Ancient Strengthening Technique เทพอสูร บรรพกาล – บทที่ 2085 – เมื่อเฉินหวงเข้าร่วม การต่อสู้ทุกอย่างก็จบลง

บทที่ 2085 – เมื่อเฉินหวงเข้าร่วม การต่อสู้ทุกอย่างก็จบลง
　　ชิงสุ่ยเผด็จศึกปีศาจเงาภายในครั้งเดียว สำหรับคู่ต่อสู้เช่นนี้ มันต้องไร้ความปราณี ชิงสุ่ยไม่มีทางเลือก นอกจากจะไม่ยอมให้พวกมันมีชีวิตรอด
　　แม้ว่าการบ่มเพาะของปีศาจเงาจะไม่ถูกทำลายทั้งหมด แต่มันก็ไม่มีทางฟื้นคืนสภาพเดิมได้อีกแล้ว ในฐานะยอดยุทธ เขาไม่เหลืออนาคตอีกแล้ว มันคือจุดจบแสนเศร้า
　　ภายในเวลาเพียงไม่นาน คู่ต่อสู้ 2 คนก็พ่ายแพ้ ตู่ฟู่และชายหนุ่มอีกคนประหลาดใจ พวกเขาต่างมองชิงสุ่ยด้วยสายตาประหลาดใจ การเอาชนะพวกเขาได้ถึง 2 ครั้งติดกัน มันคงไม่ใช่เพราะโชคดี พวกเขาจึงคิดล่าถอย
　　ทันใดนั้น ชายหนุ่มอีกคนก็ดึงธนูอสรพิษมังกรทองม่วง และจ้องมองชิงสุ่ยด้วยดวงตามุ่งมั่น
　　ดวงตาของตู่ฟู่เต็มไปด้วยความชั่วร้ายและความเกลียดชัง ตู่ฟู่ที่ร่างกายกำยำถือขวานคู่ขึ้นมือ แม้ว่ามันจะดูธรรมดา แต่ชิงสุ่ยมั่นใจว่ามันไม่ธรรมดาแน่
　　“พวกเจ้าสองคนยังคิดที่จะปล้นข้าอีกหรือ?”ชิงสุ่ยมองดูตู่ฟู่และชายหนุ่มอีกคนด้วยสายตาแข็งกร้าว
　　“ในเมื่อกล้าไปยุ่งกับพระราชวังราชาปีศาจของเรา เจ้าจะต้องตาย”ตู่ฟู่จ้องมองกลับมาด้วยดวงตาดุร้าย
　　ดอกบัวสำแดงลำดับที่ 9 ของชิงสุ่ยยังคงหมุนๆ เขาพร้อมจะใช้เกราะทองคำเพื่อป้องกันไม่ให้การโจมตีครั้งต่อไปทำให้เขาถึงตาย
　　พระราชวังเทพสงครามกับพระราชวังราชาปีศาจคือศัตรูตามธรรมชาติ เขาไม่เคยวางแผนที่จะฆ่าคนเหล่านี้เลย เนื่องจากถ้าหากลงมือสังหารไปปัญหาที่ตามมาจะมีมากมาย อย่างไรก็ตามครั้งนี้เขาคงไม่มีทางเลือกอื่นนอกจากฆ่าพวกมันหรือไม่ก็ปล่อยให้ตัวเองถูกฆ่า　　“มาดูกัน ว่าวันนี้ใครจะเป็นคนตาย”ชิงสุ่ยกล่าว
　　ตาย!!
　　ตู่ฟู่ระเบิดพลังขยายร่างกายเพิ่มเป็น 2 เท่า เขาเหวี่ยงขวานขนาดยักษ์พุ่งเข้าหาชิงสุ่ย
　　แรงกดดันมหาศาลบีบชิงสุ่ยให้เหมือนกับติดร่างแหตาข่ายขนาดยักษ์
　　ในขณะที่ปีศาจศร ก็ง้างธนู ยิงใส่ชิงสุ่ย ให้ศรแต่ละดอก พุ่งเข้าใส่ชิงสุ่ยราวกับฝนดาวตก
　　สีหน้าการแสดงออกของชิงสุ่ยเปลี่ยนไป ภาพเงาของเฉินหวงกระพริบได้มาปรากฏด้านข้างชิงสุ่ย เธอชักกระบี่บุปผาสะท้อนลูกศรที่พุ่งเข้าหาชิงสุ่ย
　　ส่วนลูกศรที่เหลือรอดจากการป้องกันก็บินเข้าสู่ค่ายกลพายุดอกไม้ก่อนจะแตกกระจาย
　　การโจมตีลูกธนูยังไม่ทันจะหมด ขวานยักษ์ขนาดมหึมาก็ฟาดลงที่ตรงตัวเฉินหวง
　　“ชิงสุ่ย สองคนนี้ปล่อยให้ข้าจัดการเอง”
　　เฉินหวงเหวี่ยงกระบี่บุปผา กระแทกขวานยักษ์ ผลักจนตู่ฟู่ถึงกับต้องถอยหลัง
　　พลังของเฉินหวงเมื่อผสานรวมกับพลังช่วยเหลือจากชิงสุ่ย มันจะกลายเป็นฝันร้ายที่ทุกคนไม่อยากฝันถึง เมื่อเทียบกับศัตรูแล้ว เฉินหวงเรียกได้ว่าต่างชั้นกันมาก จึงไม่ใช่เรื่องยากอะไรที่จะจัดการกับคนเหล่านี้ได้อยู่หมัด แม้แต่ค่ายกลปราการพายุดอกไม้ พวกมันก็ทำอะไรไม่ได้
　　ค่ายกลปราการพายุดอกไม้ที่เฉินหวงเปิดใช้แข็งแกร่งยิ่งกว่าตอนที่ปีศาจดอกไม้รุ่นก่อนใช้ ฉะนั้นคนที่จะทำลายรูปแบบนี้ได้ จะต้องมีพลังมากกว่า หรือไม่ก็มีทักษะในการสร้างเสียงสะท้อนที่รุนแรงกว่า
　　ปังงงง!!
　　เฉินหวงตวัดกระบี่เข้าใส่ขวานยักษ์ กระแทกขวานยักษ์อันแสนภาคภูมิใจของตู่ฟู่จนเกือบหลุดมือ
　　ตู่ฟู่และปีศาจศรต่างก็รู้ถึงพลังของเฉินหวง และก็รู้ตัวดีว่าพวกเขาสู้เธอไม่ได้ ตู่ฟู่คิดเล็กน้อยก่อนจะส่องแสงประกายวาบและรีบหนีหาย แต่แล้วตู่ฟู่ก็รู้สึกถึงสายลมหนาวบริเวณคอ ก่อนที่เขาจะสูญเสียความรู้สึกไป
　　มันก็คือมังกรรุ้งศักดิ์สิทธิ์
　　จากนั้นเฉินหวงก็พุ่งเข้าหาปีศาจศร เงาของเธอก็กำลังหลบหลีกลูกศรอย่างสง่างาม โดยที่ปีศาจศรก็พยายามยิงลูกธนูเพื่อหลบหนี
　　เฉินหวงหลบหลีกลูกศรอย่าสง่างามเพราะเธอสามารถอ่านความคิดปีศาจเงินได้ ใครก็ตามที่อ่านความคิดศัตรูได้จะสามารถช่วงชิงความได้เปรียบอย่างสมบูรณ์
　　ชิงสุ่ยใช้ทักษะล่าสังหารและปราณจักรพรรดิกับปีศาจศร พลังที่ลดฮวบทำให้ปีศาจศรเกือบทรุด จากนั้นเขาก็เปิดใช้งานเขตแดนราชาครอบคลุมทั้งฝั่งของเฉินหวงและปีศาจศร　　เขตแดนราชา สามารถเพิ่มลดความเร็วของเป้าหมายได้ 2 เท่า ขึ้นอยู่กับความต้องการของชิงสุ่ย
　　มังกรรุ้งศักดิ์สิทธิ์ลอบโจมตีครั้ง และครั้งนี้มันก็ทำให้ปีศาจศรล้มคว่ำ พิษแปลกประหลาดทำให้ฝ่ายตรงข้ามสูญเสียความสามารถในการต่อสู้ และจะตายภายในไม่ช้าหักไม่ได้รับยาต้านพิษ
　　เมื่อตู่ฟู่และปีศาจศรถูกฆ่าตาย ปีศาจเงาและปีศาจกระบี่ที่บาดเจ็บปางตายย่อมถูกสังหารเช่นกัน มังกรรุ้งศักดิ์สิทธิ์รับหน้าที่ในการเผาทำลายซากศพไม่ให้เหลือร่องรอย จากนั้นชิงสุ่ยก็พาเฉินหวงออกไปยังสถานที่ที่ห่างไกล
　　เฉินหวงหยิบเตียงหินหยกเยือกแข็งออกมา
　　ชิงสุ่ยรีบใช้ทักษะเบิกเนตรสวรรค์ตรวจสอบเตียงหินหยกเยือกแข็งอีกครั้ง โดยครั้งนี้เขาสังเกตเห็นสิ่งผิดปกติบางอย่างซ่อนตัวอยู่ข้างใต้ตัวเตียง มันก็คือเรื่องของราชาปีศาจที่อดีตราชาปีศาจทิ้งเอาไว้ให้แข็งตัวอยู่ข้างใต้ จะมีเฉพาะผู้ที่สืบทอดราชาปีศาจเท่านั้นถึงจะสัมผัสเลือดที่ซ่อนตัวอยู่ใต้เตียงหินหยกเยือกแข็ง บางทีพวกเขาอาจรู้สึกว่าไม่มีใครสามารถทำลายค่ายกลของพวกเขาได้ พวกเขาจึงเลือกที่จะเฝ้าดูมันอย่างเดียวโดยไม่ได้คิดป้องกัน ดังนั้นทันทีที่ชิงสุ่ยทำลายค่ายกลของราชาปีศาจ พวกเขาจึงได้ออกมาตามล่า น่าเสียดายที่พวกเขาไม่แข็งแรงพอหรืออาจเรียกได้ว่าโชคร้ายขั้นสุด ถ้าหากชิงสุ่ยไม่อาจจะลวงผ่านระดับดินแดนสวรรค์แห่งเต๋า เขาก็คงจะพ่ายแพ้ แต่อย่างไรซะ เฉินหวงก็อยู่ที่นั่น ดังนั้นไม่ว่ากันต่อสู้จะเป็นแบบไหน จุดสิ้นสุดการต่อสู้ ชิงสุ่ยย่อมต้องปลอดภัย