต้องถอยหลังไปไกลหลาย 100 กิโลเมตร หญิงสาวโสมงามสังเกตถึงพลังป้องกันมหาศาลจากตัวชายคนที่อยู่ตรงหน้า แม้ว่าเธอจะพยายามก็ทำหลายสิ่งหลายอย่าง ดูเหมือนมันจะไม่เป็นผลเลย
ชิงสุ่ยรู้สึกมืดมนหากยังเป็นเช่นนี้ต่อไป เขาคงทำได้เพียงแค่ป้องกันการโจมตี แต่อย่างน้อยเขาก็ยังไม่ได้ใช้พลังปราณจักรพรรดิ ซึ่งในสติของเขาไม่ต้องการใช้มัน สิ่งที่เขาต้องการคือการพึ่งพาพลังของตนเอง
เจ้าจะต้องระมัดระวังกระบวนท่านี้ให้ดี
เมื่อหญิงสาวผู้นี้กล่าวจบเธอก็ทำมือวาดวงกลมกลางอากาศ แสงสีขาวหิมะปกคลุมร่างกายของเธอพร้อมกับยิงตรงเข้าหาชิงสุ่ย
ชิงสุ่ยเหมือนตกไปอีกโลกนึงบริเวณรอบตัวของเขากว้างขวางมากแต่กับรายล้อมไปด้วยสัตว์ร้าย ตอนแรกมีเพียงไม่กี่สิบตัว แต่ค่อยๆเพิ่มจำนวนเป็นหลักร้อย หลักพัน หลักหมื่น หลักแสน และหลักล้าน…….
พวกมันส่งเสียงคำรามพร้อมปลดปล่อยกลิ่นอายชั่วร้ายอันแสนน่ากลัว
มหาปราชญ์ปลิดชีพสลาย!!
ชิงสุ่ยรู้ดีว่าสิ่งที่เกิดขึ้นเป็นภาพลวงตาแต่พวกมันดูสมจริงมาก ความสามารถในการสร้างภาพลวงเหตุใดถึงแข็งแกร่งเพียงนี้
ชิงสุ่ยเคลื่อนไหวไปตามกฎแห่งพระราชวัง9 เทวา ก่อนจะปรากฏพระราชวัง 9 เทวาขึ้นกลางสนามต่อสู้
หลังจากพระราชวัง9 เทวาปรากฏ บนสนามลานต่อสู้ ก็ปรากฏชิ้นส่วนอะไรบางอย่างที่มีทั้งสีดำและสีขาว
มันก็คือหมากรุกมหาปราชญ์ปลิวชีพสลาย!!
ชิงสุ่ยรู้ว่านี่คือการเล่นหมากรุกที่คล้ายกับชีวิตในโลกใบก่อนแต่ก็ไม่ได้มีความรู้สึกคุ้นเคยเป็นพิเศษ ตอนนี้ชิงสุ่ยเป็นเหมือนตัวหมาก สิ่งที่คู่ต่อสู้ของเขาต้องทำคือการจัดเส้นทางชิงสุ่ย โดยอาศัยจำนวนเข้ารุม
แน่นอนว่าทุกอย่างยังคงเป็นหมากรุกผู้ที่บังคับภาพรวม ทำหน้าที่เป็นเหมือนกษัตริย์ กษัตริย์ที่ชิงสุ่ยจะต้องเอาชนะ การต่อสู้ได้กลายเป็นเกมสงคราม!!
ชิงสุ่ยอาศัยพระราชวัง9 เทวาในการเคลื่อนไหวอย่างรวดเร็ว และด้วยวิธีการเคลื่อนไหวหมากตัวเดินของหญิงสาวโฉมงามจึงไม่อาจโจมตีชิงสุ่ยได้ นอกจากนี้เขายังใช้โอกาสในการกำจัดสัตว์ร้ายทุกตัวที่เข้าใกล้เขา
ในเมื่อกฎของหมากสังหารไม่สามารถเอาชนะความเร็วได้เธอก็รู้ตัวว่าตำแหน่งการยืนของเธอไม่คุ้มค่าที่จะเสี่ยง
ทันทีที่ชิงสุ่ยกลับสู่สภาพแวดล้อมปกติหญิงสาวคนนั้นก็เข้ามาโจมตีตามหลังด้วยม้าศึกร่างกายกำยำที่พุ่งเข้าชนชิงสุ่ย
อาชาเกราะหนักมหาปราชญ์!!
ชิงสุ่ยมองดูม้าสีขาวบริสุทธิ์เส้นขนของมันเป็นสีขาวหิมะตลอดทั้งตัว มันเป็นหมาที่มีความสูงประมาณ 2 เมตร ยาว 5 เมตร เคลื่อนที่ด้วยความเร็วสูง แต่ก็เป็นรูปร่างที่สว่างใส่
เมื่อมันเข้าใกล้ชิงสุ่ยชิงสุ่ยก็แอบยิ้มมุมปาก ฝ่ามือของเขาระเบิดพลังอันน่ากลัว พลังของจิตวิญญาณมังกร
โฮกกกกก!!!!