ร้านขายอสูรดวงดาว Astral Pet Store – ตอนที่ 629-630

ตอนที่ 629-630

ตอนที่ 629 แผ่นจารึกหลักการ
หวืด!
เนื่องจากแรงกดดันหายไป ซูผิงจึงก้าวไปข้างหน้า และเข้าไปในปากของมังกรดาราทมิฬ
“เขาจะเข้าไป!”
“เขาฟื้นคืนสติแล้วหรอ? นั่นเร็วมาก!”
“ข้าคิดว่าข้าเห็นบางอย่างที่น่ากลัวในกระจกวิญญาณของมนุษย์นั่น…”
อีกาทองคำจำนวนมากประหลาดใจเมื่อเห็นว่าซูผิงเป็นคนแรกที่เข้าไปในมังกรดาราทมิฬ บางคนสังเกตเห็นการปรากฏตัวที่น่าสยดสยองในสนามพลังของซูผิง
“…”
ตี้ฉงยังคงเงียบ เป็นอีกครั้งที่ซูผิงทำให้นางประหลาดใจ

นั่นใช่หนอนโลหิตทมิฬหรือเปล่า?
ทันทีที่เขาเข้าไปในกระเพาะมังกร ซูผิงเห็นกลุ่มหนอนดำลอยมาหาเขา หนอนเหล่านั้นเหมือนงูมากกว่า พวกมันเป็นสิ่งมีชีวิตอันเดธ
ซูผิงคุ้นชินกับพวกอันเดธ เขาวิ่งไปหาพวกมันอย่างไม่เกรงกลัว
บูม!
เขากวัดแกว่งหมัดขับไล่วิญญาณ หนอนโลหิตทมิฬได้รับการโจมตีและกระจายตัวเหมือนหมอก สิ่งมีชีวิตนั้นเกิดใหม่จากหมอกแม้ว่าจะอ่อนแอลง มันเริ่มหนีจากซูผิงในทันที
ซูผิงไม่ยอม เขาไล่ตามหนอนและต่อยมันซ้ำแล้วซ้ำเล่า หนอนมีขนาดเพียงครึ่งเดียวในตอนท้าย
”ไปกันเถอะ!”
ซูผิงคว้าหางของหนอนแล้วดึงออกจากปากของมังกรดาราทมิฬ
เมื่อเห็นเขาออกมาก็ทำให้อีกาทองคำตกใจอีกครั้ง
ซูผิงเข้าไปเพียงไม่กี่นาที เขาจะปราบและจับ หนอนโลหิตทมิฬอย่างรวดเร็วได้ยังไง?
อีกาทองคำรุ่นเยาว์ยังคงต้านพลังชั่วร้ายของมังกรอยู่เลยตอนที่ซูผิงออกมา เขามองดูพวกมันแล้วบินไปทางตี้ฉงอย่างไม่ชักช้า
ผ่านมาครึ่งทาง เขาตกใจเมื่อพบว่าหนอนโลหิตทมิฬหายไป
ซูผิงหยุดทันที
“เจ้าผ่านรอบที่สองแล้ว”
เสียงของผู้อาวุโสสูงสุดดังก้องอยู่ในใจของเขา
ซูผิงโล่งใจ เขาผ่านรอบสองแล้ว กล่าวคือ หนอนโลหิตทมิฬที่เขาเพิ่งจับถูกมังกรนำไป
ช่างเป็นมังกรที่ขี้งก!
ไม่ใช่ว่าเขากำลังจะเอาหนอนไปกับเขาสักหน่อย
อย่างไรก็ตามซูผิงกลับไปหาตี้ฉง และรอรอบที่สาม
ขณะที่ซูผิงบินกลับมา อีกาทองคำสองตัวกำลังจะเข้าไปในปากมังกร หนึ่งในนั้นคือตัวที่เคยคุกคามซูผิง
อีกาทองคำทั้งสองกำลังบินไปที่ปากของมังกรดาราทมิฬ
“เจ้าโชคดี”ตี้ฉงกล่าวและจ้องมองซูผิงอยู่ครู่หนึ่ง ในที่สุดก็ละสายตาออกไป ทั้งหมดเพื่อแสร้งทำเป็นว่าความสามารถของเขาไม่สมควรได้รับการยกย่อง
ซูผิงกลอกตา “โชคดี? ฉันผ่านเพราะฉันเก่ง!”
“เหอะ”
ตี้ฉงเยาะเย้ย “เจ้าจะไม่พบมันง่ายแน่ ถ้ามังกรดาราทมิฬนั้นไม่ได้ออมแรงให้เจ้า และมอบหนอนโลหิตทมิฬให้เจ้า”
”อะไร?” ซูผิงไม่เข้าใจออมแรงให้?
ซูผิงสังเกตเห็นอีกาทองคำรุ่นเยาว์สองตัวบินเข้าไปในปาก และหายไปในส่วนลึก
ในทางกลับกัน เขาได้พบหนอนโลหิตทมิฬทันทีที่เขาเข้าไปในปาก ในกรณีนี้ซูผิงเชื่อว่าตี้ฉงไม่ได้โกหกเขา แต่เขาไม่เข้าใจ “ทำไมมังกรถึงทำแบบนั้น?”
ตี้ฉงลิ้นจุกปาก
เจ้ากำลังถามว่าทำไมมังกรดาราทมิฬถึงทำอย่างนั้น?
ตี้ฉงยังสังเกตเห็นว่ามีอะไรอยู่ในกระจกวิญญาณของซูผิง อีกาทองคำที่มีสายเลือดระดับจักรพรรดิอย่างตี้ฉงอ่อนไหวต่อการปรากฏตัวที่น่าสะพรึงกลัวตั้งแต่แรกเกิด
ตี้ฉงรู้ว่าทำไมมังกรดาราทมิฬทำให้เรื่องมันง่ายสำหรับซูผิง มันแค่กลัวตาย
”ฮึ!”
ตี้ฉงไม่ได้บอกสิ่งที่รู้กับซูผิง
ซูผิงพูดไม่ออก เกิดอะไรขึ้นกับนกตัวนี้? ไม่พูดให้จบประโยค!
ขณะที่ซูผิงและตี้ฉงกำลังคุยกัน มังกรดาราทมิฬก็ลอยอยู่บนท้องฟ้าและเสียงคำรามของมันก็น่ากลัว แม้แต่อีกาทองคำโตเต็มวัยบางตัวก็ยังสั่นสะท้านด้วยความกลัว หลายตัวถอยหลังไปก้าวสองก้าว
ครึ่งชั่วโมงต่อมา
อีกาทองคำรุ่นเยาว์สองตัวที่อยู่หน้าตัวอื่น และเข้าไปในปากของมังกรกำลังกลับมา ซูผิงเห็นพวกมันแต่จำพวกมันไม่ได้ เขาไม่สนใจอะไรขอแค่เขาผ่านบททดสอบก็พอ
สำหรับอันดับ เขาไม่สนใจเรื่องนี้มากนัก เขาไม่สนุกเลยที่จะโอ้อวดกับฝูงนก นี่คือฝูงนกไม่ใช่สาวสวยสักหน่อย
อีกาทองคำรุ่นเยาว์คนอื่นๆ หลุดพ้นจากอิทธิพลของพลังงานชั่วร้าย จากนั้นจึงบินเข้าไปในปากของมังกรทีละตัว ผู้ชมต่างส่งเสียงเชียร์เมื่ออีกาทองคำสองตัวแรกกลับมา
ซูผิงรู้สึกเบื่อขณะที่รอ ซูผิงนั่งบนกิ่งไม้และหลับตาเพื่อบ่มเพาะ
“ระ… ระบบ นายบอกว่าความหวังที่ฉันจะผ่านบททดสอบของอีกาทองคำนั้นน้อยมากไม่ใช่หรอ?” ซูผิงถาม
เขาไม่สนใจเกี่ยวกับอันดับ แต่เขาสามารถบอกได้ว่าจนถึงตอนนี้เขาทำได้ดี
ในรอบแรกเขาอยู่ในอันดับที่ 2 และเขาทำได้เหนือกว่ามาตรฐานการผ่าน!
สำหรับรอบที่สอง เขาเป็นคนแรกที่เข้าไปและกลับมาเป็นคนแรก
นี่ไม่ใช่สิ่งที่ระบบคาดหวัง ซูผิงเริ่มสงสัยว่าระบบนี้เชื่อถือได้อยู่หรือเปล่า
“แล้วนายได้รับอะไรมา”
ระบบม่พอใจเพราะพยางค์แรกที่ซูผิงพูดออกมา “นายจะไม่ผ่านรอบแรกถ้าเป็น 10 วันที่แล้ว! แต่นายฝึกฝนในช่วง 10 วันที่ผ่านมา นายไม่คิดหรอว่านายได้รับความแข็งแกร่งจากการบ่มเพาะเพื่อเตรียมพร้อมสำหรับบททดสอบนะ?”
“ในเมื่อเป็นระบบที่ชาญฉลาด ทำไมนายถึงไม่สามารถหลีกเลี่ยงคำนั้นได้? ฉันไม่อยากจะเชื่อเลยว่านายพูดคำนั้น” ซูผิงตอบ
“นั่นมันนอกเรื่อง!”
”ถ้านายพูดอย่างนั้น…”
ซูผิงจำได้ว่าเขาพยายามผ่านรอบแรกมาได้ยังไง เขาพยายามระดมพลังทั้งหมดที่เขามีเพื่อยกก้อนหินนั้นขึ้น รวมถึงการก้าวหน้าในวิชาดาบ
แต่เขาไม่ได้จับดาบเลย เขาใช้ทฤษฎีวิชาดาบในหัวตัวเอง
เขาใช้แก่นของมัน
แก่นไม่ได้ถูกจำกัดด้วยรูปร่างของอาวุธ เขายังสามารถกลายเป็นอาวุธได้!
“ฉันคิดว่าฉันก้าวหน้าไปอย่างรวดเร็วในช่วงสิบวันที่ผ่านมา…” ซูผิงพูดกับตัวเอง
ระบบส่งเสียงกึกก้อง “แน่นอน! นอกเหนือจากสิ่งที่นายเรียนรู้ในระหว่างบ่มเพาะ ร่างกายของนายแตกต่างจากเมื่อสิบวันก่อน นายมองโลกนี้หรือยัง? มันเป็นของยุคโบราณ สิ่งที่นายสัมผัสได้ไม่ใช่พลังดวงดาวในอากาศ แต่เป็นสิ่งมีชีวิตโกลาหลที่เกิดจากความโกลาหล!
“ในขณะที่อยู่บนดวงดาวนี้ ร่างกายของนายได้รับการกลั่นหลายร้อยครั้งในช่วงสิบวันที่ผ่านมา!
“ความแข็งแกร่งทางร่างกายของนายมาถึงจุดสูงสุดของสภาวะว่างเปล่าแล้ว และเมื่อนายใช้ทักษะเสริมแกร่ง ความแข็งแกร่งทางกายภาพของนายจึงสามารถเทียบได้กับภาวะชะตากรรม!”
ซูผิงรู้สึกประหลาดใจ
ร่างกายของฉันได้รับการกลั่น?
ความแข็งแกร่งทางกายภาพของฉันสามารถเทียบได้กับสภาวะชะตากรรมจริงๆหรอ?
เขาก้มหน้าลง เขาเห็นว่ารูขุมขนของเขาวาววับ พลังเทพในตัวเขานั้นสมบูรณ์กว่าเมื่อก่อน
ตอนไปที่หลุมศพกึ่งเทพเขามักจะอาบน้ำในน้ำพุของโจแอนนา และได้รวบรวมพลังเทพในปริมาณที่พอเหมาะ ในตอนนี้เขาสังเกตเห็นว่าหลอดเลือดส่วนใหญ่ของเขากลายเป็นสีทอง พลังเทพในตัวเขามากกว่าเมื่อก่อนเป็นสองเท่า!
ฉันอยู่ที่นี่มาสิบวัน นี่มันเกิดอะไรขึ้น!
“นี่คือสนามบ่มเพาะขั้นสูง ความจริงของการเอาชีวิตรอดในที่แห่งนี้เป็นประโยชน์กับนาย!” ระบบกล่าวต่อ “นายยังใช้แผนภูมิดวงดาวโกลาหลในช่วงสิบวันที่ผ่านมา ดังนั้นจึงสามารถดูดซับพลังโกลาหลได้ ผลที่ได้จึงน่าทึ่ง
“นอกจากนี้ นายยังอยู่ในรังของอีกาทองคำที่มีสายเลือดระดับจักรพรรดิ พลังโกลาหลในรังนั้นมีพลังมากกว่าข้างนอกเป็นร้อยเท่า!”
ซูผิงกระพริบตา
รังนั้น?
เขามองไปที่ตี้ฉงที่กำลังมองขึ้นไปบนท้องฟ้า
ฉันได้กำไรเพราะเจ้านกตัวนี้?
ซูผิงไม่ค่อยพอใจกับมันนัก เพราะเขาพบว่านกตัวนี้ค่อนข้างจะตัวเล็ก
“สิ่งที่นายได้รับในช่วงสิบวันที่ผ่านมาสามารถเทียบได้กับการไปถึงกายแสงอาทิตย์ขั้นสอง” ระบบสรุป
ซูผิงพยักหน้า
เขารู้สึกแข็งแกร่งกว่าเมื่อก่อนมาก เขาแค่สงสัยว่า… หลังจากรวบรวมวัตถุดิบที่เขาต้องการและไปถึงขั้นสองแล้ว เขาจะแข็งแกร่งขนาดไหน?

รอบที่สองกินเวลาสามวัน
แน่นอนว่าคำนวณตามเวลาของซูผิง เหลือเวลาไม่ถึงครึ่งวันเวลาของดาวสวรรค์
ซูผิงฝึกฝนในช่วงสามวันนั้น เขาต้องเตือนระบบให้หักแต้มพลังงานต่อไป
ค่าเข้าชมรายวันคือ 9,000 แต้มพลังงานและการต่อเวลาเป็นไปโดยอัตโนมัติเว้นแต่เขาจะขอให้ส่งเขากลับ
หลังจากรอบที่สองจบลง ผู้อาวุโสสูงสุดก็ประกาศผล ซูผิงเป็นที่ 1!
นั่นรู้อยู่แล้ว แต่อีกาทองคำยังคงตกตะลึงเมื่อได้ยินจากผู้อาวุโสสูงสุดของพวกเขา
สัตว์ประหลาดจากต่างดาวสามารถเป็นที่หนึ่งในบททดสอบอีกาทองคำ!
สัตว์ประหลาดตัวนี้ไม่ธรรมดา!
อีกาทองคำเกิดมาในความโกลาหล พวกมันแต่ละตัวมีพลังต่อสู้ที่โดดเด่น เมื่อพวกมันโตเต็มวัย อีกาทองคำสามารถย้อนเวลาและเดินทางรอบจักรวาลได้ แต่ถึงกระนั้นพวกมันก็แพ้สัตว์ประหลาดนั่น!
“มนุษย์คนนั้น…”
อีกาทองคำรุ่นเยาว์ที่ถูกล้อมรอบด้วยฝูงชนจ้องมองซูผิงอย่างเย็นชา มันคือนกจากตระกูลเหอ มันไม่ได้ทั้งที่หนึ่งและสองในรอบแรก แล้วก็เสียโอกาสอันดับหนึ่งอีกครั้ง!
ข้าควรจะเป็นคนที่โดดเด่นที่สุด!
บัดซบ!
“มาดูกันว่าจะเกิดอะไรขึ้นในบททดสอบแบบครอบคลุม”
“ข้าสงสัยว่า… อะไรทำให้มันกล้าที่จะขโมยสายฟ้าของเรา มันประเมินเราต่ำไป”
“เราเป็นสิ่งมีชีวิตโบราณ เจ้าสัตว์ร้ายนั่นน่ารังเกียจ!”
อีกาทองคำตัวอื่นๆ ก็ไม่ชอบซูผิงเช่นกัน พวกมันไม่สามารถยอมรับความจริงที่มีสิ่งมีชีวิตแปลกปลอมอยู่ข้างหน้าพวกมัน!
“หมดเวลาของเจ้าแล้ว” ผู้อาวุโสสูงสุดกล่าว เหนือหัวของมังกรดาราทมิฬปรากฏรอยแยกที่นำไปสู่ความว่างเปล่า นั่นคือคุกของมังกรดาราทมิฬ
“เจ้านกหัวล้าน เจ้ากำลังเตะข้าตกบันได รู้ไหม”
มังกรดาราทมิฬกระจายข้อความด้วยคำสาป แต่มันบินไปสู่ความว่างเปล่านั้น การกระทำของมังกรนั้นปฏิเสธความจริงที่ว่ามันเป็นสิ่งมีชีวิตที่ยิ่งใหญ่
รอยแยกสู่ความว่างเปล่าถูกปิดหลังจากที่มังกรดาราทมิฬเข้าไป ผู้อาวุโสสูงสุดมองไปที่อีกาทองคำรุ่นเยาว์และประกาศว่า “หัวข้อสำหรับรอบที่สามจะเกี่ยวข้องกับทักษะ
“ที่นี่เรามีแผ่นจารึกหลักการผู้ที่สามารถกระตุ้นหลักการได้มากที่สุดจะเป็นผู้ชนะ!
“มาตรฐานขั้นต่ำคือสาม!”
ลมประดั่งเข้ามาเมื่อเสียงของผู้อาวุโสสูงสุดจางหายไป แผ่นจารึกหลักการค่อยๆ ตกลงมาจากท้องฟ้าและตกลงบนกิ่งไม้
อีกาทองคำรุ่นเยาว์เป็นเหมือนมดเมื่อยืนอยู่หน้าแผ่นจารึก นับประสาอะไรกับซูผิงที่เป็นเหมือนเม็ดทราย
ตอนที่ 630 สุดยอดหนังสือ
แผ่นจารึกหลักการ?
ซูผิงเงยหน้าขึ้น จ้องไปที่แผ่นจารึกที่สูงเกินไปสำหรับเขา เนื่องจากเขามองไม่เห็นยอด แผ่นจารึกเป็นแบบดั้งเดิม เขารู้สึกว่าเขากำลังจ้องมองเข้าไปในจักรวาล!
เวิ้งว้าง ว่างเปล่า โดดเดี่ยว!
แผ่นจารึกดูเหมือนจะปกคลุมไปด้วยหมอก ดูเหมือนว่าจะไม่มีอะไรบนแผ่นจารึก แต่ในขณะเดียวกันก็ให้ความรู้สึกเหมือนเต็มไปด้วยดวงดาว!
นั่นเป็นความรู้สึกแปลก ๆ ที่แทบจะบรรยายออกมาเป็นคำพูดไม่ได้ ซูผิงรู้สึกว่าเขากำลังจะเข้าใจอะไรบางอย่าง แต่ความรู้สึกนั้นก็หายไปในทันที
“ … ระบบแผ่นจารึกหลักการคืออะไร?” ซูผิงถาม
“อย่ามาลองเชิงฉัน!” ระบบเตือนซูผิง
ซูผิงแสร้งทำเป็นสับสน “นายกำลังพูดเรื่องอะไ?ร”
“อืม นายก็รู้ว่าฉันกำลังพูดถึงอะไร!” ระบบหยุดการโต้เถียง และเริ่มอธิบายให้ซูผิงฟังว่า “เช่นเดียวกับสิ่งมีชีวิตโบราณ หลักการถือกำเนิดจากความโกลาหล เพียงแค่แผ่นจารึกหลักการไม่ใช่สิ่งมีชีวิต อย่างไรก็ตามพวกมันนำหลักการของทุกสิ่งที่พบในจักรวาลติดตัวมาด้วย!
“เมื่อนายเข้าใจแผ่นจารึกหลักการแล้ว นายก็จะเข้าใจหลักการของจักรวาล
“แต่แทบจะเป็นไปไม่ได้เลยที่จะเข้าใจแผ่นจารึกหลักการแม้แต่ผู้อาวุโสอีกาทองคำทั้งสามก็ยังทำไม่ได้”
ซูผิงรู้สึกประหลาดใจ
แผ่นจารึกที่เขากำลังจ้องมอง… มีหลักการของจักรวาล?
กล่าวคือแผ่นจารึกหลักการเป็นตำราเรียนขั้นสูงสุด!
“จะพูดอย่างนั้นก็ได้” ระบบตอบ
“…”
แอบฟังอีกแล้ว
“แต่ในการที่จะเริ่มต้นเรียนรู้แผ่นจารึกหลักการนายต้องอยู่ที่ระดับดวงดาวหรือสูงกว่านั้น นายไม่สามารถเข้าใจหลักการได้หากนายไม่ได้อยู่ในระดับดวงดาว และถึงแม้ว่านายจะทำได้ การเรียนรู้จะทำให้หัวของนายระเบิด!” ระบบเสริม
ซูผิงตัดสินใจที่จะไม่ว่าการแอบฟังของระบบทั้งหมด เพราะมันให้คำอธิบาย เขาคุ้นเคยกับระบบขี้แอบฟังอยู่แล้ว…
“นายบอกว่าผู้อาวุโสทั้งสามยังไม่เข้าใจ แผ่นจารึกหลักการ อย่างถ่องแท้ นายกำลังบอกว่าใครก็ตามที่เข้าใจแผ่นจารึกจะมีพลังมากกว่าผู้อาวุโสทั้งสาม?” ซูผิงถาม
”แน่นอน”
ซูผิงอ้าปากค้าง
ผู้อาวุโสอีกาทองคำทั้งสามเป็นสัตว์ที่น่าสะพรึงกลัว สามารถทำลายดาวเคราะห์สีน้ำเงินได้ในพริบตา วิกฤตของถ้ำลึกสำหรับดาวเคราะห์สีน้ำเงินสำหรับอีกาทองคำเหล่านั้นเป็นเรื่องไร้สาระมาก!
แผ่นจารึกหลักการนั้นเป็นสมบัติที่สามารถช่วยให้ทุกคนบรรลุผลสำเร็จได้ในครั้งเดียว!
แต่เราต้องเข้าใจหลักการจึงจะทำได้!
“นอกจากนี้ หากนายไม่มีพลังสมองเพียงพอ นายอาจต้องวิเคราะห์แผ่นจารึกหลักการเป็นเวลาหนึ่งหมื่นปี และยังไม่สามารถเข้าใจได้” ระบบกล่าวต่อ
“…”
ระบบ: “ใช่”

”เจ้ากำลังคิดอะไรอยู่?”ตี้ฉงถามซูผิงหลังพบว่าซูผิงแปลกๆ
ซูผิงอยู่ในภวังค์ ตี้ฉงอยากรู้ว่าเกิดอะไรขึ้นในใจของมนุษย์คนนี้
อีกาของระดับจักรพรรดิดูถูกมนุษย์ตั้งแต่แรก แต่แล้วตี้ฉงเริ่มสนใจเขาเมื่อเวลาผ่านไป และต้องการทราบข้อมูลเพิ่มเติม
ซูผิงกลับมารู้สึกตัวและตอบ “ฉันไม่รู้ว่าจะกินอะไรเป็นอาหารค่ำ”
ตี้ฉงกลอกตา
มนุษย์คนนี้ยังน่ารังเกียจเหมือนเดิม!
“เจ้าจะต้องเข้าไปทีละสิบคน รอบที่สามเริ่มขึ้นแล้ว” ผู้อาวุโสสูงสุดประกาศ เสียงของมันสะท้อนอยู่ใต้กิ่งไม้
อีกาทองคำรุ่นเยาว์มองหน้ากัน
ไม่นานหลังจากนั้น บางตัวนำหน้า และบินไปที่แผ่นจารึกหลักการ
อีกาทองคำตัวอื่นตามหลังไป
เมื่ออีกาทองคำสิบตัวมาถึงหน้าแผ่นจารึกหลักการแล้ว ผู้เข้าร่วมคนอื่นๆ จะต้องหยุดตามที่กฎกำหนด
อีกาทองคำสิบตัวบินไปที่แผ่นจารึกหลักการและปลดปล่อยกฎธาตุที่พวกมันรู้จัก สิ่งแรกที่อีกาทองคำใช้คือกฎเปลวเพลิง!
อีกาทองคำได้ปลดปล่อยกฎแห่งไฟซึ่งฝังอยู่ในแผ่นจารึก หลังจากนั้น เมล็ดเรืองแสงก็ปรากฏเป็นแสงสีทอง นั่นคือหลักการแรกที่สว่างขึ้น!
อีกาทองคำเกิดมาเพื่อเข้าใจกฎแห่งไฟ เช่นเดียวกับที่มนุษย์เกิดมาเพื่อเข้าใจวิธีกินและดื่ม มีเพียง “อีกาทองคำที่มีปัญหา” บางตัวเท่านั้นที่จะไม่เข้าใจกฎแห่งไฟ
อีกาทองคำรุ่นเยาว์เริ่มใช้กฎเกณฑ์อื่นๆ ที่พวกมันรู้จัก
ทักษะบางอย่างมีพลังทำลายล้าง อีกาทองคำบางตัวถูกสายฟ้าฟาด ในขณะที่บางตัวสามารถสร้างภูเขาจากอากาศบาง ๆ ได้
เมล็ดแสงเริ่มสว่างขึ้นเรื่อยๆ บนแผ่นจารึกหลักการ
ซูผิงตั้งข้อสังเกต เขาไม่รีบ เขาต้องดูว่าอีกาทองคำกำลังทำอะไร
ทั้งหมดนี้เป็นทักษะระดับตำนานขั้นสูงสุด! ซูผิงคิด อีกาทองคำรุ่นเยาว์เหล่านั้นช่างน่าทึ่ง ทักษะทั้งหมดของพวกมันค่อนข้างอันตราย และพวกมันเชี่ยวชาญทักษะประเภทต่างกัน
หนึ่งในอีกาทองคำใช้ทักษะที่แตกต่างกันห้าอย่าง และส่องสว่างเมล็ดห้าเมล็ด!
สิ่งเหล่านั้นมีพลังแท้จริง พวกมันจะไม่เป็นสองรองใครในดาวเคราะห์สีน้ำเงิน การบดขยี้ราชาสวรรค์ต่างโลกจะเป็นเรื่องง่ายสำหรับพวกมัน แต่อีกาทองคำเหล่านั้นก็ยัง… เป็นเพียงลูกนก! ซูผิงพูดกับตัวเอง อีกาทองคำน่ากลัวมาก!
ในไม่ช้าอีกาทองคำกลุ่มแรกก็เสร็จสิ้นการทำบททดสอบ
บางตัวกลับมาด้วยความผิดหวังและบางตัวภูมิใจ
จากสิบอีกาทองคำ เก้าตัวผ่านและมีหนึ่งตัวไม่ผ่าน
ตัวที่เข้าร่วมกลุ่มแรกค่อนข้างมั่นใจในตัวเอง อีกาทองคำตัวที่ไม่ผ่านนั้นส่องสว่างไม่ได้สักเมล็ด มันพยายามแล้วพยายามเล่า แต่ก็ยังล้มเหลว
”เจ้าจะไปไหม?”ตี้ฉงถามซูผิง ดูเหมือนว่าตี้ฉงจะคาดหวังสูง
ซูผิงเลิกคิ้วขึ้น “ฉันจะคอยดูก่อน”
เขาไม่รีบร้อน ทั้งหมดที่เขาต้องทำคือผ่านรอบที่สาม เขาไม่สนใจว่าเขาจะได้คะแนนเท่าไหร่
เขาได้เรียนรู้บางสิ่งจากอีกาทองคำ เขาได้รับแรงบันดาลใจทุกครั้งที่อีกาทองคำปลดปล่อยทักษะของพวกมัน
ทักษะเป็นการแสดงออกถึงกฎเกณฑ์และหลักการ โดยปกติแล้วเป็นเรื่องยากที่จะเข้าใจหลักการพื้นฐานของทักษะ แต่อาจเป็นเพราะเขายืนอยู่ใกล้กับแผ่นจารึกหลักการ ซูผิงจึงสังเกตว่าสมองของเขากำลังทำงาน เขาสามารถเห็นหลักการพื้นฐาน มันเป็นความรู้สึกที่น่าอัศจรรย์
เป็นเรื่องดีที่ฉันสามารถขโมยความรู้ได้ซูผิงพูดกับตัวเองว่าการเดินทางครั้งนี้คุ้มค่า แม้ว่าเขาจะไม่ได้รับวัตถุดิบสำหรับกายแสงอาทิตย์ขั้นสองก็ตาม
เมื่อกลุ่มแรกกลับมา กลุ่มที่สองก็บินไป พวกมันกระตือรือร้นที่จะแสดงความแข็งแกร่ง ไม่เหมือนกับอีกาทองคำกลุ่มแรกที่ค่อนข้างลังเล
ไม่นานหลังจากนั้น อีกาทองคำสิบตัวก็บินออกมา และอีกหลายตัวก็บินไปเช่นกัน แต่พวกมันยังเร็วไม่พอ เมื่อสิบคนมารวมกันที่แท่นแล้ว ตัวที่ช้ากว่าก็ต้องกลับไป
ความสามารถของกลุ่มที่สองนั้นยอดเยี่ยมเช่นกัน สร้างแรงบันดาลใจมากกว่ากลุ่มแรก ทั้งหมดผ่าน
อีกาทองคำสามตัวส่องสว่างได้ถึงสี่!
ตัวหนึ่งส่องสว่างได้ถึงห้า!
อีกาทองคำเหล่านั้นเข้าใจกฎเกณฑ์ที่แตกต่างกันและความรู้ของพวกมันนั้นลึกซึ้ง ฉันสงสัยว่าอีกาทองคำที่โตเต็มวัยสามารถทำอะไรได้บ้าง…
ยิ่งซูผิงสังเกตมากเท่าไหร่ เขาก็ยิ่งตื่นเต้นมากขึ้นเท่านั้น อีกาทองคำเหล่านั้นไม่เพียงแต่เข้าใจกฎแห่งไฟเท่านั้น แต่ยังเข้าใจกฎอื่นๆ ด้วย
เมื่อพวกมันแสดงกฎเหล่านั้นด้วยการปลดปล่อยทักษะ พลังของพวกเขาก็เพิ่มขึ้นเป็นพลังของสภาวะชะตากรรม!
ขณะที่เขาดู เขานึกถึงสุนัขมังกรดำซึ่งเชี่ยวชาญทักษะของเกือบทุกทักษะที่เขารู้จัก
โชคไม่ดีที่ทักษะที่สุนัขมังกรดำเชี่ยวชาญนั้นอยู่ที่สภาวะสมุทร เขาสงสัยว่ามันจะสามารถเรียนรู้หลักการได้หรือไม่ เมื่อทักษะของมันไปถึงสภาวะชะตากรรม
ดูท่าต้องซ้อมให้หนักขึ้น! ซูผิงพูดกับตัวเอง
ภายในพื้นที่สัญญาสุนัขมังกรดำกำลังพักผ่อนแต่มันกลับตัวสั่น นี่ไม่ใช่สัญญาณที่ดี
เมื่อเวลาผ่านไป อีกาทองคำจำนวนมากขึ้นเรื่อยๆ ก็ทำบททดสอบรอบที่สามของพวกมันเสร็จสิ้น
อีกาทองคำตระกูลเหอซึ่งทำตัวเป็นปรปักษ์ต่อซูผิงก็ทำบททดสอบเสร็จแล้วเช่นกัน มันส่องสว่างเมล็ดได้ถึงหกเมล็ด ผลลัพธ์ที่ดีที่สุดเท่าที่ผ่านมา!
แต่หลังจากนั้นไม่นาน อีกาทองคำรุ่นเยาว์อีกตัวก็อีกาทองคำตระกูลเหอด้วยการส่องสว่างถึงแปดเมล็ด!
ฝูงชนจำนวนมากสัมผัสถึงความรู้สึกที่ยิ่งใหญ่
ซูผิงได้ยินเสียงแหลมในหูของเขา เขาสามารถเข้าใจบางสิ่งที่อีกาทองคำกำลังพูดในใจของเขา เขาได้เรียนรู้ว่าอีกาทองคำที่ส่องสว่างถึงแปดเมล็ดไม่ได้มีอันดับดีในสองรอบแรก มันถูกมองว่าเป็นม้ามืดในรอบนี้
“ความแข็งแกร่งของมันไม่สมดุล…” ซูผิงพูดกับตัวเอง
อีกาทองคำรุ่นเยาว์คนนั้นเกือบจะรู้กฎทุกประเภทแล้ว!
แต่ซูผิงพบว่าแปลกที่นอกเหนือจากกฎปกติของสายฟ้า น้ำ เปลวไฟ แสงสว่าง และความมืด ยังมีบางสิ่งที่เขาไม่สามารถระบุได้
“หลักการมีหลากหลายหลักการ ที่ไม่ได้ระบุว่าเป็นหลักการพื้นฐานก็สามารถนำมาใช้ที่นี่ได้เช่นกัน”ระบบอธิบาย “หลักการพื้นฐานและโดดเด่นที่สุดประกอบด้วยหลักการเล็กๆนับไม่ถ้วน นายสามารถบรรลุผลลัพธ์ที่ยอดเยี่ยมได้หากนายสามารถเป็นผู้เชี่ยวชาญในหลักการที่เล็กกว่านั้นได้! กฎสายฟ้าและว่องไวถูกมองว่าเป็นส่วนหนึ่งของหลักการ! พวกมันได้ผลเพราะหลักการสนับสนุน!”
“…”
ซูผิงเคยชินกับความจริงที่ว่าระบบจะขัดขวางกระบวนความคิดของเขา และคำตอบก็เป็นที่พอใจ“ฉันมีสองแล้ว… ฉันจะผ่านถ้าหาทักษะที่สามเจอ!”
”หา…”
ระบบส่งเสียงกึกก้อง “นายสามารถลอง; นายมีเพียงพอในตัวนายที่จะผ่านรอบที่สามนี้ สิ่งที่ยากสำหรับนายควรเป็นรอบแรก แต่การบ่มเพาะของนายในช่วงสิบวันที่ผ่านมาช่วยนายได้ นายสามารถรอจนกว่าจะสิ้นสุดบททดสอบ และมีศักยภาพที่ได้รับแรงบันดาลใจจากอีกาทองคำ”
เนื่องจากระบบฟังดูมั่นใจ ซูผิงจึงรู้ว่าเขาสามารถทำใจให้สบายได้ “ฉันสงสัยว่าอีกาทองคำจะอยากช่วยฉันไหม?”
เขาส่ายหัว รอบที่สามกำลังจะจบลง ไม่ควรเสียเวลามากกว่านี้ เขาบินไปที่แผ่นจารึก

ร้านขายอสูรดวงดาว Astral Pet Store

ร้านขายอสูรดวงดาว Astral Pet Store

Status: Ongoing

ฉันถูกส่งไปยังโลกแห่งอสูร มีสิ่งมีชีวิตทุกรูปแบบ ทุกขนาด พวกมันสามารถเป็นสหายน่ากอด ผู้ช่วยในชีวิตประจำวัน หรือนักสู้ ไม่เลวเลยใช่ไหมละ? ฉันมีครอบครัว แต่ความจริงกลับถูกบดบังโดยน้องสาวฉัน เธอเกลียดฉันมาก และก็คอยรังแกฉันทุกวัน ฉันบอกหรือยังว่าเธอมีพรสวรรค์สูงมาก ส่วนฉันเป็นคนไร้พรสวรรค์?ก็แค่หล่อสุดๆ ฉันมีอิสระในการดำเนินธุรกิจของครอบครัวเอง ร้านอสูรเล็กๆ มันควรจะดีหากไม่ใช่ความจริงที่เจ้าของร่างเดิมนี้เกิดมามีความสัมพันธ์เป็นศูนย์กับการควบคุมอสูรดวงดาว… คงไม่คิดว่ามันเป็นการข้ามโลกโดยไร้ระบบหรือกลไกอะไรที่จะปูถนนให้ฉันหรอกนะ?ฉันมี แต่ฉันไม่รู้ว่าไม่มีมันจะดีกว่าไหม…

แสดงความคิดเห็น

ใส่ความเห็น

อีเมลของคุณจะไม่แสดงให้คนอื่นเห็น ช่องข้อมูลจำเป็นถูกทำเครื่องหมาย *

ปรับฟอนต์

**ถ้าปรับโหมดมืดอยู่** ให้เปลี่ยนเป็นโหมดสว่าง ก่อนจะปรับสีพื้นหลัง
รีเซ็ท