ร้านขายอสูรดวงดาว Astral Pet Store – ตอนที่ 611-612

ตอนที่ 611-612

ตอนที่ 611 ขึ้นและลง
  หลี่หยวนเฟิงเงียบไปครู่หนึ่ง หลังจากที่ชายวัยกลางคนเล่าจบ
  ไม่มีใครเปล่งเสียงออกมา
  ตอนนี้ตระกูลหานตระหนักดีว่าชายหนุ่มหน้าตาดีคนนี้จะต้องเป็นนักรบอสูรในตำนาน ผู้อาวุโสเฟิงจะไม่กลัวขนาดนี้ถ้าเขาไม่ได้อยู่ในระดับตำนาน!
  คนที่มีอิทธิพลคนนั้นดูเหมือนจะไม่ชอบตระกูลหาน
  ดูเหมือนว่าตระกูลหานสามารถจัดการกับนักรบอสูรในตำนานได้… ผู้ชมรู้สึกราวกับว่าพวกเขาถูกขังอยู่ในกรงที่มีอสูรร้ายอยู่
  ผู้อาวุโสเฟิงเปียกชุ่มไปด้วยเหงื่อเย็น มีหลายครั้งที่เขาต้องการขัดจังหวะชายวัยกลางคนคนนั้น แต่เขารู้สึกว่ามีใครบางคนกำลังมองเขาด้วยเจตนาฆ่า เขาไม่กล้าที่จะพูด เมื่อเขากลับมารู้สึกตัวอีกครั้งมันก็สายเกินไปแล้ว ชายวัยกลางคนเล่าเรื่องของเขาจนจบ โดยไม่มีใครขัด
  ผู้อาวุโสเฟิงเสียใจที่เขาไม่ได้ฆ่าสมาชิกทุกคนในตระกูลหลี่!
  ผู้นำตระกูลคนนั้นมีความสามารถนำตระกูลหานไปสู่ความรุ่งโรจน์ แต่ก็ทิ้งปัญหาใหญ่ไว้เบื้องหลังเช่นกัน!
  ในที่สุดปัญหาที่ซ่อนอยู่ก็เปิดเผยออกมาในวันนี้!
  ผู้อาวุโสเฟิงไม่กล้าแม้แต่จะหายใจ เขาไม่เคยต่อสู้กับนักรบอสูรในตำนานมาก่อน แต่แค่ได้อยู่ข้างๆก็ทำให้เขากดดันมากแล้ว
  หลังจากเงียบอยู่นาน หลี่หยวนเฟิงก็พูดกับชายวัยกลางคนว่า “ลุกขึ้น”
  ชายวัยกลางคนดีใจที่หลี่หยวนเฟิงเชื่อเขา
  ชายวัยกลางคนอดไม่ได้ที่จะหลั่งน้ำตาด้วยความตื้นตัน หลี่หยวนเฟิงกลับมาแล้ว ตระกูลหลี่จะไม่ต้องอยู่อย่างต่ำต้อยแบบนี้อีกต่อไป!
  พวกเขาได้รับความอับอายและการปฏิบัติที่ไม่เป็นธรรมมาหลายร้อยปี ไม่มีใครสามารถบอกได้ว่าพวกเขาเสียสละมามากแค่ไหน พวกเขายังต้องเห็นตระกูลอันเป็นที่รักพังทลายต่อหน้าต่อตา
  ในที่สุดวันนี้พวกเขาจะสามารถใช้นามสกุลของพวกเขาได้อีกครั้ง!
  “พวกเราเหลือกันอยู่กี่คน?”หลี่หยวนเฟิงถามอย่างใจเย็น
  ชายวัยกลางคนกล่าวว่า “ท่านครับ มีลูกหลานของตระกูลหลี่อยู่สองร้อยคน แต่ส่วนใหญ่กระจัดกระจายไปตามตระกูลย่อยของตระกูลหาน บางคนหลอมรวมเป็นคนของตระกูลหานไป พวกเขาไม่มีอุดมคติของเราอีกต่อไป มีพวกเราเพียงสิบสองคนเท่านั้นที่ยังคงหวังให้ตระกูลหลี่กลับมายิ่งใหญ่อีกครั้ง”
  “แค่สิบสอง…” หลี่หยวนเฟิงพึมพำ
  ตระกูลหลี่ที่ครั้งหนึ่งเคยยิ่งใหญ่เหลืออยู่เพียงแค่สิบสองคนเท่านั้น!
  เขาอยากจะยิ้ม แต่ทำไม่ได้
  มันเป็นเรื่องที่น่าเศร้า
  เขาพยายามอย่างดีที่สุดเพื่อปกป้องถ้ำลึก แต่แล้วเขาเกือบจะสูญเสียทุกคนในตระกูลไป!
  ที่เขาต่อสู้ดิ้นรนมาแปดร้อยปีมันเพื่ออะไร?
  หลี่หยวนเฟิงสูดหายใจเข้าลึก ๆ เพื่อสงบสติอารมณ์ เขาตบไหล่ชายวัยกลางคนแล้วพูดว่า “นายจะได้นามสกุลคืนตั้งแต่วันนี้เป็นต้นไป”
  ”ครับท่าน!” ชายวัยกลางคนถึงกับน้ำตาซึม
  มันเป็นความฝันของพวกเขาที่จะได้นามสกุลกลับคืนมา นายสกุลเดียวกับนักรบอสูรในตำนาน เป็นนามสกุลที่ยิ่งใหญ่!
  “ตระกูลหาน…”
  หลี่หยวนเฟิงมองไปรอบๆ
  ผู้อาวุโสเฟิงคุกเข่าลงเมื่อสัมผัสได้ถึงความโกรธของชายอีกคน “ท่านครับ ตระกูลที่ทำลายตระกูลหลี่ไม่ใช่ตระกูลหาน เราแค่รับคนของท่านเข้ามาเพื่อให้ตระกูลหลี่ยังอยู่ต่อไปได้ พวกเขาอาจไม่ได้มีชีวิตที่ดีนักที่นี่ แต่อย่างน้อยพวกเขาก็ยังอยู่ที่นี่ ท่านครับ โปรดแสดงความเมตตาเป็นการตอบแทนสำหรับความกรุณาเล็กๆ น้อยๆ นั้นด้วย!”
  “ไร้สาระ!”
  หานจินซงไม่สิ หลี่จินซงขัดผู้อาวุโสเฟิง”เรามีบันทึกของตระกูล และมีบันทึกที่บอกว่าตระกูลหานมีส่วนร่วมในการทำลายตระกูลหลี่เมื่อหลายร้อยปีก่อน เรายอมจำนนต่อแกเพราะเราไม่มีทางเลือกอื่น แกปฏิบัติต่อเราอย่างทารุณตั้งแต่วันแรก เราสามารถอยู่รอดได้เพียงเพราะผู้นำตระกูลคนก่อนของแกตั้งกฎนั้นเอาไว้ มิฉะนั้นแกคงจะฆ่าพวกเราทั้งหมดไปแล้ว!”
  “ท่านครับ เรื่องนี้ไม่เป็นความจริง เรายังมีบันทึกที่บรรพบุรุษของเราทิ้งไว้ โดยระบุว่าตระกูลหานไม่ได้ทำให้ตระกูลหลี่ถูกทำลาย เราแค่เกี่ยวข้อง ตระกูลอื่นเป็นคนทำไม่ใช่ตระกูลหาน …”
  หลี่หยวนเฟิงจ้องไปที่ผู้อาวุโสเฟิง ผู้อาวุโสเฟิงรู้สึกตัวสั่นและสิ่งต่อไปที่เขารู้คือเขาอยู่บนพื้น พ่นเลือดออกมา
  จากเสื้อผ้าที่ฉีกขาดของผู้อาวุโสเฟิง ทำให้สมบัติโลหะหลุดออกมา
  หลี่หยวนเฟิงตบหนึ่งทีก็ทำลายอุปกรณ์ป้องกันไปหลายชิ้น!
  ผู้ชมพูดไม่ออก
  หานยู่เซียนที่เพิ่งถูกตบมองด้วยความงุนงง
  เธอรู้จักผู้อาวุโสเฟิงมาตั้งแต่เธอยังเป็นเด็ก เธอเห็นว่าเขาเป็นนักรบที่ไม่มีใครเทียบได้ เขาเป็นนักรบอสูรกิตติมศักดิ์ขั้นสูงสุด เธอไม่เคยคิดมาก่อนว่าเธอจะได้เห็นผู้อาวุโสเฟิงอยู่ในสภาพที่น่าอับอายเช่นนี้
  นักรบอสูรในตำนาน
  ”ท่าน…”
  ผู้อาวุโสเฟิงพยายามจะลุกขึ้น แต่พลังสำรองของเขากำลังลดลง มันน่ากลัวมาก เซลล์ของเขากำลังพังทลาย… เขากำลังสูญเสียความแข็งแกร่ง!
  ข้อสงสัยของเขาที่ว่าหลี่หยวนเฟิงเป็นนักรบในระดับตำนานหรือเปล่านั้นถูกกำจัดออกไปโดยสิ้นเชิงหรือไม่ สิ่งที่เกิดขึ้นกับเขาทำให้เขาหวาดกลัว
  “ตระกูลหานไม่สมควรมีชีวิตรอด แต่ฉันจะแสดงความเมตตาเพราะแกบอกว่าต้องขอบคุณแกที่สมาชิกหลี่ที่เหลืออยู่รอดชีวิตมาได้”หลี่หยวนเฟิงวางมือลง และประกาศว่า “วันนั้นตระกูลหลี่ยอมจำนนต่อแก วันนี้ตระกูลหานจะยอมจำนนต่อตระกูลหลี่ในลักษณะเดียวกัน!”
  “ตั้งแต่วันนี้เป็นต้นไป ตระกูลหลี่จะเป็นนาย และตระกูลหานจะกลายเป็นทาส สมาชิกตระกูลหานที่กล้าโต้กลับจะถูกลงโทษประหารชีวิต!”
  ผู้อาวุโสเฟิงตัวสั่นและพยายามยกหัวขึ้น เขาแทบจะไม่สามารถมองเข้าไปในดวงตาที่เย็นชาคู่นั้นได้
  เขารู้ว่าตระกูลหานถึงวาระแล้ว
  คนที่ยืนอยู่ตรงหน้าเขาคือนักรบอสูรในตำนานของตระกูลหลี่ เขายังมีชีวิตอยู่ และอยู่มาหลายร้อยปีแล้ว!
  ตระกูลหลี่จะฟื้นคืนชื่อกลับมาอีกครั้ง ตระกูลหลี่จะเติบโตและมีอำนาจมากที่สุดในเมืองฐานกรงเล็บทมิฬ!
  ”ท่าน…”
  หลี่จินซงรู้สึกตื่นเต้น ความทุกข์ทรมานของเขาที่ผ่านมาไม่สูญเปล่า ในที่สุดการพัฒนาที่ยิ่งใหญ่ก็เกิดขึ้น นักรบอสูรในตำนานสามารถเปลี่ยนแปลงทุกสิ่งได้
  “ไปรับสมาชิกทั้งหมดของตระกูลหลี่ และนาย ไปนำนักรบอสูรกิตติมศักดิ์ทั้งหมดของตระกูลหานมา ฉันจะฆ่าคนร้อยคนถ้ามีคนหนึ่งหายไป!” หลี่หยวนเฟิงสั่ง
  หลี่จินซงรีบออกไปทันที
  ผู้อาวุโสเฟิงรู้สึกขมขื่นอยู่ภายใน แน่นอนว่าเขาไม่กล้าทิ้งใครไว้ เขานึกไม่ออกว่านักรบอสูรในตำนานจะทำอะไรได้บ้าง นักรบอสูรในตำนานสามารถใช้ความแข็งแกร่งของหอคอยได้ และหอคอยควบคุมพลังอันยิ่งใหญ่ของโลก เขารู้ดังนั้นเขาจึงต้องเชื่อฟังคำสั่ง
  “ผมจะทำเดี๋ยวนี้” ผู้อาวุโสเฟิงลุกขึ้นด้วยความเจ็บปวด
  หลี่หยวนเฟิงหลับตาเพื่อปรับอารมณ์ของเขา
  เขาต้องการระบายอารมณ์และทำให้สถานที่แห่งนี้พังพินาศ แต่ความดีในใจของเขาหยุดเขาไว้
  ตลอดเวลานี้ซูผิงและซูหลิงเยวี่ยไม่ได้พูดอะไร หลี่หยวนเฟิงเป็นนักรบที่มีประสบการณ์ เขามีเหตุผลของเขาที่จะจัดการกับเรื่องนั้นในแบบที่เขาต้องการ
  ซูผิงผิดหวังกับหอคอยมากกว่าเดิม!
  เขารู้สึกเสียใจกับนักรบอสูรในตำนานที่ยังคงอยู่ในถ้ำลึก เขาได้เห็นรอยยิ้มที่จริงใจของพวกเขามาแล้ว!
  แต่… มีคนต้องปกป้องถ้ำลึก
  ทำไมคนดีมักจะถูกทำร้าย?
  ซูผิงกำหมัดแน่น เขามีความมุ่งมั่นที่จะพัฒนามากขึ้นกว่าเดิม
  ไม่นาน
  หลี่หยวนเฟิงกลับมาพร้อมกับอีกแปดคน มีเด็กสองคน ชายชราสามคน ชายหนุ่มและหญิงสาวอีกสองคน
  คนเหล่านั้นไม่ได้อยู่ในระดับที่สูง และชายชราหลังค่อมก็มีอำนาจมากที่สุดในบรรดาพวกเขาทั้งหมด เขาอยู่ในระดับกิตติมศักดิ์ แต่เขาซ่อนไว้อย่างดี ซูผิงได้พัฒนาทักษะตรวจจับที่น่าทึ่งในสนามบ่มเพาะ ถ้าเขาไม่มีทักษะเหล่านั้น เขาคงไม่ทันสังเกตว่าชายชราอยู่ระดับกิตติมศักดิ์
  “สามคนกำลังออกไปปฏิบัติภารกิจ แต่ผมส่งข้อความถึงพวกเขาแล้ว”หลี่จินซงรายงานกับหลี่หยวนเฟิงด้วยความเคารพอย่างที่สุด
  แปดคนที่มากับเขาจ้องหลี่หยวนเฟิงด้วยความงุนงง
  ชายชราที่อยู่ในระดับกิตติมศักดิ์ลืมตาที่ขุ่นมัวของเขา ประกายแสงแวบผ่านดวงตาของเขาแล้วเขาก็ตัวสั่น เขาได้เห็นรูปเหมือนของหลี่หยวนเฟิง และทั้งสองก็มีความคล้ายคลึงอย่างน่าประหลาด!
ตอนที่ 612 นางฟ้าแห่งการลงทัณฑ์
  “ท่านครับ โปรดยอมรับลูกหลานที่ไม่คู่ควรของท่าน!”
  ชายชราที่อยู่ในระดับกิตติมศักดิ์เข้ามาใกล้หลี่หยวนเฟิง และคุกเข่าลง
  คนอื่นๆ ทำตาม พวกผู้หญิงบอกลูก ๆ ให้ทำตาม
  เด็กสองคนจ้องหลี่หยวนเฟิงด้วยดวงตาที่เปื้อนน้ำตา ทั้งอยากรู้อยากเห็นและเต็มไปด้วยความเคารพ นี่คือนักรบอสูรในตำนานที่น่าชื่นชมที่พ่อแม่ของพวกเขาพูดถึงอยู่เสมอ…
  หลี่หยวนเฟิงยกมือเพื่อบอกให้ทุกคนยืนขึ้น
  “ฉันเสียใจที่รู้ว่าทุกคนได้รับความเดือดร้อนในช่วงหลายปีที่ผ่านมา” เขากล่าว
  เขามองชายชราที่กำลังยิ้ม เขารู้สึกหนักใจ
  ชายชราระดับกิตติมศักดิ์กล่าวว่า “ท่านครับ ไม่เป็นอะไร เราตื่นเต้นมากที่รู้ว่าท่านปลอดภัย การรอคอยและทุกสิ่งที่เราทำนั้นคุ้มค่ามาก ตอนนี้ท่านมายืนอยู่ตรงหน้าเราแล้ว ตระกูลหลี่จะฟื้นคืนกลับมาอีกครั้งภายใต้การชี้นำของท่าน!”
  หลี่หยวนเฟิงพยักหน้า แต่ไม่ได้พูดอะไรอีก
  ไม่นานหลังจากนั้น เหล่านักรบอสูรหลายคนก็เข้ามา
  เหล่าคนตระกูลหานกำลังสั่นด้วยความกลัว ชนชั้นสูงในตระกูลซึ่งปกติแล้วพวกเขาจะไม่ได้เจอ กลับมาอยู่รวมกัน ผู้อาวุโสก็อยู่ แม้แต่ผู้นำตระกูลก็อยู่ที่นี่ด้วย!
  หวืด!
  ชายอาวุโสที่สวมชุดสวยงามและมีหน้าตาเคร่งขรึมปรากฏตัวขึ้น เขาเป็นคนที่ดูเคร่งขรึม ข้างหลังเขามีนักรบอสูรกว่าสิบสองคนที่มีสถานะสูงในตระกูลหาน
  พวกเขาได้รับสายและมาที่นี่เร็วที่สุดเท่าที่ทำได้เนื่องจากผู้อาวุโสเฟิงออกคำสั่งด้วยตนเอง
  พวกเขาได้รู้เกี่ยวกับความรุนแรงของสถานการณ์จากผู้อาวุโส
  นักรบอสูรในตำนานอยู่ที่นี่แล้ว!
  และเขาก็เป็นสมาชิกของตระกูลหลี่ ตระกูลที่พวกเขากดขี่มาหลายชั่วอายุคน!
  ความคิดแรกที่ผุดขึ้นในใจของผู้นำตระกูลคือการหนี แต่เขาก็ล้มเลิกความคิดนั้นในทันที นักรบอสูรในตำนานอยู่ที่นี่ เขาจะวิ่งไปไหนได้?
  นักรบอสูรในตำนานจะมีความสามารถและพลังในการค้นหาเขาทั่วโลก และยังมีหอคอย พวกเขาสามารถรวบรวมข้อมูลจากทั่วทุกมุมโลกได้!
  นั่นคือเหตุผลที่ไม่มีใครกล้ามีเรื่องกับนักรบอสูรในตำนาน!
  “ผมชื่อหานเทียนเฉิงผู้นำตระกูลหาน ยินดีที่ได้รู้จักครับท่าน!”หานเทียนเฉิงลงมาจากท้องฟ้าห่างออกไปหลายสิบเมตร เขารีบก้มหัวลง
  เขากลั้นหายใจและหัวใจของเขาก็เต้นแรง
  เขาไม่รู้อารมณ์ของนักรบอสูรในตำนาน หรืออะไรจากบุคลิกภาพของเขา แต่ถ้าคนๆ นี้ใจร้ายและใจร้อน เขาจะไม่มีโอกาสได้พูดเลยด้วยซ้ำ!
  หานเทียนเฉิงเตรียมพร้อมรับความตายมาแล้วระหว่างทาง ทุกคนล้วนกลัวความตาย
  และเขาไม่ได้วิ่งเข้ามาเพื่อตัวเอง
  แต่เพื่ออนาคตของตระกูลหาน!
  โชคดีที่เขาได้ริเริ่มโครงการเมล็ดพันธุ์สำหรับตระกูลของพวกเขาแล้ว เขาซ่อนต้นอ่อนที่มีแนวโน้มดีไว้ทั่ว ยังคงมีความหวังสำหรับตระกูลหาน ตราบใดที่พวกเขาสามารถอยู่รอดผ่านวิกฤตนี้ไปได้!
  นั่นคือแผนการที่ตระกูลใหญ่ๆ ต่างมี
  “แกคงเป็นผู้นำตระกูลใช่ไหม?”หลี่หยวนเฟิงหรี่ตาเพื่อซ่อนเจตนาฆ่าของเขา เขาสามารถบอกได้ว่าผู้นำตระกูลอยู่ในระดับกิตติมศักดิ์ขั้นสูงสุด เขาเป็นคนที่อยู่มานาน เขามีศักยภาพมากกว่าผู้อาวุโสเฟิง ผู้นำตระกูลคนนี้สามารถเติบโตต่อไปได้ถึงระดับตำนานในอนาคต!
  “ผมต้องขอพูดว่าใช่ครับ”หานเทียนเฉิงก้มหัวลง เขากลัวที่จะมองเข้าไปในดวงตาของหลี่หยวนเฟิง
  “ตั้งแต่วันนี้เป็นต้นไป ตระกูลหานจะอยู่ใต้ตระกูลหลี่ แกจะเป็นคนรับใช้ของเรา และเราจะเป็นเจ้านาย สมาชิกทุกคนในตระกูลหานต้องปฏิบัติต่อสมาชิกในตระกูลหลี่เหมือนพวกเราเป็นพ่อเป็นแม่ของแก และแกต้องคำนับเราด้วยความเคารพอย่างสูงสุด แกจะไม่มีวันฝ่าฝืนคำสั่งของตระกูลหลี่ได้!”
  หลี่หยวนเฟิงถามหานเทียนเฉิง“แกยอมรับเงื่อนไขนี้หรือไม่?”
  หานเทียนเฉิงเปียกโชกไปด้วยเหงื่อเย็น เขาก้มหัวลงและมองเห็นแต่พื้นตรงหน้าเท้าเท่านั้น เขากัดฟัน รู้สึกอัปยศอย่างมาก
  คนรับใช้?
  ปฏิบัติต่อสมาชิกตระกูลหลี่เหมือนพ่อแม่?
  มันน่ายอมรับตรงไหน!
  เขาอยากกำหมัด แต่กลัวว่าหลี่หยวนเฟิงจะเห็น
  เขาเป็นคนหยิ่งแต่ฉลาดพอ ตระกูลหานจะถูกกำจัด ถ้าเขาขัดขืน!
  เขาไม่มีสิทธิ์ที่จะเจรจา ไม่ต้องพูดถึงความโกรธ เมื่อคนที่เขาคุยด้วยคือนักรบอสูรในตำนาน
  คนในตระกูลหลี่เคยต้องร้องขอชีวิตจากพวกเขา แต่แล้วเกมก็พลิกกระดาน ตระกูลหลี่เป็นคนสั่งการแทน
  นี่เป็นเรื่องปกติของโลก
  นี่คือกฎแห่งป่า!
  “ผม… ยอมรับ!” หานเทียนเฉิงกล่าว การพูดสามคำนี้เผาพลาญพละกำลังทั้งหมดของเขา ผู้อาวุโสตระกูลหานเริ่มหงุดหงิด พวกเขาอยากที่จะพูด แต่ก็กัดปากตัวเอง พวกเขาต้องกลบความโกรธเอาไว้
  ในขณะนี้พวกเขาสามารถบอกได้แล้วว่าสมาชิกตระกูลหลี่เคยรู้สึกยังไง
  ”ท่าน…”
  สมาชิกในตระกูลหานจ้องมองด้วยความไม่เชื่อ
  ผู้นำตระกูลของพวกเขายอมรับเงื่อนไข ดังนั้นเราจะต้องปฏิบัติตามคำสั่งของตระกูลหลี่ตั้งแต่วันนี้เป็นต้นไป!
  ก่อนหน้านี้พวกเขาล้วนเป็นชนชั้นสูงจากตระกูลที่ใหญ่ที่สุดในเมืองฐานกรงเล็บทมิฬ แต่แค่ไม่กี่นาที พวกเขากลายเป็นเชลย มันไม่มีทางยอมรับได้
  ”พ่อ…”
  หานยู่เชียนจ้องไปที่หานเทียนเฉิง พ่อของเธอ เขาภาคภูมิใจในตัวเองมาตลอด ไม่มีใครกล้าเถียงกับเขา แต่ในขณะนี้หานเทียนเฉิงกลับเป็นลูกเป็ดที่อ่อนแอ เขาไม่กล้าปฏิเสธหลี่หยวนเฟิง!
  นี่คือพลังของนักรบอสูรในตำนาน!
  นักรบอสูรในตำนาน!
  หานยู่เชียนกำหมัด เธอใฝ่ฝันที่จะไปให้ถึงระดับนั้น แต่เธอผ่านไปไม่ได้ เธอปรารถนาที่จะเป็นนักรบอสูรในตำนานนับตั้งแต่วินาทีนี้!
  …
  หลี่หยวนเฟิงเหลือบมองหานเทียนเฉิงอย่างเฉยเมย ไม่น่าแปลกใจที่เห็นหานเทียนเฉิงยอมรับเงื่อนไขเหล่านั้น หานเทียนเฉิงมาปรากฏตัวหมายความว่าเขาพร้อมที่จะประนีประนอม ไม่เช่นนั้นเขาคงจะหนีไปแล้ว
  “ตั้งแต่วันนี้เป็นต้นไป นายจะรับช่วงต่อจากตระกูลหาน” หลี่หยวนเฟิงกล่าวกับชายชราระดับกิตติมศักดิ์
  ชายชราไม่ได้หลังค่อมอีกต่อไป ในที่สุดเขาก็สามารถยืนขึ้นได้หลังจากทนความอัปยศอดสูมาหลายปี ผู้อาวุโสของตระกูลหาน—ซึ่งเคยแสดงท่าทีเหยียดหยามต่อเขา—ต่างก้มหน้าลงและกลั้นหายใจ ชายชราไม่สามารถปกปิดรอยยิ้มได้ เขาไม่เคยรู้สึกเป็นอิสระเช่นนี้มาก่อน!
  ทันใดนั้นรอยยิ้มก็ค่อยๆเปลี่ยนเป็นน้ำตา พวกเขาทนทุกข์ทรมานมานานเกินไป!
  ”ครับท่าน!” ชายชรากล่าว
  หลี่หยวนเฟิงพยักหน้า เขาเปิดวังวนและร่างผอมบางก็บินออกมาจากอีกด้านหนึ่ง มันมีสี่ปีกและดูเหมือนนางฟ้า แต่ใบหน้าของมันผิดแปลกไป มันมีสี่ตา ตาสีขาว แต่ไม่มีคิ้ว นอกจากนี้ยังมีจมูกสีขาวและริมฝีปากสีเข้ม
  “นี่คือนางฟ้าแห่งการลงทัณฑ์อสูรของฉัน และมันจะอยู่ที่นี่ ถ้าคนในตระกูลหานไม่ปฏิบัติตามคำสั่งของนาย อสูรของฉันจะช่วยนายลงโทษพวกเขา!” หลี่หยวนเฟิงกล่าว
  ชายชราระดับกิตติมศักดิ์จ้องไปที่อสูรที่บินอยู่เหนือหัวของหลี่หยวนเฟิง
  หานเทียนเฉิงและฝูงขนที่เหลือต่างตกใจกับนางฟ้าแห่งการลงทัณฑ์ซึ่งดูเหมือนจะทรงพลังมาก มันต้องเป็นราชาอสูร!
  “ท่านจะไม่อยู่กับพวกเราที่นี่เหรอ?” นักรบอสูรกิตติมศักดิ์ถามหลี่หยวนเฟิง เขารู้สึกราวกับว่าหลี่หยวนเฟิงกำลังจากพวกเขาไปจริงๆ
  หลี่หยวนเฟิงพยักหน้า “ฉันต้องไปที่หอคอยและถามพวกเขาบางอย่าง ฉันยังมีบางสิ่งที่ต้องทำ”
  “ท่านต้องรีบไปจากที่นี่จริงๆหรอ?” ชายชรายังคงถามต่อไป เขาอยากจะพูดมากกว่านี้แต่เมื่อคิดอีกที่เขาก็หยุดพูด เขาไม่ต้องการให้หลี่หยวนเฟิงไป
  แม้ว่าราชาอสูรร้ายจะอยู่ที่นี่ แต่ชายชราก็รู้สึกว่าเขายังคงประหม่า
  นอกจากนี้เท่าที่พวกเขารู้หอคอยนั้นเข้าถึงไม่ได้ นั่นเป็นสถานที่ที่มีอยู่เพียงชื่อเท่านั้น!
  พวกเขาขอความช่วยเหลือจากหอคอยแล้ว พวกเขาติดต่อไป แต่หอคอยไม่เคยตอบกลับมาเลย!
  ในที่สุดพวกเขาก็ยอมแพ้หลังจากที่ล้มเหลวซ้ำแล้วซ้ำเล่า
  “มีบางอย่างที่ฉันต้องทำ” หลี่หยวนเฟิงกล่าว เขามองไปที่ซูผิง ซูผิงรู้ว่าหลี่หยวนเฟิงหมายถึงอะไร
  หลี่หยวนเฟิงโกรธเพราะสิ่งที่เกิดกับตระกูลหลี่ แต่เขาเป็นนักรบอสูรที่อยู่ในถ้ำลึกเป็นเวลาแปดร้อยปี เขาควบคุมอารมณ์ของตัวเองได้ดีเป็นพิเศษ เขาคงตายในถ้ำลึกไปนานแล้ว ถ้าเขาเสียสติได้ง่ายๆ
  มีเพื่อนมากมายที่เสียชีวิตต่อหน้าเขาในช่วงแปดร้อยปี
  สิ่งที่เกิดขึ้นกับตระกูลหลี่นั้นไม่ยุติธรรมและเขาเกลียดหอคอยด้วยเหตุนี้ อย่างไรก็ตามสิ่งที่เกิดขึ้นกับถ้ำลึกเป็นความกังวลสำหรับคนทั้งโลก เขาไม่สามารถเพิกเฉยต่อสิ่งนั้นได้
  ”ท่าน…”
  หลี่จินซงต้องการเกลี้ยกล่อมหลี่หยวนเฟิงให้อยู่ต่อ
  ในทางกลับกันหานเทียนเฉิงกลับโล่งใจ หากหลี่หยวนเฟิงอยู่ที่นี่และปกครองตระกูลหานด้วยตัวเอง สมาชิกตระกูลหานจะต้องทนทุกข์กับความลำยาก
  สิ่งต่าง ๆ จะง่ายขึ้นสำหรับพวกเขาถ้าเขาทิ้งไว้แค่อสูรตัวเดียว
  “พี่หลี่…”
  ซูผิงเข้าใจทันทีว่าหลี่หยวนเฟิงกำลังคิดอะไรอยู่ และรู้สึกประทับใจกับความหมายนั้น พี่ชายคนนี้เป็นผู้ชายที่ยิ่งใหญ่ เขายังคงเป็นห่วงมนุษยชาติได้แม้ว่าตระกูลของเขาจะโดนกระทำอย่างไม่ยุติธรรมก็ตาม
  ซูผิงเต็มไปด้วยความเคารพอย่างสุดซึ้งต่อชายผู้นี้ “พี่หลี่ ผมจะให้ความช่วยเหลือตระกูลหลี่ของคุณด้วย ถ้าคุณยืนยันที่จะไปหอคอย เมื่อผมกลับไปที่ร้าน ผมจะส่งพนักงานชั่วคราวในร้านของผมมาช่วยคุณ พนักงานคนนั้นถูกเลี้ยงดูมาในตระกูลใหญ่ เธอต้องรู้เกี่ยวกับการปกครองตระกูลอย่างแน่นอน”
  ฝูงขนเปลี่ยนความสนใจจากหลี่หยวนเฟิงเป็นซูผิง
  พี่หลี่?
  นั่นเป็นสิ่งที่ไม่คาดคิด
  ผู้ชายคนนี้กล้าเรียกหลี่หยวนเฟิงว่า “พี่หลี่”!
  หลี่หยวนเฟิงเป็นนักรบอสูรในตำนาน! ซูผิงเป็นนักรบอสูรในตำนานด้วยหรอ? ฝูงชนต่างสงสัย มันน่ากลัวที่จะมีนักรบอสูรในตำนานสองคนอยู่ในที่เดียวกัน!
  หานเทียนเฉิงยังได้ยินคำพูดของซูผิง และจิตใจของเขาก็เริ่มไตร่ตรอง เขาพยายามประเมินซูผิงแต่ไม่สามารถบอกได้ว่าเขาอยู่ในระดับไหน ถึงกระนั้นหานเทียนเฉิงก็มั่นใจว่าซูผิงอยู่ในระดับตำนาน!
  “ท่าน ท่านคือ?” หานเทียนเฉิงถาม
  ซูผิงเหลือบมองเขาจากหางตา “แกไม่มีสิทธิ์รู้”
  หานเทียนเฉิงรู้สึกอับอาย
  หลี่หยวนเฟิงพยักหน้าให้ซูผิง“ดี ผมยังคงกังวลอยู่หากพวกเขาถูกทิ้งให้อยู่ที่นี่ตามลำพัง ผมไม่สามารถเสียเวลาได้อีก น้องซู ขอบคุณมาก”
  “ผมยินดี” ซูผิงพยักหน้า
  หลี่หยวนเฟิงโบกมือ และนางฟ้าแห่งการลงทัณฑ์ก็บินลงมา อสูรนั้นสูงประมาณแปดเมตร มันก้มลงเพื่อให้หลี่หยวนเฟิงสามารถพูดคุยกับมันได้
  “ท่านต้องการอะไร?” อสูรกล่าวด้วยความเคารพ เสียงของมันอ่อนโยนแต่ชัดเจน
  อสูรพูดได้ทำให้ทุกคนตะลึงอีกครั้ง
  หานเทียนเฉิงหน้าซีด เขารู้ว่าราชาอสูรร้ายบางตัวสามารถพูดภาษามนุษย์ได้ แต่นั่นก็เป็นเครื่องบ่งชี้ว่านางฟ้าแห่งการลงทัณฑ์มีสติปัญญาที่สูงเพียงใด
  ทันใดนั้นหานเทียนเฉิงเข้าใจว่าทำไมหลี่หยวนเฟิงจึงตัดสินใจทิ้งอสูรตัวเดียวไว้
  ราชาอสูรร้ายที่ฉลาดสามารถนับได้ว่าเป็นมนุษย์
  หลี่หยวนเฟิงถ่ายทอดคำสั่งของเขาไปยังอสูรและลูบหัวของมัน “บอกอสูรของฉันถ้ามีอะไรเกิดขึ้น นายจะจัดการเรื่องต่างๆเกี่ยวกับตระกูลหานจนกว่าความช่วยเหลือของน้องซูจะมามาถึง นายจะต้องทำมันให้ดี” เขากล่าวกับชายชรา
  ชายชรามองไปที่นางฟ้าแห่งการลงทัณฑ์ด้วยความเคารพและพยักหน้า “รับทราบครับท่าน”
  ชายชราชำเลืองมองที่ซูผิงที่ดูเหมือนชายหนุ่ม เขาเชื่อว่าผู้ชายคนนั้นเป็นนักรบอสูรในตำนานขั้นสูงเหมือนหลี่หยวนเฟิง!
  หลี่หยวนเฟิงพยักหน้า เขาขมวดคิ้วและตะโกนใส่ผู้ชมตระกูลหานว่า “คุกเข่าลงเดี๋ยวนี้!”
  ผู้ชมดิ้นรน แต่ในที่สุดพวกเขาก็ทำตาม
  ผู้อาวุโสคุกเข่าลงและคนอื่นๆ ทำได้เพียงทำตามเท่านั้น ความโศกเศร้าปกคลุมใบหน้าของพวกเขา พวกเขารู้ว่าตั้งแต่ตอนนี้ไป ชีวิตที่แสนสบายของพวกเขาได้สิ้นสุดลงแล้ว
  “ฉันจะฝากที่นี่ไว้กับนาย น้องซูไปกันเถอะ” หลี่หยวนเฟิงกล่าว
  ซูผิงพยักหน้า
  ขณะที่หลี่หยวนเฟิง ซูผิงกับซูหลิงเยวี่ยจากไป คนอื่นๆ ก็เฝ้ามองพวกเขาจากไป
  หานยู่เชียนสังเกตเห็นหญิงสาวที่เดินตามหลังซูผิงและหลี่หยวนเฟิง เธอกระพริบตาอย่างไม่เชื่อสายตา
  เธอเคยไปสถาบันผู้กล้า เพื่อไปเยี่ยมอาจารย์เก่าของเธอ
  เธอเคยเห็นซูหลิงเยวี่ยที่นั่น
  เธอมาทำอะไรที่นี่?
  หานยู่เชียนไม่สามารถเข้าใจได้
  คนสามคนออกจากอาคาร และบินไป
  “ทำไมคุณไม่ฆ่าพวกเขาเพื่อระบายความโกรธ” ซูผิงถามหลี่หยวนเฟิง
  หลี่หยวนเฟิงหัวเราะออกมาและตอบว่า “ผมไม่ได้ใจร้ายขนาดนั้น น้องซู คุณต้องตระหนักถึงความรุนแรงที่มีอยู่ในตัวคุณ คุณอาจประสบปัญหาบางอย่างเมื่อคุณผ่านบททดสอบสวรรค์ในอนาคต”
  ซูผิงยักไหล่ “จริง ๆ แล้วผมหวังว่าบททดสอบสวรรค์ของผมจะสามารถแสดงให้ผมเห็นสิ่งที่แตกต่างออกไป น่าเสียดายที่ผมไม่คิดว่าจะมีอะไรให้คาดหวัง ผมเห็นมาหมดแล้ว”
  หลี่หยวนเฟิงฝืนยิ้มขมขื่น
  หลี่หยวนเฟิงเปลี่ยนเรื่อง “อีกไม่นานเราจะถึงสถาบันผู้กล้าซึ่งเป็นที่ตั้งของทางเข้าที่เจ็ด ผมต้องการตรวจสอบทางเดินที่นั่น คุณต้องการที่จะไปด้วยไหม?”
  ความเยือกเย็นผุดขึ้นในดวงตาของซูผิงเมื่อเขาได้ยินชื่อนั้น “ผมจะไม่ไปที่นั่น ผมมีเรื่องอื่นต้องจัดการ”
  หลี่หยวนเฟิงตระหนักว่าเรื่องเหล่านั้นไม่น่าจะเป็นเรื่องดีเพราะเขาเห็นเจตนาฆ่าในสายตาของซูผิง
  ซูหลิงเยวี่ยกัดปากตัวเอง เธอรู้ว่าซูผิงกำลังพูดถึงการแก้แค้น
  เธอยังไม่รู้ว่าจะเผชิญหน้ากับซูผิงอย่างไรหลังจากปัญหาทั้งหมดที่เธอสร้าง
  …
  สถาบันผู้กล้า
  หอคอยมังกร
  ผู้คนมากมายมารวมตัวกันที่นี่ ทุกคนจ้องมองไปที่แผ่นจารึกสีดำ
  “ชั้นที่ 33…”
  “ตาเรามีปัญหาอะไรหรือเปล่า? มีอะไรผิดปกติกับแผ่นจารึกหรือไม่?”
  “ใครคือคุณซู?”
  ผู้ชมต่างสงสัยว่า
  ท่ามกลางฝูงชนมีคนสามคนยืนอยู่ใกล้แผ่นจารึกที่สุด หญิงสาวค่อยๆฟื้นจากความประหลาดใจของเธอ และเธอก็บ่นว่า “ผู้ชายที่ชื่อเฟยพูดถูก ผู้ชายคนนี้ทำลายสถิติทั้งหมดและเขาก็ไปถึงชั้นสูงสุด…เขาทำอย่างนั้นได้ยังไง?”

ร้านขายอสูรดวงดาว Astral Pet Store

ร้านขายอสูรดวงดาว Astral Pet Store

Status: Ongoing

ฉันถูกส่งไปยังโลกแห่งอสูร มีสิ่งมีชีวิตทุกรูปแบบ ทุกขนาด พวกมันสามารถเป็นสหายน่ากอด ผู้ช่วยในชีวิตประจำวัน หรือนักสู้ ไม่เลวเลยใช่ไหมละ? ฉันมีครอบครัว แต่ความจริงกลับถูกบดบังโดยน้องสาวฉัน เธอเกลียดฉันมาก และก็คอยรังแกฉันทุกวัน ฉันบอกหรือยังว่าเธอมีพรสวรรค์สูงมาก ส่วนฉันเป็นคนไร้พรสวรรค์?ก็แค่หล่อสุดๆ ฉันมีอิสระในการดำเนินธุรกิจของครอบครัวเอง ร้านอสูรเล็กๆ มันควรจะดีหากไม่ใช่ความจริงที่เจ้าของร่างเดิมนี้เกิดมามีความสัมพันธ์เป็นศูนย์กับการควบคุมอสูรดวงดาว… คงไม่คิดว่ามันเป็นการข้ามโลกโดยไร้ระบบหรือกลไกอะไรที่จะปูถนนให้ฉันหรอกนะ?ฉันมี แต่ฉันไม่รู้ว่าไม่มีมันจะดีกว่าไหม…

แสดงความคิดเห็น

ใส่ความเห็น

อีเมลของคุณจะไม่แสดงให้คนอื่นเห็น ช่องข้อมูลจำเป็นถูกทำเครื่องหมาย *

ปรับฟอนต์

**ถ้าปรับโหมดมืดอยู่** ให้เปลี่ยนเป็นโหมดสว่าง ก่อนจะปรับสีพื้นหลัง
รีเซ็ท