The Legendary Mechanic – ตอนที่ 1020 ทำได้แค่โทษตัวเอง

ทุกคนมีทางรอดของตัวเอง ในสายตาองค์กรชั้นนำ โซโรคินคือการดำรงอยู่ที่น่าอัศจรรย์
เห็นได้ชัดว่าเขาถูกจ้างโดยสหพันธ์ ศาสนจักรและตลาดมืดกาแล็กซี่ แต่เขาก็ยังสามารถเป็นคนกลางขององค์กรทรงอิทธิพลเหล่านี้ทั้งหมดได้
ภายใต้การจัดการเขา การทดสอบของโกรูตันส่งไปถึงสหพันธ์กับศาสนจักรอย่างรวดเร็ว ดึงดูดความสนใจของพวกระดับบน ผู้จัดการประชุมแบบเร่งด่วน
ฐานหลักของศาสนจักรตั้งอยู่ในกลุ่มดาวอื่นภายในเขตแข่งขันเสรี ครั้งนี้ ภาพฉาของผู้อยู่เหนือส่วนใหญ่ที่เกี่ยวกับศาสนจักรและเหล่าบาทหลวงกับเจ้าหน้าที่คนสำคัญต่างมากันครบ
หลังเผยแพร่ข่าวของฮีล่า ทุกคนก็มีสีหน้าเปลี่ยนแปลงไปอย่างเห็นได้ชัด　　โทเลนดีดตัว ใบหน้าเขาขาวซีด”ความสามารถเอสเปอร์ของฮีล่าสามารถลดอายุขัยของผู้อยู่เหนือได้?!”
เขาไม่ใช่นักสู้ เขาจึงไม่มีความสามารถมองลึกไปในเซลล์เขา ก่อนการประชุมนี้ เขาไม่รู้ว่าเกิดอะไรขึ้นกับเขา!
ไม่เพียงเขาจะแพ้ฮีล่า เขายังสูญเสียชีวิตไปหลายปี นี่เป็นการสูญเสียครั้งใหญ่!
โทเลนรู้สึกเสียใจ ทำไมเขาถึงโชคร้ายขนาดนี้?
การต่อสู้จะลดอายุขัย ใครกันที่อยากทำแบบนั้น?แม้แต่คนบ้าก็ยังต้องคิดซ้ำสอง!ถ้าเขารู้ เขาจะไม่ตกลงรับการประลอง ไม่ ถ้าเขารู้ เขาคงไม่คิดไปหาจักรพรรดินีมังกรด้วยซ้ำ!
ฉันกำลังจะปิดประตูบ่มเพาะ…
ทุกคนมองเขาด้วยสายตาสงสาร ซึ่งกินเวลาประมาณสามวินาที จากนั้นก็ไม่สนใจเขาอีก　　“ฉันไม่คิดว่าผู้อยู่เหนือใหม่จะมีความสามารถพิศดารถึงขนาดนี้ นี่คล้ายกับพลังความตายบนรายชื่อความสามารถเอสเปอร์ความเสี่ยงสูง”นักล่าดวงอาทิตย์นั่งอยู่“ฉันจำได้ว่านี่คือความสามารถของหนึ่งในบรรพชน แต่ตอนนี้มันกลับปรากฏขึ้นอีกครั้ง”
“ถูกต้อง ฉันยังจำไฟล์ได้ พวกเธอชื่ออะไรนะ…”
คาซูยิตัดบท”เนอร์คีส ผู้ควบคุมควาตาย เธอมีพี่สาวที่ถูกเรียกขานว่าเป็นมารดาของทุกสรรพสิ่ง เธอสามารถกระจายพลังชีวิตของเธอให้สิ่งมีชีวิตใดก็ได้”
“ใช่ ใช่ สองคนนั้น!พวกเธอเป็นบรรพชนที่โด่งดังมาก ถือกำเนิดจากอารยธรรมที่ต่างกัน แม้จะไร้ความสัมพันธ์ทางสายเลือด แต่ก็ดันมีชะตาข้องเกี่ยวกันภายในจักรวาลอันกว้างใหญ่ ความสามารถเอสเปอร์ของทั้งคู่สอดคล้องกัน ทำให้ทั้งคู่กลายเป็นพี่น้องกันโดยไม่มีสายเลือดผูกมัด…อ้า!ช่างเป็นตำนานที่เผยให้เห็นถึงบรรยากาศของยุคสำรวจสมบูรณ์แบบยิ่ง”ผู้อยู่เหนือคนหนึ่งรำพง
ชื่อของเขาคือลอว์เรนซ์ เขามีสายอาชีพย่อยของศิลปิน เขามักแต่งกายอย่างมีสีสัน
“เอ๊ะ?พวกเธอไม่ใช่พี่น้องทางสายเลือดงั้นหรอ?”หนึ่งในนั้นเกาหัว
“นั่นไม่จริง หลังผ่านมาหลายปี ตำนานถูกบิดเบือน สิ่งที่เก็บไว้ในฐานเราคือความจริง”หนึ่งในเจ้าหน้าที่อาวุโสแสดงความคิดเห็น”ท่านทั้งหลาย เราจะกลับเข้าเรื่องของฮีล่ากันได้หรือยัง?”
‘บุตรแห่งแสง’ แซ็กแมนพยักหน้า”พลังความตายคือความสามารถเอสเปอร์ความเสี่ยงสูงที่สามารถเก็บเกี่ยวสิ่งมีชีวิตได้ง่ายๆ ถ้าเรานั่งเฉยดูฮีล่าเติบโต เมื่อเธอหลุดการควบคุมอย่างพันเงา นั่นจะเป็นหายนะของทั้งจักรวาล”
“นี่เป็นเรื่องรอง ปัญหาใหญ่สุดคือ..เธออยู่ภายใต้กองทัพแบล็คสตาร์ ซึ่งเป็นศัตรูเรา” ‘จิตวิญญาณทะเล’ดีแลนกัดฟัน　　“ความสามารถเช่นนี้อันตรายมาก ถ้าไม่ควบคุมให้ดี เมื่อฮีล่าเติบโต เราจะต้องกังวลเรื่องดังกล่าวเมื่อเราจัดการกับกองทัพแบล็คสตาร์” ‘ประตูโลก’เทย์เลอร์กล่าวเสริม
พวกเขาต่างเข้าร่วมการต่อสู้บนดาวประภาคารและเสียหายอย่างหนัก พวกเขามีความเป็นศัตรูต่อกองทัพแบล็คสตาร์และมักอยากตบแบล็คสตาร์คืนเสมอ
ไซเคอร์คิดสักพักก่อนพยักหน้า”ถูกต้อง สำหรับเรา การลดอายุขัยน่ากลัวมาก”
นักล่าดวงอาทิตย์มองเขา”ฉันไม่คิดว่านายต้องมากังวลถึงปัญหานี้นะ”
“เอ๊ะ?”ไซเคอร์ผงะ”หมายความว่ายังไง?”
“ตามพลังที่ฮีล่าแสดงตอนสู้กับโกรูตัน ถ้านายสู้กับเธอ นายคงตายแน่ ดังนั้น การลดอายุขัยไม่ควรเกี่ยวกับนาย”
“…”
ไซเคอร์รู้สึกถึงความชั่วร้ายของโลกใบนี้และหันไปมองโทเลนที่กำลังจะปิดประตูบ่มเพาะ
“หยุดเล่นได้แล้ว”คาซูยิพูดขึ้น หันไปทางเจ้าหน้าที่”เบื้องบนมีความคิดเห็นอย่างไร?”
เจ้าหน้าที่สบตากันก่อนหนึ่งในนั้นจะพูด”พวกเขาหวังให้ท่านชักชวนฮีล่าเป็นพันธมิตรกับเรา ถ้ามันไม่ได้ผล ก็กำจัดเธอซะ”
ทุกคนตาเป็นประกาย พวกเขาเข้าใจว่าทำไมศาสนจักรถึงคิดแบบนี้
นอกจากภัยคุกคามที่เธอเผย การที่เธออยู่กับฝ่ายใดฝ่ายหนึ่งยังส่งผลต่อการรับสมัครผู้อยู่เหนือด้วย ผูอยู่เหนือต้องเลือกเข้าร่วมกองกำลังที่เธออยู่เพื่อไม่ต้องสู้กับเธอแน่
ด้วยความที่ฮีล่าเป็นของกองทัพแบล็คสตาร์ เธอจึงยังไม่ได้เข้าร่วมกับอารยธรรมใด ดังนั้นศาสนจักรจึงหวังได้รับความจงรักภักดีและอาวุธร้ายแรงนี้ นี่คือสิ่งที่โกรูตันคิดไม่ถึง เฉพาะเมื่อมันเป็นไปไม่ได้ที่จะไม่ได้รับตัวเธอพวกเขาถึงเลือกทำลายเธอ
ผู้อยู่เหนือยิ่งคิดลึกลงไปอีกชั้น
ถ้าทักษะของฮีล่าส่งผลต่อผู้อยู่เหนือ นั่นก็หมายความว่าศาสนจักรวางแผนใช้เธอเป็นตัวขัดขวางผู้อยู่เหนือทั้งหมดในปัจจุบันสินะ?
ถ้านี่คือช่วงเวลาปกติ คงไม่มีใครคิดแบบนี้ แต่ทุกคนดันเข้าร่วมการประชุมทวยเทพและได้รับการปลูกฝังด้วยอุดมการณ์เดียวกันโดยแมนิสัน
สถานที่ทั้งหมดเงียบลงขณะที่หลายคนต่อสู้กับความคิดภายในหัว
สีหน้าของคาซูยิยังไม่เปลี่ยน เขาเหลือบมองทุกคน”ฉันรู้สึกว่าเราสามารถดำเนินการตามแผนดึงฮีล่ามาเข้าร่วมได้ทันที แต่สำหรับการกำจัด เราต้องคิดให้ดี เราอยู่ในโลกริบหรี่กันหมด และการรวมตัวก็สะดวกสบาย การเคลื่อนไหวทุกย่างก้าวของเราจะถูกจับตามอง การฆ่าฮีล่ายังยั่วโมโหแบล็คสตาร์ มันดีกว่าที่เราจะรอดูท่าทีของสหพันธ์แห่งแสง เหนือสิ่งอื่นใด พวกเขาได้รับข้อมูลเช่นเดียวกับเรา” 　　“เข้าใจแล้ว”หนึ่งในเจ้าหน้าที่พยักหน้า”เรายังไม่ฟื้นตัวจากการสูญเสียนินเจีย ดังนั้นเราจึงไม่อยากร่วมมือกับสหพันธ์ในตอนนี้ มันดีกว่าที่เราจะรอดู แต่ทว่า เมื่อเราตัดสินใจเคลื่อนไหว หวังว่าทุกคนจะพร้อมลงมือ”
“ไม่มีปัญหา!”นอกจากไซเคอร์ ทุกคนที่เข้าร่วมการต่อสู้บนดาวประภาคารยังแสดงท่าทีร้อนแรง
คาซูยิไม่พูด ดวงตาเขาทอประกายแปลกๆ
…
อีกด้าน สหพันธ์แห่งแสงยังจัดประชุมเช่นกัน แต่หัวข้อแตกต่างกับศาสนจักร
“ความสามารถของฮีล่าอันตรายจริงๆ แต่การจัดการกับเธอจะจุดไฟความโกรธของกองทัพแบล็คสตาร์ นั่นไม่คุ้มเลย”เฮดีสตอบ
หนึ่งในผู้อาวุโสขมวดคิ้ว”แต่ในระยะยาว ฮีล่าอันตรายกว่าอย่างเห็นได้ชัด การกระตุ้นความโกรธของกองทัพแบล็คสตาร์นับว่าคุ้มค่า”
“แน่ใจ?”เฮดีสสวนกลับ”ลืมเรื่องคฑาหมื่นเทพไปแล้วหรือไง?”
เมื่อพูดคำเหล่านี้ ทุกคนในสหพันธ์แห่งแสงก็สะดุ้งก่อนตกอยู่ในความคิด
“คฑาหมื่นเทพมีระดับการคุกคามใกล้เคียงกัน ในความเป็นจริง มันยังสำคัญกว่าฮีล่า นี่อาจเป็นโอกาสที่เราจะได้บรรลุข้อตกลงกับแบล็คสตาร์เพื่อปลดผนึกกาลอวกาศแอมเบอร์ให้เรา มันจะเป็นผลกำไรสำหรับทั้งสองฝ่าย”เฮดีสพูดห้วนๆ
ขณะนี้ แมนิสันกล่าวเสริม”ถูกต้อง ฉันรู้สึกว่าเราต้องพิจารณาท่าทีของแบล็คสตาร์ คฑาหมื่นเทพสำคัญกว่ามาก”
ทุกคนหันไปมองเขา บางคนเผยสีหน้าแปลกใจ ขณะที่คนอื่นดูเหมือนจะรู้ความหมายเบื้องหลัง
ผู้อยู่เหนือหลายคนรู้ว่าแมนิสันแสดงเจตนาตามคฑาหมื่นเทพ แต่ในความเป็นจริง ส่วนใหญ่เกิดจากผลกระทบของการประชุมทวยเทพ
แมนิสันคือผู้เสนอหลักของผู้อยู่เหนือทุกคนที่มีส่วนร่วมบนระนาบเดียวกัน เขายังให้ความสำคัญกับอิทธิพลของหานเซี่ยวภายในโลกริบหรี่ เขาหวังว่าหานเซี่ยวจะสร้างเวทีสำหรับการโต้ตอบได้ ดังนั้นเขาจึงไม่เต็มใจต่อต้านหานเซี่ยว
พูดง่ายๆ ถ้าไม่ใช่ว่าหานเซี่ยวได้จัดการประชุมทวยเทพและพูดถึงสถานการณ์ของผู้อยู่เหนือ ผู้อยู่เหนืออาจไม่มานั่งคิดถึงการจัดการกับฮีล่า หรือว่านี่ก็อยู่ในแผนด้วย?!
หลังพิจารณาเรื่องนี้ ผู้อาวุโสสูงสุดก็ตอบ”ถ้าเราสามารถปลดผนึกคฑาหมื่นเทพได้จริง งั้นปัญหาของฮีล่าก็สามารถวางไว้ชั่วคราวได้ แต่โอกาสสำเร็จเราแทบเป็นศูนย์“
เขาหยุดและค่อยๆกล่าวเสริม”ศาสนจักรจะต้องลงมือแน่ พยายามแย่งตัวเธอหรือกำจัดเธอ และเราก็สามารถเตือนแบล็คสตาร์ถึงเรื่องนี้ได้ แต่นี่ไม่เป็นผลดี เบื้องหลังแบล็คสตาร์คือจักรวรรดิ พวกเขาไม่ต้องการความช่วยเหลือเราในแง่กำลังรบ นอกจากนี้ การเป็นพันธมิตรจักรวรรดิ เขาจะต้องกังวลเรื่องคฑาหมื่นเทพแน่ว่าเราจะใช้มันต่อต้านเขา ภายใต้สถานการณ์ทั้งหมดเหล่านี้ ไม่มีทางที่เขาจะตกลงกับเรา”
ทุกคนพยักหน้า จากมุมมองของแบล็คสตาร์ เขาไม่มีทางเห็นด้วย
ในความเป็นจริง สหพันธ์มักอยากสร้างสัมพันธ์กับหานเซี่ยวมาตลอดเพื่อให้สามารถปลดผนึกคฑาหมื่นเทพได้ แต่ตอนนี้ พวกเขาตาสว่างแล้วว่าพวกเขาไม่อาจแตะต้องมันได้เลย
แต่ทว่า โทเท็มวิวัฒนาการคือทรัพย์สินเชิงกลยุทธ์ที่เกี่ยวข้องกับอนาคตของอารยธรรมพวกเขา และมันก็สำคัญกว่าคฑาหมื่นเทพมาก ดังนั้น สหพันธ์จึงระงับเรื่องคฑาไว้ชั่วคราว มุ่งเป้าไปที่จักรวรรดิคริมสันและกองทัพแบล็คสตาร์
แต่ทว่า ตอนนี้ปัญหาของฮีล่าก้ทำให้สหพันธ์เล็งเห็นถึงโอกาสได้รับข้อตกลงกับแบล็คสตาร์
“เราต้องการข้อต่อรองมากขึ้น”ดวงตาเฮดีสเป็นประกาย”ตัวอย่างเช่น …ฮีล่า”
ทุกคนรู้สึกว่าหัวใจพวกเขาปั่นป่วน
“หมายความว่า เราควรจับฮีล่ามาและใช้เธอเพื่อตกลงกับแบล็คสตาร์ แลกเธอกับการปลดผนึกคฑาหมื่นเทพสินะ”ผู้อาวุโสสูงสุดถอนหายใจ เริ่มรู้สึกว่าเรื่องนี้ทำให้เขาปวดหัว
แผนนี้ไม่ต้องการฆ่า ไม่กระตุ้นความโกรธของแบล็คสตาร์ มันยังทำให้พวกเขาปลดผนึกคฑาหมื่นเทพได้ แผนดูดีมาก
ถ้าแผนนี้สำเร็จ สหพันธ์จะได้รับผลประโยชน์มากสุด สามารถใช้คฑาหมื่นเทพ สวมหมวกเขียวให้ศาสนจักรได้
แถม มันไม่ใช่ปัญหาของพวกเขาว่าศาสนจักรจะกำไรหรือขาดทุน
การตายโดยไม่มีเพื่อนดีกว่าตายอย่างน่าสมเพช! 　　เพื่อให้เข้าใจแนวคิดนี้ ก็แค่มองเฮดัสที่เสนอความคิดนี้
จิ๊ ช่างเป็นชีวิตที่ต่ำช้ามาก
ผู้อาวุโสสูงสุดกระแอม”ในเมื่อทักษะของฮีล่าเหมาะกับการจัดการกับสิ่งมีชีวิต งั้นคนที่ดีสุดในการจัดการกับเธอก็คงเป็นช่างกล จักรพรรดิจักรกล …”
“ฉันไม่สนใจรังแกผู้อยู่เหนือหน้าใหม่”แมนิสันกล่าว ไอรีนโนเวล
ในฐานะช่างกลที่ล้อมด้วยชุดเกราะ เขาจึงไม่กลัวความสามารถของฮีล่าที่ลดอายุขัยเขา แต่เขาไม่เต็มใจรังแกเด็กใหม่
“เอาละงั้น ก็ให้คนอื่นไป”ผู้อาวุโสสูงสุดทำได้แค่ส่ายหัว พวกเขาไม่สามารถบังคับแมนิสันได้
หนึ่งในผู้อยู่เหนือกล่าว”เพื่อให้คนมากมายขนาดนี้ไปรุม คนสุดท้ายที่ทำได้คงเป็นเทพเอส”
“เธอทำได้แค่โทษตัวเธอเอง” 　　…
เขตแข่งขันเสรีวุ่นวายมาก การเคลื่อนไหวของเจ้าถิ่นอย่างกองทัพแบล็คสตาร์ถูกจับตามองอย่างใกล้ชิด อย่างรวดเร็ว ข่าวการทะเลาะวิวาทระหว่างโกรูตันกับกองทัพแบล็คสตาร์กระจายออกไป
ดาวฟิลี ซึ่งถูกเลือกโดยกองทัพแบล็คสตาร์ถูกทำลาย และพวกเขาก็ทำได้แค่เลือกฐานใหม่ แต่โกรูตันก็เสียหายเช่นกัน เขาเสียลูกน้องไปมาก
การต่อสู้ของฮีล่ากับโกรูตันถือว่าเป็นผลลัพธ์ปกติ เธอไม่มีทางเป็นคู่ต่อสู้ผู้อยู่เหนือระดับสูงสุดได้ แต่โกรูตันก็บาดเจ็บ ดังนั้นหลายองค์กรจึงลอบยกระดับพลังของฮีล่า คิดว่าเธอคงเป็นคนที่แข็งแกร่งสุดในบรรดาผู้อยู่เหนือหน้าใหม่
สำหรับความสามารถของฮีล่า ข้อมูลนั้นกระจายไปแค่ตามสามอารยธรรมจักรวาลและอารยธรรมขั้นสูงไม่กี่แห่ง คนอื่นยังไม่รับรู้ถึงคลื่นใต้น้ำรุนแรง　　หลังการต่อสู้ระหว่างกองทัพแบล็คสตาร์และโกรูตัน องค์กรที่เหลือต่างเริ่มการต่อสู้แย่งชิงทรัพยากรกันต่อ
การต่อสู้นี้ส่งผลให้เกิดความขัดแย้งทางอาวุธ กฏระเบียบปั่นป่วน อย่างไรก็ตาม ยังมีพื้นที่ว่างมากมายให้สำรวจ ดังนั้น ความขัดแย้งจึงอยู่ในสถานัจดการ ซึ่งห่างไกลกับชีวิตก่อนหน้าเขามาก
สำหรับกิลด์ที่แยกตัวจากกองทัพ พวกเขายังเริ่มแสดงความเป็นอิสระ เข้าร่วมการแข่งขันในฐานะองค์กรอย่างเป็นทางการ!
…
ที่ไหนสักแห่งภายในกลุ่มดาวมรกต กองยานขนาดเล็กค่อยๆเคลื่อนตัวไปข้างหน้า กเราะนอกมันมีตราสัญลักษณ์ต่างๆ บางส่วนเป็นของกิลด์ หลังเสร็จสิ้นการลงทะเบียนผ่านกองทัพ พวกเขาก็สามารถปรับแต่งโลโก้ของตนได้
กองยานนี้รวมกิลด์จากสโมสรชั้นนำอย่างนภาใคร่ หุบเขาแม่น้ำและพายุสายฟ้าไว้ด้วยกัน
ในเวอร์ชั่นปัจจุบัน ประสิทธิภาพการหาเงินของผู้เล่นสูงมาก และถ้าพวกเขากัดฟันเพื่อออมเงิน การซื้อยานอวกาศธรรมดาก็ไม่ใช่ปัญหา กิลด์ชั้นนำมีเงินทุนมาก ดังนั้นแม้จะด้วยราคาฆ่าตัวตายถึง 130%ของอัตราตลาดที่หานเซี่ยวมอบให้ หลายคนก็ยังซื้อยานลำเล็กได้
ตอนนี้ สมาชิกแกนหลักของกิลด์ต่างๆรวมกันบนยานรบของนภาใคร่เพื่อประชุม ผู้เล่นมืออาชีพหลายคนต่างอยู่กันคราบ
“เราอยู่ไม่ไกลจากดาวฮาร์เคอมาก เวลาถึงโดยประมาณของเราคือครึ่งชั่วโมง มาดูแผนของเรากัน”ประธานของเขตแดนนรก กิลด์อย่างเป็นทางการของสโมสรนภาใคร่ นภาหยกเขียวกล่าว
ข้าวผัดนึกถึงบันทึกข้อตกลง”ดาวฮาร์เคอควรมีทรัพยากรพอและปัจจุบันถูกครอบครองโดยองค์กรเล็กๆเจ็ดแห่ง มีกลุ่มการเงินสามกลุ่ม กองกำลังติดอาวุธเอกชนสองกลุ่ม และสองอารยธรรมระบบดาว พวกเขาไม่สามารถขับไล่กันได้ ดังนั้นจึงทำได้แค่ฉกฉวยให้ได้มากที่สุด วัตถุประสงค์เราคือทำข้อตกลงกับกลุ่มการเงินและสร้างฐานทรัพยากรบนดาวนี้ วางรากฐานการก่อสร้าง”
“สำคัญสุดตอนนี้คือเจรจายังไง”ฤดูหนาวกล่าว
“ปล่อยให้เป็นหน้าที่ฉัน”จันทราเมเปิ้ลตอบ”ฉันรู้ว่าจะพูดยังไง”
ทุกคนพยักหน้า ให้กำลังใจเธอ
ด้วยคำแนะนำของหานเซี่ยว ผู้เล่นในกองทัพจึงเป็นกลุ่มแรกที่เข้าใจจุดสำคัญของเวอร์ชั่นนี้ มันคือการสร้างชื่อเสียงองค์กรตนและมีปฏิสัมพันธ์กับองค์กรNPC
หลังสัมผัสมาหลายเวอร์ชั่น ผู้เล่นก็รับรู้แล้วว่าการกระทำของNPCไม่ต่างจากคนจริงๆ ทุกคำพูดและทุกการกระทำจะกระตุ้นการตอบสนองต่างกัน พวกเขาต้องใช้คำพูดที่เหมาะสมเพื่อเจรจา ยิ่งค่าเสน่ห์สูง มันยิ่งง่าย　　ในกิลด์ มักมีคนที่เก่งการเจรจา ในฐานะคนที่ชอบเกมแนวเนื้อเรื่อง จันทราเมเปิ้ลจึงกระตือรือร้นเรื่องนี้
รูปแบบใหม่ของกองทัพทำให้พวกเขามีสถานะเป็นกึ่งอิสระ และควบคู่ไปกับอิสระดังกล่าว กิลด์เหล่านี้เริ่มวิเคราะห์และมองหาโอกาส
แม้การติดตามองค์กรใหญ่จะปลอดภัย การเคลื่อนไหวพวกเขาก็ถูกจำกัด ดังนั้นผู้เล่นจึงมีความคิดที่จะเป็นผู้นำกลุ่มเล็กๆแทนเป็นขุนนางในกองกำลังใหญ่
นี่คือสถานการณ์ที่หานเซี่ยวอยากเห็น เขาได้ปล่อยสิ่งจูงใจมากมายในรูปแบบของภารกิจเพื่อกระตุ้นให้เกิดการเคลื่อนไหวอิสระ พยายามกระจายผู้เล่นกองทัพให้เจาะเข้าไปยังสถานที่ต่างๆ
กิลด์เหล่านี้ลงมือร่วมกันเพื่อเพิ่มพลังพวกเขา แทนที่จะทำตามคนส่วนใหญ่ พวกเขาเลือกตรงไปดาวฮาร์เคอเพื่อแข่งขันกับกองกำลังขนาดเล็ก　　ปัจจุบัน ผู้เล่นส่วนใหญ่ในกิลด์คือเกรดB ซึ่งสามารถถือได้ว่าเป็นกระดูกสันหลังของกองกำลังต่อสู้ ในฐานะองค์กรภายใต้กองทัพแบล็คสตาร์ แค่ชื่อพวกเขาก็มีอิทธิพลต่อองค์กรขนาดเล็กแล้ว การหยิบยืมชื่อเสียงของผู้หนุนหลังจะทำให้พวกเขาเจรจาได้ง่ายขึ้น
หลังจากนั้นไม่นาน กองยานก็เริ่มลดความเร็ว ดาวฮาร์เคออยู่ใกล้ขึ้น มีกองยานป้องกันกระจัดกระจายในอวกาศ เป็นขององค์กรต่างๆ
เมื่อเห็นกองยานของผู้เล่น กองกำลังป้องกันของดาวก็เริ่มประจำตำแหน่ง ริเริ่มการขอสื่อสาร
ดาบคลั่งตบไหล่จันทราเมเปิ้ล กระซิบ”ทั้งหมดเป็นหน้าที่เธอแล้ว”
จันทราเมเปิ้ลเป่าลม
“คอยดูฉันหลอกล่อพวกเขาให้ดีเถอะ!”