ร้านขายอสูรดวงดาว Astral Pet Store – ตอนที่ 633-634

ตอนที่ 633-634

ตอนที่ 633 สร้างร่างเทพ
ผู้ชมต่างประหลาดใจที่ซูผิงยังคงยืนอยู่บนกิ่งไม้ สัตว์ประหลาดมารออะไรอยู่ตรงนี้?
ตี้ฉงและซูผิงหายตัวไป ดูเหมือนว่าพวกเขาจะเคลื่อนย้ายไปยังที่อื่น
อีกาทองคำบางตัวดูเหมือนจะเข้าใจแล้ว พวกมันเลิกสนใจสัตว์ประหลาดตัวนั้น
บททดสอบของอีกาทองคำยังดำเนินต่อไป
ในขณะเดียวกัน ณ ที่อื่น
ดวงดาวนับไม่ถ้วนส่องแสงระยิบระยับ และสายธารพลังงานดึกดำบรรพ์ล่องลอยตามท้องฟ้า ลมหายใจพลุ่งพล่าน บนพื้นมีโครงกระดูกขนาดใหญ่ที่ยื่นออกไปไกล
ตี้ฉงและซูผิงปรากฏตัวบนโครงกระดูก ลมแรงพัดใส่ตัวเขา เขากำลังตัวสั่นเนื่องจากความหนาว
เขาจ้องมองไปในระยะไกล ดูเหมือนจะมีภูเขาหิมะอยู่ข้างหน้าเขา แต่เมื่อมองเข้าไปใกล้ๆ เขาก็รู้ว่าจริงๆ แล้วมันคือชิ้นส่วนของกระดูก
เขาไม่รู้ว่าเขาอยู่ที่ไหน น่าจะเป็นสถานที่ที่สำคัญ สำหรับอีกาทองคำ ตี้ฉงคุ้นเคยกับสถานที่นี้จึงไม่แปลกใจและอธิบายกับซูผิงว่า “นี่คือดินแดนต้องห้ามของเผ่าพันธุ์ของเรา”
ตี้ฉงรู้ว่าผู้อาวุโสสูงสุดอยากรู้ตัวตนของซูผิง และต้องการถูกมิตรกับเขา
ท้ายที่สุดอีกาทองคำไม่รู้ว่าโลกภายนอกดาวสวรรค์เป็นอย่างไร พวกมันรู้ดีว่าไม่ใช่ช่วงเวลาสงบสุขและภายนอกก็เต็มไปด้วยความโกลาหล อีกาทองคำไม่ต้องการที่จะมีส่วนร่วมในความวุ่นวาย นั่นคือเหตุผลที่พวกมันเลือกที่จะปิดดาว ถึงกระนั้นการต่อสู้บางอย่างก็มาถึงประตูของพวกมันโดยคาดไม่ถึง
เพื่อเตรียมพร้อมสำหรับอนาคต จำเป็นต้องผูกมิตรกับทายาทของปรมาจารย์สวรรค์ที่ตั้งใจเข้าหาพวกมัน “ดินแดนต้องห้าม?”
ซูผิงรู้สึกงุนงง ก่อนที่ตี้ฉงจะอธิบายรายละเอียด ประกายแสงสีทองก็ปรากฏขึ้นในอากาศตรงหน้าพวกเขา ในที่สุดแสงสีทองก็เผยให้เห็นอีกาทองคำ
อีกาตัวนี้ไม่ใหญ่เมื่อเทียบกับตัวอื่น แต่ก็ยังใหญ่มากอยู่ดี
“เจ้าผ่านบททดสอบของเราแล้ว ดังนั้นเจ้าจึงมีสิทธิ์ได้รับรางวัล”
มันคือผู้อาวุโสสูงสุด
ซูผิงรู้สึกประหลาดใจ นี่คือผู้อาวุโสสูงสุด? ตัวที่ฉันเห็นแค่ครึ่งล่าง?
หลังจากที่ผู้อาวุโสสูงสุดพูดจบ เมฆแสงก็ปรากฏขึ้นตรงหน้าซูผิง จากนั้นแสงก็จับตัวแน่นจนยากที่จะมองโดยตรง และโดยพื้นฐานแล้วอธิบายไม่ได้ แสงดูเหมือนจะเต็มไปด้วยสีนับไม่ถ้วน มันสร้างความรู้สึกน่าขนลุกและแปลกประหลาด
ซูผิงรู้สึกราวกับว่าอสูรร้ายกำลังจะตื่นขึ้นมาตรงหน้าเขา
“นั่นมันโลหิตสวรรค์!”
ผู้อาวุโสสูงสุดกล่าวว่า “โลหิตสวรรค์ได้รับการชำระให้บริสุทธิ์แล้ว เจตจำนงก่อนหน้าทั้งหมดถูกลบออกแล้ว!”
หากโลหิตถูกเก็บมาสดๆ จาก “สวรรค์” เกรงว่าซูผิงคงไม่สามารถใช้เลือดนี้ได้ แม้แต่ตี้ฉงก็เช่นกัน เจตจำนงของสวรรค์ในโลหิตจะฉีกพวกเขาเป็นชิ้นๆ!
“เจ้ากำลังเรียนรู้ทักษะของเรา และเราคิดว่าตอนนี้เจ้ามีส่วนในสายเลือดของเราแล้ว โลหิตสวรรค์นี้จะกระตุ้นศักยภาพของเจ้า หากเจ้ามีศักยภาพที่จะมีร่างเทพ ศักยภาพนั้นก็จะได้รับการกระตุ้นเช่นกัน…” ผู้อาวุโสสูงสุดกล่าว
ซูผิงยังคงมีขี้เลื่อยในสมอง เขารู้เพียงว่าของชิ้นนี้มีค่า
“ขอบคุณครับ ท่านผู้อาวุโสสูงสุด”
“เจ้าไม่จำเป็นต้องขอบคุณข้า” ผู้อาวุโสสูงสุดกล่าว เมฆแห่งความมืดก็พุ่งเข้าชนหน้าอกของซูผิง และซึมเข้าไป
ร่างกายของซูผิงสั่นเทา เขารู้สึกเหมือนหน้าอกของเขาถูกฉีก บางสิ่งบางอย่างบีบ จากนั้นก็มีความรู้สึกเย็นยะเยือก… ดูเหมือนว่าเลือดทั่วร่างกายของเขาแข็งตัว แต่หลังจากนั้น มันเป็นความรู้สึกที่ร้อนจัด ราวกับว่าร่างกายของเขากำลังจะไหม้เกรียม
ความรู้สึกที่ขัดแย้งและซับซ้อนนั้นทำให้ซูผิงต้องทนต่อความเจ็บปวด
ไม่นานความรู้สึกเดือดปุด ๆ นั้นก็ลดลงและกลายเป็นความรู้สึกชา ร่างกายของซูผิงเหมือนเป็นอัมพาต เขาไม่รู้สึกอะไรเลยอีกและเหลือเพียงจิตสำนึกเท่านั้น
“เพ่งสมาธิ…” ผู้อาวุโสสูงสุดกล่าว ซูผิงรู้สึกว่าเสียงนั้นอยู่ไกลจากเขามาก
มีการสลับของแสงและเงาแปลก ๆ ตรงหน้าซูผิง จากนั้นเขาก็ปรากฏตัวในโลกพร่ามัว โลกนั้นว่างเปล่า มีเพียงแสงและเงาที่บางจุดเท่านั้น นอกจากนี้ยังมีลำแสงบางอันที่ดูเหมือนอุกกาบาต แต่จริงๆ แล้วเป็นหลักการและกฎที่ทรงพลัง…
ซูผิงตกใจที่เห็นตัวเองรายล้อมไปด้วยหลักการ…
ในขณะที่อยู่ในโลกโกลาหลนี้ เขารู้สึกว่าดวงตาของเขากำลัง “เปิด” ราวกับว่าเขามีตาอีกดวงหนึ่งที่หน้าผากของเขา ความเข้าใจในโลกของเขาเปลี่ยนไปอย่างรวดเร็ว
ความโกลาหล กฎ สวรรค์และโลก จักรวาล… ซูผิงถูกแช่อยู่ในนั้นโดยไม่รู้เวลา เวลาไม่มีความหมายในสถานที่นี้
มันเป็นความรู้สึกที่วิเศษสุดบรรยาย
ทันใดนั้น ซูผิงก็รู้สึกเย็นยะเยือกจากก้นบึ้งของหัวใจ เขารู้สึกราวกับว่ามีสิ่งมีชีวิตยืนอยู่ข้างหลังเขา จ้องมองมาที่เขา
สายตาของสิ่งมีชีวิตนั้นเย็นชา แต่ซูผิงไม่รู้สึกกลัว เขาค่อนข้างรู้สึกถึงความรัก
นั่นคืออะไร?
ซูผิงต้องการหันไปรอบๆ แต่พบว่าเขาขยับไม่ได้
บูซ ซูผิงลืมตาขึ้นอีกครั้ง เขาเห็นว่าเขายังคงยืนอยู่ตรงหน้าผู้อาวุโสสูงสุดบนภูเขาหิมะหรือชิ้นส่วนของกระดูก ไม่ว่าสิ่งนั้นจะเป็นอะไรก็ตาม
สายตาที่เยือกเย็นและทรงพลังที่จ้องมาที่เขายังคงอยู่ข้างหลังเขา และซูผิงอดไม่ได้ที่จะหันไปมอง ทันใดนั้น เขาเห็นดวงตาคู่หนึ่งที่แหลมคมและร่างที่ปกคลุมไปด้วยหมอกสีดำ
“น่าสนใจ ร่างเทพผู้วิเศษ…”
ดูเหมือนผู้อาวุโสสูงสุดจะไม่แปลกใจ ผู้อาวุโสสูงสุดกลับโล่งใจ “ข้าเห็นว่าสายเลือดของผู้วิเศษมืดในตัวเจ้าถูกกระตุ้น”
ซูผิงมองไปที่ร่างแสนเยือกเย็นและมืดมิดข้างหลังเขา มันทำให้เขารู้สึกคุ้นเคยราวกับกำลังมองดูตัวเอง “นี่คือร่างเทพ?” เขาถามผู้อาวุโสสูงสุดด้วยความประหลาดใจ
”ใช่ นั่นคือร่างเทพของเจ้า” ผู้อาวุโสสูงสุดตอบ
ซูผิงอดไม่ได้ที่จะมองร่างเทพของเขา และทันใดนั้นก็มีความรู้สึกแปลก ๆ ถูกกระตุ้น แค่ความคิด ร่างที่มืดมิดก็รวมเข้ากับเขาในทันใด เขารู้สึกได้ทันทีว่าความแข็งแกร่งของเขาเพิ่มขึ้นอย่างรวดเร็ว เขารู้สึกว่าร่างกายของเขากำลังจะระเบิด… มันมีพลังมากกว่าความแข็งแกร่งที่มังกรเพลิงนรกมอบให้เขาเสียอีก!
ผู้วิเศษมืด …
ผู้อาวุโสสูงสุดกะพริบตาแต่ไม่พูดอะไร
ความแข็งแกร่งของร่างเทพค่อยๆ จางหายไป และร่างที่มืดมิดก็ไม่ปรากฏขึ้นข้างหลังเขาอีกต่อไป พลังเทพเป็นส่วนหนึ่งของเขาแล้ว
“ข้าคิดว่าเจ้าจะปลุกร่างเทพสุริยันของเรา เป็นเรื่องน่าประหลาดใจที่เห็นว่าเจ้ามีพลังเทพของผู้วิเศษไม่ว่าจะด้วยวิธีใด เจ้ามีร่างเทพและมีพื้นที่สำหรับการพัฒนา ข้าหวังว่าร่างเทพของเจ้าสามารถพัฒนาไปสู่รูปแบบสูงสุดในวันหนึ่ง มันคือร่างเทพที่ดำมืดที่สุด” ผู้อาวุโสสูงสุดกล่าว
ซูผิงมุ่งมั่น เขาพยักหน้า “ขอบคุณสำหรับคำแนะนำครับ ผู้อาวุโสสูงสุด”
“นั่นเป็นวัตถุดิบสำหรับกายแสงอาทิตย์ขั้นสอง” ผู้อาวุโสสูงสุดกล่าว
กองสมุนไพรและวัตถุดิบปรากฏขึ้นตรงหน้าซูผิง เขาชำเลืองมองและเห็นว่าวัตถุดิบทั้งหมดที่เขาต้องการอยู่ตรงหน้า
เขารู้สึกตื่นเต้น การเดินทางของเขานั้นคุ้มค่า แม้จะไม่ได้รับวัตถุดิบนี้ก็ตาม!
เขาสามารถช่วยโครงกระดูกน้อยได้แล้ว!
โครงกระดูกน้อย รอฉันก่อน!
ซูผิงเก็บวัตถุดิบไว้ในพื้นที่เก็บของของเขา
ผู้อาวุโสสูงสุดสับสนอีกครั้ง มันไม่เข้าใจว่าซูผิงเปิดมิติอื่นได้ยังไง ซูผิงกังวลเมื่อจะกลับ “ขอโทษที่รบกวนท่าน ถ้าท่านไม่ว่าอะไร ผมขอตัวกลับ”
ตอนที่ 634 กลับ
”รอประเดี๋ยว”
ผู้อาวุโสสูงสุดจ้องมองซูผิง “ข้าไม่รู้ว่าเจ้าเข้ามาอยู่ในดาวของเราได้ยังไง แต่เนื่องจากเจ้าทำได้ ข้าจึงมีเรื่องจะขอร้อง โปรดช่วยส่งจดหมายถึงปรมาจารย์สวรรค์ของเผ่าพันธุ์ของเจ้าที”
”จดหมาย?”
ซูผิงไม่รู้ว่าต้องทำยังไง
เขาไม่รู้จักปรมาจารย์สวรรค์ มันเป็นเพียงคำอธิบายที่อีกาทองคำคิดขึ้นมาเอง “เอ่อ…”
ก่อนที่ซูผิงจะได้ปฏิเสธ ผู้อาวุโสสูงสุดก็สร้างลูกบอลเพลิงสีทองที่ไม่มีอุณหภูมิ แต่ซูผิงเชื่อว่าเปลวเพลิงสามารถเผาไหม้ได้ทุกอย่าง
ลูกบอลเพลิงลอยมาหาซูผิง ผู้อาวุโสสูงสุดอธิบาย “จดหมายฉบับนี้มีเพียงเทพแท้จริงเท่านั้นที่สามารถเปิดได้ ข้าหวังว่าเจ้าจะช่วยส่งจดหมายให้แทนข้า”
”แต่…”
ซูผิงต้องการจะบอกว่าเขาไม่รู้จักปรมาจารย์สวรรค์ แต่เขาไม่คิดว่าผู้อาวุโสสูงสุดจะเชื่อ ด้วยรอยยิ้มที่ขมขื่น ซูผิงกล่าวว่า “ผู้อาวุโสสูงสุดจดหมายนี้มีความสำคัญและเร่งด่วนหรือไม่? ข้าไม่อยากทำมันหายและทำให้ข้อความของท่านสูญหายไป!”
ผู้อาวุโสสูงสุดยิ้ม “ไม่เป็นไร ข้าแค่เขียนเกี่ยวกับเรื่องราวเล็กน้อย เป็นเหมือนการทักทายมากกว่า แม้ว่าเจ้าจะทำมันหายก็ไม่เป็นไร แต่ข้าก็มิอยากให้มันเกิดขึ้น ท้ายที่สุดข้าไม่คิดว่าข้าจะฆ่าเจ้าได้ นับประสาอะไรกับสิ่งมีชีวิตอื่นๆ ข้าคิดว่าคนเดียวที่สามารถคุกคามชีวิตของเจ้าได้คือปรมาจารย์สวรรค์…”
ผู้อาวุโสสูงสุดมองซูผิงอย่างมีความหมาย
ทำจดหมายหาย?
ผู้อาวุโสสูงสุดไม่มีวันเชื่อเรื่องนั้น การคืนชีพของซูผิงนั้นแปลกและผู้อาวุโสสูงสุดเชื่อว่ามันเป็นข้อพิสูจน์ถึงปรมาจารย์สวรรค์ ผู้อาวุโสสูงสุดเชื่อว่าปรมาจารย์สวรรค์จะมาช่วยซูผิงระหว่างทางกลับ!
”ได้ครับ…”
เนื่องจากผู้อาวุโสสูงสุดกล่าวเช่นนั้น ซูผิงจึงทำได้เพียงรับงานนี้
เขาดีใจที่รู้ว่าจดหมายฉบับนี้ไม่มีข้อความสำคัญ อย่างไรก็ตามมันเป็นไปไม่ได้ที่เขาจะส่งมอบมัน เพราะเขาไม่รู้ว่าปรมาจารย์สวรรค์คืออะไร
ลูกบอลเปลวเพลิงวูบวาบแล้วจมลงในหน้าผากของซูผิง
”ซู ข้าจะไปส่งเจ้า” ผู้อาวุโสสูงสุดกล่าวหลังจากซูผิงรับจดหมาย
ซูผิงพยักหน้า
ตี้ฉงยืนอยู่ข้างพวกเขาอย่างเงียบ ๆ ขณะที่ซูผิงกำลังจะจากไป ตี้ฉงก็เรียกเขาทันที “เฮ้!”
ซูผิงมองตี้ฉงด้วยความสงสัย
ตี้ฉงรวบรวมความกล้าและถามว่า “โลกภายนอก… น่าสนใจไหม?”
ซูผิงรู้สึกประหลาดใจกับคำถามนั้น “หมายความว่าไง? ถ้าเธอต้องการทราบเกี่ยวกับอาหารและเครื่องดื่ม ฉันคิดว่ามันโอเค เธอสามารถทานอาหารอร่อยและดูทีวีได้ถ้าเธอเบื่อ หรือไม่ก็เล่นเกม หากนั่นไม่สามารถทำให้เธอรู้สึกสนใจ เธอยังสามารถออกไปผจญภัยได้… แน่นอน หากเธอเป็นคนที่ออกผจญภัย ฉันคิดว่าเธอคงบังคับทุกคนรอบตัวเธอให้ไปผจญภัยด้วยกัน”
ตี้ฉงไม่ได้พูดอะไร
ผู้อาวุโสสูงสุดถอนหายใจและพูดกับตี้ฉง“สักวันจะถึงเวลาของเรา ฉงเอ๋อ เราจะสามารถออกจากดาวของเราได้ในวันหนึ่ง วันนั้นจะมาถึงเมื่อเจ้ามีพลังมากกว่าข้า…”
ตี้ฉงมองไปที่ผู้อาวุโสสูงสุด นี่เป็นประโยคที่ตี้ฉงได้ยินมาตั้งแต่ยังเป็นทารก
มีพลังมากกว่าผู้อาวุโสสูงสุด?
ชีวิตของผู้อาวุโสสูงสุดนั้นยาวนานกว่าที่ใครจะจินตนาการได้ ตี้ฉงเพิ่งรู้ว่าผู้อาวุโสสูงสุดเป็นหนึ่งในผู้พิทักษ์ที่เก่าแก่ที่สุดของบรรพชนแรกของนาง การที่จะมีพลังมากกว่าผู้อาวุโสสูงสุดนั้นเป็นเรื่องที่ห่างไกลมากจากมุมมองของตี้ฉง
ซูผิงตระหนักว่าตี้ฉงกระตือรือร้นที่จะออกไป เขาทำตามคำแนะนำของผู้อาวุโสสูงสุดและแนะนำตี้ฉงว่า “ใช่ บ่มเพาะให้ดีถ้าเธอต้องการออกไปสำรวจ โลกภายนอกนั้นอันตราย”
ซูผิงถอนหายใจอยู่ภายใน
ถ้าเขาสามารถทำสัญญากับสิ่งมีชีวิตระดับดวงดาวได้ เขาสาบานว่าเขาจะพาเธอไปกับเขา!
น่าเสียดายที่เขาไม่แข็งแกร่งพอ!
บางทีในอนาคตเขาอาจจะลองทำดูก็ได้เมื่อเขาแข็งแกร่งพอ
ซูผิงมีแรงกระตุ้นเมื่อคิดแบบนี้
แสงในดวงตาของตี้ฉงหรี่ลง จากนั้นก็เพียงสูดลมหายใจเป็นคำตอบ “ฉันอาจจะพาเธอไปเที่ยวได้ ถ้ามีโอกาสกลับมาที่นี่อีกในอนาคต” ซูผิงกล่าว เขากำลังปูทางสำหรับความพยายามในอนาคตของเขา และเขาก็ต้องการดูว่าอีกาทองคำจะมีปฏิกิริยาอย่างไรต่อสิ่งนั้น
เมื่อได้ยินข้อเสนอนั้น ผู้อาวุโสสูงสุดก็หรี่ตาเพื่อซ่อนความเยือกเย็น แต่ระดับเสียงของมันกลับต่ำลง “ซู ถึงเวลาที่เจ้าต้องไปแล้ว!”ตี้ฉงต้องการพูดอะไรบางอย่างกับซูผิง แต่ซูผิงถูกเคลื่อนย้ายออกไปแล้ว
“ฉงเอ๋อพยายามให้มากกว่านี้ โลกภายนอกนั้นอันตราย มนุษย์มีภูมิหลังลึกลับ และเขาสามารถข้ามค่ายกลของบรรพชนคนแรกของเราได้ ข้าไม่รู้ว่าเราจะเหลือวันที่สงบสุขอยู่อีกกี่วัน!”
ผู้อาวุโสสูงสุดลอยอยู่ในอากาศ มันมองตี้ฉงอย่างเคร่งขรึมแล้วบินไป
ตี้ฉงมองผู้อาวุโสสูงสุดหายตัวไปจากสายตา นางยืนเงียบอยู่ตรงนั้นเป็นเวลานาน
”ร้อนมาก!”
ซูผิงกำลังหอบ เป็นอีกครั้งที่อากาศรอบตัวเขาร้อนอบอ้าวมาก เขารู้สึกว่าเขากำลังแช่อยู่ในน้ำเดือด
ซูผิงมองไปรอบ ๆ และไม่เห็นอะไรนอกจากดวงตาสีแดง
นี่คือดินแดนรกร้าง
ผู้อาวุโสสูงสุดปรากฏตัวและถามซูผิงว่า “ซู เจ้ากลับไปจากที่นี่ได้ไหม?”
ซูผิงมองไปรอบๆ ตี้ฉงไม่อยู่แล้ว ผู้อาวุโสสูงสุดจะต้องเคลื่อนย้ายเขาออกมาเพื่อที่เขาจะได้ไม่สามารถหลอกล่อตี้ฉงได้
ถ้าเขาต้องการหลอกให้นกตัวนั้นหนีไปกับเขา อันดับแรกเขาต้องหาวิธีจัดการกับผู้อาวุโสสูงสุด
ซูผิงส่ายหัว วันอื่นค่อยคิด “ใช่ ผู้อาวุโสสูงสุด ขอบคุณสำหรับความช่วยเหลือของท่าน ผมจะไม่มีวันลืมความเมตตาของอีกาทองคำ!”
ผู้อาวุโสสูงสุดพูดกับซูผิง “ได้โปรดส่งความคิดถึงของเราไปยังปรมาจารย์สวรรค์ของเจ้า”
ซูผิงพยักหน้าด้วยรอยยิ้มฝืนๆ
ไม่มีอะไรเหลือให้พวกเขาคุยกันต่อหลังจากบอกลา ซูผิงไม่ต้องการอยู่กับความกระอักกระอ่วนต่อ เขาจึงพูดกับระบบในใจว่า “ถึงเวลาออกไปแล้ว”
”นายแน่ใจไหม? นายยังเหลือเวลาอีก 8 ชั่วโมง 42 นาที 21 วินาที” “ใช่ ฉันแน่ใจ”
ซูผิงพยักหน้า
เขาอยู่ที่นี่มานานกว่าครึ่งเดือนแล้ว เขาจะไม่อยู่ต่อ
สภาพแวดล้อมจะไม่สามารถกลั่นร่างกายของเขาได้อีกต่อไป ทันทีที่ซูผิงยืนยัน ก็มีวังวนปรากฏขึ้นข้างหลังเขา และมีพลังแข็งแกร่งดึงเขาเข้าไปข้างใน
วังวนนั้นทำให้ผู้อาวุโสสูงสุดเบิกตากว้าง ถ้าไม่ได้เห็นกระบวนการกับตา ผู้อาวุโสสูงสุดคงไม่เชื่อว่าวิธีการกลับของซูผิงจะเรียบง่ายเช่นนี้!
เขาถูกเคลื่อนย้ายออกไป!
แต่ดาวสวรรค์ถูกปิด!
ไม่อนุญาตให้เคลื่อนย้าย ไม่มีพลังงานใดที่สามารถทำลายกฎนั้นได้!
แต่ถึงกระนั้นการเคลื่อนย้ายมวลสารก็เกิดขึ้นต่อหน้าต่อตาของมัน
ผู้อาวุโสสูงสุดเริ่มสงสัยว่าค่ายกลของพวกมันยังทำงานดีอยู่หรือเปล่า
“แล้วเจอกันครับผู้อาวุโสสูงสุด” ซูผิงโบกมือให้อีกา
ผู้อาวุโสสูงสุดกลับมารู้สึกตัวและเห็นซูผิงหายตัวไปในวังวนนั้น ก่อนที่วังวนจะหายไป ผู้อาวุโสสูงสุดก็ตอบสนองอย่างรวดเร็วและส่งเปลวเพลิงสีทองเข้าไปในวังวน
“ฮืม!”
ทันใดนั้นผู้อาวุโสสูงสุดก็ได้ยินเสียงที่ไม่รู้ว่ามาจากที่ไหน และไฟที่เขาส่งไปก็มอดดับ
ผู้อาวุโสสูงสุดตกใจ
“ข้าไม่อยากจะเชื่อเลย…”
ผู้อาวุโสสูงสุดพูดด้วยน้ำเสียงหวาดกลัว

เมืองฐานหลงเจียง
ร้านขายอสูรพิกซี่
หวืด!
วังวนพ่นตัวซูผิงออกมา
ปิ้ว!
ซูผิงรู้สึกว่าเขาถูกโยนลงมาในดาวเคราะห์ที่เย็นอย่างมาก แต่ในไม่ช้าเขาก็ปรับตัวได้
เขามองไปรอบ ๆ และดีใจที่ได้เห็นร้าน
เขากลับมาแล้ว!
ในที่สุด เขาก็กลับบ้านอย่างปลอดภัยหลังจากเดินทางไปยังสนามบ่มเพาะขั้นสูง!
“โครงกระดูกน้อย…”
ดวงตาของซูผิงเป็นประกายเมื่อเขานึกถึงโครงกระดูกน้อย ไม่ต้องกังวลใจอีกต่อไป เขาพร้อมที่จะไปที่ห้องทดสอบ
ทันใดนั้น โจแอนนาก็เข้ามาในห้องอสูร
ซูผิงยืนอยู่ตรงนั้นด้วยร่างกายเปลือยเปล่า สัญชาตญาณแรกคือการหันหน้าหนี แต่โจแอนนาบังคับตัวเองให้สงบนิ่งขณะที่เธอจ้องมองเขา “ในที่สุดนายก็กลับมา ฉันไม่อยากจะเชื่อเลยว่านายจะหายไปนานขนาดนี้!”
ซูผิงกำลังสงสัย “แล้วทำไมล่ะ?”
เขาหยิบเสื้อผ้าออกมาแล้วสวมใส่
เสื้อผ้าของเขาถูกเผาบนดาวสวรรค์ แม้แต่สมบัติล้ำค่าก็ยังถูกทำลายในสภาพแวดล้อมนั้น ไม่ต้องพูดถึงเสื้อผ้าของเขา
“ฉันคิดว่ามีเรื่องร้ายแรงเกิดขึ้น หลายคนมาที่ร้านเพื่อตามหานาย รวมทั้งน้องสาวและพ่อแม่ของนายด้วย” โจแอนนากล่าว
ซูผิงตกใจ “พวกเขามาที่นี่? เกิดอะไรขึ้น?”

ร้านขายอสูรดวงดาว Astral Pet Store

ร้านขายอสูรดวงดาว Astral Pet Store

Status: Ongoing

ฉันถูกส่งไปยังโลกแห่งอสูร มีสิ่งมีชีวิตทุกรูปแบบ ทุกขนาด พวกมันสามารถเป็นสหายน่ากอด ผู้ช่วยในชีวิตประจำวัน หรือนักสู้ ไม่เลวเลยใช่ไหมละ? ฉันมีครอบครัว แต่ความจริงกลับถูกบดบังโดยน้องสาวฉัน เธอเกลียดฉันมาก และก็คอยรังแกฉันทุกวัน ฉันบอกหรือยังว่าเธอมีพรสวรรค์สูงมาก ส่วนฉันเป็นคนไร้พรสวรรค์?ก็แค่หล่อสุดๆ ฉันมีอิสระในการดำเนินธุรกิจของครอบครัวเอง ร้านอสูรเล็กๆ มันควรจะดีหากไม่ใช่ความจริงที่เจ้าของร่างเดิมนี้เกิดมามีความสัมพันธ์เป็นศูนย์กับการควบคุมอสูรดวงดาว… คงไม่คิดว่ามันเป็นการข้ามโลกโดยไร้ระบบหรือกลไกอะไรที่จะปูถนนให้ฉันหรอกนะ?ฉันมี แต่ฉันไม่รู้ว่าไม่มีมันจะดีกว่าไหม…

แสดงความคิดเห็น

ใส่ความเห็น

อีเมลของคุณจะไม่แสดงให้คนอื่นเห็น ช่องข้อมูลจำเป็นถูกทำเครื่องหมาย *

ปรับฟอนต์

**ถ้าปรับโหมดมืดอยู่** ให้เปลี่ยนเป็นโหมดสว่าง ก่อนจะปรับสีพื้นหลัง
รีเซ็ท
Close Ads ufanance
Click to Hide Advanced Floating Content สล็อตออนไลน์
Click to Hide Advanced Floating Content สมัคร ufabet
Click to Hide Advanced Floating Content สล็อตฟรีสปิน