ตอนที่ 601 ร้องเรียกความตาย
สิ่งมีชีวิตโบราณที่อสูรสี่ปีกเห็นในอาณาจักรวิญญาณนั้นยังคงทำให้มันหวาดกลัว สิ่งนั้นน่ากลัวยิ่งกว่าสิ่งใดๆ ที่มันเคยเห็นมา!
อสูรร้ายไม่รู้ว่ามนุษย์ที่อ่อนแอนี้สามารถนำเอาสิ่งมีชีวิตที่น่ากลัวนั้นในโลกวิญญาณมาได้ยังไง
เขาต้องมีเจตจำนงประดุจเหล็กกล้าถึงจะทำอย่างนั้นได้!
ได้เวลาใช้ดาบของฉันแล้ว!
ซูผิงสังเกตเห็นบาดแผลที่หน้าอกของอสูรร้าย จากหางตาของเขา เขาสังเกตเห็นว่าหลี่หยวนเฟิงปกติดี และไม่เป็นอันตราย ซูผิงไม่มีความกังวลอีกต่อไป เขาตัดสินใจว่าเขาต้องกำจัดภัยคุกคามและออกไปจากที่นี่โดยเร็วที่สุด มันคงไม่ใช่เรื่องดีที่อสูรมีปีกมุ่งเป้ามาที่พวกเขาแบบนี้!
ปิ้ว!
ซูผิงหยิบดาบในพื้นที่เก็บของของเขา
เขาใส่พลังงานที่เป็นของราชาอาชูร่าลงในดาบ ดาบแห่งความมืดตื่นขึ้น เปล่งแสงวาววับแต่มืดมิด
ดาบแห่งบาป!
นี่เป็นทักษะที่เหนือกว่าระดับตำนาน!
ซูผิงปลดปล่อยพลังดวงดาวพร้อมกับพลังเทพ เวลาหยุดนิ่งทันที ส่งผลกระทบรอบตัวเขาไปกว่าหลายร้อยเมตร!
ความว่างเปล่ากลายเป็นดาบนับไม่ถ้วน และซูผิงก็เป็นผู้บัญชาการดาบทั้งหมด!
ฆ่าอสูรร้ายนั้น!
ร่างเสมือนปรากฏขึ้นเบื้องหลังซูผิง ร่างนั้นใช้ดาบเลียนแบบการเคลื่อนไหวของซูผิง! ไม่มีคำพูดใดสามารถอธิบายสิ่งที่เกิดขึ้นได้ วินาทีที่เกิดการโจมตี ก็มีความปั่นป่วนในอากาศ มันเหมือนกับสิ่งมีชีวิตล่องหนที่แหวกอากาศมา ทิ้งรอยร้าวอันดำมืดมากมายซึ่งเต็มไปด้วยพลังทำลายล้าง
“ผมไม่…”
หลี่หยวนเฟิงเห็นมุมมองที่น่ากลัว
น่ากลัวมาก!
แม้จะเป็นคนที่เฝ้ามองอยู่ไกลๆ หลี่หยวนเฟิงก็สัมผัสได้ถึงความรู้สึกที่ลึกซึ้งของความตายที่เกิดจากดาบสีดำเล่มนั้น
หากเขาเป็นเป้าหมาย… เขามั่นใจว่าเขาจะหลีกเลี่ยงความตายไม่ได้!
ซูผิงอยู่แค่ระดับกิตติมศักดิ์จริงๆหรอ?!
หลี่หยวนเฟิงงง ในระหว่างนี้ในที่สุดอสูรมีปีกก็หลุดพ้นจากอิทธิพลที่หลงเหลืออยู่ของการโจมตีจากอาณาจักรวิญญาณ จากนั้นมันก็เห็นดาบสีดำ ความกลัวสุดขีดทำให้เกิดความโกรธอย่างรุนแรง อสูรร้ายคำราม ดวงตาเป็นสีแดงและสะบัดอาวุธทั้งสี่
อาวุธทั้งสี่มีจุดแข็งเฉพาะตัว
ขวานสามารถฟันทะลุอากาศได้ โซ่เหล็กสามารถผ่าและรัด ดาบนั้นคมที่สุด และไม้ขนาดใหญ่ก็เป็นอย่างเดียวที่อสูรร้ายเล็งใส่หัวของซูผิง! อสูรร้ายต่อสู้กลับด้วยพลังงานสูงสุดในช่วงเวลาที่สิ้นหวัง การจู่โจมนั้นทรงพลังมากจนสิ่งมีชีวิตในสภาวะว่างเปล่าจะต้องวิ่งหนี และจะต้องตายอย่างแน่นอน!
สาด-!
โซ่เหล็กหลายเส้นเลื้อยเข้าหาดาบ แต่คลื่นดาบได้ตัดโซ่เหล็กออกก่อนที่จะไปถึงเป้าหมายได้ ขวานทำให้เกิดรอยร้าวในอากาศ สร้างพลังบิดเบือนเพื่อพยายามกลืนคลื่นดาบ แต่คลื่นดาบก็ยังผ่ารอยแยกเป็นสองส่วน!
“สภาวะว่างเปล่าขั้นสอง? ฉันไม่เชื่อ!” อสูรสี่ปีกตะโกน จ้องไปที่ชายหนุ่มราวกับว่าเขาเป็นตัวประหลาด
ปัง!!
ไม้ถูกหยุดโดยพลังที่มองไม่เห็น ดาบของอสูรร้ายปะทะเข้ากับคลื่นดาบที่ปล่อยออกมาจากดาบของซูผิง ทุกคนได้ยินเสียงดังก่อนที่ทุกอย่างจะหยุดลง ราวกับว่าเวลาผ่านไปหลายปี จากนั้นพวกเขาก็ได้ยินบางอย่างที่อาจทำให้หูหนวกได้ บางอย่างที่คล้ายกับฟ้ากำลังถล่ม
ดาบของอสูรร้ายหัก เสียงร้องของอสูรร้ายเงียบหายไป
คลื่นดาบค่อยๆหายไป อสูรปีกถอยหลังไปหลายร้อยเมตร มันพิงกำแพงและบาดแผลบนร่างของอสูรร้ายนั้นดูน่ากลัวมาก
บาดแผลเริ่มจากหน้าอกลากยาวไปจนถึงหางของมัน!
เลือดไหลออกมาจากบาดแผลนั่น
อสูรร้ายหวาดกลัว ทันใดนั้นความตายก็มาจ่อที่หน้าประตู
แต่ถึงแม้อสูรร้ายนั้นจะมีเลือดออก แต่ชิ้นเนื้อที่อยู่ใกล้ๆกับบาดแผลก็กำลังเคลื่อนไหว พยายามที่จะปิดบาดแผล!
หลี่หยวนเฟิงตกตะลึงเมื่อเห็น
”ไปลงนรกซะ!!”หลี่หยวนเฟิงตะโกนและวิ่งเข้าใส่อสูรร้าย
แต่ซูผิงหยุดเขาไว้ “ไม่เป็นไร อสูรร้ายตายแล้ว”
หลี่หยวนเฟิงจ้องไปที่ซูผิงที่กำลังเก็บดาบ
จากนั้นเขาก็ได้ยินเสียงร้องโหยหวนหลังจากเสียงระเบิด
เขามองไปข้างหลัง เห็นเปลวไฟสีดำพวยพุ่งออกมาจากบาดแผลของอสูรร้าย ไฟนรกได้เผาเนื้อและเลือด ค่อยๆ ลามไปทั่วร่างของอสูรร้าย กลืนกินมันจนหมด
“แกจะไม่มีวันได้ออกไป!!” อสูรสี่ปีกกรีดร้องในเปลวเพลิง
หลี่หยวนเฟิงจ้องอสูรร้ายที่กำลังดิ้นรนอยู่ในเปลวไฟ
ริมฝีปากของเขาบิดเบี้ยวขณะที่เขาฝืนยิ้ม “น้องซู คุณไม่ได้ทำให้ผมดูดีเลยนะ?”หลี่หยวนเฟิงกลับมาหาซูผิง
“ออกไปจากที่นี่กันเถอะ” ซูผิงกล่าว เสียงร้องของอสูรร้ายทำให้เขากังวลมากกว่าเดิม
หลี่หยวนเฟิงหยุดล้อเล่น เขาวิ่งไปพร้อมกับซูผิงด้วยใบหน้าที่อ่อนล้า
“แกจะไม่มีทางได้ออกไป!!”
ขณะที่ทั้งสองพยายามจะออกไป เสียงตะโกนของอสูรร้ายนั้นยิ่งน่ากลัวมากขึ้นกว่าเดิม ทันใดนั้นอสูรร้ายก็ระเบิดออกเป็นชิ้น ๆ และมีวังวนสีดำปรากฏขึ้นตรงกลางตัวอสูรร้าย วังวนมีเส้นผ่านศูนย์กลางสิบเมตร สองวินาทีต่อมากรงเล็บอันแหลมคมคู่หนึ่งเอื้อมมือออกมาจากวังวน
“แกฆ่าขุนพลของฉัน แกเป็นผู้นำของมนุษย์ที่อ่อนแอเหล่านี้สินะ?”
เสียงเย็นเยียบดังออกมาจากวังวนขณะที่หัวขนาดใหญ่ยื่นออกมา ร่างกายของอสูรร้ายถูกปกคลุมไปด้วยเกล็ดและหนามแหลม มันใหญ่เท่าเนินเขาเล็ก ๆ ใหญ่พอที่จะทำให้ทางเดินแน่นเอี๊ยด!
บูม!
พื้นดินสั่นสะเทือน ซูผิงและหลี่หยวนเฟิงหน้าซีดเพราะตกใจ
“สภาวะชะตากรรม!!”หลี่หยวนเฟิงอดไม่ได้ที่จะตะโกนออกมาด้วยความตื่นตระหนก ประสบการณ์หลายปีที่สั่งสมมาบอกเขาว่ามันคือราชาอสูรที่สภาวะชะตากรรม!
ซูผิงก็รู้สึกไม่ดีเช่นกัน นอกเหนือจากอสูรร้ายที่เขาต่อสู้ด้วยในสนามบ่มเพาะแล้ว ราชาอสูรร้ายในสภาวะชะตากรรมตัวเดียวที่เขาพบบนดาวเคราะห์สีน้ำเงินคือราชาสวรรค์ต่างโลก!
ถึงกระนั้นเขาก็สามารถบอกได้ว่าราชาต่างสวรรค์โลกเทียบกับตัวนี้ไม่ได้เลย!
”วิ่ง!” ซูผิงตะโกน
หลี่หยวนเฟิงวิ่งอย่างเต็มกำลังโดยไม่หันหลังกลับไปมอง
พวกเขาพยายามเคลื่อนย้ายจากที่หนึ่งไปยังอีกที่หนึ่ง
โฮกกก!
ราชาอสูรร้ายตัวหนึ่งออกมาเพื่อหยุดพวกเขา แต่ซูผิงวิ่งผ่านราชาอสูรร้ายทันทีที่มันปรากฏตัว ฉีกอวัยวะที่สำคัญของมันออกเป็นชิ้นๆ จนมันตายคาที่
เขาฆ่าราชาอสูรร้ายด้วยกระบวนท่าเดียว!
ทั้งซูผิงและหลี่หยวนเฟิงมีความแข็งแกร่งที่จะฆ่าราชาอสูรร้ายในสภาวะสมุทร แต่พวกเขาเลือกที่จะซ่อนตัวขณะเดินทางมายังทางเดิน เพราะพวกเขาไม่ต้องการสร้างความวุ่นวาย
แต่แล้วพวกเขาก็ไม่จำเป็นต้องปิดบังอีกต่อไป
อสูรปีกและราชาอสูรร้ายนั้นมุ่งเป้ามาที่พวกเขา ร่องรอยของพวกเขาถูกเปิดเผย!
บูม-!
อสูรร้ายสี่ปีกถูกเผาเป็นเถ้าถ่าน วังวนสีดำขยายตัวจากซากของมัน ในขณะที่อสูรร้ายตัวใหญ่ค่อยๆ คลานออกมา
ในที่สุดอสูรร้ายก็ปรากฏเต็มตัวในทางเดิน
วังวนหายไปแล้ว อสูรปีกก็เช่นกัน
ราชาอสูรสภาวะชะตากรรมที่อสูรปีกเรียกออกมาด้วยพลังชีวิตที่เหลืออยู่เริ่มสั่นสะท้าน ราชาอสูรร้ายลดขนาดลง ค่อยๆ กลายเป็นสิ่งมีชีวิตที่มีความสูงเพียงไม่กี่เมตร ซึ่งคล้ายกับมนุษย์
แต่มันเหมือนมนุษย์ที่รวมเข้ากับอสูรมากกว่า สิ่งนั้นไม่มีคิ้ว แต่มีตาสีแดงสี่ดวงที่หน้าผาก แก้มของมันเหมือนเหงือก สิ่งมีชีวิตนั้นให้ความรู้สึกที่ชั่วร้าย
ตอนที่ 602 สู้กับราชาอสูรสภาวะชะตากรรม
“อืม!”
ชายหนุ่มตาแดงซึ่งจริง ๆ แล้วเป็นราชาอสูรร้ายสภาวะชะตากรรมจ้องมองซูผิงและหลี่หยวนเฟิงที่กำลังวิ่งหนี พื้นที่รอบๆ ราชาอสูรเริ่มบิดเบี้ยวจนทำให้อากาศปั่นป่วน
“เร็ว!”
ซูผิงและหลี่หยวนเฟิงยังคงพยายามหนีอย่างเต็มที่
ราชาอสูรร้ายจำนวนมากขึ้นเรื่อยๆ ออกมาจากทางแยกระหว่างทาง ขณะที่พวกเขารุดไปข้างหน้า ราชาอสูรร้ายเหล่านั้นกำลังดำเนินการภายใต้คำสั่ง ซึ่งต้องหยุดมนุษย์ทั้งสองคนนี้ แม้แต่ราชาอสูรร้ายที่หลับใหลก็ยังออกมาร่วมด้วย
“หลีกไปให้พ้น!!”
หลี่หยวนเฟิงรู้สึกกังวล
เมื่อเทียบกับราชาอสูรเหล่านั้น ตัวที่อยู่สภาวะชะตากรรมนั้นช่างน่ากลัวจริงๆ เนื่องจากเขาอยู่ที่สภาวะว่างเปล่า เขาจึงสามารถเอาชนะราชาอสูรร้ายในสภาวะสมุทรได้อย่างง่ายดาย ตามตรรกะนั้น ราชาอสูรร้ายในสภาวะชะตากรรมนั้นก็สามารถเอาชนะและบดขยี้เขาได้ง่ายๆเช่นกัน!
หลี่หยวนเฟิงปลดปล่อยความแข็งแกร่งที่มากกว่าเดิม รอยดำปรากฏขึ้นในอากาศ มันเป็นพื้นที่สัญญาที่เปิดออก
หลี่หยวนเฟิงและซูผิงก้าวไปข้างหน้าเพื่อหลบการโจมตีของราชาอสูรร้าย
ราชาอสูรร้ายบางตัวใช้การโจมตีทางวิญญาณและบางตัวใช้ธาตุเพื่อโจมตีพวกเขา พวกเขายังสังเกตเห็นว่าราชาอสูรร้ายบางตัวสามารถใช้สนามพลังพิเศษได้
หลี่หยวนเฟิงมีประสบการณ์ในการต่อสู้ เขารู้ทักษะมากมายและมีสมบัติล้ำค่ามากมาย การโจมตีทางจิตวิญญาณเหล่านั้นไม่ได้ผลกับเขา และความว่องไวของเขาทำให้เขาสามารถหลีกเลี่ยงการโจมตีได้ทันเวลาหลายครั้ง
ซูผิงก็มีประสบการณ์เช่นกัน แม้ว่าเขาจะไม่ได้อยู่ในถ้ำลึกมาแปดร้อยปี แต่เขาก็ต่อสู้อย่างเข้มข้นในสนามบ่มเพาะ เขาลิ้มรสความตายมาหลายครั้งแล้ว อาจมีประสบการณ์มากกว่าหลี่หยวนเฟิงด้วยซ้ำ! อย่างไรก็ตามหลี่หยวนเฟิงไม่ได้ใช้เวลาทุกนาทีไปกับการต่อสู้ในช่วงหลายปีที่ผ่านมา นอกจากนี้ยังมีความจริงที่ว่าการต่อสู้บางครั้งมีอันตรายน้อยกว่านี้
ปัง!
ซูผิงวิ่งผ่านราชาอสูรร้าย มีสายฟ้าแล่บที่ขอบแผลมัน
ซูผิงใช้กฎสายฟ้าเบื้องต้น
เขารู้สึกว่าเขาอาจจะสามารถบรรลุพลังสายฟ้าด้วยพลังมิติได้ถ้าเขาสามารถเข้าใจกฎสายฟ้าให้ลึกซึ้งยิ่งขึ้น ลองนึกภาพตามดู หากเกิดเขาเพิ่มสายฟ้าฟาดเข้าพื้นที่ว่างเปล่า มันก็จะสร้างเป็นแรงระเบิด!
บูม!!
ราชาอสูรร้ายถูกหลี่หยวนเฟิงโจมตีกลับ
ซูผิงกับหลี่หยวนเฟิงสามารถปลดปล่อยตัวเองจากการโจมตีได้พร้อมกัน ทันใดนั้นพวกเขาก็รู้สึกสั่น ซึ่งทำให้หัวใจของพวกเขาเต้นไม่เป็นจังหวะ
ปรากฏว่ามันมีต้นกำเนิดมาจากความว่างเปล่า
เสียงสั่นเหมือนการเต้นหัวใจของบางอย่าง!
วินาทีถัดมา วังวนบิดเบี้ยวก็ปรากฏขึ้นตรงหน้าพวกเขา ต่อจากนั้นชายหนุ่มที่มีดวงตาสีแดงเข้มบนหน้าผากสี่ดวงก็ก้าวออกมา
“อสูร..ตัวนั้น!”
หลี่หยวนเฟิงจำอสูรร้ายได้ในทันที เขาคิดอะไรบางอย่าง “แกคืออสูรปีศาจพันตา!”
“อสูร? ฉันคิดว่าแก มนุษย์ตัวน้อย ควรใช้คำว่า ‘อสูรร้าย’ กับสิ่งมีชีวิตชั้นต่ำกว่านี้ รู้ไหมว่าการใช้คำนั้นกับฉันมันแย่มาก!”
ชายหนุ่มตาแดงก่ำยิ้มให้หลี่หยวนเฟิง
“พับมิติ!” ซูผิงดูกังวล เขาจำทักษะของชายหนุ่มได้ในทันทีที่เขาปรากฏตัว มันเกี่ยวข้องกับมิติ ซึ่งเป็นความสามารถที่สิ่งมีชีวิตในสภาวะชะตากรรมเชี่ยวชาญ!
พับมิติ ตามชื่อที่ให้ไว้ มันสามารถพับมิติได้ สิ่งมีชีวิตที่ใช้ความสามารถนี้สามารถไปได้ทุกที่ที่ต้องการ มันมีพลังมากกว่าการเคลื่อนย้ายมวลสาร! คุณสามารถเดินทางจากขั้วโลกเหนือไปยังขั้วโลกใต้ของดาวเคราะห์สีน้ำเงินได้โดยตรงด้วยการพับมิติ การเคลื่อนย้ายต้องทำเป็นหมื่นครั้งจึงจะครอบคลุมระยะทางใกล้เคียงกัน! พับมิติจึงมีอิทธิพลอย่างมากในการต่อสู้
การเคลื่อนย้ายจะทำได้แค่สุ่มพื้นที่เคลื่อนย้าย ไม่สามารถเลือกเป้าหมายได้เช่นนี้!
ด้วยพับมิติ คุณจะสามารถใช้พื้นที่ส่วนใดก็ได้แล้วพับเก็บ ผู้ที่อยู่ในสภาวะว่างเปล่าจะไม่สามารถหลุดพ้นจากพื้นที่นั้นได้ พวกเขาจะถูกขังอยู่ในมิตินั้นตลอดไป เหมือนกับแมลงในขวด
สิ่งมีชีวิตสภาวะว่างเปล่าสามารถปรากฏตัวขึ้นโดยไร้ร่องรอยด้วยการเคลื่อนย้าย ซึ่งทำให้พวกมันสามารถฆ่าสิ่งมีชีวิตในสภาวะสมุทรได้อย่างง่ายดาย!
แต่ทั้งหมดนี้ไม่ได้มีความหมายอะไรเมื่อเทียบกับสิ่งที่สิ่งมีชีวิตสภาวะชะตากรรมสามารถทำได้!
“น้องซู!”
หลี่หยวนเฟิงยืนหันหลังให้ซูผิง
ซูผิงมองเขาด้วยสายตางุนงง
แววตาแบบนั้น… ทันใดนั้น ซูผิงรู้สึกว่าเขาได้กลับไปอยู่ในเมืองฐานหลงเจียงอีกครั้งตอนที่มังกรเพลิงนรกยืนอยู่ตรงหน้าเขา!
หลี่หยวนเฟิงมุ่งมั่นเหมือนกับมังกรเพลิงนรกในตอนนั้น!
“คุณมีอนาคตที่สดใสมากกว่าผม!” เสียงของหลี่หยวนเฟิงต่ำ แต่เขาจริงจัง “ผมจะหยุดเขา และคุณ… คุณจะมีชีวิตอยู่เพื่อผม คุณต้องออกไปจากที่นี่แบบมีชีวิต!”
“ผมไม่ไป!” ซูผิงปฏิเสธ
มังกรเพลิงนรกเสี่ยงชีวิตเพื่อปกป้องเขา เขาจะไม่ยืนหลบอยู่ข้างหลังอีก!
“อย่าดื้อ!”
หลี่หยวนเฟิงไม่คิดว่าซูผิงจะมาดื้อเอาในเวลานี้ ซูผิงฟังดูเหมือนคนที่เต็มไปด้วยความกล้าหาญ แต่เขาไม่ได้มองภาพรวม!
หลี่หยวนเฟิงยินดีที่จะเป็นคนตายมากกว่ายอมให้ซูผิงต่อสู้จนตาย!
ทั้งหมดเป็นเพราะเขามองเห็นความหวังและอนาคตที่สดใสในตัวของซูผิง!
เขาเป็นความหวังของมวลมนุษยชาติ!
ซูผิงอยู่ในระดับกิตติมศักดิ์ขั้นกลาง แต่เขามีความแข็งแกร่งเทียบเท่ากับสภาวะว่างเปล่า ถ้าแม้แต่เขายังไม่สามารถช่วยถ้ำลึกและดาวเคราะห์สีน้ำเงินได้ตอนที่เขาพัฒนาต่อไป แล้วใครจะทำได้!
เขาตัดสินใจว่าซูผิงไม่สามารถตายได้ ไม่ใช่ที่นี่ ไม่ใช่ในวันนี้
เขาไม่รู้ว่าเขาจะทำอะไรได้ แต่เขาไม่ยอมให้เกิดเรื่องแบบนั้น!!
“ถ้าคุณไม่ไป ผมจะต้องจากไปพร้อมกับความเสียใจ!” หลี่หยวนเฟิงคำราม มันขัดกับความปรารถนาของเขาที่จะเห็นซูผิงยอมแพ้ เขาต้องการให้ซูผิงปฏิบัติต่อเขาเหมือนของที่ใช้แล้วทิ้ง เขาต้องการให้ซูผิงออกไป!
ยิ่งเร็วยิ่งดี!
ซูผิงยังคงนิ่งเงียบ เขาก้าวมาข้างหน้าหลี่หยวนเฟิงและกล่าวว่า “คุณจะจากไปพร้อมกับความเสียใจเพราะคุณจะไม่ตาย ผมขอให้คุณมาเพื่อนำทาง ไม่ใช่เพื่อมาเสียสละชีวิต!”
”คุณ…”
หลี่หยวนเฟิงไม่สามารถมองเห็นชายหนุ่มที่มีดวงตาสีแดงเข้มได้อีกต่อไปเพราะซูผิงยืนอยู่ตรงหน้าเขา หลี่หยวนเฟิงตะโกนด้วยความโกรธ “ออกไปจากที่นี่! ผมสั่งให้คุณไปเป็นนักรบอสูรในตำนาน ออกไปซะ!”
“ผมยังไม่ได้เอาชนะอะไรบางอย่างที่สภาวะชะตากรรม แต่ผมแน่ใจว่าจะเอาชีวิตรอดได้ เข้าไปข้างในเถอะ”
ซูผิงเปิดม้วนภาพโดยหันหลังให้หลี่หยวนเฟิง
หลี่หยวนเฟิงไม่สามารถเชื่อสิ่งที่ซูผิงกำลังทำอยู่ได้ “ล้อเล่นใช่มั้ย? คุณอยู่ในระดับกิตติมศักดิ์ และตัวนี้อยู่ที่สภาวะชะตากรรม คุณรู้ไหมว่ามันหมายถึงอะไร? มันสามารถฆ่าเราสองคนได้ด้วยความคิดเพียงอย่างเดียว!”
“ถ้าเป็นอย่างนั้นการที่คุณยืนอยู่ที่นี่ก็ไม่ได้สร้างความแตกต่าง ทำไมคุณไม่ฟังผมและรอดูว่าเกิดอะไรขึ้นล่ะ” ซูผิงกล่าวอย่างใจเย็น
หลี่หยวนเฟิงหัวเราะด้วยความโกรธ
แน่นอน เขารู้ว่าเขาไม่สามารถหยุดอะไรได้
แต่เขามีสมบัติล้ำค่า ทักษะ!
เขาสามารถทำลายชีวิตของเขา และใช้ทักษะต้องห้ามเพื่อซื้อเวลาให้ซูผิงหนีไป!
แล้วซูผิงล่ะมีอะไร?
เมื่อหลี่หยวนเฟิงกำลังจะพูดถึงความรู้สึกของเขา ซูผิงได้ตอบด้วยการกระทำของเขา หมอกดำลอยขึ้นจากเขา พลังงานของราชาอาชูร่าและพลังเทพที่ไหลเวียนอยู่ในเส้นเลือดของเขาพุ่งออกมา บางสิ่งที่พูดไม่ได้แพร่กระจายไปทั่วซูผิงทันที
เขาแข็งแกร่งกว่าคนที่อยู่ในสภาวะว่างเปล่า!
ท่ามกลางหมอกมืดมิดยังมีแสงสีทองอยู่เล็กน้อย
หลี่หยวนเฟิงค่อยๆหุบปาก
ซูผิงแบกรับแรงผลักดันที่ครอบงำนั้น และหลี่หยวนเฟิงก็รู้สึกว่าซูผิงมีพลังมากกว่าเขา!
ซูผิง…อยู่ในระดับกิตติมศักดิ์จริงๆหรอ?
ดวงตาของหลี่หยวนเฟิงเป็นสีแดง ซูผิงเป็นอัจฉริยะที่หาตัวจับยาก เขาจะรู้สึกเสียใจกับการตายของซูผิงมากกว่าตัวเขาเอง!
หลี่หยวนเฟิงเสียใจที่ไม่ได้หยุดซูผิงตั้งแต่แรก!
เขาควรจะพยายามอย่างเต็มที่เพื่อหยุดไม่ให้เขาเข้ามาในทางเดิน!
”เข้าไปข้างใน!” ซูผิงตะโกน
หลี่หยวนเฟิงกัดฟัน ในที่สุดเขาก็ไม่พูดอะไรแล้วเข้าไปในม้วนภาพ
เขาต้องการที่จะอยู่และต่อสู้เคียงข้างซูผิง อย่างไรก็ตามซูผิงตั้งใจแน่วแน่ เขาจึงเลือกที่จะเชื่อในตัวของซูผิง
ร้านขายอสูรดวงดาว Astral Pet Store – ตอนที่ 601 -602
ตอนที่ 601 -602
Posted by ? Views, Released on กุมภาพันธ์ 10, 2022
, ร้านขายอสูรดวงดาว Astral Pet Store
Status: Ongoing
AstralPetStore SliceOfLife กู่ซี ต่อสู้ ต่างโลก นิยายจีน นิยายแปล นิยายแปลต่างโลก ผจญภัย ฝึกอสูร ระบบ ร้านอสูรดวงดาว อสูร แฟนตาซี ไซไฟ
ฉันถูกส่งไปยังโลกแห่งอสูร มีสิ่งมีชีวิตทุกรูปแบบ ทุกขนาด พวกมันสามารถเป็นสหายน่ากอด ผู้ช่วยในชีวิตประจำวัน หรือนักสู้ ไม่เลวเลยใช่ไหมละ? ฉันมีครอบครัว แต่ความจริงกลับถูกบดบังโดยน้องสาวฉัน เธอเกลียดฉันมาก และก็คอยรังแกฉันทุกวัน ฉันบอกหรือยังว่าเธอมีพรสวรรค์สูงมาก ส่วนฉันเป็นคนไร้พรสวรรค์?ก็แค่หล่อสุดๆ ฉันมีอิสระในการดำเนินธุรกิจของครอบครัวเอง ร้านอสูรเล็กๆ มันควรจะดีหากไม่ใช่ความจริงที่เจ้าของร่างเดิมนี้เกิดมามีความสัมพันธ์เป็นศูนย์กับการควบคุมอสูรดวงดาว… คงไม่คิดว่ามันเป็นการข้ามโลกโดยไร้ระบบหรือกลไกอะไรที่จะปูถนนให้ฉันหรอกนะ?ฉันมี แต่ฉันไม่รู้ว่าไม่มีมันจะดีกว่าไหม…