บูม!
การระเบิดเกิดขึ้นไม่หยุด และเปลวไฟก็พวยพุ่งจากภายในฐาน เจาะเกราะมัน สร้างหลุมนับไม่ถ้วน ตำแหน่งระเบิดเปลี่ยนไปเรื่อยๆและสนามรบก็ย้ายอย่างรวดเร็ว
ภายในฐาน กองทัพกิลด์เทพเจ้าได้ต่อสู้กับดาฟิสอย่างรุนแรง
ซวบ
คมขวานแยกจากด้ามมัน ปกคลุมด้วยประกายไฟฟ้าพลังจักรกลและหมุนเหมือนใบเลื่อย ทุกที่ที่มันผ่าน เลือดกับเนื้อจะกระจาย และอะไหล่จักรกลก็เช่นกัน โซ่หมุนสีเงินเชื่อมกับคมขวานและด้าม ร่ายรำเหมือนมังกรคลั่ง มันดูเละเทะ แต่จริงๆแล้วมันได้ควบคุมการเคลื่อนไหวของคมหวานด้วยความแม่นยำสูง
นักสู้จักรกลเชี่ยวชาญในอาวุธเทคโนโลยี พวกเขาสร้างเทคนิคของตัวเองตามอาวุธพวกเขา ซึ่งกลายเป็น’รูปแบบพิเศษ’ ดังนั้น นักสู้จักรกลที่ใช้รูปแบบเดียวกันจึงใช้อาวุธจักรกลแบบเดียวกัน รูปแบบขวานนี้ที่ดาฟิสใช้เรียกว่า’ขวานเชือกRC-03’ แก่นของมันคือการควบคุมโซ่ มันเหมาะกับการสู้ในสภาพแวดล้อมซับซ้อนและเป็นหนึ่งในรูปแบบที่ดาฟิสเชี่ยวชาญ
คชา!
คมขวานหมุนบินผ่านผู้เล่น สับผ่านพวกเขาและฝังในหน้าอกผู้เล่นที่กลายพันธุ์ มันยังหมุนต่อและเฉือนเปิดกระดูกกับเนื้อ
ฉันจับเขาได้!
ผู้เล่นคนนี้ได้ปรับความเจ็บปวดให้ต่ำสุด มันจึงไม่เจ็บเลย เขาคว้าคมขวานหมุน ไม่สนใจว่ามือของเขาจะไหลทะลักเหมือนแม่น้ำ
พวกกลายพันธุ์ของหน่วยรถถังกระโจนไป แต่ละคนคว้าโซ่และดึงมัน ขณะที่ทีมสร้างความเสียหายเทการโจมตีใส่ดาฟิส ดาฟิสบิดเอว สร้างโล่พลังงานหมุนสีเหลืองรอบเขาเพื่อป้องกันการโจมตีของผู้เล่น ท่ามกลางการระเบิดหลากสี โล่เต็มไปด้วยรอยแตก
ในเวลาอันสั้น ดาฟิสได้สั่งการในสมอง สัญญาณประสาทไหลเข้าโมดูลควบคุมของขวาน ทันใดนั้น โซ่ก็ตึง คลื่นพลาสม่าปรากฏรอบโซ่ สลัดมือของพวกกลายพันธุ์ออก
จากนั้น ขวานก็เข้าสู่สถานะเกินขีดจำกัด ด้วยเสียงดังปัง ความเร็วการหมุนของคมขวานพุ่งทะยาน มันตัดมือผู้เล่นที่คว้ามันและสะท้อนกลับอย่างรวดเร็ว ฟันพวกกลายพันธุ์ทั้งหมดตามทางเป็นสองส่วนและกลับด้าม ดาฟิสสะบัดมันรอบตัวเขา ส่งคลื่นกระแทกสีเงินจากคมขวาน ระเบิดนักสู้หลายคนที่อยากเข้าใกล้ออกไป
แม้เขาจะโดนรุม ภัยพิบัติก็แกร่งกว่าเกรดBมาก ผู้เล่นไม่มีทางเลือกนอกจากเติมเต็มช่องโหว่นี้ด้วยชีวิต ก่อนดาฟิสจะหมดแรง ผู้เล่นแทบไม่มีโอกาสทำไรเขา บุกต่อไป ทีมรถถังสอง ลุย!
ทีมความเสียหาย กระจายตัว!
ทีมด้านนอก หยุดพวกลูกสมุน อย่าปล่อยให้เข้ามา!’
ขบวนรบของกิลด์เทพเจ้ากระจายตัวสักพัก แต่ก็กลับมาบุกโดยไม่กลัว หัวหน้าสั่งการการต่อสู้อย่างมีประสิทธิภาพในช่องทีม
สำหรับผู้เล่น ส่วนที่ลำบากสุดคือพวกเขาไม่สามารถควบคุมการโจมตีบอสได้ สิ่งเดียวที่ทำได้คือส่งทีมรถถังไปเป็นโล่เนื้อ
ถึงกระนั้น ดาฟิสก็ยังเลือกอ้อมทีมรถถังเพื่อโจมตีแนวหลังบอบบาง ส่วนใหญ่ ผู้เล่นจะปรับตัวได้ โชคดี เกราะของกองทัพแบล็คสตาร์แข็งมาก ผู้ทำความเสียหายจึงไม่โดนฆ่าตายทันที เหนือฐาน กองยานกิลด์เทพเจ้ากำลังปะทะกับกองทัพองครักษ์เหล็กกล้า
บนสนามรบนี้ พวกเขาโดนรุม กองยานกิลด์เทพเจ้าเสียเปรียบด้านจำนวน แต่ทว่า ด้วยความช่วยเหลือของเทคโนโลยีล้ำหน้าบนยานพวกเขาจึงยังรั้งไว้ได้
ห้องบัญชาการสั่นไม่หยุด มือของจูปิเตอร์กดลงบนโต๊ะบัญชาการขณะจ้องการต่อสู้ของดาฟิสบนหน้าจอ เขาพูดด้วยเสียงทุ้ม นี่จะไม่ได้ผล ประสิทธภาพการโอบล้อมนี้ช้าไป นี่จะทนได้ไม่นาน ..ไม่ต้องสนใจกองยาน เล็งอาวุธทั้งหมดใส่บอส และให้การสนับสนุน!
แล้วคนรอบเขาละ? โพไซดอนถาม
เราไม่ต้องสนใจการสูญเสียทางฝั่งเรา บอกพวกเขาให้เตรียมตัวและหลบการโจมตีให้ได้มากที่สุด จูปิเตอร์พูดอย่างเด็ดขาด
เมื่อออกคำสั่ง ยานรบกิลด์กว่าสิบก็หันปืนใหญ่พร้อมกัน เล็งใส่ดาฟิสผู้อยู่ในฐาน ลำแสงและขีปนาวุธนำวิถียิงออกมา
เสียงเตือนดังบนชุดจักรกลของดาฟิส เขารีบหลบ และวินาทีนั้น ลำแสงก็เจาะจุดที่เขาอยู่และไล่ตาม
ผู้เล่นได้รับเตือนก่อนแล้วและหลบ แต่ก็ยังมีบางคนที่หลบไม่ทันและกลายเป็นเถ้าถ่าน
ถ้าศัตรูเป็นแค่กลุ่มอมตะเกรดB มันคงไม่ใช่ปัญหาใหญ่สำหรับดาฟิส แต่ทว่า ด้วยการยิงสนับสนุนของกองยาน เขาจึงลำบาก
ผู้เล่นไม่กลัวตาย แต่เขากลัว ภัยพิบัติธรรมดาจะทนไม่ได้นานภายใต้การโจมตีด้วยปืนใหญ่พลังงานสูง และเขาก็เป็นแค่นักสู้จักรกล ซึ่งไม่มีพลังป้องกันสูงสุด เขาจึงไม่กล้าทดสอบ
การต่อสู้ดำเนินต่อไป ฐานเละเทะ กองยานกิลด์เทพเจ้าโดนยับยั้งด้วยกองยานศัตรู ให้การสนับสนุนได้แค่ชั่วคราว การปูพรมทำให้ดาฟิสมีบาดแผล
เมื่อเห็นพวกอมตะโดนการโจมตีของพวกเดียวกันฆ่าแต่ก็ยังบุกเข้ามา ปากของดาฟิสก็กระตุก
จิ๊ พวกบ้า..
เขาอดรู้สึกเสียใจที่ไปแหย่รังแตนไม่ได้ แปลก ฉันไม่ใช่ภัยพิบัติคนเดียวที่สามอารยธรรมจักรวาลจ้าง และก็มีภัยพิบัติที่คอยล่าพวกอมตะอยู่ทั่ว ฉันไม่เคยได้ยินว่าจะมีใครโดนการแก้แค้น ทำไมฉันถึงโชคร้าย?
ดาฟิสหลบการระเบิดห้าครั้งติดและมองศพของลูกน้องเขาทั่วพื้น สีหน้าของเขายิ่งมืดมน
แม้เขาจะไม่กลัว คนอื่นในฐานก็ไม่แกร่งเท่าเขา ผู้ใช้พลังเกรดBถือเป็นกระดูกสันหลังขององครักษ์เหลากล้า แต่พวกเขาแทบไร้อำนาจภายใต้การโจมตีของกิลด์เทพเจ้า เจ้าหน้าที่ที่ติดตามเขามาหลายปีต้องตาย
พวกเขาคือผู้มีพรสวรรค์ที่เขาใช้ความพยายามเพื่อรับสมัคร มันไม่คุ้มเลย!
พวกอมตะเหล่านี้เตรียมการมาดี ถ้ายังเป็นแบบนี้ต่อไป พลังงานกับความแข็งแกร่งฉันจะตกลง สิ่งต่างๆจะดูไม่ดี แถม พวกมันมาที่นี่เพื่อฉัน ถ้าฉันยังสู้ที่นี่ มันจะฆ่าคนของฉันเพิ่ม
ดาฟิสลังเลสักพักก่อนสูดหายใจและตัดสินใจ วินาทีต่อมา พลังงานภายในตัวเขาเริ่มเดือด เขาเหวี่ยงขวานและหมุนเหมือนเฮลิคอปเตอร์ ปล่อยคลื่นกระแทกสั่นสะเทือนที่ขยายจากคมขวาน
ซวบ!
คลื่นสีฟ้าระเบิดและขยาย คลื่นกระแทกรุนแรงพัดผู้เล่นใกล้ๆออกไป
ผู้เล่นที่ได้สติก่อนรีบลุกและแปลกใจที่เห็นว่าดาฟิสไม่โจมตีต่อ เขากลับวิ่งผ่านกำแพง หายไปจากสายตา
เขากำลังหนี?
สีหน้าพวกเขาเปลี่ยนไปขณะรีบวิ่งตาม
แต่ทว่า พวกเขาตระหนักว่าดาฟิสได้บินเข้าอวกาศและเปลี่ยนชุดจักรกลเป็นโหมดท่องอวกาศแล้ว ตัวขับพ่นไฟจากด้านหลัง ความเร็วเขาเพิ่มขึ้น หยุดเขา!’
สีหน้าจูปิเตอร์เปลี่ยนไป เขารีบสั่งกองยานให้เมินความเสียหายและเจาะแนวป้องกันองครักษ์เหล็กกล้า อยากไล่ตามดาฟิส แต่ทว่า ครั้งนี้ สัญญาณเตือนกลับดังบนเรดาห์ของยานรบ
กองยานขนาดเล็กปรากฏที่ขอบสนามรบและเข้าใกล้อย่างรวดเร็ว เกราะนอกพวกเขามีสัญลักษณ์ดาวฟีนี่ พวกเขาพูดในช่องสาธารณะ นี่คือหน่วยลาดตระเวนอารยธรรมฟีนี่ เราตรวจพบปฏิกิริยาพลังงานผิดปกติที่นี่ ทุกคนจงหยุดและเตรียมรับการตรวจสอบ!’
กองกำกลังรักษากฏมาที่นี่?ดาฟิส ผู้กำลังหนีคิด
ศูนย์ใหญ่ของเขาอยู่ในดินแดนอารยธรรมฟีนี่ แน่นอน ฝ่ายพิทักษ์กฏจึงมา โดยปกติ พวกเขาจะสนใจแต่เรื่องตัวเอง เขาไม่รู้ว่าพวกเขาอยากหยุดเขาด้วย
ขณะดาฟิสกำลังไตร่ตรอง เขาพลันได้รับการสื่อสารจากชุดจักรกล มันเป็นฑูตฟีนี่ที่มาเยือนเขาและอยู่ในห้องรักษาความปลอดภัยของฐาน
ไปซะ ฝ่ายพิทักษ์กฏจะไม่ยุ่งกับนาย ฑูตตัดบท . นายเรียกพวกเขามา? ดาฟิสเข้าใจ
จะใครละ?หรือนายจะปกป้องฉัน? ฑูตอารมณ์ไม่ดี ฉันจะบอกพวกเขาให้ซื้อเวลาให้นาย ไปให้ไกลสุดเท่าที่จะทำได้ ฉันไม่สามารถช่วยได้อีกถ้าพวกมันยังไล่ล่านาย!
เขาเป็นแค่แขกและไม่คิดว่าจะเจออันตราย เขาทำได้แค่โทษดาฟิส
เขากลัวว่าจะโดนฆ่าตายเช่นกัน เขาจึงเร่งใช้อำนาจเพื่อเรียกกองกำลังรักษาความปลอดภัยมาหยุดการต่อสู้ ในเวลาเดียวกันก็บังคับให้ดาฟิสหนี จากที่เขามอง เนื่องจากพวกอมตะเหล่านี้มาเพื่อแก้แค้น หลังดาฟิสไป พวกเขาย่อมตามไปด้วย แบบนี้เขาถึงปลอดภัย
ฉันจะไป ดาฟิสพยักหน้า เดิมเขาอยากกำจัดศัตรูร่วมกับกองยาน แต่ตอนนี้เขาไม่มีทางเลือกนอกจากไป เขาไม่อยากเห็นฑูตตกอยู่ในอันตรายเช่นกัน
ฑูตลังเล ดาวเบอเกอร์อยู่แถวนี้ ดาวอาณานิคมนั่นมีไว้เพื่อพลเมืองระดับต่ำ ฉันได้คุยกับผู้ดูแลดาวแล้ว นายไปที่นั่นซะ แม้จะไม่มีกองยานขนาดใหญ่ที่นั่น ศัตรูก็คงไม่กล้าละเมิดสนธิสัญญาและโจมตีดาวอาณานิคม
ตกลง
ดาฟิสวางสายและเร่งกำลังขับเต็มที่ แม้กิลด์เทพเจ้าจะตั้งตัวปรับเสถียรมิติเวลาไว้และจำกัดไฮเปอร์ไดรฟ์เขา ความเร็วการบินปกติของเขาก็สูงพอ เขาเปลี่ยนเป็นลำแสงและค่อยๆหายไป
เมื่อเห็น จูปิเตอร์ก็ตื่นตระหนก บอสหนีไปแล้ว เราควรทำไง?
เห้ย ฉันบอกนายแล้วว่าแผนนี้ไม่น่าเชือ่ถือ พวกมันสามารถหนีได้ต่อให้เอาชนะไม่ได้ คิดว่าเราอยู่ในดันเจี้ยนหรือไง? โพไซดอนไม่พอใจ
แม้พวกเขาจะสามารถทำให้ภัยพิบัติอ่อนแอลงได้ดว้ยชีวิตพวกเขาหรือมีโอกาสฆ่า มันก็ยากมากที่จะหยุดภัยพิบัติถ้าอีกฝ่ายอยากหนี เหนือสิ่งอื่นใด สถานการณ์สิ้นหวังที่อติโม่อยู่นั้นหาได้ยาก แถม ดาฟิสไม่ใช่เด็กโง่ที่อ่านสถานการณ์ไม่ออก เขาหนีทันทีที่เห็นว่าสถานการณ์ไม่ดี ไม่มีทางที่เขาจะอยู่ที่นี่และสู้ซึ่งๆหน้ากับพวกอมตะเหมือนคนโง่
หุบปาก! จูปิเตอร์ก่นด่า เส้นเลือดปูดบนหน้าผากเขา จากนั้นเขาก็เปิดช่องสาธารณะและตะโกน กองทัพแบล็คสตาร์กำลังทำธุระอยู่ โปรดปล่อยให้เราผ่าน!
ฉันไม่สนว่าแกเป็นใคร!นี่คืออาณาเขตของอารยธรรมฟีนี่ ไม่มีใครสามารถทำอะไรได้ตามใจชอบ!หยุดยานและตรวจสอบเดี๋ยวนี้ ไม่งัน้เราจะมองมันเป็นอาชญากรรม!
เมื่อได้รับคำสั่งจากฑูต กัปตันของกองยานนี้ก็ไม่ยอมลดละ เขาสั่งกองทัพให้หยุดกองยานของกิลด์ งั้น ทำไมพวกนายไม่หยุดชายคนนั้นที่หนีไป? จูปิเตอร์รำคาญมาก
ไม่ใช่เรื่องของแก!นี่เป็นคำเตือนสุดท้าย หยุดยานเดี๋ยวนี้! กัปตันคำรา
จูปิเตอร์กัดฟัน เขาทุ่มทรัพยากรไปมาก การละทิ้งกลางคันจะสูญเสียหนัก เขาวางแผนนี้มา เขาจึงต้องเป็นคนรับโทษ เขาจึงตัดสินใจ
วันนี้เราจะฆ่าบอสตัวนี้ให้ได้!บุก!กำจัดใครก็ตามที่ขวางทางเรา!
ขณะพูด กองยานกิลด์ก็ไม่ลังเลอีกและยิงใส่ศัตรูทั้งหมด ไม่ว่าจะเป็นองครักษ์เหล็กกล้าหรืออารยธรรมฟีนี่ พยายามเปิดเส้นทาง
ผู้เล่นบางคนที่ยังอยู่ในบานะกลับมาผ่านลำแสงดึงดูด บางคนใช้พลังงานทั้งหมดโจมตีสุ่มๆ และฆ่าพวกตัวเองเพื่อคืนชีพในยาน ทั้งสองฝ่ายสู้กันสักพัก ผู้เล่นส่วนใหญ่กลับยานเว้นแต่บางคนที่ยังอยู่ในฐานะ PPของผู้บัญชาการกองทัพคือหนึ่งในนั้น
บัดซบ ในเมื่อแกหนี บ้านของแกก็จะพินาศ!’
PPของผู้บัญชาการกองทัพรำคาญกับความจริงที่ดาฟิสหนี เขานำระเบิดออกมา
นี่คือระเบิดทำลายล้างพลังงานมืดที่เขาใช้เงินเก็บเพื่อซื้อ ก่อนกิลด์เทพเจ้าจะติดต่อเขา เดิมเขาอยากใช้สิ่งนี้เพื่อตายไปพร้อมกับดาฟิส และตอนนี้เขาก็ตัดสินใจใช้มัน
วินาทีต่อมา ระเบิดสีแดงเข้มก็ปะทุ!
บูม!
แสงขยาย และกลืนทั้งฐาน เปลี่ยนโลหะของฐานเป็นอะตอม
ฑูตที่อยู่ในห้องรอคนมารับตัวโดนระเบิดก่อนจะได้ตอบสนอง เขาตายคาที่
ไม่ใช่แค่เขา สมาชิกทั้งหมดขององครักษ์เหล็กกล้าในฐานโดนลดเป็นอะตอม ไม่มีใครรอด
กัปตันกองกำลังพิทักษ์กฏตกใจ
คนเหล่านี้บ้าไปแล้ว?พวกมันกล้าใช้อาวุธอันตรายแบบนี้ได้ไง?
เหมือนระเบิดไซโอนิค ระเบิดทำลายล้างพลังงานมืดยังเป็นอาวุธอันตรายที่โดนหลายอารยธรรมห้ามและจะโดนลงโทษร้ายแรง
แม้แต่อาชญากรบางคนก็ยังไม่กล้าใช้มัน กองทัพแบล็คสตาร์เป็นกองกำลังพิทักษ์กฏหมายไม่ใช่เหรอ?พวกเขาไม่กลัวว่าจะทำให้ชื่อเสียงเสียหายเลย?
กัปตันกองยานโดนข่มขุ่ ฑูตโดนระเบิดตายไปแล้วเขาจึงตัดสินใจปล่อยกองยานกิลด์ไป กลัวว่าคนบ้าเหล่านี้อาจส่งระเบิดทำลายล้างพลังงานมืดใส่พวกเขาด้วย
โดยปราศจากการขัดขวาง กองยานกิลด์จึงฝ่าวงล้อมและไล่ตามดาฟิสได้
ยานรบถูกออกแบบมาให้เดินทางท่องอวกาศ พวกเขาเร็วกว่าดาฟิสมาก ระยะห่างระหว่างสองฝ่ายลดลงอย่างรวดเร็ว
ดาฟิสสังเกตเห็นยานรบไล่ตามหลังเขา บ่นว่ากองยานพิทักษ์กฏไม่สามารถชะลอความเร็วได้เลย เขาไม่มีทางเลือกนอกจากหนีต่อ
หลังออกพื้นที่ปรับเสถียร สองฝ่ายก็เข้าโหมดไฮเปอร์ไดรฟ์พร้อมกัน เปลี่ยนเป็นลำแสง หนึ่งหนาหนึ่งบาง
ไม่นานนัก ดาวก็ปรากฏในสายตา มันคือดาวอาณานิคมมูลค่าต่ำของอารยธรรมฟีนี่ ดาวเบอเกอร์
พลเมืองของดาวอาณานิคมนี้คือพวกไม่เต็มใจทำงาน ใช้เงินของรัฐบาลเพื่อรักษามาตรฐานชีวิตขั้นต่ำสุด อารยธรรมแทบทั้งหมดมีดาวแบบนี้ซึ่งมักมีผู้เยี่ยมชมเป็นศูนย์
ฉันถึงแล้ว! ดาฟิสดูดีใจมาก
ฑูตได้แจ้งดาวเบอเกอร์ถึงการมาของเขาแล้ว คำขอของเขาจึงได้รับอนุมัติทันที กองยานด้านนอกชั้นบรรยากาศไม่หยุดเขา เมื่อเห็นดาฟิสก็ถลาเข้าชั้นบรรยากาศโดยไม่ลังเล ตรงไปเมืองหนึ่ง
ครั้งนี้ ในที่สุดกองยานกิลด์เทพเจ้าก็มาถึงและหยุดด้านนอกดาว กองยานของดาวเคราะห์รวมกันต่อหน้าพวกเขา
จู่ๆยานพวกเขาก็ได้รับข้อความ มนุษย์อวัยวะเทียมปรากฏบนจอ เขาคือผู้ดูแลดาว ท่าทีเขาเย็นชามาก
ฉันเป็นผู้ดูแลดาวเบอเกอร์ พวกนายไม่เป็นที่ต้อนรับของดาวนี้ ออกไปเดี๋ยวนี้ ไม่งั้นฉันจะติดต่อกองยานให้ขับไล่
เมื่อได้ยิน เหล่าเสาหลักกิลด์ก็มองหน้ากัน
ประธาน ทำไงกันดี?ดาวอาณานิคมนี้อยากปกป้องเป้าหมายเรา โพไซดอนมองจูปิเตอร์ ผู้ที่ดวงตาแดงก่ำ เราควรถอย ตามกฏของสังคม เราไม่สามารถโจมตีดาวอาณานิคมได้..
จูปิเตอร์ดูหนักใจ จากนั้นเขาก็กัดฟัน
ฉันไม่สน!เราจะฆ่าเป้าหมายวันนี้ไม่ว่ายังไงก็ตาม!อย่าปล่อยให้เขาหนีไปอีก ยิง!’
ในขณะเดียวกัน ดาฟิสก็มาถึงเมืองหนึ่ง ถนนเงียบ มีคนเดินเท้าแค่ไม่กี่คนที่ดูสับสน
โดยไม่สนใจพวกเขา ดาฟิสแหงนมองกองยานที่ลอยนอกชั้นบรรยากาศ ความหงุดหงิดฉายผ่านตา
นี่นับเป็นการสูญเสียครั้งใหญ่ เจ้าหน้าที่ของเขาโดนสังหารไปมาก หัวใจของเขากำลังหลั่งเลือด
ถ้าไม่ใช่เพราะความกังวลที่มี เขาคงพยายามฆ่าพวกอมตะเหล่านั้นไปแล้ว เขาไมอยากขอความช่วยเหลือจากดาวเลย
ช่างมัน ฉันจะปล่อยพวกมันไปก่อน จากนั้นค่อยหาพวกมันทีละคน
ดาฟิสกัดฟัน หยิบอุปกรณ์สื่อสารมาติดต่อฑูต เขาหนีมาก่อน และยังไม่รู้ว่าศูนย์ใหญ่เขาโดนทำลาย
แต่ไม่มีใครรับ
ขณะที่ดาฟิสยังสับสน เขาก็พลันรู้สึกถึงอันตรายและรีบถอย!
บูม!
วินาทีต่อมา ลำแสงปืนใหญ่ก็เทลงมาจากฟ้า ทั้งถนนพังทลาย!
อะไรกัน?
สีหน้าดาฟิสเปลี่ยนไป เขาแหงนมองกองยานที่ยิงใส่เมืองอย่างไม่อยากเชื่อ พวกเขายิงดาวอาณานิคมแค่เพราะฉัน ?
พวกเขาไม่รู้ว่าการกระทำแบบนี้หมายความว่าไง?แม้กระทั่งสมาคมผู้อยู่เหนือก็ยังไม่ทำอะไรแบบนี้!
ความหนาววิ่งขึ้นสมอง เปลวไฟแห่งความโกรธพลันมอดดับ
หัวใจของดาฟิสเต็มไปด้วยความตกใจ
คนเหล่านี้ไร้กฏ!
