กลิ่นของน้ำทะเลมีความเค็มเล็กน้อยแต่กลับสร้างความสดชื่นได้มากมายยิ่ง
หญิงสาวที่อยู่ด้านข้างไม่อาจมองผ่านจิตใจชายที่อยู่ด้านข้างเธอได้ตั้งแต่เมื่อไหร่กันที่เธอแสดงความจริงใจออกไป ก่อนหน้านี้เธอไม่ได้รู้สึกว่าเธอได้แสดงความจริงใจใดๆเลย…..ฉะนั้นเธอจะเหมือนกำลังหลงทางอยู่ในเขาวงกต อย่างไรก็ตามชายหนุ่มผู้นี้ก็ยินยอมเต็มใจขจัดพิษในร่างกายของเธอ ซึ่งหากประสบความสำเร็จก็คงเป็นเรื่องดี
เธอมีภาพลักษณ์ที่งดงามเหนือกว่าคนในระดับเดียวกันแต่โชคชะตาก็ทำให้เธอเกิดมาเป็นคนโชคไม่ดี น่าเสียดายที่เธอไม่เหลือเวลามากพอจะกลับไปพระราชวังหมากรุกสวรรค์อมตะ ตลอดเวลาความรู้สึกของเธอเต็มไปด้วยความขัดแย้ง มันคงจะดีกว่านี้ถ้าเวลาของเธอสามารถยืดยาวได้มากกว่าคนอื่น
ชีวิตที่เต็มไปด้วยความโชคร้ายตอนนี้เธอรู้สึกราวกับว่าเทพธิดาแห่งโชคชะตาได้กลับมายืนข้างเธออีกครั้ง แม้ว่าเธอจะยังไม่ได้หายจากอาการบาดเจ็บ แต่เธอก็เชื่อว่าชายคนนี้จะต้องรักษาเธอได้
เจ้ารู้เกี่ยวกับร่างกายของเจ้าหรือไม่? ชิงสุ่ยกล่าวถาม
สิ่งเดียวที่ข้ารู้คือพลังในร่างกายของข้าจะคงอยู่ได้อีกไม่นานนักและทุกครั้งที่ข้าใช้พลัง ชีวิตของข้าก็จะลดลง อีกอย่างหนึ่งก็คืออวัยวะภายในร่างกายของข้ากำลังทำงานด้วยอัตราผิดปกติ ทุกอย่างใกล้จะล้มเหลวเต็มทนแล้ว หญิงสาวผู้นั้นส่ายหน้าขณะกล่าว
ในเมื่อจะรู้ผลกระทบของพิษแล้วทำไมเจ้าถึงไม่รู้ว่ามันเกิดจากพิษชนิดใด? ชิงสุ่ยกล่าวถาม
ยาพิษบนโลกนี้มีเป็นล้านชนิดในขณะเดียวกันก็มีพิษอีกมากมายที่พุ่งเป้าโจมตีอวัยวะภายในของเหยื่อ ถึงแม้ว่าจะไม่รู้สาเหตุที่ทำให้อวัยวะภายในของข้าล้มเหลว แต่จากข่าวลือเรื่องการตายของหญิงสาวมากมายทุกคนมุ่งเป้ามาที่พระราชวังอมตะเบญจพิษ แต่ข้าก็ยืนยันไม่ได้ หญิงสาวครุ่นคิดก่อนจะกล่าวตอบ
พระราชวังอมตะเบญจพิษนี่เป็นอีกครั้งหนึ่งที่ชิงสุ่ยได้ยินชื่อเกี่ยวกับพระราชวังอมตะ มันคือขุมพลังที่อยู่เหนือนิกาอมตะ และขนาดของนิกายจะพัฒนาได้ก็ต่อเมื่อมีจำนวนยอดยุทธดินแดนสวรรค์ศักดิ์สิทธิ์เพิ่มขึ้น ตราบใดที่เกินจำนวนมาตรฐานภูเขาเขาจะได้ยกระดับชั้นกลายเป็นนิกายที่แข็งแกร่ง และเมื่อกลายเป็นนิกายที่แข็งแกร่ง ทหารคุ้มครองนิกายก็ย่อมต้องแข็งแกร่งตาม และจำนวนคนที่ต้องการเข้าร่วมก็ต้องมากมายตามไปเช่นกัน
เจ้าได้สร้างความขุ่นเคืองกับพวกพระราชวังอมตะเบญจพิษบ้างหรือไม่? ชิงสุ่ยกล่าวถาม
ข้าเคยขัดแย้งกับคนของพระราชวังอมตะเบญจพิษคนนึงฉะนั้นหากข้าเข้าใจไม่ผิด สารพิษที่ข้าได้รับจะต้องมาจากคนของพระราชวังอมตะเบญจพิษ แต่ใครเป็นคนทำละ ข้าจะให้พวกเขารับผิดชอบโดยที่ไม่รู้ตัวคนทำ? มันก็คงไม่ดีแน่
ถ้าหากพิษที่เจ้าได้รับมาจากพวกพระราชวังอมตะเบญจพิษแสดงว่ามันต้องเป็นพิษที่เจาะจง เพื่อสังหารเจ้าและสาวถึงตัวพวกมันไม่ได้แสดงว่ามันจะต้องเป็นพิษที่แม้แต่พวกมันเองก็รักษาไม่ได้ ขณะที่ชิงสุ่ยกล่าว เขาก็หยิบกล่องหยกบรรจุเข็มทองคำออกมา
ซึ่งเขาก็ไม่ได้ถามอะไรต่อสิ่งที่เขาอยากรู้ก็คงเป็นเพียงพระราชวังอมตะบางแห่งเท่านั้น
เจ้าสามารถรักษาพิษชุบชีวิตโฉมงามจากความตายได้หรือไม่? หญิงสาวกล่าวคำถามดูเหมือนเธอจะไม่ค่อยเชื่อ
ถือว่าเป็นเรื่องยากหากจะต้องปลุกชีวิตม้าแก่ใกล้ตาย!! ชิงสุ่ยตอบกลับด้วยคำพูดหยอกล้อ
เจ้าสิที่เป็นม้าแก่……. หญิงสาวถึงกับพูดไม่ออก ถูกต้องข้านี้แหละม้าตัวผู้ ชิงสุ่ยยิ้มขณะหยิบเข็มทองคำออกมาจากกล่องหยก
หญิงสาวปิดปากเงียบเธอไม่ค่อยประหลาดใจกับการแสดงออกของชิงสุ่ย ผู้ชายที่อยู่ตรงหน้าเธอคือคนที่กล้าพูดในสิ่งที่คนอื่นไม่กล้า เธอไม่รู้ว่าควรจะโกรธเราควรจะตอบเช่นไรกับไป แน่นอนว่าเธอเถียงสู้เขาไม่ได้ ความโกรธจึงลดลง
ชิงสุ่ยหยุดพูดจาล้อเล่นเขาหยิบเข็มทองคำออกมาและจ้องมองเธอ เขาสังเกตบริเวณหน้าอกที่แสนอวบอิ่ม รูปร่าง ทรวดทรง เป็นสิ่งที่ทำให้ผู้คนตื่นตาและจินตนาการภาพไร้ชุดอาภรณ์ มันคงเป็นภาพที่น่าทึ่งยิ่ง
หญิงสาวคนนั้นสัมผัสได้ถึงดวงตาที่กำลังร้อนรุมเธอขมวดคิ้วและมองดูสิ่งที่ชิงสุ่ยกำลังจ้องมอง เธอรู้สึกพี่ปกติไม่คุ้นชินกับสายตาแบบนี้ เธอยิ่งเป็นกังวลผู้ชายคนนี้กำลังจะใช้การรักษาเป็นข้อแก้ตัว เธอควรจะรักษาต่อไปจริงๆหรือ?
ชิงสุ่ยไม่จำเป็นต้องถามหรือตรวจวัดชีพจรเขาอาศัยเพียงแค่นี้เนตรสวรรค์ก็รู้สิ่งที่เปลี่ยนแปลงทั้งหมดในร่างกายของเธอ หญิงสาวคนนี้ถูกวางยาพิษและตัวของชิงสุ่ยก็มีวิธีมากมายในการขจัดสารพิษ รวมถึงฟื้นฟูอวัยวะที่ล้มเหลว
ข้าต้องการฟังเข็มบนร่างกายของเรา ชิงสุ่ยกล่าวขณะที่เห็นสายตาตื่นตัวของเธอ
ข้าต้องถอดเสื้อผ้าออกหรือไม่? หญิงสาวคนนั้นจ้องมองชิงสุ่ยคำพูดของเธอยังคงดูสงบนิ่ง แต่ชิงสุ่ยรู้ดีว่าเธอกำลังประหม่า
ไม่จำเป็นแต่ถ้าเจ้ายืนยันจะทำข้าก็ไม่คัดค้าน
หากเจ้าตอบเช่นนี้ข้าคงไม่ทำตามที่เจ้าว่าหรอก หญิงสาวคนนั้นตอบอย่างไร้ประโยชน์ ดูเหมือนเธอจะไม่อาจควบคุมชายคนนี้ได้
แต่จุดฝังเข็มของข้าทำให้เจ้าเป็นอึดอัดใจเล็กน้อย ข้าหวังว่าเจ้าจะไม่วิตกกังวล ชิงสุ่ยบอกให้เธอทำใจล่วงหน้า หญิงสาวลังเลชั่วครู่หนึ่งก่อนเธอจะพยักหน้า
ชิงสุ่ยเริ่มต้นฝังเข็มเขาเริ่มฝังเข็มทองคำทีละเล่มจากนั้นก็ถ่ายเทพลังเปลวเพลิงแรกเริ่มเข้าไปตามตัวเข็ม จุดแรกที่เขาฝังก็คือจุดซานจง(กลางหน้าอก) และด้วยความยาวขนาด 9 นิ้วของเข็ม ทันทีที่ฝังลงไปกลางหน้าอก ปลายเข็มก็ทะลุจนเกือบถึงแกนกลางร่างกายของเธอทันที
ชิงสุ่ยเคลื่อนไหวมืออย่างชำนาญจนเหมือนกับกำลังวาดภาพศิลปะในขณะเดียวกันเขาก็ใช้ทักษะฝ่ามือศักดิ์สิทธิ์ เพื่อช่วยผลักดันตัวเข็มและบรรเทาอาการเจ็บปวดในส่วนต่างๆ
ในขณะที่ชิงสุ่ยกำลังฝังเข็มร่างกายของหญิงสาวคนนั้นก็สั่นเครือ
เจ้ากำลังกลัวว่าข้าจะลอบฆ่าเจ้าสินะ ชิงสุ่ยกล่าวขณะหยิบเข็มเล่มที่2 ออกมา
ข้าไม่ได้กลัวความตายแต่ข้ากลัวเจอคนเลว เจ้าดูออกได้อย่างไรว่าใครเป็นคนดีคนดี? หลังจากที่ฝังเข็มบริเวณจุดซานจงเสร็จสิ้นชิงสุ่ยก็ขยับลงไปอีกประมาณ 3 นิ้วจากจุดเดิม
คนเลวคือคนที่บังคับให้คนอื่นทำสิ่งที่ไม่ต้องการหรือทำในสิ่งที่ผิดศีลธรรม หญิงสาวคนนั้นกล่าวตอบ
ชิงสุ่ยยังคงฝังเข็มเล่นต่อไปอย่างต่อเนื่อง คนเลวก็มีมากมายหลายแบบ หนึ่งในนั้นก็เป็นคนที่มีความเล่ห์เหลี่ยม แต่แม้ว่าคนประเภทนี้จะเลือกไม่ทำความชั่ว พวกเขาก็จะถูกมองว่าเป็นคนเลวเสมอ
แต่คนดีส่วนใหญ่ก็ต้องพ่ายแพ้ให้กับความโลภคนที่มีจิตใจดีงามจึงลดลง หญิงสาวคนนั้นกล่าวถาม
อืมเจ้าเองก็ฉลาดนิ ฉลาดเหมือนกับข้าเลย ชิงสุ่ยพูดติดตลก
สีหน้าของหญิงสาวดูมีความสุขขึ้นก่อนจะตอบกลับไปว่า ใช่แล้วล่ะแต่เสียดายที่เจ้าคือคนที่ชั่วร้ายที่อยู่เหนือคนชั่วร้ายทั้งหมด ชิงสุ่ยถึงกับส่ายหน้า ข้าไม่แน่ใจนักหรอกว่าข้าชั่วร้ายเพียงใด แต่ในความคิดของข้า ความชั่วของข้ายังน้อยกว่าคนอื่นที่เอาแต่ไล่สังหารผู้คนล้างบางหมู่บ้าน บีบบังคับผู้คนให้ต้องอยู่ภายใต้พลังอำนาจของตัวเอง พวกนี้ทำตัวเป็นคนดีทั้งๆที่มีจิตใจเลวทราม ทั้งฆ่าฟันทั้งเผา เมื่อเทียบกันแล้วตัวข้าเป็นคนดีกว่าคนพวกนั้นเสียอีก
ฉะนั้นยิ่งเจ้าเกลียดสิ่งใด เจ้าจะได้สิ่งที่ต้องการ อนาคต สามีที่เจ้าเลือกจะไม่ใช่คนดีแน่ ชิงสุ่ยบอกกล่าว
