หลังจากกลับคำพูดนั้นออกไป ชิงสุ่ยก็รู้ว่ามันฟังดูแปลก แต่ตัวเขาเป็นหมอจึงไม่สามารถเลือกปฏิบัติกับคนไข้ได้
เป่ยหมิงเสวี่ยพยายามรักษาปัญหาเรื้อรังนี้มานาน ตอนแรกเธอคิดว่ามันเป็นเพียงแค่โรคระดับพื้นฐานทั่วไป ด้านหลังจากเข้าพบหมอหญิงมากมายหลายคน พวกเธอกลับรักษาโรคนี้ไม่ได้ เป่ยหมิงเสวี่ยจึงได้แต่สงสัยว่าเธอควรขอให้ชิงสุ่ยรักษาให้เธอหรือไม่
สาเหตุที่ทำให้อาการของเจ้ากำเริบก็คือรากฐานร่างกาย มันจะค่อยๆหายเป็นปกติด้วยตัวเองจะด้วยการรักษาหรือไม่รักษาก็ได้ ชิงสุ่ยกล่าวตอบ
รักษาโดยไม่ต้องทำการรักษา? เป่ยหมิงเสวี่ยถามด้วยความสงสัย
ตอนนี้เจ้าอาจจะยังไม่แต่งงาน แต่วันหน้าหากเจ้ามีคู่ครอง การประสานระหว่างหยินและหยางจะทำให้อาการบาดเจ็บของเจ้าหายไปเอง
แม้คำพูดของชิงสุ่ยจะฟังดูหยาบคาย แต่มันก็เป็นวิธีหนึ่งในการรักษา หลังจากที่เขากล่าวออกไปเขาก็รู้สึกเสียใจเล็กน้อย เขาจึงได้แต่ลูบหัวตัวเองด้วยความเขินอาย
ข้ากล่าวตรงไปตรงมา ไม่ได้มีเจตนาทำร้ายเจ้า ชิงสุ่ยกล่าวอย่างบริสุทธิ์ใจ
เป่ยหมิงเสวี่ยรู้ดีว่าคำพูดพวกนี้คือความจริง หมอหญิงที่เธอเคยเข้าพบก็พูดในทำนองเดียวกัน อย่างไรก็ตามพวกเธอก็ไม่ได้ให้ทางเลือกอื่น เว้นเสียแต่ชิงสุ่ยคนเดียวที่บอกว่ายังมีอีกทางเลือก
ไม่ต้องพูดแล้ว….ก็อย่างที่เจ้าพูดมา ว่าแต่วิธีการรักษาอื่นมันคือวิธีใด? เป่ยหมิงเสวี่ยลดศีรษะหัวใจเต้นถี่
การรักษาทำได้ง่ายๆ เพียงแค่ใช้วิธีการฝังเข็ม ชิงสุ่ยยิ้ม
ถ้าเช่นนั้น เจ้าสามารถรักษาให้ข้าได้หรือไม่? ข้าพร้อมจะ….. เป่ยหมิงเสวี่ยเงยหน้าขึ้นพร้อมกับกระซิบ
ชิงสุ่ยหัวเราะ มันใช้เวลาไม่นานเลย เจ้าไม่จำเป็นต้องจ่ายค่าตอบแทนใดๆทั้งสิ้น
ชิงสุ่ยรู้สึกได้ถึงชีพจรจากข้อมืออันแสนอ่อนนุ่ม ในความเป็นจริงแล้วหญิงสาวมากมายที่รายล้อมรอบตัวชิงสุ่ย ล้วนครองความงามไม่แพ้เป่ยหมิงเสวี่ย เพียงแต่เสน่ห์ของเป่ยหมิงเสวี่ยนั้นโดดเด่นส่งผลไปถึงตัวชิงสุ่ย
ร่างกายหญิงสาวคนนี้บริสุทธิ์ไร้มลทิน นอกจากเธอจะดำรงตำแหน่งเป็นถึงผู้นำพระราชวังอมตะแล้ว พลังของเธอยังอยู่ขั้นปลายของระดับพลังสวรรค์ศักดิ์สิทธิ์ขั้นที่ 7 ถ้าพูดกันตามตรงแล้วเธอมีพลังมากกว่าชิงสุ่ย ร่างกายของเธอเป็นที่สถิตพลังปราณจิตเซียนเทียน จึงไม่น่าแปลกใจเลยว่าทำไมเธอถึงได้แข็งแกร่งขนาดนี้
ชิงสุ่ยใช้เข็มเพียงไม่กี่เล่ม ถ่ายโอนพลังหยางของเขาเข้าสู่จุดชีพจร หลังจากที่มันประสานกับพลังปราณแห่งความหนาวเหน็บความเย็นก็ค่อยๆคลายตัว นอกจากนั้น พลังปราณของเขายังช่วยเสริมสร้างอวัยวะภายใน และช่วยบำรุงธาตุทั้ง 5 ที่อยู่ในร่างกายของเธอ
เป่ยหมิงเสวี่ยรู้สึกว่าร่างกายของเธอเริ่มอบอุ่นและเริ่มสบาย แม้ว่าผลที่เกิดขึ้นจะดูเร็วเกินไป แต่เธอก็รู้สึกได้ว่าผลลัพธ์ที่ได้มันไปในทางบวก
หลังจากนั้นไม่นานชิงสุ่ยก็หยุดให้การรักษา
คุณชายชิง ข้ามีข้อสงสัยว่าเจ้ามาที่เขตแดนเหมันต์อุดรด้วยเหตุอันใด เจ้ามาที่นี่เพื่อ เจอหน้าลูกสาวของท่านอย่างนั้นหรือ? ขณะที่เป่ยหมิงเสวี่ยกล่าวถามชิงสุ่ยก็ถอนเข็มออกจากร่างกายของเธอทีละเล่ม
ช่างน่าเสียดายที่ข้าไม่ได้มาด้วยเหตุผลนั้น ข้ามาที่นี่เพื่อตามหานิกาย 5 พยัคฆ์อมตะ ว่าแต่เจ้าเคยได้ยินชื่อนี้หรือไม่?
นิกาย 5 พยัคฆ์อมตะ? กลุ่มนิกายอมตะและกลุ่มพระราชวังอมตะในแผ่นดินหลักมีมากมาย ตัวข้าเองจึงไม่เคยได้ยินชื่อนิกาย 5 พยัคฆ์อมตะ
ชิงสุ่ยก็ไม่ได้หวังอะไรมาก
เจ้ามาที่นี่มีจุดประสงค์หลักเพื่อตามหานิกาย 5 พยัคฆ์อมตะอย่างนั้นหรือ? เป่ยหมิงเสวี่ยถามคำถามต่อ
เปล่าเลย ข้าไม่ได้รีบเร่งตามหานิกาย 5 พยัคฆ์อมตะ ข้าเพียงแค่อยากออกเดินทางมาดูมหาทวีปที่แท้จริงก็เท่านั้น ชิงสุ่ยตอบอย่างตรงไปตรงมา
ที่นี่ยังไม่ใช่โลกที่แท้จริงของโลก 9 มหาทวีป แต่เขตแดนอุดรเหมันต์ก็มีขนาดกว้างใหญ่ ขุมกำลังทั่วทั้ง 9 มหาทวีปพบเจอได้ที่นี่ แต่การหายตัวไปบางครั้งก็ไม่ชัดเจน บางกลุ่มก็แข็งแกร่งจึงย้ายดินแดน มันจึงกลายเป็นแผ่นดินที่ไร้พรมแดน เป่ยหมิงเสวี่ยกล่าวอธิบาย
แม่นางเป่ยหมิง เจ้าพอจะรู้เกี่ยวกับโลกที่แท้จริงของโลก 9 มหาทวีปหรือไม่? ชิงสุ่ยถามด้วยความอยากรู้อยากเห็น ที่แห่งนั้นคือสถานที่ที่เต็มไปด้วยความเฟื่องฟูมั่งคั่ง เต็มไปด้วยนิกายตันตระกูลขนาดใหญ่ โอกาสและภยันตรายพบเจอได้อยู่ทั่วทุกที่ สงครามเกิดขึ้นทั่วทุกหนแห่ง การสังหารเกิดขึ้นง่ายๆเพียงเพราะการกระทำที่ผิดพลาดเพียงเล็กน้อย อย่างไรก็ตาม สิ่งเดียวที่เป็นเรื่องดี คือพวกเขาจะไม่ทำร้ายคนบริสุทธิ์
แล้วทำไมเจ้าถึงไม่ไปอยู่ที่นั่นด้วยล่ะ? ด้วยความแข็งแกร่งปัจจุบันของเจ้า คนที่ทำอันตรายเจ้าได้คงมีไม่มาก!! ชิงสุ่ยกล่าว
ถ้าหากยังอยู่ในเขตแดนอุดรเหมันต์ พลังของข้าถือว่าเพียงพอ แต่ถ้าไปที่นั่นจะมีคนมากมายที่ทรงพลังเหนือกว่าข้า ซึ่งมันจะทำให้ข้าไม่ปลอดภัย เป่ยหมิงเสวี่ยตอบกลับ
ชิงสุ่ยเข้าใจความหมายของเธอ และด้วยตัวตนที่งดงาม ย่อมต้องเป็นที่หมายตาของคนหมู่มาก
เจ้ารักษาข้า ไม่ทราบว่าข้าควรตอบแทนข้าวเจ้าอย่างไร? เป่ยหมิงเสวี่ยกล่าวถาม
ช่างน่าเสียดายจริงๆ ที่ข้ามีภรรยาแล้ว ชิงสุ่ยตอบคำถามเชิงหยอกล้อ
เป่ยหมิงเสวี่ยจ้องเขม็ง เขาพูดเหมือนว่าถ้าเธอยอมเสนอตัว เขาจะไม่ยอมรับคำขอของเธอ
ข้าล้อเล่น ลูกสาวของข้ายังต้องการความดูแลจากเจ้า ข้าคงจะอยู่ที่ดินแดนอุดรเหมันต์อีกสักพัก บางทีก็อาจจะเปิดหอรักษาอยู่ที่นี่ด้วย ชิงสุ่ยกล่าว
โอ้ ถ้าเช่นนั้นเจ้าสามารถเปิดรักษาที่เมืองหิมะอุดรได้เลย เป่ยหมิงเสวี่ยกล่าว
เอาเป็นว่า ข้าจะรีบไปที่เมืองหิมะอุดร หากข้าหาทีดีๆไม่ได้
เจ้าหมายความว่าอะไร? เมืองหิมะอุดรไม่ดีอย่างนั้นเหรอ? เป่ยหมิงเสวี่ยถึงกับพูดไม่ออก
ข้าเข้าใจแล้ว และข้าคงต้องไป ข้าอาจจะทำให้เจ้าต้องเดือดร้อนในภายภาคหน้า ………………
………..
เป่ยหมิงเสวี่ยมองดูชิงสุ่ยหายจากไป เธอจัดระเบียบความคิด ชายที่เธอเพิ่งเจอทั้งแปลกและแข็งแกร่ง เธอรับรู้ได้ถึงพลังที่อยู่ในตัวชิงสุ่ย ซึ่งดูเหมือนว่าเขาเองก็จะอยู่ขั้นปลายของระดับสวรรค์ศักดิ์สิทธิ์ขั้นที่ 7 แม้ว่าจะอ่อนแอกว่าเธอ แต่เธอกลับรู้สึกถึงบางอย่างที่แปลกประหลาดในตัวของเขา
ชิงสุ่ยย่างก้าวเดินเล่นรอบเมืองหิมะอุดรหลังจากแยกตัวออกมา เขาวางแผนจะสร้างหอคอยจักรพรรดิขึ้นอีกแห่งหนึ่งที่นี่ เพียงแต่ชิงสุ่ยมีเหตุผลว่าทำไมเขาถึงไม่อยากจัดตั้งหอคอยจักรพรรดิที่เมืองหิมะอุดร เพราะเมื่อหอคอยจักรพรรดิกลายเป็นที่นิยม มันก็จะกลายเป็นจุดดึงดูดเหล่ายอดยุทธผู้ทรงพลัง มันก็จะนำพาปัญหามาหาเป่ยหมิงเสวี่ย