กระบี่สะบั้นเก้าสวรรค์ ตอนที่ 78 อันดับที่ 1 ?
ตอนที่ 78 อันดับที่ 1 ?
เมื่อไม่นานนี้เจียงไปอ เต็มเปี่ยมไปด้วยความมั่นใจ เขาประกาศกร้าวว่าจะเอาชนะจี้เทียนซิงต่อหน้าสาธารณะชนเพื่อพิสูจน์ว่าเขาเป็นอัจฉริยะที่แท้จริง
แต่ตอนนี้ผลที่ปรากฏออกมาจี้เทียนซิงไร้รอยขีดข่วนแต่ผู้ ประกาศก้องกลับเต็มไปด้วยบาดแผลและร่างกายชุ่มโชกไปด้วยโลหิต
เมื่อเขาปฏิเสธยอมแพ้ก็ถูกจี้เทียนชิงถีบจนตกเวทีในพริบ
ตา
น่าละอายอะไรขนาดนี้ !
ผู้คนนับหมื่นในจัตุรัสและจอมยุทธ์นับไม่ถ้วนต่างก็ได้เป็นประจักษ์พยานในเหตุการณ์นี้
นับจากวันนี้ไปเรื่องนี้จะแพร่กระจายไปทั่วเมืองจักรวรรดิและรัฐนภากระจ่างอย่างแน่นอน เจียงไป๋อ จะกลายเป็นตัวตลกของทุกคน !
ผู้คนนับหมื่นในจัตุรัสต่างก็พูดคุยกันถึงเรื่องนี้ สายตาของทุกคนที่มองจี้เทียนซึ่งเต็มไปด้วยความตกใจและเหลือเชื่อ
ในเวลานี้เองฮั่นเฉียวเซิงก็เดินขึ้นไปที่เวทีและประกาศผลการต่อสู้ออกมา
เจียงไปื้อพ่ายแพ้สูญเสียหน้าและถูกคัดออก ส่วนจี้เทียนชิงเข้าสู่สิบอันดับแรกและมีคุณสมบัติเข้าร่วมนิกายหนุนสวรรค์เป็นที่เรียบร้อย !
ชายหนุ่มเดินลงจากเวทีและกลับไปหาองค์หญิงน้อย
จี้เค่อกระโดดโลดเต้นอย่างมีความสุข ดวงตาของนางเต็มไปด้วยความตื่นเต้นยินดี
“พี่ใหญ่เทียนซิง ท่านน่าเหลือเชื่อยิ่งนัก เวิชากระบี่ที่ใช้ร่ายําเมื่อครู่นั้นคืออะไร ? มันยอดเยี่ยมมากเลย !”
จี้เทียนซิงเผยยิ้มบางและไม่ได้อธิบายอะไร
จี้เค่อเกาะแขนชายหนุ่มและกล่าวด้วยความยินดีว่า “ยอดเลยพี่ใหญ่เทียนซิง ในที่สุดท่านก็สมมาดปรารถนา ท่านมีคุณสมบัติเข้าร่วมนิกายหนุนสวรรค์แล้ว !”
“พวกเราทั้งคู่ผ่านการทดสอบไปได้ นี่คือเป้าหมายระยะยาวและความฝันของข้าเช่นกัน ข้าไม่คิดจะจับเจ่าเป็นองค์หญิงในเมืองนี้ไปตลอดชีวิต !”
เทียนซิงยิ้มอย่างอ่อนโยนและเอื้อมมือไปจับวงหน้าเนียนของนางพลางกล่าวว่า “เค่อเค่อ ต่อไปนี้เจ้าต้องเรียกข้าว่าศิษย์พี่แล้วนะ”
“อื้ม !” องค์หญิงน้อยพยักหน้ารัวเป็นไก่จิก ดวงตาที่แจ่มใสก็แสดงความคาดหวังอย่างล้ําลึก
จากนั้นคู่อื่นๆก็เริ่มการประลองอย่างดุเดือดเพื่อชี้ขาดสิทธิ์ที่เหลือ และเมื่อผ่านไปประมาณหนึ่งชั่วโมง อีกห้าคู่ก็ประลองเสร็จสิ้น
ฮั่นเฉียวเชิงเดินกลับขึ้นไปบนเวทีเพื่อประกาศสรุปผลสุดท้าย “เอาล่ะ ตอนนี้การประลองทั้ง 10 คู่ก็ครบหมดแล้ว มีจอมยุทธ์รุ่นเยาว์ 10 คนที่ผ่านการคัดเลือกและมีคุณสมบัติเข้าสู่ประตูนิกายของเรา !”
ฮั่นเฉียวเชิงอ่านรายชื่อทั้งสิบคนและทั้งสิบคนนี้นับว่าเป็นศิษย์นิกายหนุนสวรรค์ไปแล้ว
รอบเวทีฝูงชนต่างพูดคุยกันในทันที บางคนมีความสุขบางคนเต็มไปด้วยความเสียใจและก็มีบางคนที่แสดงสีหน้าซับซ้อนออกมา
เดิมที่ผู้ชมนับหมื่นต่างคิดว่าเจียงไปอจะต้องติดหนึ่งในสิบอันดับและได้เข้าสู่นิกายหนุนสวรรค์อย่างแน่นอน
ท้ายที่สุดแล้วเขาก็เป็นถึงหนึ่งในสิบอัจฉริยะของรัฐนภากระจ่าง ย่อมไม่มีผู้ใดคิดว่าเขาจะได้พบกับจี้เทียนซิงและพ่ายแพ้อย่างหมดรูป
ก่อนหน้านี้ทุกคนต่างเยาะเย้ยถากถางต่อขยะไร้ค่าอย่างงี้เทียนซิงที่พลังถดถอยไปอยู่ในระดับปรับแต่งกายาจนไม่ผ่านการทดสอบพลังเบื้องต้น ทว่า เพียงผ่านไปสองเดือนขยะที่ผู้คนก้นด่ากลับทะยานขึ้นมาอย่างเหนือชั้นและในที่สุดก็ผ่านการคัดเลือกจนมีคุณสมบัติเข้าสู่นิกายหนุนสวรรค์
นี่เป็นเหตุการณ์ครั้งใหญ่ซึ่งเกินความคาดหมายของทุกคน
นอกจากนี้ยังมีบุคคลอีกผู้หนึ่งที่เป็นม้ามืดจนทุกคนคาดไม่
องค์ชายน้อยจี้หลิง !
ไม่มีใครคาดคิดว่าองค์ชายน้อยผู้ตันเถียนพิการแต่กําเนิดจะกลายเป็นสุดยอดฝีมือจนผ่านเข้าร่วมนิกายหนุนสวรรค์ได้สําเร็จ
เขาไม่เพียงแค่ฟื้นฟูตันเถียนที่พิการได้ แต่ยังสามารถเอาชนะจอมยุทธ์เขตแดนต้นกําเนิดแท้จริงขั้นที่สี่ได้โดยไร้รอยขีดข่วน !
ความโดดเด่นของเขานับเป็นปาฏิหาริย์ที่คาดไม่ถึงอย่างแท้จริง !
ผ่านไปอีกครู่หนึ่ง เสียงสนทนาเซ็งแซ่ของฝูงชนก็ค่อยๆลดลง ฮันเฉียวเชิงจึงประกาศออกมาอีกครั้งว่า “ถึงแม้ว่าการคัดเลือกครั้งสุดท้ายจะสิ้นสุดลงแล้ว จอมยุทธ์ทั้งสิบอันดับจะกลายเป็นศิษย์ของนิกายเรา แต่ทว่า เรายังมีการประลองรอบที่สามเพื่อจัดอันดับความแข็งแกร่งของจอมยุทธ์ทั้งสิบคน”
“ซึ่งการจัดอันดับนี้จะมีผลในการได้รับการดูแลแตกต่างกันไปตามอันดับของพวกเจ้า ยิ่งอันดับสูงเท่าไหร่หลังจากเข้านิกายไปแล้วก็จะยิ่งได้รับการดูแลและทรัพยากรบ่มเพาะที่ ดีมากยิ่งขึ้นโดยเฉพาะอันดับแรกจะได้รับการดูแลเป็นพิเศษ!”
คําพูดของฮั่นเฉียวเชิงได้จุดประกายเลือดลมของเหล่าจอมยุทธ์รุ่นเยาว์ทั้งสิบให้พุ่งพล่านขึ้นมาทันใด
ผู้ใดบ้างที่ไม่ต้องการเป็นอันดับหนึ่งและได้กลายเป็นศิษย์หลักของนิกายหนุนสวรรค์ ?
นี่เป็นโอกาสที่ดีอย่างยิ่ง โอกาสที่จะทะยานสู่ท้องฟ้า !
จอมยุทธ์รุ่นเยาว์ทั้งสิบคนกําหมัดแน่น ในใจเต็มเปี่ยมไปด้วยเจตนาต่อสู้อันรุนแรง
แม้กระทั่งเทียนซิงผู้สงบเยือกเย็นมาตลอดก็ไม่มีข้อยกเว้น
เขาตัดสินใจแน่วแน่แล้วว่าจะต้องได้อันดับหนึ่ง
ไม่เพียงแค่คว้าสิทธิ์เข้าร่วมนิกาย แต่เขาจะเข้าสู่นิกายด้วยอันดับหนึ่ง !
ด้วยวิธีนี้เขาอาจจะได้เป็นศิษย์หลักและได้รับการสนับสนุนจากนิกาย จนวันหนึ่งกลายเป็นยอดฝีมือที่ไร้เทียมทานอย่างหยุนเหยาได้ในอนาคต !
ในเวลานี้ชั่นเฉียวเชิงก็กล่าวต่อไปว่า “กฏของรอบที่สามนั้นจะพิเศษกว่าสองรอบแรก ข้าจะไม่ใช้การจับสลากอีกต่อไปแต่เปลี่ยนเป็นใช้ระบบท้าทาย !”
“ผู้ใดก็ตามที่คัดค้านอันดับของผู้อื่นจะสามารถท้าทายคนๆนั้นได้ หากผู้ท้าทายเป็นฝ่ายชนะจะได้อันดับของผู้ที่แพ้ไป แทนที่หากล้มเหลวอันดับจะคงเดิม”
กฏของรอบที่สามนั้นค่อนข้างง่ายและทุกคนเข้าใจมัน
จากนั้นฮั่นเฉียวเซิงก็ได้ประกาศผลการจัดอันดับของจอมยุทธ์ทั้งสิบคน
“อันดับที่หนึ่ง จี้หลิง !”
“อันดับที่สอง เจี้ยนหรู่เชิง!”
“ อันดับสาม จี้เทียนชิง!”
“ อันดับที่สี่ เว่ยหลิงเฟิง!”
“ อันดับที่ห้า…”
“ อันดับที่แปด จี้เค่อ !”
“ อันดับเก้า…”
หลังจากที่ฮั่นเฉียวเชิงประกาศผลการจัดอันดับ ผู้คนนับหมั่นในจัตุรัสก็กลายเป็นเดือดพล่าน
ทุกคนต่างก็ตกใจและสับสน พวกเขาเต็มไปด้วยความสงสัยและสิ่งที่ไม่อาจทําความเข้าใจได้
“องค์ชายน้อยจี้หลิงอยู่อันดับหนึ่ง ?! เรื่องนี้เป็นไปได้อย่างไร ?”
“นั่นสิ ถึงองค์ชายน้อยจะเอาชนะหรู่หลงที่มีพลังที่ขั้นที่สี่ได้อย่างง่ายดาย แต่พระองค์ก็ยังไม่ได้ประลองกับเจี้ยนหวู่เชิงด้วยซ้ํา เหตุใดพระองค์ถึงได้อันดับแรก ?”
“เรื่องนี้นับว่าแปลกพิลึก ศิษย์สาวกของนิกายหนุนสวรรค์ได้ชื่อว่าถูกต้องเที่ยงธรรมเสมอและไม่เคยเอนเอียงให้ผู้ใดแม้จะเป็นราชวงศ์ ข้าเดาว่าองค์ชายน้อยต้องเก็บงําพลังยุทธ์ไว้เป็นแน่ !”
“กระทั่งจี้เทียนซิงยังสามารถครองอันดับสามได้งั้นหรือ ?การจัดอันดับมีปัญหาแน่แล้ว !”
“ข้าคิดว่าจี้เทียนชิงได้อันดับสามนับว่าสมควรแล้ว เขามีเคล็ดวิชากระบี่พิสดารนั่นและเอาชนะเจียงไปอ ได้อย่างง่ายดาย…”
“เหอๆ พวกเจ้าคิดว่าพวกเขาจะพอใจกับการจัดอันดับนี้หรือ ? คอยดูไปก่อนเถอะ ต้องมีการแสดงอันยอดเยี่ยมให้พวกเราได้เห็นในภายหลังแน่ !”
การโต้แย้งและถกเถียงของฝูงชนนับหมื่นกลายเป็นคลื่นเสียงที่กระจายไปทั่วทั้งบริเวณ
จอมยุทธ์ทั้งสิบคนต่างก็มีสีหน้าที่ซับซ้อนเช่นกัน เห็นได้ชัดว่าพวกเขาไม่พอใจกับการจัดอันดับนี้ พวกเขากระสันที่จะท้าทายผู้มีอันดับสูงกว่า!
เมื่อฮั่นเฉียวเชิงประกาศเริ่มต้นการประลองรอบที่สาม คนผู้หนึ่งก็กระโดดขึ้นมาในลานประลองทันที
คนผู้นี้สวมอาภรณ์สีดําและมีรอยแผลกระบีบนใบหน้ามันก็คือเจี้ยนหรู่เชิงผู้ครองอันดับสองในขณะนี้นั่นเอง !
นับตั้งแต่ที่จี้เทียนซิงสูญเสียพลังฝีมือจนกลายเป็นชนชั้นปรับแต่งกายา มันจึงได้รับการยอมรับว่าเป็นอัจฉริยะอันดับหนึ่ง
แต่ตอนนี้องค์ชายน้อยจี้หลิงกลายเป็นอันดับหนึ่งแทน ส่วน มันกลายเป็นที่สอง ซึ่งในบรรดาจอมยุทธ์ทั้งสิบคน มันเป็นค นที่ไม่พอใจมากที่สุด !
ดังนั้นการที่มันกระโดดขึ้นมากลางลานประลองและเริ่มท้าทายเป็นคนแรกนั้นไม่มีผู้ใดรู้สึกแปลกใจ
เจี้ยนหรู่เชิงยืนอย่างผ่าเผยกลางลานประลองและสาดสายตาเย็นชาจับจ้องไปที่องค์ชายน้อยจี้หลิง มันตะโกนออกมาด้วยเสียงต่ําว่า “ข้าน้อยเจี้ยนหรูเชิงขอท้าทายองค์ชายจี้หลิงขอพระองค์โปรดชี้แนะด้วย !”