The Legendary Mechanic – ตอนที่ 745-746

ตอนที่ 745 โทมาร์
7“ชื่อของข้าคือโทมาร์ไทกิ้น”
“ข้าเกิดในเมืองใบไม้เหลืองของอาณาจักรเขตสมุทรข้าถูกเลี้ยงโดยสถานเลี้ยงเด็กกำพร้าในเมืองตั้งแต่จำความได้”
“ข้าจำได้ตอนข้าอายุหกขวบข้าเห็นเด็กโตจากเมืองกำลังทำสิ่งแปลกๆกับพี่สาวชานน่าในตรอกซอยถนนห่างจากสถานเลี้ยงเด็กกำพร้าไปสองซอย”
“พี่สาวชานน่าคือเด็กที่โตสุดในสถานเลี้ยงเด็กนางมักดูแลทุกคน และเราก็เห็นนางเป็นพี่สาวเรา นางมีกระฝ้าบนหน้า ข้าคิดว่านางดูสวยและอ่อนโยนมากตอนนางยิ้มด้วยลักยิ้มบนแก้มนาง ข้ามักฝันถึงนางเสมอตอนยังเด็ก”
“ข้าคิดว่าพวกเขากำลังรังแกพี่สาวดังนั้นข้าจึงหยิบหินและโยนมันใส่หน้าผากพวกนั้น จากนั้น พวกนั้นก็ทุบตีข้า หลังโต ข้าก็รู้ว่าพวกมันกำลังทำอะไรกับพี่สาวชานน่า”
“หลังจากนั้นพี่สาวชานน่าก็ออกเมืองไปโดยไม่บอกลา ข้าไม่รู้ว่านางไปไ6น+”
“จากนั้นคนที่ข้าโยนหินใส่หน้าผากก็มาสถานเลี้ยงเด็กเพื่อตำหนิข้า ผู้ดูแลสถานเลี้ยงเด็กดุข้า ข้าถามเชขาว่าทำไมพ่อแม่ข้าถึงไม่กลับมาหาข้า เขาบอกว่าพ่อแม่ข้าตายไปนานแล้ว พวกเขาไปภูเขาเพื่อเก็บของและเจอกับวิญญาณร้าย”
“จากนั้นข้าถึงรู้ว่าข้าไม่มีใครให้พึ่งพาบนโลกนี้”
“เมื่อข้าอายุสิบปีข้าออกสถานเลี้ยงเด็กและกลายเป็นเด็กฝึกงานที่โรงช่างในเมือง’
“ตอนข้าอายุ15อาจารย์ข้ามีงานต้องไปทำที่เมืองใจหิน ซึ่งอยู่ใกล้ๆ เขาพาเราไปด้วยและหลังทำงานอยู่ครึ่งเดือนที่นั่น เราก็ทำงานเสร็จ คืนนั้น ฟิลลี่พูดว่าจเพาข้าไปสถานที่ดีๆ ฟิลลี่คือเด็กฝึกงานอาวุโสของโรง่าง แก่กว่าข้าไม่กี่ปี จากนั้นเราก็ไปโรงเหล้าในเมืองใจหินที่ชื่อ’น้ำผึ้ง’ นั่นเป็นครั้งแรกที่ข้าได้ดื่ม ในสถานที่นั้น ข้าเจอกับพี่สาวชานน่า ที่ข้าไม่เจอมาหลายปี”
“นางทำงานในโรงเหล้านางแต่งหน้าหนา สวมรอยยิ้ม แต่รอยยิ้มนางกลับดูปลอมมาก”
“งานนางคือนำอาหารไปให้แขกเมื่อนางเดินผ่าน จะมักมีคนเอามือไปจับเรือนร่างนาง ทุกครั้งที่เกิดขึ้น นางจะยิ้มปลอมๆให้ ข้าจำได้ว่านางยังสาวมาก แต่ข้ากลับสังเกตเห็นว่านางมีรอยย่นที่ขอบตาแล้ว”
“ฟิลลี่บอกว่าข้าโตแล้วเขาเตรียมจ่าย ดังนั้นพี่สาวชานน่าจะพาข้าไปชั้นสองและช่วยข้าให้กลายเป็นผู้ใหญ่ จากนั้นข้าถึงรู้ว่านางกลายเป็นโสเภนีไปแล้ว และธุรกิจนางก็ดี”
หลายคนจ่ายให้นาง
“ข้าจำได้ว่าหัวข้าขาวโพลนข้าสู้กับฟิลลี่แต่แพ้ เขาสูงกว่าและแข็งแรงกว่าข้า ข้าถูกกดลงกับพื้นและถูกทุบตี พี่สาวชานน่าไม่มาช่วย ข้าไม่รู้ว่านางจำข้าได้ไหม”
‘หลังจากนั้นข้าก็ถูกโยนออกมา ตาข้าบวมและร่างข้าก็ระบมไปหมด แต่ข้าไม่อยากกลับไปโรงแรมและเดินตามถนน”
คืนนั้นข้าเจอกับผู้วิเศษ
“บางครั้งข้าอดโทษชีวิตตัวเองไม่ได้ เมื่อข้ายังเด็ก ข้าไม่เคยคิดว่าข้าจะกลายเป็นผู้วิเศษ”
“ห้าปีต่อมาข้าเรียนคาถาต่างๆและวิธีสร้างยาวิเศษในเมืองใจหิน ท่านแลนลี่ย์มักชมข้า บอกว่าข้ามีพรสวรรค์ ข้าไม่รู้ว่าเขาหมายความว่ายังไง..จากนั้นข้าก็ก้าวไปในโลกลับอีกแห่ง ชีวิตเก่าของข้าถูกทิ้งไป”
“คนอื่นตั้งเป้าหมายให้ข้าเพื่อเอาชนะคนชื่อโวซูมี้ด แม้ข้าจะไม่รู้จักเขา ทุกคนก็บอกว่าเขาคือศัตรูข้า”
“เมื่อข้าอายุ20ข้าเจอคนสี่คนที่เรียกตัวเองว่าเทพเจ้า ข้าไม่เคยคิดว่านี่จะเป็นจุดเปลี่ยนในชีวิตข้า”
“การปรากฏของพวกเขาเปลี่ยนแปลงทุกสิ่งพวกเขาบรรลุเป้าหมายที่เราใช้เวลา50ปีไปง่ายๆ ข้าเห็นศัตรูข้า โวซูมี้ดเป็นครั้งแรกและจากนั้นเขาก็ถูกฆ่าโดยเหล่าเทพเจ้า”
“เหล่าเทพเลือกข้าและพาข้าไปอาณาจักรแห่งเทพข้าคิดว่าข้าจะกลายเป็นผู้ศรัทธา แต่ทุกอย่างที่เกิดหลังจากนั้นได้ล้มความรู้ข้าจนหมด”
“เราขึ้นกล่องโลหะยักษ์และกล่องนี้ก็สามารถบินได้เมื่อเราเข้าสู่ท้องฟ้า ข้าก็ตระหนักว่าโลกของข้าเป็นลูกบอล”
“ทำไมมันถึงเป็นลูกบอล?ข้าไม่เข้าใจ!”
“เทพแห่งโชคบอกข้าว่าโลกที่ข้าอยู่เรียกว่านาลุนมันเป็นสิ่งที่เรียกว่าดาวเคราะห์ นอกดาวเคราะห์เรียกว่าจักรวาล ในจักรวาล มีดาวนับไม่ถ้วนเหมือนดาวนาลุน”
“ข้าตกใจมากตกใจกว่าตอนตระหนักถึงการดำรงอยู่ของเทพ ข้าไม่เคยคิดอะไรแบบนี้มาก่อนในชีวิต”
“แต่ทว่าเทพแห่งโชคบอกข้าว่าพวกเขาไม่ใช่เทพอะไร พวกเขาแค่ผู้มาเยือนจากจักรวาล และข้าก็แค่คนจากดาวนาลุนที่เข้าสู่จักรวาล ข้าไม่อาจเชื่อได้ว่าเรื่องนี้จะเกิดขึ้นกับข้า!”
“เขาบอกว่าชื่อเขาคือเฟย์ดินและบอกข้าว่าโลกจริงเป็นยังไง”
“เฟย์ดินบอกว่าพวกเขาคือสมาชิกกองทัพแบล็คสตาร์ชายที่หลอกข้าคือผู้นำกองทัพ ข้าไม่เคยเห็นคนที่หน้าด้านแบบนี้มาก่อน..”
“อย่างไรก็ตามข้ารู้สึกซาบซึ้งต่อเขา หากเขาไม่เลือกข้า ข้าคงเป็นแค่คนพื้นเมืองโง่เขลา ไม่รู้อะไรเกี่ยวกับจักรวาล ท่านแบล็คสตาร์เปลี่ยนชีวิตข้า”
กองทัพแบล็คสตาร์ดูเหมือนจะเป็นองค์กรที่แข็งแกร่งมากในจักรวาและข้าก็กลายเป็นสมาชิกกองทัพ…เอาละข้าชินกับสิ่งนี้แล้ว เหมือนตอนชุมชน ข้าได้เข้าร่วมกับองค์กร”
“หลายวันข้าสับสน ขณะที่เฟย์ดินสอนข้าเกี่ยวกับความรู้ทั่วไปของโลก เขาก็บอกข้าว่าหากข้าไม่รู้ว่าจะทำยังไง ข้าก็ควรไปช่วยดาวบ้านเกิดข้าเป็นเป้าหมายชีวิต นี่คือชะตากรรมของผู้บุกเบิกอารยธรรม”
“ข้าชอบชะตากรรมนี้”
“ท่านเฟย์ดินช่วยข้ามากข้าคิดว่าเขาเป็นคนดี เขาชอบมองตอนเขายิ้ม เหมือนพี่สาวชานน่าในอดีต”
“หลังจากผ่านไปหลายวันข้าก็ถูกส่งขึ้นอีกยานอวกาศ พวกเขาส่งข้าไปศูนย์ใหญ่กองทัพแบล็คสตาร์เพื่อเรียนเวทมนตร์ พวกเขาบอกว่าข้ามีพรสวรรค์ เห้อ ทำไมทุกคนถึงคิดว่าข้าเป็นอัจฉริยะ?เวทมนตร์ง่ายมากไม่ใช่หรือ?”
“ข้าถูกส่งมอบให้คนที่ดูหดหู่เขาบอกว่าเขาจะเป็นอาจารย์ข้า”
“พูดตรงๆข้าไม่คิดว่าเขาเหมาะจะเป็นอาจารย์ เขาบอกข้า เวทมนตร์ไม่ได้มีประโยชน์เลย แค่เรียนบางสิ่งเพื่อให้ข้าสามารถพูดได้ว่าข้าทำส่วนของข้าแล้ว’”
สามเดือนต่อมาบนดาวมาซิเฟอร์…
นี่คือดาวเป็นกลางในวงแหวนดาวกระจายตั้งบนขอบทุ่งดาวและไม่ถูกปกครองโดยอารยธรรมใด
ตอนนี้ยานของหานเซี่ยวลอยเหนือดาว
สมเดอนผ่านไปนับตั้งแต่เขาเดินทางออกจากดาวนาลุน
ในสามเดือนนี้การต่อสู้ครั้งใหญ่สุดได้เกิดขึ้นในสงครามลับ จักรวรรดิคริมสันได้รั่วไหลข่าวลือเกี่ยวกับการเจรจาที่กำลังจะจบ เซ็คชั่นซีโร่และแดนหลั่งเลือดเริ่มทุ่มสุดตัวเพื่อชะลอเวลา”
สงครามน่าสลดในเวลาแค่สามเดือน ภัยพิบัติที่ตายทั้งสองฝั่งก็มากเกือบร้อย
หานเซี่ยวไม่ได้เข้าร่วมและผลึกม่วงก็ยอมแต่กองทัพแบล็คสตาร์ต้องสู้เพื่อแลกกับทรัพยากรที่พวกเขาใช้ไป
กองทัพนำโดยลากีและเฮอลัสผู้เล่นได้รับภารกิจฆ่าตัวตาย ดังนั้นจำนวนผู้เสียหายจึงต่ำกว่าใครอื่น สำหรับพลรบระดับสูง โดยปราศจากผู้นำพวกเขา ภัยพิบัติหลายคนบาดเจ็บ อย่างไรก็ตาม หานเซี่ยวบอกให้ออโรร่าทำยาฟื้นฟูที่ช่วยชีวิตพวกเขา เช่นนั้น จึงไม่มีใครตาย
ในเวลานั้นหานเซี่ยวพาฮีล่า ออโรร่าและเฟย์ดินเดินทางไปรอบทุ่งดาวเพื่อทำภารกิจย่อย โทมาร์คือตัวละครเดียวที่เขานำมา กระเทียมหอมนี้กำลังถูกลากีเพาะเลี้ยงช้าๆ หานเซี่ยวได้รับพรสวรรค์ใหม่ห้าอย่างตลอดสามเดือน
สามอันเป็นพรสวรรค์ทั่วไปและสองอันเป็นพรสวรรค์หายาก ทั้งหมดเป็นประโยชน์ ความสามารถต่อสู้จริงเขาเพิ่มขึ้นอย่างไรก็ตาม สิ่งสำคัญสุดคือค่าประสบการณ์ที่เขาได้รับตลอดสามเดือน
ผู้เล่นเก่าและใหม่ได้มอบค่าประสบการณ์ให้เขามากตามการคำนวณเขา ค่าประสบการณ์นั้นมากพอจะให้เขาเลื่อนเป็นระดับ235 ใกล้กับระดับ240..
ความเร็วการได้รับค่าประสบการณ์เร็วกว่าที่คิดดูเหมือนพเราะผู้เล่นใหม่เหล่านี้เริ่มมีระดับสูง ด้วยอัตรานี้ ประมาณครึ่งเดอน ค่าประสบการณ์ฉันจะมากพอให้ฉันเลื่อนระดับ240..
ภายในยานหานเซี่ยวตื่นเต้น
เขายังไม่ใช้ค่าประสบการณ์เพื่อเลื่อนระดับนี่เพราะเขาอยากใช้ค่าประสบการณ์เป็นไพ่ตายรับมือกับการล้างแค้นของเทพเอส
แต่หลังรอมาสามเดือนลูกน้องเทพเอสกลับยังไม่ปรากฏ
เนื่องจากศัตรูไม่ปรากฏเขาไม่รีบเลื่อนระดับ เหนือสิ่งอื่นใด ค่าประสบการณ์ก็ไม่ได้ไปไหน ดังนั้น หานเซี่ยวจึงเก็บเกี่ยวพรสวรรค์ต่อ ดาวมาซิเฟอร์คือเป้าหมายต่อไปเขา
ดาวนี้เป็นที่รู้จักอยู่สองสิ่งตลาดมืดขนาดใหญ่ที่ประกอบไปด้วยผลิตภัณฑ์มากมายและอุตสาหกรรมต่อยาน
มีโมเดลยานจักรกลและเวทย์มากมายยานส่วนใหญ่สามารถสั่งซื้อได้ที่นี่ นักเดินทางหลายคนมาที่ดาวนี้เพื่อสร้างยาน
เพราะเป็นดาวเป็นกลางดาวมาซิเฟอร์จึงมีคนทุกประเภท อู่ต่อยานไม่สนใจฐานะแขก ใครก็สามารถสั่งได้ขอแค่จ่ายเงิน โจรสลัดหรืออาชญากรมากมายปลอมตัวและไปซื้อของที่นั่น
ดาวเป็นกลางมักมีผู้ปกครองที่ทรงอำนาจและดาวมาซิเฟอร์ก็ไม่เว้นเจ้าของดาวนี้ชื่อซาร์ดีม ฉายา’ผู้ออกแบบทหารยักษ์’ ช่างกลเกรดA+
แต่เป้าหมายของหานเซี่ยวไม่ใช่เขา
ผ่านหน้าต่างหานเซี่ยวก้มมองดาวโลหะ จากนั้นก็หันไปมองคนอื่น”ปลอมตัว เราจะไม่ใช้หน้าจริง”
ขณะพูดหาเซี่ยวก็วางแผ่นใสบนหน้า วงจรไฟฟ้าแล่บบนผิวและเปลี่ยนเป็นหน้าคนอื่น
นี่คือหน้ากากที่เขาเรียนรู้มานานแล้วเทคโนโลยีที่ใช้ได้รับการพัฒนามาหลายครั้งและตรวจจับได้ยาก
ฮีล่าและคนอื่นไม่ถามว่าทำไมและสวมมันเพื่อปลอมตัวพวกเขาคุ้นชินกับการกระทำแปลกๆของหานเซี่ยวแล้ว
มีพรสวรรค์สายช่างกลบนดาวนี้อยู่ผลมันจะเสริมความสามารถการสร้างเครื่องจักร
นี่คือภารกิจเฉพาะของช่างกลเขาต้องสมัครงานในอู่ต่อยานแห่งหนึ่งและกลายเป็นช่างต่อยาน แน่นอน ด้วยตัวตนของแบล็คสตาร์เขาจึงต้องปลอมตัว ปกปิดหน้าหล่อๆและเป็นคนธรรมดาชั่วคราว จากนั้นถึงกระตุ้นภารกิจได้
หลังฉันทำภารกิจนี้เสร็จฉันควรมีค่าประสบการณ์พอไปถึงระดับ240…
หานเซี่ยวสูดหายใจลึกกำหมัดและออกคำสั่งกับฟิลลิป
“ลงจอด”
ตอนที่ 746 ดาวมาซิเฟอร์
เพราะดาวมาซิเฟอร์ไม่ใช่ดาวอาณานิคมแต่เป็นดาวอุตสาหกรรมที่เปิดรับทุกคนมันจึงมีแค่ห้าเมืองบนผิวดาว หนึ่งเมืองหลัก สี่เมืองย่อย หานเซี่ยวลงจอดเมืองหลัก ซึ่งใหญ่สุด
เมื่อก้มมองจากด้านบนดาวมาซิเฟอร์ดูแข็งแกร่งมาก มันประกอบไปด้วยอู่ต่อยานขนาดใหญ่มากมาย บางอู่ยังกำลังประกอบยานขนาดใหญ่ในที่โล่งและโครงยานเหล่านี้ก็สามารถมองเห็นได้จากด้านบน ไม่มีที่อยู่อาศัยจริงๆบนดาว มีแค่โรงแรมสำหรับคนงานและสถานบันเทิง รวมถึงโรงแรมสำหรับนักเดินทาง
ที่ใจกลางเมืองเป็นเมืองลอยจักรกลทรงหอยสังข์นี่คือฐานของซาร์ดีม มันกว้างที่ด้านล่างและแคบที่ด้านบน ทหารยักษ์จักรกลประเภทยามสูง240เมตรยืนตระหง่านอยู่16ตน พร้อมทำงานเมื่อโดนโจมตี พวกมันทรงพลังมาก
สามสายของสายช่างกลล้วนมีความเชี่ยวชาญคนละด้านซาร์ดีมเห็นได้ชัดว่าเป็นช่างกลเกรดA+สายอาวุธที่เชี่ยวชาญการสร้างทหารจักรกลยักษ์
ดาวมาซิเฟอร์มีท่าจอดบนผิวดาวแปดแห่งยานหานเซี่ยวตามเส้นทางและจอดบนท่า3ก่อนเข้าโรงเก็บยาน หลังหานเซี่ยวทำตามขั้นตอนง่ายๆ เขาก็พาพวกฮีล่าออกท่า กลมกลืนกับฝูงชนและเข้าเมือง
มีสิ่งมีชีวิตจากทุกเผ่าบนถนนสิ่งมีชีวิตเหมือนมนุษย์และแม้กระทั่งสิ่งมีชีวิตจำนวนมีขน ประชากรกาแล็กซี่จากทุกกลุ่มดาว เครื่องแปลภาษาสากลช่วยให้พวกเขาสื่อสารกันได้ง่ายๆ
“ที่นี่แออัดมากเกาะมังกรก็เป็นกลางเมืองกัน แต่ทำไมมันถึงเงียบนัก?”ออโรร่ามองรอบๆอย่างสงสัย
“อืมนั่นเพราะเกาะมังกรไม่มีอะไรพิเศษ และมันก็ไม่เป็นมิตรกับกลุ่มการเงิน”
หานเซี่ยวส่ายหัวและยิ้มสถานที่ที่มีผู้อยู่เหนือได้รับความนิยมเสมอ เหตุผลที่เกาะมังกรไม่ประสบความสำเร็จนั่นเพราะกลยุทธ์พวกเขา เอเมสไม่อยากพัฒนาเกาะมังกรเลย
นอกจากนี้จากแง่มุมของอาณาเขต ดาวมาซิเฟอร์เป็นดาวอุตสาหกรรมล้วนๆ ส่วนเกาะมังกรเป็นบ้านของเอเมส
ซาร์ดีมมีพลังพอจะเป็นหัวหน้าองค์กรเขายังเป็นช่างกลที่ดึงดูดการลงทุนได้ดี ดังนั้น มันจึงง่ายที่เขาจะสร้างสถานที่เช่นนี้ขึ้น
ครั้งนี้เสียงของพลังงานฉีดพ่นพุ่งทะลุฟ้า พวกเขาแหงนมอง และกลุ่มทหารจักรกลก็บินผ่าน พวกมันเป็นกลุ่มกองกำลังติดอาวุธที่ซาร์ดีมใช้รักษากฏหมาย
การเปิดดาวสร้างผลกำไรได้ดีอืม แม้กองทัพฉันจะมีระดับสูง การทำให้เป็นดาวอุตสาหกรรมเป็นกลางก็เป็นความคิดที่ดี มันสามารถหากระเทียมได้มากขึ่น อืม แต่นั่นเป็นเรื่องที่ต้องคิดหลังสงครามลับจบ..
หานเซี่ยวจับคางและไตร่ตรองถึงการขยายธุรกิจของกองทัพ
ชื่อของแบล็คสตาร์เป็นที่รู้จักทั่ววงแหวนดาวกระจายโชคดี พวกเขาปลอมตัวจึงไม่มีใครจำได้ ทั้งกลุ่มขึ้นยานพาหนะภาคพื้นและไปอู่ต่อย้านที่ส่วนกลางของเมือง
อู่ต่อนี้ใหญ่มากหานเซี่ยวและคนอื่นหยุดนอกประตูและแหงนมองป้ายเสมือนสีสันสดใส บนนั้นมีคำว่า’บริษัทยอดหิน’
นี่คอืหนึ่งในอู่ต่อยานที่น่าเชื่อถือสุดบนดาว
นี่คือสถานที่ที่เหมาะสมหานเซี่ยวพยักหน้า เปิดอุปกรณ์สื่อสาร บนนั้นเป็นประกาศจ้างของบริษัทยอดหิน
อู่ต่อยานขนาดใหญ่เช่นนี้จะรับสมัครช่างกลเรื่อยๆข้อกำหนดขั้นต่ำคือเกรดCหรือช่างที่ได้รับอนุญาติโดยอารยธรรมระบบดาว เหมือนกับบริษัทในโลกจริงที่ต้องการวุฒิการศึกษา
หานเซี่ยวไม่มีใบอนุญาตินี่คือสิ่งที่มีแค่พวกพิเศษสายวิจัยถึงต้องการ จุดประสงค์หลักคือเพื่อทำสิ่งต่างๆให้สะดวกขึ้นสำหรับบุคลากรด้านวิจัยและช่างเทคนิคที่ไม่ชอบสู้ หานเซี่ยวไม่เคยต้องการมัน แถม ด้วยเกรดเขา เขาย่อมเข้าทำงานได้ง่ายๆโดยไม่ต้องทดสอบ
พวกพิเศษมีพลังพิเศษบางคนใช้พลังเพื่อความรุนแรง เช่นโจรสลัด ทหารรับจ้างและนักล่าค่าหัว บางคนใช้พลังนี้เพื่อผลิต บางคนเป็นแรงงานและเป็นกำลังผลิตสำคัญในสังคม
ท่ามกลางนั้นธุรกิจของช่างกลและจอมเวทย์นิยมสุด เอสเปอร์บางคนที่มีความสามารถพิเศษยังทำธุรกิจได้ดีและผู้ใช้พลังจิตก็เหมาะกับการบำบัด ลาดตระเวนและอื่นๆ นักสู้คือพวกเดียวที่มีอนาคตน่าเป็นห่วงในโลกธุรกิจ เหนือสิ่งอื่นใด นักสู้นั้นเก่งในงานแรงงาน ซึ่งเป็นสิ่งที่แม้กระทั่งหุ่นยนต์ก็ทำได้แต่ราคาถูกกว่ามาก แถม ใครจะจ้างนักสู้มาเพื่อขนของ?
หานเซี่ยวและคนอื่นเดินไปอู่ต่อยานมีแขกหลายคนในโถงต้อนรับที่มารอเพื่อสั่งยาน พวกเขากำลัใช้หน้าจอบริการตนเองเพื่อค้นหาโมเดลยานและสั่ง
หานเซี่ยวไปหน้าจอบริการตนเองที่ยังว่างและกดคู่มือบริการต่อมา ภาพบนจอก็เปลี่ยนเป็นพนักงานต้อนรับหญิงของเผ่ามนุษย์กาแล็กซี่
“สวัสดีค่ะยินดีต้อนรับสู่บริษัทยอดหิน มีอะไรให้ช่วยไหมคะ?”
“ฉันเป็นช่างกลมาที่นี่เพื่อหางาน”หานเซี่ยวแสดงเจตนา
“ค่ะโปรดตามหุ่นยนต์ต้อนรับมา คุณจะถูกนำไปหาผู้สัมภาษณ์”
หุ่นยนต์ทรงกลมขนาดเท่าฝ่ามือสวมเครื่องแบบพนักงานต้อนรับบินมามันน่ารักมาก มันโค้งหัวและนำทาง
พวกเขาออกโถงต้อนรับผ่านโรงงานภายนอกและเข้าสู่โรงงานใหญ่ หานเซี่ยวเห็นช่างกลระดับต่ำหลายคนกำลังทำงานบนโต๊ะทำงาน ประกอบชิ่นส่วน
ครั้งนี้ชายชราเข้ามา ผมขาวเขามัดด้วยเชือกถักเปียด้านหลังหัวและเขากำลังยิ้ม ดูเป็นมิตร
“สวัสดีผมเป็นวิศวกรเครื่องจักรอาวุโสของบริษัทยอดหิน ลุค”
ใช่ฉันต้องใช้นามแฝงด้วย..หานเซี่ยวยิ้มและกล่าว”ผมบาร์น”
ลุคหยุดและกล่าว”บริษัทยอดหินกำลังรับสมัครคนคุณควรเห็นข้อกำหนดแล้วสินะ คุณอยากรับการทดสอบแบบไหนละ?แสดงใบอนุญาติหรือแสดงเกรดคุณ?”
“ทดสอบเกรดผม”
ลุคพยักหน้ายกมือและปล่อยคลื่นพลังจักรกล จากนั้นก็คว้าหุ่นยนต์ต้อนรับในมือ พลังงานที่เขาปล่อยถือเป็นเกรดB
เขาลอบสำรวจหานเซี่ยวเมื่อเห็นสีหน้าหานเซี่ยวไม่เปลี่ยน เขาก็ออกแรงกดเพิ่มบนหุ่นยนต์ โพรบโผล่ออกมาจากหัว นี่คืออุปกรณ์ที่ใช้เพื่อตรวจจับขั้นพลังงาน
“ผมรู้ว่าคุณคงรู้วิธีใช้สิ่งนี้แค่ปล่อยพลังจักรกลคุณใส่มัน”ลุคกล่าว
หานเซี่ยวถอนหายใจและควบคุมพลังจักรกลภายในตัวเขาเขากังวลว่าอาจปล่อยมันมากเกินและเปิดเผยตัวตนเกรดAเขา
กระแสพลังจักรกลยิงออกจากปลายนิ้วเขาเมื่อลุคเห็นผลลัพธ์ สีหน้าเขาก็เปลี่ยนไป น้ำเสียงเต็มไปด้วยความกระตือรือร้น
“คุณเป็นช่างกลเกรดB+?”
นั่นยังมากไป….หานเซี่ยวหน่ายใจ
เกรดB+นั้นเป็นพรสวรรค์อันดับต้นๆที่อู่ต่อยานจะจ้างได้แม้ภัยพิบัติจะมีทั่วไปในสงครามลับ พวกเขาก็หาได้ยากมากในกาแล็กซี่ทั่วไป ไม่มีทางที่ภัยพิบัติจะมาทำงานในอู่ต่อยานเช่นนี้
“มีการทดสอบอื่นอีกไหม?”
“ไม่ไม่ เราจะให้ตำแหน่งวิศวกรอาวุโสและเงินเดือนคุณทันที นี่คือสิ่งที่คุณสมควรได้รับ.
ลุคกระตือรือร้นมากในบริษัท เกรดBคือข้อกำหนดพื้นฐานในการเป็นวิศวกรอาวุโส แต่ก็ยังมีการสะสมผลงานก่อนถึงกลายเป็นได้ แต่ทุกคนที่เป็นเกรดB+จะสามารถเป็นผู้อาวุโสได้ทันที
“โปรดรอสักครู่ผมจะรีบแจ้งหัวหน้าให้มาคุยกับคุณตรงๆ”
จากนั้นเขาก็หมุนตัวและรีบรายงานให้เบื้องบนทราบก่อนพาหานเซี่ยวไปเดินชมรอบบริษัท
ไม่นานหลังจากนั้นผู้จัดการบริษัทก็มาถึงและคุยข้อตกลงกับหานเซี่ยว หานเซี่ยวมาเพื่อพรสวรรค์ ดังนั้นสัญญาสองปีจึงถูกตกลงกันอย่างรวดเร็วและเซ็นต์สัญญาโดยสองฝ่าย ซึ่งรวมถึงข้อกำหนดทั่วไปเช่นไม่อนุญาตให้หานเซี่ยวนำพิมพ์เขียวออกไป
แน่นอนหานเซี่ยวไม่คิดทำตามสัญญาอยู่แล้ว เขาลงนามในชื่อบาร์นและวางแผนออกไปทันทีที่ได้รับพรสวรรค์ ต่อให้ตัวตนจริงเขาจะถูกเปิดเผย ด้วยตำแหน่งเขาในกาแล็กซี่ อู่ต่อยานนี้จะกล้าไล่ล่าเขาเพราะละเมิดสัญญางั้นหรือ?
นอกจากนี้เขายังไม่วางแผนทำร้ายผลกำไรพวกเขา
ฉันภัยพิบัติขั้นสูงสุดกำลังทำงานให้พวกนาย ต้องการอะไรกันอีก?
เมื่อลงนามกันลุคก็ยิ้มและจับมือกับหานเซี่ยว
“บริษัทยอดหินขอต้อนรับคุณ”
หานเซี่ยวพยักหน้า”โครงการใดที่ผมต้องรับผิดชอบ?”
“คืองี้บริษัทเพิ่งรับคำสั่งซื้อระดับสูงจากหนึ่งในลูกค้ารายใหญ่ พวกเขาจัดทำพิมพ์เขียวและขอให้เราทำการผลิตยานรบหายากจำนวนมาก สายผลิตเราไม่อาจสร้างบางอะไหล่ซึ่งต้องใช้เทคโนโลยีสูงมาก มีเพียงช่างกลเกรดBและเหนือกว่านั้นถึงเรียนและสร้างพิมพ์เขียวซับซ้อนแบบนี้ได้ ดังนั้น เราจึงใช้วิศวกรอาวุโสมากมายของเรา แต่ความคืบหน้าก็ยังต่ำ..”
“เข้าใจแล้วงั้นงานผมก็คือสร้างอะไหล่เหล่านี้”หานเซี่ยวพยักหน้า
“ใช่ผมควรจัดที่พักให้คุณก่อน จากนั้นผมจะให้ส่วนหนึ่งของพิมพ์เขียวกับคุณ คุณมีเวลาห้าวันเพื่อเรียนพิมพ์เขียวก่อนยืมโรงงานของบริษัทเพื่อสร้างใน วิศวกรอาวุโสทุกคนมีโควต้าตรง คุณเป็นหน้าใหม่ ดังนั้นตารางงานจึงค่อนข้างแน่น”ลุคอธิบาย
ห้าวันไม่จำเป็นเลยแค่ให้พิมพ์เขียวและฉันจะเรียนมันภายในวินาทีเดียว..หานเซี่ยวหัวเราะในใจ แถม ความสามารถการผลิตของภัยพิบัติ การผลิตอะไหล่ยานก็แค่งานง่ายๆ
ท้ายที่สุดภารกิจก็เด้งขึ้น
[วิศวกร]
คำแนะนำภารกิจ: บรรทัดแรกในหลักจรรยาบรรณช่างกล อาชีพของช่างกลจะไม่สมบูรณ์หากปราศจากประสบการณ์ของทรัพยากรผู้อื่นเพื่อฝึกฝนตนเอง!
ข้อกำหนดภารกิจ: ใช้ทรัพยากรของบริษัทยอดหิน สร้างผลิตภัณฑ์1500ชิ้นประเภทใดก็ได้(ต้องเพื่อบริษัท)
ความคืบหน้า: 0/1500
รางวัล: ค่าประสบการณ์6.5ล้าน พรสวรรค์[ช่างผู้ชำนาญ]
มันกระตุ้นแล้วหานเซี่ยวยินดี
แม้ชื่อของพรสวรรค์นี้จะดูน่าเบื่อผลมันก็ดี พรสวรรค์ที่สามารถเสริมพลังให้สายอาชีพหลักมักมีค่า
ตอนนี้เขามีพรสวรรค์ประเภทช่างกลสิบสองอย่าง[การดัดแปลงพลังงาน] [การวิเคราะห์เชิงเครื่องจักร][แก่นแท้เทคโนโลยีเสมือน] [ความเห็นแจ้งเครื่องจักรทางทหาร] [การใช้อาวุธยืดหยุ่น] [สัมผัสแม่เหล็กไฟฟ้า] [สัมผัสจักรกลเกรดพื้นฐาน] [สายผลิต] [ชุดนักขับจักรกลระดับสูง] [ความรู้จักรกลแท้จริง] และ[กายศาสดา] ส่วนใหญ่มาจากการเลื่อนขั้นสายอาชีพของสายอาชีพหลัก
โบนัสจากพรสวรรค์ประเภทช่างกลเหล่านี้เพิ่มขึ้นมาก
สำหรับเวลาที่เหลือลุคได้พาหานเซี่ยวไปเดินชมส่วนต่างๆเพิ่ม เมื่อกลางคืนมาถึง ที่พักเขาก็จัดเตรียมเสร็จ เขาอยู่ในหอพักระดับสูงของพ้นที่ส่วนบริษัท อีกสามคนทำหน้าที่เป็นผู้คุ้มกัน ดังนั้นพวกเขาจึงย้ายมาด้วย
หลังวางของออโรร่าก็อดถามไม่ได้”ลุงหาน ลุงมีแรงจูงใจในการทำงานที่นี่งั้นหรอ?”
“โอ้?”หานเซี่ยวสงสัย
“ลุงอยากขโมยพิมพ์เขียวพวกเขางั้นหรอ?”ออโรร่ากล่าวด้วยน้ำเสียงตื่นเต้น
“เธอคิดมากไปฉันไม่อยากทำเรื่องต่ำๆแบบนั้น”ปากหานเซี่ยวกระตุก”หากฉันอยากได้พิมพ์เขียว ฉันสามารถซื้อมันได้ ฉันไม่ได้จน”
“แบล็คสตาร์เราไม่ได้จะอยู่ที่นี่สองปีจริงๆใช่ไหม?”เฟย์ดินถาม
“แน่นอนว่าไม่”
เฟย์ดินถอนหายใจ”เราติดตามนายมาประมาณสามเดือนแล้วนายบอกว่านี่คือการสัมผัสกับการใช้ชีวิตต่างๆและเห็นสิ่งต่างๆมากขึ้น แต่ฉันไม่อาจเข้าใจได้ว่าสิ่งนี้จะช่วยให้นายทะลวงคอขวดได้ยังไง”
หานเซี่ยวไม่มีทางเลือกนอกจากแก้ตัว”ฉันสู้ในสงครามมาเจ็ดปีและไม่พัฒนาเลยการผ่อนคลายอาจแตกต่าง.”
“แล้วแต่นายเถอะ”เฟย์ดินกล่าว”นายต้องรู้ว่านายเหลือเวลาไม่มากหากนายไม่อาจทะลวงผ่านได้ มันก็ต้องคิดแผน ไม่ว่าจะเป็นขอให้จักรพรรดินีมังกรช่วยหรือหลบหนีวงแหวนดาวกระจาย”
นายกำลังพูดราวกับฉันใกล้ตาย..มันจะดีหากนายเป็นลากี..
ครั้งนี้บางคนกดกริ่ง ลุคเดินมาพร้อมแผ่นพิมพ์เขียวกองหนา วางบนโต๊ะและคุยสักพักก่อนเดินออกไป
นี่เป็นพิมพ์เขียวสำหรับอะไหล่ทั้งสามเพื่อป้องกันไม่ให้เทคโนโลยีทั้งหมดรั่วไหล วิศวกรอาวุโสทุกคนจึงได้รับพิมพ์เขียวต่างส่วนกัน
หานเซี่ยวมองผ่านพิมพ์เขียวในเวลาไม่ถึงนาทีพิมพ์เขียวของอะไหล่เหล่านี้ได้รับการจำโดยหน้าต่างสถานะและเปลี่ยนเป็นความสามารถอย่างรวดเร็ว
“ระดับเทคโนโลยีของพวกมันสูงพอสมควรยานอวกาศปกติไม่จำเป็นต้องใช้อะไหล่แบบนี้ มีเพียงยานอวกาศใหญ่พิเศษเท่านั้น..”
หานเซี่ยวตกตะลึง
หากเขาจำไม่ผิดมีเพียงเทคโนโลยีระดับกลุ่มดาวถึงต้องใช้อะไหล่ทั้งสามนี้…
เมื่อเชื่อมโยงปัจจัยเข้าด้วยกัน.คำสั่งซื้อที่บริษัทได้รับคือการสร้างยานหลักเกรดกลุ่มดาว?เหมือนยานหลักเกรดเพชรดาวของอารยธรรมผลึกม่วง?
นั่นเป็นกระบวนการผลิตที่เป็นความลับแม้กระทั่งอารยธรรมกลุ่มดาว!
หานเซี่ยวถูกล่อลวงเขาไม่ใช่ช่างกลสายอาวุธและมักขาดพิมพ์เขียวสำหรับเครื่องจักรใหญ่ ทั้งหมดที่เขามีคือป้อมปราการดาวเทียม หากเขาสามารถได้รับพิมพ์เขียวยานเกรดกลุ่มดาว มันคงสุดยอดมาก