กลุ่มคนมองไปยังทิศทางของเสียงและเห็นว่ามันเป็นชายตัวโตที่พูด เขามีผิวสีเข้มและผมสีเทาเหมือนผองคอของสิงโต ยืนกอดอกจ้องมองหานเซี่ยวด้วยสายตาเย็นชา
“โอ้?นั่นคือสิ่งที่นายคิด?”
หานเซี่ยวหรี่ตาและมองเขา ข้อมูลของคนคนนี้ผุดขึ้น
‘หมัดแห่งกระแสพลังงานสุดขั้ว’แบ็กนิต้า เขาคือนักสู้ที่แข็งแกร่งมากด้านรูปบบทำลายล้าง และเกรี้ยวกราด ผู้ก่อตั้งรูปแบบนักสู้ต่างๆ เขาคือผู้เชี่ยวชาญด้านกระแสพลังงานสุดขั้ว แม้เขาจะไม่ใช่คนคิดค้น เขาก็ได้รับการยอมรับว่าเก่งสุดในเรื่องนี้
ชายคนนี้ไม่ได้มาจากโศกนาฏกรรมแต่เป็นผู้อยู่เหนือเป็นกลางจากยุคก่อนหน้านั้น การตายของเขาไม่รู้และเขาก็ทิ้งเผ่าพันธ์ุไว้เบื้องหลัง แบ็กนิต้าสวมชุดรบแขนกุด กล้ามเนื้อบนแขนของเขาปูดขณะพูดเสียงเย็น”ฉันเกลียดสุดเมื่อมีคนมอบคำถามที่มีตัวเลือกให้ฉัน ไม่ว่าฉันจะช่วยแกหรือไม่มันก็ขึ้นอยู่กับอารมณ์ฉัน ถ้าแกจะบังคับฉัน งั้นก็ไม่ต้องคุยกัน!”
“คนที่มีนิสัยไม่เหมือนใครมักอยู่ได้ไม่นาน”ดีแลนหัวเราะเยาะ
เมื่อได้ยิน คนอื่นก็มองเขาและพยักหน้าเห็นด้วย
แบ็กนิต้าเมินเขา มองรอบ”เราล้วนเป็นผู้อยู่เหนือ มีอะไรให้กลัว?ใครที่มีกระดูกสันหลังจงมายืนข้างฉัน!”
หานเซี่ยวส่ายหัว ตระหนักว่าเขาสงบอย่างน่าประหลาด ราวกับเขาชินกับมัน ในความเป็นจริง มันอาจรู้สึกแปลกถ้านักสู้ที่ไม่ใช่พวกหัวรุนแรงปรากฏ
เขาหันไปมองผู้คืนชีพ พูดพลางยักไหล่”มีใครเห็นด้วยกับเขาบ้าง?ก้าวออกมา”
ผู้คนสบตากันและลังเล ไม่มีใครตอบพวกเขากลับถอยห่างจากแบ็กนิต้า
เมื่อเห็น แบ็กนิต้าก็ขมวดคิ้ว”ฮึ่ม ผู้อยู่เหนือยิ่งขี้ขลาดขึ้นเรื่อยๆ!”
ดีแลนเยาะเย้ย”ฮี่ๆ นายพยายามยั่วยุให้เรายอมเสี่ยงชีวิตเราเพื่อเล่นกับนาย ถ้าการต่อสู้กเิดจริง นายอาจเดินออกไปได้เป็นๆ ยังไงซะนายไม่ใช่คนที่จะตายอยู่แล้ว แค่พูดออกมาเสียงดังถ้านายอยากให้คนอื่นขวางกระสุนแทน เราล้วนเป็นผู้อยู่เหนือ แกจะใช้ละครนั่นตบตาใคร?”
แบ็กนิต้าเหลือบมองดีแลน พูดด้วยความรังเกียจ”ไอโง่”
เมื่อเห็น หานเซี่ยวก็มองกลับไปที่แบ็กนิต้า “ดูเหมือนนายจะเป็นคนเดียวนะ ยังอยากพูดต่อไหม?”
“ไม่มีใครกล้าทำงานกับฉัน ฉันจะพูดอะไรได้อีก?”
แบ็กนิต้าแค่นเสียงและกอดอก
หานเซี่ยวอดหัวเราะไม่ได้”นายฉลาด แต่ไม่คิดว่าตัวเองใสซื่อไปหรือไง?นายพยายามปลุกระดมคนอื่น แต่เมื่อเห็นว่ามันไม่ได้ผล นายก็ยอมแพ้และทำตัวเหมือนไม่มีอะไรเกิดขึ้น คิดว่ามันจะง่ายแบบนั้นหรือไง?”
แบ็กนิต้าขมวดคิ้ว เกร็งกล้ามเนื้อแขน”นายต้องการอะไร?”
หานเซี่ยวค่อยๆก้าวเดินไปหาแบ็กนิต้า”ฉันคืนชีพพวกนายเพราะมันเป็นประโยชน์ต่อผู้อยู่เหนือ ไม่ใช่เพื่อการกุศล ฉันได้อธิบายสถานการณ์ไปชัดแล้ว เราลงเรือลำเดียวกันแล้ว..แต่ฉันไม่เคยคิดที่จะเสียสละพวกนาย ฉันไม่คิดบังคับพวกนายให้รับความเสี่ยงอะไรและมอบทางเลือกให้พวกนายอยู่ในเทพอำนวยและดูเราสู้เพื่ออนาคตเรา ถ้าเราชนะ พวกนายจะได้เพลิดเพลินกับมันด้วยกัน ถ้าเราแพ้ พวกนายก็ยังหลบซ่อนต่อได้”
“นายไม่สามารถชื่นชมเราที่มอบชีวิตสองให้ แต่นายเต็มใจทำลายแผนทั้งหมดของเราเพียงเพื่อความปรารถนาส่วนตัว..แน่นอน นายมีอิสระที่จะทำ แต่เมื่อทำไปแล้ว ก็อย่าโทษคนอื่นที่จะจัดการนาย”
ทันทีที่เขาพูด การเปลี่ยนแปลงก็พลันเกิดขึ้น!
พลังงานป่าเถื่อนปะทุขึ้น ปกคลุมด้วยเพลิงนักสู้แสบตา หมัดของแบ็กนิต้าชกใส่หน้าอกหานเซี่ยวอย่างแรงเหมือนดาวหาง!
บูม!
“แกรู้ว่าฉันเป็นนักสู้ แต่ก็ยังกล้าเข้าใกล้ฉัน แกกำลังรนหาที่ตาย!”
ความคิดนี้แวบผ่านหัวแบ็กนิต้า ไม่มีทางที่เขาจะรอเฉยๆ เมื่อเห็นว่าคำพูดของหานเซี่ยวมีเจตนาไม่ดี เขาจึงลงมือก่อน
วินาทีต่อมา พลังของหมัดก็ระเบิด เพลิงนักสู้พวยพุ่งออกจากแผ่นหลังหานเซี่ยว เปลี่ยนเป็นคลื่นพลังงานทรงกระบอกที่สร้างหลุมขนาดใหญ่ในห้อง
บูม!
ลำแสงแสบตายิงออกจากฐานนี้ราวกับการระเบิดเกิดขึ้นภายใน ในห้อง ผู้คนแปลกใจกับความเด็ดขาดของแบ็กนิต้า บางคนอยากช่วย ขณะที่บางคนอยากถอยห่าง
แต่ทว่า ก่อนพวกเขาจะได้ลงมือ พวกเขาก็เห็นหานเซี่ยว ผู้ที่โดนชกอย่างแรงกลับไม่สั่นสะท้าน มันราวกับไม่มีอะไรเกิดขึ้น ในชั่วพริบตา มือของหานเซี่ยวก็คว้าหัวแบ็กนิต้าไว้และเขาก็ยกขาขึ้น!
ปัง!
แบ็กนิต้าไม่สามารถต้านทานพลังมหาศาลเช่นนี้ได้ หัวของเขาถูกกดลงและกระแทกกับเข่าของหานเซี่ยว เลือดไหลทะลักจากจมูกเขาและสมองของเขาก็สั่นสะเทือน
ก่อนเขาจะได้สติ หานเซี่ยวก็ใช้มือหนึ่งรัดหัวแบ็กนิต้า จับเขาไว้กับทีี่ ขณะที่ศอกของอีกแขนกดลงบนแผ่นหลังของแบ็กนิต้า
คชา!
เสียงกระดูกแตกดังในหูทุกคน และรอยบุบที่มองเห็นได้ก็ปรากฏบนกระดูกสันหลังของแบ็กนิต้า
เฮือก!
หลายคนสูดหายใจด้วยความตกใจ
เราจะไม่เชื่อต่อให้แกบอกเราว่าเขาไม่ใช่นักสู้!
ครั้งนี้ ในที่สุดแบ็กนิต้าก็ตั้งสติได้ เขาคำรามและเพลิงนักสู้บนตัวก็ปะทุขึ้นอีกครั้ง กล้ามเนื้อเขาพองตัว พลังงานหนาแน่นกระจายออกไปและค่าสถานะของเขาก็พุ่งสูงขึ้น
จากนั้น แบ็กนิต้าก็เตะเท้า ผลักหานเซี่ยวชนผ่านกำแพงเหล็กทีละกำแพง บินออกนอกอวกาศ
“นั่นคือกระแสพลังงานสุดขั้ว!”
ผู้คนเข้าใจว่าเกิดอะไรขึ้น
ด้วยการพึ่งพาพลังระเบิดของมัน ความสามารถต่อสู้ของนักสู้จะพุ่งทะยานขึ้น ทุกคนต่างรู้ถึงผลของมัน แต่ผลของมันที่ใช้กับแบ็กนิต้าน่ากลัวกว่า แถม ด้วยการที่เขาปรับปรุงมันเอง ผลข้างเคียงจึงน้อยมาก
แบ็กนิต้าไม่ใช่ผู้อยู่เหนือระดับสูงสุด แต่ด้วยพลังระเบิดของเขา เขาจึงสู้กับผู้อยู่เหนือระดับสูงสุดได้ ในสายตาผู้คืนชีพ เขาแข็งแกร่งมาก
แม้พวกเขาจะเพิ่งสัมผัสได้ถึงขั้นพลังงานของหานเซี่ยว พวกเขาก็ไม่เคยเห็นหานเซี่ยวสู้
เนื่องจากมีโอกาส เหล่าผู้คืนชีพจึงอยากสังเกตพลังของแบล็คสตาร์
ผู้อยู่เหนือส่วนใหญ่ภูมิใจ ทั้งหมดอยากดูว่าผู้นำของผู้อยู่เหนือจะแข็งแกร่งขนาดนั้น
เดิมผู้คืนชีพคาดว่าจะได้เห็นการต่อสู้ครั้งใหญ่ แต่การเปลี่ยนแปลงกลับเกิดขึ้นในวินาทีต่อมา
หานเซี่ยวใช้มือโอบรัดรอบแบ็กนิต้า หลังจากนั้น พลังจักรกลก็ปะทุจากทั้งตัวเขา ในเวลาเดียวกัน ทหารจักรกลจำนวนนับไม่ถ้วนก็กรูกันออกจากฐานกาแล็กซี่ ปกคลุมท้องฟ้า ระดมยิงใส่ทั้งสอง!
บูม!
เหมือนดาวฤกษ์เกิดใหม่ ก้อนแสงพลังงานขยายตัวในอวกาศ!
หลังผลพวงของการระเบิดขยาย ม่านพลังป้องกันของก็ทำงานเอง ขวางมันไว้ ฐานทั้งฐานถูกผลักออกไปขณะที่สั่นสะเทือนอย่างแรง
แสงแสบตาทำให้ทุกคนต้องหรี่ตาโดยไม่รู้ตัว พวกเขาดูแปลกใจ
.”ตายกันทั้งคู่เลยหรือเปล่า?”
“เป็นรูปแบบการต่อสู้ที่รุนแรงมาก”
“แบล็คสตาร์เป็นช่างกลไม่ใช่เหรอ?จากพลังร่างกายเขา เขาเป็นนักสู้ชัดๆ!”
ผู้คนเริ่มกังวล แต่ทว่า พวกเขาตระหนักว่าเทพอำนวยดูสงบมากและไม่กังวลเลย
‘พวกนายไม่ห่วงความปลอดภัยของเขาเลยงั้นเหรอ?”บางคนถาม บีเกอร์หันมายิ้ม”ฮี่ๆ ไม่มีอะไรที่สามารถฆ่าแบล็คสตาร์ได้ในจักรวาลนี้!”
ครั้งนี้ แสงค่อยๆสลายคนสองคนบินออกจากศูนย์กลางระเบิด ตรงมาทางฐานและกลับห้องผ่านรู
ปึก!
เสียงคนล้มดังขึ้น แบ็กนิต้านอนบนพื้นเหมือนหมาตาย แทบไม่มีสักจุดบนตัวเขาที่สมบูรณ์ เขาบาดเจ็บสาหัสมากและใกล้ตายเต็มที
ผู้คนแหงนมองอย่างตกใจ เห็นว่าแม้หานเซี่ยวจะมีแผล แผลของเขาก็ฟื้นตัวด้วยความเร็วสุดเหลือเชื่อ และหานเซี่ยวก็กลับเป็นปกติแทบจะทันที หานเซี่ยวคือคนที่นำแบ็กนิต้ากลับมา
ด้วยใบหน้าสงบ หานเซี่ยวพูดกับผู้รักษาสัจจะ
“ดูแลแผลเขาด้วย อย่าปล่อยให้เขาตาย” สมาชิกเทพอำนวยไม่แปลกใจเลย พวกเขาเดินไปข้างหน้าและพลิกตัวแบ็กนิต้าหลายครั้งขณะพ่นยารักษากับเขา แต่มันกลับดูเหมือนพวกเขากำลังทาซอสบนชิ้นเนื้อ
เมื่อเห็น เหล่าผู้คืนชีพก็แทบไม่เชื่อสายตา
แค่นั้น?
การต่อสู้เพิ่งเริ่มไม่ถึงสามนาทีเลยนะ?!
พวกเขาคาดว่าจะได้เห็นการต่อสู้รุนแรง ไม่มีใครคิดว่าแบล็คสตาร์จะบดขยี้แบ็กนิต้าได้เร็วขนาดนี้
แบ็กนิต้าไม่ใช่ผู้อยู่เหนือขยะ แต่เป็นผู้อยู่เหนือชื่อดัง!
พวกเขารู้ว่าแบล็คสตาร์อาจแข็งแกร่งมาก แต่ไม่คิดว่าจะมากขนาดนี้
ไม่แปลกใจที่เขากล้าเรียกตัวเองว่า’ผู้นำของผู้อยู่เหนือ’เขาเหมาะสม..
ความคิดนี้แวบผ่านหัวหลายคน
หานเซี่ยวบิดคอคลายกล้ามเนื้อ เขาหันไป เห็นความกลัวในดวงตาทุกคนและลอบพยักหน้า เขาพอใจมาก
เขาไม่ได้โกรธจริง เขาต่อว่าแบ็กนิต้าเพื่อข่มขู่คนอื่น
นี่เพราะเขารู้ว่าต้องมีคนที่คิดแบบเดียวกับแบ็กนิต้าแน่แต่ไม่กล้ายื่นมือเพราะสถานการณ์ เพื่อกำจัดความคิดแบบนั้น การทำใหพวกเขากลัวที่จะทำอะไรด้วยจำนวนที่เหนือกว่าคงไม่พอ เขาต้องทำให้พวกเขารู้สึกถึงความแตกต่างในด้านพลัง
วิธีดีสุดที่จะข่มขู่พวกเขาคือบดขยี้แบ็กนิต้าในเวลาอันสั้น
ดังนั้น หานเซี่ยวจึงแสดงเจตนาอยากโจมตีแบ็กนิต้าขณะเข้าใกล้เขาพร้อมกัน เขาทำเพื่อให้แบ็กนิต้าสู้กับเขาในระยะประชิด ซึ่งจะทำให้กลยุทธ์’ตายพร้อมกัน’ง่ายขึ้น เหนือสิ่งอื่นใด คอมโบนี้ได้ผลดีสุด!
ข้อได้เปรียบที่มากสุดคือเขามีข้อมูลจำนวนมากในมือ ทุกคนที่รู้เกี่ยวกับเขาดีจะไม่มีวันเข้าใกล้เขา แต่ผู้คืนชีพเหล่านี้ไม่รู้ ดังนั้น ตามประสบการณ์อันล้าหลัง แบ็กนิต้าย่อมไม่ละทิ้ง’โอกาส’นี้แและสู้กับเขาในระยะประชิด ซึ่งติดกับหานเซี่ยวพอดี
วินาทีที่แบ็กนิต้าเลือกสู้ระยะประชิด จุดจบของการต่อสู้ก็ถูกตัดสินแล้ว
ผลของการบดขยี้แบ็กนิต้าเป็นไปตามคาดหวัง ทำให้หัวใจแสนบอบบางของคนเหล่านี้สั่นสะเทือน มันเหลืออีกแค่ก้าวเดียวที่ต้องเดิน
เมื่อเห็นว่าตัวแบ็กนิต้าค่อยๆหาย หานเซี่ยวก็นำกาลอวกาศแอมเบอร์ออกมา และยกตัวแบ็กนิต้าขึ้น”ฉันจะไม่ฆ่าเขา แต่เพื่อเลี่ยงความไม่แน่นอน ฉันจะขังเขาไว้เพื่อให้เขาสงบ”
วินาทีต่อมา กาลอวกาศแอมเบอร์ก็ก่อตัวรอบแบ็กนิต้า ตัวของเขาโดนขังไว้ในอำพัน
“นี่คืออะไร?”
คนสับสน สมาชิกเทพอำนวยจึงอธิบาย
ไม่ช้า ทุกคนก็เข้าใจการทำงานของมันพวกเขาต่างตกใจและกลัว
ครั้งนี้ หานเซี่ยวหันไปยิ้มสดใสให้พวกเขา
“คนที่ตั้งคำถามโดนจัดการแล้ว พวกนายเลือกได้หรือยัง?”
สีหน้าพวกเขาต่างไป บางคนยิ้มขมขื่น บางคนกลืนน้ำลายอย่างประหม่า
ไม่ต้องสงสัยเลยว่าพวกเขาจะเลือกอะไร
“..ฉันเต็มใจอยู่ในเทพอำนวย”
“ฉันด้วย”
ด้วยคนนำ คนที่เหลือจึงตาม
ระหว่างสองทางเลือก แทบทุกคนเลือกอยู่ในเทพอำนวย พวกเขาไม่อยากปรากฏในโลกภายนอก อย่างน้อยก็ก่อนจะเข้าใจภาพรวมชัด พวกเขาจะได้ไม่ต้องเสี่ยง
ไม่ช้า ดีแลนก็เป็นคนเดียวที่ยังไม่แสดงทางเลือก
หานเซี่ยวมอง”แล้วนายล่ะ?นายจะอยู่ในเทพอำนวยหรือเข้าร่วมสมาคม?”
ดีแลนลูบไล้คางขาวเนียน”ฉันไม่อยากพลาดเรื่องสนุก..ฉันจะเข้าร่วมสมาคม!ถ้าเราเริ่มสู้กับสามอารยธรรมจักรวาล ก็นับฉันไปด้วย!’
จากนั้น ราวกับเขายังพูดไม่พอ ดีแลนกวาดมองคนอื่น”หนังสือถูกต้อง คนขี้ขลาดและคนธรรมดามักเป็นคนกลุ่มใหญ่”
เมื่อได้ยิน หานเซี่ยวก็อดมองดีแลนใหม่ไม่ได้
นายสมควรโดนฆ่าจริงๆ แม้กระทั่งฉันก็ยังอยากทำ…
“โอ้?นั่นคือสิ่งที่นายคิด?”
หานเซี่ยวหรี่ตาและมองเขา ข้อมูลของคนคนนี้ผุดขึ้น
‘หมัดแห่งกระแสพลังงานสุดขั้ว’แบ็กนิต้า เขาคือนักสู้ที่แข็งแกร่งมากด้านรูปบบทำลายล้าง และเกรี้ยวกราด ผู้ก่อตั้งรูปแบบนักสู้ต่างๆ เขาคือผู้เชี่ยวชาญด้านกระแสพลังงานสุดขั้ว แม้เขาจะไม่ใช่คนคิดค้น เขาก็ได้รับการยอมรับว่าเก่งสุดในเรื่องนี้
ชายคนนี้ไม่ได้มาจากโศกนาฏกรรมแต่เป็นผู้อยู่เหนือเป็นกลางจากยุคก่อนหน้านั้น การตายของเขาไม่รู้และเขาก็ทิ้งเผ่าพันธ์ุไว้เบื้องหลัง แบ็กนิต้าสวมชุดรบแขนกุด กล้ามเนื้อบนแขนของเขาปูดขณะพูดเสียงเย็น”ฉันเกลียดสุดเมื่อมีคนมอบคำถามที่มีตัวเลือกให้ฉัน ไม่ว่าฉันจะช่วยแกหรือไม่มันก็ขึ้นอยู่กับอารมณ์ฉัน ถ้าแกจะบังคับฉัน งั้นก็ไม่ต้องคุยกัน!”
“คนที่มีนิสัยไม่เหมือนใครมักอยู่ได้ไม่นาน”ดีแลนหัวเราะเยาะ
เมื่อได้ยิน คนอื่นก็มองเขาและพยักหน้าเห็นด้วย
แบ็กนิต้าเมินเขา มองรอบ”เราล้วนเป็นผู้อยู่เหนือ มีอะไรให้กลัว?ใครที่มีกระดูกสันหลังจงมายืนข้างฉัน!”
หานเซี่ยวส่ายหัว ตระหนักว่าเขาสงบอย่างน่าประหลาด ราวกับเขาชินกับมัน ในความเป็นจริง มันอาจรู้สึกแปลกถ้านักสู้ที่ไม่ใช่พวกหัวรุนแรงปรากฏ
เขาหันไปมองผู้คืนชีพ พูดพลางยักไหล่”มีใครเห็นด้วยกับเขาบ้าง?ก้าวออกมา”
ผู้คนสบตากันและลังเล ไม่มีใครตอบพวกเขากลับถอยห่างจากแบ็กนิต้า
เมื่อเห็น แบ็กนิต้าก็ขมวดคิ้ว”ฮึ่ม ผู้อยู่เหนือยิ่งขี้ขลาดขึ้นเรื่อยๆ!”
ดีแลนเยาะเย้ย”ฮี่ๆ นายพยายามยั่วยุให้เรายอมเสี่ยงชีวิตเราเพื่อเล่นกับนาย ถ้าการต่อสู้กเิดจริง นายอาจเดินออกไปได้เป็นๆ ยังไงซะนายไม่ใช่คนที่จะตายอยู่แล้ว แค่พูดออกมาเสียงดังถ้านายอยากให้คนอื่นขวางกระสุนแทน เราล้วนเป็นผู้อยู่เหนือ แกจะใช้ละครนั่นตบตาใคร?”
แบ็กนิต้าเหลือบมองดีแลน พูดด้วยความรังเกียจ”ไอโง่”
เมื่อเห็น หานเซี่ยวก็มองกลับไปที่แบ็กนิต้า “ดูเหมือนนายจะเป็นคนเดียวนะ ยังอยากพูดต่อไหม?”
“ไม่มีใครกล้าทำงานกับฉัน ฉันจะพูดอะไรได้อีก?”
แบ็กนิต้าแค่นเสียงและกอดอก
หานเซี่ยวอดหัวเราะไม่ได้”นายฉลาด แต่ไม่คิดว่าตัวเองใสซื่อไปหรือไง?นายพยายามปลุกระดมคนอื่น แต่เมื่อเห็นว่ามันไม่ได้ผล นายก็ยอมแพ้และทำตัวเหมือนไม่มีอะไรเกิดขึ้น คิดว่ามันจะง่ายแบบนั้นหรือไง?”
แบ็กนิต้าขมวดคิ้ว เกร็งกล้ามเนื้อแขน”นายต้องการอะไร?”
หานเซี่ยวค่อยๆก้าวเดินไปหาแบ็กนิต้า”ฉันคืนชีพพวกนายเพราะมันเป็นประโยชน์ต่อผู้อยู่เหนือ ไม่ใช่เพื่อการกุศล ฉันได้อธิบายสถานการณ์ไปชัดแล้ว เราลงเรือลำเดียวกันแล้ว..แต่ฉันไม่เคยคิดที่จะเสียสละพวกนาย ฉันไม่คิดบังคับพวกนายให้รับความเสี่ยงอะไรและมอบทางเลือกให้พวกนายอยู่ในเทพอำนวยและดูเราสู้เพื่ออนาคตเรา ถ้าเราชนะ พวกนายจะได้เพลิดเพลินกับมันด้วยกัน ถ้าเราแพ้ พวกนายก็ยังหลบซ่อนต่อได้”
“นายไม่สามารถชื่นชมเราที่มอบชีวิตสองให้ แต่นายเต็มใจทำลายแผนทั้งหมดของเราเพียงเพื่อความปรารถนาส่วนตัว..แน่นอน นายมีอิสระที่จะทำ แต่เมื่อทำไปแล้ว ก็อย่าโทษคนอื่นที่จะจัดการนาย”
ทันทีที่เขาพูด การเปลี่ยนแปลงก็พลันเกิดขึ้น!
พลังงานป่าเถื่อนปะทุขึ้น ปกคลุมด้วยเพลิงนักสู้แสบตา หมัดของแบ็กนิต้าชกใส่หน้าอกหานเซี่ยวอย่างแรงเหมือนดาวหาง!
บูม!
“แกรู้ว่าฉันเป็นนักสู้ แต่ก็ยังกล้าเข้าใกล้ฉัน แกกำลังรนหาที่ตาย!”
ความคิดนี้แวบผ่านหัวแบ็กนิต้า ไม่มีทางที่เขาจะรอเฉยๆ เมื่อเห็นว่าคำพูดของหานเซี่ยวมีเจตนาไม่ดี เขาจึงลงมือก่อน
วินาทีต่อมา พลังของหมัดก็ระเบิด เพลิงนักสู้พวยพุ่งออกจากแผ่นหลังหานเซี่ยว เปลี่ยนเป็นคลื่นพลังงานทรงกระบอกที่สร้างหลุมขนาดใหญ่ในห้อง
บูม!
ลำแสงแสบตายิงออกจากฐานนี้ราวกับการระเบิดเกิดขึ้นภายใน ในห้อง ผู้คนแปลกใจกับความเด็ดขาดของแบ็กนิต้า บางคนอยากช่วย ขณะที่บางคนอยากถอยห่าง
แต่ทว่า ก่อนพวกเขาจะได้ลงมือ พวกเขาก็เห็นหานเซี่ยว ผู้ที่โดนชกอย่างแรงกลับไม่สั่นสะท้าน มันราวกับไม่มีอะไรเกิดขึ้น ในชั่วพริบตา มือของหานเซี่ยวก็คว้าหัวแบ็กนิต้าไว้และเขาก็ยกขาขึ้น!
ปัง!
แบ็กนิต้าไม่สามารถต้านทานพลังมหาศาลเช่นนี้ได้ หัวของเขาถูกกดลงและกระแทกกับเข่าของหานเซี่ยว เลือดไหลทะลักจากจมูกเขาและสมองของเขาก็สั่นสะเทือน
ก่อนเขาจะได้สติ หานเซี่ยวก็ใช้มือหนึ่งรัดหัวแบ็กนิต้า จับเขาไว้กับทีี่ ขณะที่ศอกของอีกแขนกดลงบนแผ่นหลังของแบ็กนิต้า
คชา!
เสียงกระดูกแตกดังในหูทุกคน และรอยบุบที่มองเห็นได้ก็ปรากฏบนกระดูกสันหลังของแบ็กนิต้า
เฮือก!
หลายคนสูดหายใจด้วยความตกใจ
เราจะไม่เชื่อต่อให้แกบอกเราว่าเขาไม่ใช่นักสู้!
ครั้งนี้ ในที่สุดแบ็กนิต้าก็ตั้งสติได้ เขาคำรามและเพลิงนักสู้บนตัวก็ปะทุขึ้นอีกครั้ง กล้ามเนื้อเขาพองตัว พลังงานหนาแน่นกระจายออกไปและค่าสถานะของเขาก็พุ่งสูงขึ้น
จากนั้น แบ็กนิต้าก็เตะเท้า ผลักหานเซี่ยวชนผ่านกำแพงเหล็กทีละกำแพง บินออกนอกอวกาศ
“นั่นคือกระแสพลังงานสุดขั้ว!”
ผู้คนเข้าใจว่าเกิดอะไรขึ้น
ด้วยการพึ่งพาพลังระเบิดของมัน ความสามารถต่อสู้ของนักสู้จะพุ่งทะยานขึ้น ทุกคนต่างรู้ถึงผลของมัน แต่ผลของมันที่ใช้กับแบ็กนิต้าน่ากลัวกว่า แถม ด้วยการที่เขาปรับปรุงมันเอง ผลข้างเคียงจึงน้อยมาก
แบ็กนิต้าไม่ใช่ผู้อยู่เหนือระดับสูงสุด แต่ด้วยพลังระเบิดของเขา เขาจึงสู้กับผู้อยู่เหนือระดับสูงสุดได้ ในสายตาผู้คืนชีพ เขาแข็งแกร่งมาก
แม้พวกเขาจะเพิ่งสัมผัสได้ถึงขั้นพลังงานของหานเซี่ยว พวกเขาก็ไม่เคยเห็นหานเซี่ยวสู้
เนื่องจากมีโอกาส เหล่าผู้คืนชีพจึงอยากสังเกตพลังของแบล็คสตาร์
ผู้อยู่เหนือส่วนใหญ่ภูมิใจ ทั้งหมดอยากดูว่าผู้นำของผู้อยู่เหนือจะแข็งแกร่งขนาดนั้น
เดิมผู้คืนชีพคาดว่าจะได้เห็นการต่อสู้ครั้งใหญ่ แต่การเปลี่ยนแปลงกลับเกิดขึ้นในวินาทีต่อมา
หานเซี่ยวใช้มือโอบรัดรอบแบ็กนิต้า หลังจากนั้น พลังจักรกลก็ปะทุจากทั้งตัวเขา ในเวลาเดียวกัน ทหารจักรกลจำนวนนับไม่ถ้วนก็กรูกันออกจากฐานกาแล็กซี่ ปกคลุมท้องฟ้า ระดมยิงใส่ทั้งสอง!
บูม!
เหมือนดาวฤกษ์เกิดใหม่ ก้อนแสงพลังงานขยายตัวในอวกาศ!
หลังผลพวงของการระเบิดขยาย ม่านพลังป้องกันของก็ทำงานเอง ขวางมันไว้ ฐานทั้งฐานถูกผลักออกไปขณะที่สั่นสะเทือนอย่างแรง
แสงแสบตาทำให้ทุกคนต้องหรี่ตาโดยไม่รู้ตัว พวกเขาดูแปลกใจ
.”ตายกันทั้งคู่เลยหรือเปล่า?”
“เป็นรูปแบบการต่อสู้ที่รุนแรงมาก”
“แบล็คสตาร์เป็นช่างกลไม่ใช่เหรอ?จากพลังร่างกายเขา เขาเป็นนักสู้ชัดๆ!”
ผู้คนเริ่มกังวล แต่ทว่า พวกเขาตระหนักว่าเทพอำนวยดูสงบมากและไม่กังวลเลย
‘พวกนายไม่ห่วงความปลอดภัยของเขาเลยงั้นเหรอ?”บางคนถาม บีเกอร์หันมายิ้ม”ฮี่ๆ ไม่มีอะไรที่สามารถฆ่าแบล็คสตาร์ได้ในจักรวาลนี้!”
ครั้งนี้ แสงค่อยๆสลายคนสองคนบินออกจากศูนย์กลางระเบิด ตรงมาทางฐานและกลับห้องผ่านรู
ปึก!
เสียงคนล้มดังขึ้น แบ็กนิต้านอนบนพื้นเหมือนหมาตาย แทบไม่มีสักจุดบนตัวเขาที่สมบูรณ์ เขาบาดเจ็บสาหัสมากและใกล้ตายเต็มที
ผู้คนแหงนมองอย่างตกใจ เห็นว่าแม้หานเซี่ยวจะมีแผล แผลของเขาก็ฟื้นตัวด้วยความเร็วสุดเหลือเชื่อ และหานเซี่ยวก็กลับเป็นปกติแทบจะทันที หานเซี่ยวคือคนที่นำแบ็กนิต้ากลับมา
ด้วยใบหน้าสงบ หานเซี่ยวพูดกับผู้รักษาสัจจะ
“ดูแลแผลเขาด้วย อย่าปล่อยให้เขาตาย” สมาชิกเทพอำนวยไม่แปลกใจเลย พวกเขาเดินไปข้างหน้าและพลิกตัวแบ็กนิต้าหลายครั้งขณะพ่นยารักษากับเขา แต่มันกลับดูเหมือนพวกเขากำลังทาซอสบนชิ้นเนื้อ
เมื่อเห็น เหล่าผู้คืนชีพก็แทบไม่เชื่อสายตา
แค่นั้น?
การต่อสู้เพิ่งเริ่มไม่ถึงสามนาทีเลยนะ?!
พวกเขาคาดว่าจะได้เห็นการต่อสู้รุนแรง ไม่มีใครคิดว่าแบล็คสตาร์จะบดขยี้แบ็กนิต้าได้เร็วขนาดนี้
แบ็กนิต้าไม่ใช่ผู้อยู่เหนือขยะ แต่เป็นผู้อยู่เหนือชื่อดัง!
พวกเขารู้ว่าแบล็คสตาร์อาจแข็งแกร่งมาก แต่ไม่คิดว่าจะมากขนาดนี้
ไม่แปลกใจที่เขากล้าเรียกตัวเองว่า’ผู้นำของผู้อยู่เหนือ’เขาเหมาะสม..
ความคิดนี้แวบผ่านหัวหลายคน
หานเซี่ยวบิดคอคลายกล้ามเนื้อ เขาหันไป เห็นความกลัวในดวงตาทุกคนและลอบพยักหน้า เขาพอใจมาก
เขาไม่ได้โกรธจริง เขาต่อว่าแบ็กนิต้าเพื่อข่มขู่คนอื่น
นี่เพราะเขารู้ว่าต้องมีคนที่คิดแบบเดียวกับแบ็กนิต้าแน่แต่ไม่กล้ายื่นมือเพราะสถานการณ์ เพื่อกำจัดความคิดแบบนั้น การทำใหพวกเขากลัวที่จะทำอะไรด้วยจำนวนที่เหนือกว่าคงไม่พอ เขาต้องทำให้พวกเขารู้สึกถึงความแตกต่างในด้านพลัง
วิธีดีสุดที่จะข่มขู่พวกเขาคือบดขยี้แบ็กนิต้าในเวลาอันสั้น
ดังนั้น หานเซี่ยวจึงแสดงเจตนาอยากโจมตีแบ็กนิต้าขณะเข้าใกล้เขาพร้อมกัน เขาทำเพื่อให้แบ็กนิต้าสู้กับเขาในระยะประชิด ซึ่งจะทำให้กลยุทธ์’ตายพร้อมกัน’ง่ายขึ้น เหนือสิ่งอื่นใด คอมโบนี้ได้ผลดีสุด!
ข้อได้เปรียบที่มากสุดคือเขามีข้อมูลจำนวนมากในมือ ทุกคนที่รู้เกี่ยวกับเขาดีจะไม่มีวันเข้าใกล้เขา แต่ผู้คืนชีพเหล่านี้ไม่รู้ ดังนั้น ตามประสบการณ์อันล้าหลัง แบ็กนิต้าย่อมไม่ละทิ้ง’โอกาส’นี้แและสู้กับเขาในระยะประชิด ซึ่งติดกับหานเซี่ยวพอดี
วินาทีที่แบ็กนิต้าเลือกสู้ระยะประชิด จุดจบของการต่อสู้ก็ถูกตัดสินแล้ว
ผลของการบดขยี้แบ็กนิต้าเป็นไปตามคาดหวัง ทำให้หัวใจแสนบอบบางของคนเหล่านี้สั่นสะเทือน มันเหลืออีกแค่ก้าวเดียวที่ต้องเดิน
เมื่อเห็นว่าตัวแบ็กนิต้าค่อยๆหาย หานเซี่ยวก็นำกาลอวกาศแอมเบอร์ออกมา และยกตัวแบ็กนิต้าขึ้น”ฉันจะไม่ฆ่าเขา แต่เพื่อเลี่ยงความไม่แน่นอน ฉันจะขังเขาไว้เพื่อให้เขาสงบ”
วินาทีต่อมา กาลอวกาศแอมเบอร์ก็ก่อตัวรอบแบ็กนิต้า ตัวของเขาโดนขังไว้ในอำพัน
“นี่คืออะไร?”
คนสับสน สมาชิกเทพอำนวยจึงอธิบาย
ไม่ช้า ทุกคนก็เข้าใจการทำงานของมันพวกเขาต่างตกใจและกลัว
ครั้งนี้ หานเซี่ยวหันไปยิ้มสดใสให้พวกเขา
“คนที่ตั้งคำถามโดนจัดการแล้ว พวกนายเลือกได้หรือยัง?”
สีหน้าพวกเขาต่างไป บางคนยิ้มขมขื่น บางคนกลืนน้ำลายอย่างประหม่า
ไม่ต้องสงสัยเลยว่าพวกเขาจะเลือกอะไร
“..ฉันเต็มใจอยู่ในเทพอำนวย”
“ฉันด้วย”
ด้วยคนนำ คนที่เหลือจึงตาม
ระหว่างสองทางเลือก แทบทุกคนเลือกอยู่ในเทพอำนวย พวกเขาไม่อยากปรากฏในโลกภายนอก อย่างน้อยก็ก่อนจะเข้าใจภาพรวมชัด พวกเขาจะได้ไม่ต้องเสี่ยง
ไม่ช้า ดีแลนก็เป็นคนเดียวที่ยังไม่แสดงทางเลือก
หานเซี่ยวมอง”แล้วนายล่ะ?นายจะอยู่ในเทพอำนวยหรือเข้าร่วมสมาคม?”
ดีแลนลูบไล้คางขาวเนียน”ฉันไม่อยากพลาดเรื่องสนุก..ฉันจะเข้าร่วมสมาคม!ถ้าเราเริ่มสู้กับสามอารยธรรมจักรวาล ก็นับฉันไปด้วย!’
จากนั้น ราวกับเขายังพูดไม่พอ ดีแลนกวาดมองคนอื่น”หนังสือถูกต้อง คนขี้ขลาดและคนธรรมดามักเป็นคนกลุ่มใหญ่”
เมื่อได้ยิน หานเซี่ยวก็อดมองดีแลนใหม่ไม่ได้
นายสมควรโดนฆ่าจริงๆ แม้กระทั่งฉันก็ยังอยากทำ…
