ร้านขายอสูรดวงดาว Astral Pet Store – ตอนที่ 619-620

ตอนที่ 619-620

ตอนที่ 619 ต้นไม้ที่สูงเกินดาว
เจ้าล้อเล่นหรือเปล่า?
ซูผิงกำลังบ่นอยู่ข้างใน แต่แค่ข้างในเท่านั้นเพราะเขาไม่อยากจะตายอีก
อย่าเถียงกับผู้หญิงเรื่องรูปร่างหน้าตา นั่นเป็นบทเรียนที่เขาได้เรียนรู้ในชีวิตก่อนหน้านี้
โชคดีสำหรับเขา เขาเป็นคนที่หล่ออยู่ตลอด…
เขารู้สึกดีขึ้นเมื่อนึกอย่างนั้น และแม้แต่ความร้อนก็ดูน่ากลัวน้อยลง เขายิ้ม “การที่เราได้มาพบกันนั้นมีความหมาย เพราะว่าฉันหล่อที่สุดในบรรดามนุษย์ทั้งหมด เมื่อพิจารณาถึงข้อเท็จจริงนี้แล้ว เรามาคุยกันหน่อยดีไหม?”
”หล่อ? ตรงไหน?”
ในที่สุดอีกาทองคำก็ดูเหมือนจะเข้าใจซูผิง มันมองเขาขึ้นลงและพูดว่า “แขนขาทั้งสี่นั้นแย่มาก ข้าไม่รู้ว่าในเผ่าพันธุ์ของเจ้าจะมีคนหน้าตาดีอยู่ไหม”
“…”
ฉันจะสาปแช่งแกแม้ว่าเจ้าจะเป็นแค่นก! รู้ไว้ด้วย!
ซูผิงแทบจะไม่สามารถระงับความโกรธของเขาได้ เขาโน้มน้าวตัวเองไม่ให้แสดงความโกรธเพื่อประโยชน์แก่ตัวเขาเอง
สุภาพบุรุษจะไม่มีวันล่วงเกินผู้หญิง
“นี่คือมือของฉันและนี่คือเท้าของฉัน ไม่เป็นไร ฉันไม่อยากคุยเรื่องนี้ กลับมาที่เรื่องของเราดีกว่า ฉันกำลังพยายามหาวัตถุดิบจำเป็นสำหรับกายแสงอาทิตย์ขั้นสอง ฉันสามารถนับเป็นอีกาทองคำได้ เมื่อฉันจัดการสิ่งนั้น… ดังนั้นเธอช่วยบอกใบ้ให้ฉันหน่อยได้ไหมว่าฉันจะหาสิ่งเหล่านั้นได้จากที่ไหน?” ซูผิงถาม
เขามองกรงเล็บทั้งสามของอีกาขณะที่พูด
เจ้าสามขากำลังเยาะเย้ยฉัน ทั้งที่ฉันมีสองขา!
”มือ? เหมือนอีกาทองคำอย่างนั้นหรอ?”
อีกาทองคำมองที่มือของซูผิง ไม่นานก็สังเกตเห็นสิ่งอื่นที่ซูผิงเพิ่งพูดถึง ดูเหมือนจะโกรธมัน “สายเลือดอีกาทองคำนั้นดีที่สุดในโลก นั่นไม่ใช่อะไรที่เจ้าจะได้รับได้ ข้าไม่สนหรอกว่าเจ้าจะเรียนทักษะนั้นมาจากไหน แต่เจ้าต้องถูกลงโทษด้วยความตาย!”
ซูผิงกำลังอารมณ์เสีย “แปลกใจอะไร? ฉันบอกว่าบรรพบุรุษของเธอคนหนึ่งมอบทักษะนี้ให้ฉัน และฉันรู้สึกขอบคุณมาก เธอ เป็นสิ่งมีชีวิตโบราณ ทำไมถึงไม่สมเหตุสมผลเลย”
“นายมันไร้ยางอาย” จู่ๆ ระบบก็โผล่งออกมา มันไม่ชอบเมื่อเห็นว่าซูผิงทำหน้านิ่งขณะโกหกเกี่ยวกับกายแสงอาทิตย์
ซูผิงไม่พอใจที่ได้ยินอย่างนั้น “นายพูดเอง นายอยากให้ฉันบอกอีกาทองคำเกี่ยวกับนายไหม นายเปิดเผยตัวไม่ได้และตอนนี้นายยังมาว่าฉันที่ฉันเล่าเรื่องอีก?
“ใครบอกว่าฉันเปิดเผยตัวไม่ได้? ทำไมนายไม่บอกคนอื่นเกี่ยวกับฉัน มาดูกันว่าใครเชื่อนาย” ระบบเยาะเย้ยซูผิง
ซูผิงตระหนักได้ทันทีว่าระบบไม่กลัวที่จะถูกเปิดเผย เขาเองที่เป็นคนกลัวการเปิดเผยระบบ ระบบนี้แม่ง…
“นายกำลังว่าฉันอีกแล้วนะ ทำไม?”
”อะไร? ฉันควรว่าตัวเองหรือไง?”
“…”
ระบบตอบกลับด้วยคำว่า “บะห์” และเงียบหลังจากนั้น
ซูผิงดึงความคิดของเขากลับไปสู่สถานการณ์ตรงหน้ากับอีกาทองคำ
“ไม่มีอีกาทองคำตัวไหนจะบอกผู้อื่นที่อยู่นอกเผ่าพันธุ์ของเราเกี่ยวกับทักษะการบ่มเพาะของเรา เจ้าโกหก และยังกล้าพูดถึงรูปร่างหน้าตาของข้าเจ้าเป็นอสูรร้ายเจ้าเล่ห์!”
ซูผิงต้องการโต้แย้ง แต่แล้วเขาก็ตระหนักว่าแม้เขาจะพูดได้ว่าเขาไม่เคยดูถูกรูปลักษณ์ของอีกาทองคำ แต่เขาไม่สามารถอธิบายเหตุผลที่เหมาะสมสำหรับทักษะที่เขาเรียนรู้ได้
อาจเป็นความจริงที่อีกาทองคำจะคิดแบบนั้น
มันคงไม่ดีสำหรับเขาถ้าเขาโกหกมากไปกว่านี้
การโต้เถียงเรื่องรูปร่างหน้าตา… มันจะช่วยอะไรเขาได้?
อีกาทองคำส่งเสียงที่เต็มไปด้วยความภาคภูมิใจ “ดูสิ? ข้าเห็นผ่านการหลอกลวงของเจ้า อืม เจ้าสมควรตาย แต่ข้าไม่คิดว่าข้าจะฆ่าเจ้าได้ เจ้าเป็นสิ่งแปลก ไม่เป็นไร… ข้าจะพาเจ้ากลับไป และบางทีผู้อาวุโสของเราอาจสามารถหาทางแก้ไขได้”
ซูผิงขนลุก พาฉันกลับไปหาผู้อาวุโส?
แม้ไม่บอกก็รู้ได้ว่าผู้อาวุโสจะมีพลังมากกว่าอีกาทองคำตะวนัเมากแค่ไหน หากเขาต้องรับมือกับพวกมัน เขาอาจจะไม่สามารถฆ่าตัวตายได้ด้วยซ้ำ!
วิ่ง!
ซูผิงเคลื่อนย้ายหนี
อย่างไรก็ตาม เขารู้สึกว่าเขาชนกับบางสิ่ง และเกือบกระดูกหัก
มิติกักขัง!
บางสิ่งบางอย่างทำให้อากาศแข็งราวกับเหล็ก!
ดาบ!
ซูผิงหยิบดาบของเขาออกมา และพยายามจะฟัน ถึงกระนั้นแม้ว่าเขาจะออกแรงอย่างเต็มที่ รังสีแสงดาบก็หายไป
มันเป็นแบบนี้ได้ยังไง!
ซูผิงรู้สึกว่าความหวังทั้งหมดหายไป แม้แต่กระบวนท่าที่แข็งเจ้าร่งที่สุดที่เขามีก็ไม่เพียงพอที่จะทำลายการกักขัง!
เขาสามารถทำลายมิติกักขังของอสูรสภาวะชะตากกรรมในถ้ำลึกได้ อสูรพันตาไม่สามารถหยุดเขาได้!
”อะไร? พลังงานมืด?”
อีกาทองคำประหลาดใจที่เห็นพลังอาชูร่า ไม่น่าเชื่อว่าเผ่าพันธ์อื่นจะสามารถควบคุมพลังนั้นบนดาวสวรรค์ได้
“แปลกมาก”? นั่นคือสิ่งสุดท้ายที่ซูผิงได้ยินอีกาทองคำพูด รัศมีของแสงสีทองล้อมรอบซูผิง หลังจากนั้นเขาไม่เห็นอะไรนอกจากสีทอง เขาถูกขังอยู่ในลูกบาศก์ทอง
ซูผิงพยายามตัดกำแพงแต่ก็ไม่ได้ผล เขาทำจนมือของเขาชา
เมื่อสังเกตเห็นว่าซูผิงกำลังมีปัญหา มังกรเพลิงนรกก็คำรามและพุ่งเข้าหาเขา
อย่างไรก็ตามไฟระเบิดใส่มังกรเพลิงนรกในวินาทีต่อมา มันไม่สามารถคำรามได้จบไฟก็เผาอสูรจนเหลือแค่ฝุ่น
สุนัขมังกรดำก็เคลื่อนไหวและจบลงด้วยความตายเช่นเดียวกับมังกรเพลิงนรก
คืนชีพ!
ซูผิงนำพวกมันกลับมามีชีวิตอีกครั้งอย่างไม่ลังเล
นั่นทำให้อีกาทองคำประหลาดใจยิ่งกว่าเดิม นอกจากซูผิงแล้ว ชีวิตที่ต่ำต้อยทั้งสองนั้นยังสามารถฟื้นคืนชีพได้อีก อีกาทองคำกระพือปีก และไฟสีทองก็ฆ่ามังกรเพลิงนรกกับสุนัขมังกรดำอีกครั้ง
มังกรเพลิงนรกและสุนัขมังกรดำใช้ทักษะที่ดีที่สุดของพวกมัน แต่ไม่มีอะไรปัดเป่าไฟสีทองได้
คืนชีพ!
อีกาทองคำยิ่งอยากรู้มากขึ้นไปอีก และกักขังอสูรทั้งสองไว้ด้วยลูกบาศก์สีทองที่คล้ายคลึงกัน
“เจ้าอยู่คนละเผ่า แต่เจ้าสามารถช่วยเหลือซึ่งกันและกันได้” อีกาทองคำพบว่ามันน่าสนใจ มันวิเศษมากที่ได้เห็นสามเผ่าพันธุ์ที่เสียสละชีวิตเพื่อกันและกัน
การกระทำเหล่านั้นไม่น่าเกิดขึ้นได้
แม้แต่เผ่าพันธุ์เดียวกันก็ยังฆ่ากันเอง ไม่ต้องพูดถึงต่างเผ่าพันธุ์กัน
บนพื้นอสรพิษม่วงเพิ่งถูกความร้อนเผาจนตาย จากนั้นซูผิงก็คืนชีพมัน
อสรพิษม่วงนั้นเต็มไปด้วยความแข็งเจ้าร่ง เพราะมันเพิ่งคืนชีพ อสรพิษม่วงยกโขดหินรอบๆ ด้วยหางของมันแล้วขว้างใส่อีกาทองคำ
อีกาทองคำมองงูอย่างดูถูก ตั้งแต่เกิดมันมักจะดูถูกและฆ่าสิ่งที่อยู่บนพื้นเสมอ
แต่อีกาทองคำคิดว่างูนั้นก็ฆ่ายากเช่นกัน
หวืด อสรพิษม่วงมาถึงตัวอีกาทองคำ
อสรพิษม่วงตกใจที่จู่ๆก็เข้าใกล้ศัตรู พลังอันท่วมท้นของอีกาทองคำทำให้อสรพิษม่วงตัวสั่น มันขดตัวอยู่ในอากาศและแม้แต่เกล็ดของมันก็ยังสั่น
ลูกบาศก์สีทองคลุมตัวงูด้วย
ซูผิงได้ยินเสียงอีกาทองคำ “เจ้ามันแปลก ไปพบผู้อาวุโสกับฉัน” มันเหลือบมองซูผิงแล้วบินไป
ซูผิงและอสูรของเขาที่ถูกขังอยู่ในลูกบาศก์ก็ทองถูกดึงไปข้างหน้าด้วยพลังที่มองไม่เห็น และตามหลังอีกาทองคำ
ซูผิงสงสัยว่าเขาควรจะหนีไปด้วยการฆ่าตัวตายหรือว่าเขาควรไปที่ถ้ำของอีกาทองคำดี ซึ่งจะทำให้เสียเวลาหนึ่งวันไปเปล่าๆ
โชคดีที่ครั้งนี้เขาเพิ่งซื้อการคืนชีพในสนามบ่มเพาะแห่งนี้ ดังนั้นการเดินทางจะไม่ทำให้เขาเสียเวลาไปมากกว่านี้
เขาแค่กังวลว่าผู้อาวุโสอีกาทองคำจะค้นพบความสามารถในการคืนชีพที่แปลกประหลาดของเขา และจะผ่าชำแหละเขาเพื่อตรวจสอบ
“ระบบ เกี่ยวกับการคืนชีพ… นายแน่ใจได้ไหมว่ามันจะทำงานได้ดี? คนอื่นจะสามารถทำลายมันได้ไหม?” ซูผิงถาม
ซูผิงจะไม่กังวลหากเขาอยู่ในสนามบ่มเพาะอื่น อย่างไรก็ตามอีกาทองคำที่อาศัยอยู่ที่นี่เป็นสิ่งมีชีวิตที่เก่าแก่ที่สุดในจักรวาล เขาไม่สามารถจินตนาการได้เลยว่าพวกมันจะแข็งเจ้าร่งขนาดไหน
“อย่ากังวล ไม่มีใครสามารถหยุดฉันไม่ให้คืนชีพนายได้ ตราบใดที่นายมีแต้มพลังงานเพียงพอ”ระบบตอบอย่างมั่นใจ
ซูผิงรู้สึกโล่งใจเล็กน้อย แต่ความกังวลยังคงเข้าครอบงำจิตใจของเขา “นายมั่นใจดีนิ อย่าเพิ่งอวดดีในตอนนี้ ท้ายที่สุดนายจะไม่มีเจ้าของที่หล่อเท่าฉัน นายจะต้องสมเพชตัวเองถ้าต้องอยู่กับเจ้าของหน้าตาน่าเกลียดทุกวัน”
“ฉันจะไปหาสาวสวยทันทีที่นายตาย ทำไมฉันถึงต้องไปหาคนขี้เหร่?” ระบบตอบ
ซูผิงโกรธจัด “นี่นายกำลังจะบอกว่าฉันกำลังจะตายใช่ไหม?”
“นายเรื่องเยอะเกินไป!” ระบบโต้กลับ
ซูผิงไม่มีอารมณ์จะล้อเล่นกับระบบอีกต่อไป เขาต้องไว้วางใจระบบ
การฆ่าตัวตายอาจช่วยให้เขาหนีไปได้ แต่สุนัขมังกรดำและมังกรเพลิงนรกจะถูกทิ้งไว้ข้างหลัง เขาไม่สามารถสั่งให้พวกมันฆ่าตัวตายได้ นั่นรวมอยู่ในกฎของสัญญาด้วย เจ้านายสามารถสั่งให้อสูรสู้จนตัวตายได้เมื่อมีอันตราย แต่ไม่มีใครสามารถบอกอสูรของพวกมันให้ฆ่าตัวตายได้!
เมื่อเขาฆ่าตัวตายและออกจากสนามบ่มเพาะ สุนัขมังกรดำและมังกรเพลิงนรกจะยังมีชีวิตอยู่ พวกมันจะถูกพวกอีกาทองคำจับตัวไป พวกมันจะไม่อยู่ในพื้นที่สัญญาเมื่อหมดเวลาและซูผิงกลับไป พวกมันจะติดอยู่ที่นี่ตลอดไป
เขาสูญเสียโครงกระดูกน้อยไปแล้ว เขาไม่อาจสูญเสียได้อีก
ดังนั้นเขาจึงตัดสินใจไปกับอีกาทองคำ เขาอาจถูกคุมขังและทรมาน แต่ผลลัพธ์ที่แย่ที่สุดคือเขาต้องเสียแต้มพลังงานบางส่วน

หวืด!
ทิวทัศน์แวบผ่านเข้ามาในสายตาของเขา
เขาเห็นหลุมและทะเลสาบลาวา อีกาทองคำบินเร็วมาก เร็วกว่าความเร็วเสียง ซูผิงมั่นใจว่าลมเพียงอย่างเดียวอาจทำร้ายเขาได้ถ้าไม่ใช่เพราะลูกบาศก์ทองนี่ ไม่ต้องพูดถึงว่าเป็นลมร้อนบนดาวสวรรค์
เขาเชื่อว่าเขาจะลุกเป็นไฟ!
ซูผิงมองทิวทัศน์บนพื้น เบื่อแล้วจึงเริ่มคุยกับอีกาทองคำ “มีอีกาทองคำกี่ตัว?”
อีกาทองคำไม่ตอบ มันกระพือปีกและส่งเสียงร้องออกมาเป็นระยะๆ
“เธอมีสถานะอะไรในตระกูลของเธอ?” ซูผิงถามอีกครั้ง
ยังคงไม่มีการตอบกลับ
“ฉันไม่คิดว่าขะมีอีกาทองคำตัวไหนสวยเท่าเธอหรอกใช่ไหม?”
“ข้าสวยที่สุด” ในที่สุดอีกาทองคำก็เริ่มพูด
“ฉันไม่เชื่อ” ซูผิงไม่ได้ปิดบังความคิดของเขา
คำตอบนั้นทำให้อีกาทองคำโกรธจัดอย่างไม่ต้องสงสัย
แต่เนื่องจากไม่มีสิ่งใดสามารถฆ่าเขาได้ อีกาทองคำจึงเงียบลง
ถึงกระนั้นซูผิงก็ไม่ละทิ้งความพยายามในการที่จะสื่อสาร “ฉันได้ยินมาว่าอีกาทองคำเกิดและเติบโตจากฟ้าดิน หมายความว่าเธอไม่มีพ่อแม่เหรอ”
“…”
อีกาทองคำจ้องมาที่ซูผิง
ซูผิงไม่สนใจ เขาพยายามทำดีกับอีกาทองคำแต่ไม่ได้ผล เนื่องจากเขารู้ว่ากายแสงอาทิตย์นั้นขัดกับกฎตั้งแต่แรก ไม่มีอะไรที่เขาสามารถเปลี่ยนแปลงได้
“แต่ทำไมเธอถึงร้องเป็นบางครั้งตอนบินล่ะ?” ซูผิงถาม
“นั่นไม่ใช่เรื่องของเจ้า” อีกาทองคำตะโกนด้วยความโกรธ


อีกาทองคำชะลอตัวลงอย่างกะทันหัน ในขณะที่พวกเขายังคงสื่อสารอย่างสุภาพและไร้เดียงสาต่อไป แม้เขาจะอยู่ในลูกบาศก์ทอง เขาก็รู้สึกได้ถึงความร้อนที่ซึมเข้ามา
โลกรอบตัวพวกเขาไม่มีสีอื่นนอกจากทอง
ตรงหน้าเขาเป็นต้นไม้สูงตระหง่าน
นั่นคือต้นไม้ที่ใหญ่ที่สุดเท่าที่เขาเคยเห็น
เขาเห็นสีทองอยู่รอบๆ ต้นไม้ เขาตระหนักได้เมื่อมองใกล้ ๆ ว่าพวกมันคืออีกาทองคำ
อีกาเหล่านั้นมีขนาดใหญ่มากจนสามารถบดบังแสงแดดได้ แต่พวกมันกลับมีขนาดเท่ากับใบไม้ของต้นไม้โบราณนั้น อีกาทองคำบางตัวบินอยู่รอบ ๆ ขณะที่บางตัวเกาะอยู่บนใบไม้
ซูผิงประหลาดใจ
เขาเคยเห็นสิ่งมีชีวิตขนาดใหญ่มามากในสนามบ่มเพาะอื่นๆ
อย่างไรก็ตามต้นไม้นี่และอีกาทองคำทำให้เขาหายใจไม่ออก
อีกาทองคำแต่ละตัวใหญ่โตมาก แม้แต่ขนเส้นเดียวก็มีขนาดเท่าเรือขนเครื่องบิน! พวกมันบินไปรอบ ๆ ต้นไม้เหมือนผู้พิทักษ์
หนึ่งชั่วโมงผ่านไปตั้งแต่ซูผิงเห็นต้นไม้จากระยะไกล แม้ว่าฝุ่นและอากาศที่บิดเบี้ยวจะขัดขวางการมองเห็นของเขา แต่เขาก็ยังสามารถมองเห็นต้นไม้ต้นนั้นได้จากระยะไกล
เขารู้สึกว่าเหนือต้นไม้นั้นคือชั้นบรรยากาศของดวงดาวจริงๆ!
“นั่นคือที่ที่เธออาศัยอยู่หรอ?” ซูผิงโพล่งออกมา
อีกาทองคำสังเกตเห็นความประหลาดใจของซูผิง และตอบด้วยความภาคภูมิใจว่า “นี่คือดินแดนบรรพบุรุษของเราอีกาทองคำ เจ้าโชคดีมากที่ได้มาที่นี่”
ซูผิงไม่ได้สนใจการเยาะเย้ยของมัน
อีกาทองคำบางตัวที่บินลาดตระเวนรอบ ๆ ต้นไม้บินข้ามไปมา ซูผิงสามารถบอกได้ว่าอีกาทองคำที่พาเขามานั้นกำลังสั่นเพราะลม เมื่อเทียบกับอีกาทองคำที่ลาดตระเวนอยู่ อีกาทองคำตัวนี้ถือว่าตัวเล็กไปเลย! มันมีขนาดเท่าขนหนึ่งเส้นของอีกาทองคำที่ลาดตระเวน!
ตอนที่ 620 ทายาทของปรมาจารย์สวรรค์
หวืด!
ทันใดนั้นอีกาทองคำขนาดมหึมาก็หยุดอยู่ตรงหน้าซูผิง
แม้แต่ในลูกบาศก์ทอง ซูผิงพบว่าความรู้สึกแสบร้อนนั้นไม่สามารถทนได้
ความร้อนที่เพิ่มขึ้นมาจากอีกาทองคำขนาดมหึมา
ซูผิงได้ยินเสียงที่ดังสง่าจนเขารู้สึกอยากจะคุกเข่าและยอมจำนน
“ท่านหญิงตี้ฉงนำอะไรมาที่นี่น่ะ?”
แม้ว่าพลังจิตของซูผิงจะได้รับการขัดเกลา แต่อีกาทองคำก็ยังทำให้เขากลัว
อีกาทองคำนั้นอาจจะอยู่ที่ระดับดวงดาวขั้นสูงสุดหรือสูงกว่านั้นด้วยซ้ำ!
ซูผิงรู้สึกประหลาดใจ อีกาทองคำเป็นสิ่งมีชีวิตที่เก่าแก่ที่สุดและมีอายุยืนยาว เขาไม่สามารถจินตนาการได้ว่าพวกมันจะไปถึงระดับไหน
อีกาทองคำที่จับซูผิงมาน่าจะอยู่ในระดับดวงดาว เขาไม่สามารถระบุระดับของอีกาทองคำขนาดยักษ์นี่ได้
“นี่เป็นอสูรประหลาดที่เรียกตัวเองว่ามนุษย์ ข้าไม่สามารถฆ่ามันได้ไม่ว่าจะทำยังไง ดังนั้นข้าจึงคิดว่าควรนำพวกมันทั้งหมดกลับมาให้ผู้อาวุโสดูจะดีกว่า” อีกาทองคำสาวพูด
“ท่านไม่สามารถฆ่าพวกมันได้?” อีกาทองคำขนาดมหึมาตกใจ มีสิ่งมีชีวิตที่พวกเขาอีกาทองคำไม่สามารถฆ่าได้ด้วยหรือ?
สิ่งเหล่านี้เป็นสิ่งมีชีวิตที่ชั่วร้ายใช่ไหม?
เมื่อความคิดนี้เกิดขึ้น อีกาทองคำขนาดมหึมาก็แสดงเจตนาฆ่า
“ข้าจะไปตามทางของข้าแล้ว” อีกาทองคำสาวกล่าว
อีกาทองคำขนาดมหึมาขยับออก และตอบด้วยความเคารพ “ลาก่อน ท่านหญิตี้ฉง”
ในที่สุดซูผิงก็สามารถรู้ชื่อของอีกาทองคำที่จับตัวเขามา ขณะที่อีกาทองคำขนาดมหึมาบินออกมา ในที่สุดซูผิงก็รู้สึกผ่อนคลายขึ้น “เธอชื่อตี้ฉง? ฉันคิดว่านกสีทองนั้นปฏิบัติต่อเธอค่อนข้างดี แต่พลังต่อสู้ของเธอไม่ได้ดีขนาดนั้น เป็นเพราะเธอเพลิดเพลินกับสถานะที่สูงส่งที่นี่หรือเปล่า”
“ไม่ดีเหรอ?”
อีกาทองคำที่ชื่อตี้ฉงโกรธมาก สิ่งมีชีวิตที่ข้าสามารถบีบให้ตายได้กำลังบอกว่าพลังต่อสู้ของข้าไม่ดี?
”ฮึ!”
อีกาทองคำตี้ฉงไม่สนใจซูผิงอีกต่อไป และบินไปข้างหน้า
ซูผิงไม่ได้ถามย้ำ เขามองไปรอบๆ ขณะเดินทาง ยิ่งเห็นก็ยิ่งตะลึง อีกาทองคำที่นี่น่ากลัวกว่าตัวที่จับเขามาเสียอีก หนึ่งในอีกาทองคำดังกล่าวสามารถทำลายดาวเคราะห์สีน้ำเงินได้เป็นสิบๆครั้ง!
นี่เป็นสิ่งมีชีวิตโบราณอย่างแท้จริง!
โชคดีที่ที่นี่อยู่ไกลจากโลกที่ข้าอาศัยอยู่…
ความคิดนั้นเตือนซูผิง เขาถามระบบทันที “ดาวสวรรค์ถูกทำเครื่องหมายบนแผนที่ของสหพันธ์หรือไม่?”
ระบบทำให้เขาสงบลง “อย่าเครียดนักเลย เทคโนโลยีของนายไม่สามารถตรวจจับบางสิ่งที่อยู่ไกลขนาดนี้ได้”
ซูผิงรู้สึกโล่งใจ
มันจะเป็นหายนะสำหรับมนุษยชาติหากอีกาทองคำเหล่านี้เข้าไปติดต่อกับสหพันธ์
อีกาทองคำเป็นอสูรโบราณ และพวกมันทุกตัวเป็นนักรบ อีกาทองคำ’สาว’ที่จับตัวเขาอยู่ในระดับดวงดาว แล้วตัวอื่นๆล่ะ? มันทำให้เขากลัวเมื่อคิด

หวืด!
ตี้ฉง พาซูผิงและอสูรของเขาค่อยๆเดินเข้าไปใกล้ต้นไม้
ดูเหมือนว่าใกล้จะถึงต้นไม้แล้ว แต่กลับใช้เวลานานกว่าจะมาถึง กิ่งไม้ขยายใหญ่ขึ้นเต็มตาของซูผิง ขณะที่พวกเขาเคลื่อนเข้าไปใกล้ ในที่สุดสิ่งที่ซูผิงเห็นคือใบเพียงใบเดียว ใบของมันเป็นเหมือนถนนกว้าง
ตี้ฉง กำลังบินไปที่ยอดต้นไม้ อีกาทองคำทักทายเธอตลอดทาง ซูผิงมั่นใจว่า ตี้ฉง มีสถานะที่สูงส่ง
แม้แต่สิ่งมีชีวิตที่เร็วพอๆ กับ ตี้ฉง ก็ยังต้องบินนานกว่าสิบนาทีกว่าจะมาถึงยอดต้นไม้ ที่ซึ่งอีกาทองคำจำนวนมากพักอยู่ ซูผิงไม่สามารถบอกได้ว่ามีกี่ตัว ความจริงก็คือเขาไม่สามารถมองเห็นอีกาทองคำได้ทั้งตัวด้วยซ้ำ
อีกาทองคำเหล่านี้มีขนาดใกล้เคียงกับพวกที่ออกลาดตระเวน
ข้าอยู่ในถ้ำของพวกมันอย่างเป็นทางการ!
ซูผิงสัมผัสได้ถึงลมหายใจอันน่าสะพรึงกลัวที่อยู่รอบตัวเขา เขาเป็นเหมือนมดที่เสิร์ฟให้กับกลุ่มยักษ์ และเขาไม่สามารถหนีได้ หากไม่ใช่เพราะว่าเขาได้ฝึกฝนในสนามบ่มเพาะมาหลายแห่ง ความกลัวเพียงอย่างเดียวคงคร่าชีวิตเขาไปแล้ว
ซูผิงกลั้นหายใจ
เขาไม่กลัวความตาย แต่มันไม่ได้ทำให้เขากลัวน้อยลง
หวืด!
ตี้ฉง นั้นเล็กไปเลยเมื่อเทียบกับอีกาทองคำเหล่านี้ ถึงกระนั้นความจริงก็คือ ตี้ฉง นั้นใหญ่พอๆ กับเรือขนเครื่องบิน และไม่มีอะไรใกล้เคียงกับ “เล็ก” เลย
พวกเขาตกลงบนกิ่งไม้ที่ซูผิงมองเห็นได้เพียงบางส่วนเท่านั้น ตี้ฉง คว้ากิ่งไม้ด้วยกรงเล็บทั้งสามแล้วพับปีก เดินไปข้างหน้า มีบางกิ่งที่ปลายกิ่งบดบังท้องฟ้า อีกาทองคำขนาดใหญ่กำลังพักผ่อนอยู่ใต้กิ่งไม้
ยิ่งพวกเขาอยู่ใกล้กิ่งไม้เท่าไร ซูผิงก็ยิ่งมองเห็นท้องฟ้าน้อยลงเท่านั้น ในที่สุด ซูผิงก็มองเห็นแต่กิ่งไม้สีทอง
“น้อมพบ ท่านผู้อาวุโส”
ตี้ฉง โค้งคำนับต่อหน้าอีกาทองคำขนาดใหญ่สามตัว
อีกาทองคำทั้งสามตัวนั้นใหญ่กว่าอีกาทองคำที่ลาดตระเวนที่ซูผิงเห็น ตี้ฉงถือว่ามีขนาดเพียงหนึ่งในห้าของขนบนหลังของพวกมัน เมื่อเปรียบเทียบกับพวกมัน ตี้ฉง เหมือนฝุ่นละออง
”ฮะ?”
ขณะที่ ตี้ฉง แสดงความเคารพ อีกาทองคำที่นั่งตรงกลางก็ลืมตา “ฉงเอ๋อ สิ่งที่อยู่ข้างหลังเจ้าคืออะไร”
ตี้ฉง ตอบทันที “ผู้อาวุโสสูงสุด มันเป็นสิ่งมีชีวิตที่แปลกประหลาดที่ข้าพบภายนอก และมันเรียกตัวเองว่ามนุษย์ ข้าไม่สามารถฆ่ามันได้ไม่ว่าจะพยายามแค่ไหน มันได้เรียนรู้ทักษะของเราด้วย มันคงขโมยมาจากที่ไหนสักแห่ง เลยตัดสินใจพามาให้พวกท่านดู”
“เจ้าไม่สามารถฆ่ามันได้อย่างงั้นรึ?”
อีกาทองคำที่นั่งทางขวาลืมตา เผยให้เห็นตาที่เฉียบคม “ลองไฟพิเศษแล้วหรือยัง?”
”ลองแล้วเจ้าค่ะ” ตี้ฉง พยักหน้า
เธอพบว่าข้อเท็จจริงนั้นแปลกเพราะว่าแม้แต่เปลวไฟก็ยังไม่เพียงพอที่จะฆ่าสิ่งมีชีวิตนี้
ตี้ฉง รู้ว่าเปลวไฟที่ปล่อยออกมานั้นมีพลังมากพอที่จะเผาทุกอย่างให้กลายเป็นฝุ่น ยกเว้นเมื่อสิ่งมีชีวิตที่เป็นปฏิปักษ์อยู่ในระดับสูงกว่า ไม่มีเกราะหรือโล่ใดต้านทานเปลวไฟนั้นได้!
เห็นได้ชัดว่าซูผิงอ่อนแอ แต่เปลวไฟกลับไม่สามารถฆ่าเขาได้ มันค่อนข้างแปลก
“ข้าไม่เคยได้ยินสิ่งที่เรียกว่ามนุษย์มาก่อน ดูสิ มีความมืดอยู่ภายใน มาจากตระกูลอันเดธรึ?” อีกาทองคำทางซ้ายถาม
เสียงของมันอ่อนโยนและสุภาพ
อีกาทองคำตัวอื่น ๆ มองซูผิงด้วยความอยากรู้
“ดูเขา…”
หัวหน้าผู้อาวุโสจ้องมองซูผิง “ถ้าข้าคิดไม่ผิด เขาน่าจะเป็นทายาทของปรมาจารย์สวรรค์”
“ทายาทของปรมาจารย์สวรรค์?”
อีกาทองคำอีกสองตัวจ้องมองหัวหน้าผู้อาวุโสอย่างไม่เชื่อ
“โครงสร้างร่างกายนี้แปลก ในสมัยแรกๆ ข้าเคยไปเยี่ยมปรมาจารย์สวรรค์กับบรรพชนของเรา และปรมาจารย์สวรรค์ผู้นั้นมีลักษณะเช่นนี้…” ผู้อาวุโสสูงสุดอธิบาย
อีกาทองคำคนอื่นๆ ประหลาดใจ สิ่งมีชีวิตเล็กจ้อยนี้เป็นทายาทขอปรมาจารย์สวรรค์?
ซูผิงก็ได้ยินเช่นกัน เขาเงยหน้าขึ้นแต่มองเห็นเพียงครึ่งล่างของอีกาทองคำ ท่อนบนของพวกมันอยู่ไกลจากสายตาของเขา!
เขาไม่สามารถแม้แต่จะคิดได้ว่าอีกาทองคำนั้นใหญ่แค่ไหน!
เขาคิดว่าอีกาทองคำควบคุมเสียงของพวกมันไว้เพราะเขาสามารถได้ยินพวกมันได้ แต่เสียงนั้นไม่ฟังดูรุนแรงนัก มันเหมือนกับเสียงที่อยู่ในหัวของเขา เหมือนตอนที่ ตี้ฉง คุยกับเขา
“ทายาทของปรมาจารย์สวรรค์?”
ซูผิงอยากรู้ เขาเคยชินกับการถูกเรียกว่า “ตัวประหลาด” เขาเป็นคนแปลกและต่างเผ่าพันธุ์ในสายตาของพวกมัน
“ระบบ ปรมาจารย์สวรรค์คืออะไร?” ซูผิงถาม
ระบบตอบหลังจากนั้นไม่กี่วินาที “ปรมาจารย์สวรรค์ เจ้าแห่งสวรรค์ นายไม่สามารถจินตนาการได้หรอก นายคงไม่เข้าใจ”
“เจ้าแห่งสวรรค์?” ซูผิงไม่เข้าใจ
สวรรค์?
สวรรค์…ไม่ใช่ชั้นบรรยากาศ?
ในสมัยก่อน ผู้คนมักจะสวดอ้อนวอนขอพรจากสวรรค์ แต่นั่นเป็นความเชื่อทางไสยศาสตร์ ตามคำจำกัดความทางวิทยาศาสตร์ของสังคมสมัยใหม่ สวรรค์เป็นเพียงบรรยากาศและพื้นที่นอกดาวเคราะห์
อย่างไรก็ตาม ดูจากระบบ สวรรค์มีอยู่จริง
ระบบเพียงแค่แสร้งทำเป็นว่าไม่ได้อ่านความคิดของซูผิง และหยุดพูด
“เพื่อหลีกเลี่ยงสงคราม พวกเราอีกาทองคำได้ปิดดาวดวงนี้มาหลายปีแล้ว ทายาทของปรมาจารย์สวรรค์มาอยู่ที่นี่ได้อย่างไร?” อีกาทองคำนั่งอยู่ทางขวาถาม เสียงของอีกาทองคำนั้นฟังดูแน่วแน่และมั่นคง
“มีอะไรเกิดขึ้นกับปรมาจารย์สวรรค์คนนั้นหรือเปล่า? ปรมาจารย์สวรรค์ได้ส่งลูกหลานมาหาที่พักพิงที่นี่ใช่หรือไม่? แต่ทายาทนี่อ่อนแอเกินไป แม้แต่การใช้ชีวิตก็ยังเป็นปัญหาใหญ่สำหรับเขา” อีกาทองคำที่นั่งทางซ้ายเถียง
อีกาทองคำตัวอื่นๆ มองหัวหน้าผู้อาวุโสของพวกเขาด้วยความอยากรู้
ตี้ฉง ที่นำซูผิงมาจ้องมองเขา ตี้ฉง เคยได้ยินชื่อปรมาจารย์สวรรค์หลายครั้ง แต่ก็ไม่เคยเห็นมาก่อน มีปรมาจารย์สวรรค์มากมายและพวกเขาทั้งหมดมีพลังเทียบเท่าบรรพชนอีกาทองคำ ผู้ชายปากร้ายคนนี้เป็นทายาทของปรมาจารย์สวรรค์จริงๆหรอ?
ปรมาจารย์สวรรค์มีลักษณะเช่นนี้?
น่าเกลียด!
ตี้ฉง ส่ายหัว ในฐานะนกตัวหนึ่ง นกตัดสินกันที่ใบหน้า มันไม่สามารถทนกับผู้ชายที่ไม่มีคุณค่าทางสุนทรียะใดๆ ได้
ซูผิงสังเกตเห็นว่าตี้ฉงส่ายหัวหัวด้วยสายตาดูถูกเหยียดหยาม จากสีหน้า เขาเข้าใจทันทีว่าการดูหมิ่นนั้นมาจากไหน
เขาชอบความตายมากกว่าความอัปยศ!
วันหนึ่งข้าจะถอนขนเจ้าให้หมด! ซูผิงพูดกับตัวเอง
ตี้ฉง จ้องซูผิง
หัวหน้าผู้อาวุโสพูดอีกครั้ง มันไม่ตอบคำถาม หัวหน้าผู้อาวุโสถามซูผิงว่า “มนุษย์ เจ้ามาจากไหน? ทำไมถึงมาอยู่ที่นี่?”
อีกาทองคำจ้องมาที่ซูผิง
ทันใดนั้นซูผิงรู้สึกว่าเขากำลังแบกภูเขาถึง 10 ลูก เขาอาจจะสูญเสียความคิดหรือแม้กระทั่งชีวิตของเขา
ซูผิงโล่งใจเพราะเขาไม่รู้สึกถึงเจตนาฆ่าใด ๆ จากคำถามของผู้อาวุโสสูงสุด “ผมชื่อซูผิงและผมมาจากดาวเคราะห์อันห่างไกลที่มนุษย์ครอบครองอยู่ ผมมาที่นี่เพื่อมองมาหาวัตถุดิบเพื่อที่จะไปถึงกายแสงอาทิตย์ขั้นสอง ผมต้องการทำอย่างนั้นเพื่อช่วยเพื่อนของผม”
“เจ้าไปเรียนมาจากไหน?” หัวหน้าผู้อาวุโสถามอีกครั้ง ซูผิงไม่สามารถบอกได้ว่ามันโกรธหรือมีความสุข
“ก็… อีกาทองคำตัวหนึ่งให้สิ่งนั้นแก่ผม ผมเคยให้ความช่วยเหลือเขาเล็กน้อยในอดีต” ซูผิงมีสีหน้าจริงจังในขณะที่เขาพูด
เขาสามารถโกหกได้เมื่ออยู่ต่อหน้าตี้ฉง แต่เขาไม่มั่นใจเมื่อต้องรับมือกับผู้อาวุโสสูงสุดและอีกาทองคำอีกมากมาย
อย่างไรก็ตามดูเหมือนผู้อาวุโสสูงสุดจะไม่รู้ว่ามันเป็นเรื่องโกหก “เจ้ามาที่นี่ได้อย่างไร? เราปิดดาวของเราแล้ว เป็นไปไม่ได้ที่เจ้าจะมาจากภายนอก”
ซูผิงไม่รู้แน่ชัดว่าอีกาทองคำหมายถึงอะไรกับคำว่า “ปิดดาว” แต่เขาสามารถคิดทฤษฎีขึ้นมาได้ “ผมมีวิธีพิเศษที่ช่วยให้ผมสามารถเคลื่อนย้ายมาที่นี่ได้โดยตรง นั่นคือความลับของผม ผมขอโทษที่ไม่สามารถบอกรายละเอียดได้”
ผู้อาวุโสสูงสุดเงียบไปครู่หนึ่งก่อนจะถามว่า “เจ้ามาที่นี่เพื่อมาหาวัตถุดิบที่จำเป็นสำหรับกายแสงอาทิตย์ขั้นสองใช่ไหม?”
ซูผิงพยักหน้า “ใช่!”
“ไร้สาระ!”
อีกาทองคำที่นั่งอยู่ทางขวาพ่นลมหายใจ “เจ้าคิดว่าจะโกหกพวกเราได้อย่างงั้นหรอ? มันไม่ได้ผล! เรารู้ว่าเจ้าโกหก!”
ซูผิงคร่ำครวญอยู่ภายใน เขาแน่ใจว่ามันอยู่เหนือขอบเขตดวงดาว อาจเทียบได้กับสิ่งมีชีวิตอย่างปรมาจารย์สวรรค์
เขาไม่สามารถจินตนาการได้ว่าอีกาทองคำมีทักษะอะไร
“ผมแค่มาเพื่อหาวัตถุดิบ ผมไม่ต้องการอะไรอย่างอื่น” ซูผิงไม่ได้บอกว่าเขาไม่ได้โกหก มันเป็นความจริงที่เขาโกหก และเลวร้ายที่สุดที่อาจเกิดขึ้นก็คือเขาถูกทรมาน
เขาแค่หวังว่าระบบจะพูดจริงที่ว่าการคืนชีพนั้นเชื่อถือได้ หากอีกาทองคำสามารถเข้าใจได้ว่าทำไมเขาถึงคืนชีพขึ้นมาและหยุดสิ่งนั้นได้ เขาจะไม่มีวันได้หายใจอีกต่อไป!

ร้านขายอสูรดวงดาว Astral Pet Store

ร้านขายอสูรดวงดาว Astral Pet Store

Status: Ongoing

ฉันถูกส่งไปยังโลกแห่งอสูร มีสิ่งมีชีวิตทุกรูปแบบ ทุกขนาด พวกมันสามารถเป็นสหายน่ากอด ผู้ช่วยในชีวิตประจำวัน หรือนักสู้ ไม่เลวเลยใช่ไหมละ? ฉันมีครอบครัว แต่ความจริงกลับถูกบดบังโดยน้องสาวฉัน เธอเกลียดฉันมาก และก็คอยรังแกฉันทุกวัน ฉันบอกหรือยังว่าเธอมีพรสวรรค์สูงมาก ส่วนฉันเป็นคนไร้พรสวรรค์?ก็แค่หล่อสุดๆ ฉันมีอิสระในการดำเนินธุรกิจของครอบครัวเอง ร้านอสูรเล็กๆ มันควรจะดีหากไม่ใช่ความจริงที่เจ้าของร่างเดิมนี้เกิดมามีความสัมพันธ์เป็นศูนย์กับการควบคุมอสูรดวงดาว… คงไม่คิดว่ามันเป็นการข้ามโลกโดยไร้ระบบหรือกลไกอะไรที่จะปูถนนให้ฉันหรอกนะ?ฉันมี แต่ฉันไม่รู้ว่าไม่มีมันจะดีกว่าไหม…

แสดงความคิดเห็น

ใส่ความเห็น

อีเมลของคุณจะไม่แสดงให้คนอื่นเห็น ช่องข้อมูลจำเป็นถูกทำเครื่องหมาย *

ปรับฟอนต์

**ถ้าปรับโหมดมืดอยู่** ให้เปลี่ยนเป็นโหมดสว่าง ก่อนจะปรับสีพื้นหลัง
รีเซ็ท