Ancient Strengthening Technique เทพอสูร บรรพกาล – บทที่ 2052 – เริ่มต้นเส้นทางแห่งหมอปาฏิหาริย์

บทที่ 2052 – เริ่มต้นเส้นทางแห่งหมอปาฏิหาริย์
　　” พวกเรากำลังตามหาท่านหมอปาฏิหาริย์ชิง!!”
　　ชิงสุ่ยมองไปที่พวกเขาและกล่าวทักทาย “ข้ามีชื่อว่าชิงสุ่ย ท่านต้องการให้ช่วยอะไร?”
　　เขารู้ดีว่าคนเหล่านี้ต้องมาจากตระกูลจี๋ นอกจากนี้ยังมีชายคนนึงสีหน้าซีดเซียวคล้ายกับชายที่เคยพูดถึงก่อนหน้า ผู้ชายคนนี้คงตกอยู่ในความเจ็บปวดยากเกินกว่าคนธรรมดาจะทนไหว เขาต้องขับพลังงานออกมาตลอดเวลาเพื่อต้านทานมัน
　　หญิงสาวที่แต่งงานแล้วอันทรงเสน่ห์ก็ยืนอยู่ด้านข้างเขา เธอขมวดคิ้วเล็กน้อยขณะมองดูผู้ชายด้านข้างเป็นครั้งคราว
　　“พวกเรามาที่นี่เพื่อแสวงหาการรักษา เราได้ยินมาว่าหมอปาฏิหาริย์ชิงมีความสามารถในการรักษาอาการบาดเจ็บที่รุนแรงได้หลากหลายประเภท”ผู้ชายที่เป็นผู้นำจ้องมองชิงสุ่ยขณะกล่าว
　　นอกจากนี้เขายังรู้สึกว่า ชิงสุ่ยยังเด็กเกินไป เขาจึงเริ่มผิดหวัง การเดินทางครั้งนี้แสนยาวไกลและสุดท้ายเขากำลังจะเจอความผิดหวัง ตอนแรกที่ได้ยินว่ามีปาฏิหาริย์เกิดขึ้นในเมืองรุ้งคราม พวกเขาก็คาดคิดไว้ก่อนหน้าแล้วว่าเมืองรุ้งครามเล็กๆจะสร้างคนด้วยนะถึงแค่ไหนกันเชียว และตอนนี้เขาก็รู้แล้วว่าชายคนนั้นอายุน้อยมาก
　　แม้ว่าเขาจะไม่อยากมา แต่เมื่อมีโอกาสก็ควรจะไขว่คว้า พวกเขาจึงเดินทางมาแม้จะเผื่อความผิดหวังเอาไว้ แต่เขาก็ไม่ได้แสดงความไม่พอใจ เขายังคงสุภาพมาก ไม่พูดดูถูกเหยียดหยามอะไรทั้งสิ้น
　　ชิงสุ่ยค่อนข้างพึงพอใจกับปฏิกิริยาแรกพบที่คนเหล่านั้นแสดง ถ้าหากเป็นคนอื่นพวกเขาคงแสดงสีหน้าผิดหวังอย่างรุนแรง ทุกคนที่รู้สึกผิดหวังก็จะแสดงทัศนคติที่แตกต่างกันออกมา
　　“เชิญทางนี้”ชิงสุ่ยเชิญพวกเขาเข้ามาภายในหอคอยจักรพรรดิ
　　“ไม่ทราบว่าข้าควรเรียกท่านว่าอะไร?”ชิงสุ่ยไม่ได้ถามอาการเจ็บป่วยทันที
　　“ข้ามีนามว่าจี๋อี้ซวน คนพูดนี้คือน้องชายของข้าจี๋อี้หลาย ส่วนแม่นางคนนี้คือภรรยาของเขา เด็กน้อยทั้งสองคนจากตระกูลของข้ามีนามว่าจี๋หลางและจี๋เนี่ยน”ชายหนุ่มที่เป็นผู้นำ จี๋อี้ซวนกล่าวตอบ
　　ชิงสุ่ยรู้แล้วว่าคนข้างหน้าคือคนจากตระกูลจี๋จริงๆ อีกฝ่ายก็ไม่ได้ปิดบังอะไร และพูดจาทุกอย่างอย่างจริงใจ
　　หลังจากที่เชิญทุกคนนั่ง ชิงสุ่ยก็ชงชามา 1 หม้อและรินให้กับทุกคน
　　ระหว่างที่เขารินน้ำชา ในที่สุดหญิงสาวที่แต่งงานแล้วก็เริ่มเปิดปากกล่าวด้วยความร้อนรน “ท่านหมอปาฏิหาริย์ ช่วยดูอาการของอี้หลายได้หรือไม่? เขาจมอยู่กับความเจ็บปวดอย่างมาก”
　　ชิงสุ่ยเงยหน้ามองหญิงสาวผู้นั้นจากนั้นก็หันไปมองอี้หลาย ทันใดนั้นเขาก็อดไปตามจุดชีพจรบนตัวอี้หลายด้วยความเร็วสูงจนดวงตามองไม่ทัน
　　จี้อี๋ซวนรู้สึกประหลาดใจ เขาอยากจะหยุดมือชิงสุ่ย แต่ก็พยายามระงับเอาไว้ เหตุการณ์ที่เกิดขึ้นใช้เวลาเพียงแค่ 2 ลมหายใจก่อนที่ชิงสุ่ยจะหยุดมือ “ท่านยังเจ็บอยู่อีกหรือไม่?”
　　” มันไม่มีความเจ็บปวดอีกแล้ว”จี๋อี้หลายจ้องมองชิงสุ่ยด้วยสายตาไม่อยากเชื่อ
　　ชิงสุ่ยเดินกลับไปรินน้ำชาต่อจากที่ค้างเอาไว้ แต่ทว่าผู้มาเยือนกลับไม่ได้ดื่มน้ำชา แต่ละคนแสดงสีหน้าดูอึดอัดเล็กหน่อย
　　“อาการของท่านรักษาค่อนข้างยุ่งยาก ฉะนั้นระยะเวลาในการรักษาก็คงจะนานหน่อย มันต้องใช้เวลาประมาณ 10 วันเพื่อรักษาจุดตันเถียนของท่าน อีก 10 วันเพื่อรักษาเส้นลมปราณ และอีก 10 วันเพื่อฟื้นคืนสภาพของท่าน รวมถึงกำจัดความเจ็บปวด”ชิงสุ่ยเป็นเพียงคนเดียวที่ดื่มชา　　จี๋อี้ซวนร่างกายสั่นเครือ “ท่านหมอ ได้โปรดรักษาเขาด้วย”
　　“ไม่มีปัญหา”ชิงสุ่ยกล่าวด้วยคำพูดมุ่งมั่นทำให้พวกเขารู้สึกมั่นใจ
　　ชิงสุ่ยรู้ดีว่าในโลกใบนี้มีหมอสวรรค์อยู่มากมาย และก่อนที่พวกเขาจะทำการรักษา พวกเขาจะต้องคุยข้อตกลงกันให้ชัดเจนเสียก่อน อย่างเช่น แลกเปลี่ยนกับการขอให้อีกฝ่ายช่วยจัดการเรื่องบางอย่าง หรือการติดหนี้บุญคุณจากการรักษา
　　การกระทำเช่นนี้จะช่วยให้หมอผู้นั้นมีคนขอยื่นมือช่วยเหลือทุกสถานการณ์
　　” ก่อนที่ข้าจะให้การรักษา เรามาคุยเรื่องค่าตอบแทนกันก่อน หากพวกท่านเห็นด้วย ข้าก็จะเริ่มทำการรักษาทันที”
　　“ท่านหมอปาฏิหาริย์ เชิญว่ามาได้เลย!!”
　　“พวกท่านบอกว่าพวกท่านมาจากตระกูลจี๋ใช่หรือไม่?”
　　อีกฝ่ายพยักหน้า เพราะพวกเขาแสดงชื่อของตนมาตั้งแต่แรก
　　“คำขอของข้าจะขึ้นอยู่กับตัวคนไข้ ขึ้นอยู่กับว่าเขาเป็นใคร”
　　“พวกเรายินดีตอบแทน ไม่ว่าจะเป็นจำนวนเงินเท่าไหร่”หญิงสาวที่แต่งงานแล้วกล่าวตอบอย่างรวดเร็ว
　　ชิงสุ่ยส่ายหน้า “ถ้าทำการรักษาคนยากจน แม้ว่าคนผู้นั้นกำลังจะตายถ้าเขาพร้อมจะรักษาโดยไม่ขอค่าตอบแทน ที่ข้าต้องยื่นข้อเสนอไปก็เพื่อให้พวกเราสบายใจ”ชิงสุ่ยกล่าวอ้าง
　　คำพูดของชิงสุ่ย ทำให้จี๋อี้ซวนแสดงความชื่นชมออกมาทางสีหน้า มีไม่กี่คนเท่านั้นที่จะทำให้จี๋อี้ซวนเคารพได้โดยเฉพาะคนหนุ่มอย่างชิงสุ่ย
　　“และการรักษาครั้งนี้ ข้าก็จะขอแลกเปลี่ยนโดยไม่ใช่ตัวเงิน แต่ท่านจะต้องติดหนี้บุญคุณข้า ในอนาคต ท่านจะต้องทำบางอย่างให้กับค่าโดยไม่ขออะไรตอบแทนกลับ บางทีมันอาจจะเป็นเรื่องยากมาก บางทีมันอาจจะเป็นเรื่องง่าย ง่ายเสียจนพวกท่านอาจจะไม่ต้องทำอะไรเลย “ชิงสุ่ยจ้องมองจี๋อี้ซวน ขณะกล่าวอย่างจริงจัง
　　“ไม่ว่าจะเป็นเรื่องอะไรข้าก็พร้อมจะทำตาม มันเกี่ยวข้องกับการส่งคนตระกูลจี๋ไปสู่ความตายหรือไม่?”จี๋อี้หลายกล่าวถาม
　　“ข้าพูดได้เต็มปากเลยว่ามันจะไม่เกี่ยวข้องกับเรื่องที่ขัดต่อศีลธรรม ข้าจะไม่ขอให้คนของท่านสละชีวิตของตัวเอง แต่ข้าก็ไม่อาจให้หลักประกันใดๆได้ ข้าจึงให้เวลาท่านพิจารณาเรื่องนี้ ส่วนท่านจะตกลงหรือไม่ก็แล้วแต่ท่านจะไตร่ตรอง”ชิงสุ่ยอธิบาย
　　“ไม่จำเป็นต้องพิจารณา ข้าเอาคำพูดของข้าเป็นหลักประกัน”จี๋อี้ซวนกล่าวตอบทันทีโดยไม่ลังเล
　　“พี่ใหญ่!!”
　　” เอาล่ะ ข้าพูดออกไปแล้ว ท่านหมอปาฏิหาริย์ชิง ข้าขอยืนยันในคำพูด”จี๋อี้ซวนยื่นมือออกไปหยุดจี๋อี้หลาย　　จี๋อี้ซวนรู้สึกว่าชายหนุ่มตรงหน้าไม่ใช่คนชั่วร้าย เขาเชื่อว่าชิงสุ่ยเป็นคนที่น่าไว้วางใจ นี่จึงกลายเป็นเหตุผลที่เขาตัดสินใจตอบตกลงโดยไม่มีลังเล หากอีกฝ่ายเป็นหมอที่คิดชั่ว เขาก็คงคิดนานกว่านี้ และหาวิธีบีบบังคับให้ตัวของเขาเองยอมรับเงื่อนไข
　　ฉะนั้น เขาจะรู้สึกโชคดีมากที่ได้พบกับชิงสุ่ย
　　ชิงสุ่ยไม่พูดอะไรมากและเริ่มการรักษาทันที และเพื่อให้เป็นไปตามกระบวนการรักษา ตระกูลจี๋จึงต้องพักอยู่ในเมืองแห่งนี้เป็นเวลา 1 เดือน แต่ก็ไม่ใช่เรื่องใหญ่อะไร ตราบใดที่รักษาอาการบาดเจ็บของจี๋อี้หลายได้ พวกเขาก็พร้อมจะอยู่ต่อแม้จะใช้เวลาเป็นปีหรือเป็น 10 ปีก็ตาม