“เดินหน้าต่อไป!!” อสูรร้ายระดับเก้าเป็นผู้นำ และพุ่งเข้าใส่สมาชิกตระกูลถัง นักรบอสูรคนอื่น ๆ สร้าวขบวนเพื่อรวมพลังดวงดาว อสูรที่พวกเขาเรียกมานั้นถูกจัดกลุ่มตามประเภทของมัน อสูรบางตัวที่อยู่ในตระกูลเดียวกันสามารถปลดปล่อยทักษะทางสายเลือดร่วมกันได้
บูม _!
โล่ที่อยู่เหนือตระกูถัง ส่งเสียงดัง เสียงแตรแห่งสงครามดังขึ้น
“ฮึ พวกมันมาเร็วกว่าที่คิด”
ภายในบริเวณตระกูลถัง ผู้อาวุโสไขว้มือไพล่หลัง และยืนอยู่บนแท่นมองลงไปที่ฉากด้านล่างจากที่สูง
ศัตรูเข้าหาพวกเขาเหมือนกระแสน้ำที่ไหลเชี่ยว เขาไม่สามารถบอกได้ว่ามีกี่คน แต่เขาแน่ใจว่าเป็นกองกำลังที่เตรียมพร้อมที่จะทำลายตระกูลถัง
“ ฉันไม่อยากจะเชื่อเลยว่าเป็นนาย พี่สาม!”
ดวงตาของผู้อาวุโสกระพริบในความมืด ถ้าซูผิงอยู่ที่นี่เขาจะจำได้ว่าผู้อาวุโสคือถังหมิงชิง คนที่มาเยี่ยมร้านของเขา
ดวงตาของเขาเฉียบคมราวกับนกอีแร้ง เขากดเบอร์ในโทรศัพท์และพูดด้วยเสียงต่ำ“ ท่านครับทุกอย่างพร้อมแล้ว เรากำลังรอการมาถึงของท่าน”
“ ดี” ชายคนนั้นตอบด้วยน้ำเสียงทุ้ม ในขณะเดียวกันโล่ที่อยู่ด้านบนตระกูลถังก็อ่อนแอลงทุกนาที มันจะถูกทำลายลงอย่างรวดเร็ว เนื่องจากมีนักรบอสูรและอสูรจำนวนมากที่โจมตี
ในขณะที่โล่กำลังจะแตก เสียงบางอย่างก็ดังขึ้นด้านหลังผู้บุกรุก
ลูกไฟจำนวนมากโปรยปรายลงมาจากท้องฟ้า พื้นสั่นสะเทือนขณะที่บางส่วนถูกยกขึ้น และจากนั้นก็มีก้อนหินกลิ้งลงมาเป็นจำนวนมาก
“ ซุ่มโจมตี !!”
“ กองทัพกลยุทธ์อยู่ข้างหลังเรา!”
“ไปกันเถอะ!”
ผู้นำของผู้บุกรุกได้ดำเนินการขั้นเด็ดขาด กองกำลังผู้บุกรุกหันกลับมาทันที และพุ่งเข้าหากลุ่มที่โจมตีพวกเขา
นักรบอสูรกิตติมศักดิ์ที่คอยสังเกตการณ์เข้าร่วมการต่อสู้เพื่อบดขยี้กลุ่มซุ่มโจมตีจากตระกูลถัง ท้ายที่สุดแล้วนักรบอสูรหลายคนก็เป็นนักรบชั้นนำในตระกูล
ในขณะที่ผู้บุกรุกถูกจับได้ในการต่อสู้ครั้งนั้น โล่ที่อยู่เหนือตระกูลตระกูลถังก็แตก จากนั้นอสูรจำนวนมากก็พุ่งออกมาจากภายในตระกูถัง อสูรปล่อยการโจมตีระยะไกลหลายประเภท ก่อให้เกิดเสียงดัง
หมอก ไฟ และน้ำแข็งถูกสร้างขึ้น
แสงอันเย้ายวนใจเปล่งประกายในท้องฟ้ายามค่ำคืน
อสูรส่งเสียงคำรามสำรวจทาง บูม!
สายฟ้าจุดไฟบนท้องฟ้ายามค่ำคืน
ผู้บุกรุกมองขึ้นไปเห็นฝูงนกที่มีปีกยาวกว่าสิบสองเมตร นกบินอยู่บนท้องฟ้าเหมือนกับตึกที่ลอยอยู่ และนกทั้งหมดก็คือนกกระจอกสายฟ้า!
กองทัพขนนกของตระกูลถัง!
“ ไม่ พวกนกกระจอกสายฟ้ากำลังร่วมมือกัน!”
“ตั้งใจฟัง! จัดค่ายกล!”
“ตั้งค่ายกลกำราบมังกน!” ผู้บุกรุกเข้าแถวในรูปแบบพิเศษเมื่อมีการออกคำสั่ง พวกเขารวบรวมพลังดวงดาวเข้าด้วยกัน ทันใดนั้นเมื่อพลังดวงดาวของพวกเขาประสานกัน โล่ขนาดใหญ่ก็ปรากฏขึ้นเหนือผู้บุกรุก มันเป็นโล่ที่ทรงพลังพอ ๆ กับที่ปกป้องตระกูลถัง
ในระหว่างนั้นสายฟ้าฟาดของนกกระจอกสายฟ้าก็ฟาดลงมา
สายฟ้านั้นหนาหลายร้อยเมตร ไฟกระชากตัดกระแสไฟฟ้าครึ่งหนึ่งของเมืองฐานเย่โถว ไกลออกไปบางคนยังเห็นประกายไฟฟ้าจากในบ้านของพวกเขา
ตูม !!
สายฟ้าฟาดลงมาใส่โล่
ฟ้าแลบสว่างวาบบนท้องฟ้ายามค่ำคืน ความสว่างทำให้เคืองตา
สายฟ้าผ่าราวกับว่านกหลายพันตัวกำลังทะเลาะกัน
หลังจากสายฟ้าฟาด นักรบอสูรก็โจมตี พวกเขายิงธนูที่สามารถแทงทะลุวัสดุแข็งๆได้ โล่ใกล้จะพังแล้วเพราะสายฟ้าและลูกศรได้บดขยี้มัน
ตูม ตูม ตูม!
นักรบอสูรหลายคนได้รับบาดเจ็บจากลูกศร
การบาดเจ็บเพิ่มขึ้นในหมู่ผู้บุกรุกระหว่างการระดมยิงครั้งนั้น ไม่ต้องสงสัยเลยว่ากองทัพขนนกของตระกูถังได้เปรียบ
“ นั่นคือกองทัพขนนกหรอ?”
“ ฉันคิดว่าตระกูลถังสูญเสียกองทัพขนนกไปแล้ว ทำไมยังมีอยู่อีกตั้งมากมาย!?”
“ ไม่ นี่เป็นการผสม ไม่ใช่ทุกคนที่เป็นนักรบอสูรระดับปรมาจารย์!” ในขณะที่ผู้บุกรุกกำลังตื่นตระหนก นักรบอสูรกิตติมศักดิ์ในหมู่พวกเขาก็สามารถค้นหาจุดอ่อนของกองทัพขนนกได้
กองทัพขนนกเข้าต่อสู้อย่างดุเดือด แต่หลายคนมาเพื่อเพิ่มจำนวนเท่านั้น แม้ว่าพวกเขาจะไม่อ่อนแอ แต่ก็ไม่สามารถทำงานได้ดีเท่ากับนักรบอสูรระดับปรมาจารย์ เห็นได้ชัดว่าตระกูถัง ได้ระดมสมาชิกในกองทัพอื่น ๆ ของพวกเขาเพื่อเติมตำแหน่งเนื่องจากการสูญเสียกองทัพขนนกครั้งก่อน
ดังนั้นกองทัพขนนกจึงน่ากลัวน้อยลง
“ พี่เฟิง เรามาสู้แข่งกันดีกว่า? มาดูกันว่าพวกเราคนไหนสามารถฆ่าพวกมันได้มากกว่ากัน”
“ แน่นอน ฉันต้องการเห็นพลังของทักษะหอกในตระกูลของนาย!”
นักรบอสูรกิตติมศักดิ์ได้พุ่งเข้าหากองทัพขนนก
วังวนปรากฏอยู่ข้างหลังพวกเขา พวกเขาเรียกอสูร และบินเข้าไปปะทะกับกองทัพขนนก
กองทัพขนนกเป็นกองกำลังที่น่าเกรงขามซึ่งเป็นการรวมตัวของนักรบอสูรกว่าสองพันคน ดังที่กล่าวไป นักรบอสูรกิตติมศักดิ์ไม่ได้ทำงานคนเดียวเช่นกัน เมื่อเปรียบเทียบกันกองทัพขนนกดูเหมือนจะค่อนข้างเงอะงะ
นักรบอสูรกิตติมศักดิ์ฉีกเข้ากองทัพขนนก สมาชิกของกองทัพขนนกต้องรับมือกับเหล่านักรบอสูรกิตติมศักดิ์ “ ฉันจะไปช่วยพวกเขา!”
นักรบอสูรกิตติมศักดิ์ของตระกูลถัง ที่ยืนอยู่ในบริเวณนั้นพุ่งออกมา
ในขณะเดียวกันถังยู่หยูกำลังยืนอยู่บนที่สูงเฝ้าดูและออกคำสั่ง
จากนั้นมีคนเข้ามาหาเธอ และเธอก็ได้รับการแจ้งเตือน เธอหันกลับไปเพียงเพื่อดูพ่อของเธอมาถึงในชุดเกราะ
แต่พ่อของเธอไม่ป่วยเหมือนเมื่อก่อน แววตาของเขาเต็มไปด้วยความรุนแรง และเขาก็ค่อนข้างแข็งแกร่งเหมือนอสูรร้ายที่ถูกขังอยู่ในกรง พร้อมที่จะถูกปลดปล่อยให้เป็นอิสระ
“ ท่านพ่อ…แผล…”“ แผลอะไร? ลูกคิดว่าพ่อโง่จนได้รับบาดเจ็บจากการบ่มเพาะหรือไง?”
ถังหลินจ้านหัวเราะเยาะ เขาเข้าไปหาถังยู่หยู และกล่าวว่า“ ตระกูลซือถูและตระกูลหวังนั้นโลภสิ่งต่างๆของเรามานานกว่าหกทศวรรษแล้ว พวกเขาคิดว่าพ่อไม่รู้ อืม อะไร? พวกเขาคิดว่าพ่อตาบอดหรือไง?”
ถังยู่หยูกลัวจนหน้าซีด
กว่าหกทศวรรษ?
ตั้งแต่เธอยังเป็นเด็กเธอมักถูกบอกเสมอว่าตระกูลซือถูและตระกูลหวังต่อสู้กัน สี่ตระกูลโบราณต่อสู้กันเองมาตลอด
เธอเคยได้ยินมาว่าครั้งหนึ่งตระกูลซือถูเคยฆ่านักรบอสูรกิตติมศักดิ์ของตระกูลหวัง และเธอก็ได้เห็นภาพที่เป็นหลักฐาน!
เธอคิดว่าตระกูลซือถูและตระกูลหวังเป็นศัตรูร้ายต่อกัน แต่พ่อบอกว่าพวกเขาร่วมมือกันมากว่าหกทศวรรษแล้ว!
ดังนั้นทุกสิ่งที่เธอคิดว่ารับรู้ พิสูจน์แล้วว่ามีไว้เพื่อตบตาเท่านั้น?
นักรบอสูรกิตติมศักดิ์ที่ตายเป็น “นักแสดง”?
เธอปรับลมหายใจเข้าออกอย่างช่วยไม่ได้
ฆ่านักรบอสูรกิตติมศักดิ์เพื่อการแสดง…ทั้งสองตระกูลจะโหดร้ายแค่ไหน!
“ ไปรับลุงสามของลูก” ถังหลินจ้านกล่าว
ถังยู่หยูกำลังจะถามว่าทำไม แต่ถังหลินจ้านมุ่งความสนใจไปที่การต่อสู้ เขาจะเป็นคนที่รับผิดชอบตั้งแต่ตอนนี้เป็นต้นไป เขาพูดให้ถังยู่หรานมารับผิดชอบและแกล้งบาดเจ็บ หรือเขาสงสัยว่ามีคนทรยศในตระกูลใช่ไหม?
ความเย็นชาฉายผ่านดวงตาของถังยู่หยู เธอพยักหน้า
ไม่นานผู้อาวุโสคนหนึ่งก็เข้ามา
ผู้อาวุโสหน้าซีดเมื่อเขามาถึง และเห็น ถังหลินจ้าน
“ พี่สาม มานี่” ถังหลินจ้าน พูดโดยไม่หันไปทักทายผู้อาวุโส
ผู้อาวุโสไม่สามารถบอกได้ว่า ถังหลินจ้าน โกรธหรือเปล่า
ผู้อาวุโสยิ้ม“ท่านรู้สึกดีขึ้นแล้วใช่ไหม?ผมมีความสุขมาก เราจะมั่นใจได้มากขึ้นเมื่อท่านอยู่ที่นี่”
“เข้ามาใกล้ ๆ” ถังหลินจ้าน ไม่ตอบกลับ เขาเรียกซ้ำ
ผู้อาวุโสตอบรับ และก้าวเข้าไปหา
อย่างไรก็ตามหลังจากผ่านไปสองก้าวผู้อาวุโสก็ปลดปล่อยพลังดวงดาว และพุ่งเข้าหาถังยู่หยู
รอยยิ้มบนใบหน้าของเขากลายเป็นความดุร้าย
มันเกิดขึ้นเร็วมาก แต่ถังยู่หยูจ้องมองไปที่ผู้อาวุโสอย่างเย็นชาราวกับว่าเธอรู้อยู่แล้วจะจะเป็นแบบนี้ เธอย้ายออกไปเหลือเพียงเงามัวในจุดนั้น ในระหว่างนั้นเงาก็ปรากฏขึ้น มันกวัดแกว่งดาบตรงหน้าผู้อาวุโส
“ แกเป็นอิสระจากการจองจำของฉัน มันเป็นไปได้ยังไงกัน?” ผู้อาวุโสตะโกนด้วยความประหลาดใจ
เขาอยู่ที่ระดับกิตติมศักดิ์ขั้นสูงสุด ถังยู่หยูจะหนีไปได้ยังไงในเมื่อเธออยู่แค่ระดับแปด?
“ นั่นเป็นแค่ตัวปลอม ลองดูดีๆสิ”ถังยู่หยูชี้ให้ดู ผู้อาวุโสหน้าบิดเบี้ยว เขาตะโกน ชกใส่เงา พยายามที่จะต่อยเข้าที่ใบหน้าของเธอ
“ฮึ!”
จากนั้นบุคคลหนึ่งก็แค่นเสียง ก่อนที่เขาจะรู้ตัว ถังหลินจ้าน ได้ยื่นหน้าเข้ามาใกล้ถังยู่หยู และรับหมัดนั้นแทนเธอ
หมัดพุ่งเข้าใส่เขา แต่เขายังคงนิ่ง
แสงสีเขียวสว่างวาบผ่านตัวเขา
“กายสมบูรณ์!”
ผู้อาวุโสร้องด้วยความกลัว
ถังหลินจ้าน มาถึงขั้นสูงสุดของกายเคลือบเงาแล้ว
เขาสามารถต้านทานการโจมตีจากอสูรร้ายระดับเก้าได้ด้วยร่างกายเพียงอย่างเดียว มีเพียงนักรบอสูรในตำนานหรือผู้ที่ใกล้เคียงกับระดับตำนานเท่านั้นที่สามารถทำร้ายเขาได้!
ผู้นำตระกูลคนปัจจุบันของตระกูลถังไปถึงสถานะสูงสุดของกายเคลือบเงาตอนไหน เขาเพิ่งอายุแค่สี่สิบปี!
แม้แต่ผู้อาวุโสเองก็ไม่สามารถทำเช่นนั้นได้
“ ฉันอยากให้โอกาสแก แต่แกโยนมันทิ้งไปเอง” ถังหลินจ้าน ประกาศอย่างเย็นชา
ปัง!
เขาต่อยหมัดอย่างรวดเร็วราวกับสายฟ้า วินาทีต่อมาผู้อาวุโสที่หวาดกลัวจนตัวสั่นก็มีรูบนหน้าอกของเขา
ริมฝีปากของเขาสั่น ผู้อาวุโสพึมพำด้วยสีหน้าขมขื่น“ ท่าน…โปรดยกโทษให้ครอบครัวของผมด้วย…” เสียงของเขาขาดหายไปก่อนที่เขาจะพูดจบประโยค “ แกควรตระหนักถึงราคาของการทรยศ” ถังหลินจ้าน สะบัดเลือดออกจากมือ
ถังยู่หยูจ้องมองไปที่ศพอย่างไม่แยแส และเงาที่อยู่เบื้องหลังเธอก็หายไป ใบหน้าของเธอซีดเล็กน้อย ผู้อาวุโสคนนั้นก็อยู่ในระดับกิตติมศักดิ์ขั้นสูงสุด เธอจะไม่รอดจากการโจมตีครั้งนั้นถ้าพ่อของเธอไม่ก้าวเข้ามา
แม้คนทรยศจะถูกถอนรากถอนโคน แต่สิ่งต่างๆก็ดูไม่ดีเพราะยังมีตระกูลซือถูและตระกูลหวัง
ตระกูลซือถูและตระกูลหวังได้เตรียมพร้อม พวกเขามีนักรบอสูรกิตติมศักดิ์มากมาย ในขณะที่กองทัพขนนกของตระกูลถังใกล้จะแตกพ่าย นักรบอสูรกิตติมศักดิ์กำลังขี่อสูรระดับเก้าของพวกเขาเข้าโจมตีไปทั่ว ตระกูลถังกำลังจะพ่ายแพ้
โฮ่กก !!
ในตอนนั้นเสียงโบราณก็ดังขึ้นในท้องฟ้ายามค่ำคืน
เลือดของสมาชิกทุกคนในตระกูลถังแข็งตัว พวกเขารู้สึกหวาดกลัวจากความรู้สึกนั้น
ราชาอสูรร้ายงั้นหรอ?!
ตูม!
มีสิ่งคล้ายแรดขนาดมหึมาปรากฏขึ้น สิ่งมีชีวิตมีหนามแหลมคมทั่วตัว นักรบอสูรของตระกูลซือถูและตระกูลหวังกำลังหาทางเข้ามา
สิ่งมีชีวิตขนาดมหึมานั้นพุ่งเข้าหากลุ่มตระกูลถัง
อสูรระดับเก้าของตระกูลถังหลายตัวหยุดนิ่งหลังจากที่ได้ยินเสียงคำรามของสิ่งมีชีวิตนั่น พวกมันตัวสั่น อสูรเริ่มถอนตัว
อำนาจของราชาอสูรครอบงำทุกคน ขณะที่มันวิ่งไปรอบ ๆ ราวกับว่าอยู่ภายใต้คำสั่ง อสูรระดับเก้าเหล่านั้นก็วิ่งเข้าหาราชาอสูรร้ายแม้ว่าพวกมันจะยังไม่หยุดสั่น ปัง! ปัง! พลังที่มองไม่เห็นในอากาศบดขยี้อสูรระดับเก้าเกือบทั้งหมดจนตาย อสูรชนิดหนึ่งที่เป็นตระกูลหินไม่ได้ตายในคราวเดียว แต่ก็อาการไม่ดี
ประตูของตระกูลถังพังทลาย
“ท่านพ่อ!”
ถังยู่หยูตกใจ
ในทางกลับกัน ถังหลินจ้าน ดูเหมือนจะไม่แปลกใจเลย “ เตรียมร่มสมุทรให้พร้อม มาฆ่าอสูรร้ายกันเถอะ!”
ถังยู่หยูวิ่งออกไปทันที …
แต่ไม่นานถังยู่หยูก็กลับมา ดูเหมือนเธอจะไม่สบายใจ เธอรีบแจ้งข่าวว่า“ ท่านพ่อ…มีบางอย่างผิดปกติกับร่มสมุทร!”
“อะไร?”
ถังหลินจ้าน หวาดกลัวสิ่งนี้
ร่มสมุทรเป็นสมบัติประจำตระกูลและเป็นมรดกตกทอด เกิดอะไรขึ้นกับมัน?
คนที่ดูแลมันเป็นคนที่เขาไว้ใจด้วยทั้งหัวใจและจิตวิญญาณ
ทันใดนั้นชายคนหนึ่งก็ตะโกนด้วยความขุ่นเคือง มันคือถังหมิงชิง“น้องเจ็ดเขาหันมาต่อต้านเรา!” ถังหลินจ้าน ตัวสั่น เขาเกือบจะคลั่ง
คนที่ฉันไว้ใจมากที่สุดหักหลังฉัน?
เขาคงจะแปลกใจนิดหน้อยถ้าถังยู่หยูลูกสาวของเขาจะเป็นคนที่ทรยศต่อตระกูลถัง เขาคงไม่เชื่อว่าผู้ชายที่เขาเห็นว่าเป็นน้องชาย คนที่ช่วยเขาให้รอดพ้นจากอันตรายมาหลายครั้ง และคนที่เกือบตายแทนเขาจะทรยศเขา!
“ไม่มีทาง…”
น้ำเสียงแหบพร่าราวกับมีไฟในลำคอ
แต่เขาไม่แน่ใจ
“ท่าน!” ถังหมิงชิงตะโกน
ถังหลินจ้าน กลับมามีสติ แต่เขาก็ยังคงเหม่อลอยอยู่เล็กน้อย หลังจากนั้นไม่นานความเด็ดขาดก็กลับมาที่ดวงตาของเขา เขาไม่สามารถยอมให้ตัวเองยอมแพ้ได้ เพราะเขาเป็นคนที่ต้องพยุงตระกูลถัง “น้องเจ็ด. ไม่สามารถทำลายร่มสมุทรหรือนำมันไปได้ แม้ว่าเขาจะทรยศเราก็ตาม ฉันจะไปดู ลูกอยู่ที่นี่” เขาพูดกับถังยู่หยู
เธอพยักหน้า
ถังหลินจ้าน วิ่งหายไปในความมืด