ชิงสุ่ยกล่าวอย่างตรงไปตรงมา แม้ว่าคำพูดของเขาจะมีข้อความบางอย่างที่เหมือนจะกดดันและดูถูกศัตรู จึงเป็นธรรมดาที่ผู้นำตระกูลหลางจะรู้สึกโกรธเหมือนถูกเหยียดหยาม ปฏิกิริยาของผู้นำตระกูลหลางยังคงอยากจะสังหารศัตรู แต่ในไม่ช้าเขาก็ตระหนักได้ว่าตัวของเขายังไม่ใช่คู่ต่อกรกับชายที่ชื่อชิงสุ่ย และดูเหมือนชีวิตของเขาจะอยู่ในกำมือของชายคนนี้ด้วย
เขากลืนความโกรธแค้นกลับเข้าสู่ร่างกาย แม้ว่าสีหน้าของเขายังเต็มไปด้วยความเกลียดชัง แต่เขาก็ยังกล่าวด้วยน้ำเสียงใจเย็นว่า โปรดบอกข้าหน่อย ว่าข้าจะแก้ไขเรื่องนี้ได้อย่างไร?
ข้าบอกไปแล้วไม่ใช่หรือ? ข้าต้องการให้เจ้าซ่อมแซมทำทุกอย่างกลับมาเหมือนเดิม ข้าว่าข้อเสนอของข้ามันคงไม่ได้ยากเย็นมากนักสำหรับเจ้า
ก็ดี วันนี้ข้ายอมรับความพ่ายแพ้ โปรดบอกข้าเถิด ว่าข้าจะต้องทำสิ่งใดเพื่อให้เจ้าให้อภัยข้า? คำพูดเหล่านี้พอจะบ่งบอกถึงความกลัวที่อยู่ในใจผู้นำตระกูลหลางได้ หากเขาไม่กล้าถามออกไป เขาก็อาจจะเสียใจในวันหลัง
ชิงสุ่ยไม่ได้ตั้งใจจะบดขยี้และทำลายตระกูลหลาง แต่ปลาตัวใหญ่ยังกินปลาตัวเล็ก มันจึงกลายเป็นสัจธรรมของโลกใบนี้ ไม่ว่าผู้ใดจะเป็นผู้ยิ่งใหญ่หรือผู้ต้อยต่ำ แต่ผู้แพ้ก็ต้องหาวิธีหาหนทางเอาตัวรอดเสมอ
ชิงสุ่ยยิ้มและกล่าวว่า หอคอยจักรพรรดิของข้าถูกเจ้าทำลายจนป่นปี้ มันคงยากที่จะกู้คืนชื่อเสียงที่ถูกทำลายไปแล้ว ผู้คนมากมายต่างหวาดกลัว ที่สำคัญที่สุดคือชื่อเสียงของข้ากำลังมัวหมอง เจ้าลองคิดดู ถ้าเจ้าเป็นเจ้าของร้าน แต่กลับถูกทำลายทันทีตั้งแต่วันแรกที่เปิดตัว เจ้าคงจะคิดเหมือนกันกับข้าใช่หรือไม่?
ผู้นำตระกูลหลางรู้ดีถึงสิ่งที่เกิดขึ้น และตัวของเขาเองก็ทุกตี จนรับรู้ถึงความหวาดกลัวไม่ต่างอะไรจากลูกค้าที่หวาดกลัวไม่กล้าเข้าใกล้หอคอยจักรพรรดิ
คุณชาย โปรดบอกมาได้เลย ตราบใดที่ข้าสามารถทำได้ ข้าก็พร้อมจะเห็นด้วยและทำในสิ่งที่เจ้าต้องการ ในตอนนี้ สิ่งเดียวที่ผู้นำตระกูลหลางคิดคือการหาวิธีแก้ไขปัญหาที่เกิดขึ้น
สถานที่ของข้าถูกทำลาย และไม่เหมาะต่อการอยู่อาศัยอีกแล้ว ดูเหมือนว่าตัวเจ้าเองจะมีคฤหาสน์ที่อาจจะเหมาะสมสำหรับการที่ให้ข้าเอาไปเปิดเป็นหอจักรพรรดิอยู่ไม่ไกล ชิงสุ่ยยิ้มขณะกล่าว
หัวใจของผู้นำตระกูลหลางเต้นไม่เป็นจังหวะ สถานที่แห่งนั้นมีคุณค่ามากกว่าที่ที่เขาเพิ่งทำลายไปเป็นร้อยเท่าพันเท่า แต่โชคไม่ดีนะที่เขาไม่ได้อยู่ในฐานะที่สามารถต่อรองได้ ทำให้เขาได้แต่คิดในใจว่า ข้าต้องเก็บความรู้สึกเอาไว้ในใจ
ตกลง ข้าจะมอบหมายให้กับเจ้า ตอนนี้ข้าไปได้แล้วใช่หรือไม่? ผู้นำตระกูลหลางรู้สึกเสียใจเป็นอย่างมาก เขาทั้งบาดเจ็บและต้องสูญเสียทรัพย์สิน ทำไมปีศาจร้ายตัวนี้ถึงได้รู้ว่าเขามีคฤหาสน์อยู่ที่นั่นด้วย?
จะรีบไปไหน? เจ้าทำลายความเชื่อมั่นของข้าไปมากมาย หากข้าพ่ายแพ้ข้าคงตาย แต่เจ้ากลับจะแลกเปลี่ยนแค่คฤหาสน์หลังน้อยหลังเล็กๆ ดูเหมือนว่าข้าจะมีความสามารถมากพอจะทำลายวรยุทธของเจ้า เจ้าคิดว่าสิ่งใดมีค่ามากพอจะแลกเปลี่ยนไม่ได้ข้า ฆ่าเจ้าบ้าง? ชิงสุ่ยระเบิดคลื่นพลังที่น่าสะพรึงกลัวถ่ายทอดไปถึงตัวผู้นำตระกูลหลาง
ผู้นำตระกูลหลางหวาดกลัวถึงขีดสุด ใบหน้าของเขาซีดเผือดผิดปกติทันที ได้โปรดบอกเงื่อนไขของเจ้ามาได้เลย ข้าพร้อมจะปฏิบัติตามเงื่อนไขของเจ้าทุกอย่าง
นอกจากตัวคฤหาสน์แล้ว ห้ามพวกเจ้าทุกคนเข้าใกล้ตัวผู้หญิงและตัวลูก โปรดจำเอาไว้ หากสิ่งใดเกิดขึ้นกับทั้งสองคน ข้าจะคิดว่าเป็นเจ้า และจะใช้ชีวิตเจ้าชดใช้ความผิดโดยไม่ลังเล ไม่ว่าเจ้าจะเชื่อคำพูดของข้าหรือไม่ นี่คือทั้งหมดที่ข้าต้องการ
ใบหน้าของผู้นำตระกูลหลางเมื่อได้ยินคำพูดชิงสุ่ย อย่างไรก็ตามเขาก็พยักหน้า ตกลง ข้าสัญญา
ชิงสุ่ยจึงโบกมือ บอกความหมายให้ผู้นำตระกูลหลางเดินทางกลับ
เมื่อตระกูลหลางจากไป ชิงสุ่ยก็กลายเป็นจุดสนใจและกลายเป็นที่ฮือฮาของคนหมู่มากบริเวณนั้นแทบจะทันที ใครจะไปคิดว่าเขาสามารถบีบบังคับให้ตระกูลหลางยอมพ่ายแพ้และจากไปได้…..แต่ชาวบ้านทั่วไปก็เชื่อว่าอีกไม่นานชิงสุ่ยจะต้องถูกจัดการโดยคนตระกูลหลาง
อย่างไรก็ตามชิงสุ่ยก็ไม่ได้รู้สึกกังวลใจ เขาทำเพียงแค่รอคนของตระกูลหลางมาจัดเตรียมย้ายอุปกรณ์ต่างๆภายในหอคอยจักรพรรดิแห่งนี้ไปสู่คฤหาสน์หลังใหม่
ในที่สุด หอคอยจักรพรรดิก็ถูกจัดเตรียมการจนเสร็จสรรพพร้อมเปิดให้บริการ และด้วยฤกษ์งามยามดี ชิงสุ่ยจึงตั้งใจจะรักษาทุกคนโดยไม่ต้องเสียค่าใช้จ่ายใดๆทั้งสิ้นเป็นเวลา 3 วัน
คฤหาสน์หลังใหม่ที่เขาได้รับมาจากตระกูลหลางหรูหราเพียบพร้อม อันที่จริงแล้วตอนแรกชิงสุ่ยก็ไม่รู้เรื่องคฤหาสน์หลังนี้เลย แต่มันเป็นเพราะหลางซีได้มาบอกเรื่องนี้ให้เขาได้รับรู้ เขาจึงได้คฤหาสน์หลังใหญ่กว่าและคุ้มค่ากว่ามาครอง
คฤหาสน์หลังใหญ่นี้เต็มไปด้วยความมีอิสระภาพ บริเวณโดยรอบถูกจัดเป็นสวนกินพื้นที่กว้างขวาง ทุกส่วนของตัวบ้านถูกปรับปรุงใหม่และทำความสะอาดพร้อมกับติดตั้งเครื่องใช้ต่างๆที่จำเป็นพร้อมใช้งาน
ที่น่าแปลกคือหญิงสาวจากภัตตาคารหยกรัญจวนก็เดินทางมาที่รอคอยจักรพรรดิหลังใหม่พร้อมกับชิงสุ่ยด้วย ซึ่งจะทำให้ชิงสุ่ยค่อนข้างสับสน แต่เขาก็ไม่ได้ถามอะไรเธอ เขายังคงเคลื่อนย้ายจัดของต่างๆอย่างรวดเร็ว หลังจากทำธุระเสร็จสิ้น เวลาก็ผ่านมาถึงช่วงประมาณบ่ายโมง ชิงสุ่ยจ้องมองหอคอยจักรพรรดิที่แสนสมบูรณ์แบบ พร้อมกับเผยให้เห็นรอยยิ้มอันแสนสุข
ส่วนทางด้านของหลางซี เขาค่อยๆคลายความหวาดกลัว มันเป็นเรื่องธรรมดาที่เขาจะหวาดกลัวเพราะชิงสุ่ยเพิ่งไปต่อกรกับตระกูลผู้ทรงอำนาจในท้องถิ่น แต่สุดท้ายผู้นำตระกูลหลางก็ได้รับความพ่ายแพ้….เขาถึงอยากรู้ความแข็งแกร่งที่แท้จริงของชิงสุ่ยมากขึ้น มันจึงกลายเป็นเหตุผลที่เขายังคงติดตามชิงสุ่ยมาอยู่ในหอคอยจักรพรรดิหลังใหม่
แต่คนที่น่าประหลาดที่สุดก็คงเป็นแม่นางหลาง เธอสงบสติอารมณ์ตัวเองได้อย่างรวดเร็ว ในวันนี้เธอได้วางแผนเตรียมการรับมือสิ่งที่เลวร้ายที่สุด แต่เธอไม่คาดคิดเลยว่าชายผู้นี้จะสามารถรับรองความปลอดภัยให้กับเธอและลูกได้ตามที่เขาเคยให้สัญญา อะไรถึงทำให้ชายผู้นี้ยอมทำเพื่อเธอ?
เธอคงไม่คิดว่าคนอย่างชิงสุ่ยจะมาชอบเธอ แล้วเธอก็รู้ดีว่ารอบตัวของชิงสุ่ยย่อมต้องมีสาวๆคอยอยู่เคียงข้างกาย ตัวอย่างที่เห็นได้ชัดเลยก็คือแม่นางจากภัตตาคารหยกรัญจวน แม้ว่าทั้งสองแต่ยังไม่มีความสัมพันธ์ใดๆต่อกัน แต่ในเมื่อเธอเป็นผู้หญิงเธอย่อมรู้ดีว่าแม่นางจากภัตตาคารหยกรัญจวนกำลังสนใจในตัวชิงสุ่ย และสัญชาตญาณของเธอก็บอกมันอย่างชัดเจน
ส่วนตัวเธอเองนั้นเปรียบเสมือนต้นหลิวที่กำลังแห้งเหี่ยว เธอจริงๆไม่มีทางคิดว่าตัวเธอจะสามารถดึงดูดชิงสุ่ยได้
อันที่จริงแล้ว ความคิดของชิงสุ่ยไม่ได้ซับซ้อนอะไรเลย เขาสามารถช่วยเหลือผู้อื่นได้อย่างง่ายๆ นอกจากนี้เขายังต้องการคนที่รับหน้าที่ดูแลหอคอยจักรพรรดิ มันจึงทำให้เขารู้สึกว่าแม่นางหลางเป็นคนที่เหมาะสมกับงานนี้มากที่สุด ด้วยความช่วยเหลือจากเขา การจะทำให้เธอบรรลุพลังที่แข็งแกร่งไม่ใช่เรื่องยาก ถ้าหากไม่เกิดเหตุผิดพลาดอันใด อีกไม่นานนักแม่นางหลางก็จะมีพลังอยู่เหนือกว่าผู้นำตระกูลหลาง
นอกจากนี้เธอเองก็ยังเป็นคนที่ฉลาด แล้วเพราะการเรียนรู้เพื่อแสวงหาวิธีรักษาลูกของตน จึงทำให้เธอกลายเป็นคนที่เชี่ยวชาญวิชาแพทย์ จากคำกล่าวตั้งต้น ชิงสุ่ยพึ่งพอใจในตัวเธอเป็นอย่างมาก ไม่ว่าจะมองจากมุมใด เธอคนนี้คือคนที่เหมาะสมกับงานนี้มากที่สุด
เออจริงสิ ข้ายังไม่ถามชื่อของเจ้าเลย ไม่ทราบว่าจะเอาชื่ออะไร? หลังจากหอคอยจักรพรรดิกลับคืนสู่ความสงบ ชิงสุ่ยจึงยิ้มและหันไปถามแม่นางหลาง
ทุกสิ่งทุกอย่างที่เกิดขึ้นในวันนี้ทำให้ข้ารู้สึกเหมือนได้เกิดใหม่……ข้าขอนับถือท่านในฐานะเจ้านายของข้า….ข้าอยากจะลืมทุกสิ่งอย่าง อยากจะทิ้งตัวตนในอดีต นายท่านได้โปรดมอบชื่อใหม่ให้กับข้าด้วยเถิด หญิงสาวผู้นั้นจ้องมองชิงสุ่ยก่อนจะลงไปคุกเข่า
ชีวิตของเธออยู่บนความน่าสังเวช ชิงสุ่ยก็ไม่ได้คิดเลยว่าบทสรุปของเรื่องจะกลายเป็นเช่นนี้ ขนาดที่เขามองเข้าไปในดวงตาของหญิงสาว อารมณ์ความรู้สึกของเธอยังคงหนักแน่น เขาจึงพยักหน้า ถ้าเช่นนั้นก็ใช้นามสกุลของข้า จากนี้เป็นต้นไป เจ้าจะมีชื่อว่าชิงซี ซีมีความหมายว่าละทิ้งอดีต ต่อไปนี้เจ้าคือหญิงสาวผู้ทิ้งตัวตนในอดีต อนาคตอันรุ่งโรจน์ของตัวเจ้า เจ้าจะเป็นคนกำหนดมันเอง