เขาได้คำตอบจากเย่ห่าว
ซูหยานหยิง หญิงสาวที่เป็นลูกค้ารายแรกของเขาจากไปแล้ว…ซูผิงพลาดงานศพเธอตอนที่เขาอยู่ในอาการโคม่า
ซูผิงแทบไม่อยากจะเชื่อ
ชีวิตช่างเปราะบางเหลือเกิน
เขาไม่พบคำใดที่จะบรรยายถึงความเศร้าในใจของเขา
เขาได้พบกับความตายและเห็นเลือดมามากมาย ถึงกระนั้นเมื่อเป็นการจากไปของใครบางคนที่เขาคุ้นเคย … มันช่างเป็นความรู้สึกที่น่าเวทนาเหลือเกิน
เขายังจำได้ว่าหญิงสาวพยายามที่จะเป็นนักสำรวจหาเงินเพื่อเลี้ยงดูครอบครัวของเธอให้ดีขึ้น เพื่อที่พวกเขาจะได้ย้ายไปอยู่ในย่านใจกลางเมือง เพื่อมีชีวิตที่ดีขึ้น …
หนูสายฟ้าที่เขาฝึกฝนมาเพื่อเธอเป็นตัวแทนของความหวังในการมีชีวิตที่ดีขึ้นของเธอ เธอมีอนาคตที่สดใสรออยู่ตรงหน้า… และทั้งหมดถูกทำลายลงด้วยการโจมตีของอสูรร้าย
หนูสายฟ้ายังคงมองไปรอบ ๆขณะนั่งอยู่บนบันได ซูผิงเข้าใจแล้วว่าทำไมหนูสายฟ้าถึงอยู่ที่นี่ มันไม่เจอเจ้าของของมัน หนูสายฟ้าคิดว่าเจ้าของของมันจะมาที่นี่และรับมันอีกครั้งถ้ามันกลับมาที่ร้าน หนูสายฟ้าไม่ทราบว่าเจ้าของของมันได้ลาจากโลกนี้ไปแล้ว
การรอคอยของอสูรจะไม่คุ้มค่า
ซูผิงก้มลงและลูบหัวหนูสายฟ้า
หนูสายฟ้าหันกลับแยกเขี้ยวและผลักมือของซูผิงออก ประกายไฟฟ้าแสดงให้เห็นว่ามันเป็นศัตรูกับเขา
ซูผิงไม่ได้สนใจความรู้สึกชาที่มือของเขา ในขณะที่เขาจ้องมองหนูสายฟ้า ซูผิงกล่าวว่า“ สัญญาของแกถูกทำลายแล้ว แกไม่มีความทรงจำเกี่ยวกับชีวิตที่ผ่านมาของแก แกรู้ไหมว่ากำลังรอใครอยู่?”
หนูสายฟ้ามองเขาอย่างดุร้าย
เนื่องจากซูผิงไม่ว่าอะไรกับการกระทำของมัน มันจึงสงบลงเล็กน้อย หนูสายฟ้าดูเหมือนจะสับสนกับคำถามของซูผิงหนูสายฟ้าค่อยๆเศร้า มันแทบจะไม่สามารถบอกได้ว่าความโศกเศร้านี่มาจากไหน
หนูสายฟ้ามองไปที่ถนนอย่างตั้งใจ
หนูสายฟ้ารู้สึกแค่ว่าจะมีคนสำคัญจะปรากฏตัวขึ้น
แต่ไม่รู้ว่าคน ๆ นั้นหน้าตาเป็นยังไง
บางทีมันอาจจะสามารถบอกได้ตอนที่บุคคลนั้นปรากฏตัวออกมา
หนูสายฟ้ากระโดดขึ้นไปบนรูปปั้นมังกรอย่างรวดเร็ว โดยไม่คำนึงถึงแรงกดดันที่ล้นออกมาจากรูปปั้นมังกร มันพบจุดหนึ่งและหมอบลง มอง และรอ
ซูผิงรู้สึกเจ็บหัวใจมากจนแทบหายใจไม่ออก เขาไม่เข้าใจว่าทำไมหนูสายฟ้าถึงทำตัวแบบนั้น หลังจากที่สัญญาถูกทำลาย
แต่เขารู้ว่าหญิงสาวที่หนูสายฟ้ารออยู่จะไม่มีวันกลับมา
“อยู่กับฉันดีไหม?”ซูผิงค่อยๆส่งความคิดของเขาให้หนูสายฟ้า
หูของหนูสายฟ้ากระตุก แต่มันไม่ได้มองมาที่ซูผิง หนูสายฟ้าจ้องมองไปที่ถนน และดูเหมือนว่ามันจะรวมเข้ากับรูปปั้นมังกร
ซูผิงไม่พูดอะไรอีก เขาเข้าใจสิ่งที่หนูสายฟ้าต้องการ
นักรบอสูรสามารถมีอสูรได้หลายตัว แต่อสูรสามารถมีเจ้านายได้เพียงคนเดียว
ซูผิงจำมังกรเพลิงนรกของเขาได้ในขณะที่เขามองไปที่หนูสายฟ้า โดยจำได้ว่ามังกรนรกนั้นสภาพเป็นอย่างไร และมันตะโกนอย่างภาคภูมิใจว่ามันจะไม่มีวันล้มในขณะที่มันยืนอยู่ต่อหน้าเจ้านายของมัน
ซูผิงกำหมัดแน่น และเดินกลับไปในร้าน
“ อาจารย์ หนูสายฟ้า…” จงหลิงถงขยับริมฝีปาก เธอสนใจหนูสายฟ้าตัวน้อย และต้องการมันมาเป็นอสูรของเธอ
ซูผิงสามารถเดาได้ว่าเธอคิดอะไรอยู่ เขารู้ด้วยว่าเธอไม่สามารถทำให้หนูสายฟ้าเชื่องได้ด้วยพลังของเธอ เขาฝึกฝนมันมาอย่างดีจนอยู่ในระดับเจ็ดขั้นสูงสุด และสายฟ้าแลบทำให้มันสามารถอยู่รอดได้แม้ในขณะที่เผชิญหน้ากับอสูรป่าระดับแปด
ไม่มีใครที่ต่ำกว่าระดับปรมาจารย์จะสามารถทำให้หนูสายฟ้าเชื่องได้
“ ปล่อยให้เจ้าหนูนั่นอยู่อย่างนั้นไป ไปซื้ออาหารอสูรสำหรับหนูสายฟ้ามาให้มันสิ” ซูผิงตอบ
จงหลิงถงกล่าวว่า “โอ้” หลังจากนั้นไม่นาน แต่เธอก็นึกถึงคำถามอื่นขึ้นมาทันที “อาจารย์ เราเป็นร้านขายอสูร ฉันคิดว่าเรามีสมุนไพรที่หนูสายฟ้าชอบอยู่ในร้านของเรา”
ซูผิงเม้มปาก แน่นอนว่าเขารู้ดี แต่สมุนไพรเหล่านั้นมีไว้เพื่อขายเท่านั้น หรือสำหรับอสูรที่เขาทำสัญญาด้วย
อย่างไรก็ตามหากไม่มีเจ้านาย หนูสายฟ้าก็ไม่มีทางจ่ายค่าอาหารได้ ดังนั้นเขาจะต้องซื้ออาหารจากร้านขายอสูรอื่น
“ แค่ทำตามที่ฉันบอก อย่าถาม” เขาพูดอย่างไม่พอใจ
จงหลิงถงปฏิบัติตาม เธอรู้สึกได้ว่าอารมณ์ของซูผิงกำลังพลุ่งพล่าน ภัยพิบัติที่เกิดขึ้นกับเมืองฐานหลงเจียงคงเป็นสาเหตุ
จงหลิงถงได้เห็นความยุ่งเหยิงจากสงคราม ตลอดสองวันที่ผ่านมาที่ซูผิงอยู่ในอาการโคม่า เธอเห็นผู้คนมากมายเดินเตร่ไปตามท้องถนนซึ่งกลายเป็นคนไร้บ้าน การที่ใบหน้าของคนเหล่านั้นไร้อารมณ์ทำให้เธอสะเทือนใจอย่างมาก “ ได้ค่ะ” เธอกล่าว
…
หลังจากนั้นไม่นานก็มีคนร้องโอ้โฮ
ปรมาจารย์ดาบเข้ามาในร้าน เขาเห็นซูผิงและหญิงสาวทั้งสองพร้อมกัน เขาพยักหน้าให้สาว ๆ และพูดกับซูผิงว่า“ คุณซู ผมมาแล้ว”
ซูผิงรับรู้ว่าเขามาถึง ก่อนที่เขาจะเข้ามาในร้าน “ ผมรู้ว่าคุณกำลังจะไปที่เมืองฐานหานเฉิง ดังนั้นผมจะไม่รบกวนวลาของคุณมากนัก ผมมีอสูรที่สามารถขายให้คุณได้ คุณต้องการมันไหม?” ซูผิงถาม
“อสูร?” ปรมาจารย์ดาบไม่คาดคิดมาก่อนว่าซูผิงตั้งใจจะขายอสูรให้เขา
“ ใช่ จระเข้สงครามที่คุณเจอระหว่างต่อสู้” ซูผิงอธิบาย
แม้ว่าจระเข้สงครามจะเป็นอสูรที่ทรงพลัง แต่ซูผิงก็ตั้งใจที่จะขายมัน เขาทำได้เพียงทำสัญญาทาสกับจระเข้สงคราม สิ่งนี้จะไม่อนุญาตให้เขานำมันไปที่สนามบ่มเพาะเพื่อฝึกอบรม จระเข้สงครามถูกกำหนดให้อยู่ที่สภาวะสมุทรขั้นสูงสุด เว้นแต่ว่าจระเข้สงครามจะฉลาดมากจนสามารถสร้างความก้าวหน้าได้ด้วยตัวมันเอง
เนื่องจากโครงกระดูกน้อยฟื้นขึ้นมาแล้ว ซูผิงก็ไม่ต้องการจระเข้สงครามอีกต่อไป
“ …คุณหมายถึงราชาอสูรร้ายเหรอ?!” ปรมาจารย์ดาบเบิกตากว้างด้วยความประหลาดใจ
ถังยู่หรานและจงหลิงถงตกใจไม่น้อย ทั้งคู่ไม่คาดคิดว่าซูผิงจะมอบราชาอสูรร้ายที่ทรงพลังเช่นนี้ให้!
ซูผิงบอกว่าเขาจะขายมัน แต่เมื่อพิจารณาราคาแล้วเขากำลังมอบราชาอสูรร้ายที่ประเมินค่าไม่ได้!
“ใช่” ซูผิงพยักหน้า“ มันสามารถช่วยคุณได้ในระหว่างการเดินทางไปยังเมืองฐานหานเฉิง”
ปรมาจารย์ดาบจ้องมองซูผิงด้วยสายตาว่างเปล่า
เขาไม่สามารถคาดคิดได้เลยว่าของขวัญที่ซูผิงเอ่ยถึงนั้นเป็นของขวัญที่ใจกว้างขนาดนี้!
ราชาอสูรร้าย!
ปรมาจารย์ดาบได้เห็นว่าจระเข้เอาชนะราชาอสูรป่าสองตัวในระหว่างการต่อสู้ยังไง จระเข้น่าจะเป็นหนึ่งในอสูรที่ดุร้ายที่สุด
แต่ซูผิงเต็มใจที่จะขายราชาอสูรร้ายให้เขา!
“ ราคาประมาณสองร้อยล้าน คุณต้องการมันไหม?” ซูผิงถาม
ปรมาจารย์ดาบได้สติ แต่เขาก็ตกตะลึงกับราคา “ สองร้อยล้าน? คุณซูคุณหมายถึงพันล้านหรือเปล่า?”
สองร้อยล้านสำหรับราชาอสูรร้ายตัวนั้น?
นั่นคือราชาอสูรร้าย! เงินจำนวนนั้นไม่มีค่าอะไรเลยเมื่อเทียบกับมูลค่าของราชาอสูรร้าย!
เขาจะซื้อมันแม้ว่าจะมีเลขศูนย์เพิ่มไปอีกสองตัว แม้ว่านั่นจะหมายความว่าเขาต้องใช้เงินอย่างประหยัด!
ท้ายที่สุดความเป็นไปได้ที่จะมีราชาอสูรร้ายนั้นต้องน้อยมากแน่ ๆ เขาจะไม่มีวันได้รับหากตั้งใจจะจับมาด้วยตัวเอง เขาจะต้องจ่ายเงินให้กับนักรบอสูรในตำนานเพื่อขอให้อีกฝ่ายช่วยจับ แต่การจะจ่ายเงินให้กับนักรบอสูรในตำนาน … เขาจะต้องใช้เงินอย่างน้อยหลายหมื่นล้าน
“ สองร้อยล้าน” ซูผิงย้ำกับตัวเอง ซูผิงไม่ได้อยู่ในอารมณ์ที่จะทำเป็นตลกเพราะสิ่งที่เกิดขึ้นกับหนูสายฟ้า “ ถ้าคุณต้องการ โอนเงินมาและคุณก็รับไปได้ทันที”
เขาเพิ่งทำสัญญาทาสกับจระเข้สงคราม การยกเลิกสัญญานั้นจะไม่ทำให้เขาอ่อนแอ
“ ใช่ แน่นอน ต้องการ!” ปรมาจารย์ดาบตะโกนทันที
คนโง่เท่านั้นที่จะบอกว่าไม่ต้องการซื้อราชาอสูรร้ายในราคาสองร้อยล้าน ของขวัญชิ้นนี้มีความหมายกับเขามาก เขาไม่เคยคิดมาก่อนว่าซูผิงกำลังมอบราชาอสูรร้ายให้เขาเป็นของขวัญ!
ปรมาจารย์ดาบมองไปที่ซูผิง
เขาทำงานร่วมกับหยวนเทียนเฉินเป็นเวลาหลายปี สิ่งที่เขาต้องการคือให้หยวนเทียนเฉินมอบแรงบันดาลใจให้เขาเพื่อที่เขาจะได้ไปถึงระดับตำนาน หยวนเทียนเฉินจะสามารถช่วยเขาจับราชาอสูรร้ายเพื่อที่เขาจะได้เป็นคู่ปรับกับผู้ที่อยู่ในระดับตำนาน
อย่างไรก็ตาม แม้หยวนเทียนเฉินจะรับปากเช่นนั้น แต่ก็ไม่เคยทำตามคำสัญญานั่น แต่ในวันนี้ปรมาจารย์ดาบจะได้รับตัวหนึ่งจากซูผิง! “คุณซู…”
ปรมาจารย์ดาบต้องการแสดงความขอบคุณ แต่ไม่สามารถเปล่งคำพูดเหล่านั้นได้
เขาไม่สามารถเรียกความกล้าที่จะกล่าวขอบคุณได้
ซูผิงตระหนักดีถึงสิ่งที่ปรมาจารย์ดาบกำลังคิด เขาตบไหล่ของปรมาจารย์ดาบ และพูดว่า“ เราเป็นเพื่อนกัน ดังนั้นคุณไม่ต้องพูดอะไร คุณสมควรได้รับสิ่งนี้เพราะคุณเสี่ยงชีวิตเพื่อช่วยเมืองฐานหลงเจียง แต่ผมมีเรื่องจะขอ”
ปรมาจารย์ดาบตอบอย่างรีบร้อน“ คุณซู บอกมาได้เลยครับ”
“ เมื่อคุณไปถึงระดับตำนานคุณจะไม่สามารถะทิ้งมันได้ และคุณจะยกเลิกสัญญาได้หลังจากเก็บมันไว้เป็นเวลา10ปีเท่านั้น! ถ้าคุณต้องการยกเลิกสัญญาก่อนหน้านั้นหลังจากที่ระดับของคุณสูงขึ้น คุณต้องมาที่ร้านของผมและยกเลิกสัญญากับผมในฐานะพยาน คุณสัญญากับผมได้ไหม?”
ปรมาจารย์ดาบไม่อยากจะเชื่อเลยว่ามันจะง่ายขนาดนี้ เขาคิดว่าซูผิงกำลังจะขอสิ่งที่สำคัญกว่านี้
“แน่นอน!” ปรมาจารย์ดาบตอบอย่างไม่ลังเล“ คุณซู คุณก็พูดเกินไป นี่คือราชาอสูรร้าย แม้ว่าผมจะอยู่ในระดับตำนาน แต่ผมก็ต้องพึ่งพามัน ไม่ต้องพูดถึงว่าผมยังมีหนทางอีกยาวไกลกว่าจะไปถึงระดับตำนาน ผมไม่สามารถหาจุดที่ควรเริ่มได้ในตอนนี้ บางทีนั่นอาจจะไม่เกิดขึ้นกับผม…”
เขากำลังพูดความจริง เขายังหนุ่มและมีแนวโน้มที่จะไปถึงระดับตำนานได้ แต่เขาได้เห็นผู้มีความสามารถมากมายที่มาถึงจุดสูงสุดในช่วงต้นชีวิตของ แต่ล้มเหลวในการไปถึงระดับตำนานในช่วงสุดท้ายของชีวิต
นั่นห่างอีกแค่ก้าวเดียว แต่จะไม่มีทางพบความหวัง หากไม่พบทิศทางที่ถูกต้อง
“คุณสามารถทำได้ อย่าท้อ” ซูผิงให้กำลังใจปรมาจารย์ดาบ
ปรมาจารย์ดาบตอบด้วยรอยยิ้ม “ ผมควรโอนเงินตอนนี้เลยไหม”
“ ครับ”
“ไม่มีปัญหา” ปรมาจารย์ดาบโอนเงินให้ซูผิง เขาแน่ใจว่าซูผิงไม่ได้หลอกลวงเขา แม้ว่าเขาจะยังไม่เห็นอสูรก็ตาม
เป็นครั้งแรกที่เสียงเรียกเข้าของเงินที่เข้าสู่บัญชีของเขาฟังดูไม่น่าพอใจนัก
จระเข้สงครามไม่ใช่อสูรของเขา แต่เขารู้สึกเศร้าเล็กน้อยเพราะพวกเขาได้ต่อสู้เคียงบ่าเคียงไหล่กันมา
ซูผิงถอนหายใจ เขาออกไปข้างนอก และเรียกจระเข้สงครามออกมา
โฮก!
จระเข้สงครามมีร่างกายที่ดูเหมือนจะหล่อด้วยทองคำ เกล็ดแต่ละเกล็ดบอกว่ามันร้ายกาจเพียงใด และแสงสะท้อนเย็นเยียบก็สะท้อนออกจากเกล็ดนั่น
จระเข้สงครามมีขนาดใหญ่มากจนเกือบจะเต็มถนน
แม้ว่ามันจะไม่ใช่ครั้งแรกที่เขาได้เห็นจระเข้สงคราม แต่ปรมาจารย์ดาบก็ยังประหลาดใจ แต่ก่อนเขาเคยเห็นว่าซูผิงขี่จระเข้สงคราม แต่วันนี้ราชาอสูรร้ายกำลังจะกลายเป็นอสูรของเขา
ด้วยแสงแวววาวในดวงตาของเขา ปรมาจารย์ดาบมองจระเข้สงครามทุกตารางนิ้ว
ซูผิงตบไหล่ปรมาจารย์ดาบ เขาบอกลามันในความคิดของเขา
จระเข้สงครามคร่ำครวญ แววตาแห่งความเศร้าฉายเข้ามา
วินาทีต่อมาซูผิงตัดสัญญา
เมื่อสัญญาหายไป ความสับสนในจระเข้สงครามก็หายไป มีบางอย่างขาดหายไปในใจ จระเข้สงครามรู้สึกได้รับการปลดปล่อย มันอดไม่ได้ที่จะคำรามขึ้นฟ้า
โฮก !!
เสียงคำรามนั้นดังมาก
ผู้คนนับไม่ถ้วนตื่นตัวเพราะกลัวว่าอสูรป่าจะกลับมาอีก
อย่างไรก็ตามลูกค้าเก่าของร้านบางคนรู้สึกโล่งใจเมื่อพวกเขารู้ว่าต้นตอของเสียงดังมาจากร้านขายอสูรพิกซี่ ถ้าเสียงคำรามมาจากร้านแสดงว่าอสูรร้ายนั้นน่าจะเป็นอสูรของซูผิง แม้ว่ามันจะไม่ใช่อสูรของเขา เขาก็จะต้องฆ่าราชาอสูรป่าที่บุกรุกเข้ามาไปแล้ว
นอกร้าน
ซูผิงพูดกับปรมาจารย์ดาบว่า“ คุณทำสัญญาได้เลย” เสียงคำรามทำให้เลือดของปรมาจารย์เดือด เขาไม่สามารถรอได้ เขาทำสัญญากับจระเข้สงครามทันที
พลังของร้านทำให้จระเข้สงครามที่พยายามต่อต้านโดนสะกด ปรมาจารย์ดาบทำสัญญาได้อย่างราบรื่น
เมื่อเครื่องหมายของสัญญาจมอยู่ในหน้าผากของพวกเขาทั้งสอง การเชื่อมโยงก็ปรากฏขึ้นภายในพวกเขา
จระเข้สงครามเงียบลง พันธะสัญญาหมายความว่าจระเข้สงครามจะภักดีต่อเจ้านายของมัน และมันจะทำร้ายเจ้านายของมันก็ต่อเมื่อเจ้านายของมันทำอะไรที่อุกอาจเท่านั้น
“ จากนี้ไปแกจะเป็นคู่หูของฉัน” ปรมาจารย์ดาบตบเกล็ดของจระเข้สงครามอย่างอ่อนโยน
พันธะของสัญญาบอกกับปรมาจารย์ดาบว่าอสูรตัวนี้มีจิตวิญญาณที่โดดเดี่ยว
แต่นับนี้เป็นต้นไปวิญญาณที่โดดเดี่ยวเช่นนี้จะได้รับการปกป้องจากเขา
จระเข้สงครามก้มหัวลง และคร่ำครวญเป็นการตอบกลับ
ซูผิงดีใจที่สัญญาเรียบร้อยแล้ว “ ดูแลมันให้ดี”
“แน่นอน”
ปรมาจารย์ดาบเรียกจระเข้สงครามเข้าไปในพิ้นที่สัญญา “ ผมจะไม่เสียเวลากับคำพูดที่ไร้ประโยชน์ คุณซูผมจะไปแล้ว”
“ ได้เลย” ซูผิงพยักหน้า
ปรมาจารย์ดาบชูหมัดขึ้น และบินจากไป เขาเรียกอสูรบินได้และหายไปในขอบฟ้า
ซูผิงละสายตาจากพวกเขา เมื่อมีปรมาจารย์ดาบและจระเข้สงคราม เมืองฐานหานเฉิงควรได้รับการช่วยเหลือเว้นแต่จะมีราชาสวรรค์ตัวอื่นซ่อนตัวอยู่เหมือนสถานการณ์ที่เกิดขึ้นกับเมืองฐานหลงเจียง
ซูผิงกำลังจะเข้าไปในร้านของเขา แต่เห็นว่าเจ้าตัวเล็กสีม่วงยังคงจ้องมองไปที่ถนน แม้แต่การปรากฏตัวของจระเข้สงครามก็ไม่สามารถเบี่ยงเบนความสนใจของเจ้าหนูตัวเล็กตัวนั้นได้แม้แต่วินาทีเดียว
ซูผิงเดินกลับเข้าไปในร้าน
หลังจากขายจระเข้สงคราม เหรียญดวงดาวสองร้อยล้านเหรียญถูกแปลงเป็นแต้มพลังงานสองล้านแต้ม
ซูผิงปล่อยให้ถังยู่หรานและจงหลิงถงดูแลร้าน ในขณะที่เขากลับไปที่ห้องอสูรและบอกโจแอนนาให้ดูแลร้าน
เนื่องจากเขากำลังจะไปยังโลกแห่งมังกร โจแอนนาจึงต้องคอยดูแลแทน
“ไปกันเถอะ!”
ซูผิงเปิดโลกมังกรเลือดม่วงขึ้นมา และเข้าไปโดยไม่ลังเล
โจแอนนาเฝ้าดูขณะที่วังวนในอากาศกลืนกินซูผิง เธอไม่เชื่อในตัวเขาอย่างเต็มที่ตอนที่เขาสัญญาว่าเขาจะสามารถพาเธอไปสู่แดนเทพแห่งอาเคียนได้ เธอไม่เชื่อเขาเท่าไหร่ แต่เมื่อเวลาผ่านไปเธอเชื่อมั่นว่าซูผิงจะสามารถทำตามสัญญาของเขาได้ เพียงแค่เธอยังไม่ได้รับคะแนนมากพอ
เธอเริ่มกังวลที่จะทำคะแนนให้มากขึ้น
…
ในโลกมังกรเลือดม่วง
ในป่าหินสีน้ำตาลเข้ม มีเสียงหวีดหวิว ร่างเล็ก ๆ ปรากฏตัวขึ้น และตกลงบนหินเหมือนมดตัวเล็ก ๆ
ซูผิงมองไปรอบ ๆ
นี่คือโลกของมังกรเลือดม่วงหรือ? โลก…แห่งมังกร? เมื่อซูผิงมองไปรอบ ๆ เขาก็ได้ยินเสียงคำรามของมังกรดังมาจากระยะไกลด้านหลังป่าไม้ขนาดใหญ่ เสียงคำรามดังพอที่จะเขย่าความว่างเปล่า ในช่วงเวลาต่อมาซูผิงเห็นมังกรตัวใหญ่ที่มีร่างกายยาวหลายร้อยเมตรทะยานออกมาจากป่าไม้ยักษ์ในระยะไกล ปีกขนาดใหญ่คู่หนึ่งกางออก ปกคลุมท้องฟ้า และบังดวงอาทิตย์ ทอดเงาขนาดใหญ่ลงมา
ซูผิงเห็นว่าในปากมังกร มีหัวมังกรที่เลือดไหลหยดอยู่