ตูม!!ตูม!! ตูม!!
ภูเขา9 เทวาถูกเสริมแรงปะทะทำให้มันเพิ่มความเร็วขึ้นอย่างฉับพลันหลายเท่าตัว แม้แต่ผู้นำเทวะสูงสุดก็ไม่มีเวลามากพอจะให้หลบ
ในตอนแรกภูเขา9 เทวาเป็นเพียงอุปกรณ์ชิ้นเล็กๆ แต่เมื่อพลังของผู้ใช้พัฒนา ภูเขา 9 เทวาก็ดูดซับพลังของผู้ใช้ได้อย่างน่าทึ่ง จนทำให้มันกลายเป็นหนึ่งเดียวกับพลังของผู้ใช้
ความเร็วคือพลังในเมื่อพลังของภูเขา 9 เทวามีค่ามากกว่า 10 ล้านเต๋า ฉะนั้นเมื่อมันเสริมความเร็ว พลังการโจมตีก็เพิ่มขึ้นหลายเท่าตัว จนแซงหน้าพลังของผู้นำเทวะสูงสุด
ตัวของผู้นำเทวะสูงสุดเองก็กำลังรอโอกาสช่วงเวลาแห่งการตัดสินใจคือช่วงเวลาที่ชิงสุ่ยทุ่มเทจิตใจในการควบคุมภูเขา 9เทวา และใช้โอกาสจากเครื่องรางพายุคลั่งที่ยังคงทำงานได้อีก 15 นาที เขาเชื่อว่าช่วงเวลาที่ชิงสุ่ยควบคุมสมบัติศักดิ์สิทธิ์ขนาดยักษ์ จะต้องใช้พลังปราณสูง และควรจะอ่อนแอลงในไม่ช้า
แต่ถ้าหากเขารู้ความจริงเขาคงจะรู้สึกเสียใจที่คิดเช่นนั้น แม้ว่าชิงสุ่ยจะโคจรพลังเพื่อปลดผนึกพลังของภูเขา 9 เทวา ยืดยาวต่อไปอีก 30 นาที พลังในร่างกายของเขาก็ไม่ได้อ่อนแอลง
ร่างกายของผู้นำเทวะสูงสุดแข็งแกร่งประดุจเพชรถึงแม้จะมีเกาะเกร็ดเป็นเพชรทั้งตัว แต่ดวงตาก็ยังเป็นดวงตามนุษย์ จุดอ่อนสำคัญ ฉะนั้นทุกครั้งที่ชิงสุ่ยโจมตี มันจะต้องมีเป้าหมายและบีบบังคับให้อีกฝ่ายต้องหาวิธีป้องกัน
โฮกกกกก!!
ทุกครั้งที่ร่างกายของเขาปะทะกับภูเขา9 เทวา ร่างกายที่แข็งดุจเพชรสามารถรับแรงโจมตีได้อย่างไม่น่าเชื่อ การต่อสู้อย่างเกิดขึ้นต่อเนื่องจนกระทั่งเวลาล่วงเลยครบ 30 นาที ผู้นำเทวะสูงสุดรู้ซึ้งแล้วว่าชิงสุ่ยไม่ได้มีท่าทีเหนื่อยลงเลย เขาก็ไม่มีความจำเป็นต้องดึงดูดให้ชิงสุ่ยใช้ภูเขา 9 เทวาอีกต่อไป
สีหน้าของผู้นำเทวะแปรเปลี่ยนเป็นความเคร่งเครียดไม่ได้ผ่อนคลายหรือรู้สึกสุขสบายใจเหมือนช่วงเวลาแรกๆ เขาใช้โอกาสเพียงเล็กน้อยเพื่อเรียกสัตว์อสูรของตนออกมา
ในชั่วพริบตาเสียงร้องคำรามเหมือนเสียงฟ้าผ่าก็ดังกึกก้องไปทั่วท้องฟ้า สัตว์อสูรสีดำขนาดมหึมาปรากฏเหนือก้อนเมฆ
มังกร!!
มังกรยักษ์สีดำทมิฬขนาดใหญ่โตมโหฬารร่างกายของมันมีความยาว 1.2 กิโลเมตรและมีความหนาของลำตัวมากกว่า 10 เมตร เกราะเกล็ดสีดำแต่ละชิ้นมีขนาดใหญ่เท่าร่างกายมนุษย์ 3 คน ซึ่งพวกมันกำลังสะท้อนแสงเย็นยะเยือก สร้างความรู้สึกปั่นป่วนในจิตใจของมนุษย์ทุกคนที่มองเห็นมัน ราชันย์มังกรพิษ!!
ชิงสุ่ยหยุดแล้วมองดูอสูรกายขนาดมหึมาดวงตาประหลาดใจ
มังกรสายเลือดแท้คือสิ่งมีชีวิตที่ดำรงอยู่บนพื้นฐานของความน่าเกรงขามและน่าหวาดกลัวตัวของเขาเองก็มีมังกรทองคำ ส่วนมูหยุนชิงเก้อก็ครอบครองมังกรหยกขาว พวกมันทั้ง 2 ตัวต่างก็เป็นมังกรสายเลือดแท้เช่นกัน
อย่างไรก็ตามเขาเองก็ไม่เคยเห็นมังกรที่มีเกาะเกล็ดสวยงามและโดดเด่นเช่นนี้ โดยพื้นฐานของมังกรจะขึ้นอยู่กับความแข็งแกร่งของสายเลือด ยิ่งมังกรมีสายเลือดที่แท้จริงมากเพียงใด ความแข็งแกร่งของมันก็ยิ่งทวีคูณ และโอกาสในการพัฒนาร่างก็มีมากขึ้น
ราชันย์มังกรพิษคือราชาที่อยู่เหนือมังกรพิษทั้งปวง ซึ่งคำว่าราชาก็บ่งบอกถึงความกล้าหาญของพวกมัน อย่างน้อยมันก็ต้องเป็นมังกรที่มีสายเลือดมังกรที่เข้มข้น – หากไม่มีสายเลือดของมังกรที่แท้จริง โอกาสที่พวกมันจะยืนอยู่เหนือมังกรทั้งปวง คงเป็นไปไม่ได้
ชิงสุ่ยไม่สามารถคาดเดาความแข็งแกร่งของมันได้แต่ที่เขารู้การที่มันเป็นถึงราชามังกรพิษ จะต้องมีพลังอยู่ในลำดับต้นๆของมังกรสายเลือดแท้จริงอย่างแน่นอน
ถึงแม้ชิงสุ่ยจะคิดอยู่เสมอว่าเขาครอบครองร่างกายที่แข็งแกร่งไม่มีทางถูกกัดกร่อนด้วยพิษแต่ไม่อยู่ต่อหน้าราชันย์มังกรพิษ เขากลับรู้สึกว่าร่างกายของเขาคงไม่สามารถทนพิษของเจ้ามังกรยักษ์ตัวนี้ได้
ในตอนแรกชิงสุ่ยเป็นคนกำหนดผลลัพธ์ แต่เมื่อมีตัวแปรเพิ่มขึ้นมาใหม่ ชิงสุ่ยก็ไม่รู้สึกประหลาดใจ เพราะคนระดับผู้นำเทวะสูงสุด จะไม่ซ่อนไพ่ตายเพิ่มเติม ก็ดูจะเป็นเรื่องแปลกเกินไป
โฮกกกก!!
ราชันย์มังกรพิษส่งเสียงคำรามก่อนจะฟาดหางโจมตีเข้าใส่ภูเขา 9 เทวา
ตูมมม!! เสียงแตกร้าวของภูเขา9 เทวาดังสั่นสะเทือนขณะที่ตัวของภูเขาก็ถูกอัดกระแทกกลับมา ชิงสุ่ยแสดงสีหน้าตกใจ ไม่คิดว่าเจ้ามังกรยักษ์ตัวนี้จะมีพลังมากมายเหลือคณานับ เขาคิดไม่ออกเลยว่าจะต้องใช้อะไรเพื่อป้องกันการโจมตีของเจ้ามังกรพิษยักษ์
ชิงสุ่ยเริ่มไม่มั่นใจแล้วว่าร่างกายของเขาจะทนทานต่อพลังโจมตีแบบนี้ได้จริงๆหรือถ้าหากเป็นการโจมตีของผู้นำเทวะสูงสุด เขาเชื่อว่าไม่มีปัญหา แต่อย่างน้อยร่างกายของเขาก็ยังคงมีเกราะทองคำวชิระที่เปรียบเสมือนปราการด่านสุดท้ายในการพลิกให้เขารอดพ้นจากความตาย
สีหน้าของหญิงสาวซีดเซียวแบบทวีคูณทันทีที่เธอมองดูราชันย์มังกรพิษ
เธอเรียกวิหคเพลิงเบญจรัสของเธอออกมาแต่วิหคเพลิงของเธอเมื่อเทียบกับขนาดของราชันย์มังกรยักษ์ มันช่างเป็นความต่างชั้น จนมองเห็นถึงความแข็งแกร่งที่แตกต่างกัน ถึงแม้เธอจะไม่กลัวตายแต่เธอรู้สึกย่ำแย่ เธอจ้องมองชายหนุ่มที่ยืนอยู่ด้านข้าง ก่อนจะมองเห็นสีหน้าของเขาที่กำลังพยายามหาทางออกของปัญหา
ข้าขอโทษจริงๆข้ารู้ว่าคำขอโทษของข้าคงไม่เพียงพอ แล้วมันก็คงไม่มีโอกาสอีกแล้ว หากข้ารู้ว่าเรื่องแบบนี้จะเกิดขึ้น ข้าก็คงไม่มาหาเจ้า หญิงสาวเริ่มกล่าวคำขอโทษด้วยน้ำเสียงที่เต็มไปด้วยความสำนึก
ชิงสุ่ยรอคอยเธอพูดจบจากนั้นก็ตอบกลับไปว่า ทำไมเจ้าถึงคิดจะรอความตายเช่นนี้? มองดูนั่นสิ บรรดาหญิงสาวและลูกๆของข้า ไม่ว่าจะเกิดอะไรขึ้น ข้าจะไม่มีวันให้พวกมันมาทำร้ายคนของข้า ชิงสุ่ยระเบิดคลื่นพลังที่รุนแรง มันเป็นพลังที่ทำให้คนรอบข้างรู้สึกไว้วางใจ
หญิงสาวคนนี้ชื่นชมความไม่ยอมแพ้ของชิงสุ่ยแต่หากไม่เกิดปาฏิหาริย์ ผลลัพธ์สุดท้ายคงไม่มีวันเปลี่ยนแปลง
อย่าได้คิดดิ้นรนเจ้าคิดจริงๆหรือว่าเจ้าจะต่อกรกับราชันย์มังกรพิษตัวนี้ได้? ผู้นำเทวะสูงสุดหัวเราะเยาะเย้ยขณะที่เขากล่าวด้วยความภาคภูมิใจ
มันก็ไม่แน่หรอกนะ!! ชิงสุ่ยยิ้มมุมปาก
พ่อหนุ่มน้อยข้าขอชื่นชมเจ้าจากใจจริง ข้าชื่นชมทั้งความสามารถและพรสวรรค์ อย่างไรก็ตาม สวรรค์ก็ลำเอียงที่ทำให้เจ้าต้องมาเจอข้า เจ้าควรจะกลายเป็นคนธรรมดา แล้วกลับไปเกิดใหม่ซะ ความอวดดีของเจ้า กำลังทำให้เจ้าถึงแก่ความตาย ผู้นำเทวะสูงสุดกล่าวด้วยน้ำเสียงเย่อหยิ่ง ตัวของเขามั่นใจในตัวเองมาก และเชื่อว่าวันนี้คือวันตายของชิงสุ่ย เขาจึงพูดถากถางเพื่อให้ชิงสุ่ยเจ็บใจ