“คุณซู!”
“ผู้ท้าทายโชคชะตาซู!”
หานยู่เซียงและอวิ๋นว่านหลี่ร้องออกมาพร้อมกัน
มีสายฟ้าสีม่วงอยู่รอบๆ เสื้อผ้าของอวิ๋นว่านหลี่ เขาพุ่งเข้าประชิดซูผิงทันที“ผู้ท้าทายโชคชะตาได้โปรด การฝึกฝนค่อนข้างลึกซึ้งและมีประตูไปยังที่ต่างๆภายใน คุณต้องรอให้หนานเฟิงเทียนออกมาถ้าคุณต้องการที่จะไปชั้น 19 หรือให้ผมปิดการใช้งานชั้นที่ 19 เพื่อคุณ มิฉะนั้นคุณจะถูกโจมตีโดยพลังงานมืดของสุสาน แม้แต่นักรบอสูรในตำนานที่สภาวะว่างเปล่าก็ไม่สามารถทำเช่นนั้นได้…”
“ได้โปรด คุณซู ได้โปรดใจเย็นๆ” หานยู่เซียงก็พยายามพูดกับซูผิงด้วย
“ไม่เป็นไร” ซูผิงยืนกราน
เขาโบกมือด้วยท่าทางเย็นชาและแน่วแน่ ผลักอวิ๋นว่านหลี่ที่ขวางหน้าเขาออกไป
ซูผิงก้าวไปข้างหน้า
หวือ!
มีลมพัดมา
ซูผิงโผล่ขึ้นมาอีกครั้งเหนือป่าไผ่สีม่วง เส้นสีม่วงหลายเส้นปรากฏขึ้นในอากาศ เหมือนกับใยแมงมุม เส้นสีม่วงดึงซูผิงเข้าไป
“ผู้ท้าทายโชคชะตาซู!”อวิ๋นว่านหลี่กรีดร้อง
ซูผิงวางมือจับเส้นนั่น
เกิดเสียงดังและเสียงแตก ท่ามกลางเสียงดัง ท้องฟ้ามืดครึ้มในทันทีที่เมฆมืดรวมตัวกันบนท้องฟ้าปลอดโปร่งเหนือป่าสุสานทั้งหมด หรือที่จริงแล้ว เหนือสถาบันผู้กล้า!
“เห้อ!”
อวิ๋นว่านหลี่กระทืบเท้า เขาไม่สามารถหยุดคนที่กำลังจะตายได้!
การบุกเข้าไปจะกระตุ้นซากศพและพลังงานชั่วร้ายทั้งหมดในป่าสุสาน ซูผิงอาจตายได้!
ไม่ว่าเขาจะมีพลังมากแค่ไหน แต่สุดท้ายซูผิงก็เป็นแค่ชายหนุ่ม พลังต่อสู้ของเขานั้นแทบไม่มีค่าเลยเมื่อต้องรับมือกับซากศพและพลังงานที่น่ารังเกียจเหล่านั้น เพราะพวกมันจะโจมตีจิตวิญญาณ
“นั่น…บ้ามาก”
หญิงสาวสกุลกั๋วจ้องมองด้วยความไม่เชื่อ ชายหนุ่มพยายามทำลายค่ายกลเพื่อบุกเข้าไปในป่าสุสาน นั่นไม่ใช่เพียงพื้นที่บ่มเพาะสำหรับนักเรียนเท่านั้น แต่ยังเป็นที่พักพิงเวลาที่สถาบันผู้กล้าถูกโจมตี!
ใครก็ตามที่ไม่ปฏิบัติตามกฏที่เฉพาะเจาะจงจะกระตุ้นซากศพทั้งหมดและพลังงานที่อันตรายภายในอย่างหลีกเลี่ยงไม่ได้แม้แต่นักรบอสูรในตำนานก็ไม่รอด! เฟยเทียนอวี่มึนงง เขาไม่อยากเชื่อเลยว่าจะมีใครหัวร้อนได้ขนาดนี้
การบุกเข้าไปในป่าสุสานเป็นการฆ่าตัวตาย ซูผิงถึงวาระแล้ว เฟยเทียนอวี่รู้สึกผิดหวัง
ซูผิงควรจะเป็นคนมีพรสวรรค์หาจับตัวยาก แต่เขากำลังจะตายอย่างโง่เขลา
“พ่อเคยบอกฉันว่าคนมีพรสวรรค์มีอยู่มากมายนับไม่ถ้วน แต่มีเพียงไม่กี่คนที่สามารถอยู่รอดจนจบได้ ความสามารถไม่ใช่สิ่งเดียวที่สำคัญ ผู้ที่สามารถอยู่รอดได้ต่างหากที่จะทรงพลังอย่างแท้จริง…”เฟยเทียนอวี่จำคำสอนของพ่อของเขา เขาไม่รู้สึกเคารพอีกต่อไปเมื่อมองไปที่ชายหนุ่มคนนั้น เขาแค่รู้สึกเฉยๆ ซูผิงอาจสร้างความรู้สึกต่างๆที่หอคอยมังกร แต่ไม่มีความรู้สึกใดจะคงอยู่นานถ้าเขาตาย
นักเรียนที่ยืนอยู่ด้านหลังเฟยเทียนอวี่ และหญิงสาวต่างคิดว่าผู้ชายคนนั้นบ้าไปแล้ว!
“โอ้พระเจ้า ไม่ เขาจบแล้ว!”
“เขากำลังพยายามบุกเข้าไปในป่าสุสาน แม้แต่นักรบอสูรในตำนานก็ยังทำไม่ได้!”
ฉินเส้าเทียนกับหลิวฉิงเฟิงกังวลและกลัว พวกเขาไม่ได้สนิทกับซูผิงมากนัก แต่พวกเขาทั้งหมดมาจากเมืองฐานหลงเจียง พวกเขากังวลเมื่อเห็นว่าซูผิงเลือกวิธีการฆ่าตัวตายแบบนั้น
พวกเขาอยู่ในสถาบันมาไม่ถึงครึ่งปี แต่พวกเขาก็ได้รู้ถึงความน่าสะพรึงกลัวของป่าสุสานแล้ว แน่นอนว่าพวกเขารู้เพราะนักเรียนมักจะเล่าเรื่องของพวกเขา
มีเรื่องราวทางประวัติศาสตร์ที่กล่าวว่าครั้งหนึ่งเคยมีนักรบอสูรในตำนานที่มาเพื่อโจมตีสถาบันผู้กล้า แต่เขาจบลงด้วยการตายในป่าสุสาน!
นี่เป็นสถานที่ที่อันตรายแม้กระทั่งสำหรับนักรบอสูรในตำนาน!
นักเรียนจะมาที่นี่เพื่อฝึกฝน พวกเขาจะประพฤติและปฏิบัติตามกฎ พวกเขาจะหยิบบัตรผ่านและเดินไปตามเส้นทางที่กำหนด “อัจฉริยะจากเมืองฐานหลงเจียง… เขาต้องมาตายที่นี่…”
“มันไม่คุ้ม!”
โจวหยุนและเย่หลงเทียนรู้สึกปวดใจ ซูผิงมีความสามารถมากกว่าที่พวกเขามีมาก มันไร้สาระสำหรับเขาที่จะตายในลักษณะนี้
ซูผิงยืนอยู่เหนือต้นไผ่สีม่วง
ท้องฟ้าแจ่มใสกลายเป็นมืดสนิท ลมกระโชกและพัดราวกับว่าผีกำลังร้องไห้ อุณหภูมิลดลง
จากส่วนลึกของป่าไผ่ ความมืดจำนวนมากส่งเสียงกรีดร้องที่เยือกเย็นและเต็มไปด้วยเลือด ควบคู่ไปกับเสียงร้องของความบ้าคลั่งและความรุนแรง
“คุณซู!”หานยู่เซียงตะโกน ใบหน้าของเขาซีด
เขาไม่อยากเห็นคนมีพรสวรรค์ต้องตกอยู่ในเหตุการณ์แบบนั้น ซูผิงไม่ได้หันไปมอง เขาสัมผัสได้ถึงความชั่วร้ายที่อยู่รายรอบ สนามพลังของเขากำลังปรากฏขึ้นข้างหลังเขา
“แกพวกผีกระจอก กล้าดียังไงมาแหกปากต่อหน้าฉัน!”
ซูผิงก้าวเข้าไปในพายุ
ลมหนาวพัดปลิวไสว ท่ามกลางสายตาของทุกคน เขาเดินไปข้างหน้าขณะลอยอยู่ในอากาศ
พลังงานชั่วร้ายพุ่งเข้าหาเขาจากหลายทิศทาง ความมืดกลายเป็นอสูรร้ายที่คำรามและกระโจนใส่เขา ซูผิงเดินหน้าต่อไป
โฮ่กกก!
เสียงคำรามดุร้ายดังก้องอยู่เหนือป่าสุสาน หัวมังกรขนาดใหญ่ถูกสร้างขึ้นจากความมืด
ซูผิงเงยหน้าขึ้นมองในขณะที่หัวมังกรกำลังจะมาถึงเขา
ดวงตาของเขาเย็นเยียบราวน้ำแข็ง
ลมหยุด เสียงคำรามของมังกรหยุดลง
ในขณะเดียวกันเงาที่ถือดาบขนาดใหญ่ได้ก้าวออกมาจากสนามพลังมืดที่อยู่ด้านหลังซูผิง เงานั้นสูงปกคลุมไปด้วยดาบแหลม มันขยับ ฟันดาบไปด้านหน้า
คลื่นดาบดำพุ่งออกมา
หัวมังกรตัวนั้นแตกเปิด เสียงกรีดร้องดังออกมาจากข้างใน พลังงานชั่วร้ายถูกแยกออก และกระจายไปในบริเวณใกล้เคียง
เงาดำที่อยู่เบื้องหลังซูผิงก็หายไปเช่นกัน เขายืนอยู่ในอากาศด้วยเจตนาฆ่าลึกซึ้งซึ่งทำให้เขาดูเหมือนปีศาจ
ซูผิงก้าวไปข้างหน้าและพลังงานชั่วร้ายก็ถอยกลับไปด้านข้าง มันกลัวที่จะเข้าใกล้เขา!
ทั้งนักเรียนและอาจารย์ไม่เข้าใจว่าทำไมสถานการณ์ถึงเป็นเช่นนี้
“นั่น… เขา…”
อวิ๋นว่านหลี่เบิกตากว้าง เขาไม่สามารถสงบสติอารมณ์ได้หลังจากเห็นฉากดังกล่าว
เขารู้ดีถึงความน่าสะพรึงกลัวของป่าสุสาน แต่ซูผิงกลับกลายเป็นว่าน่ากลัวยิ่งกว่าป่าสุสาน!
อาจารย์ใหญ่สามารถสัมผัสได้ถึงเจตนาฆ่าแม้ขณะที่ยืนอยู่ในระยะไกล เขาขนลุกไปหมด!
ป่าสุสานเป็นที่อาศัยของผี และซูผิงเป็นราชาของพวกมัน!
เขาไม่สามารถเข้าใจได้ว่าซูผิงต้องเผชิญกับเลือดมามากเพียงใดจึงจะบรรลุเจตนาฆ่าเช่นนี้
“เขาไม่ได้อยู่ในระดับตำนาน แต่เขามีสนามพลังและมันค่อนข้างรุนแรง… สนามพลังคือการสำแดงของหัวใจและจิตวิญญาณอะไรอยู่ในหัวใจและจิตวิญญาณของเขา?” หัวใจของอวิ๋นว่านหลี่เต้นแรง ทันใดนั้น เขาเริ่มเข้าใจว่าทำไมชายหนุ่มคนนั้นถึงสามารถมีชีวิตอยู่ได้หลังจากสิ่งที่เขาทำในหอคอย!
อวิ๋นว่านหลี่ไม่ได้เห็นมันกับตา เขาฃได้ยินมาจากนักรบอสูรในตำนานคนอื่น ๆ แต่พวกเขาไม่ต้องการพูดถึงเรื่องนี้ เขาเข้าใจว่า มันไม่ใช่เรื่องดี
แต่แล้วเขาก็ตระหนักว่ามันมีเหตุผลอื่น
หานยู่เซียงพูดไม่ออก
เขาได้เปลี่ยนความคิดของเขาเกี่ยวกับซูผิงใหม่อีกครั้ง หอคอยมังกรได้พิสูจน์อายุของซูผิงแล้ว
เขาอายุน้อยกว่า 24 ปี แต่เขาสามารถเทียบได้กับนักรบอสูรในตำนาน จิตใจและจิตวิญญาณของเขาจะน่ากลัวอะไรปานนี้?
หานยู่เซียงคิดไม่ออกด้วยซ้ำว่าซูผิงมีความก้าวหน้าขนาดนี้ได้ยังไง รวมถึงนักรบอสูรในตำนานลึกลับที่ซ่อนตัวอยู่ในร้านของซูผิง ซูผิงเป็นคนที่มีความลับมากมาย และหานยู่เซียงไม่คิดว่าเขาเป็นคนจากดาวเคราะห์สีน้ำเงิน
เฟยเทียนอวี่ หญิงสาว และนักเรียนคนอื่น ๆ ถูกแช่แข็งตรงนั้น
พวกเขาคิดว่าพวกเขาเพิ่งได้เห็นนรกเปิดทางให้ราชาปีศาจออกมา!
ชายหนุ่มคนนั้นคือราชาปีศาจ!
ความคิดของเฟยเทียนอวี่หยุดทำงาน
หญิงสาวจ้องมองอย่างตะลึงงัน
หวืด!
ซูผิงเดินผ่านต้นไผ่และไปที่สุสาน พลังงานชั่วร้ายถอยกลับ ร่างโบราณแต่ทรงพลังจำนวนมากมองเห็นได้เลือนรางในสนามพลังข้างหลังเขา แต่แทบไม่มีใครสังเกตเห็น