ร้านขายอสูรดวงดาว Astral Pet Store – ตอนที่ 552 ทรยศ

ตอนที่ 552 ทรยศ

“เดินหน้าต่อไป!!” อสูรร้ายระดับเก้าเป็นผู้นำ และพุ่งเข้าใส่สมาชิกตระกูลถัง นักรบอสูรคนอื่น ๆ สร้าวขบวนเพื่อรวมพลังดวงดาว อสูรที่พวกเขาเรียกมานั้นถูกจัดกลุ่มตามประเภทของมัน อสูรบางตัวที่อยู่ในตระกูลเดียวกันสามารถปลดปล่อยทักษะทางสายเลือดร่วมกันได้

บูม _!

โล่ที่อยู่เหนือตระกูถัง ส่งเสียงดัง เสียงแตรแห่งสงครามดังขึ้น

“ฮึ พวกมันมาเร็วกว่าที่คิด”

ภายในบริเวณตระกูลถัง ผู้อาวุโสไขว้มือไพล่หลัง และยืนอยู่บนแท่นมองลงไปที่ฉากด้านล่างจากที่สูง

ศัตรูเข้าหาพวกเขาเหมือนกระแสน้ำที่ไหลเชี่ยว เขาไม่สามารถบอกได้ว่ามีกี่คน แต่เขาแน่ใจว่าเป็นกองกำลังที่เตรียมพร้อมที่จะทำลายตระกูลถัง

“ ฉันไม่อยากจะเชื่อเลยว่าเป็นนาย พี่สาม!”

ดวงตาของผู้อาวุโสกระพริบในความมืด ถ้าซูผิงอยู่ที่นี่เขาจะจำได้ว่าผู้อาวุโสคือถังหมิงชิง คนที่มาเยี่ยมร้านของเขา

ดวงตาของเขาเฉียบคมราวกับนกอีแร้ง เขากดเบอร์ในโทรศัพท์และพูดด้วยเสียงต่ำ“ ท่านครับทุกอย่างพร้อมแล้ว เรากำลังรอการมาถึงของท่าน”

“ ดี” ชายคนนั้นตอบด้วยน้ำเสียงทุ้ม ในขณะเดียวกันโล่ที่อยู่ด้านบนตระกูลถังก็อ่อนแอลงทุกนาที มันจะถูกทำลายลงอย่างรวดเร็ว เนื่องจากมีนักรบอสูรและอสูรจำนวนมากที่โจมตี

ในขณะที่โล่กำลังจะแตก เสียงบางอย่างก็ดังขึ้นด้านหลังผู้บุกรุก

ลูกไฟจำนวนมากโปรยปรายลงมาจากท้องฟ้า พื้นสั่นสะเทือนขณะที่บางส่วนถูกยกขึ้น และจากนั้นก็มีก้อนหินกลิ้งลงมาเป็นจำนวนมาก

“ ซุ่มโจมตี !!”

“ กองทัพกลยุทธ์อยู่ข้างหลังเรา!”

“ไปกันเถอะ!”

ผู้นำของผู้บุกรุกได้ดำเนินการขั้นเด็ดขาด กองกำลังผู้บุกรุกหันกลับมาทันที และพุ่งเข้าหากลุ่มที่โจมตีพวกเขา

นักรบอสูรกิตติมศักดิ์ที่คอยสังเกตการณ์เข้าร่วมการต่อสู้เพื่อบดขยี้กลุ่มซุ่มโจมตีจากตระกูลถัง ท้ายที่สุดแล้วนักรบอสูรหลายคนก็เป็นนักรบชั้นนำในตระกูล

ในขณะที่ผู้บุกรุกถูกจับได้ในการต่อสู้ครั้งนั้น โล่ที่อยู่เหนือตระกูลตระกูลถังก็แตก จากนั้นอสูรจำนวนมากก็พุ่งออกมาจากภายในตระกูถัง อสูรปล่อยการโจมตีระยะไกลหลายประเภท ก่อให้เกิดเสียงดัง

หมอก ไฟ และน้ำแข็งถูกสร้างขึ้น

แสงอันเย้ายวนใจเปล่งประกายในท้องฟ้ายามค่ำคืน

อสูรส่งเสียงคำรามสำรวจทาง บูม!

สายฟ้าจุดไฟบนท้องฟ้ายามค่ำคืน

ผู้บุกรุกมองขึ้นไปเห็นฝูงนกที่มีปีกยาวกว่าสิบสองเมตร นกบินอยู่บนท้องฟ้าเหมือนกับตึกที่ลอยอยู่ และนกทั้งหมดก็คือนกกระจอกสายฟ้า!

กองทัพขนนกของตระกูลถัง!

“ ไม่ พวกนกกระจอกสายฟ้ากำลังร่วมมือกัน!”

“ตั้งใจฟัง! จัดค่ายกล!”

“ตั้งค่ายกลกำราบมังกน!” ผู้บุกรุกเข้าแถวในรูปแบบพิเศษเมื่อมีการออกคำสั่ง พวกเขารวบรวมพลังดวงดาวเข้าด้วยกัน ทันใดนั้นเมื่อพลังดวงดาวของพวกเขาประสานกัน โล่ขนาดใหญ่ก็ปรากฏขึ้นเหนือผู้บุกรุก มันเป็นโล่ที่ทรงพลังพอ ๆ กับที่ปกป้องตระกูลถัง

ในระหว่างนั้นสายฟ้าฟาดของนกกระจอกสายฟ้าก็ฟาดลงมา

สายฟ้านั้นหนาหลายร้อยเมตร ไฟกระชากตัดกระแสไฟฟ้าครึ่งหนึ่งของเมืองฐานเย่โถว ไกลออกไปบางคนยังเห็นประกายไฟฟ้าจากในบ้านของพวกเขา

ตูม !!

สายฟ้าฟาดลงมาใส่โล่

ฟ้าแลบสว่างวาบบนท้องฟ้ายามค่ำคืน ความสว่างทำให้เคืองตา

สายฟ้าผ่าราวกับว่านกหลายพันตัวกำลังทะเลาะกัน

หลังจากสายฟ้าฟาด นักรบอสูรก็โจมตี พวกเขายิงธนูที่สามารถแทงทะลุวัสดุแข็งๆได้ โล่ใกล้จะพังแล้วเพราะสายฟ้าและลูกศรได้บดขยี้มัน

ตูม ตูม ตูม!

นักรบอสูรหลายคนได้รับบาดเจ็บจากลูกศร

การบาดเจ็บเพิ่มขึ้นในหมู่ผู้บุกรุกระหว่างการระดมยิงครั้งนั้น ไม่ต้องสงสัยเลยว่ากองทัพขนนกของตระกูถังได้เปรียบ

“ นั่นคือกองทัพขนนกหรอ?”

“ ฉันคิดว่าตระกูลถังสูญเสียกองทัพขนนกไปแล้ว ทำไมยังมีอยู่อีกตั้งมากมาย!?”

“ ไม่ นี่เป็นการผสม ไม่ใช่ทุกคนที่เป็นนักรบอสูรระดับปรมาจารย์!” ในขณะที่ผู้บุกรุกกำลังตื่นตระหนก นักรบอสูรกิตติมศักดิ์ในหมู่พวกเขาก็สามารถค้นหาจุดอ่อนของกองทัพขนนกได้

กองทัพขนนกเข้าต่อสู้อย่างดุเดือด แต่หลายคนมาเพื่อเพิ่มจำนวนเท่านั้น แม้ว่าพวกเขาจะไม่อ่อนแอ แต่ก็ไม่สามารถทำงานได้ดีเท่ากับนักรบอสูรระดับปรมาจารย์ เห็นได้ชัดว่าตระกูถัง ได้ระดมสมาชิกในกองทัพอื่น ๆ ของพวกเขาเพื่อเติมตำแหน่งเนื่องจากการสูญเสียกองทัพขนนกครั้งก่อน

ดังนั้นกองทัพขนนกจึงน่ากลัวน้อยลง

“ พี่เฟิง เรามาสู้แข่งกันดีกว่า? มาดูกันว่าพวกเราคนไหนสามารถฆ่าพวกมันได้มากกว่ากัน”

“ แน่นอน ฉันต้องการเห็นพลังของทักษะหอกในตระกูลของนาย!”

นักรบอสูรกิตติมศักดิ์ได้พุ่งเข้าหากองทัพขนนก

วังวนปรากฏอยู่ข้างหลังพวกเขา พวกเขาเรียกอสูร และบินเข้าไปปะทะกับกองทัพขนนก

กองทัพขนนกเป็นกองกำลังที่น่าเกรงขามซึ่งเป็นการรวมตัวของนักรบอสูรกว่าสองพันคน ดังที่กล่าวไป นักรบอสูรกิตติมศักดิ์ไม่ได้ทำงานคนเดียวเช่นกัน เมื่อเปรียบเทียบกันกองทัพขนนกดูเหมือนจะค่อนข้างเงอะงะ

นักรบอสูรกิตติมศักดิ์ฉีกเข้ากองทัพขนนก สมาชิกของกองทัพขนนกต้องรับมือกับเหล่านักรบอสูรกิตติมศักดิ์ “ ฉันจะไปช่วยพวกเขา!”

นักรบอสูรกิตติมศักดิ์ของตระกูลถัง ที่ยืนอยู่ในบริเวณนั้นพุ่งออกมา

ในขณะเดียวกันถังยู่หยูกำลังยืนอยู่บนที่สูงเฝ้าดูและออกคำสั่ง

จากนั้นมีคนเข้ามาหาเธอ และเธอก็ได้รับการแจ้งเตือน เธอหันกลับไปเพียงเพื่อดูพ่อของเธอมาถึงในชุดเกราะ

แต่พ่อของเธอไม่ป่วยเหมือนเมื่อก่อน แววตาของเขาเต็มไปด้วยความรุนแรง และเขาก็ค่อนข้างแข็งแกร่งเหมือนอสูรร้ายที่ถูกขังอยู่ในกรง พร้อมที่จะถูกปลดปล่อยให้เป็นอิสระ

“ ท่านพ่อ…แผล…”“ แผลอะไร? ลูกคิดว่าพ่อโง่จนได้รับบาดเจ็บจากการบ่มเพาะหรือไง?”

ถังหลินจ้านหัวเราะเยาะ เขาเข้าไปหาถังยู่หยู และกล่าวว่า“ ตระกูลซือถูและตระกูลหวังนั้นโลภสิ่งต่างๆของเรามานานกว่าหกทศวรรษแล้ว พวกเขาคิดว่าพ่อไม่รู้ อืม อะไร? พวกเขาคิดว่าพ่อตาบอดหรือไง?”

ถังยู่หยูกลัวจนหน้าซีด

กว่าหกทศวรรษ?

ตั้งแต่เธอยังเป็นเด็กเธอมักถูกบอกเสมอว่าตระกูลซือถูและตระกูลหวังต่อสู้กัน สี่ตระกูลโบราณต่อสู้กันเองมาตลอด

เธอเคยได้ยินมาว่าครั้งหนึ่งตระกูลซือถูเคยฆ่านักรบอสูรกิตติมศักดิ์ของตระกูลหวัง และเธอก็ได้เห็นภาพที่เป็นหลักฐาน!

เธอคิดว่าตระกูลซือถูและตระกูลหวังเป็นศัตรูร้ายต่อกัน แต่พ่อบอกว่าพวกเขาร่วมมือกันมากว่าหกทศวรรษแล้ว!

ดังนั้นทุกสิ่งที่เธอคิดว่ารับรู้ พิสูจน์แล้วว่ามีไว้เพื่อตบตาเท่านั้น?

นักรบอสูรกิตติมศักดิ์ที่ตายเป็น “นักแสดง”?

เธอปรับลมหายใจเข้าออกอย่างช่วยไม่ได้

ฆ่านักรบอสูรกิตติมศักดิ์เพื่อการแสดง…ทั้งสองตระกูลจะโหดร้ายแค่ไหน!

“ ไปรับลุงสามของลูก” ถังหลินจ้านกล่าว

ถังยู่หยูกำลังจะถามว่าทำไม แต่ถังหลินจ้านมุ่งความสนใจไปที่การต่อสู้ เขาจะเป็นคนที่รับผิดชอบตั้งแต่ตอนนี้เป็นต้นไป เขาพูดให้ถังยู่หรานมารับผิดชอบและแกล้งบาดเจ็บ หรือเขาสงสัยว่ามีคนทรยศในตระกูลใช่ไหม?

ความเย็นชาฉายผ่านดวงตาของถังยู่หยู เธอพยักหน้า

ไม่นานผู้อาวุโสคนหนึ่งก็เข้ามา

ผู้อาวุโสหน้าซีดเมื่อเขามาถึง และเห็น ถังหลินจ้าน

“ พี่สาม มานี่” ถังหลินจ้าน พูดโดยไม่หันไปทักทายผู้อาวุโส

ผู้อาวุโสไม่สามารถบอกได้ว่า ถังหลินจ้าน โกรธหรือเปล่า

ผู้อาวุโสยิ้ม“ท่านรู้สึกดีขึ้นแล้วใช่ไหม?ผมมีความสุขมาก เราจะมั่นใจได้มากขึ้นเมื่อท่านอยู่ที่นี่”

“เข้ามาใกล้ ๆ” ถังหลินจ้าน ไม่ตอบกลับ เขาเรียกซ้ำ

ผู้อาวุโสตอบรับ และก้าวเข้าไปหา

อย่างไรก็ตามหลังจากผ่านไปสองก้าวผู้อาวุโสก็ปลดปล่อยพลังดวงดาว และพุ่งเข้าหาถังยู่หยู

รอยยิ้มบนใบหน้าของเขากลายเป็นความดุร้าย

มันเกิดขึ้นเร็วมาก แต่ถังยู่หยูจ้องมองไปที่ผู้อาวุโสอย่างเย็นชาราวกับว่าเธอรู้อยู่แล้วจะจะเป็นแบบนี้ เธอย้ายออกไปเหลือเพียงเงามัวในจุดนั้น ในระหว่างนั้นเงาก็ปรากฏขึ้น มันกวัดแกว่งดาบตรงหน้าผู้อาวุโส

“ แกเป็นอิสระจากการจองจำของฉัน มันเป็นไปได้ยังไงกัน?” ผู้อาวุโสตะโกนด้วยความประหลาดใจ

เขาอยู่ที่ระดับกิตติมศักดิ์ขั้นสูงสุด ถังยู่หยูจะหนีไปได้ยังไงในเมื่อเธออยู่แค่ระดับแปด?

“ นั่นเป็นแค่ตัวปลอม ลองดูดีๆสิ”ถังยู่หยูชี้ให้ดู ผู้อาวุโสหน้าบิดเบี้ยว เขาตะโกน ชกใส่เงา พยายามที่จะต่อยเข้าที่ใบหน้าของเธอ

“ฮึ!”

จากนั้นบุคคลหนึ่งก็แค่นเสียง ก่อนที่เขาจะรู้ตัว ถังหลินจ้าน ได้ยื่นหน้าเข้ามาใกล้ถังยู่หยู และรับหมัดนั้นแทนเธอ

หมัดพุ่งเข้าใส่เขา แต่เขายังคงนิ่ง

แสงสีเขียวสว่างวาบผ่านตัวเขา

“กายสมบูรณ์!”

ผู้อาวุโสร้องด้วยความกลัว

ถังหลินจ้าน มาถึงขั้นสูงสุดของกายเคลือบเงาแล้ว

เขาสามารถต้านทานการโจมตีจากอสูรร้ายระดับเก้าได้ด้วยร่างกายเพียงอย่างเดียว มีเพียงนักรบอสูรในตำนานหรือผู้ที่ใกล้เคียงกับระดับตำนานเท่านั้นที่สามารถทำร้ายเขาได้!

ผู้นำตระกูลคนปัจจุบันของตระกูลถังไปถึงสถานะสูงสุดของกายเคลือบเงาตอนไหน เขาเพิ่งอายุแค่สี่สิบปี!

แม้แต่ผู้อาวุโสเองก็ไม่สามารถทำเช่นนั้นได้

“ ฉันอยากให้โอกาสแก แต่แกโยนมันทิ้งไปเอง” ถังหลินจ้าน ประกาศอย่างเย็นชา

ปัง!

เขาต่อยหมัดอย่างรวดเร็วราวกับสายฟ้า วินาทีต่อมาผู้อาวุโสที่หวาดกลัวจนตัวสั่นก็มีรูบนหน้าอกของเขา

ริมฝีปากของเขาสั่น ผู้อาวุโสพึมพำด้วยสีหน้าขมขื่น“ ท่าน…โปรดยกโทษให้ครอบครัวของผมด้วย…” เสียงของเขาขาดหายไปก่อนที่เขาจะพูดจบประโยค “ แกควรตระหนักถึงราคาของการทรยศ” ถังหลินจ้าน สะบัดเลือดออกจากมือ

ถังยู่หยูจ้องมองไปที่ศพอย่างไม่แยแส และเงาที่อยู่เบื้องหลังเธอก็หายไป ใบหน้าของเธอซีดเล็กน้อย ผู้อาวุโสคนนั้นก็อยู่ในระดับกิตติมศักดิ์ขั้นสูงสุด เธอจะไม่รอดจากการโจมตีครั้งนั้นถ้าพ่อของเธอไม่ก้าวเข้ามา

แม้คนทรยศจะถูกถอนรากถอนโคน แต่สิ่งต่างๆก็ดูไม่ดีเพราะยังมีตระกูลซือถูและตระกูลหวัง

ตระกูลซือถูและตระกูลหวังได้เตรียมพร้อม พวกเขามีนักรบอสูรกิตติมศักดิ์มากมาย ในขณะที่กองทัพขนนกของตระกูลถังใกล้จะแตกพ่าย นักรบอสูรกิตติมศักดิ์กำลังขี่อสูรระดับเก้าของพวกเขาเข้าโจมตีไปทั่ว ตระกูลถังกำลังจะพ่ายแพ้

โฮ่กก !!

ในตอนนั้นเสียงโบราณก็ดังขึ้นในท้องฟ้ายามค่ำคืน

เลือดของสมาชิกทุกคนในตระกูลถังแข็งตัว พวกเขารู้สึกหวาดกลัวจากความรู้สึกนั้น

ราชาอสูรร้ายงั้นหรอ?!

ตูม!

มีสิ่งคล้ายแรดขนาดมหึมาปรากฏขึ้น สิ่งมีชีวิตมีหนามแหลมคมทั่วตัว นักรบอสูรของตระกูลซือถูและตระกูลหวังกำลังหาทางเข้ามา

สิ่งมีชีวิตขนาดมหึมานั้นพุ่งเข้าหากลุ่มตระกูลถัง

อสูรระดับเก้าของตระกูลถังหลายตัวหยุดนิ่งหลังจากที่ได้ยินเสียงคำรามของสิ่งมีชีวิตนั่น พวกมันตัวสั่น อสูรเริ่มถอนตัว

อำนาจของราชาอสูรครอบงำทุกคน ขณะที่มันวิ่งไปรอบ ๆ ราวกับว่าอยู่ภายใต้คำสั่ง อสูรระดับเก้าเหล่านั้นก็วิ่งเข้าหาราชาอสูรร้ายแม้ว่าพวกมันจะยังไม่หยุดสั่น ปัง! ปัง! พลังที่มองไม่เห็นในอากาศบดขยี้อสูรระดับเก้าเกือบทั้งหมดจนตาย อสูรชนิดหนึ่งที่เป็นตระกูลหินไม่ได้ตายในคราวเดียว แต่ก็อาการไม่ดี

ประตูของตระกูลถังพังทลาย

“ท่านพ่อ!”

ถังยู่หยูตกใจ

ในทางกลับกัน ถังหลินจ้าน ดูเหมือนจะไม่แปลกใจเลย “ เตรียมร่มสมุทรให้พร้อม มาฆ่าอสูรร้ายกันเถอะ!”

ถังยู่หยูวิ่งออกไปทันที …

แต่ไม่นานถังยู่หยูก็กลับมา ดูเหมือนเธอจะไม่สบายใจ เธอรีบแจ้งข่าวว่า“ ท่านพ่อ…มีบางอย่างผิดปกติกับร่มสมุทร!”

“อะไร?”

ถังหลินจ้าน หวาดกลัวสิ่งนี้

ร่มสมุทรเป็นสมบัติประจำตระกูลและเป็นมรดกตกทอด เกิดอะไรขึ้นกับมัน?

คนที่ดูแลมันเป็นคนที่เขาไว้ใจด้วยทั้งหัวใจและจิตวิญญาณ

ทันใดนั้นชายคนหนึ่งก็ตะโกนด้วยความขุ่นเคือง มันคือถังหมิงชิง“น้องเจ็ดเขาหันมาต่อต้านเรา!” ถังหลินจ้าน ตัวสั่น เขาเกือบจะคลั่ง

คนที่ฉันไว้ใจมากที่สุดหักหลังฉัน?

เขาคงจะแปลกใจนิดหน้อยถ้าถังยู่หยูลูกสาวของเขาจะเป็นคนที่ทรยศต่อตระกูลถัง เขาคงไม่เชื่อว่าผู้ชายที่เขาเห็นว่าเป็นน้องชาย คนที่ช่วยเขาให้รอดพ้นจากอันตรายมาหลายครั้ง และคนที่เกือบตายแทนเขาจะทรยศเขา!

“ไม่มีทาง…”

น้ำเสียงแหบพร่าราวกับมีไฟในลำคอ

แต่เขาไม่แน่ใจ

“ท่าน!” ถังหมิงชิงตะโกน

ถังหลินจ้าน กลับมามีสติ แต่เขาก็ยังคงเหม่อลอยอยู่เล็กน้อย หลังจากนั้นไม่นานความเด็ดขาดก็กลับมาที่ดวงตาของเขา เขาไม่สามารถยอมให้ตัวเองยอมแพ้ได้ เพราะเขาเป็นคนที่ต้องพยุงตระกูลถัง “น้องเจ็ด. ไม่สามารถทำลายร่มสมุทรหรือนำมันไปได้ แม้ว่าเขาจะทรยศเราก็ตาม ฉันจะไปดู ลูกอยู่ที่นี่” เขาพูดกับถังยู่หยู

เธอพยักหน้า

ถังหลินจ้าน วิ่งหายไปในความมืด

ร้านขายอสูรดวงดาว Astral Pet Store

ร้านขายอสูรดวงดาว Astral Pet Store

Status: Ongoing

ฉันถูกส่งไปยังโลกแห่งอสูร มีสิ่งมีชีวิตทุกรูปแบบ ทุกขนาด พวกมันสามารถเป็นสหายน่ากอด ผู้ช่วยในชีวิตประจำวัน หรือนักสู้ ไม่เลวเลยใช่ไหมละ? ฉันมีครอบครัว แต่ความจริงกลับถูกบดบังโดยน้องสาวฉัน เธอเกลียดฉันมาก และก็คอยรังแกฉันทุกวัน ฉันบอกหรือยังว่าเธอมีพรสวรรค์สูงมาก ส่วนฉันเป็นคนไร้พรสวรรค์?ก็แค่หล่อสุดๆ ฉันมีอิสระในการดำเนินธุรกิจของครอบครัวเอง ร้านอสูรเล็กๆ มันควรจะดีหากไม่ใช่ความจริงที่เจ้าของร่างเดิมนี้เกิดมามีความสัมพันธ์เป็นศูนย์กับการควบคุมอสูรดวงดาว… คงไม่คิดว่ามันเป็นการข้ามโลกโดยไร้ระบบหรือกลไกอะไรที่จะปูถนนให้ฉันหรอกนะ?ฉันมี แต่ฉันไม่รู้ว่าไม่มีมันจะดีกว่าไหม…

แสดงความคิดเห็น

ใส่ความเห็น

อีเมลของคุณจะไม่แสดงให้คนอื่นเห็น ช่องข้อมูลจำเป็นถูกทำเครื่องหมาย *

ปรับฟอนต์

**ถ้าปรับโหมดมืดอยู่** ให้เปลี่ยนเป็นโหมดสว่าง ก่อนจะปรับสีพื้นหลัง
รีเซ็ท