Ancient Strengthening Technique เทพอสูร บรรพกาล – บทที่ 1968 – ออกเดินทาง!! พลังจากยาเม็ดวาสนา ความแข็งแกร่งที่เพิ่มพูนขึ้น

บทที่ 1968 – ออกเดินทาง!! พลังจากยาเม็ดวาสนา ความแข็งแกร่งที่เพิ่มพูนขึ้น

   ฆ่ามันน!! ชายผู้นำกลุ่มที่ได้ยินสิ่งที่ชิงสุ่ยกล่าว ยิ่งโกรธมากและตะโกนด้วยเสียงดังลั่น

  แม้ว่าจะมีคนตระกูลอู๋อยู่จำนวนมาก แต่พวกเขาทั้งหมดไม่มีค่าพอจะอยู่ในสายตาชิงสุ่ย

  ภูเขา 9 เทวา!!

  โจมตี!!

  ภูเขา 9 เทวาเข้าปะทะกับกลุ่มนักรบตระกูลอู๋พร้อมกับสังหารกลุ่มนักรบสามคนในทันที เมื่อต้องเผชิญหน้ากับพลังระดับหนึ่งพันล้านเต๋าผู้คนที่อยู่ข้างหน้าทั้งหมดไม่มีใครสามารถรับมือมันได้แม้แต่คนเดียว

  ชิงสุ่ยควบคุมภูเขา 9 เทวาและใช้มันสังหารคนตระกูลอู๋ทีละคน

  คนของตระกูลเฉิงได้แต่ยืนนิ่งตาค้างดูการต่อสู้ที่เรียกได้ว่าเป็นการสังหารหมู่อยู่ฝ่ายเดียว ชิงสุ่ยเข็นฆ่าพวกตระกูลอู๋เหมือนกับฆ่าสุนัขจรจัด ทุกคนรู้สึกได้เลยว่าชิงสุ่ยที่อยู่ข้างหน้าไม่ต่างอะไรจากพระเจ้า

  การปรากฏตัวของภูเขา 9 เทวายิ่งสร้างความประหลาดใจมากกว่าเดิม ทุกคนที่ถูกฆ่าล้วนเป็นผู้ที่บรรลุระดับพลังสวรรค์ศักดิ์สิทธิ์ทั้งสิ้น

  นั่นคือนักรบที่ทุ่มเทการฝึกฝนจนพัฒนาถึงระดับพลังสวรรค์ศักดิ์สิทธิ์…..ไม่ใช่เป็นเพียงกะหล่ำปลีอันแสนบอบบาง

  ผู้อาวุโสเฉิงที่บาดเจ็บแม้จะเจ็บปวดแต่ก็รับรู้ถึงความรู้สึกอันแสนสุดซึ้ง!! สายตาของเขามองเห็นแสงประกายความหวังที่จะปรากฏในตระกูลเฉิง

   ผู้อาวุโส เดี๋ยวข้าจะดูอาการบาดเจ็บให้ ชิงสุ่ยกล่าวด้วยรอยยิ้ม

  เฉิงสือชางสั่งคนให้ทำการเก็บซากศพที่ตายเกลื่อน   ต่อให้ข้าต้องตายมันก็คุ้มมาก ข้าลืมความเจ็บปวดไปเลย ชายชรามองดูด้วยความสุข

  ชิงสุ่ยยิ้มและขยับตัวชายชรา 2-3 ครั้ง ด้วยพลังที่ถ่ายทอดลงไปซี่โครงที่แตกเป็นเสี่ยงๆก็กลับคืนสู่สภาพเดิม ผนวกกับฝ่ามือศักดิ์สิทธิ์ ที่ไม่เหมือนใครชายชราจะหายสนิทภายในไม่เกิน 3 วัน

   ผู้อาวุโส ข้าคือหมอ และหอคอยจักรพรรดิก็อยู่ภายใต้การดูแลของตระกูลชิง ฉะนั้นทักษะการรักษาของข้าจึงค่อนข้างแข็งแกร่ง ชิงสุ่ยกล่าว

  งานแต่งงานยังคงดำเนินการต่อ อันที่จริงแล้วต้องเรียกว่ามีชีวิตชีวามากกว่าเดิม ไม่เพียงแต่จะมีเฉพาะตระกูลเฉิงและตระกูลชิง ตระกูลชนชั้นสูงอีกมากมายก็มาเข้าร่วมงานเพิ่มเติม เพราะเชื่อมั่นว่าชิงสุ่ยจะสามารถขับไล่ทำให้ตระกูลอู๋ไม่กล้าเข้ามาทำร้ายคนอื่น

   ผู้อาวุโส ฐานที่มั่นตระกูลอู๋อยู่ที่ใด? ชิงสุ่ยกล่าวถาม  ชายชราบอกกล่าวสถานที่แห่งหนึ่งที่อยู่ในมหาทวีปอุดรเทวาและกล่าวเพิ่มเติมว่า  คนจากตระกูลอู๋ที่มาวันนี้คือกลุ่มคนที่แข็งแกร่งส่วนใหญ่ของตระกูลอู๋ ส่วนคนที่เหลือล้วนอ่อนแอ ไม่เป็นพิษเป็นภัย แต่พวกเราไม่ควรปล่อยให้พวกมันมีชีวิตรอด 

   ข้าไม่ยอมปล่อยให้พวกมันมีลมหายใจอยู่ ในเมื่อที่นี่ทุกอย่างเกือบเสร็จสิ้นแล้ว ข้าคงต้องขอตัวไปจัดการเรื่องที่เหลือให้สิ้นซาก ชิงสุ่ยกล่าว

  ชายชราถอนหายใจ ถ้าหากเขาไม่บาดเจ็บเขาก็คงขอเข้าร่วมการสังหารคนตระกูลอู๋ แต่ด้วยอาการที่ยังจำเป็นต้องใช้เวลารักษา เขาจึงไม่สามารถไปได้

   ขอบคุณมาก ไม่ทราบว่าการช่วยเหลือครั้งนี้ เจ้าต้องการสิ่งใดจากตระกูลเฉิงบ้าง ชายชรากล่าวด้วยน้ำเสียงมีความสุข

   ไม่มี ในเมื่อพวกเราเป็นญาติกันแล้ว ตระกูลชิงของข้าคงไม่นิ่งดูดายถ้าหากพวกท่านมีปัญหา ชิงสุ่ยตอบกลับอย่างเรียบง่าย   ถ้าเช่นนั้นก็วางใจในพวกเราได้ ตราบใดที่พวกเรายังมีชีวิตอยู่ คนของตระกูลชิงจะต้องอยู่อย่างสุขสบายไม่มีผู้ใดกล้าแตะต้อง ผู้อาวุโสเฉิงกล่าวด้วยน้ำเสียงจริงจัง

  ชิงสุ่ยเข้าใจว่าสิ่งเหล่านี้ก็เป็นรูปแบบการแสดงความภักดีอย่างหนึ่ง ชายชราก็เป็นคนที่มีอายุมาก จากสิ่งที่เขาได้เห็นในวันนี้คงพอเข้าใจแล้วว่าพวกเขาจะรอดพ้นภัยพิบัติอย่างสมบูรณ์แบบ นอกจากนี้ตระกูลอู๋เองก็กำลังจะถูกลบไปจากหน้าประวัติศาสตร์ สำหรับตัวของชายชราแล้วการที่กำลังจะได้สานสัมพันธ์กับขุมกำลังที่แข็งแกร่งผ่านการแต่งงานถือได้ว่าเป็นสิ่งที่ดีที่สุดสำหรับตระกูลของเขา ถ้าหากวันนี้เขาทำให้ความสัมพันธ์ที่ควรจะดีกับตระกูลชิงพังทลาย เขาคงจะยอมตายดีกว่า

  ตระกูลอู๋ตั้งอยู่ค่อนข้างห่างไกลจากมหาทวีปวิหคอัคคีร่ายรำ แต่สำหรับชิงสุ่ยแล้วระยะทางไม่ได้ห่างเลย ด้วยความสามารถของทักษะย่างก้าว 9 เทวา เขาสามารถเดินไปถึงที่หมายได้ภายในระยะเวลาอันสั้น ดังนั้นก่อนที่เขาจะกระจายไปถึงดินแดนห่างไกล ชิงสุ่ยก็เดินทางมาถึงตระกูลอู๋

  ชิงสุ่ยไม่ได้ทำการสังหารหมู่เต็มรูปแบบ เพราะในตระกูลนี้ก็ยังคงมีหญิงสาวและเด็กน้อย ชิงสุ่ยจึงทำการสังหารผู้ที่ฝึกฝนพลัง สำหรับคนเหล่านี้พวกเขาล้วนทำแต่สิ่งเลวร้าย ฉะนั้นความตายจึงเป็นที่สุดสำหรับพวกเขา

  ชิงสุ่ยยังได้มีโอกาสหยิบยืมสิ่งของมาจากตระกูลอู๋ เพราะตระกูลอู๋เองก็เป็นหนึ่งในตระกูลราชวงศ์ชั้นสูง พวกเขาจึงมีสิ่งของที่ดีอยู่ 2-3 อย่างเก็บซ่อนอยู่ในตระกูล และชิงสุ่ยก็เป็นคนพิถีพิถันจึงพยายามตามหาสิ่งที่ดีที่สุด ซึ่งเขาก็โชคดีบังเอิญเจอก้อนหินที่มีลักษณะสวยงาม

  เขาเองก็ยังขาดอีกหลายอย่าง สำหรับการสร้างกระบี่ดารายุพฆาตที่อยู่ในจุดตันเถียน….ถ้าหากเขาสร้างมันได้สำเร็จ บางที…..เขาอาจจะบังคับมันให้ออกมาจากร่างกาย และใช้มันเป็นดั่งกระบี่บินประจำกาย

  นี่ก็นานมากแล้วที่กระบี่ดารายุพฆาตผสานรวมกับจุดตันเถียนกลายเป็นหนึ่งเดียวกับร่างกายของเขา ตลอด 10 ปีที่ผ่านมา ตัวกระบี่ดารายุพฆาตก็ถูกขัดเกลาโดยพลังศักดิ์สิทธิ์ที่อยู่ในจุดตันเถียน จนอาจพิจารณาได้ว่ามันพัฒนากลายเป็นศาสตราวุธศักดิ์สิทธิ์ บางทีในอนาคต มันอาจจะออกมาทำศึกสงครามร่วมกับภูเขา 9 เทวาก็เป็นได้

  หลังจากกลับสู่ตระกูลชิง ชิงสุ่ยพักผ่อนต่ออีกครึ่งเดือนก่อนจะตัดสินใจออกเดินทาง เขาสามารถจากตระกูลไปได้แล้วโดยไร้ความกังวล ตอนนี้ตระกูลชิงเทียบเท่ากับกลุ่มพระราชวังอมตะ ผนวกกับการได้สานสัมพันธ์เครือญาติกับตระกูลเฉิง ตระกูลอื่นในมหาทวีปวิหคอัคคี จะไม่ใช่ปัญหาอีกต่อไป

  …………………

  ชิงสุ่ยไม่อยากเห็นน้ำตาแห่งการร่ำลา เขาจึงแอบจากไปโดยทิ้งจดหมายเพื่อบอกกับทุกคนว่าเขาออกเดินทางจากตระกูลแล้ว  ธงสวรรค์ปัญจธาตุ!!

  ชิงสุ่ยไปปรากฏตัวที่ถ้ำสวรรค์ในมหาทวีปอุดรเทวาทันที

  แต่ครั้งนี้เขายังไม่ได้ออกจากตัวถ้ำทันที เขาต้องการจะใช้เวลาในการสงบสติอารมณ์ของตัวเอง ชิงสุ่ยรู้สึกถึงความประหลาดในร่างกายเหมือนมีบางอย่างแตกต่างไป เพียงแต่เขาไม่สามารถหาคำพูดมาอธิบายได้

   หืม!! หรือว่ามันเป็นพลังที่เกิดมาจากยาเม็ดวาสนา!! 

  ชิงสุ่ยได้แต่แปลกใจ นี่ก็ผ่านมาหลายสิบวันแล้ว ก่อนหน้านี้มันไม่เคยเกิดการเปลี่ยนแปลงและเขาก็ไม่ได้รับประโยชน์อะไรจากมันเลย แต่ในที่สุดเขาก็รู้สึกถึงบางอย่าง ชิงสุ่ยได้แต่สงสัยแล้วว่ามันจะเพิ่มพูนอะไรกับเขา สำหรับชิงสุ่ย ไม่มีอะไรจะดีไปกว่าการที่พลังของเขาเพิ่มพูนขึ้น

  ปุ!!!

  พลังบางอย่างเริ่มปะทุในร่างกายของเขาจากนั้นก็ไหลเวียนไปรอบจุดตันเถียน เส้นลมปราณวชิระ ธงสวรรค์ปัญจธาตุ และภูเขา 9 เทวา ต่างก็ได้รับพลังจากพวกมันทั้งสิ้น

  ในไม่ช้าทุกอย่างก็กลับคืนสู่สภาวะปกติ พลังลึกลับที่เกิดขึ้นในร่างกายหายไปอย่างสมบูรณ์

  ชิงสุ่ยสมัครได้ทันทีว่าความแข็งแกร่งของเขาเพิ่มขึ้นเป็นอย่างมาก พลังป้องกันของเขาเพิ่มพูนจนมาสู่ระดับ 500 ล้านเต๋า เรียกได้ว่าเพิ่มขึ้นอีก 200 ล้านเต๋าแทบจะทันที ส่วนพลังโจมตีเพิ่มพูนขึ้นทันที 100 ล้านเต๋า

  ถือได้ว่าเป็นพลังที่เพิ่มขึ้นอย่างเหมาะสม และการที่เขากำลังจะออกเดินทาง การที่มีพละกำลังเพิ่มขึ้นจึงกลายเป็นเรื่องดี

  หืม!!

  ชิงสุ่ยมองดูเส้นลมปราณวชิระที่แข็งแกร่งขึ้น มันปล่อยพลังที่แสนอบอุ่นแต่แข็งแกร่งออกมาตลอดเวลา จากนั้นชิงสุ่ยก็มองดูธงสวรรค์ปัญจธาตุ  ธงสวรรค์ปัญจธาตุ(ตัวผู้)

  ระดับที่ 8 สามารถกลั่นได้โดยอาศัยแก่นแท้โลหิต และตั้งค่าจุดเคลื่อนไหวสับเปลี่ยนบนแผนที่ได้ 10 จุด ใน 1 เดือนผู้ใช้สามารถเคลื่อนย้ายระหว่างสถานที่แตกต่างกันได้มากถึง 3 ครั้ง พร้อมกับสามารถพาสิ่งมีชีวิตที่อยู่ในรอบอาณาเขต 100 เมตรไปด้วยได้ ��

 

Ancient Strengthening Technique เทพอสูร บรรพกาล

Ancient Strengthening Technique เทพอสูร บรรพกาล

Status: Ongoing

นิยายเรื่องนี้เป็นเกี่ยวกับตัวละครหลักมีชื่อว่า ชิงสุ่ยซึ่งถูกส่งข้ามมิติและมายังทวีปคิวชู  ทั้งทวีปเต็มไปด้วยการฆ่าฟันดังพายุโลหิต ส่งผลให้ซากศพ กระดูกและเศษเนื้อ  กระจายเกลื่อนไปทั่วทวีปซึ่งถือเรื่องธรรมดามากในโลกใบนี้

 นักรบหนุ่มชิงสุ่ยทำการพลิกชะตากรรมชีวิตเพื่อสร้างเส้นในการเพาะปลูกพลังยุทธ เขาใช้เวลากว่า 10 ปีเพื่อฝึกฝนตัวเอง เพื่อที่จะแสวงหาการแก้แค้นบุคคลผู้หนึ่งที่ได้ทอดทิ้งแม่ของเขา! บนเส้นทางชีวิตนี้ เขาได้มีโอกาสพบกับหญิงสาวผู้มีความงดงามดุลรูปปั่นเทพธิดา ( เจ้าหญิงน้ำแข็ง ) ชิชิงซวง ซึ่งเป็นบ่อเกิดของความเกลียดชังและการแก้แค้นจากคู่หมั้นของเธอนามซิตู่บูฟาน หลังจากผ่านพ้นเข้าเมืองร้อยไมล์ ชิงสุ่ยได้พบกับสาวสวยแสนงดงามชื่อ ยูฮี และคนอื่นๆ ที่อาณาจักรเซียนเทียน

 หลังจากที่เขาเผชิญความทุกข์ยากในเส้นทางชีวิต เขาได้ฆ่านายน้อยของตระกูลกงหยางเพราะยูฮี ทำให้เขาต้องหลบๆซ่อนๆ แต่ในความโชคร้ายก็มีความโชคดี หญิงสาวรูปร่างใบหน้าราวกับนางอัปสรสวรรค์ ชื่อเย่ยีเจียนจี  ได้พานพบและได้ช่วยเหลือเขาเอาไว้ ต่อไปนี้เขาจะต้องพบเจอกับสงครามที่ต้องล้างด้วยเลือด  ชิงสุ่ยจะสามารถรอดพ้นอันตรายได้หรือไม่ จะรอดพ้นภัยพิบัติได้หรือไม่  และความสัมพันธ์ของเขากับสาวงามต่างๆจะเป็นอย่างไร

แสดงความคิดเห็น

ใส่ความเห็น

อีเมลของคุณจะไม่แสดงให้คนอื่นเห็น ช่องข้อมูลจำเป็นถูกทำเครื่องหมาย *

ปรับฟอนต์

**ถ้าปรับโหมดมืดอยู่** ให้เปลี่ยนเป็นโหมดสว่าง ก่อนจะปรับสีพื้นหลัง
รีเซ็ท