“นั่นคือหอคอยมังกร”
หานยู่เซียงนำทาง ไม่นานพวกเขาก็ผ่านถนนหลายสายและผ่านบางพื้นที่ที่มีการจำกัดการเข้าถึง ในที่สุดก็มาถึงเชิงเขา ซึ่งถือเป็นสถานที่บ่มเพาะศักดิ์สิทธิ์
ใจกลางของลานมียอดเขายิ่งใหญ่
ยอดเขาที่งดงามนั้นมีรูปร่างแปลก ๆ โค้งไปด้านข้างเหมือนเลข 17” นอกเหนือจากตะไคร่น้ำที่ปกคลุมพื้นผิวจนแน่นแล้ว ยอดเขายังพันด้วยโซ่เหล็กสีดำจำนวนมากอีกด้วย
นักเรียนหลายคนรวมตัวพูดคุยกันที่ลาน
บูม!
มังกรเพลิงนรกมาถึงแล้ว แรงสั่นสะเทือนนั้นแจ้งเตือนนักเรียน พวกเขาหันกลับมา และตกตะลึงเมื่อเห็นมังกรเพลิงนรก
ห้ามขี่อสูรขนาดใหญ่ในสถาบัน นั่นคือกฎ
นักเรียนบางคนที่สายตาดีสังเกตเห็นว่าหานยู่เซียงกำลังบินอยู่ข้างหน้ามังกรเพลิงนรก
“รองอาจารย์ใหญ่!”
“นั่นคืออสูรของเขาเหรอ?”
“ฉันไม่คิดว่าอย่างนั้น ฉันคิดว่ามีคนอยู่บนมังกร นายไม่คิดว่ามังกรตัวนี้เหมือนมังกรเพลิงนรกเหรอ?”
“นิดหน่อย แต่มันดูไม่เหมือนในรูป เกล็ดมีขนาดใหญ่กว่า และมังกรก็ตัวใหญ่กว่า” นักเรียนพูดคุยแลกเปลี่ยนข้อสงสัยกัน
หานยู่เซียงบินลงไปหานักเรียนพวกนั้น
“ยินดีที่ได้รู้จักครับ” “ยินดีที่ได้รู้จักครับรองอาจารย์ใหญ่”
นักเรียนทุกคนทำความเคารพทันที พวกเขาจ้องมังกรเพลิงนรกและซูผิงด้วยความอยากรู้อยากเห็น รวมถึงอีกสองคนที่ยืนอยู่บนไหล่ของมังกร
“นี่คือหอคอยมังกร”
ซูผิงจ้องไปที่ยอดเขาคดเคี้ยวด้วยคิ้วขมวดคิ้ว อย่างไรก็ตาม เขารู้สึกไม่ดีกับยอดเขาที่คดเคี้ยว ราวกับว่าเขากำลังยืนอยู่ตรงหน้าสิ่งอันตรายบางอย่าง
เขาอ่อนไหวเมื่อต้องเผชิญกับอันตราย เขาพัฒนาสัญชาตญาณนั้นหลังจากตายหลายครั้งในสนามบ่มเพาะ
“ใช่ นั่นคือหอคอยมังกร สถานที่ศักดิ์สิทธิ์สำหรับการบ่มเพาะ ค่อนข้างคล้ายกับหอคอยกระดูกมังกรในภูเขาหลงไถ แต่เราไม่ได้สร้างหอคอยนี้เพื่อเลียนแบบหอคอยนั้น ทั้งหมดนี้เกิดจากธรรมชาติ”หานยู่เซียงกล่าวต่อ “น้องสาวของคุณหายตัวไปหลังจากที่เธอเข้าไปในหอคอย เราสงสัยว่าเธอเข้าไปในส่วนลึกและติดอยู่ข้างใน ผมส่งนักเรียนที่เก่งที่สุดที่เรามีเข้าไปข้างในแต่ก็ไม่เป็นผล ดังนั้นผมจึงไม่คิดว่าเธออยู่ที่นั่น”
“ทำไมนายถึงต้องหานักเรียนมาทำ? มีอะไรที่ไม่อนุญาตให้นายเข้าไปข้างในหรือเปล่า?” ซูผิงถาม
หานยู่เซียงยิ้มฝืน ๆ “คุณซูคุณเข้าใจไม่ผิด หอคอยมังกรค่อนข้างแปลก พลังลึกลับของมันบอกว่าผู้ที่มีอายุมากกว่า 24 ปีไม่สามารถเข้าไปได้ไม่ว่าจะมีระดับอะไรก็ตาม เราค้นพบเรื่องนี้หลังจากการทดสอบนับครั้งไม่ถ้วน ใครก็ตามที่อายุเกินนั้นไม่ว่าจะใช้วิธีใดก็เข้าไปข้างในไม่ได้”
“จำกัดอายุ?”
นั่นเป็นกฎที่แปลก
พลังลึกลับ?
เขาคิดถึงความเป็นไปได้
กฎธรรมชาติ!
มีเพียงสิ่งมีชีวิตที่ทรงพลังในระดับดวงดาวเท่านั้นที่สามารถกำหนดกฎธรรมชาติได้!
เมื่อตั้งกฎสำหรับสถานที่ใดสถานที่หนึ่งแล้ว สิ่งใดก็ตามภายในพื้นที่นั้นจะต้องเป็นไปตามกฎเหล่านั้น
แต่…
เกี่ยวอะไรกับหอคอยมังกรนี้?
มันเป็นมรดกที่คนระดับดวงดาวทิ้งไว้หรอ?
ซูผิงจ้องไปที่จุดสูงสุดด้วยคิ้วที่ขมวดแน่น เขากำลังค้นพบจุดที่คุ้นเคยมากขึ้นเรื่อยๆ เหมือนกับเดจาวู เขาไม่สามารถระบุได้ว่ามีอะไรผิดปกติกับยอดเขา หรือเพราะอะไรเขาถึงรู้สึกคุ้นเคย
เขาไม่สนเรื่องพวกนี้ สิ่งที่สำคัญที่สุดคือการตามหาซูหลิงเยวี่ย
“ฉันจะเข้าไปดู” ซูผิงกล่าว เขากระโดดลงจากมังกรเพลิงนรก และพาสวี่คังไปกับเขา
โม่เฟิงผิงเขาใช้ทักษะพิเศษบางอย่างเพื่อความปลอดภัยของเขา เนื่องจากเขาไม่สามารถบินได้
ซูผิงไม่ได้หันกลับไปดู แต่มีวังวนปรากฏขึ้นข้างๆ มังกรเพลิงนรก
โดยไม่รอคำสั่งของซูผิง มังกรเพลิงนรกกระโดดลงไปในวังวนด้วยตัวมันเอง
หานยู่เซียงดูเหมือนจะกลัว เนื่องจากซูผิงต้องการจะเข้าไปในหอคอยมังกร”คุณซูผมพูดความจริงนะ”
“ฉันเข้าใจ”
“เอ๊ะ…” หานยู่เซียงอยากถามว่าแล้วทำไมเขาถึงยังจะเข้าไป
หานยู่เซียงเชื่อว่าซูผิงอายุเกิน 24 ปีไปแล้ว ไม่งั้นเขาจะมาถึงระดับที่สูงแบบนี้ได้ยังไง?
มีความโกลาหลเกิดขึ้นเล็กน้อย
“ศิษย์พี่เฟยกำลังจะออกมา!” “เขาอยู่ในนั้นมานานแล้ว ฉันเชื่อว่าเขาต้องทำลายสถิติอีกครั้ง”
“ผลออกมาแล้ว!”
ดูเหมือนนักเรียนจะตื่นเต้น พวกเขาเลิกสนใจหานยู่เซียงและมังกรเพลิงนรก
ชายหนุ่มรูปงามกำลังเดินออกจากยอดเขาด้วยใบหน้าที่นิ่งและประสานมือไว้ด้านหลัง
ข้างๆ เขามีชายหนุ่มสวมหมวกทรงสูงสีขาว และเครื่องแบบแปลก ๆ ชายหนุ่มคนนั้นถือหนังสือทองแดง เขาเดินไปถึงแผ่นจารึกอันมืดมิดที่อยู่บนยอดเขาภายใต้สายตาของทุกคน
ชายหนุ่มผลักหนังสือทองดำเข้าไปในช่องบนแผ่นจารึก มันเข้ากันได้อย่างสมบูรณ์ ในไม่ช้ารังสีของแสงก็แผ่ขึ้นจากแผ่นจารึก ปีนขึ้นไปก่อนที่จะหยุด
แถวที่เขียนว่า “ชั้น” เปลี่ยนหมายเลขจาก 17 เป็น 18 “’18!!”
“โอ้พระเจ้า!”
“เขายังเป็นคนอยู่ใช่ไหม? ไม่น่าเชื่อ พลังต่อสู้ของเขาเทียบได้กับระดับกิตติมศักดิ์ขั้นสูงสุด!” นักเรียนอุทาน และบางคนก็อ้าปากค้าง
อันดับสองตามที่แสดงบนแผ่นจารึกนั้นอยู่แค่ชั้นที่ 16; แตกต่างกันถึงสองระดับ!
ตัวเลขอาจดูน้อยแต่ต้องรู้ก่อนว่าความยากในแต่ละระดับจะแตกต่างกันอย่างมาก!
เหล่านักเรียนต่างจ้องมองชายหนุ่มรูปงามราวกับว่าเขาเป็นสัตว์ประหลาด ชายหนุ่มคนนั้นมีความสามารถมากที่สุดในเขตอนุทวีป!
พวกที่เรียกตัวเองว่าอัจฉริยต่างกระจอกไปเลยถ้าเทียบกับเขา หานยู่เซียงสังเกตเห็นเช่นกัน การาเปลี่ยนแปลงในตัวเลขทำให้เขาตกใจ”ศิษย์พี่เฟยสุดยอด!’
“ศิษย์พี่เฟย ฉันจะติดตามคุณไปตลอด!”
เหล่านักเรียนรวมตัวกันรอบชายหนุ่ม สาวๆพากันคลั่งใคล้เขาแลแม้กระทั่งเด็กหนุ่มก็ยังมีรอยยิ้มประจบ
นักเรียนทั้งหมดมาจากตระกูลทรงอิทธิพล สถานะพวกเขาสามารถเพิ่มขึ้นได้ในอนาคตถ้าพวกเขาเป็นเพื่อนกับสุดยอดอัจฉริยะเช่นนี้ ตราบเท่าที่ศิษย์พี่เฟยอยู่ห่างจากโชคร้ายแรง ก็ไม่มีใครบอกได้ว่าอนาคตเขาจะรุ่งโรจน์แค่ไหน เหนือสิ่งอื่นใด เขาถือเป็นหนึ่งในนักเรียนที่ดีสุดที่สถาบันเคยมี!
“หลบ”ชายหนุ่มพูด เสียงของเขาต่ำแต่กลับเต็มไปด้วยพลัง
เหล่านักเรียนหลบทาง คำพูดชมเชยของเขาหยุด
พวกเขาอยากเป็นมิตรกับเขา
ชายหนุ่มเดินไปหาหานยู่เซียงโดยตรง เขาไม่ให้ความสนใจซูผิงด้วยซ้ำ ชายหนุ่มแค่พยักหน้าให้โม่เฟิงผิงเพื่อให้ไม่ดูไร้มาทยาทเกินไป”อาจารย์มาหาผมงั้นเหรอ?ผมเพิ่งปิดประตูบ่มเพาะเสร็จและได้รับการเห็นแจ้งมาบ้าง ผมคิดว่าผมสามารถมาที่นี่และทดสอบความก้าวหน้าของผมได้”
ชายหนุ่มฟังดูไม่ถ่อมตนเลย
หานยู่เซียงคงยอมทำให้ชายหนุ่มจมน้ำตายด้วยคำพูดชมเชยกับเสียงหัวเราะถ้ามันเป็นเวลาอื่น นี่เป็นช่วงเวลาที่นักเรียนทุกคนต่างทึ่งกับความจริงที่ชายหนุ่มไปถึงชั้น18
นั่นเป็นสัญญาณสำคัญ!
มันหมายความว่าระดับพลังของชายหนุ่มกำลังเข้าใกล้จุดสูงสุดของกิตติมศักดิ์!
แต่เฟยเทียนอวี่ยังอายุไม่ถึง 24เลย เขามีศักยภาพสูง เป็นไปได้มากว่าอนาคตเขาจะกลายเป็นนักรบอสูรระดับตำนนานได้!
สถาบันยังสามารถแนะนำเฟยเทียนอวี่ให้ไปหาคอยเพื่อเรียนรู้และฝึกกับนักรบอสูรในตำนาน เพิ่มโอกาสที่เขาจะไปถึงระดับนั้น!
“เทียนอวี่ ทำได้ดีมาก”หานยู่เซียงพยักหน้า เขาหักห้ามตัวเองไม่ให้แสดงความยินดี เขายังไม่ให้รอยยิ้มจริงใจด้วยซ้ำ
เฟยเทียนอวี่สับสน นั่นไม่ใช่ปฏิกิริยาที่เขาคาดไว้
หานยู่เซียงควรตกตะลึงและยินดีสิ
เฟยเทียนอวี่ไม่ยอมให้ตัวเองเสียเวลามากพอกับความสับสนนั้น เขามีความคาดหวังมากขึ้นสำหรับตัวเอง สถาบันเป็นแค่หินเหยียบให้เขา เขาต้องกลายเป็นคนมีชื่อเสียง แม้ว่าเขาจะยังเป็นนักเรียน ชื่อเสียงของเขาก็ยิ่งใหญ่กว่าปรมาจารย์ดาบแลหานยู่เซียง
เฟยเทียนอวี่มั่นใจว่าสถาบันต้องปฏิบัติต่อเขาอย่างดีเหมือนเขาเป็นนักเรียนดาวเด่น เขาจะเข้าร่วมหอคอยภายหลังและไปถึงระดับตำนาน
แต่นั่นไม่ใช่เป้าหมายสูงุสดสำหรับเขา มีนักรบอสูรในตำนานที่อ่อนแอและทรงพลัง เขาอยากเป็นผู้จบการศึกษาที่ทรงพลังสุดที่สถาบันเคยมี
หานยู่เซียงเคยเป็นผู้ชี้แนะให้เขาแต่เขาไม่สามารถให้คำแนะนำเพิ่มเติมได้อีกต่อไป ตัวหานยู่เซียงเองก็ยังไม่ถึงระดับตำนาน
“อาจารย์ ผมจะกลับไปบ่มเพาะต่อ ถ้าอาจารย์ไม่ว่าอะไร”เฟยเทียนอวี่พูด
หานยู่เซียงพยักหน้า”ดี โชคดีนะ”
“รอก่อน”ซูผิงพูดขึ้น
เฟยเทียนอวี่ประหลาดใจ เขาหันไปมองซูผิงด้วยสีหน้าไม่พอใจ
ซูผิงกำลังถามหานยู่เซียง”นี่คือศิษย์ของนาย?เขาเป็นคนที่นายส่งเข้าหอคอยมังกรไปหาน้องสาวฉันใช่ไหม?”
“ครับ มันคือเทียนอวี่ เขาไม่ใช่ศิษย์คนเดียวของผมแต่เป็นศิษย์ที่เก่งสุด นอกจากนี้ จากบันทึกที่เขาทำได้ เราสามารถบอกได้ว่าเขาคือนักเรียนที่มีพรสวรรค์มากสุดในรอบร้อยปีของเรา”หานยู่เซียงอธิบายรวดเดียว เขาคงภูมิใจที่พูดคำเหล่านั้น แต่วันนี้เขากลับพูดอย่างระมัดระวัง กลัวว่าจะทำอะไรผิดไป
ซูผิงพยักหน้า”น้องสาวฉันไปถึงชั้นไหนฦ.
“ผมดูบันทึกของเธอแล้ว ผมคิดว่ามันควรเป็นชั้น14”
“นายคิด?”
“ไม่ ไม่ ผมมั่นใจ มันเป็นชั้น 14 ครับ”
หานยู่เซียงตื่นตระหนก ซูผิงได้บอกให้เขาดูแลซูหลิงเยวี่ยและเขาก็ตบปากรับคำ เขาได้ทำเธอหายไป เขาจะต้องเผชิญปัญหาถ้าซูผิงคิดว่าเขาไม่ได้ดูแลเธอเลย
ซูผิงจ้องเขาก่อนพูดกับเฟยเทียนอวี่”นายได้เบาะแสอะไรตอนเข้าไปหอคอยมังกรเพื่อหาน้องสาวฉัน?”
“?”
เฟยเททียนอวี่จ้องซูผิงด้วยใบหน้าขุ่นมัว
การขมวดคิ้วเป็นการตอบคำถามของเขา ทำไมฉันต้องบอกนาย?
“เทียนอวี่ ระวังท่าทางด้วย”หานยู่เซียงเตือนเขา”บอกเขาซะ บอกให้ละเอียดด้วย”