The Legendary Mechanic – ตอนที่ 1013 คนดีของสังคม!

　　ปี้บ ปี้บ!
ขณะที่หานเซี่ยวมีความคิดไม่ชอบธรรมเหล่านี้ในหัว อุปกรณ์สื่อสารเขาก็ดังขึ้น มันเป็นสายจากทาราคอฟ
เมื่อเขารับสาย ใบหน้าแก่ๆก็ปรากฏบนจอด้วยรอยยิ้ม โดยไม่ทักทายแบบเป็นทางการ เขาก็เริ่มชมหานเซี่ยว
“แบล็คสตาร์ สุดยอดมาก ฉันชอบเมื่อนายเป็นคนเด็ดขาด”
องค์กรภายนอกไม่แน่ใจว่าใครอยู่เบื้องหลังองค์กรที่โจมตีอารยธรรมโมโด แต่จักรวรรดิรู้
“แล้วไม่ชอบฉันตอนอื่นแล้วงั้นหรอ?”หานเซี่ยวดูสงบ แต่กลับหัวเราะในใจ”อย่าลืมรักษาสัญญา ให้ทรัพยากรฉันตามตกลง”
การแก้แค้นอารยธรรมโมโดเป็นคำขอจักรวรรดิเช่นกัน จักรวรรดิวางแผนทำให้เป็นตัวอย่าง
เนื่องจากจักรวรรดิไม่อยากทำสิ่งที่ไม่เหมาะสม พวกเขาจึงหยิบยืมพลังของหานเซี่ยว แน่นอน พวกเขาไม่คิดปล่อยให้กองทัพทำงานฟรีและเซ็นสัญญาไว้นานแล้ว กองทัพแบล็คสตาร์จะรับผิดชอบการสั่งสอนอารยธรรมโมโดด้วยความรุนแรง และจักรวรรดิคริมสันจะชดเชยด้วยทรัพยากร
สำหรับจักรวรรดิ พวกเขากำลังจ้างพันธมิตรเพื่อโจมตีศัตรู สำหรับหานเซี่ยว เขากำลังรับเงินจักรวรรดิเพื่อทำภารกิจส่วนตัวขณะได้รับความดีความชอบไปในตัว
“ไม่ต้องห่วง เราไม่เคยผิดคำพูด”ทาราคอฟยิ้มก่อนถาม”นายมีแผนทำอะไรกับพวกเชลยของอารยธรรมโมโด?”
“ฉันจะเก็บพวกเขาไว้ในกองทัพเป็นกองกำลังคนลับและส่วนที่เหลือจะถูกส่งให้เผ่าคุนเด้”
ทาราคอฟพยักหน้าและเตือนหานเซี่ยว”ไม่ว่าจะยังไง อย่าลืมตัดวิธีการสื่อสารโลกภายนอกให้หมด”
“โอกาสที่จะฝ่ามาตรการที่ฉันวางไว้นั้นแทบเป็นศูนย์ ไม่ต้องกังวล”
“นายพูดถูก นายคือช่างกลเสมือนนี่ ฉันคิดมากไป”ทาราคอฟหัวเราะ”จริงๆแล้ว นั่นเป็นเหตุผลเดียวที่ฉันโทรมา แค่เตือนนาย…ยังไงซะ ก็ช่วยจัดหนักอารยธรรมโมโดหน่อยละ ฉันจะวางสายแล้ว”
จากนั้นเขาก็ยุติการสื่อสาร
การรบกวนเขาด้วยเรื่องเล็กน้อยนี่น่าจะเป็นการบอกเขาว่าจักรวรรดิรู้ทุกการเคลื่อนไหวของกองทัพแบล็คสตาร์ นี่คือการบอกเขาให้อย่ายุ่งกับใครนอกจากอารยธรรมโมโด การประชุมทวยเทพอาจเป็นปัจจัยที่ส่งผล
“จิ๊”
หานเซี่ยววางอุปกรณ์สื่อสารไปและเก็บเรื่องนี้ทิ้งไว้ในหัว　　ผู้เล่นทุกคนกำลังมุ่งตรงมาโลกริบหรี่ วงแหวนดาวกระจายอยู่ใกล้สุด มันคงใช้เวลาไม่นานสำหรับผู้เล่นกองทัพที่จะมา
เนื่องจากเวอร์ชั่นเพิ่งเปิดตัว ผู้เล่นคงต้องใช้เวลาสักพักเพื่อทำความคุ้นชิน
ในชีวิตก่อนหน้าเขา ผู้เล่นสู้กับกลุ่มตนเอง นอกจากเหตุการณ์สงครามระดับชาติแล้ว สาเหตุปกติของการต่อสู้คือความขัดแย้งของภารกิจและทรัพยากร ในสภาพแวดล้อมอย่างนี้ ชีวิตของผู้เล่นเดี่ยวจะยากขึ้น การรวกลุ่มกลายเป็นที่นิยม และผู้เล่นมากขึ้นเริ่มสร้างกิลด์
ตามสถิติอย่างเป็นทางการ จำนวนผู้เล่นกิลด์เพิ่มขึ้นอย่างทวีคูณในเวอร์ชั่นสี่ ยิ่งเวลาผ่านไป กิลด์ยิ่งมีมาก มีเหตุการณ์ดังเหตุการณ์หนึ่งที่ทำให้จำนวนกิลด์เพิ่มขึ้นอย่างรวดเร็วในระยะสั้น ด้วยกิลด์มืออาชีพของอเมริกาเพียงไม่กี่แห่งเป็นผู้นำเช่นสโมสรปีศาจ พวกเขาสร้างองค์กรอย่างเป็นทางการที่ได้รัยการยอมรับโดยโลกภายนอก จากนั้นก็ได้รับโอกาสหายากมากมายที่ผู้เล่นอื่นพยายามหามานาน ซึ่งทำให้พวกเขาเป็นที่ยอมรับ
หลังจากนั้น กิลด์ก็สำคัญต่อผู้เล่นมากขึ้น พวกเขาเริ่มรวมกันเป็นกลุ่มใหญ่ และกิลด์ก็เริ่มก่อตั้งพันธมิตรและองค์กรอย่างเป็นทางการ จากนั้นพวกเขาก็สร้างความร่วมมือกับองค์กรอื่นในจักรวาลผ่านธุรกิจและการฑูต
ด้วยเหตุนั้น ผลประโยชน์ของกิลด์จึงชัดเจนมาก พวกเขาสามารถได้รับทรัพยากรมากมายเมื่อเทียบกับผู้เล่นทั่วไป
ฟังก์ชั่นนี้มีอยู่ในเวอร์ชั่นก่อนๆด้วย แต่มันเพิ่งแสดงศักยภาพแท้จริงในเวอร์ชั่นสี่ นำไปสู่จุดเปลี่ยนในสายอาชีพผู้เล่น เหตุผลหลักคือการเพิ่มขึ้นของพลังผู้เล่นในเวอร์ชั่นสี่ อิทธิพลของพวกเขากระจายไปทั่วจักรวาล ซึ่งทำให้องค์กรที่พวกเขาสร้างถูกมองอย่างจริงจัง
“ตอนนี้ เพราะผลประโยชน์ที่ฉันกำลังมอบให้ผู้เล่นกองทัพมีประโยชน์สูงเกินไป ผู้เล่นของทุ่งดาวอื่นจึงอาจร่วมมือกันเพื่อยับยั้งจุดแข็งของผู้เล่นกองทัพ เมื่อทุกคนชินกับเวอร์ชั่นใหม่ ผู้เล่นกองทัพอาจเสียหายเล็กน้อย เหนือสิ่งอื่นใด มีหลายคนที่ต่อต้านเรา”
เนื่องจากผู้เล่นกองทัพมีข้อได้เปรียบ เขาจึงผลักดันมันเพิ่มเพื่อให้ผู้เล่นกองทัพมักนำหน้า
เดิม ผู้เล่นทุกคนต้องใช้เวลาสักพักเพื่อให้ชินกับเวอร์ชั่นก่อนเข้าสู่เวทีของการสร้างกิลด์และองค์กร ดังนั้นหานเซี่ยวจึงอยากปล่อยให้ผู้เล่นกองทัพเข้าสู่เวทีนั้นล่วงหน้า
นี่ต้องการการปรับเปลี่ยนในระบบ
หานเซี่ยวคิดสักพักก่อนเรียกฟิลลิปมา เขาคิดถึงระบบใหม่ที่เจาะจงกับผู้เล่น ซึ่งหมายถึงพวกอมตะ
*—————-
เหล่าคนที่ได้รับการเลื่อนตำแหน่งให้สูงขึ้นจากการทำผลงานหรือการเก็บแต้มสะสมและมาถึงเกรดBหรือเหนือกว่าจะได้รับอนุญาตให้สร้างทีมต่อสู้ประเภทใหม่ได้ ทีมจะต้องประกอบด้วยสมาชิกสองคนขึ้นไป ไม่จำกัดจำนวนสมาชิก สามารถเลือกชื่อหน่วยได้อย่างอิสระ หลังจัดตั้งทีมเช่นนั้น พวกเขาสามารถรายงานมันต่อกองทัพได้ ทุกๆเดือน ตามภารกิจที่ทำสำเร็จและแต้มสะสมที่สมาชิกทุกคนได้รับ พวกเขาจะได้รับแต้มความดีทีมพิเศษ
แต้มความดีทีมสามารถใช้เพื่อซื้อทรัพยากร รวมถึงอุปกรณ์ ความรู้และความสามารถได้ พวกมันยังมีการใช้งานสำคัญอย่างการซื้อตำแหน่งเพื่อจัดการธุรกิจต่างๆของกองทัพในนามกองทัพ ตลอดจนถึงการประมูลโครงการพิเศษบางอย่าง หรือแลกเปลี่ยนสิทธิขุดเหมืองบนดาวทรัพยากร
ไม่ใช่แค่นั้น แต่ด้วยแต้มความดีที่เพียงพอ พวกเขาสามารถเลือกกลายเป็นองค์กรย่อยภายใต้กองทัพแบล็คสตาร์และถือว่าเป็นกึ่งอิสระ สำหรับทีมเหล่านี้ แต้มความดีสามารถใช้เพื่อขอกำลังเสริมกองทัพ ใช้ชื่อของกองทัพเพื่อดำเนินการตามยุทธศาสตร์ทางกฏหมาย หรือส่งคำขอให้ทั้งสองฝ่ายทำงานร่วมกัน โดยพื้นฐาน พวกเขาจะถือเป็นองค์กรกึ่งอิสระที่เป็นพันธมิตรของกองทัพแบล็คสตาร์
“น่าจะประมาณนี้..”
จากนั้นหานเซี่ยวก็มองผ่านโครงสร้างหลักของระบบใหม่หลายครั้งและพยักหน้า
ระบบนี้จะทำให้กิลด์ของผู้เล่น’ถูกต้อง’
เดิม กิลด์จะมีอยู่ระหว่างผู้เล่นเท่านั้นและไม่เป็นที่ยอมรับโดยสังคมกาแล็กซี่ ตัวอย่างเช่น NPCไม่รู้ว่ากิลด์วิหารเทพเจ้ามีอยู่ หรือพวกเขาไม่รู้ว่าใครเป็นสมาชิก ระบบนี้จะทำให้กิลด์ของผู้เล่นเป็นที่ยอมรับโดยระบบกองทัพ ดังนั้นพวกเขาจึงกลายเป็นองค์กรอย่างเป็นทางการ
แบบนี้ กิลด์ของผู้เล่นจะกลายเป็นองค์กรที่มีอยู่จริงในจักรวาล　　การใช้แต้มความดีทีมจะส่งเสริมผู้เล่นกองทัพให้สร้างกิลด์โดยไม่ต้องคุ้นชินกับเวอร์ชั่น ไม่ต้องสงสัยว่าต้องมีหลายคนลองสิ่งนี้ โดยเฉพาะสโมสรใหญ่
ในช่วงเวอร์ชั่นสี่ในชีวิตก่อนหน้าเขา มักมีผู้เล่นที่ออกกองกำลังNPCเพื่อสร้างองค์กรตน แต่ด้วยระบบใหม่นี้ อย่างน้อยมันก็ช่วยลดความต้องการของผู้เล่นลงได้มาก
แน่นอน ราคาไม่ใช่ถูกๆ อย่างไรก็ตาม บางครั้งการมอบอิสระให้ผู้เล่นก็เป็นหนทางที่ต้องทำ
ด้วยพลังที่มากขึ้น วิธีการดูแลพวกเขาจึงต้องพัฒนาขึ้นด้วย หานเซี่ยวไม่ใช่เจ้านายชั่ว เขามอบผลประโยชน์ให้ผู้เล่นมากพอ
เวอร์ชั่นสี่คือจุดเปลี่ยนสำหรับผู้เล่น จากนี้เป็นต้นไป ผู้เล่นยากจะควบคุม พวกเขาจะเริ่มแพร่กระจายเมล็ดพันธุ์แห่งอนาธิปไตยไปยังทุกหนแห่ง ไม่มีทางที่เขาจะสามารถควบคุมผู้เล่นได้มากเท่าเวอร์ชั่นก่อนหน้า
เขาวางแผนเปลี่ยนแปลงเมื่อนานมาแล้วมอบโอกาสให้ผู้เล่นรับทรัพยากรมากขึ้น จากนั้นเขาถึงสามารถทำให้ผู้เล่นทำงานเพื่อเขาต่อได้อย่างเต็มใจ
ขณะเดียวกัน ระบบนี้ยังดึงดูดผู้เล่นต่างชาติได้อีกด้วย
มันคือการฆ่านกสองตัวด้วยหินก้อนเดียว
“นายท่าน ฮึ่ม…ท่านแน่ใจหรือว่าจะใช้ระบบใหม่นี้?’
ฟิลลิปที่เป็นภูตตัวน้อยนั่งบนไหล่ของหานเซี่ยวด้วยตากลมโตเป็นประกายและมองแก้มหานเซี่ยว ขาเล็กๆส่ายไปมาในอากาศ
“ประกาศตัวอย่างก่อน’หานเซี่ยววางแผนใช้ระบบนี้อย่างเป็นทางการเมื่อผู้เล่นมาถึงโลกริบหรี่
“ครับ ฮึ่ม..”
หานเซี่ยวหยุด คิดถึงบางสิ่ง”ไม่นานมานี้ ฉันได้ศึกษาโครงสร้างตรรกะของริสด้าและมีแนวคิดใหม่ ฉันจะอัปเดทข้อมูลนายเพื่อเพิ่มความเร็วของนาย” 　　เมื่อได้ยิน ดวงตาของฟิลลิปก็เป็นประกาย บินมาตรงหน้าหานเซี่ยว กอดจมูกเขาและจ้องตาเขา
“ฟิลลิปรักนายท่านที่สุด!”
“หยุดทำตัวน่ารัก”หานเซี่ยวเลิกคิ้ว ดีดฟิลลิปออกจากจมูกเขา
…
ข่าวเกี่ยวกับการสูญเสียครั้งสำคัญของอารยธรรมโมโดแพร่กระจายในโลกริบหรี่ หลายองค์กรพูดถึงเรื่องนี้เป็นการส่วนตัว อารยธรรมกลุ่มดาวชั้นยอดอื่นได้ยินเรื่องนี้เช่นกัน
หลายอารยธรรมกลุ่มดาวชั้นยอดประชุมกันทันที
“จักรวรรดิน่าจะเป็นคนที่โจมตีโมโด เราไม่คิดว่าทั้งสองจะเริ่มสู้กันเร็วขนาดนี้”
“หรือนี่อาจเป็นก้าวแรกของแผนการจักรวรรดิเพื่อโจมตีอารยธรรมกลุ่มดาวชั้นยอดอย่างเรา
“ไม่เหมือนเลย มันดูเหมือนจะเป็นเรื่องส่วนตัวระหว่างจักรวรรดิกับโมโด”
“อืม หลังเราผ่านระยะแรกและสองไปได้ เราควรช่วยโมโดตอนเราสามารถ เราต้องไม่ปล่อยให้จักรวรรดิจัดการเขาแบบนั้น”
ดังที่พวกเขารู้ สามอารยธรรมจักรวาลไม่มีทางปล่อยให้พวกเขาพัฒนาอย่างสะดวกสบายในโลกริบหรี่ อารยธรรมกลุ่มดาวชั้นยอดส่วนใหญ่ได้จัดตั้งพันธมิตรกันลับๆเพื่อต่อกรกับสามอารยธรรมจักรวาลด้วยกัน
ขณะที่โมโดถูกโจมตี ตามเงื่อนไขการเป็นพันธมิตรของพวกเขา อารยธรรมกลุ่มดาวชั้นยอดอื่นต้องตัดสินใจช่วยเหลือเมื่อมันเหมาะสม
แม้นี่จะดูไม่เกี่ยวข้องกับพวกเขา แต่พันธมิตรอารยธรรมกลุ่มดาวชั้นยอดก็ไม่อยากให้จักรวรรดิมีโอกาสทำลายพวกเขาทีละคน แม้อารยธรรมโมโดจะเป็นคู่แข่งพวกเขา แต่การต่อสู้กับแรงกดดันของสามอารยธรรมจักรวาลคือสิ่งสำคัญสุดในสายตาพันธมิตรกลุ่มดาวชั้นยอด ดังนั้น พวกเขาจึงต้องช่วยเหลือคู่แข่ง จากนั้นพวกเขาถึงสามารถเอาชนะการคุกคานของสามอารยธรรมจักรวาลได้
….
ด้วยความช่วยเหลือจากกองทัพและจักรวรรดิ ไม่มีพยานพบเห็นผู้โจมตี หลังผ่านไปหลายวัน กองยานแบล็คสตาร์ที่โจมตีอารยธรรมโมโดก็นัดพบกันและกลับไปกลุ่มดาวการูผ่านเส้นทางลับ เชลยที่ถูกเลือกถูกส่งไปดาวเผ่าคุนเด้ในระบบดาวโอโดราน
ด้วยความช่วยเหลือจากกองทัพแบล็คสตาร์ ดาวอาณานิคมทุกดวงมีเมืองมากมาย พวกเขาไม่ขาดแคลนทรัพยากรเลย Aileen-novel
เผ่าคุนเด้สงบสุขมานานกว่าสิบปี แม้จะยังไม่ฟื้นคืนดี หลายคนก็เลือกมีความสุขกับชีวิตใหม่
ในอดีต การสื่อสารจากดาวอาณานิคมทุกดวงเหล่านี้ต่อโลกภายนอกถูกขวางกั้น พลเรือนของดาวทำได้แค่เข้าเครือข่ายดาวตัวเอง ดังนั้น พวกเขาจึงไม่รู้ว่าเกิดอะไรขึ้นนอกดาวพวกเขาเลย มันเหมือนกับการติดอยู่บนเกาะ
กองทัพและจักรวรรดิได้ควบคุมช่องทางสื่อทั้งหมดและไม่ยอมให้มีบริษัทสื่อพลเรือนเข้าไป สมาชิกเผ่าคุนเด้ทำได้แค่ยอมรับการเปลี่ยนแปลงทางวัฒนธรรมจากจักรวรรดิในรูปแบบของวรรณกรรม ดนตรีและความบันเทิงเท่านั้น แหล่งความบันเทิงต่างๆจะค่อยๆเปลี่ยนวิธีคิด
การอยู่อย่างสงบสุขและไม่มีโอกาสต่อต้าน พวกเขาไม่สามารถทำอะไรได้แม้จะโกรธ หลายคนทำได้แค่ยอมรับชะตากรรม
แต่วันนี้ ช่องรายการที่เล่นทุกวันกลับประกาศข่าวที่ทำให้สมาชิกเผ่าคุนเด้ตัวสั่นสะท้าน
ท่านแบล็คสตาร์รักษาสัญญาว่าจะล้างแค้นให้เผ่าคุนเด้ และตอนนี้เขาก็จับเชลยของผู้อยู่เบื้องหลังโศกนาฏกรรมพวกเขามา คนเหล่านี้จะถูกส่งมาในไม่ช้า　　ข่าวชิ้นนี้ทำให้เกิดความฮือฮา!
เผ่าคุนเด้รุ่นนี้ไม่สามารถต้านทานได้ แต่พวกเขาไม่ลืมความเกลียดชัง เทียบกับจักรวรรดิ พวกเขาเกลียดคนที่ใช้เผ่าคุนเด้มากกว่า
เมื่อใกล้ถึงวัน สมาชิกเผ่านับไม่ถ้วนก็มาถึงท่าจอดก่อนกำหนดและแหงนมองฟ้า รออย่างใจจดใจจ่อ
หวือ!
ยานอวกาศทะลุชั้นบรรยากาศมากขึ้น ลงจอดอย่างรวดเร็ว
เมื่อประตูเปิด กลุ่มนักรบกองทัพก็พาเชลยออกมา
เชลยที่ถูกส่งมาได้รับการคัดกรองแล้ว ไม่มีทหารแกร่งๆ พวกเขาสวมชุดนักโทษทั่วไป พวกเขาไม่มีภัยคุกคาม
เผ่าคุนเด้ล้อมพวกเขาไว้ เมื่อเชลยเห็นสิ่งมีชีวิตดุร้ายรอบตัวพวกเขา พวกเขาก็รู้สึกประหม่าอย่างควบคุมไม่ได้　　“นี่คือดาวอะไร?ทำไมเราถึงถูกส่งมานี่?”
“สิ่งมีชีวิตเหล่านี้คืออะไร?สัตว์ร้าย?”
“พวกมันสวมเสื้อผ้า พวกมันมีสติปัญญา”
“ทำไมถึงจ้องเรา?มันดูน่ากลัว”
การใช้เผ่าคุนเด้เป็นความลับเฉพาะคนระดับสูงที่รู้ แน่นอน ทหารทั่วไปไม่รู้ หลายคนไม่รู้จักสายพันธุ์นี้เลย พวกเขาไม่รู้ว่าทำไมสิ่งมีชีวิตเหล่านี้ถึงจ้องพวกเขา
ครั้งนี้ ก้อนหินบินมาจากฝูงชน ใส่หัวเชลย
ปึก!
เชลยคนนี้ร้องและรีบกุมหัว
ก่อนเพื่อนคนอื่นจะได้ตอบสนอง วัตถุนับไม่ถ้วนก็บินจากฝูงชนและโยนใส่เชลยทั้งหมด
เสียงครวญครางและเสียงโหยหวนดังขึ้น เชลยเลือดไหล นักรบกองทัพแบล็คสตาร์เฝ้ามองอย่างเย็นชาจากด้านข้าง หลังพวกเขาถูกโจมตีสักพัก ในที่สุดพวกเขาก็ใช่ม่านพลังเพื่อกันหิน
แม้จะไม่มีผู้เสียชีวิต เชลยก็ยังหวาดกลัว
“ทำไมพวกเขาถึงทำร้ายเรา?!”
“ทำไมกองทัพแบล็คสตาร์ถึงส่งเรามาที่นี่?”
พวกเขาเอะอะโวยวาย ขณะมองไปรอบๆด้วยความหวาดกลัว สุดท้ายพวกเขาก็เข้าใจสายตาสมาชิกเผ่าคุนเด้ เต็มไปด้วยความเกลียดชังและโกรธแค้น
ครั้งนี้ นักรบกองทัพแค่นเสียงเย็น’พวกเขาคือเผ่าคุนเด้ อารยธรรมพื้นเมืองของโลกริบหรี่ ในช่วงการสำรวจระยะสอง อารยธรรมโมโดลอบใช้เผ่าคุนเด้ ยั่วยุพวกเขาให้สู้กับจักรวรรดิ ทำให้เผ่าคุนเด้ถูกกำจัด จงอยู่ที่นี่เพื่อชดใช้บาปซะ”
หลังได้ยิน เชลยก็เงียบไปพร้อมเบิกตากว้าง
ส่งเรามายังดินแดนของคนที่เกลียดเรา..พวกแกกำลังใช้เราเพื่อระบายความโกรธ!
เราถูกไว้ชีวิต แต่นี่เลวร้ายยิ่งกว่าความตาย!
ระ-เราจบแล้ว!’
เชลยหดหู่มาก พวกเขาไม่กล้าแหงนมองขณะถูกผลักไปข้างหน้าเพื่อขึ้นรถขนส่งไปเรือนจำ
ยานพาหนะค่อยๆออกจากท่าจอด ตั้งแต่ต้นจนจบ เผาคุนเด้มักจ้องเชลย
ฝูงชนไม่สลายหายไป หลังจากนั้นไม่นานก็มีคนพูด
“แบล็คสตาร์สัญญาว่าจะนำความยุติธรรมกลับคืนมาให้เรา มันคือเรื่องจริง…”
“แบล็คสตาร์รักษาสัญญาเขา”
“ฉันเข้าใจเขาผิด กลายเป็นว่าเขาเป็นคนที่สูงส่งมาก”
เผ่าคุนเด้รู้สึกแบบนี้
ในช่วงทศวรรษที่ผ่านมากองทัพแบล็คสตาร์จัดการดาวและให้ทรัพยากรกับพวกเขา ร่วมกับการโปรโมทในสื่อ เผ่าคุนเด้จึงคุ้นชินกับกองทัพ
ในแง่ของอารมณ์ เผ่าคุนเด้ไม่เกลียดกองทัพแบล็คสตาร์มากนัก แต่มีแค่ไม่กี่คนที่เชื่อคำพูดของหานเซี่ยว
เหนือสิ่งอื่นใด เผ่าคุนเด้เป็นแค่กลุ่ม’นักโทษ’ที่ไม่สามารถสู้กลับ ทำไมแบล็คสตาร์ต้องมาเสียเวลาเพื่อพวกเขา?หลังผ่านมากว่าสิบปี พวกเขาคิดว่าเขาลืมไปแล้ว
แต่ทว่า หานเซี่ยวพิสูจน์ให้เห็นแล้วว่าเขาไม่ได้ล้อเล่น
ในสายตาเผ่าคุนเด้ แบล็คสตาร์กลายเป็นความหวังเดียว
ขณะที่ตกใจและประหลาดใจ ความรู้สึกซาบซึ้งใจยังเอ่อล้น
แบล็คสตาร์เป็นคนดีมาก!