การตายอย่างน่าสังเวชของนักรบอสูรกิตติมศักดิ์นั้นสร้างความประหลาดใจให้กับทั้งตระกูลซือถูและตระกูลหวัง
ฆ่าในทันที? แต่ชายชราคนนั้นอยู่ในระดับกิตติมศักดิ์ขั้นสูงสุด!
ถึงเขาจะไม่ได้เรียกอสูร แต่ไม่มีใครเชื่อว่าผู้ชายแบบนั้นจะต้องการอสูรเพื่อมาต่อสู้กับผู้หญิงตัวเล็ก ๆ ! “ระวัง เธอเป็นนักรบอสูร…กิตติมศักดิ์!” ผู้อาวุโสตระกูลหวังเตือนคนอื่น ๆ ด้วยความหวาดกลัว
คำเตือนนั้นทำให้พวกเขาทั้งหมดเงียบ
ถังยู่หรานอยู่ในระดับกิตติมศักดิ์?!
ถังยู่หยูจ้องมองพี่ของเธออย่างไม่เชื่อ
เธออยู่ในระดับกิตติมศักดิ์?
ตั้งแต่เมื่อไหร่!
ถังยู่หยูแน่ใจว่าเธอบ่มเพาะเร็วกว่าพี่สาวขี้แพ้ของเธอเสมอ และนั่นคือเหตุผลว่าทำไมเธอถึงได้รับการดูแลเป็นอย่างดีเพื่อเป็นว่าที่ผู้นำตระกูล
แต่ถึงกระนั้นเธออยู่ในระดับแปดเท่านั้น
แต่แค่นี้เธอก็ถูกมองว่าเป็นหนึ่งในคนมีพรสวรรค์ที่หายากที่สุดของตระกูลถัง
ถังยู่หยูจำได้ว่าถังยู่หรานอยู่แค่ระดับเจ็ดเท่านั้น เธออยู่ในระดับกิตติมศักดิ์ตั้งแต่เมื่อไหร่?!
ผู้อาวุโสในตระกูลถังคนอื่น ๆ มองหน้ากันด้วยความประหลาดใจ
หญิงสาวที่พวกเขาเนรเทศได้กลับมาในช่วงเวลาวิกฤต เธอกำลังต่อสู้เพื่อตระกูลถัง และอยู่ในระดับกิตติมศักดิ์
ผู้อาวุโสเคยเชื่อว่าพวกเขารู้ทุกอย่างเกี่ยวกับถังยู่หราน นักรบอสูรกิตติมศักดิ์ตั้งแต่อายุ 23 เธอสามารถทิ้งเรื่องราวไว้ในประวัติศาสตร์ของเขตอนุทวีปได้!
เธอเป็นอัจฉริยะ!
ผู้นำตระกูลของตระกูลซือถูและตระกูลหวังก็สังเกตเห็นเช่นกัน พวกเขาแน่ใจว่าถังยู่หรานอยู่ในระดับกิตติมศักดิ์ขั้นกลาง!
มันเป็นเรื่องที่แปลก
พวกเขาสันนิฐานว่าบางทีหน้ากากนั้นอาจจะเป็นว่าที่ผู้นำตระกูลที่แท้จริง และผู้หญิงที่อยู่บนพื้นดินก็คือหน้ากากที่แท้จริง โกหกซ้อนโกหก!
ถ้าข้อสันนิฐานนี้เป็นจริง ข่าวลือเกี่ยวกับถังยู่หรานก็อาจจะไม่เป็นความจริง หรือบางทีตระกูลถังได้เปิดเผยข้อมูลดังกล่าวโดยมีจุดประสงค์!
นักรบอสูรในตำนานอาจไม่ได้ลักพาตัวถังยู่หราน เป็นไปได้ว่าตระกูลถังเข้าหานักรบอสูรในตำนาน และขอให้เขาสอนว่าที่ผู้นำตระกูลที่แท้จริง!
ผู้นำตระกูลทั้งสองเชื่อมั่นในข้อสันนิฐานนี้มากขึ้นเรื่อย ๆ
หากตระกูลถังเต็มใจ พวกเขาสามารถจ่ายเงินและทรัพยากรเพื่อขอให้นักรบอสูรในตำนานสอนว่าที่ผู้นำตระกูลได้
ดูเหมือนว่านักรบอสูรในตำนานจะต้องสอนเธออย่างจริงจังมากๆ
อย่างไรก็ตามข้อมูลของพวกเขาก่อนหน้านี้บอกว่าถังยู่หรานอยู่ในระดับเจ็ด ถึงกระนั้นเธอก็มาถึงระดับกิตติมศักดิ์ในช่วงเวลาสั้น ๆ กะทันหันไปไหม
“ ฉันสงสัยว่านักรบอสูรในตำนานอยู่ที่นี่ด้วยหรือเปล่า?”
ผู้นำตระกูลซือถูและตระกูลหวังสามารถมองเห็นความกลัวในสายตาของกันและกัน พวกเขาพบว่ามันยากที่จะเชื่อว่านักรบอสูรในตำนานไม่อยู่ที่นี่ แล้วทำไมถังยู่หรานถึงปรากฏตัว?
ตระกูลถังต้องเผชิญกับปัญหามากมายเพื่อปกปิดตัวตนของเธอ และเพื่อให้แน่ใจว่าเธอจะไม่ถูกสนใจ การออกมาคนเดียวไม่ใช่เรื่องที่กล้าหาญ มันไม่รอบคอบ
ตระกูลถังจะไม่ยอมให้คนไม่รอบคอบขึ้นมาเป็นว่าที่ผู้นำตระกูล
ผู้นำตระกูลหวังส่งสายตามองไปยังผู้นำตระกูลซือถู มันเป็นท่าทีที่อีกฝ่ายเท่านั้นที่จะเข้าใจ อีกคนพยักหน้าเล็กน้อยเพื่อที่จะได้ไม่มีใครสังเกตเห็น เขาแอบวางมือข้างหนึ่งไว้ด้านหลัง และส่งข้อความ …
เมื่อเขาวางมือลง ผู้นำตระกูลซือถูก็หายใจเข้าด้วยความโล่งใจ เขาพูดอย่างเย็นชากับถังยู่หราน“เนื่องจากเธอออกมาเอง ฉันจะทำให้เธออยู่ที่นี่ตลอดไป!”
“ โจมตี!”
ทันทีที่คำพูดออกมาจากปากของเขา เหล่านักรบอสูรกิตติมศักดิ์หลายคนก็ก้าวออกมาพร้อมกัน
เหล่านักรบอสูรกิตติมศักดิ์เหล่านั้นล้วนอยู่ในขั้นสูงสุด
ความสามารถอันน่าทึ่งของถังยู่หรานสร้างความตกใจให้กับหลาย ๆ คน และนักรบอสูรกิตติมศักดิ์บางคนก็ไม่เห็นว่าเธอทำได้ยังไง
ที่ถูกก็คือ…เธอยังคงอยู่ในระดับกิตติมศักดิ์!
ในทางกลับกันตระกูลซือถูและตระกูลหวังมีนักรบอสูรกิตติมศักดิ์หลายสิบคน แม้แต่ปรมาจารย์ดาบก็ไม่สามารถหลีกหนีจากการโจมตีดังกล่าวได้ ไม่ต้องพูดถึงถังยู่หรานซึ่งเป็นเพียงระดับกิตติมศักดิ์ขั้นกลางเท่านั้น!
นักรบอสูรกิตติมศักดิ์ทั้งสี่ที่ก้าวเข้าหาถังยู่หรานจ้องมองเธอ คราวนี้พวกเขาเรียกอสูรตั้งแต่เริ่ม
พื้นดินสั่นสะเทือนขณะที่อสูรร่อนลงมา
ผู้อาวุโสทั้งสี่ของตระกูลศัตรูกำลังเคลื่อนตัวเข้าหาถังยู่หราน ซึ่งทำให้คนในตระกูลของเธอโกรธแค้น
หลังจากสังเกตเห็นระดับของถังยู่หรานคนในตระกูลถังก็คิดว่าพวกเขาสามารถมองเห็นความหวังได้ในที่สุด
หากถังยู่หรานสามารถหลบหนีได้ เธอก็จะเจอสมาชิกหนุ่มสาวของตระกูลถังที่ซ่อนตัวอยู่ตามที่ต่างๆ ตระกูลถังคงไม่ล่มสลาย ยังคงมีอนาคตสำหรับตระกูลถัง!
“ ช่างไร้ยางอาย! แกกำลังกำหนดเป้าหมายไปที่เด็กผู้หญฺง!” “ สี่ต่อหนึ่ง! เหอะ! แกไม่มีความละอายใจเลยหรือไง?”
“ นี่คือสิ่งที่ผู้อาวุโสตระกูลซือถูเป็นสินะ!”
นักรบอสูรกิตติมศักดิ์ของตระกูลถังสาปแช่ง นั่นเป็นสิ่งเดียวที่พวกเขาทำได้ เพราะพวกเขาไม่สามารถขยับได้เลย
ผู้อาวุโสทั้งสี่ไม่พอใจเพราะคำพูดเหล่านั้น แต่พวกเขาเลือกที่จะเพิกเฉยในขณะนี้ พวกเขาเพียงสัญญากับตัวเองว่าเมื่อจัดการกับถังยู่หรานแล้ว พวกเขาจะสร้างเรื่องที่น่าสังเวชให้คนเหล่านั้นจนตอมใจตาย!
“ โจมตี!” ผู้อาวุโสคนหนึ่งตะโกน
ปัง! ปัง!
อสูรของพวกเขาเหยียบลงพื้น และพุ่งไปข้างหน้า
โฮก!
ที่วิ่งอยู่ข้างหน้าคือมังกรที่ส่งเสียงคำรามดังพอสามารถทำให้คนหูหนวกได้
อสูรสองตัวของตระกูลธาตุกำลังร่ายคาถาใส่มังกรจนแทบไม่มีน้ำหนัก เปลวเพลิงกำลังลุกไหม้อย่างรุนแรงรอบตัวมังกร
มังกรอ้าปากและหายใจเอาเสาไฟออกมา อุณหภูมิสูงทำให้สถานที่แห่งนี้กลายเป็นดินแดนลาวา ต้นไม้ที่อยู่ห่างออกไปหลายพันเมตรกำลังลุกไหม้
นักรบอสูรรีบตั้งโล่เพื่อป้องกันตัวเองจากอุณหภูมิที่สูงขึ้น ความร้อนจะแผดเผาพวกเขาจนตายหากไม่ทำเช่นนั้น
“ ยู่หราน!”
ถังหลินจ้านพยายามที่จะยืนขึ้น
ถังยู่หรานเป็นความหวังสุดท้ายของตระกูลถัง เขาจะไม่ยอมมองเธอตาย
เขารู้สึกอายที่เห็นว่าเธอกลับมาในช่วงเวลาที่สำคัญแบบนี้ ทั้งที่ตระกูลถังทอดทิ้งเธอ
เสาไฟกำลังจะมาถึงเธอ แต่แล้วมันก็แยกออกเป็นสองส่วนต่อหน้าถังยู่หรานในวินาทีถัดไป
เพลิงแยกออกจากสมาชิกในตระกูลถังที่ยืนอยู่ด้านข้าง นักรบอสูรขั้นสูงทั้งหมดที่สัมผัสกับเปลวเพลิงตายโดยไม่มีข้อยกเว้นใด ๆ
“อะไร?”
นักรบอสูรกิตติมศักดิ์ไม่สามารถเชื่อได้ว่าถังยู่หรานสามารถเอาชีวิตรอดได้ นั่นเป็นการเคลื่อนไหวอันเป็นเอกลักษณ์ของมังกร ไม่ต้องพูดถึงว่ามีอสูรระดับเก้าสองตัวช่วยเสริมพลัง เธอรอดมาได้ยังไง?
ในไม่ช้าผู้คนก็ตระหนักว่าไม่ใช่ถังยู่หรานที่เอาชนะการโจมตีได้ แต่ … เป็นโครงกระดูกสีขาว!
ก่อนที่ใครจะสังเกต โครงกระดูกที่ไม่สำคัญนั้นได้มายืนอยู่ตรงหน้าถังยู่หราน
สิ่งที่น่าทึ่งไปกว่านั้นก็คือโครงกระดูกสีขาวไม่ได้ทำอะไรนอกจากยืนอยู่ตรงนั้น และเสาไฟ ก็ถูกแยกออกเป็นสองส่วน!
โครงกระดูกนั่นคืออะไร?!
ทั้งสามตระกูลต่างประหลาดใจ ถังยู่หรานก็ไม่ได้คิดว่าโครงกระดูกตัวน้อยจะเข้ามาช่วยได้เร็วขนาดนี้ เธอพร้อมที่จะต่อสู้กับเสาไฟ นั้นด้วยตัวเอง เธอบอกได้ว่าเสาไฟจะไม่ทำร้ายเธอ เพราะเธอตรวจสอบจุดอ่อนของมันแล้ว
แน่นอนว่าเธอเก็บแรงไว้ได้เพราะโครงกระดูกน้อยเข้ามาช่วย
“ตายซะ!”
ถังยู่หรานพูด ความหนาวเย็นกำลังแผ่ซ่านอยู่ภายในตัวเธอ ซึ่งทำให้จิตใจของเธอดับหายไป เธอพุ่งเข้าหาเปลวเพลิง
ดาบที่เธอถือก็เหมือนกับเคียวแห่งความตาย!
พรึ่บ!
มีความมืดในอากาศ
เปลวเพลิงถูกตัดขาด คลื่นดาบสีดำพุ่งเข้าที่หน้าอกของมังกร
เปลวเพลิงรอบตัวมังกรหายไปและเลือดไหลออกมา มังกรร้องด้วยความเจ็บปวด มันก้าวถอยหลัง บาดแผลที่หน้าอกลึกมากจนมองเห็นกระดูก
อีกครั้งที่ผู้คนแทบไม่เห็นถังยู่หราน เธอกำลังยืนอยู่บนมังกรที่กำลังร้องโหยหวน
“ เธอเร็วมาก!”
“ฉันไม่อยากจะเชื่อ…”
“ นั่นคือแกะตามเงาหรือเปล่า?”
ผู้คนในตระกูลซือถูและตระกูลหวังต่างหวาดผวากับความเร็ว และความแข็งแกร่งนั้น
ความตกใจไม่ได้เกิดขึ้นเฉพาะกับทั้งสองตระกูล สมาชิกตระกูลถังคิดว่านั่นคือแกะตามเงา หนึ่งในสามทักษะที่มีชื่อเสียงที่สุดของตระกูล!
สิ่งที่น่าตกใจคือเธอเคลื่อนที่เร็วกว่าที่พวกเขาเคยทำได้ด้วยทักษะนี้!
“ คว้าจับเงา!”
ถังหลินจ้านคิดว่านี่เกินความเข้าใจของเขา
เขาสามารถบอกได้อย่างรวดเร็วว่าถังยู่หรานมาถึงทักษะแกะตามเงาขั้นสูงสุดแล้ว เธอจะเร็วเหมือนเงา! แต่เงาไม่ได้เคลื่อนไหวด้วยตัวมันเอง ชื่อเป็นเพียงเครื่องบ่งชี้ว่าเธอเร็วเท่าแสง!
แน่นอนว่านี่เป็นเพียงคำพูดที่เกินจริง ถึงการเปรียบเทียบนี้สามารถแสดงให้เห็นว่าความเร็วนั้นเร็วเพียงใด!
ถังหลินจ้านเองก็เชี่ยวชาญทักษะนี้เมื่อเขาอยู่ในระดับกิตติมศักดิ์ขั้นสูงสุด นั่นคือสิบปีก่อนและตอนนั้นเขาอายุสามสิบ
แต่…
ถังยู่หรานอายุเพียง 23 ปี และเธอก็มาถึงขั้นสูงสุดแล้ว?
ในขณะที่ถังหลินจ้านยังคงตกตะลึง ถังยู่หรานได้เคลื่อนไหวอีกครั้ง
เป้าหมายของเธอไม่ใช่มังกรที่อยู่ใต้เท้าของเธอ แต่เป็นนักรบอสูรกิตติมศักดิ์ทั้งสี่ของตระกูลซือถู
“เลือด ฆ่า!”
สีแดงเพิ่มเข้ามาในดวงตาของเธอ เธอไม่ได้สังเกตตัวเอง แต่เจตนาฆ่าที่ออกมาจากเธอนั้นน่าทึ่งมาก เธอเหมือนปีศาจที่โผล่ออกมาจากนรก!
เธอลอยขึ้นไปในอากาศ จากนั้นเธอก็รวบรวมพลังไว้ที่ดาบ และสะบัดใส่นักรบอสูรกิตติมศักดิ์ทั้งสี่ ตอนที่เธออยู่ห่างจากพวกเขาประมาณหนึ่งร้อยเมตร
ดาบแห่งเลือด!
ปัง!
โลกดับลงเพราะดาบเล่มนั้น!
ปีศาจกำลังร้องไห้ สิ่งเดียวที่ผู้คนสามารถมองเห็นคือแสงสีเลือด แสงออกมาจากดาบ มันแดงมากจนราวกับว่ามีคนใช้เลือดจำนวนมากมาสร้างแสง กลิ่นเหม็นทำให้แม้แต่นักรบที่มีประสบการณ์สูงก็ยังอยากจะอ้วก “ ฉันไม่เชื่อเรื่องนี้!”
หนึ่งในสี่ของนักรบอสูรกิตติมศักดิ์ได้ปลดปล่อยความแข็งแกร่งเต็มที่ของเขา และใช้ทักษะลับหมัดคู่!
เขาต่อยไปที่ดาบ
มีเสียงดังสี่ครั้งติดต่อกัน นักรบอสูรกิตติมศักดิ์ทั้งสี่ของตระกูลซือถูหยุดลงอย่างกะทันหัน และพวกเขาก็ล้มลงกลายเป็นชิ้นเล็กชิ้นน้อยในเวลาไม่ถึงสองวินาที
ราวกับว่าระเบิดเวลาที่ฝังอยู่ในนั้นได้ระเบิดในครั้งเดียว พวกเขาถูกลดขนาดกลายเป็นชิ้นเนื้อ
ไม่มีใครสามารถพูดอะไรออกมาได้แม้แต่คำเดียว
กระบวนท่าเดียว และนักรบอสูรกิตติมศักดิ์สี่คนตาย?!
ผู้นำตระกูลซือถูไม่สามารถโน้มน้าวตัวเองได้ว่าเขาเห็นการฆ่าที่โหดร้าย
ผู้นำตระกูลหวังรู้สึกไม่เชื่อ มันเกินความเข้าใจได้!
เธอจะทำได้ก็ต่อเมื่อเธออยู่ในระดับกิตติมศักดิ์ขั้นสูงสุด!
หญิงสาวตระกูลถังทำแบบนั้นได้ยังไง?!
แม้แต่ถังหลินจ้านก็ไม่สามารถทำได้!
“เดี๋ยวก่อน แล้วกระดิ่งล่ะ? ผลกระทบหมดแล้วหรือไง?”
ในที่สุดก็มีคนสังเกตเห็น
นั่นเป็นคำเตือนที่รุนแรง
ผู้อาวุโสตระกูลถังและถังหลินจ้านยังไม่สามารถลุกขึ้นยืนได้ ดังนั้นผลกระทบของกระดิ่งยังคงทำงานอยู่
ดังนั้นผู้หญิงคนนี้ยังคงสามารถปลดปล่อยพลังนี้ได้ทั้งที่เธออยู่ภายใต้อิทธิพลของกระดิ่ง?!
ผู้คนต่างอ้าปากค้าง น่ากลัวแค่ไหน!
ผู้นำตระกูลหวังเป็นคนแรกที่ดึงสติกลับมาได้ “ เธอเป็นใครกันแน่?”
เขาไม่อยากจะเชื่อเลยว่าหญิงสาวจะสามารถทำเช่นนี้ได้ แม้ว่าเธอจะอยู่ในระดับกิตติมศักดิ์ขั้นสูงสุดก็ตาม เธอต้องอยู่ในระดับตำนาน!
ถ้าเป็นเช่นนั้นถังยู่หรานจะเสียเวลามาคุยกับพวกเขาทำไม? แค่เธอแสดงให้เห็นว่าเธออยู่ในระดับตำนาน พวกเขาก็จะต้องยอมแพ้หรือไม่ก็หนีไป!
แต่ถังยู่หรานไม่ทำเช่นนั้น ผู้นำตระกูลหวังไม่คิดว่านักรบอสูรในตำนานจะต้องปลอมตัว
ดังนั้นการต่อสู้ของถังยู่หรานจึงต้องมีการหลอกลวง นั่นเป็นคำอธิบายที่สมเหตุสมผล ทำไมผู้หญิงคนนี้ถึงมีพลังแบบนี้?
“ แกรู้ดีว่าฉันเป็นใคร?”ถังยู่หรานตอบอย่างเย็นชา
เมื่อเหยียบลงบนซากศพและเลือดของนักรบอสูรกิตติมศักดิ์ทั้งสี่ เธอเดินไปยังที่ที่ตระกูลซือถูและตระกูลหวังยืนอยู่ หมอกมืดล้อมรอบดาบของเธอ
“ ฮึ่มฉันไม่สนว่าแกเป็นใครเพราะวันนี้แกจะตาย!” ผู้นำตระกูลหวังร้อง“ ทุกคนมาฆ่าเธอกันเถอะ!”
นักรบอสูรกิตติมศักดิ์ไม่อยากจะเชื่อ พวกเขาทั้งหมดกำลังต่อต้านผู้หญิงคนเดียว? “ มาเลย!” ผู้นำตระกูลซือถูตะโกน
เขาโกรธมากเพราะนักรบอสูรกิตติมศักดิ์สี่คนนั้นเป็นคนในตระกูลเขา
เนื่องจากผู้นำตระกูลทั้งสองพูดเช่นนั้นคนอื่น ๆ จึงทำได้เพียงเชื่อฟัง นอกจากนี้สิ่งที่ถังยู่หรานสามารถทำได้กลับกลายเป็นเรื่องที่ค่อนข้างน่ากลัว คนส่วนใหญ่เชื่อมั่นว่าไม่ว่ายังไงพวกเขาจะไม่มีวันทำร้ายผู้หญิง แต่การร่วมมือกันน่าจะเป็นวิธีเดียวที่จะมีชีวิตอยู่