ร้านขายอสูรดวงดาว Astral Pet Store – ตอนที่ 586 ตาผี

ตอนที่ 586 ตาผี

“นี่คือทางเข้าถ้ำลึก”

ล้อมรอบด้วยแนวต้นไม้อันเขียวขจี ในส่วนลึกมีถ้ำขนาดใหญ่ที่ดูเหมือนอุโมงค์สำหรับรถไฟใต้ดิน ความมืดทำให้มองไม่เห็นสิ่งที่อยู่ข้างใน

นอกถ้ำมีผู้คุ้มกันแปดคน พวกเขาเจ็ดคนยืนตัวตรง แต่หนึ่งในนั้นคาบฟางเส้นไว้ เขานั่งบนก้อนหินข้างถ้ำ และจิบเหล้าของเขาเป็นครั้งคราว

หวืด! หวืด!

คนสองคนบินข้ามและลงมาจากที่สูง การเคลื่อนไหวของพวกเขาทำให้เกิดฝุ่นในบริเวณนั้น อวิ๋นว่านหลี่และซูผิงมาถึงแล้ว

” อาจารย์ใหญ่?”

“ท่าน!!”

ผู้คุ้มกันรู้สึกประหลาดใจกับการปรากฏตัวอย่างกะทันหันของอาจารย์ใหญ่ ชายวัยกลางคนที่ขี้เกียจกระโดดขึ้นและซ่อนขวดยาไว้ข้างหลังแล้วถุยฟางเส้นนั้นทิ้ง เขาวิ่งไปหาอวิ๋นว่านหลี่และใช้น้ำเสียงแสดงความเคารพ “อาจารย์ใหญ่ อะไรทำให้คุณต้องมาที่นี่หรอครับ?”

อวิ๋นว่านหลี่ถามชายวัยกลางคนด้วยน้ำเสียงจริงจัง “เฟิง ซิว ฉันรู้ว่านายรับผิดชอบที่นี่ นายเห็นนักเรียนเข้าไปในถ้ำเมื่อสัปดาห์ที่แล้วไหม?”

ชายที่ชื่อ เฟิงซิวฝืนยิ้ม “ท่านครับ พูดจริงหรือเปล่า สถานที่แห่งนี้ถูกจำกัด ผมจะไม่ปล่อยให้เด็กเหล่านั้นเข้ามาที่นี่ ผมมักจะทำให้พวกเขากลัวจนไม่กล้าเข้ามาใกล้ผม”

“หุบปาก!”

อวิ๋นว่านหลี่หยุดไม่ให้ชายวัยกลางคนพล่ามต่อ และคำรามในขณะที่เขาพูด “มีคนเข้าไปข้างในเมื่อสัปดาห์ที่แล้วไหม?” เสียงคำรามนั้นสร้างความตกใจให้กับเฟิง ซิว ความโกรธในดวงตาของอวิ๋นว่านหลี่ทำให้เขากลัว เขาคุกเข่าลงและพูดว่า “อาจารย์ครับ โปรดยกโทษให้ผมด้วย ผมทำงานพลาด สัปดาห์ที่แล้วมีอยู่ครั้งหนึ่งที่ผมต้องไปจัดการเรื่องหนึ่ง ตอนที่ผมกลับมาผมได้ยินมาว่ามีคนบุกเข้าไป ผมไม่กล้าเข้าไปไล่ตามนักเรียนคนนั้น…”

ใบหน้าของอวิ๋นว่านหลี่ขุ่นมัว “เป็นผู้หญิงหรือเปล่า?”

“ใช่ครับ” เฟิง ซิว ก้มหัวลงต่ำกว่าเดิม

“ทำไมไม่รายงาน?”

อวิ๋นว่านหลี่โกรธมาก “แกคิดบ้างไหมว่าสถานการณ์ภายในจะเป็นยังไง? นักเรียนไม่ว่าคนไหนจะต้องตายถ้าพวกเขาเข้าไป!”

“ผม ผมกลัวว่าคุณจะลงโทษ…” เฟิง ซิวกระซิบ หัวของเขาเกือบจะถึงพื้น

ผู้คุ้มกันอีกเจ็ดคนรีบคุกเข่าลงและก้มหัวลงเช่นกัน ไม่มีใครกล้าหายใจเพราะกลัวว่ามันจะดังเกินไป

พวกเขาจะกลัวมากขึ้นกว่าเดิมเมื่อเห็นนักรบอสูรกิตติมศักดิ์ เฟิงซิวกลัว

ใครก็ตามในสถาบันต่างรู้ว่าอาจารย์ใหญ่อยู่ในระดับตำนาน และเขามีพลังลึกลับ

“กลัวว่าฉันจะลงโทษ…”อวิ๋นว่านหลี่โกรธเกินกว่าจะพูด

ในเวลาเดียวกัน เขารู้สึกหมดหนทาง

ถ้าเฟิง ซิวรายงานเขาทันเวลา เขาจะมีโอกาสเข้าไปข้างในและค้นหาซูหลิงเยวี่ยในทันที และเธอจะยังมีชีวิต ยังไงก็ตาม ความจริงก็คือมันผ่านมาหนึ่งสัปดาห์แล้ว เขาเต็มใจเข้าไปช่วยซูผิงตามหาน้องสาวเขา แต่เขาไม่มีความหวังมากนัก ลึกลงไปในหัวใจของเขา เขาเชื่อว่าน้องสาวของซูผิงกลายเป็นกองกระดูกไปแล้ว

อาจจะไม่เหลือแม้แต่กระดูกด้วยซ้ำ

ซูผิงมองไปที่เฟิงซิว เขามีความตั้งใจที่จะฆ่าให้ แต่เขาหยุดตัวเอง เขามองเข้าไปในถ้ำและพูดกับอวิ๋นว่านหลี่ว่า “นั่นคือถ้ำลึกหรอ?”

อวิ๋นว่านหลี่หันไปหาซูผิงและพยักหน้า “ใช่ครับ เป็นหนึ่งในทางเข้า สถาบันผู้กล้าเฝ้าทางเข้ามาเป็นเวลานาน แน่นอนเราแค่เฝ้าทางเข้า คนที่ปกป้องเส้นทางภายในคือนักรบอสูรในตำนานจากหอคอยที่เต็มใจเสี่ยงชีวิต” ซูผิงพยักหน้าและเดินเข้าไปในถ้ำ

เฟิงซิวสงสัยว่าชายคนนี้เป็นใคร ทำไมเขาถึงพูดกับอาจารย์ใหญ่อย่างเป็นกันเอง

นักรบอสูรในตำนานจากหอคอย? แม้จะอยากรู้อยากเห็น เฟิงซิวก็พยายามไม่เงยหน้าขึ้น เมื่อเขารู้สึกว่าคนสองคนกำลังเดินผ่านไป หัวใจของเขาซึ่งขณะนี้ติดอยู่ที่ลำคอค่อยๆ กลับมาที่หน้าอกของเขา เขาหันไปมองและเห็นอาจารย์ใหญ่กับชายหนุ่มกำลังเดินไปที่ทางเข้า “ท่านจะเข้าไปหรอ?”อวิ๋นว่านหลี่ตอบโดยไม่หันกลับมามอง “อยู่ที่นี่ ฉันจะจัดการกับนายหลังจากที่ฉันกลับมา”

เฟิง ซิวไม่กล้าพูดอะไรอีก

ผู้คุมอีกเจ็ดคนก้มหัวต่ำ และหน้าผากของพวกเขาเต็มไปด้วยเหงื่อเย็น

ซูผิงรู้ว่าผู้คุมเหล่านั้นรู้สึกประหม่า แต่เขาไม่สนใจ สิ่งสำคัญอันดับแรกคือการตามหาซูหลิงเยวี่ย

ไม่ว่าจะเป็นหรือตาย เขาต้องหาเธอให้เจอ

ความคิดนั้นทำให้จิตสังหารในหัวใจซูผิงไหลทะลักออกมาอีกครั้ง

“ผู้ท้าทายโชคชะตาซูโปรดระวัง มีราชาอสูรร้ายมากมายในถ้ำลึกและพวกมันดุร้ายมาก”

อวิ๋นว่านหลี่และซูผิงเดินเคียงบ่าเคียงไหล่เข้าไปในถ้ำที่มืดสนิท อาจารย์ใหญ่ยกมือขึ้นและผลึกที่เปล่งแสงสีขาวปรากฏขึ้นที่ฝ่ามือของเขา ผลึกส่องแสงสว่างในถ้ำ ขยายออกไปในระยะไกล ผนังถ้ำเต็มไปด้วยรอยบุบและโพรงมากมาย บางครั้งพวกเขาก็เห็นรอยกรงเล็บขนาดใหญ่ พวกเขาสามารถจินตนาการได้ว่าสิ่งมีชีวิตจะต้องตัวใหญ่แค่ไหนจึงจะทิ้งร่องรอยนี้เอาไว้

อากาศชื้นและเหม็น แต่ไม่มีอะไรที่สังเกตเห็นได้ชัดเจน

“อสูรร้ายทั้งหมดอยู่ในอุโมงค์ต่อไป เราจะไม่เห็นอสูรร้ายมากมายในบริเวณนี้ แต่จะมีอสูรสองสามตัววิ่งออกมาที่นี่ ลองไปตรวจสอบเส้นทางนั้นกัน เราจะถามผู้คุมเพื่อดูว่าพวกเขาเห็นน้องสาวของคุณไหม?”

อวิ๋นว่านหลี่เดินไปข้างหน้าซูผิงเพื่อนำทาง

ซูผิงถามว่า “ทางเข้าถ้ำลึกมีกี่ทาง?”

“ผมคิดว่ามากกว่าสิบสองทาง กระจัดกระจายไปทั่วโลก ทางเข้าบางแห่งอยู่ลึกลงไปในมหาสมุทร ทางเข้าเหล่านั้นถูกนักรบอสูรระดับตำนานอุด เหนือสิ่งอื่นใดเราไม่สามารถมีคนอยู่ในมหาสมุทรได้ตลอดทั้งปีเพราะมีราชาอสูรร้ายในมหาสมุทรมากกว่าบนบก แม้แต่นักรบอสูรในตำนานก็ยังไม่สามารถอยู่รอดได้ในสภาพแวดล้อมแบบนั้น”

อวิ๋นว่านหลี่เดินต่อไปขณะที่พวกเขาเดินไปข้างหน้า “มีทางเข้าห้าแห่งในเขตอนุทวีปของเรา และนี่คือหนึ่งในนั้น เราอยู่ห่างจากอุโมงค์ด้านในประมาณหนึ่งแสนเมตร”

ซูผิงขมวดคิ้วขณะจ้องมองไปยังเส้นทางคดเคี้ยวที่ต้องลงไป ลงไปหนึ่งแสนเมตร?

“ถ้ำลึกเกิดขึ้นได้ยังไง?”

อวิ๋นว่านหลี่ส่ายหัว “มันนานมาแล้ว ผมได้ยินมาว่าถ้ำลึกอยู่ที่นี่ตั้งแต่ต้นยุคอสูรดวงดาว ว่ากันว่านักรบอสูรรุ่นแรกได้ขับไล่อสูรป่าที่ทรงพลังทั้งหมดเข้ามาในถ้ำลึก นี่เป็นอีกทฤษฎีหนึ่งที่บอกว่าถ้ำลึกอยู่ที่นี่มาโดยตลอด และอสูรทุกตัวก็ถือกำเนิดในถ้ำลึก ไม่มีใครสามารถบอกได้ว่าเรื่องราวใดเป็นความจริง แต่มันก็ไม่สำคัญอีกต่อไปแล้ว เรื่องราวถูกพูดออกไปแล้ว”

ซูผิงขมวดคิ้วในความเงียบ

สิ่งเดียวที่ได้ยินคือเสียงฝีเท้าของพวกเขา อวิ๋นว่านหลี่ถือผลึกและสำรวจเส้นทาง หลังจากผ่านเนินลาดแล้ว พวกเขาก็เข้าไปข้างในลึกขึ้นเรื่อยๆ หลังจากนั้นไม่นาน จมูกของซูผิงก็กระตุก เขาได้กลิ่นเลือด

เขาเตือนอวิ๋นว่านหลี่ทันที “ตรงนี้มีเลือด”

อวิ๋นว่านหลี่ได้รับการแจ้งเตือน วังวนวนเปิดออกด้านหลังเขา และจากนั้นราชาอสูรร้ายของตระกูลปีศาจก็บินออกมา

อสูรตัวนี้สูง 7-8 เมตร แต่เล็กเมื่อเทียบกับราชาอสูรร้ายตัวอื่น ซูผิงคุ้นเคยกับอสูรของตระกูลปีศาจและตระกูลอันเดธ เขารู้ได้ทันทีว่านี่คือตาผี อสูรมีสายเลือดของสภาวะว่างเปล่า และแต่ตัวนี้ยังไม่ถึงสภาวะว่างเปล่า อยู่แค่สภาวะสมุทร ที่สภาวะว่างเปล่าตาผี จะสูงประมาณสิบเมตร และสามารถต่อสู้ในระยะประชิดได้ การนอนหลับและกินอาหารไม่ใช่สิ่งเดียวที่ราชาอสูรร้ายต้องการเพื่อเข้าถึงสถานะที่สูงขึ้น อสูรจะต้องเพลิดเพลินกับอาหารอสูรล้ำค่า หากอสูรไม่สามารถเข้าสู่สภาวะสูงสุดได้ในขณะที่อยู่ในช่วงวัยสำคัญ สภาพของมันก็จะเริ่มเสื่อมลง และพลังต่อสู้ก็เช่นกัน

“ไป” หยุนว่านหลี่พูดกับอสูรของเขา

หวืด! ตาผีกลายเป็นหมอกสีดำที่กระจายไปยังส่วนลึกของถ้ำ ตาผีได้กลายเป็นส่วนหนึ่งของความมืด ซูผิงเข้าใจว่าอวิ๋นว่านหลี่ส่งตาผีไปทำการลาดตระเวน

“ไปกันเถอะ” อวิ๋นว่านหลี่พูดกับซูผิง

ซูผิงพยักหน้าและเดินไป

พวกเขาไปได้ระยะหนึ่ง ซูผิงและอวิ๋นว่านหลี่เห็นกระดูกบางส่วนที่เปลี่ยนเป็นสีขาวเหมือนหิมะ อสูรร้ายตายนานแล้ว

ยิ่งเข้าไปในถ้ำลึกเท่าไหร่ กลิ่นเลือดก็ยิ่งแรงขึ้นเท่านั้น ทันใดนั้นอวิ๋นว่านหลี่ก็หยุด และหันไปหาซูผิงเป็นการแจ้งเตือน “อสูรร้ายตาโตของผมบอกผมว่าข้างหน้าอันตราย!”

ซูผิงขมวดคิ้วอย่างสับสน “คุณบอกว่านี่เป็นทางเดียวจากทางเข้า และข้างหน้าคือทางผ่านหลัก มีนักรบอสูรในตำนาน จะเป็นอันตรายได้ยังไง?”อวิ๋นว่านหลี่ก็งงงันเช่นกัน อันที่จริงพวกเขากำลังจะไปถึงเส้นทางหลักที่นักรบอสูรในตำนาน ปกป้องอยู่ หรือว่าอสูรของเขามองว่านักรบอสูรในตำนานเป็นที่มาของอันตราย?

ไม่ นั่นไม่มีทางเป็นแบบนั้นไปได้

ท้ายที่สุดแล้ว ตาผีเป็นราชาอสูรร้ายที่มีสติปัญญาสูง มันสามารถแยกแยะระหว่างมนุษย์กับอสูรได้อย่างชัดเจน

ร้านขายอสูรดวงดาว Astral Pet Store

ร้านขายอสูรดวงดาว Astral Pet Store

Status: Ongoing

ฉันถูกส่งไปยังโลกแห่งอสูร มีสิ่งมีชีวิตทุกรูปแบบ ทุกขนาด พวกมันสามารถเป็นสหายน่ากอด ผู้ช่วยในชีวิตประจำวัน หรือนักสู้ ไม่เลวเลยใช่ไหมละ? ฉันมีครอบครัว แต่ความจริงกลับถูกบดบังโดยน้องสาวฉัน เธอเกลียดฉันมาก และก็คอยรังแกฉันทุกวัน ฉันบอกหรือยังว่าเธอมีพรสวรรค์สูงมาก ส่วนฉันเป็นคนไร้พรสวรรค์?ก็แค่หล่อสุดๆ ฉันมีอิสระในการดำเนินธุรกิจของครอบครัวเอง ร้านอสูรเล็กๆ มันควรจะดีหากไม่ใช่ความจริงที่เจ้าของร่างเดิมนี้เกิดมามีความสัมพันธ์เป็นศูนย์กับการควบคุมอสูรดวงดาว… คงไม่คิดว่ามันเป็นการข้ามโลกโดยไร้ระบบหรือกลไกอะไรที่จะปูถนนให้ฉันหรอกนะ?ฉันมี แต่ฉันไม่รู้ว่าไม่มีมันจะดีกว่าไหม…

แสดงความคิดเห็น

ใส่ความเห็น

อีเมลของคุณจะไม่แสดงให้คนอื่นเห็น ช่องข้อมูลจำเป็นถูกทำเครื่องหมาย *

ปรับฟอนต์

**ถ้าปรับโหมดมืดอยู่** ให้เปลี่ยนเป็นโหมดสว่าง ก่อนจะปรับสีพื้นหลัง
รีเซ็ท