ร้านขายอสูรดวงดาว Astral Pet Store – ตอนที่ 657-658

ตอนที่ 657-658

ตอนที่ 657 เมืองฐานเป็นค่ายกล
  “เมืองฐานหลงจิง…” ซูผิงพึมพำกับตัวเอง
  เขาให้ความสนใจกับเมืองฐานอื่นๆ นับตั้งแต่เขาพบว่ามีทางเข้าถ้ำลึกในเมืองฐานหลงหยาง หากการคาดเดาของเขาถูกต้อง แสดงว่าที่หลงจิงก็มีทางเข้าถ้ำลึกเช่นกัน
  ดังนั้นจุดเริ่มของการโจมตีคือทางเข้าถ้ำลึก? “การโจมตีเริ่มต้นจากภายในเมืองฐานหรือจากภายนอก?” ซูผิงถามผู้อาวุโสตระกูลฉินทั้งสองคน
  “ภายใน นั่นคือสิ่งที่ผมได้ยินมา” หนึ่งในนั้นกล่าว
  นั่นเป็นไปตามที่เขาคิด
  อสูรป่าออกมาจากถ้ำลึก!
  ที่น่าแปลกก็คือ เขาแทบไม่เห็นอสูรป่าเลยตอนที่อยู่ในถ้ำลึก พวกมันต้องซ่อนตัวอยู่ที่ไหนสักแห่งในถ้ำ
  ซูผิงกังวล
  เขาสงสัยว่าหลี่หยวนเฟิง และคนอื่นๆ ยังสบายดีกันอยู่หรือไม่
  โชคร้ายที่เขาไม่มีตัวกลืนมิติ และไม่สามารถติดต่อหลี่หยวนเฟิงได้
  “ฉินตู้หวงอยู่ไหน?” ซูผิงถาม “เขากำลังลาดตระเวนแถวกำแพงชั้นนอก คุณต้องการจะคุยกับเขาไหม? เราโทรหาเขาให้ได้…”
  ”ไม่เป็นไร ผมแค่ถาม”
  ซูผิงมองไปที่โต๊ะแบบจำลอง เมืองฐานเหล่านั้นถูกทำเครื่องหมายไว้บนโต๊ะแบบจำลองและหลงจิงอยู่ไม่ไกล มีสามเมืองฐานคั่นระหว่างหลงจิงและหลงเจียง ใช้เวลาเพียงสามสิบนาทีกว่าไปมาหากันหากขี่นกระดับเก้าทั่วไป
  เมืองฐานหลงหยาง… เมืองฐานหลงจิง… ทั้งสองชื่อขึ้นต้นด้วยหลง
  ซูผิงส่ายหัว
  มีบางอย่างดึงดูดความสนใจของเขา เขามองไปที่โต๊ะแบบจำลองอีกครั้ง และดูเหมือนมีอะไรบางอย่างซ่อนอยู่
  ในบรรดาเมืองฐานทั้งหมดของเขตอนุทวีป มีชื่อที่ขึ้นต้นด้วย “หลง” มากกว่าหนึ่งสิบสองแห่ง
  เมื่อมองไปที่เมืองฐานที่มีคำนำหน้า “หลง” ซูผิงก็ตระหนักว่าเมืองฐานเหล่านั้นกำลังก่อตัวเป็นรูปดาวห้าแฉก!
  แท้จริงแล้วมีดาวห้าแฉกสองดวง ดาวทับซ้อนกันสิบจุด!
  เมืองฐานบางแห่งรอบดาวห้าแฉกสองดวงนั้นเปรียบเสมือนโครงสร้างรองรับ!
  ซูผิงไม่ได้เป็นคนอ่อนหัดอีกต่อไปเมื่อพูดถึงค่ายกล เขาได้ศึกษาค่ายกลจากโจแอนนามานานกว่ายี่สิบวันแล้ว โดยตอนนี้เชี่ยวชาญค่ายกลห้าธาตุขนาดเล็ก เขาสังเกตเห็นแล้วว่าเมืองฐานสร้างค่ายกลได้ยังไง!
  โครงสร้างรองรับตามปกติถูกใช้เพื่อทำให้ชั้นหินมีเสถียรภาพ และเพื่อให้พลังงานแก่ชั้นหิน
  อย่างไรก็ตามเขาสามารถจำประเภทค่ายกลได้
  ฉันเข้าใจผิดหรือเปล่า หรือว่าคิดมากไป… เดี๋ยวก่อน…”
  ซูผิงนึกถึงราชาแห่งสวรรค์ต่างโลกในทันใด ตอนแรกมันส่งราชาอสูรร้ายมาโจมตีเมืองฐานหลงเจียง จากนั้นราชาสวรรค์ก็ปรากฏตัว มันไม่ใช่ภารกิจล่าอสูร ซูผิงเชื่อว่าในตอนนั้นราชาสวรรค์ต่างโลกกำลังพยายามค้นหาบางอย่างในเมืองฐานหลงเจียง
  หรือบางอย่างงในเมืองฐานหลงเจียงกำลังดึงดูดราชาสวรรค์
  หลงเจียงดูเหมือนจะเป็นหนึ่งในโครงสร้างสนับสนุน
  เมืองฐานหลงเจียงไม่ได้เป็นส่วนหนึ่งของดาวสิบแฉก
  มีดาวสนับสนุนหกดวง!
  ดาวสนับสนุนหกดวงกระจัดกระจายรอบดาวสิบแฉก!
  มีทางเข้าถ้ำลึกในหลงหยางและหลงจิง แต่ไม่ใช่ในเมืองฐานหลงเจียง มีแห่งหนึ่งในหลงหลินซึ่งเป็นเมืองฐานระดับ B ฉันไม่คิดว่านี่เป็นเรื่องบังเอิญ
  ซูผิงกระพริบตา เขาตัดสินใจนำโต๊ะแบบจำลองไปหาโจแอนนา มีความเป็นไปได้สูงที่เธอจะสามารถจดจำค่ายกลนี้ได้
  “ผมจะขอยืมสิ่งนี้” ซูผิงกล่าว
  แม้ว่าจะประหลาดใจ แต่ผู้อาวุโสตระกูลฉินสองคนก็ไม่ได้ห้ามซูผิง
  พวกเขาสามารถสร้างอันใหม่ได้
  เขายกโต๊ะแบบจำลองขึ้น และกลับไปที่ร้านของเขาเพื่อแสดงให้โจแอนนาดู
  ”ลองดูหน่อยสิ นี่คือค่ายกลประเภทไหน?” ซูผิงถามโจแอนนา
  เขาชี้เมืองฐานที่มีคำนำหน้าว่า “หลง” ในด้วยพลังดวงดาว
  โจแอนนามอง แล้วเธอก็ดูประหลาดใจ “กักสวรรค์?”
  “เป็นค่ายกลจริงๆ…” จิตใจของซูผิงครุ่นคิด “มันเป็นประเภทไหน? หนึ่งในค่ายกลผนึก?”
  ”อะไรแบบนั้น แต่ค่ายกลนี่ไม่ได้ผนึกสิ่งมีชีวิตใด ๆ แต่ผนึกตัวเอง!” “อะไร?”
  ซูผิงไม่เข้าใจ
  ย้อนกลับไปที่ดาวสวรรค์ เขาได้เรียนรู้จากผู้อาวุโสสูงสุดของอีกาทองคำเกี่ยวกับระดับสวรรค์ “ปรมาจารย์สวรรค์” ปรมาจารย์สวรรค์สามารถทำลายดาวเคราะห์สีน้ำเงินได้มากกว่าหนึ่งร้อยดวงด้วยการกระทืบเพียงครั้งเดียว และยังรวมถึงทั่วทั้งสหพันธ์ได้! โจแอนนายังบอกว่าค่ายกลนี้เคยใช้ผนึกสวรรค์ไว้ข้างใน?
  โจแอนนามองเขา “ฉันคิดว่านายคงเข้าใจฉันผิด ฉันหมายถึงสวรรค์และโลกที่จับต้องได้!”
  ”อะไร?”
  “นี่คือค่ายกลผนึกที่ส่งผลต่อมิติ เมื่อผนึกถูกเปิดออก ทั้งสวรรค์และโลกที่ถูกผนึกไว้ข้างในก็จะถูกเปิดเผย ดาวเคราะห์สีน้ำเงินจะเติบโต ศักยภาพในการเติบโตของโลกขึ้นอยู่กับว่าสวรรค์และโลกที่ถูกผนึกไว้?”
  โจแอนนาพูดต่อว่า “ฉันไม่รู้ว่าดาวเคราะห์ดวงเล็กๆ ของนายกำลังเก็บความลับมากมายอะไรไว้ ผู้ที่ตั้งค่ายกลกักสวรรค์นี้อาจต้องการปล้นพลังดวงดาว เขาหรือเธอกำลังพยายามรวบรวมพลังดวงดาวทั้งหมดในพื้นที่นั้นเพื่อที่เขาหรือเธอจะได้เพลิดเพลินกับพลังดวงดาวเพียงลำพัง.”
  “ฉันไม่รู้ว่าพลังดวงดาวถูกคนอื่นดูดกลืนไปแล้วหรือยัง แต่ถ้าไม่ พลังดวงดาวทั้งหมดทั่วทั้งดาวเคราะห์สีน้ำเงินจะลึกล้ำยิ่งขึ้น และนายจะเป็นมนุษย์ที่มีพลังมากขึ้นและอสูรก็เช่นกัน”
  ซูผิงรู้สึกประหลาดใจ
  มีคนใช้เมืองฐานหลายสิบแห่งเพื่อสร้างกักสวรรค์เพื่อให้เขาหรือเธอสามารถเพลิดเพลินกับพลังดวงดาวเพียงเพียงลำพัง? “ต้องอยู่ระดับไหนถึงจะตองสามารถสร้างค่ายกลนี้ได้” ซูผิงถาม
  “การสร้างค่ายกลไม่เจาะจง แต่ถ้าพูดถึงระดับก็คงสภาวะชะตากรรม ตามที่นายพูดพวกเขาสามารถสร้างกักสวรรค์และค่ายกลห้าธาตุขนาดเล็กได้ ผู้ที่อยู่ในระดับดวงดาวสามารถสร้างค่ายกลเหล่านั้นได้ง่ายกว่า
  “อย่างไรก็ตาม ฉันไม่คิดว่าผู้ที่อยู่ในระดับดวงดาวจะต้องการพลังดวงดาวเพียงเล็กน้อยนั่น ฉันคิดว่าผู้สร้างน่าจะอยู่ที่สภาวะชะตากรรม”
  ซูผิงพยักหน้า คนที่สร้างค่ายกลต้องมีส่วนเกี่ยวข้องกับการสร้างเมืองฐานมากกว่าสิบสองแห่งอย่างแน่นอน เมืองฐานบางแห่งเพิ่งถูกสร้างขึ้นในขณะที่เมืองฐานอื่นๆ อย่างหลงหยางและหลงจิงถูกรวมเข้าด้วยกันเมื่อพันปีก่อน
  “ไม่น่าแปลกใจเลยที่ราชาสวรรค์ต่างโลกจะมาหาเรา มันต้องมีความคิดที่จะทำลายกักสวรรค์เพื่อที่พลังดวงดาวจะได้ถูกปลดปล่อยออกมา ด้วยวิธีนี้อสูรป่าทั่วโลกจะได้รับพลังที่เพิ่มขึ้น ซึ่งจะช่วยให้พวกมันรุกล้ำเข้ามาในดินแดนของมนุษย์ ฉันพนันได้เลยว่าราชาสวรรค์กำลังพยายามเผาผลาญพลังดวงดาวอยู่” ซูผิงพึมพำกับตัวเอง
  คำกล่าวนั้นมีเหตุผล
  ราชาสวรรค์ต่างโลกปรากฏตัวขึ้นเพียงเพื่อที่จะทำลายค่ายกลและเพลิดเพลินไปกับพลังดวงดาวที่เก็บไว้ พันปีที่แล้ว… เจ้าแห่งหอคอยคนแรกคือผู้สร้างจริงๆหรอ?
  ซูผิงคิดถึงความเป็นไปได้ เขาตัดสินใจว่าเขาจะต้องถามเซี่ยจินชุ่ย นายกเทศมนตรีจะต้องรู้เกี่ยวกับประวัติศาสตร์ของหลงเจียง
  “เธอรู้วิธีสร้างและปิดการใช้งานกักสวรรค์ไหม? สอนฉันหน่อย” ซูผิงพูดกับโจแอนนา
  เขาไม่สนใจการสร้างค่ายกลเพื่อปลดปล่อยพลังดวงดาวด้วยตัวเขาเอง เขาจะได้รับพลังดวงดาว แต่นักรบอสูรคนอื่น ๆ ก็จะได้รับด้วยหากมีมากเกินไป
  อสูรป่าจะเติบโตขึ้น แต่มนุษย์จะพบว่าการไปถึงระดับตำนานนั้นง่ายมาก
  “นี่คือค่ายกลระดับสาม ง่ายพอๆ กับค่ายกลห้าธาตุขนาดเล็ก” โจแอนนากล่าว ค่ายกลนั้นเป็นเพียงของเล่นสำหรับเธอ
  “นายแค่ต้องทำลายดาวสนับสนุนทั้งหกซึ่งเป็นวิธีการทั่วไป มีสองวิธีหลักๆ วิธีแรกนายสามารถใช้พลังของกฎและเข้าสู่มิติผนึกโดยตรงเพื่อทำลายมันจากภายใน
  “วิธีที่สองคือการสร้างดาวสนับสนุนเพิ่มขึ้นสามดวง ซึ่งจะสะท้อนกลับค่ายกล”
  โจแอนนาเสริมว่า “นายจะต้องอยู่ในระดับดวงดาว หากนายอยากจะลองใช้วิธีแรก อย่างที่สองนายจะต้องสร้างเมืองฐานสามเมือง ซึ่งจะเป็นไปได้สำหรับนาย ฉันจะบอกนายว่าจะสร้างดาวสนับสนุนสามดวงได้ที่ไหนและยังไง”
  ซูผิงเดาะลิ้น
  ค่ายกลพิเศษนี้ดูเหมือนจะเป็นเรื่องง่ายๆสำหรับเธอ
  เขารู้ว่าค่ายกลระดับสามบางค่ายกลอาจแข็งแกร่งพอที่จะสังหารผู้ที่อยู่ในระดับดวงดาวในทันที!
  “เธอเป็นพนักงานที่ดี” ซูผิงอุทาน โจแอนนาช่วยเขาได้เยอะมาก
  “ฉันดีใจที่นายรู้สักที”
  “ฉันได้พัฒนาวิชาดาบที่มีพลังของกฎ และฉันสามารถตัดมิติได้ ฉันสามารถเข้าไปในมิติผนึกด้วยสิ่งนี้ได้ไหม?” ซูผิงอยากรู้
  ถ้าเขาสามารถเข้าไปในมิติผนึกด้วยการใช้ดาบแห่งความว่างเปล่า เขาจะมีโอกาสได้ใช้พลังดวงดาวที่สะสมมานับพันปี
  เขาถึงคอขวดในระดับของเขา แต่แผนภูมิดวงดาวโกลาหลนั้นน่าอัศจรรย์มาก มันทำให้เขาสามารถดูดซับพลังดวงดาวต่อไปได้
  ถ้าเขาสามารถใช้พลังดวงดาวได้มากขึ้น และเนื่องจากการเปลี่ยนแปลงเชิงปริมาณอาจนำไปสู่การเปลี่ยนแปลงเชิงคุณภาพ เขาเชื่อว่าเขาจะสามารถไปถึงระดับตำนานได้แม้จะไม่มีบททดสอบสวรรค์
  “วิชาดาบ?”
  โจแอนนามองเขา “นายเป็นมนุษย์ที่ยังไม่ถึงระดับตำนาน นายเริ่มเข้าใจกฎแล้วหรอ?”
  “อย่าตัดสินหนังสือจากปก อย่าคิดว่าฉันเป็นเด็กโชคดีเพียงเพราะหล่อ” ซูผิงตอบ
  โจแอนนา: “…”
  “นั่นไม่ใช่สิ่งที่ฉันหมายถึง” เธอเยาะเย้ย
  “ฉันรู้ว่าเธอหมายถึงอะไร ฉันจะแสดงให้เธอดู จะดูไหมล่ะ” ซูผิงถาม
  “แน่นอน ฉันอยากดู…” โจแอนนายังคงสงสัย เธอรู้ว่าซูผิงมีพลัง แต่ขีดจำกัดของระดับก็เป็นความจริงเช่นกัน เธอโอเคที่ยอมรับว่าซูผิงสามารถแข่งขันกับสภาวะชะตากรรมได้ อัจฉริยะอย่างเขามีอยู่จริง…
  แต่มนุษย์ที่ควบคุมพลังของกฎได้?
  เขาจะมีความสามารถเท่ากับฉัน!
  ตัวตนดั้งเดิมของเธอในเวอร์ชั่นกลับชาติมาเกิดนั้นมีความทรงจำเกี่ยวกับชาติก่อน รวมถึงความเข้าใจกฎและหลักการ นั่นคือเหตุผลที่เธอสามารถใช้ทักษะลับได้จำนวนมาก
  บูม!
  ซูผิงยกมือขึ้นและดาบก็ปรากฏขึ้นในมือของเขา เขาฟัน ความว่างเปล่าถูกเปิดออก!
  การทำลาย!
  การทำลายล้าง!
  โจแอนนาเห็นรอยดำในมอตอ เธอสามารถมองทะลุรอยแยก และเข้าไปในมิติหลายชั้นภายในได้
  เธอหรี่ตาลง
  นั่นคือพลังของกฎ!
  เธอรู้สึกได้!
  ”นาย…”
  ซูผิงถามว่า “ฉันสามารถตัดค่ายกลนี้ได้ไหม?”
  โจแอนนาค่อยๆ กลับมาได้สติอีกครั้ง “ไม่ นายจะต้องเชี่ยวชาญในการใช้พลังของกฎเพื่อทำลายค่ายกล การใช้งานของนายยังหยาบ และไม่พอ…”
  โจแอนนาฝืนยิ้มขมขื่น
  แม้ว่าซูผิงจะยังห่างไกลจากการเป็นผู้เชี่ยวชาญ แต่เธอก็พบว่านี่เป็นสถานการณ์ที่น่ากลัว ผู้ชายคนนี้เป็นตัวประหลาด
  ”อา…”
  ซูผิงรู้สึกผิดหวัง เนื่องจากโจแอนนายืนยันว่าไม่พอ แสดงว่าเธอต้องพูดความจริง เขาไม่เคยสงสัยในตัวเธอ
  “ดังนั้น สิ่งเดียวที่ฉันทำได้คือสร้างเมืองฐานสามเมืองเพื่อสะท้อนกลับค่ายกลหรือทำลายเมืองฐานหกเมือง และวิธีนี้เป็นไปไม่ได้อย่างแน่นอน…” ซูผิงส่ายหัว เขาไม่สามารถทำลายเมืองฐานของพวกเขา หรือเมืองฐานอื่น ๆ ได้ จากนั้นเขาก็ตัดสินใจที่จะไม่รอช้า เขาคืนโต๊ะแบบจำลองให้ตระกูลฉิน งานที่ทำอยู่คือจัดการกับการโจมตีของอสูรร้าย เขาจะทบทวนหัวข้อกักสวรรค์กับโจแอนนาอีกครั้งทีหลัง
  เขาบินไปทางทิศตะวันตกของกำแพงเมือง ที่นั่นเขาเห็นนักรบอสูรหลายคนสั่งอสูรของพวกเขาให้ช่วยเคลื่อนย้ายอาวุธและอุปกรณ์
  เมืองฐานหลงจิงถูกโจมตีและอสูรป่าจะแพร่กระจายมายังหลงเจียงในเวลาต่อมา พวกเขาต้องเตรียมพร้อม
  ซูผิงไปหาฉินตู้หวง และถามเกี่ยวกับสถานการณ์ในหลงจิง
  แนวป้องกันซิงจิงไม่นับรวมเมืองฐานหลงเจียงแต่นั่นเป็นการตัดสินใจของหอคอย ซูผิงไม่ได้เกลียดเมืองฐาน
  “พวกเขาไม่ได้ขอความช่วยเหลือจากเรา นักรบกิตติมศักดิ์จากเมืองฐานในแนวป้องกันซิงจิงและนักรบอสูรในตำนานจากหอคอยกำลังรีบไปที่หลงจิง ผมได้ยินมาว่าพวกเขาสูญเสียนักรบอสูรในตำนานไปห้าคน…”
  ฉินตู้หวงบอกซูผิงเกี่ยวกับรายงานอัปเดตที่น่าผิดหวัง
  ฉินตู้หวงไม่ต้องการเห็นการล่มสลายของเมืองฐานหลงเจียง
  นักรบอสูรในตำนานห้าคนเสียชีวิต…
  ซูผิงขมวดคิ้ว นักรบอสูรในตำนานควรมีพลังมากพอที่จะยืนหยัดได้ และพวกเขาสามารถช่วยเหลือซึ่งกันและกัน อย่างไรก็ตามห้าคนได้ตายแล้ว นั่นไม่ใช่เรื่องดีอย่างแน่นอน
  แนวป้องกันไม่มีประโยชน์หากแม้แต่นักรบอสูรในตำนานจากหอคอยก็ไม่สามารถหยุดการโจมตีของอสูรร้ายได้!
  เมืองฐานอีกสิบเอ็ดแห่งซึ่งเป็นส่วนหนึ่งของแนวป้องกันก็จะตกอยู่ในอันตรายเช่นกัน เมืองฐานเหล่ายอมทุกอย่างแม้กระทั่งการย้ายถิ่นฐาน!
  แนวป้องกันมีประชากรมากกว่าหนึ่งพันล้านคน!
  “ผมจะไปที่นั่นถ้าสถานการณ์มันเร่งด่วน” ซูผิงกล่าว ฉินตู้หวงมองเขา “แต่ แนวป้องกันซิงจิงไม่รวมพวกเรา…”
  “ความแค้นของผมมีกับคนที่มีอำนาจตัดสินใจ ไม่ใช่กับคนอื่นๆ ผู้คนในเมืองฐานเป็นคนบริสุทธิ์” ซูผิงกล่าว
  ฉินตู้หวงชื่นชม “คุณซู ผมนับถือคุณจริงๆ!”
  ซูผิงโบกมือ เขาไม่ได้พยายามแสดงว่าเขาใจกว้างแค่ไหน เขาไม่เต็มใจที่จะมองดูคนจำนวนมากต้องทนทุกข์ทรมาน!
  ทันใดนั้น โทรศัพท์ของเขาก็ดังขึ้น
  “คุณซู!”
  มันเป็นเสียงของปรมาจารย์ดาบ “คุณซู คุณมาที่เมืองฐานหลงจิงได้ไหม?”
ตอนที่ 658 เขามาถึงแล้ว
  “หลงจิงเป็นยังไงบ้าง” เมื่อได้รับการแจ้งเตือนเกี่ยวกับสถานการณ์ ซูผิงก็ยังคงสงบนิ่ง
  ”คุณซูคุณรู้เกี่ยวกับเมืองฐานหลงจิงด้วยเหรอ?” ปรมาจารย์ดาบกล่าวทันทีว่า “เมืองฐานตกอยู่ในมือของศัตรูแล้ว อสูรร้ายจำนวนมากมาจากถ้ำลึก… พวกมันเตรียมตัวมา เราตรวจพบราชาอสูรร้ายกว่าสี่สิบถึงห้าสิบตัว”
  ฉินตู้หวงได้ยินว่า เขาหรี่ตาลงด้วยความกลัว
  ราชาอสูรร้ายสี่สิบหรือห้าสิบตัว?
  เขานึกภาพได้เลยว่าราชาอสูรร้ายที่เหมือนภูเขาเหล่านั้นกำลังสร้างความเสียหายในเมืองฐานหลงจิงยังไง
  มันเป็นเรื่องยากสำหรับเมืองฐานบางแห่งที่จะจัดการกับอสูรร้ายระดับเก้ากว่าสิบตัว นับประสาราชาอสูรร้ายหลายสิบตัว!
  “พูดถึงสถานการณ์ เรากำลังวางแผนที่จะดักจับราชาอสูรร้ายในเมืองฐานหลงจิง และใช้ค่ายกลที่มีอยู่เพื่อกักขังพวกมัน เราอาจไม่สามารถฆ่าพวกมันทั้งหมดได้ แต่อย่างน้อยเราจะมีโอกาสผลักพวกมันกลับเข้าไปในถ้ำลึก!
  “ไม่เช่นนั้นราชาอสูรร้ายเหล่านั้นสามารถออกไปรวมกับอสูรป่าอื่นๆได้ และอาจเป็นอันตรายต่อฐานเมืองที่ยังคงย้ายถิ่นฐานอยู่”
  ปรมาจารย์ดาบขอให้ซูผิงช่วย “คุณซูผมรู้ว่าคุณทำอะไรได้บ้าง นักรบอสูรในตำนานที่สภาวะสมุทรอย่างผมไม่สามารถเทียบกับคุณได้ คุณช่วยมาที่นี่ช่วยผมหน่อยได้ไหม ผมรู้ว่าหอคอยทำไม่ดีกับคุณที่ไม่นับรวมเมืองฐานของคุณเข้าแนวป้องกัน แต่ประชาชนทั่วไปเขาไม่เกี่ยว ผม…”
  ” ผมจะไปที่นั่น” ซูผิงกล่าวก่อนที่ปรมาจารย์ดาบจะพูดจบ
  เขารู้สึกได้ถึงความเสียใจและอับอายของอีกฝ่าย
  ด้วยความเป็นเพื่อน เขาจะช่วย
  ”ระวังตัว รอผม ผมจะไปเดี๋ยวนี้แหละ” ซูผิงพูดย้ำ
  ”คุณซู…”
  ปรมาจารย์ดาบคิดว่าการเกลี้ยกล่อมซูผิงจะเป็นเรื่องยาก แต่เขาตกลงก่อนจะเขาจะอ้อนวอนด้วยซ้ำ
  ปรมาจารย์ดาบกัดฟัน และกำหมัดแน่น
  นักรบอสูรในตำนานจ้องมองไปไกล ผู้คนต่างกรีดร้องและอสูรร้ายก็คำราม นักรบอสูรในตำนานกำลังเร่งรีบ และตรงนั้นปรมาจารย์ดาบเต็มไปด้วยความรู้สึกซับซ้อน เขาไม่รู้ว่าทำไมหอคอยถึงแสดงท่าทีเกลียดชังต่อซูผิงแบบนั้น พวกเขาไม่สามารถละอคติได้แม้แต่ในเวลาแบบนี้ ในทางกลับกันซูผิงเป็นคนที่สุขุมกว่า
  ปรมาจารย์ดาบสูดหายใจเข้าลึกๆ และสลัดความคิดเหล่านั้นออกไป เขาตั้งใจแน่วแน่ เขาจะออกจากหอคอยเมื่อเรื่องทุกอย่างจบลง!
  นั่นไม่ใช่หอคอยที่เขาต้องการเป็นส่วนหนึ่งในนั้น!
  ”คุณกำลังจะไป?”ฉินตู้หวงถามซูผิง
  เขากังวล
  ซูผิงเป็นรากฐานสำคัญของเมืองฐาน!
  ฉินตู้หวงอยู่ในระดับตำนาน แต่เขารู้ถึงขีดจำกัดความสามารถของเขา เขาได้รับราชาอสูรร้ายมาจากซูผิง เขาเชื่อว่าอสูรของซูผิงจะต้องมีพลังมากกว่า!
  นอกจากนี้ซูผิงยังไล่ราชาสวรรค์ต่างโลกได้ เขาไม่สามารถบอกได้ว่าตอนนี้ซูผิงแข็งแกร่งขึ้นกว่าตอนนั้นแค่ไหน
  และยังมีสิ่งหนึ่งที่เขารู้: เขาไม่สามารถปกป้องเมืองฐานด้วยตัวเองได้ถ้าซูผิงจากไป
  ครั้งนี้การจู่โจมของอสูรร้ายไม่ใช่เรื่องธรรมดา ถ้าเป็นเมื่อก่อนการโจมตีด้วยราชาอสูรร้ายเจ็ดหรือแปดตัวจะดึงดูดความสนใจของคนทั้งโลก!
  อย่างไรก็ตามการโจมตีที่รุนแรงแบบนี้เกิดขึ้นได้ทั่วไปในช่วงไม่กี่วันที่ผ่านมา
  เมืองฐานหลายแห่งได้พ่ายแพ้ต่อการโจมตีของอสูรร้ายดังกล่าว ผู้คนมากมาย ทั้งเด็กและผู้ใหญ่ หญิงและชาย เสียชีวิต
  “ผมจะไม่อยู่ที่นั่นนาน ไม่ต้องกังวล” ซูผิงปลอบฉินตู้หวง เขาคิดอยู่ครู่หนึ่งและเรียกสุนัขมังกรดำ
  อสูรตัวนี้มักจะทำตัวเหมือนเด็กเมื่ออยู่ใกล้ๆ ซูผิง ถึงกระนั้นมันก็กลายเป็นอสูรที่ทรงพลังหลังจากผ่านความตายมานับไม่ถ้วน
  แม้แต่ฉินตู้หวงก็ยังรู้สึกกดดันต่อสุนัขมังกรดำ
  “ผมจะทิ้งอสูรของผมไว้ที่นี่ โทรหาผมถ้ามีอะไรเกิดขึ้น และผมจะกลับมาทันที ระหว่างนี้เจ้านี่จะช่วยคุณ” ซูผิงกล่าว
  ฉินตู้หวงจ้องมองอสูร มันเป็นการผสมกันระหว่างหมาป่ากับสุนัขที่มีหางและเกล็ดของมังกร มันเหมือนกับทหารผ่านศึกที่รอดชีวิตจากการสู้รบที่ดุเดือดมา
  “มันจะไม่อันตรายเกินไปเหรอครับที่ทิ้งอสูรไว้ที่นี่?”
  เขาไม่ควรมองข้ามกลุ่มราชาอสูรร้ายหลายสิบตัว ถ้าราชาอสูรร้ายเหล่านั้นฉลาด พวกมันก็สามารถร่วมมือกันและอาจเป็นอันตรายมากยิ่งขึ้น!
  ”ไม่เป็นไร ผมยังมีเพื่อนตัวอื่นอีก” ซูผิงกล่าว
  เขาลูบหัวของสุนัขมังกรดำ และบอกว่าต้องทำยังไง
  สุนัขมังกรดำเห่าอย่างไม่พอใจ
  ซูผิงพูดอย่างไม่พอใจ “อยู่ที่นี่และปกป้องบ้านฉัน อย่าเลือกงาน นายจะไม่ชอบสิ่งที่ฉันทำกับนายแน่หากเมืองล่มสลาย”
  สถุนัขมังกรดำเห่า
  โดยไม่เสียเวลา ซูผิงเรียกมังกรเพลิงนรกออกมา และกระโดดขึ้นไปบนไหล่ข้างหนึ่งแล้วบินออกไป
  เมืองฐานหลงจิง
  โฮกก!
  โฮฏฏ!!
  เสียงคำรามของอสูรร้ายดังก้อง และเปลวไฟแห่งสงครามก็โหมกระหน่ำ เมืองฐานทั้งหมดล่มสลาย
  อาคารที่อยู่อาศัยและตึกระฟ้าที่เป็นสถานที่สำคัญพังทลายลงระหว่างการต่อสู้ เมืองฐานกลายเป็นซากปรักหักพัง
  ราชาอสูรร้ายกำลังสร้างความเสียหายอยู่ทุกที่ บางตัวยกอาคารสูงกว่ายี่สิบชั้นแล้วโยนทิ้งใส่นักรบอสูร อาคารแตกเผยให้เห็นเหล็กเส้นที่รองรับน้ำหนัก พื้นดินสั่นสะเทือน และท่อระบายน้ำก็แตกกระจาย
  อสูรป่าจำนวนมากเดินทางอยู่ในท่อระบายน้ำ ซากศพบางตัวห้อยลงมาจากปากของอสูรป่า แขนของพวกเขาแกว่งไปมา
  “เอาล่ะ! เร็วเข้า!”
  “ใช้กำแพงเหล็กหยุดพวกมัน!!”
  “เรามีกำลังเสริมไหม?!”
  นักรบอสูรเสี่ยงชีวิต บางคนเสียแขนเสียขา และบางส่วนถูกทุบตั้งแต่เอวลงไป นักรบอสูรที่ถูกขย้ำอย่างหนักถูกลากออกจากสมรภูมิ
  อสูรบางตัวล้มลง ก่อตัวเป็นแอ่งเลือด อสูรป่าพุ่งเข้ามา และกระทืบหัวอสูรของนักรบ นักรบอสูรรู้สึกปวดใจเมื่อเห็นอสูรของตัวเองตาย
  ฆ่า เลือด กรีดร้อง
  ท่ามกลางเสียงปืนและเสียงร้องของความทรมาน นักรบอสูรใจอ่อนบางคนสั่นสะท้าน ในขณะที่นักรบอสูรผู้กล้าหาญบางคนรู้สึกถึงเลือดที่พลุ่งพล่าน นักรบอสูรเหล่านั้นจะพยายามอย่างดีที่สุดเพื่อฆ่าอสูรป่าให้ได้มากที่สุด!
  “บัดซบ พวกมันมีมากเกินไป!”
  “ท่านเนี่ย เราควรไปได้แล้ว เรากำลังจะคุมไม่ได้”
  นักรบอสูรในตำนานหลายคนอยู่บนท้องฟ้าและมีท่านเนี่ยอยู่ตรงกลาง พวกเขาค้นหาราชาอสูรร้ายเพื่อฆ่า แต่พวมันไม่ได้โง่ ราชาอสูรร้ายบางตัวรู้สึกตื่นเต้นเกินไปในตอนแรก และพลัดพรากจากฝูงและจบลงด้วยการตาย ราชาอสูรร้ายที่รอดตายจึงทำสิ่งที่ฉลาดและอยู่รวมกัน
  กลายเป็นเรื่องยากสำหรับนักรบอสูรในตำนานที่จะต่อต้านกลุ่มของราชาอสูรร้ายที่โจมตีแบบร่วมกัน
  นักรบอสูรในตำนานแต่ละคนมีราชาอสูรร้ายสามถึงห้าตัว แต่อสูรของพวกเขาอ่อนแอกว่ามากเมื่อเทียบกับราชาอสูรจากถ้ำลึก แม้ว่าพวกมันจะอยู่ในระดับเดียวกันก็ตาม!
  ราชาอสูรป่าเหล่านั้นจะต่อสู้อย่างบ้าคลั่ง
  ในทางกลับกัน ราชาอสูรถูกจับทั้งภายนอกและภายในถ้ำลึก นักรบจะขอให้เพื่อน ๆ หาราชาอสูรร้ายให้พวกเขาในถ้ำลึก ไม่ว่าจะด้วยวิธีใดราชาอสูรที่เชื่องเมื่ออยู่กับพวกเขานานเกินไปจะสูญเสียสัญชาติญาณไปเพราะใช้ชีวิตบนความสะดวกสบาย!
  นักรบอสูรในตำนานเหล่านั้นจะฝึกฝนกับอสูรของพวกเขาแบบที่ไม่ก่อให้เกิดอันตรายร้ายแรง อสูรของพวกเขาไม่เคยต้องเสี่ยงชีวิต
  ท้ายที่สุด เหล่านักรบอสูรในตำนานส่วนใหญ่จะเลือกหลบหนีเมื่อใดก็ตามที่พวกเขาพบกับอันตราย พวกเขาจะกลับไปที่หอคอยแล้วเอาชนะด้วยจำนวน ทำไมพวกเขาถึงเสี่ยงชีวิตของตัวเอง?
  ท้ายที่สุดการได้รับบาดเจ็บหรือทำให้อสูรได้รับบาดเจ็บจะทำให้พวกเขาเสียเงินค่ารักษา
  หากพวกเขาโชคไม่ดีพวกเขาจะตายหรือได้รับบาดเจ็บ
  “เราทุกคนจะต้องตายที่นี่ และก็ไม่สามารถหยุดพวกมันได้”
  “บัดซบ พวกมันมีราชาอสูรร้ายโผล่ออกมามากขึ้น แทบจะไม่รู้จบเลย!”
  “ผมคิดว่าเราควรทิ้งที่นี่ เราสามารถกลับมาจัดการพวกมันทีละตัวหลังจากที่อสูรป่าและราชาอสูรร้ายเริ่มออกจากเมืองฐาน มันยากเกินไปในตอนนี้!” นักรบอสูรในตำนานกล่าวอย่างกังวล อสูรของพวกเขาบางตัวได้รับบาดเจ็บ พวกเขาไม่มีความสุขกับเรื่องนั้น ประการแรกการรักษาอาการบาดเจ็บของอสูรมีราคาแพง อีกอย่างหนึ่งการฝึกอสูรระดับราชาอสูรนั้นยาก ท้ายที่สุดมีผู้ฝึกสอนจิตวอญญาณเทวะเพียงสามคนในโลก!
  การฝึกราชาอสูรนั้นเป็นไปไม่ได้สำหรับผู้ฝึกสอนระดับเก้า พวกเขาจะถูกราชาอสูรร้ายคุกคามแทน ยากล่อมประสาทที่ใช้ในการปราบอสูรร้ายระดับเก้าจะไม่ได้ผลกับราชาอสูรร้าย
  “ท่านเนี่ย พวกเราไปไม่ได้!” หนึ่งในนักรบอสูรในตำนานรวบรวมความกล้าและเสนอวิธีอื่น “ราชาอสูรร้ายมีแผน พวกมันออกมาอย่างกะทันหันและไม่มีการเตือนใด ๆ มันเป็นการซุ่มโจมตี! ราชาอสูรร้ายต้องร่วมมือกันแม้อยู่นอกเมืองฐานหลงจิง พวกมันมีผู้นำคอยสั่งการ!”
  “ปรมาจารย์ดาบ คุณมีอะไรแนะนำไหม? คุณต้องการให้เราถูกฆ่าที่นี่และปล่อยให้อสูรป่าไปยังเมืองฐานอื่น ๆ หรือยังไง?”
  “ชีวิตของเรามีค่า เราต้องมีชีวิตรอดเพื่อช่วยชีวิตผู้คนให้มากขึ้น!”
  ”เขาพูดถูก คุณเพิ่งมาถึงระดับตำนาน เราไม่โทษคุณที่ไม่เข้าใจภาพรวม”
  นักรบอสูรในตำนานคนอื่นๆ โกรธ
  อยู่จนตัวตาย?
  พวกเขาจะอยู่ถ้าทำได้ เหนือสิ่งอื่นใด มันเป็นการเพิ่มเกียรติยศถ้าพวกเขาทำสำเร็จ แต่เมื่อพิจารณาจากสถานการณ์ปัจจุบัน พวกเขาตัดสินใจว่าการเสียสละนั้นมากเกินไป!
  ชายชราผมหงอกตะโกนว่า “หุบปาก!”
  คนอื่นๆ หยุดพูด
  “ท่านเนี่ย เราสามารถขอกำลังเสริมได้ และยืมนักรบอสูรในตำนานจากเมืองฐานอื่นๆ เรายอมแพ้ไม่ได้!” ปรมาจารย์ดาบเครียด หากพวกเขาละทิ้งที่นี่ พวกเขาจะทิ้งช่องโหว่ในแนวป้องกัน เมืองฐานอื่น ๆ จะตกอยู่ภายใต้กรงเล็บของอสูรป่า!
  พอยอมแพ้ครั้งแรกก็จะมีครั้งที่สอง!
  เมื่อถึงตอนนั้น ไม่เพียงแต่เมืองฐานหลงจิงจะถึงวาระเท่านั้น แต่ยังรวมถึงแนวป้องกันซิงจิงทั้งหมดด้วย!
  บางทีเหล่านักรบอสูรในตำนานสามารถช่วยย้ายเมืองหนึ่งหรือสองเมืองได้ ในขณะที่อสูรป่าพุ่งเป้ามาที่ซิงจิง … แต่เมืองฐานอื่น ๆ ล่ะ?
  ประชากรมีมากกว่าหนึ่งพันล้าน!
  “คุณกำลังพูดเรื่องอะไร? ยืมความช่วยเหลือจากแนวป้องกันอื่น ? คุณรู้ไหมว่าพวกเรามีกี่คน? จะเกิดอะไรขึ้นถ้าแนวป้องกันอื่น ๆ ตกอยู่ในภาวะวิกฤติเพราะพวกเขามาช่วยเรา” นักรบอสูรในตำนานผมทองและดวงตาสีเขียวตะโกน เขาเป็นนักรบอสูรในตำนานจากอีกทวีปหนึ่งที่ได้รับมอบหมายให้มาช่วยที่นี่
  ”ใช่ จะมีคนตายเพิ่มมากขึ้นหากเราปล่อยให้แนวป้องกันอื่นตกอยู่ในอันตราย!”
  นักรบอสูรในตำนานคนอื่นๆ ไม่เห็นด้วยกับปรมาจารย์ดาบ และพวกเขาไม่ชอบเขา
  ปรมาจารย์ดาบนั้นอ่อนแอที่สุดในบรรดาพวกเขา เขาเพิ่งถึงระดับตำนานและมีราชาอสูรร้ายเพียงตัวเดียว ในทางกลับกันพวกเขามีราชาอสูรร้ายหลายตัว แม้ว่าพวกเขาทั้งหมดจะอยู่ที่สภาวะสมุทร แต่พวกเขาก็เหนือกว่าปรมาจารย์ดาบ!
  โฮก!!
  พื้นดินสั่นสะเทือน
  ราชาอสูรร้ายที่ดูเหมือนแมมมอธวิ่งเข้ามาทุบราชาอสูรร้ายอีกตัวหนึ่ง
  ทันทีที่ราชาอสูรร้ายตัวที่สองล้มลงกับพื้น หนามแหลมจำนวนมากงอกออกมาจากพื้นผิวและเถาวัลย์ก็พัวพันราชาอสูรร้าย หนามแหลมทำให้ราชาอสูรร้ายเลือดออก ท่านเนี่ยหน้าซีด ราชาอสูรร้ายนั่นเป็นอสูรของเขา
  มันเป็นราชาอสูรร้ายสภาวะสมุทร อย่างไรก็ตามมันได้รับบาดเจ็บสาหัส
  ”ถอย!” ท่านเนี่ยเค้นคำออกมาจากปาก
  เขาไม่ต้องการถอย เขาอยากจะอยู่ต่อถ้าทำได้ การถอยหมายความว่างานของเขาล้มเหลว และหอคอยบอกเขาว่าเขาต้องอยู่และปกป้องเมืองฐานไม่ว่าจะเกิดอะไรขึ้น! ถึงกระนั้นเขาก็ทำไม่ได้ เขายินยอมที่จะกลับไปเผชิญหน้ากับการลงโทษ
  เขาเชื่อว่าผู้นำจะไม่ลงโทษเขามากเกินไป เมื่อพิจารณาจากสถานการณ์แล้ว
  “ท่านเนี่ย!”
  ปรมาจารย์ดาบกำลังหมดความอดทน “ถ้าเราไป…”
  ”หยุดพูด คุณจะอยู่และคอยคุ้มกันการถอยของเราก็ได้ อย่าเปิดโอกาสให้อสูรป่าไล่ตามพวกเรา”ท่านเนี่ยจ้องไปที่ ปรมาจารย์ดาบอย่างเย็นชา
  ปรมาจารย์ดาบหน้าไร้สี
  เขาทั้งโกรธและตกใจ
  ”ช่วยด้วย! ช่วยด้วย!!” “
  เราแพ้แน่!!”
  นักรบอสูรบางคนตะโกนและร้องไห้ พวกเขามีอสูรเหลืออยู่เพียงสิบสองตัว และแต่ละตัวได้รับบาดเจ็บ พวกมันสามารถล้มได้ตลอดเวลา อสูรบางตัวอ่อนแอมากจนแทบยกอุ้งเท้าไม่ขึ้น พวกมันยังคงยืนอยู่ข้างหลังเจ้าของ และฟังคำสั่ง มันกลัวแต่หนีไปไหนไม่ได้
  โฮก!!
  นักรบอสูรหลายสิบคนอยู่หลังอสูรเหล่านั้น พวกเขาพยายามหยุดอสูรป่า
  ทันใดนั้น เงาขนาดใหญ่ก็ทอดผ่านเหนือฝูงชน
  ราชาอสูรร้าย!
  นักรบอสูรไม่อยากจะเชื่อว่าราชาอสูรกำลังมาหาพวกเขา
  สิ้นหวัง!
  การปรากฏตัวของราชาอสูรร้ายทำให้พวกเขาสิ้นหวัง นักรบอสูรกิตติมศักดิ์สังเกตเห็นว่ากลุ่มนักรบอสูรในตำนานกำลังบินหนี
  พวกเขาจะไปสนับสนุนที่อื่นหรอ?
  แต่นักรบอสูรในตำนานเหล่านั้นไม่สนใจพวกเขา
  ผู้นำรู้สึกสิ้นหวัง
  พวกเขาไม่สามารถต่อสู้กับราชาอสูรได้!
  วิ่ง?
  ไม่มีที่ให้วิ่งไป!
  โฮก!!
  อวัยวะภายในของราชาอสูรร้ายถูกกระตุ้นเมื่อมันส่งเสียงร้อง ไม่มีใครสามารถเห็นปากของราชาอสูรร้ายได้ แต่มีบางอย่างที่เหมือนกับมือกระแทกลงมาที่กลุ่มของนักรบอสูร
  แสงถูกบดบัง ความหวังทั้งหมดหายไป!
  อย่างไรก็ตาม ทันใดนั้นพวกเขาก็ได้ยินเสียงโหยหวนมาจากระยะไกล!
  บูม!!
  มือนั้นหยุดนิ่งราวกับมีบางอย่างหยุดมัน!จากนั้นมือก็เริ่มบวม และระเบิด
  ฝนเลือดเทลงมา
  ตรงหน้ามือมีชายหนุ่มลอยอยู่ หมัดของเขาเป็นสีทอง และดวงตาก็หนาวเหน็บ
  เขาทุบมือนั้นด้วยหมัด!

ร้านขายอสูรดวงดาว Astral Pet Store

ร้านขายอสูรดวงดาว Astral Pet Store

Status: Ongoing

ฉันถูกส่งไปยังโลกแห่งอสูร มีสิ่งมีชีวิตทุกรูปแบบ ทุกขนาด พวกมันสามารถเป็นสหายน่ากอด ผู้ช่วยในชีวิตประจำวัน หรือนักสู้ ไม่เลวเลยใช่ไหมละ? ฉันมีครอบครัว แต่ความจริงกลับถูกบดบังโดยน้องสาวฉัน เธอเกลียดฉันมาก และก็คอยรังแกฉันทุกวัน ฉันบอกหรือยังว่าเธอมีพรสวรรค์สูงมาก ส่วนฉันเป็นคนไร้พรสวรรค์?ก็แค่หล่อสุดๆ ฉันมีอิสระในการดำเนินธุรกิจของครอบครัวเอง ร้านอสูรเล็กๆ มันควรจะดีหากไม่ใช่ความจริงที่เจ้าของร่างเดิมนี้เกิดมามีความสัมพันธ์เป็นศูนย์กับการควบคุมอสูรดวงดาว… คงไม่คิดว่ามันเป็นการข้ามโลกโดยไร้ระบบหรือกลไกอะไรที่จะปูถนนให้ฉันหรอกนะ?ฉันมี แต่ฉันไม่รู้ว่าไม่มีมันจะดีกว่าไหม…

แสดงความคิดเห็น

ใส่ความเห็น

อีเมลของคุณจะไม่แสดงให้คนอื่นเห็น ช่องข้อมูลจำเป็นถูกทำเครื่องหมาย *

ปรับฟอนต์

**ถ้าปรับโหมดมืดอยู่** ให้เปลี่ยนเป็นโหมดสว่าง ก่อนจะปรับสีพื้นหลัง
รีเซ็ท